จากคนธรรมดาสู่หนทางพระอนาคามี ค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 9 มีนาคม 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เป็นเรื่องราวของบุคคลนิรนามคนหนึ่งซึ่งไม่อยากเปิดเผยนาม คัดลอกมาจากหนังสือเทวโลก โดย ส.ทับทิมเทศ

    ตอนที่ 1

    เรื่องที่ดิฉันจะเขียนเล่าต่อไปนี้ ดิฉันขอน้อมบูชาพระคุณของสมเด็จพระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณแก่มวลสัตว์เหล่าสรรพสัตว์อย่างหาที่เปรียบประมาณมิได้ เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องจริงที่ดิฉันมิอาจที่จะเก็บงำไว้แต่เพียงผู้เดียวได้ สมควรที่จะได้นำมาบอกกล่าวเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่กำลังปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งสู่พระนิพพานให้ได้เห็นว่า แม้ขณะนี้จะเป็นยุคอินเตอร์เนท แต่มรรคผลนิพพานของพระพุทธองค์ก็ยังคงมีอยู่หากตรงบใดผู้นั้นได้ปฏิบัติตามมรรคมีองค์ 8 แล้ว ผู้ที่ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคล พระสกทาคามีบุคคล พระอนาคามีบุคคล และพระอรหันตบุคคล ก็ยังคงมีอยู่มิได้เลือนหายไปตามยุคสมัยที่โลกเจริญทางเทคโนโลยีตามคำกล่าวลือแต่อย่างใด

    ในทางโลกดิฉันมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ระดับ 8 ในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง จบปริญญาสาขาวิชาฟิสิกส์เคยไปดูงาน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปมาแล้วหลายประเทศ ได้พบกับผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายเผ่าพันธุ์ บัดนี้ได้สละออกจากเรือน ทรัพย์สินเงินทอง ที่อยู่อาศัยตลอดจน ลาภ ยศ สรรเสริญ แล้วออกบำเพ็ญสมณธรรมตามป่า ตามเขา มาอาศัยอยู่ตามเรือนร้างเพียงลำพังโดยมีคู่มืออันได้แก่ คัมภีร์วิสุทธิมรรคและพระไตรปิฏกพกติดตัว เมื่อนั้นก็เหมือนกับได้อยู่ใกล้กับพระพุทธองค์ เสมือนกับมีพระพุทธองค์มาคอยตอบปัญหาข้อสงสัยในการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทาง

    ดิฉันเกิดในวันอาสาฬหบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีขาล นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยจุดประกายให้เข้าสู่การปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนามาถึง 7 พรรษา ได้นักธรรมเอกก่อนที่จะมามีครอบครัว ดิฉันจึงได้รับการปลูกฝังข้ออรรถข้อธรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย พ่อจะพาสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกคืน พ่อเน้นมากให้รักษาศีล 5 อีกทั้งยังได้แม่เป็นเสมือนนักปรัชญาเพราะแม่ชอบพูดสัจธรรม พูดเรื่องทุกข์ ทุกข์ในการเกิด ทุกข์ในการพลัดพราก ทุกข์ในการครองเรือน ครั้งนั้นดิฉันได้เห็นปฏิปทาของหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ซึ่งพ่อไปเป็นลูกศิษย์ ดิฉันได้ไปเป็นลูกศิษย์ของท่านด้วย

    ครั้นพอมาทำงาน ดิฉันได้มีโอกาสมาฝึกปฏิบัติสมาธิกับหลวงพ่อวิชัยสันโน วัดนาควัชรโสภณ จังหวัดกำแพงเพชร ดิฉันฝึกนั่งสมาธิกับหลวงพ่อทุกเย็นเพราะวัดนี้เป็นวัดป่าสายปฏิบัติ จะมีพระธุดงค์ที่เดินทางมาจากทางภาคอีสานที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคเหนือจะแวะมาพักปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมาก ดิฉันจึงได้เห็นผ้าย้อมฝาดสีกลักจำนวนมากเสมอๆ ซึ่งแลดูงดงามยิ่งนัก ทำให้นึกถึงวัดพระเชตุวันมหาวิหารของพระพุทธองค์ในครั้งพุทธกาลเสียจริง ดิฉันฝึกสมาธิจนกระทั่งเข้าฌาณได้ ได้ปฐมฌาณอันมีวิตกวิจารณ์ ปิติ สุข เอกคตา ได้ทุติยฌาณอันมี ปิติ สุข เอกคตา ได้ตติยาฌาณอันมี สุข เอกคตา และได้จตุตถฌาณอันมีเอกคตาและอุเบกขา

    ต่อจากนั้นก็ฝึกเข้าอรูปฌาณ ดิฉันเคยฝึกแบบพระป่าทั่วไป คือ ใช้อานาปนสติแล้วพิจารณากายอาการ 32 อันได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ตับ ไต หัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ฯลฯ ตลอดจนฝึกเพ่งกสิณ เพ่งดิน ปฐวีกสิน เพ่งน้ำ อาโปกสิณ เพ่งลม วาโยกสิณ เพ่งไฟ เตโชกสิณและเพ่งสีได้แก่ เพ่งสีขาว โอฑาตกสิณ เพ่งสีเขียว นีลกสิณ เพ่งสีเหลือง ปีตกสิณ เพ่งสีแดง โลหิตกสิณ จนเกิดความชำนาน ได้ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิและอัปนาสมาธิ ส่วนนิมิตก็ตั้งแต่ บริกรรมนิมิต อุคหนิมิต และปฏิภาคนิมิต แล้วก็เข้าสู่ฌาณ เรียงตามลำดับฌาณ บางครั้งก็กระโดดข้ามฌาณ บางครั้งก็เข้าฌาณย้อนไปย้อนมาเพื่อให้เกิดความชำนาน ต่อไปก็ฝึกเข้าอรูปฌาณ โดยเข้าอากาสานัญจายตนะ เข้าวิญญานัญจายตนะ เข้าอากิญจัญญายตนะ เข้าแนวสัญญานาสัญญายตนะ และสัญญาเวทยิตนิโรธ เมื่อชำนานในการเข้าออกฌาณบางครั้งก็อยากหาความเพลิดเพลินบ้าง ก็อธิษฐานทำอภิญญา ดิฉันจึงได้กายทิพย์ตั้งแต่อายุ 35 ปี ได้หูทิพย์บ้าง ได้ทิพยจักษุบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาตรงนี้ถือว่าเป็นเกมกีฬา มิใช่จุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหายแท้จริงอยู่ที่การละกิเลส ขจัดโลภะ โทสะ โมหะ จากจิตใจของเราให้เบาบางลงเพื่อขจัดทุกข์ให้สิ้นไป เพราะคนเราทุกวันนี้ที่มีความทุกข์อยู่ก็ด้วยกิเลส 3 กองนี้

    บุคคลใดมีกิเลสมากก็เสมือนถูกไฟเผาไหม้เป็นทุกข์มาก ใครมีกิเลสน้อยก็ทุกข์น้อย หรือไม่มีกิเลสเลยก็ไม่มีความทุกข์ ก็จะมีแต่ความสุข ความสุขชนิดนี้เรียกว่าบรมสุข คือพระนิพพาน สุขจากความไม่มีอะไร สุขจากไม่มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุขจากการไม่มีรูปเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จึงเป็นนิรามิสุข เป็นสุขที่ไม่อิงอามิส พระนิพพานจึงเป็นอนัตตาดั่งที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ เมื่อดิฉันเข้าฌาณได้จึงเปิดสอนวิชา "การฝึกสมาธิ" ในสถาบันที่ดิฉันสอนอยู่ สอนมาสิบกว่าปีโดยนักศึกษาสามารถเข้าฌาณได้ทุกคน ขณะเดียวกันดิฉันก็มุ่งปฏิบัติให้ได้บรรลุมรรคผลเป็นพระเสขะบุคคล เมื่อมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอมก็จะหิ้วกระเป๋าขึ้นรถโดยสาร ธุดงค์ไปพักปฏิบัติธรรมตามวัดป่าต่างๆ เพื่อหาประสบการณ์ เช่นทางภาคเหนือก็ไปที่วัดดอยแม่ปั๋ง วัดถ้ำผาปล่อง วัดถ้ำผาจม เป็นต้น ส่วนทางภาคอีสาน ก็ไปพักปฏิบัติธรรมที่วัดภูทอก ภูจ้อก้อ วัดหินหมากเป้ง เป็นต้น ได้สัมผัสพบเห็นปฏิปทาของครูบาอาจารย์มากมาย เพื่อน้อมเป็นกำลังใจในการปฏิบัติให้ก้าวรุดหน้าย่งขึ้น โดยมิได้ยึดติดอยู่กับครูบาอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งแต่ประการใด เพราะหากวันใดวันหนึ่งครูบาอาจารย์ท่านเดินหลงทาง หรือมีอันเป็นไป หากท่านยังเป็นปุถุชนอยู่ เราก็จะได้ไม่เคว้งคว้าง ที่พึ่งของดิฉันอันได้แก่พระรัตนตรัย ดิฉันมีคำภีร์พระไตรปิฎก ฉบับ 91 เล่มของมหามกุฏอยู่ ดิฉันจึงอุ่นใจได้


     
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ตอนที่ 2

    ดิฉันได้เห็นปฏิปทา การบรรลุธรรมของพระอริยสาวกของพระพุทธองค์ในครั้งพุทธกาลแล้วก็ให้เกิดความเลื่อมใส ท่านเหล่านั้นล้วนแต่มีความพากเพียรอย่างเอาจริงเอาจังกันทั้งนั้นจึงสามารถบรรลุมรรคผลกันได้ใน 3 วัน 7 วัน 15 วัน เช่นพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระมหากัสปะ พระอานนท์ พระอนุรุทธ เป็นต้น ส่วนพระภิกษุณีที่น่าเลื่อมใสก็มีตั้งมากมาย เช่น พระมหาปชาบดี พระยโสธร พระปฏาจารา พระภัทรา พระกีสาโคตรมีพระอุบลวรรณา และพระเขมาเถรีเป็นต้น

    แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ดิฉันมีอายุ 39 ปี ปิดเทอมนั้นไม่ไปไหน หาอาหารมาไว้ให้พอ 7 วันแล้วปิดประตูบ้านแล้วใส่กุญแจคล้องไว้นอกบ้าน ทำเป็นเหมือนว่าไม่อยู่เพื่อจะไม่มีใครมารบกวน แล้วปฏิบัติเข้มอยู่แต่ในบ้าน เดินจงกรม นั่งสมาธิสลับกัน อาหารก็ทานแต่น้อยเพื่อให้กายเบา ปฏิบัติทั้งกลางวัน กลางคืน กำหนดดูกาย ดูอริยาบถที่เคลื่อนไหว รู้เท่าทันความคิด ระวังความคิดไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปหรือที่เรียกว่าอุทธัจจะ พอถึงตอนเย็น 6 โมง ที่นั่งเข้าที่ขัดสมาธิคู้บรรลุงก์ นั่งอาสนะเดียวจนถึง 6 โมงเช้า ขณะอยู่ในฌาณก็พิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งใดสิ่งหนึ่งเมื่อมีการเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็ย่อมมีการดับไปเป็นธรรมดา ดังเช่นที่พระอัสชิกล่าวแก่พระสารีบุตรเมื่อพบกันครั้งแรกว่า พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงเหตุและความดับไปแห่งธรรมเหล่านั้น

    ครั้นพอใกล้รุ่งมรรคผลก็มาประชุมกัน โสดาปัตติมรรคเกิดได้โสดาปัตติผลทันที เป็นพระโสดาบันบุคคล ทำลายสังโยชน์ 3 ได้หมดสิ้น อันได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส พร้อมกับสวรรค์สะเทือนเลื่อนลั่น ท้าวจาตุมหาราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ท้าวสักกะเทวราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวสุยามะมหาราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นยามา ฯลฯ ท่านมาพร้อมกับบริวาร มาแสดงความยินดีกับดิฉันขณะบรรลุดิฉันอยู่ในจตุถฌาณ จึงได้เห็นเหล่าทวยเทพเทวากันด้วยทิพยจักษุ ดิฉันภูมิใจที่ได้เป็นสาวกของพระพุทธองค์แล้วดิฉันได้เห็นฝั่งพระนิพพานอยู่ข้างหน้าแล้ว ดิฉันเก็บความภูมิใจนี้ไว้เงียบๆ แต่เพียงลำพังผู้เดียวแล้วปฏิบัติเร่งความเพียรให้มากยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อจะได้บรรลุมรรคผลชั้นสูงขึ้นไปอีก เพราะตอนนี้อายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกมาก

     
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ตอนที่ 3

    แล้วหลังจากวันนี้ดิฉันก็ได้ไปแสดงธรรมบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นครั้งคราว เหล่าทวยเทพในที่ประชุมศาลาสุธรรมา ท่านเรียบร้อยสงบมากขณะฟังธรรม ทวยเทพจำนวน 500 องค์ไม่มีพูดคุยกันแม้แต่องค์เดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากมวลมนุษย์ บางครั้งก็แอบขึ้นไปเที่ยวเฉยๆ ไปแอบอยู่ที่ข้างหลังห้องประชุมแต่ก็หาได้หลบพ้นสายตาของท่านท้าวสักกะเทวราชที่กำลังแสดงธรรมอยู่หน้าห้องประชุมไม่ พอท่านเห็นดิฉันก็เลยต้องรีบหลบกลับลงมา ซึ่งท้าวสักกะท่านเป็นพระโสดาบันแล้ว ผู้ที่จะมาแสดงธรรมบนนี้ได้ต้องเป็นพระโสดาบัน หรือเป็นพระอนาคามีที่มาจากชั้นพรหมภูมิ

    ดิฉันเคยได้รับเชิญให้ไปเป็นประธานเปิดงานบนสวรรค์ ครั้งหนึ่งดิฉันใส่สูทกระโปรงสีขาวขึ้นไปเปิดงานบนเวที โดยวิธีถวายบังคม 3 ครั้งแล้วเปิดกรวยพานพุ่มดอกไม้ ต่อจากนั้นจึงมีการแสดงต่างๆ บนเวที จากนั้นมากลางวันดิฉันก็สอนษมาธิแก่นักศึกษา กลางคืนต้องแสดงธรรมให้แก่เทวดา ส่วนใหญ่จะเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชที่มาฟังธรรมที่บ้าน บางครั้งดิฉันก็ชวนเธอปฏิบัติธรรมเดินจงกรมกัน

    ดิฉันเคยไปพักโรงแรมเมื่อเดินทางไปต่างจังหวัด เมื่อเข้าษมาธิก็จะมีเทวดาประเภทภูมิเทวดามาคุยกัน เธอสัมผัสจิตของดิฉันได้ เธอก็จะตามกันว่า คนนี้เขาได้โสดาบันแล้วหรือ อีกคนหนึ่งก็จะตอบว่าใช่เขาได้แล้ว เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้พอดิฉันไปพักอยู่ที่ไหน ก็จะมีเทวดานำอาหารมาให้บ้าง มาไหว้และมาฟังธรรมบ้าง เคยมีมนุษย์จากอุตรกุรุทวีปมาหาดิฉันในสมาธิ เธอมากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ลูกอายุประมาณ 7 ขวบ เธอมาลาบอกว่ามาเที่ยวชมพูทวีป จะกลับแล้วอยู่นานไม่ได้เพราะชมพูทวีปอดหยาก คงจะเป็นเพราะมนุษย์ไม่ค่อยรักษาศีล ทำบุญทำทานกัน ไม่เหมือนที่ทวีปของเธอ มนุษย์ทุกคนมีศีล 5 พืชพันธุ์ธันญาหารก็ผุดขึ้นเองตามท้องนา จึงอุดมสมบูรณ์ มนุษย์ในทวีปนี้มีอายุ 1000 ปี พอสิ้นอายุก็ไปเกิดบนสวรรค์ทุกคน

    ดิฉันยังเคยขึ้นไปยังสถานที่แห่งหนึ่งไปในษมาธิ ไปโดยมิได้ตั้งใจขึ้นไปบนศาลาที่เขากำลังปฏิบัติธรรมกัน ทุกคนในศาลาสวมชุดขาวกันทั้งหมด แล้วอยู่ๆ ก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาในกลุ่มคนเหล่านี้ แล้วชี้มือมาที่ดิฉัน บอกว่า นี่ไง คนนี้ๆ แล้วทุกคนในศาลาต่างก็หันมาไหว้ดิฉันอย่างพร้อมเพรียงกัน ดิฉันรีบนั่งลงไหว้ตอบท่านทั้งหลายเหล่านั้น

    หลังจากได้เป็นพระเสขะบุคคลขั้นต้นแล้ว ดิฉันก็ตั้งความปรารถนาที่จะได้บรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคลต่อไป ดิฉันก็มาพิจารณาว่าพระโสดาบันละสังโยชน์ 3 พระอนาคามีต้องละสังโยชน์ได้อีก 2 คือ กามราคะและปฏิฆะ ดิฉันพิจารณาแล้วว่าอนาคามีต้องเป็นผู้ไม่มีเรือน ไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ ให้รุงรับ นับจากนั้นดิฉันจึงได้นำทรัพย์สมบัติในบ้านออกทำบุญ บริจาคทานหมด เงินเดือนก็ทำบุญหมด ได้พาคุณพ่อ คุณแม่ทำบุญได้อย่างไม่อั้น จนท่านทั้ง 2 ก็ได้ไปสู่สุขติกันหมด สุดท้ายก็ได้สละบ้านเรือนออกบำเพ็ญสมณธรรมตามรุกขมูล

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2005
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ตอนที่ 4

    ปี พ.ศ. 2542 คุณแม่ของดิฉันป่วยกระทันหัน คุณแม่ไม่ยอมรับพี่เลี้ยง ดิฉันจึงต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลคุณแม่ ดิฉันอยู่กับคุณแม่ได้ประมาณ 2 ปีเศษท่านก็มาเสีย ตอนที่ท่านจิตจะจุติออกจากร่าง ดิฉันนั่งสมาธิอยู่ที่ข้างเตียงที่โรงพยาบาล ดิฉันสามารถเห็นคุณแม่ยกแขน ยกขาค่อยๆ เคลื่อนออกจากกายเนื้อ ดิฉันเห็นคุณแม่ได้ด้วยทิพยจักษุ แล้วตอนกลางคืนท่านก็มาหาดิฉันที่บ้าน ช่วงนี้ดิฉันนั่งสมาธิอย่างเข้มตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 6 โมงเช้าทุกวัน พอถึงเวลาตี 5 คุณแม่ในร่างโอปปาติกะจะลงมาทำกิจกรรมร่วมกับดิฉัน โดยคุณแม่จะอยู่ชั้น 2 ดิฉันอยู่ชั่นล่างเหมือนครั้งเมื่อเราอยู่กันปกติ เช่น คุณแม่จะลงมาอาบน้ำ ดิฉันก็จะช่วยอาบน้ำ ช่วยสระผมให้คุณแม่โดยดิฉันใช้กายทิพย์เข้าไปทำกิจกรรมร่วมกับคุณแม่ ส่วนกายเนื้อนั่งสมาธิอยู่

    แต่คุณแม่ตอนที่เป็นโอปปาติกะนี้เก่งกว่าตอนที่เป็นมนุษย์มาก แม่สามารถเดินทะลุประตูห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเปิดประตู ส่วนเสื้อผ้าก็เนรมิตสวมใส่ได้เลย คุณแม่เคยมาชวนดู TV แต่ตอนนี้ดิฉันเอา TV ลงกล่องแล้วก็เลยไม่ได้เปิดให้คุณแม่ดู แต่คุณแม่ท่านเก่งมาก ท่านสามารถเนรมิต TV ขึ้นมาดูที่ชั้น 2 แล้วคุณแม่ก็ลงมาชวนดิฉันที่ชั้นล่างให้ขึ้นไปดูด้วยกัน แล้วคุณแม่ก็กดรีโมทเลือกรายการเองได้ด้วย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนดิฉันจะเป็นคนเปิดให้ คุณแม่จะลงมาหาดิฉันทุกวัน สนทนากันแล้วดิฉันจะเดินขึ้นไปส่งคุณแม่ที่ชั้น 2 ที่ท่านเคยนอนอยู่ประจำทุกวันด้วยเช่นกัน

    คุณแม่อยู่กับดิฉันประมาณ 2 เดือนครึ่ง จากนั้นคุณแม่ก็หายไปเสียเฉยๆ ไม่ลงมาหาเหมือนทุกวัน ดิฉันเป็นทุกข์คิดถึงคุณแม่มากอยากไปอยู่กับคุณแม่ อีกสองสัปดาห์ต่อมาท่านท้าวสักกะเทวราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาหาดิฉัน ท่านถามว่าคิดถึงคุณแม่ อยากไปอยู่กับท่านมากใช่ไหม ดิฉันตอบว่าแน่นอนเจ้าค่ะ ท่านก็บอกว่าคุณแม่ไปอยู่สวรรค์ชั้นที่ 3 ชั้นยามา แล้วท่านบอกว่า คุณแม่ไปรออยู่ก่อนที่นั่น ส่วนดิแนเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วจะได้ไปอยู่ชั้นพรหม ซึ่งสามารถเที่ยวหาคุณแม่ได้ตลอดเวลา

    คืนหนึ่งต่อมาคุณแม่ในร่างใหม่ ในร่างเทพธิดาได้เหาะมาหาดิฉันที่บ้าน คุณแม่คนใหม่นี้อยู่ในวัยสาว อายุประมาณ 16 ปี เอวบางร่างน้อย แต่หน้าตาเหมือนคุณแม่ เสื้อผ้าก็เป็นของคุณแม่ คุณแม่มาจับมือดิฉันซึ่งเป็นช่วงที่ดิฉันเข้าฌาณ 4 อยู่พอดี ซึ่งสามารถทำกายทิพย์ให้เกิดขึ้นได้ แล้วร่างของดิฉันก็ปล้วไปในอากาศพร้อมกับคุณแม่ โดยจูงมือกันเหาะไปทางทิศตะวันตก ซึ่งตรงข้างกับทิศที่ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้น เพราะเป็นตอนใกล้รุ่ง คุณแม่พาดิฉันเหาะมาไกลมาก จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เมืองนี้อาคารต่างๆ ทำด้วยแก้วระยิบระยัง ไม่มีดวงอาทิตย์แต่สว่างไสวด้วยรัศมีแก้วและรัศมีเทพ คุณแม่พาดิฉันเหาะเที่ยวชมเมืองเห็นผู้คนประปราย แม่ได้แนะนำให้ดิฉันรู้จักกับบุคคลท่านหนึ่ง ด้วยความเป็นห่วงคุณแม่ ดิฉันจึงถามท่านว่าแม่ทานอาหารอย่างไร ท่านตอบว่า ทานอาหารทิพย์เนรมิตขึ้นมาสัปดาห์ล่ะ 1 ครั้ง

    หลังจากวันนั้นแม่ก็มารับดิฉันอีกประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งแม่มาตอนที่ดิฉันไม่ได้เข้าฌาณ 4 จึงดูเหมือนตัวจะหนักมาก แม่พยายามดึงแขนของดิฉันจับ 2 มือเลย ดิฉันก็ไม่สามารถไปกับแม่ได้เหมือนครั้งก่อน จากนั้นแม่ก็ไม่มาอีกเลย ด้วยความเป็นห่วงแม่ ดิฉันจึงอธิษฐานฝากแม่ไว้กับท่านสุยามะเทวราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นยามา ฝากท่านให้ช่วยดูแลแม่ให้มีความสุขด้วย วันต่อมาท่านส่งตัวแทนมาบอกว่าท่านรู้จักดิฉันแล้วและขอเชิญดิฉันไปเที่ยวสวรรค์ชั้นยามาเพราะกำลังจะมีงาน

     
  5. Des

    Des เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,264
    ค่าพลัง:
    +303
    โหยยพี่เหมน ..... มีเซฟไว้ซะด้วย ..... แล้วยังมาสั่งให้พิมพ์ต่ออีกต่างหาก
    ช่วงนี้สอบน่ะค่ะ คงมาพิมพ์ต่อได้ไม่มาก .....
     
  6. wanted

    wanted Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +50
    เป็นอันว่าการปฎิบัติธรรมต้องปฎิบัติเห็นเองรู้เองเช่นดังพุทธการที่ผ่านมาแล้ว.........ขอท่านทั้งหลายอย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
     
  7. nong0063

    nong0063 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +81
    อนุโมทนากับพี่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยครับ........ธรรมใดที่ผู้เขียนได้เห็นขอผมได้รู้และเห็นธรรมเหล่านั้นด้วย(verygood)



    แต่ที่ลูกศิษย์เก่าๆของหลวงพ่อได้บอกกัน.......ที่เป็นฆาราวาสแล้วได้พระอานาคามี

    มีเยอะมาก ในยุคนี้........โดยเฉพาะลูกศิษย์เก่าๆที่ทันหลวงพ่อ ได้กันมากมาย

    อย่าประมาทนะครับ ฆาราวาสดีๆมีเยอะ..............(bb-flower
     
  8. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +48
    โห อนุโมทนากับกระทู้นี้ด้วยครับ ต้องพิมพ์ออกมาเก็บไว้อ่านเป็นกำลังใจให้ตัวเองเวลาที่หดหู่ ท้อแท้ ในการฝึกฝนปฏิบัติธรรม

    เด็กบ้านยางก็คิดว่า เป็นพระอนาคามี คงจะรู้ได้ด้วยตัวเองแน่ชัดกว่าเนาะ เพราะกามราคะหมดไปแล้ว โอวว ชาตินี้อยากเป็นพระอนาคามีจัง ต้องทำให้ได้ หวังสูงไปไหมหนอ
     
  9. vibe

    vibe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +3,146
    ซักวันนึงๆๆ
     
  10. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    เทวโลก..โดย ส.ทับทิมเทศ..หาซื้อได้ที่ไหนครับ..
     
  11. khunsri1972

    khunsri1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +924
    ขออนุโมธนาค่ะ
     
  12. MissyKelly

    MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +1,190
    สนุกมากเลยเดย์ เราชอบมากๆเลย
     
  13. MissyKelly

    MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +1,190
    อยากอ่านอีกอ่ะ
     
  14. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    อนุโมทนาด้วยคร้าบบบบบบ มารฟ้าที่6อนุโมทนาด้วย


    แต่ผมสงสัยอ่ะครับ ที่ ขนาด บรรลุเพียงโสดาบัน แต่ ยังมีเทวดาจำนวนมากสนใจมากเพียงนั้น ผมอยากถามว่า




    ทำไมเทวดาจึงให้ความสนใจมากอ่ะครับ รึว่าสมัยนี้หาไม่มีแล้ว

    2.ถ้าบรรลุอรหันต์ จะไม่มากกว่านี้หรือ จะเปนไงน้อ^^"


    สงสัยอ่ะงับมะได้เจตนาลบหลู่อารายน้า
     
  15. nay_ohho

    nay_ohho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +120
    ขอ อนุโมทนา ด้วยคนครับ สักวันผมจะทำให้ได้ ขอแค่ บรรลุ ฌาน 4 ก็พอครับ
     
  16. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,210

    ถ้าบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วมีเทวดามาฟังธรรมเป็นร้อยเป็นพันครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นเทวดาชั้นจาตุ ที่อยู่ภาคพื้นดิน ส่วนเทวดาที่อยู่สูงขึ้นไปอย่างดาวดึงส์ที่นั่นถึงจะมีพระพุทธเจ้าคอยเทศน์อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเทวดานางฟ้ามาฟังเทศน์กับอริยะในโลกมนุษย์ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ทีท่านทั้งหลายลงมาก็เพราะเหตุที่ว่าอาจจะเคยเป็นบริวารกันมาก่อน ติดตามกันมา ว่าฉันจะฟังเทศน์จากคุณ แล้วบรรลุในฉับพลัน แต่บัดนี้คุณบรรลุเป็นอริยะแล้ว ก็ขอให้เทศน์ให้พวกเราฟังด้วย เพราะพวกเราก็ปฏิบัติคล้าย ๆ กัน ตาม ๆ กันมา เพียงแต่คุณบรรลุ พวกเรายังไม่บรรลุ ก็ช่วยแนะแนวทางให้ฟังด้วยตามปณิธานดั้งเดิมของพวกเรา ในกรณีนี้อริยะท่านเหล่านั้นปรารถนาพุทธภูมิแล้วลา

    ส่วนอริยะท่านอื่นที่ไม่ได้เป็นพุทธภูมิ ก็ยังมีเทวดามาขอฟังธรรมอย่างสม่ำเสมอ มนุษย์นั้นปรารถนาบรรลุธรรม เทวดาท่านก็ปรารถนาบรรลุธรรมเช่นกัน แต่เทวดาชั้นภาคพื้นดิน ไม่มีเทวสภา ที่อริยะชั้นผู้ใหญ่มาเทศน์ให้ฟังบ่อย ๆ จึงต้องฟังเทศน์จากอริยะที่เป็นมนุษย์แทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2005
  17. Des

    Des เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,264
    ค่าพลัง:
    +303
    ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ... เดย์ไม่ทราบว่าเค้ามีขายกันรึป่าวเนื่องจากว่าหลวงปู่ของเดย์ท่านให้มาค่ะ ... อีกสามสี่วัน สอบเสร็จแล้วจะมาพิมพ์ต่อให้อ่านกันน่ะค่ะ
     
  18. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน

    ขอเซฟเก็บไว้เป็นกำลังใจในการปฎิบัติครับ กำลังรออ่านอยู่ด้วยคนครับ
     
  19. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    ดีจังครับ เรื่องดีๆ แบบนี้ อ่านแล้วเกิดกำลังใจในการปฏิบัติครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
     
  20. pisitv

    pisitv สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +11
    กระผมมีหนังสือเล่มนี้ด้วย ขอต่อเลยแล้วกันครับ

    [FONT=&quot]ตอนที่ 5[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]บัดนี้ดิฉันใช้ชีวิตอย่างอนาคาริก คือไม่มีบ้านเรือนที่อยู่จึงไม่แน่นอน แล้วแต่สถานที่ใดเป็นที่สัปปายะก็จะอยู่นานหน่อยดิฉันจะอยู่เรือนร้างที่เหมาะแก่การเจริญสมณธรรม จะไม่อยู่ในที่จอแจ ช่วงนี้ดิฉันปฎิบัติอย่างเข้ม เพื่อดับความทุกข์ที่ต้องสูญเสียคุณแม่ก็มาพิจารณาว่า เพราะอวิชชานั่นเองพาให้มาเกิด[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]ได้มาอยู่ร่วมกันมีความผูกพันกัน แล้วก็หนีกฎอนิจจังไม่พ้น คือ ต้องพลัดพลากจากกัน ดังเช่นที่พระปัจเจกพุทธท่านเห็นทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากท่านจึงเบื่อหน่าย ประพฤติตนอยู่ลำพังคนเดียว ประดุจนอแรดเมื่อมีการเกิด มีชาติก็มีชรา มรณะ แล้วก็ตามด้วย โสกะ ปริเทวะ ความเศร้าโศก พิไรรำพัน ดังที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ น้ำตาอันเกิดจากความเศร้าโศกในสังสารวัฎ ยังมากยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรเสียอีก[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]ดิฉันต้องหาวิธีกำจัดอวิชชา ความหลงตัวนี้ให้ได้ดิฉันเคยตอบใครๆ ว่า ถ้าจะดับกรรม ก็ต้องดับกิเลส เมื่อดับกิเลสเป็นพระอรหันต์เข้าสู่นิพพาน กรรมก็จะหมดไปทันที[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]ดิฉันมาพิจารณาบุคคลที่เรารัก ได้พลัดพรากจากเราไปทีละคน คนแล้วคนเล่า ทำให้นึกถึงพระภิกษุณี ปฏาจารา ทุกข์แห่งการพลัดของใครๆก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าทุกข์ของท่าน ที่ท่านต้องสูญเสียบุตร 2 คน สามี พี่ชาย และบิดามารดา ในเวลาใกล้เคียงกันแต่ท่านก็เป็นผู้มีบารมีมาก ได้เกิดมาทันได้พบพระผู้มีพระภาค ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ แล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์ เข้าสู่พระนิพพาน และท่านได้เป็นพุทธสาวิกาที่สอนธรรมแก่พระภิกษุณี ให้ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์เป็นจำนวนมาก[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]แล้วปี พ.ศ.2544 เดือนพฤศจิกายน ดิฉันก็ได้บรรลุเป็นพระสกทาคามีบุคคล เมื่อทำสังโยชน์ที่เหลือให้เบาบางลง โดยดิฉันปฎิบัติตามคำสอนของพระปฏาจาราท่านสอนให้พระภิกษุณี นั่งสมาธิทำความสงบจาก 6 โมงเย็น ไปถึง 6 โมงเช้า ครั้นพอใกล้รุ่งวิปัสนาญาณ ก็เกิด เบื่อหน่ายในขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]กายของเรานี้ เพียงประกอบด้วย ธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ มาประชุมกัน ล้วนไม่เที่ยง มีการแปรปรวนไม่คงที่ เป็นทุกข์ทนอยู่ไม่ได้ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนอันควรยึดถือแต่ประการใดการบรรลุ เกิดขึ้นที่จิตที่มีความเบื่อหน่ายอย่างแท้จริง ไม่อยากมาเวียนเกิดเวียนตายอีก มิใช่เพียงแต่คิดๆเอา หรือท่องจำตามตำราดิฉันเคยมีมาหมดแล้ว ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ปรารถนาอยากได้อะไรก็ได้ บัดนี้ ต่อให้มีคนเอาเงินมากองก็ไม่ปรารถนา เพราะดิฉันได้สละสิ่งเหล่านี้ทิ้งออกไปอย่างไม่ใยดี แล้วจะหวนกลับไปยินดีอีกได้อย่างไร[/FONT]
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]ขณะบรรลุดิฉันอยู่ในสมาธิขั้นจตุถฌานท่านท้าวจาตุมหาราช ท้าวสักกะเทวราช ท้าวสุยะมะเทวราช ท้าวสันดุสิตเทวราช ทุกท่านมาด้วยเครื่องแต่งกายเต็มยศ เหมือนของพระราชา มาปรากฎเต็มท้องฟ้ายืนอยู่ในอากาศ มาอย่างให้เกียรติดิฉัน มาแสดงความยินดี เจ้าแม่กวนอิมก็มาด้วย มาในชุดนักบวชลอยมาในอากาศ ดิฉันก็โบกมือทัก บาย-บาย ท่านก็โบกมือตอบ[/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...