ช่วยผมคิดหน่อยครับ...ผมเครียด

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย MickeyandMinnie, 5 มีนาคม 2012.

  1. MickeyandMinnie

    MickeyandMinnie สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอออกตัวก่อนว่าผมเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive neurosis)

    (โรคประสาท ย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive neurosis)
    เป็นโรคประสาทชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยพอสมควร ซึ่งมีอาการย้ำคิด หรือย้ำทำ
    เป็นอาการเด่น อาการ ย้ำคิด เป็นความคิดที่ผุดเข้ามาในสมองโดยไม่ตั้งใจ
    และทำให้เกิดความกลัว หรือความกังวล ส่วนอาการย้ำทำ เป็นการกระทำ
    หรือการคิดเพื่อลดความกลัว หรือความกังวลที่เกิดจากอาการย้ำคิด
    อาการย้ำคิดย้ำทำบางครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ในคนปกติ)

    เคยรักษาอยู่ช่วงนึงแล้วหายไปแล้ว แต่ 2 เดือนนี้ เป็นเดือนที่ผมเครียดกับเรื่องงานมาก จึงกลับมาเป็นอีกครั้ง แล้วคราวนี้ทุกวันที่ผมนั่งรถ จะผ่านศาลพระพรหมประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง องค์ท่านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ช่วงนี้ผมจะรู้สึกอึดอัดมาก เวลานั่งรถผ่าน เพราะในสมองผมมักจะเกิดความคิดแบบไม่ได้ตั้งใจทุกครั้งที่ผ่าน บางครั้งถ้าผมนั่งเบาะหลังคนเดียว ผมจะเอนตัวนอนลงไปเลย เพราะกลัวท่านจะเห็นผมหรือรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร ความคิดที่ผมคิดส่วนใหญ่คือ ถ้าผมทำผิดXX จะเกิดผลYYตามมา เป็นแบบนี้อยู่ประจำ
    จนเมื่อปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ผ่านอีก คราวนี้รถติดอยู่ในบริเวณทางเลี้ยวนั้น ผมอึดอัดมากจนโค้งตัวลงไปนอนเบาะหลังเต็มตัว รถติดอยุ่สัก 2 นาทีข้างหน้าศาลพระพรหมประจำหมู่บ้าน ผมก็เกิดความคิดที่ห้ามไม่ได้ในสมอง ว่าถ้าผมทำผิดXX แล้วก็คิดต่อไปว่ารับกรรมที่พี่ชายเคยทำกับบรรดาผู้หญิงของมันทั้งหมด (พี่ชายผม มีแฟนที่ผ่านมาเยอะมาก ผมไม่รู้ว่าเขาเคยพาใครไปทำแท้งด้วยหรือเปล่า แต่คบผู้หญิงมาเยอะและทำผู้หญิงเสียใจเยอะมาก ผมเองไม่ชอบเขามากๆ และเขาเป็นคนเตือนไม่ได้) หลังจากนั้นความคิดก็ตะเลิดเปิดเปิงไปเรื่องอื่นนิดนึง ผมไม่รู้ว่านี่คือการสาบานหรือไม่ หรืออะไรยังไง เครีียดมากครับ ให้คำปรึกษาผมทีครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    คุณเชื่อไม อาการแบบนี้คุณเข้าปฏิบัติกรรมฐานที่วัดสักเจ็ดวัน ดีขึ้นเลยแน่ๆ....คุณระลึกไว้นะ โรคที่เกิดจากจิตต้องแก้ที่จิตครับ...ยาช่วยคุณไม่ได้ทั้งหมดหลอก....

    ไอ่โรคนี้ โรคประสาท ย้ำคิดย้ำทำ จะดีขึ้นด้วย...

    แนะนำ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ครับ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2012
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    กับอีกที่นึง แนะนำวัดมหาธาตุ เป็นการฝึกกรรมฐาน สายเดียวกันครับ แต่ใกล้กว่า

    สนง.กลางกองการวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุ คณะ 5 ถนนมหาราช พระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 02 222 6011


    ส่วนตัวผมแล้ว แนะนำว่าควบคู่ไปทั้งคู่นะครับ
     
  4. spharm

    spharm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +389
    ไปหาหมอเถอะ กินยาซะ คุณคิดเองเป็นเอง
     
  5. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ไม่แนะนำให้ปฎิบัติกรรมฐานครับ เพราะจิตยังฟุ้งซ่านอยู่มาก ยิ่งฝึกจะยิ่งสับสน

    ควรทำการให้ทานและศีลให้มากๆ จนโรคประสาทหายไปก่อน
    ทานและศีล จะช่วยทำจิตให้สงบได้ และจะช่วยให้องอาจกล้าหาญ

    การให้ทานก็ไม่ได้ยากอะไร เพราะแม้แต่การที่เราทิ้งอาหารเหลือลงในบ่อน้ำโสโครก แล้วตั้งจิตว่า ขอให้อาหารนี้แก่สัตว์เล็กสัตว์น้อยในน้ำโสโครกนั้น พระพุทธเจ้าก็ตรัสรับรองว่าเป็นการให้ทาน เป็นที่มาแห่งบุญแล้ว

    ----------------------------------
    โทษของคนทุศีล มี 5 ประการ คือ

    1. ผู้ทุศีล มีศีลวิบัติ ย่อมถึงความเสื่อมโภคทรัพย์อย่างมากเพราะมีความประมาทเป็นเหตุ

    2. กิติศัพท์ที่ชั่วของผู้ทุศีล มีศีลวิบัติย่อมฟุ้งไป

    3. ผู้ทุศีลมีศีลวิบัติ จะเข้าสู่บริษัทใดๆ คือ ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คฤหบดีบริษัทสมณบริษัทย่อมไม่องอาจ เก้อเขินเข้าไป

    4. ผู้ทุศีล ย่อมเป็นผู้หลงกระทำกาละ(ตายอย่างฟุ้งซ่าน,สับสน)

    5. คนทุศีล มีศีลวิบัติ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก

    คุณของศีล มี 5 ประการ คือ

    1. คนมีศีล ถึงพร้อมด้วยศีล ย่อมถึงกองโภคทรัพย์มากมายเพราะมีความไม่ประมาทเป็นเหตุ

    2. กิติศัพท์อันงามของคนมีศีล ถึงพร้อมด้วยศีล ย่อมฟุ้งไป

    3. ผู้มีศีลจะเข้าสู่บริษัทใดๆ คือ ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คฤหบดีบริษัท สมณบริษัทย่อมองอาจ ไม่เก้อเขินเข้าไป

    4. คนมีศีล ถึงพร้อมด้วยศีล ย่อมเป็นผู้ไม่หลงกระทำกาละ

    5. คนมีศีล ถึงพร้อมด้วยศีล เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    --------------------------------
    พระสูตรเกี่ยวกับทานและศีล

    ทานเป็นเครื่องป้องกันของมนุษย์ ทานเป็นเผ่า
    พันธุ์เป็นเครื่องนำหน้า ทานเป็นคติสำคัญของสัตว์ที่
    ถึงความทุกข์.

    ทานเป็นนาวา เพราะอรรถว่าเป็น เครื่องช่วยข้ามทุกข์
    พุทธะสรรเสริญทานว่าเป็นนคร เพราะป้องกันภัย.

    ที่พึ่งพาอาศัยของบุรุษ เสมอด้วยทานไม่มีในโลก
    เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงบำเพ็ญทานด้วยการทำ
    ตามอัธยาศัย.

    ผู้ให้ย่อมได้ปีติอันโอฬาร ย่อมประสบความ
    เคารพในโลกนี้ ผู้ให้ย่อมประสบเกียรติเป็นอันมาก
    ผู้ให้ย่อมเป็นผู้อันมหาชนไว้วางใจ.

    ก็ที่พึ่งพาอาศัยของชนทั้งหลายในโลกนี้หรือ
    ในโลกหน้าอย่างอื่น ที่เสมอด้วยศีลจะมีแต่ไหน ศีล
    เป็นที่ตั้งสำคัญของคุณทั้งหลาย เหมือนแผ่นดินเป็น
    ที่ตั้งแห่งสิ่งที่อยู่กับที่และสิ่งที่เคลื่อนที่ได้ฉะนั้น.

    ศีลของผู้มีศีล ย่อมกำจัดภัยมีการติตนเองเป็นต้น
    ได้ทุกเมื่อ และให้เกิดเกียรติและความร่าเริงทุกเมื่อ.

    ป.ล. ศีลจัดเป็นทานอย่างหนึ่ง เพราะมีการให้อภัยแก่สัตว์ทั้งปวง ให้การไม่มีเวรแก่สัตว์ทั้งปวง
    ให้การไม่เบียดเบียนแก่สัตว์ทั้งปวง

    ขอให้เจริญในธรรมครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 มีนาคม 2012
  6. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    น่าสงสาร....แต่...
    ...คุณลองสลัดพวกวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้...ฝรั่งเองมันก็ไม่รู้จริงหรอก หมอไทยเองเรียนตำรามัน ก็ใช่ว่าจะเก่งไปซะหมด...
    ...นี่คุณไปกลัว พรหม...โธ่....
    ...คุณลองหันมาทบทวนศาสนาดีกว่า
    1.คุณต้องนับถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แม่พ่อ ครูบาอาจารย์
    อย่าไปนับถือหรือ กลัว พรหม เทวดาฯลฯ ให้นับถือ5อย่าง กลัว5อย่างนั่นจะดีที่สุดในชีวิต
    ...กลัวนี่หมายถึงกลัวไปทำผิดต่อทั้ง5นั่นนะ
    2.คุณต้องภาวนา....เมตตา อภัยทาน....ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไว้ตลอดเวลา....มีสติเคร่งในการรักษาศีล5ตลอดเวลาให้ได้ ...ภาวนาไปเรื่อยๆแม้ขณะทำงาน...จะได้มีสติ ไม่ส่ายไปส่ายมา...ใช้สมาธิจดจ่อกับงาน...แต่ภาวนาก็ไม่ให้ขาด แม้ขาดในขณะทำงานแต่ว่างงานต้องภาวนาทันที...ทำให้ได้ตามนี้...คุณต้องมองมนุษย์ สัตว์ ว่า เขาต่างก็เกิดมาใช้กรรมเหมือนเรา...เมตตาเขา อภัยให้เขา....ทำนองนี้...
    ...เดี๋ยวโรคเครียด โรคย้ำคิดย้ำทำมันก็ถูกสติ ทำให้หายได้แน่นอน ผมเชื่อเช่นนั้น...
    ...เราต้องรักษาโรคด้วยตนเอง...ปฏิบัติดีด้วยตนเอง...อย่าไปพึ่งหมอ พึ่งเทวดา...เชื่อผมไอ้โรคขี้ปะติ้วแบบนี้....รับรองหายแน่นอนไม่นานหรอก
     
  7. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    พิมว่าไปพบจิตแพทย์เถอะค่ะ ให้หมอปรับยาให้ เอายามาทาน แล้วว่างๆก็ไปปฏิบัติธรรม ทำทั้งสองอย่างจะได้หายเร็วขึ้นค่ะ ถ้าทำอย่างเดียวมันจะหายช้า ทำทั้งสองอย่างเลย รักษากายด้วยการกินยา ไปหาหมอ เพราะโรคทางจิตเวชมันเกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุล ดังนั้นต้องกินยาค่ะ รักษาใจด้วยกรรมฐานก็จะทำให้มีสติมากขึ้น ความเครียดลดลง อาการต่างๆก็ลดลงค่ะ

    แต่คุณต้องรู้ไว้อย่างนึงนะว่าถ้าปฏิบัติธรรมทำกรรมฐานอย่างเดียวโดยไม่กินยาน่ะ ช่วงที่ทำกรรมฐานมันไม่มีอาการหรอก เพราะคุณมีสติมีสมาธิค่ะ แต่ถ้าคุณทำกรรมฐานไม่ต่อเนื่องเมื่อไร ทำๆหยุดๆ อาการคุณก็จะเดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายค่ะ ถ้าคิดจะทำกรรมฐานอย่างเดียว คุณต้องทำให้ต่อเนื่อง ทุกวันทั้งวันค่ะ แต่ถ้าคุณทำๆหยุดๆ คุณก็ควรกินยาไปด้วย ทำกรรมฐานไปด้วยดีกว่าค่ะ (ถ้าคุณไม่เชื่อคุณลองดูก็ได้ค่ะ เพราะพิมเคยเห็นมาแล้วหลายรายค่ะ )

    โรคนี้มันเป็นโรคของกรรม กรรมที่คุณเคยผิดศีลข้อที่5 ในชาติที่ผ่านๆมา คุณเคยกินเหล้าไว้มาก ในชาติที่ผ่านมา ชาตินี้คุณจึงเป็นโรคนี้มีสารเคมีในสมองไม่สมดุลค่ะ ถ้าคุณจะแก้คุณต้องรักษาศีล5 ไม่กินเหล้าอีกเด็ดขาด ทำทานตามโอกาส และเจริญภาวนาไปด้วยนอกจากนี้ถ้าทำกรรมฐานแล้วมันยังไม่ต่อเนื่องคุณก็ควรกินยาไปด้วยเพื่อให้ใช้ชีวิตได้เป็นปรกติเหมือนคนทั่วไปค่ะ

    ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นนะคะ พิมเคยรู้จักผู้ป่วยทางจิตหลายคนที่อาการดีขึ้น เขาก็ใช้ทั้งสองอย่างล่ะค่ะ ทั้งกินยาตามหมอสั่งและปฏิบัติธรรมกรรมฐาน อาการเขาปกติดีค่ะ คนอื่นสังเกตไม่ออกเลย สุขภาพจิตเขาก็ดีขึ้นมากค่ะ โชคดีนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2012
  8. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ไปดูที่ ๆ นี่นะครับ คุณจะรู้ว่า อะไรเป็นอะไร สิ่งที่ลิขิตตัวเอง สิ่งที่จะลงโทษ คืออะไร
    http://palungjit.org/threads/พรหมไม่ได้ลิขิต.208423/
    ก๊อปปี้แล้วไปเปิดดูนะครับ
     
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    คุณแก้ไขสิ่งที่คุณเป็นได้ด้วยตัวคุณเองนะผมว่า

    คนที่รู้ปัญหาของตัวเอง ย่อมแก้ปัญหาของตัวเองได้นะครับ

    เพียงแต่คุณแค่ต้องการคนที่เข้าใจสิ่งที่คุณเป็นเท่านั้นเอง

    เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  10. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ไปพบจิตแพทย์ครับ อาจช่วยให้ดีขึ้นได้ ลองไปปรึกษาดูครับ
     
  11. BossTH

    BossTH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +89
    อย่ายึดมั่นถือ ยึดมั่นตัวกูของกู ตัวฉันของฉัน ยึดเกาะซะเหนียวแน่นเลย
    แก้ได้ครับ ให้เริ่งรักษาศีล 5 อย่างจริง จัง ย้ำนะครับ ว่าจริงจัง ทุกข้อ

    หมั่นแผ่เมตตา และอย่าวิจารณ์ผู้อื่นทั้งคำพูดและในใจ
    ที่คุณย้ำคิดย้ำทำเพราะเกิดจากความไม่แน่ใจ ในใจของคุณเอง
    ปัญหาของใจ ก็ต้องแก้ที่ใจครับ ไม่มีใครสามารถช่วยได้
    คนที่ช่วยได้คือคนที่คุณส่องกระจกตอนแปรงฟันหรือหวีผมเท่านั้นครับ
    คนอื่นช่วยไม่ได้เลย

    "ศาลพระพรหมประจำหมู่บ้าน" คุณกลัวสิ่งนี้ คุณงมงายกับสิ่งนี้
    แล้วคุณไม่ลอง งมงายกับพระพุทธเจ้า ดูซักทีหรือครับ

    เอาให้เต็ม 100% ไปเลย แล้วพอรักษาศีลได้อะไรก็จะดีขึ้นเอง
    แล้วค่อยมานั่งทำสมาธิครับ (ต้องลดความฟุ้งซ่านในใจออกซะก่อน)

    เอาคำพระมหาสมปองไปนะครับ

    "ตัดอดีต ปิดอนาคต กำหนดปัจจุบัน"
     
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    เชื่อความคิดมากไป ลองไม่เชื่อมันดูบ้างสิ "ถ้ามันบอกว่าต้องทำอย่างนี้... ถ้า
    ไม่ทำแล้วจะเกิดผลเสีย..."
    ก็ลองไม่ทำตามมันดู ลองดูซิว่าจะเป็นแบบที่ความ
    คิดมันบอกหรือเปล่า จะพบว่ามันไม่เป็นจริงเลย
     
  13. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,012
    เห็นด้วยกับ #5 แล้วคุณลองไปอาบอบนวดด้วย บางทีอะไรๆอาจจะดีขึ้น
     
  14. chayapin

    chayapin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,115
    อยากแนะนำให้คุณ ฟังเทศน์ธรรมของหลวงพ่อฤาษีลิงดำก่อนนะค่ะ แล้วอยากให้อยู่กับลม

    หายใจให้มากๆ หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ ตัดความคิดทั้งหมดออกไปก่อน ผึกทำ

    บ่อยๆ ครั้งละ 5 นาที ถึง 10 นาที ก่อนนอนไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิอยู่กับลมหายใจ

    เท่าที่คุณจะทำใด้ เสร็จแล้วคุณอธิษฐานขอบารมี พระรัตนตรัยช่วยปกป้องคุ้มครองดวงจิต

    ของคุณให้มีความสงบเยือกเย็นไม่ฟุ้งซ่าน ทำบ่อยๆทุกๆวัน ตอนเช้าถ้ามีโอกาสก็ทำบุญใส่

    บาตรหรือเข้าวัด ถวายปัจจัยเป็นค่าน้ำค่าไฟให้แก่วัด ตั้งจิตอธิษฐานให้ดวงจิตมีความตั้ง

    มั่นไม่หวั่นไหวในเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ ให้ทำเช่นนี้ทุกๆวัน เป็นการผ่อนคลายบาป เวรที่

    ติดตัวเรามา หากทำได้ดังนี้ ก็จงไปปฏิบัติธรรมตามที่คุณ ภานุเดชเขาแนะนำมานะคะแล้ว

    ชีวิตของคุณก็จะหลุดพ้นจากบ่วงมารค่ะ

    สู้ สู้ สู้ นะคะ
     
  15. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

    วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคือ พักผ่อนด้วยการควรออกกำลังกาย เล่นกีฬา ไปเที่ยวเพลิน ๆ หนีจากบ้าน ที่ทำงาน ห้องเล็ก ๆ สักระยะ
    ต้องมีเพื่อนที่เข้าใจคุย ปรับทุกข์ฯ
    และที่สำคัญที่สุดอย่าอยู่คนเดียวเด็ดขาด
    เพราะถ้าอยู่คนเดียวก็กลับไปคิดเรื่องเดิม ๆ อีก เพราะจิตมีอุปาทานมากเกินไปนั่นเอง คิดไปเอง เสียสติ ต้องตั้งสติไว้ ด้วยการปล่อยวาง
    อย่าคิดเรื่องไร้สาระหรืออะไรทั้งสิ้น จิตต้องการพักผ่อน
    ควรออกกำลังกาย เล่นกีฬา ไปเที่ยวในป่ากับเพื่อนเพลิน ๆไปเดินดูทะเล ไปดูคลื่นน้ำที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วคราวแล้วหายไป ดับไป
    แต่อย่าใช้สิ่งมึนเมา หรือมอมเมา เด็ดขาด นะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มีนาคม 2012
  16. chana14

    chana14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2010
    โพสต์:
    743
    ค่าพลัง:
    +2,097
    ถ้าทางการแพทย์คือ กินยาระงับประสาทครับ จะไม่คิดมาก
    ถ้าทางพระก็ต้องปล่อยวาง อย่าคิดทำอะไรซ้ำ ๆ คิดเรื่องใหม่ ทำเรื่องใหม่ ๆ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images1.jpg
      images1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 KB
      เปิดดู:
      260
  17. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,676
    ค่าพลัง:
    +2,294
    วันนี้ไปออกกำลังกาย สวดมนต์ นั่งสมาธินะค่ะ
     
  18. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ผมสนับสนุน ความคิดที่ให้ไปออกกำลังกาย นะครับ คนประเภทนี้ ต้องหากิจกรรมทำเพราะเป็น ไฮเปอร์คืออยู่นิ่งไม่ได้ ร่างกายต้องเคลื่อนไหว จิตจะวิ่งไปนู่นี่อยู่ตลอด ถ้าอยู่ๆ ไม่เคยฝึกแล้วไปนั่งสมาธิ คงจะฟุ้งซ่ายกายนิ่งแต่จิตเตลิด.. แนะนำออกกำลังกาย เพราะได้ร่างกายเคลื่อนไหวไปด้วย ลองหากีฬาที่ชอบ เช่น รำมวยจีน ไท้เก็ก กระบี่กระบอง พูดเล่น.. หรือ เตะบอล เล่นบาส ว่ายน้ำ ร้องเพลง ทำกิจกรรมคลายเครียด ให้ได้เหงื่อ พอเล่นเสร็จ ครั้งละชั่วโมง ก็มานั่งนิ่งๆพิจารณาตนเอง ทำบ่อยๆ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง พอเริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็เริ่มเข้าสู่พระธรรม เริ่มจากการมีสัมมาฐิถิ คือ ทำความเห็นให้ตรงถูกต้องก่อน ค่อยๆศึกษา การให้ทาน รักษาศีล ภาวนา อาจจะเดินจงกลม เพื่อให้กายเคลื่อนไหว ตามดูจิต ต่อไป..
     

แชร์หน้านี้

Loading...