ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. orrachoun

    orrachoun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    792
    ค่าพลัง:
    +1,033
    วันนี้ผมได้โอนปัจจัยมาร่วมบุญกับทางมูลนิธิฯ และสหายธรรมทั้งหลาย
    โดยโอนทางธนาคารต้นทาง ยูโอบี เข้าธ.กรุงศรีฯ เป็นจำนวนเงิน 300.- บาทถ้วน
    ขออนูโมทนาบุญร่วมกับทุกท่าน และขอให้ทุกท่านอนุโมทนาบุญร่วมกันนะครับ
     
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    มหามุฑิตาโมทนาสาธุกับบุญของทุกท่านในทุกประการด้วยครับ
     
  3. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +11,631
    ร่วมบุญทุนนิธิฯ เพื่อสงฆ์อาพาธ 01/03/55 เวลา 13.04 จำนวน 500 บาท

    อนุโมทนาบุญมหากุศลจิต ทุกงานบุญของทุนนิธิ และของทุกท่าน สาธุ
     
  4. natta_pea

    natta_pea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,515
    วันนี้เวลา14.13 น. ผมได้โอนเงิน300.-บาท ร่วมทำบุญฯ
    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
     
  5. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    มหามุฑิตาโมทนาสาธุกับบุญของทุกท่านในทุกประการด้วยครับ
     
  6. sirimanod

    sirimanod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +912
    ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือนมี.ค55 ด้วยนะครับ

    ผมได้โอนเงินทำบุญประจำเดือนมีนาคม 55 จำนวน100 บาท โอนเมื่อวันที่ 2 มี.ค.55 และผมขออนุโมทนากับทุกๆคนที่ได้ร่วมทำบุญด้วยนะครับ
     
  7. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    ขออนุญาตร่วมบุญกับทางทุนนิธิทุกวันอาทิตย์นะครับ ได้โอนไปเป็นอาทิตย์ที่สองแล้วครับ
    และขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ไชยชุมพล

    ไชยชุมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +1,873
    ครอบครัวผมขอร่วมทำบุญประจำเดือนกับทุนนิธิฯ จำนวน 700 บาท
    โอนเิงินไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 มี.ค.55 เวลา 10.13 น. ครับ
     
  9. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +3,671
    วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 นายณรงค์ เพ็งลาภ โอนเงินร่วมบุญพระสงฆ์อาพาธ จำนวน 300 บาท ขออุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    โมทนาบุญค่ะ
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,779
    ค่าพลัง:
    +16,090
    มาฆบูชา
    วันแห่งความรักอันสูงส่งบริสุทธิ์
    ในพระพุทธศาสนา


    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    รับสั่งว่า

    ถ้าจะถือว่ามีวันแห่งความรัก ก็ต้องถือวันมาฆบูชา
    วันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์สูงส่ง


    วันมาฆบูชา – วันแห่งความรัก

    วันที่พระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ ในเดือนสาม

    ด้วยทรงมีความรักบริสุทธิ์สูงส่ง ไม่มีเสมอเหมือน พระพุทธองค์จึงทรงแผ่พระมหากรุณาได้กว้างใหญ่
    ไพศาลไม่มีขอบเขต ทั้งแก่พรหมเทพ มนุษย์สัตว์ ปรากฏแจ้งชัดใน พระโอวาทปาติโมกข์ ที่ทรงแสดง
    ในวันมาฆบูชา

    พึงไม่ทำบาปทั้งปวง
    พึงทำกุศลให้ถึงพร้อม
    พึงรักษาจิตของตนให้ผ่องใส


    บาปย่อมก่อให้เกิดทุกข์โทษภัยแก่ผู้ทำและผู้อื่น
    พระพุทธองค์จึงทรงเตือนไม่ให้ทำ

    กุศลย่อมเป็นคุณแก่ผู้ทำและผู้อื่น
    พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้ทำ

    จิตผ่องใสคือจิตไกลได้จากกิเลสโกรธหลง ที่มีอยู่เต็มโลก
    ย่อมให้ความสงบสุขอย่างยิ่งจนถึงเป็นบรมสุข
    พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้รักษาจิตของตน

    ความรักของพระบรมศาสดา
    ที่ในวันมาฆบูชาทรงประกาศ
    เป็นความรักสัตว์โลกที่สูงสะอาด
    กราบละอองพระพุทธบาทเป็นพระพร


    (สมเด็จพระญาณสังวร)
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


    http://www.dhammajak.net/board/viewtopi ... highlight=
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,779
    ค่าพลัง:
    +16,090
    วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล


    ธรรมชาติของจิต ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบนึกคิดไปต่างๆ นานา เช่น นึกคิดไปในทางกามบ้าง นึกคิดไปในทางอาฆาตพยาบาทบ้าง การนึกคิดในทางที่ไม่ดีเช่นนี้เรียกว่า อกุศลวิตก การห้ามจิตไม่ให้นึกคิดในทางอกุศลนั้น ทำได้ยาก บุคคลส่วนมากไม่ต้องการคิดในทางอกุศล แต่มักจะอดคิดไม่ได้ คิดจนนอนไม่หลับหรือเป็นโรคประสาทก็มี ตรงกันข้าม เมื่อต้องการคิดเรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศล มักจะคิดในทางกุศลไม่ได้นาน การห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในที่นี้จะได้กล่าวถึงวิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล ๕ วิธีด้วยกัน

    (๑) เมื่อใส่ใจในอารมณ์ใดอยู่ อกุศลวิตกเกิดขึ้น ก็ให้ใส่ใจอารมณ์อื่นที่เป็นกุศลและเป็นคู่ปรับกัน เช่น เมื่อนึกคิดไปในทางราคะ ก็ให้หันมาเจริญอสุภสัญญา พิจารณาว่า ร่างกายนี้เป็นของเน่าเปื่อยไม่สะอาด มีของโสโครกไหลออกอยู่เนืองๆ จะหาสิ่งที่เป็นแก่นสาร หรือสิ่งประเสริฐในกายนี้ไม่ได้เลย เมื่อมาใส่ใจอารมณ์อื่นที่เป็นกุศล คือ อสุภสัญญา ย่อมละราคะนี้ได้ ถ้าโลภอยากได้ข้าวของเงินทองต่างๆ ก็ให้พิจารณาว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นเป็นของกลางสำหรับแผ่นดิน ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เป็นเพียงของยืมมาใช้ชั่วคราว ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ในโลกให้คนอื่นใช้ต่อไป เมื่อมาใส่ใจเรื่องอื่นที่เป็นกุศล คือ ความไม่มีเจ้าของและเป็นของชั่วคราว ย่อมละความโลภในทรัพย์สมบัติได้ ถ้านึกคิดไปในทางเบียดเบียนด้วยอำนาจโทสะ ก็พึงเจริญเมตตาด้วยการระลึกถึงพุทธพจน์ ที่เป็นไปเพื่อคลายความอาฆาต

    เช่น พุทธ พจน์ในกกจูปมสูตร (๑๒/๒๗๒) ที่ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้าเอาเลื่อยที่มีที่จับทั้งสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้น ภิกษุมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น ภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาลามก เราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจักมีจิตเมตตาไม่มีโทสะภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น เมื่อมาใส่ใจอารมณ์อื่นอันเป็นกุศล คือ เจริญเมตตา ย่อมละโทสะได้ เหมือนช่างไม้ผู้ฉลาด ใช้ลิ่มอันเล็กตอก โยก ถอน ลิ่มอันใหญ่ออก ฉะนั้น

    (๒) เมื่อใส่ใจอารมณ์อื่นอันเป็นกุศล อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรพิจารณาโทษของอกุศลวิตกว่า ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง ทำให้ปัญญาดับ ก่อให้เกิดความคับแค้น ให้ผลเป็นความทุกข์ความเดือดร้อน ไม่เป็นไปเพื่อพระนิพพาน เมื่อพิจารณาโทษอยู่อย่างนี้ ย่อมละอกุศลวิตกนั้นได้ เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวรู้ว่า มีซากศพซึ่งเป็นของปฏิกูลน่ารังเกียจผูกอยู่ที่คอ ย่อมรีบทิ้งซากศพนั้นโดยเร็ว

    (๓) เมื่อพิจารณาโทษของอกุศลวิตกนั้นอยู่ อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ก็อย่าใส่ใจ อย่านึกถึงอกุศลวิตกนั้น เมื่อไม่นึกไม่ใส่ใจก็ย่อมละอกุศลวิตกนั้นได้ เหมือนบุรุษผู้มีจักษุ ไม่ต้องการเห็นรูปที่ผ่านมา เขาพึงหลับตาเสีย หรือเหลียวไปทางอื่นเสีย

    พระโบราณาจารย์ก็เคยใช้วิธีนี้ แก้ความกระวนกระวายของ ติสสสามเณร ที่ต้องการลาสิกขา

    เรื่องมีอยู่ว่า ติสสสามเณร คิดจะลาสิกขา จึงแจ้งให้พระอุปัชฌาย์ทราบ พระเถระจึงหาวิธีเบนความสนใจของสามเณร โดยกล่าวว่า ในวิหารนี้หาน้ำได้ยาก เธอจงพาเราไปที่จิตตลดาบรรพต สามเณรก็กระทำตาม พระเถระกล่าวกับสามเณรอีกว่า เธอจงสร้างที่อยู่ใหม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยเฉพาะบุคคลหนึ่ง สามเณรก็รับคำ แล้วสามเณรก็เริ่มสิ่งทั้งสามพร้อมๆ กัน คือ เรียนคัมภีร์สังยุตตนิกายตั้งแต่ต้น การชำระพื้นที่ที่เงื้อมเขา และการบริกรรมเตโชกสิณจนถึงอัปปนา เมื่อเรียนสังยุตตนิกายจบลงแล้ว ก็เริ่มทำอยู่ในถ้ำ

    เมื่อทำกิจทั้งปวงเสร็จแล้ว ก็แจ้งให้พระอุปัชฌาย์ทราบ พระอุปัชฌาย์กล่าวว่า สามเณร ที่อยู่เฉพาะบุคคล ที่เธอทำเสร็จนั้นทำได้ยาก เธอนั่นแหละจงอยู่ สามเณรนั้น เมื่ออยู่ในถ้ำตลอดราตรี ได้อุตุสัปปายะ จึงยังวิปัสสนาให้เจริญ แล้วบรรลุพระอรหัต ปรินิพพานในถ้ำนั่นแหละ ชนทั้งหลายจึงเอาธาตุของสามเณรก่อสร้างพระเจดีย์ไว้ นี่คือเรื่องของติสสสามเณรที่ถูกพระอุปัชฌาย์เบนความสนใจ ให้ไปกระทำสิ่งอื่นที่เป็นกุศล จนลืมความคิดที่จะลาสิกขา เมื่อไม่ใส่ใจ ไม่นึกถึง ความคิดที่จะลาสิกขาก็ดับไปเอง


    (๔) เมื่อไม่นึกถึงไม่ใส่ใจในอกุศลวิตกนั้น อกุศลวิตกก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรใส่ใจถึงเหตุ ของอกุศลวิตกนั้นว่า อกุศลวิตกนั้นมีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นปัจจัย เพราะเหตุไรจึงเกิดขึ้น เมื่อค้นพบเหตุปัจจัยอันเป็นมูลรากแล้ว อกุศลวิตกนั้นย่อมจะเบาบางลง แล้วถึงความดับไปโดยประการทั้งปวง

    (๕) เมื่อใส่ใจถึงเหตุแห่งอกุศลวิตกนั้นอยู่ อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ก็พึงกัดฟันด้วยฟัน ดุนเพดานด้วยลิ้น ข่ม บีบคั้น บังคับจิตด้วยจิต เมื่อข่มจิตอย่างนี้ ย่อมละอกุศลวิตกนั้นเสียได ้เหมือนบุรุษผู้มีกำลังมากจับบุรุษผู้มีกำลังน้อยไว้ได้ แล้วบีบกด เค้นที่ศรีษะ คอหรือก้านคอไว้ให้แน่น ทำบุรุษนั้นให้เร่าร้อน ให้ลำบาก ให้สยบ ฉะนั้น (วิตักกสัณฐานสูตร ๑๒/๒๕๖)

    วิธีควบคุมอกุศลวิตกทั้ง ๕ วิธีนี้ อาจย่อให้สั้น เพื่อให้จำได้ง่ายดังนี้คือ

    ๑. เปลี่ยนนิมิต หันมาคิดเรื่องที่เป็นกุศลและเป็นคู่ปรับกัน
    ๒. พิจารณาโทษ พิจารณาโทษของความคิดฝ่ายชั่ว
    ๓. อย่าไปสน อย่าสนใจความคิดฝ่ายชั่ว หางานอื่นทำ
    ๔. ค้นเหตุที่คิด หาสาเหตุของความคิดฝ่ายชั่ว
    ๕. ข่มจิต เอาฟันกัดฟัน เอาลิ้นกดเพดาน เพื่อข่มจิต


    ผู้ ที่ฝึกหัดตามวิธีทั้ง ๕ นี้จนชำนาญ ย่อมควบคุมความคิดของตนได้ เมื่อต้องการคิดเรื่องใดก็คิดเรื่องนั้นได้ ไม่ต้องการคิดเรื่องใดก็เลิกคิดเรื่องนั้นได้ การควบคุมความคิดได้ดังใจนึกเช่นนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากทั้งทางโลกและทางธรรม


    คัดลอกเนื้อหามาจาก...
    เว็บไซต์วัดท่าตอน WAT THATON
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,779
    ค่าพลัง:
    +16,090
    ไม่มีเวลาฟังเทศน์ที่วัด ลองฟังดูนา....ได้บุญ+ได้ความรู้


    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/Rvtvj3Hj8R0" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="420"></iframe>
     
  13. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้ผมได้โอนเงินจำนวน 2,000.-บาท

    5/03/2555 05:42:21 น. tmb mbanking 2,000.-


    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

    อุทิศให้แก่อาม่า คื้อเจ็ง แซ่ซิ่ม.คุณแม่ม๋วย อากงและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป

    แล้ว เจ้ากรรมนายเวรทัง้หลาย ของป๋า 5โกว 6โกว น้องชาย น้องสะใภ้ หลาน

    ชายหลานสาวทุกคนผู้เช่าบ้าน เช่าร้านและเช่าคอนโดทุกท่านนายวันสุข ณรงค์

    คำมั่น บริวารทุกคน เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทางด้านการงาน การเงินและ

    ความรักของตัวข้าพเจ้าชินพงศ์ เบญจนากาศกุล เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของ

    ผู้ที่ข้าพเจ้ามีความเกี่ยวข้องทาง กาย วาจา และ ใจที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่าน

    ไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพ ภูมิใดก็ขอให้ได้รับผลบุญ

    กุศลนี้และอโหสิกรรม ให้กับข้าพเจ้านายชินพงศ์ เบญจนากาศกุล และขอให้

    ร่วมอนุโมทนาบุญกุศลแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

    ขอเชิญทุกท่านร่วมอนูโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
     
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    มหามุฑิตาโมทนาสาธุกับบุญของทุกท่านในทุกประการด้วยครับ
     
  15. dekpra

    dekpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,470
    ค่าพลัง:
    +2,484
    มาฆบูชา
    วันแห่งความสำคัญอันสูงส่งบริสุทธิ์
    ในพระพุทธศาสนา

    ข้าพเจ้าขอร่วมบุญ บูชาคุณพระศรีรัตนตรัย
    จรรโลงพระศาสนา และบูชาคุณครูบาอาจารย์ ด้วยจำนวน ๑,๐๐๐ บาท
    และขอกราบอนุโมทนาบุญทุกอย่างกับท่านเจ้าของกระทู้และพี่น้องทุกท่านที่มีความกระหายในธรรมะขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า...สาธุ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มีนาคม 2012
  16. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    ขออนุญาต ร่วมบุญด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
  18. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    เมื่อวันที่ 12 ผม ภรรยา และครอบครัว ได้โอนร่วมทำบุญด้วยครับ 200 บ่ทครับ
    ขอบคุณครับ
    มหาโมทนาบุญด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2012
  19. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    กราบเรียนพี่ พันวฤทธิ์ ครับ

    เรื่องพระที่พี่จะจัดส่งให้ผมนั้น ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะครับ
    แต่เนื่องด้วยมีเหตุ ทางบ้าน ทำให้ไม่สามารถจัดส่งให้ผู้ร่วมบุญได้ จึงต้องรีบแจ้งมาให้พี่ทราบเรื่องระงับการส่งพระมาก่อนครับผม

    จึงเรียนมาให้พี่ทราบครับผม

    ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
    เอก
     
  20. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ขออนุญาตพูดถึงเรื่องขนมหวานถวายพระอาพาธ

    เรียน ผู้ใจบุญทุกท่าน
    ผมขอบังอาจออกความเห็นผ่านกระทู้นี้สักนิดเถอะครับ อันเนื่องมากจากได้มีโอกาสช่วยทางทุนนิธิจัดของถวายใส่ถุงเพื่อถวายสงฆ์อาพาธบนตึกผู้ป่วยในนั้นมา 3 ครั้ง ผมสังเกตเห็นว่าผู้ใจบุญนั้นได้นำเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ขนมที่มีรสหวาน มาร่วมบุญกันมาก ซึ่งผมคิดว่าสงฆ์อาพาธนั้นน่าจะมีอาการอาพาธเกี่ยวกับเบาหวานและความดันอยู่หลายรูป
    เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าจะถวายแล้วควรเลือกขนมหรือเครื่องดื่มที่เป็นกลางๆ ไม่หวานก็จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของพระท่านได้ทุกๆ องค์ เพราะบางทีท่านอาจฉันไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือฉันไปเพราะมีผู้มาถวายแล้ว จะทำให้อาการอาพาธด้านเบาหวานความดันไม่ทุเลา และอาจจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นในภายหลัง
    จึงกราบเรียนทุกท่านได้โปรดพิจารณาด้วยเถอะครับ
    ด้วยความเคารพ
    คงภัค
    หมายเหตุ อ่านฉลากก่อนซื้อ ถ้ามีคำว่าน้ำตาล หรือ ซูโครส (น้ำตาลทราย) ก็เลี่ยงที่จะซื้อถวาย พระท่านไม่ติดในรสอร่อยหรอกครับ ไม่ต้องเกรงว่าไม่หวานแล้วท่านจะไม่ฉัน และเครื่องดื่มเกลือแร่ทุกชนิดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...