ปัจจัตตังซัมเมอร์ ^O^ มหาสติ มหาสติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โกมีนัม, 25 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ยินดี ยินร้าย ในอารมณ์ ที่จิตรู้ นั่นแหละมีตัณหาครับ....ถ้ามีสติระลึกรู้เท่าทันก็ไม่มีปัณหา...ไม่มีตัณหา มันก็ไม่เกิด อุปธิ แต่ทั้งนี้ยังต้องเจริญต่อไป........:cool:
     
  2. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    อ้างอิง : หลวงตามหาบัว
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    รายชื่อบุคคลที่สอบไม่ผ่าน

    เตชพโล ป3
    น้องโหน่ง ซัวเจ๋ง เตรียมอนุบาล
    เคขวัญ ตกซ้ำชั้น ป1
    แปะแปะ ตกซ้ำชั้น อนุบาล

    ยังมีอีกหลายคน ที่ไม่เอ่ยชื่อ หัดเจริญมหาสติให้ชำนาญก่อน ไปหาสถานที่ฝึกก็ได้ แล้วขึ้นวิปัสสนาเมื่อไร มาที่นี่จะสอนให้
     
  4. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ลุงแสดงตลกคณะิเชิญยิ้มเหรอครับ

    หลวงตามหาบัวท่านก็บอก
    ท่านเป็นหลวงตา ป.3

    ตอนนี้ผมจบป2 กำลังจะทำป1 ครับ
     
  5. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    อ้างอิง : หลวงตามหาบัว
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เอ็งยกธรรมตอนไหนของหลวงตามา
    ไม่ใช่ว่าเราจะไปจับให้เหมือนท่าน
    ที่ท่านพูดนั่นท่าน ได้ธรรมภูมิไหน หรือ ธรรมนั้น เผ็นแกงหม้อเล็กหม้อใหญ่ดูด้วย
     
  7. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ท่านสอนให้ทำตามท่าน
    แล้วทำไมจะทำไม่ได้ล่ะครับลุง
     
  8. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    แล้วตกลงใครสอบตกครับ
    ผมว่าลุงยังอยู่ที่ nursery อยู่เลยครับ
     
  9. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ในสายตาผมลุงนี่ยังไม่ใช่แค่อ่อนหัดทางธรรมเท่านั้นนะครับ
    ทางการเมืองลุงก็ยังอ่อนหัดเช่นเดียวกันครับ
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ท่านไม่ได้สอนให้ทำตามนะเรื่องนั้น ท่านเล่าให้ฟัง นั่นเป็นตาทิพย์เห็นกายในกาย แล้ว
    นี่สมาธิต้องมีภูมิสูงแล้ว วิชชาเกิดแล้ว

    แต่เอ็งยัง มีกำลังสติไม่มากพอเลย เอาแค่อริยาบท ภายนอกนี้ยังไม่แน่นเลย จะไปพิจารณาแบบหลวงตาได้ไง ธรรมคะขั้นละตอนกัน
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    หัดพิจารณาก่อนนะ วันนี้ขอตัวพักผ่อน
     
  12. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ผิดแล้วครับลุง
    ทำไมสติผมจะไม่มากพอ
    กายผมก็เคยเห็นอย่างชัดเจนมาแล้ว

    หลวงตาท่านกล่าว
    ผมปฏิบัติไปก็เจอเหมือนที่ท่านกล่าวไว้แบบจังจัง

    อย่างนี้สติยังไม่มากพอเหรอครับ
     
  13. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    อย่าลืมทานวิตามินก่อนนอนนะครับลุง
     
  14. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ใครเพ่งรูปหว่าาาาา

    จิตสงบจากโลภะ โทสะ โมหะ เพราะมระณา
    น้อมไปพิจารณาเหตุทุกข์ คืออารมณ์
    น้อมไปพิจารณาเหตุอารมณ์ คือ อายตะนะภายนอกภายใน
    เข้าใจความ...ในรูป จึงรู้ว่านามก็...เหมือนกันเพราะนามมีรูปเป็นปัจจัยเกิด เมื่อรูป...ซะแล้วนามจะไม่...ได้ยังไง จิตก็ปล่อยเหมือนคนที่เคยนอนหลับแล้วฝันไป พอตื่นก็มองดูความฝัน พอปล่อยมันก็สุขดี ก็รู้จักพ้นเจตนาเ็ป็นยังไง ก็คิดว่าโอเคแล้วคงแบบนี้

    แต่ที่ไหนได้ชักเริ่มเห็นตัวโง่ตัวจริง โง่เพราะรู้แล้วแต่ก็ยังเสพยังปรุงยังยึด ตามนิสัยของมัน
    ก็ดูมันโง่ไปเรื่อยๆจนปล่อยหรือทำลายตัวโง่นั้นละมั๊ง
    ระหว่างนี้ก็พิจารณาอย่างเดิมด้วย ระรึกสัญญาเก่าที่เป็นเหตุให้ปล่อยด้วย เอาผลของการปล่อยมาเจริญสติอย่างอื่นด้วยแต่แบบที่แหมะสมก็เห็นว่าเป็นกายคตาสติ .แต่ไม่ได้ทิ้งสมาถะนะเดี๋ยวไม่บอกคนคิดมากอีกเซ็ง

    พูดมากคนอ่านคิดมากเปล่าๆ:'(
     
  15. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    อ๋อ อ๋อ แบบนี้ก็ไม่คิดมาก ยังปรารภมาที่ กายคตาสติ อยู่ ก็มะมีปัญหา

    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

    แต่ตามธรรมเนียมเนาะ ทักเฉยๆ ไม่ได้จะสอนอะไร

    งานเกาะหัวคืองานของเรา ฮิววววส์
     
  16. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ท่านเตช...

    ลุงขันธ์ท่านกล่าวถูกต้องแล้วครับ


    ท่านค่อย ๆ ฝึกไปเรื่อย ๆ ก็ได้ครับ

    เพียงแค่เรารู้จักสังเกต และดับความอยากในใจของเราไปเรื่อย ๆ

    ถ้ามันเกิดอยากจะคิดจะพิจารณาอะไร (บางทีไม่ได้อยากหรอก แต่บังเอิญไปเข้าใจผิดว่า ให้ยกรูปขึ้นมาพิจารณาแบบนั้น แบบนั้นมันก็ได้อยู่ครับ เป็นการปรับทิฏฐิความเห็นของเราให้มันตรง มองรูปก็ให้มองอย่างรอบคอบขึ้นก็เท่านั้นเอง) เราก็ดับไว้ก่อน หยุดคิดไว้ก่อน เอาสติมารู้ความเคลื่อนไหวอยู่กับปัจจุบันแทน เอาให้นิ่ง ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัวว่าจะไปตกในร่องสมถะอะไร ติดฌานอะไร ตกเป็นตก ติดเป็นติด เรากล้าไปเลย แล้วคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของใจ สังเกตความอยากที่มันกระเพื่อมขึ้นมา พาให้ไปคิดต่อ ปรุงไปต่าง ๆ นานาบ้าง หรือพาให้นั่งไม่ติด พาให้ใจคิดวนเวียนวกวน ให้เห็นทุกข์จากการหลงปรุงแต่งพวกนั้น ให้เห็นอาการที่มันเข้าไปหลงปรุงสร้างภพในใจพวกนั้นขึ้นมา ให้ชัด ๆ ชัีด ๆ เอาให้ชัด ๆ เห็นด้วยใจที่เป็นอุเบกขา

    เราฝึกไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งร้อนอะไร ต่อไปก็เอาให้ได้ทุกเรื่องครับ ถ้ามันเกิดอยากขึ้นมาเราก็ดับ ไม่ทำตามมัน ฝืนมันไว้ พอหายอยากแล้วค่อยทำ หรือถ้ากำลังทำ ความอยากมันเกิดขึ้นมา เรารู้เราก็ดับความอยาก แต่ทำต่อไป เพียงแค่เรารู้ทันมัน ความอยากก็จะดับไป พอเราไม่ได้ทำด้วยความอยากเวลาใด เวลานั้นก็คือเราทำด้วยสติด้วยปัญญาแล้ว ค่อย ๆ ใจเย็น ๆ นะครับ อย่าใจร้อน ถ้าใจร้อนมันจะกลายเป็นกิเลสต่อไปอีก เรามาฝึกละกิเลส ดังนั้นไม่มีคำว่าเสียหายอะไร มีแต่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เผลอก็เริ่มใหม่ ๆ เริ่มใหม่ตลอดเวลา ใหม่สดตลอดเวลา เริ่มที่ปัจจุบันนี้เองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2012
  17. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ปล่อยตัวรู้นึง ไปจับตัวรู้นึง แล้วปล่อยจับไปเรื่อย ๆ
    อย่างลุงขันธ์นี่เหรอครับ ที่คุณว่าถูกต้อง
    ตัวรู้มีเยอะแยะมากมายนี่เหรอครับที่ถูกต้อง

    ผู้รู้มีผู้รู้เดียวเท่านั้นล่ะครับ
    ไม่มีครูอาจารย์องค์ไหนสอนว่ามีหลายผู้รู้ซักองค์

    คุณเอาความรู้อนุบาลของคุณมาประเมิน
    ความรู้ระดับมหาลัยไ่ม่ได้หรอกครับ

    คนเราเก่งน้อยกว่าคนอื่นก็ได้หรอกครับ
    ไม่มีใครเก่งที่สุดหรอกครับ
    ยกเว้นพระพุทธองค์
     
  18. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ไม่ต้องเกาะหัวผมหรอกเพราะ ผมมีเทวดามายืนยันครับตอนนั้นก็มี
    เมื่อคืนก็มี คืนก่อนก็มี
    คืนก่อนเป็นพระส่งบาตรมาให้ในนั้นมี...3-4ตัว
    เมื่อคืนเป็นพระรูปร่างสูง ผมขาว แต่หน้าคล้ายหลวงปู่แหวน
    เทวดามายืนยันผมเยอะไม่ต้องมาเกาะหัวผม:'(
     
  19. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +289
    555 อยากขำเป็นภาษาฮิบบรูจัง ฮาๆๆเบือก...เบือก สงสัยจะเป็นหัวหน้าคณะตลก...จิงๆ ก็จะไม่ขัดศรัทธาแล้วกันขอขำอีกภาษาแล้วกัน...จะได้สมกับตัวโง่(อยู่ไหนหนอ) เจ้าทุยอยู่ไหน...โฮๆๆๆ 555 โคตะระขำเลย อะไรขอแกกันนี่เล่นแบบนี้ตัวโง่เขารับไม่ทัน ตัวโง่เขาก็จะพากันขำ...แบบฮาไม่รู้จบเลยนะนี่
    ขนาดคนที่ว่าตนมีสตินักหนา ก่อนกับหลังนี่ยังดูแปลกๆเลย หมายถึงก่อนทำและหลังทำสิ่งต่างๆ อาการมันคงแปลกๆดีนะนี่ ไม่มีอะไรจะถามแล้ว เพราะสงสัยเราก็คงสอบตกเหมือนกันเพราะเถียงคนออกข้อสอบ...ตัวโง่
     
  20. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +289
    คนเราอาจจะพูดถูกหรือพูดผิดก็ได้ถ้ายังอาศัยความเป็นคนปุถุชนดำรงอยู่ แต่การที่คนเราอะไรๆก็ถูกเสียหมดนี่ บางทีแม้พระโพธิสัตว์เองก็ต้องกังวลนะ ว่าทำไมมันง่ายจัง ทำไมมันไม่มีอุปสรรคเลย จะทำอะไรก็ง่ายแสนง่าย อันนี้ต้องกังวลหนักเข้าไปอีกเป็นสองเท่า เพราะอะไร...บางคนว่าเพราะมีบารมีมาก แต่เราว่าไม่ใช่...เพราะอะไรก็ต้องคิดเอา...เพราะกิเลสที่ฝังมาช้านานนี้จะไปกับเราจนกว่าจะหมด จนกว่าจะล้างทำลายได้หมด ผมว่าการเห็นว่าสิ่งที่ถูกนั้นถูกต้องแต่เพียงด้านเดียว ไม่ลดละไม่ทำให้เป็นกลางก็ไม่ต่างกับพวกซ้ายจัดหรือขวาจัด สิ่งสำคัญกว่าคือ อุเบกขาหรือกลางอย่างไร จึงเรียกว่า กลาง กลางแล้วคนอื่นสับสนหรือกลางแล้วคนอื่นเข้าใจหรือกลางแล้วตนเองเข้าใจ ความหมายคงไม่ต้องอธิบาย เพราะอธิบายไม่เป็นหรอก ว่าอุเบกขาค่ากลางเป็นอย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...