อัศจรรย์! เมฆรูปเทพ ปรากฎกายเหนือวัดพระแก้ว

​

Pic : Isres Chorphaka​

ช่างภาพบันทึกภาพ เมฆรูปเทพ เหนือวัดพระแก้ว
Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานภาพอันน่าอัศจรรย์ ที่ช่างภาพชาวไทยสามารถบันทึกได้ เหนือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้วพระแก้ว ในกรุงเทพมหานคร
Isres Chorphaka ช่างภาพวัย 51 ปี กล่าวว่า ในช่วงเวลาครึ้มฟ้าครึ้มฝน ปรากฎเป็นก้อนเมฆรวมตัวกันคล้ายกับเทพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านลงมาเบื้องล่าง ซึ่งปรากฎเพียง10 วินาทีก็หายไป แต่เขาสามารถบันทึกภาพไว้ได้
เขากล่าวว่า เดินทางมาชมสถานที่แห่งนี้กับเพื่อน เพื่อบันทึกภาพความสวยงามของวัดพระแก้ว แต่เมื่อกำลังจะเดินทางกลับ ก็พบว่าท้องฟ้ามืดครึ้ม ราวกับฝนจะตก เมื่อสังเกตจะเห็นแสงอาทิตย์สาดแสงลงมาระหว่างก้อนเมฆ ที่ก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายกับนางฟ้า
เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พร ขณะที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็เห็นปรากฏการณ์นี้เช่นกัน นับว่าเป็นภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยบันทึกได้


ที่มา อัศจรรย์! เมฆรูปเทพ ปรากฎกายเหนือวัดพระแก้ว | ข่าวเด่นประจำวัน

 

จะว่าเหมือนนกฟินิกซ์ ก็เหมือน จะว่าเหมือนพญาครุฑก็เหมือน.. อืมมม... แต่ที่แน่ๆ.. ภาพสวยครับ

 

น่าจะสื่อความหมายไปในทางที่ดี ภาพสวยค่ะ

 

สื่อดังอังกฤษตีข่าวช่างภาพไทยเก็บภาพ "เมฆเทพเจ้า" ปรากฎเหนือท้องฟ้าวัดพระแก้ว






เว็บไซต์ข่าวเดลี่เมล์ ประเทศอังกฤษ รายงานข่าวไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า นายอิศเรศ ช่อผกา ช่างภาพวัย 51 ปี สามารถบันทึกภาพถ่ายคล้าย ′เทพเทวา′ กำลังปรากฎร่างทิพย์ เป็นแสงสว่างฝ่าเมฆมรสุมเหนือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ได้ ระหว่างที่นายอิศเรศและเพื่อนกำลังเที่ยวชมวัด โดยหวังว่าจะได้ถ่ายรูปวัดพระแก้ว และพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) แต่หลังจากเห็นท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนจะตก นายอิศเรศจึงชวนเพื่อนเดินทางกลับบ้าน และบังเอิญเห็นลำแสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านกลางเมฆครึ้ม ก่อเกิดเป็นภาพสวยงามซึ่งนายอิศเรศได้หยุดดูและบันทึกภาพ แต่ทันใดนั้น แสงอ่อนๆ ได้เคลื่อนตัว จนดูคล้ายกับมีองค์เทพปรากฎตัวอยู่เบื้องบน

นายอิศเรศ กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากๆ ผมยังบอกกับเพื่อนเลยว่า ดูสิ เทพเจ้ากำลังอวยพรให้เรา"

ทั้งนี้ ขณะเกิดภาพ ′เทพเทวา′ ดังกล่าว นายอิศเรศ ระบุคร่าวๆ ว่า มีผู้คนราว 100-200 คน ที่เห็นเหตุการณ์พร้อมกับเขา ซึ่งนายอิศเรศรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากๆ เนื่องจากปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ถึง 10 วินาที แต่ก็เพียงพอที่จะบันทึกความน่าทึ่งนี้ได้ทัน ภาพนี้ไม่เพียงแค่จะเป็นภาพดีที่สุดในวันนั้น แต่มันเป็นภาพดีที่สุดในชีวิตที่เขาเคยถ่ายเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ท้ายข่าวดังกล่าว มีนักท่องอินเตอร์เน็ตเข้ามาแสดงความเห็นหลากหลายทัศนะ ทั้งเชื่อว่าเป็นจังหวะที่ถ่ายภาพได้มุมออกมามองดูคล้ายเทพในหมู่เมฆจริงๆ ขณะที่บางคนมองเห็นเป็นรูปทรงมนุษย์ค้างคาว (แบ็ตแมน) หรืออาจเกิดจากการตกแต่งภาพด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อป

คลิกอ่านต้นฉบับข่าวจากเว็บเดลี่เมล์ ได้ที่นี่ : "Goodheavens above! Photographer captures angel in the clouds over Thai Buddhist temple"



---------
ที่มาของข่าว

 

จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้

 

เหมือนพญาครุฑกำลังเหาะเลยครับ ช่างอัศจรรย์ธรรมชาติ

 

พวกฝรั่งเขาเรียกนกฟีนิกส์(นกไฟ)....4444

 

สวยงามมากครับ เหมือนนกยักษ์กำลังโฉบลงมา

 

ครุฑ..เป็น ศัตรู กับ พญานาค..เต็มตัว.....ลางนี้ เป็น ลางสังหรณ์ว่า พวก นาค.กำลังจะ อวสาน...ครับ....พญาครุฑ มาแล้ว...พวก พญานาค ก็ อยู่ไม่ได้ครับ...ลอง คำนวนเอาละกันว่า ใคร คือ นาค ใคร คือ ครุฑ...

 

จากหนังสือพิมพ์เมื่อเช้าภาพถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ ต.ค. 45 โน่นแหน่ะ

แถมยังเคยมีข่าวมีแสงออร่าคล้ายนกฟีนิซ์ ที่

ถ้าพูดถึง เรื่องครุฑตามตำนานอินเดีย เรื่องนกฟีนิกซ์ตามตำนานอียิปและกรีซ เรื่องนกแปลกๆ คงไม่เกี่ยวกับในภาพเท่า ที่เคยโผล่ในกล้อง SOHO หรอกนะ ฮิฮิ เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อ้างอิงและเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับสิ่งเหล่านี้ได้เผงๆเลย ตำนานก็ยังไงก็ยังเป็นตำนานต่อไปวันยังค่ำและสิ่งที่เห็นกับตา จากสื่ออยู่ทุกวันนี้เป็นไปได้แค่เรื่องบังเอิญดันเหมือน มุมกล้องมั๊ง เมกขึ้นมาแน่ๆ(ระวังนะ) แล้วแต่ใครใคร่คิด ตร่อ..ๆ ไป ผ่านไปวันๆ

 

ชาวต่างชาติเข้าใจว่าเป็น นกฟีนิกซ์(Phoenix)
หรือชาวไทยเข้าใจว่าเป็น พญาครุฑ พญานาค เทพเจ้า นางฟ้า หรืออื่นๆ
ท่านจะมาให้พร หรือมาแจงเตือนเหตุ
ตรงนั้นไม่สำคัญขอให้พวกเรายึดมั่นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และปฎิบัติตามกันให้ได้ เพราะนี่คือล้วนของแท้ ของจริงแทบทั้งสิ้น แต่ไม่สนใจกัน ไม่มีอะไรที่น่าอัศจรรย์ไปกว่าการดูจิตของตน ยิ่งดูยิ่งสนใจเท่าใด อัศจรรย์ยิ่งกว่าตาเนื้อที่พวกเรากำลังมองเห็นกันด้วยตาเนื้อ
ดวงจิตของพวกเรานี้สำคัญยิ่งกว่า หรืออัศจรรย์ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ อย่าไปดูที่อื่น
อย่าไปตื่นเต้น ตระหนกตกใจ หรือใช่นิ่งดูดาย จงใช้ปัญญาพินิจ พิจารณา

ศีล สมาธิ ปัญญา คือหัวใจพระพุทธศาสนาสำคัญยิ่งกว่า เลิศกว่าสิ่งใด
เพราะเหล่านี้เรียกสติปัญญาของมนุษย์ได้ดี เมื่อจิตตนมีปัญญา จะแยกแยะได้เกือบทั้งหมด ว่าอะไร คืออะไร
อะไรมาเตือน ไม่สำคัญไปยิ่งกว่า ตนเองเตือนจิตของตนเอง
คือขณะนี้พวกเรา กำลังทำอะไร ตั้งอยู่บนความประมาท???

ปล. ผู้ที่กำลังตามหาความสุขภายใน หรือผู้ปฎิบัติธรรมที่กำลังแสวงหาเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง
หรือเพื่อความหลุดพ้นวัฎฎสงสาร
คนส่วนใหญ่มักมีปัญหา เพราะไม่ค่อยเข้าใจจิตของตนดีพอ หรือกำลังใจไม่พอที่อยากจะปฎิบัติ พวกเราจึงเข้าไปไม่ถึงกระแสจิต กระแสธรรม
เหตุผลหลักใหญ่ๆก็คือ จิตไม่นิ่ง จิตไม่สงบ เพราะภาวนากันไม่เป็น หรือจะด้วยเหตุใดๆก็ตาม เช่นเจริญศีลไม่ครบเป็นต้น ก็พลอยทำให้จิตไม่สะอาดตามไปด้วย ขณะภาวนาจิตจึงไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร
แต่ถ้าผู้ใดสนใจธรรมปฎิบัติ(โดยเฉพาะ) หรือทำอย่างไรให้จิตตนเองเป็นสมาธิ หรือจิตทรงฌานได้ง่ายและต่อเนื่อง เพราะนักปฎิบัติส่วนใหญ่มักมีปัญหา คือทำแล้วไม่ต่อเนื่อง และเป็นอุปสรรค์ในการยกจิตของตน หรือไม่เจริญในศีล ในธรรมเท่าที่ควร ตรงนี้จึงมีความสำคัญสำหรับผู้ปฎิบัติโดยตรง

และจึงขอแนะนำวิธี จิตเกาะพระ เป็นอย่างไร??? ต่อไป

 

เพื่อนๆ ท่านใดมีรูปสวยๆ จากเหตุการณ์นี้ กรุณานำมาโชว์ด้วยคับ ขอบคุณ

 

ปญอ มีแต่อคติ กำ

 

รูปสวยมากครับ