พระกริ่งผงขุนแผน สุดยอดเสน่หาเมตตาดูดลาภผลเงินทอง พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ หน้า96

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ariyachot, 13 ธันวาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ฅนละคร

    ฅนละคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2012
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +8
    วันนี้มีโอกาสได้เห็นตะกรุดยันต์ยุค๘ของพ่อครู โดยที่พ่อครูใส่สายประคตเอว เพื่อแขวนตะกรุดนี้โดยเฉพาะ และพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
    "ขนาดพ่อครูยังแขวนติดตัวท่านเลย คิดเอาเองแล้วกันครับ อานุภาพจะมากมายมหาศาลแค่ไหน"
     
  2. kajit

    kajit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,656
    ค่าพลัง:
    +3,351
    โอนให้แล้วครับ 2,069 บาทจาก 085524T
     
  3. sad boy

    sad boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +454
    สีผึ้งยังเหลือมั้ยครับ โทรไปไม่มีครัยรับ จอง 2คับ โอนพรุ้งนี้เช้า
     
  4. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    ตะกรุดยันต์ยุค 8 บูชาติดตัวตามปกติไม่ต้องเซ่นครับ ราคาขุนแผน อู่ทรัพย์ นับอนันต์ พิมพ์ใหญ่ แจ้งไปทางข้อความส่วนตัวแล้วครับ
     
  5. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    รบกวนขอที่อยูในการจัดสงด้วยครับ
     
  6. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    สีผึ้งเทียนมัทรี สอบถามกันมายังมีอยู่ครับ
     
  7. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    ตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมัน ผูกรัดมัดสวาทบาดจิตผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน ประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา สำหรับผู้ที่บูชาได้ไปหากอยากได้ผลเต็ม100% ต้องมีการอารธนาคาถาที่ผมแนบไปให้ด้วยแล้วอธิษฐานตามใจนึกครับ
    สำหรับประสบการณ์นั้นมีผู้ที่ได้รับไปมาเล่าให้ฟังเรื่องการเจรจาต่อรองธุรกิจและเรื่องเมตตาเน้นดีมาก ทไใฟ้สามารถปิดดีลใหญ่ๆได้ท้งที่งานน้นมีผู้ประมูลมากมายรวมถึงตนเองน้นก็ไม่ได้มีเส้นสายเหมือนคนอื่นๆ

    ส่วนเรื่องเมตตาให้คนรักคนชอบนั้นแค่พกติดตัวแล้วอารธนาคาถาก็พอนะครับ ไม่ต้องไปแกะที่เลี่ยมไว้ให้แล้วนำน้ำมันออกมาใช้นะครับ
     
  8. numkitti

    numkitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2008
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +844
    วันนี้ (12มี.ค.55)โอนเงินค่าเช่าตะกรุดยันต์ยุคแปดแล้วน่ะครับ รายละเอียดและที่อยู่แจ้งทาง PM ครับ
     
  9. sad boy

    sad boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +454
    พี่เจ้าของกะทู้ไม่รับโทสับอ่ะคับโทตั้งเเต่เมื่อคืนหละ
     
  10. armymen

    armymen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +33
    ส่งเงินไปเรียบร้อยแล้วนะครับ รายชื่อ และที่อยู่เหมือนเดิมครับ
     
  11. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    EI 6774 3855 9 th คุณkajit
    EI 6774 3853 1 th คุณjatukarm
    EI 6774 3854 5 th คุณขลุ่ยไม้
    EI 6774 3851 4 th คุณอำนาจ
    EI 6774 3852 8 th คุณarmymen
    EI 6774 3850 5 th คุณลัญจ์
     
  12. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    สำหรับผู้ที่โทรมา ผมโทรกลับไปหาทุกท่านแล้วนะครับ
    บางครั้งไม่สะดวกรับสายต้องขอโทษจริงๆครับ

    มี1 เบอร์โทรกลับไปไม่มีคนรับใช้เบอร์นี้รึเปล่าครับ 08138705xx
     
  13. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    มาเล่าเกร็ดความรู้ เรื่องเทียนปากหงส์ ที่พ่อครู พระอาจารย์ศิริพงศ์ ได้ใส่ไว้ใน ตระกรุดคู่นะรับเอา



    ที่มา monnut.com

    พระราชพิธีตรียัมพวาย - ตรีปวาย

    พิธีนี้อยู่ในพระราชูปถัมภ์ และพิธีนี้ก็ไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนเมื่อก่อนเป็นแต่ทำกันเป็นภายในเทวสถาน เท่านั้น คงเหลือพิธีทำกันอยู่ ๕ วัน คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ให้คณะพราหมณ์เข้าเฝ้า พนักงานอัญเชิญเทวรูปพระอิศวร พระอุมา พระมหาพิฆเณศวร์ พระนารายณ์ ให้ทรงเจิมแล้วพระราชทานเงินช่วยในพิธี ๑,๐๐๐ บาท

    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ เวลาประมาณ ๐๔ น. พระมหาราชครู ฯ หรือ พระราชครูฯ ผู้เป็นประธานพราหมณ์ประชุมกันผูกพรต (พรตนั้นทำด้วยด้ายสายสิญจน์ ตรงกลางด้ายผูกดอกบานไม่รู้โรยขาวไว้ที่ต้นแขนขวา) ในระหว่างที่ผูกพรตอยู่นี้ พราหมณ์จะต้องกินถั่วกินงา และจะต้องอยู่ประจำที่เทวสถาน จะอยู่ร่วมกับภรรยาไม่ได้ จนกว่าจะเสร็จพิธี คือ จนกว่าจะลาพรตที่แขนออกเสียก่อน

    ถวายเครื่องกระยาบวด พระผู้เป็นเจ้าของพระราชครู ฯ ผู้เป็นประธาน ๓ ที่ ของพราหมณ์อื่นๆ คนละหนึ่งที่ พระมหาราชครูฯ จะมอบให้พระครูสะตานันทมุนี โปรดน้ำสังข์จุณเจิมที่หน้าเกยวัดสุทัศน์ฯ กับที่เสาชิงช้าทั้งสองเสา ครั้นกลับเข้ามาที่เทวสถานพระราชครูทำพิธีที่กระดานโล้ และกระดานครู รดน้ำสังข์จุณเจิมแกว่งคันประทีป แล้วออกไปนอกเทวสถาน ทำพิธีเอานางกระดานลงหลุมต่อไปที่ๆนางกระดานลงหลุมนั้น ขุดหลุมลึกประมาณหนึ่งฝ่ามือ กว้างประมาณ ๘ นิ้วฟุต ยาวประมาณ ๑ ศอก เหมือนกันทั้ง ๓ หลุม มีซุ้มราชวัติฉัตรกระดาษ ก่อนที่จะเอาลงต้องเดินปทักษิณ ๓ รอบ แล้วเอาพิงไว้ที่ราวปากหลุม นอกนั้นมอบให้พระราชครูฯ เริ่มทำพิธีเอานางกระดานลงหลุม เริ่มต้นที่หลุมพระคงคา ของที่บูชานางกระดาน มีข้าวตอก เผือกต้ม มันต้ม แตงกวา ข้าวต้มน้ำวุ้น น้ำอ้อยงบ หมากพลู ของทั้งหมดนี้ใส่รวมไว้ในตะลุ่มไม้ มะพร้าวอ่อน ๑ ผล แก่ ๑ ผล ทั้งเปลือก อ้อย ๑ ลำ พระราชครูฯ จุดธูปเทียนบูชา แกว่งคันประทีป แกว่งกระดึง รดน้ำสังข์จุณเจิม เอาขลังจุ่มน้ำอบประพรมของถวาย แล้วเด็ดขลังรองก้นหลุมก่อน จึงยกนางกระดานลงเอาม่านตะลุม ทำเหมือนกันดังนี้ทั้ง ๓ หลุม คือ หลุมพระคงคา พระธรณี พระอาทิตย์ พระจันทร์ เสร็จจากเอานางกระดานลงหลุมแล้วกลับเข้าไปในเทวสถาน ลาเครื่องกระยาบวดทั้งหมด ของใครๆก็ลา พระราชครูฯผู้เป็นประธานลาแล้ว พราหมณ์อื่นๆจึงลากันตามลำดับ เมื่อลาเสร็จแล้วจะต้องเอาของที่ลาแล้วนั้นมาถวายพระราชครูฯก่อน คือ หยิบของๆ ตนวางลงในโตกของพระราชครูฯ ท่านก็จะหยิบเอาของๆท่านให้เช่นกัน จากนั้นก็นำมาบริโภคกัน พิธีเริ่มลงมือทำประมาณ ๐๔ น. กว่าจะเสร็จก็ประมาณ ๐๕ น. จึงเป็นอันเสร็จพิธีในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ แต่เพียงเท่านี้

    วันแรม ๑ ค่ำ เดือนยี่ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. รถยนต์หลวงอัญเชิญเทวรูป พระอิศวร พระอุมา พระมหาพิฆเณศวร์ ที่ทรงเจิมเมื่อวันวานมาเข้าพิธี ประดิษฐานอยู่ในบุษบก เหนือพานประดับดอกไม้ กับไฟหลวง ดอกไม้ ๑ กระทง ธูป ๓ ดอก พนักงานภูษามาลานำมาส่งที่หน้าเทวสถาน พระราชครูฯ ออกไปเชิญเข้ามาในเทวสถานประดิษฐานบนโต๊ะหมู่มุก หน้าพระเทวรูปประจำเทวสถาน เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. พระมหาราชครูฯ แต่งตัวอย่างทำพิธีทั้งปวง คือ นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อขาวแขนยาวห่มผ้าเฉวียงไหล่ และมีผ้าขาวคาดเอว

    อัญเชิญเทวรูปจากโต๊ะมุก มาวางที่บนโต๊ะเบญจคัพย์ นั่งเหนืออาสนะขาวกระทำอาตมะวิสุทธิ์ในสารตำรับ เปิดประตูศิวาไลยไกรลาศ กล่าวสวดเป็นทำนองที่เพราะพริ้งมาก ไม่มีทำนองสวดใดจะไพเราะเหมือน เท่าที่ข้าพเจ้าเคยได้ฟังมา อัญเชิญพระเจ้าเสด็จลงจบแล้ว กลับมานั่ง พราหมณ์คู่สวด ๔ คน เข้ามากราบตามพรตแก่อ่อน พระราชครูฯ เอาขลังจุ่มน้ำเทพมนต์ ประพรมศีรษะพราหมณ์คู่สวดทั้ง ๔ มายืนเรียงแถวหน้าพระเทวรูปประจำสถาน เริ่มสวด เรียกว่าสวดมูไรย จบแล้วกลับมานั่ง พระราชครูฯลุกจากอาสนะไปที่หน้าพระเทวรูป ประพรมน้ำเทพมนต์ที่โต๊ะ ข้าวตอก เผือกมัน งบน้ำอ้อย ข้าวต้มน้ำวุ้น กล้วยหักมุก ส้ม แตงกวา มะพร้าวอ่อน ฯลฯ แล้วประพรมของที่จะถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีของดังนี้ ข้าวตอกใส่ขันทอง วางบนพานแว่นฟ้า ๑ คู่ ข้าวตอกใส่ถุงขาว ๑ คู่ ราชสีห์น้ำตาล ๒ ที่ ที่ละ ๓ ตัว สิงโตน้ำตาล ๒ ที่ ที่ละ ๓ ตัว ผลไม้ใส่ขวดโหล ๔ ขวด ๑ ที่ ขนมใส่ขวดโหล ๔ ขวด มะพร้าวอ่อนที่ฟอนแล้ว ๒ ที่ ที่ละ๕ ผล ส้มแสงทอง ๒ ที่กล้วยหักมุก ๒ ที่ อ้อยที่เกลาแล้วตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ ท่อนละ ๑ ศอก มัดติดกันเป็นแพสองชั้น ๒ ที่ ของทั้งหมดนี้ใส่รวมลงในตะลุ่ม เมื่อประพรมน้ำเทพมนต์เสร็จแล้ว กลับมายืนที่หน้าโต๊ะข้าวตอกแกว่งคันประทีป แกว่งกระดิ่ง ถวายประทงไม้พระผู้เป็นเจ้า แล้วย้ายมาที่เทวสถานพระมหาพิฆเณศวร์ เริ่ม พระราชครูฯ จุดธูปเทียนบูชาพระมหาพิฆเณศวร์ บูชาพานครู ในพานครูมีสิ่งของ คือ ข้าวตอก ส้ม แตงกวา มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก่ทั้งเปลือก อ้อย ๒ ลำ พระราชครูฯ ประพรมน้ำเทพมนต์ที่พานครูแกว่งประทีป แกว่งกระดึง พราหมณ์เป่าสังข์ พราหมณ์คู่สวด ๔ คน สวดมูไรยคล้ายกับทำที่เทวสถานใหญ่ เสร็จแล้วพระราชครูฯ ประพรมน้ำเทพมนต์บนโต๊ะข้าวตอกแล้วถวายข้าวตอก ดอกไม้ พราหมณ์ ๓ คน ยกพานอนุฎภะถวายแล้วย้ายกลับมาที่สถานพระอิศวร คือ เทวสถานใหญ่ พระราชครูฯ นั่งอาสนะ อ่านเวทย์ อ่านบูชาแปดทิศ บูชาขลัง บูชาเบญจคัพย์ บูชากลศ- สังข์ กุมภ์- หงส์ ถวายข้าวเวท สรงน้ำพระอัญเชิญพระขึ้นสู่ภัทรบิฐ บูชาปัพพโต อัญเชิญพระขึ้นสู่หงส์ส่งสการ พราหมณ์สองคนอ่านช้าหงส์ หรือตามที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "กล่อมหงส์" พระราชครูฯ อ่านปิดประตูศิวาไลยไกรลาส อนึ่งในพิธี เจ้านายตลอดจนชาวบ้าน มักจะไปขอเทียนปากหงส์ ถือกันว่าเป็นเสน่ห์มหานิยม ถึงกับแย่งชิงกันก็มีแทบทุกปีมิได้ขาด เสร็จพิธีในคืนวันแรม ๑ ค่ำแต่เท่านี้

    รุ่งขึ้นในวันแรม ๒ ค่ำ เตรียมตัวนำของพิธีดังกล่าวแล้ว เข้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จลงให้คณะพราหมณ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระพรชัย และพิธีตรียัมพวาย พระราชครูฯ ถวายน้ำเทพมนต์ด้วยพระมหาสังข์ ถวายใบพรหมจรรย์ ทรงรับด้วยพระหัตถ์แล้วทรงลูบพระพักตร์ ทรงรับใบพรหมจรรย์ทัดพระกรรณขวา ต่อจากนั้นพราหมณ์ถวายพระพรชัยมงคลเป็นลำดับกัน ในระหว่างถวายน้ำพระมหาสังข์นั้น พราหมณ์เป่าสังข์ ต่อจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วยในพิธีตรียัมพวาย แล้วเสด็จขึ้น

    คืนวันแรม ๓ ค่ำ เวลาประมาณ ๐๔ น. พระราชครูฯ ทำพิธีเอากระดานขึ้นจากหลุม พิธีก็มีเหมือนกันกับเมื่อเอาลง เป็นแต่ยกเอาขึ้นเท่านั้น เมื่อทำพิธีเสร็จแล้ว ก็นำกระดานเข้าไปเก็บไว้ในเทวสถาน ทั้งกระดานครู และกระดานโล้ เป็นเสร็จพิธีเอากระดานขึ้นจากหลุม

    วันแรม ๕ ค่ำ เป็นพิธีตรียัมพวายของพระนารายณ์ เป็นวันยุ่งมาก กล่าวคือ เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ ๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ ใครมีบุตรหลานที่เอาไว้จุก ไว้แกละ และไว้เปีย ไม่อยากจะโกนที่บ้าน ก็นำบุตรหลานของตนมาให้พราหมณ์โกนให้ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แล้วก็ไม่ยุ่งด้วย ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์จะมีโต๊ะตั้งเทียนไว้บำรุง ๓ ต้น ต้นหนึ่งถวายพระสงฆ์ที่นิมนต์มาเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ต้นหนึ่งบำรุงเทวสถาน ต้นหนึ่งบำรุงโรงครัว ใครมีศรัทธาจะทำเท่าไร บำรุงเท่าไรก็ได้หรือจะไม่บำรุงเลยก็ได้ ไม่ได้กะเกณฑ์ เมื่อครั้งข้าพเจ้าเป็นเด็ก เคยเห็นมีคนนำกระบองเพชรมงคลย่นไปขาย ของเหล่านี้ก็คนอยู่ที่แถวโบสถ์พราหมณ์ทำขาย ครั้นต่อมาข้าพเจ้าโตขึ้นไม่เห็นเลย เมื่อพระสงฆ์ที่มาเจริญพุทธมนต์กลับไปแล้ว เวลา ๑๘.๐๐ น. พนักงานภูษามาลา อัญเชิญเทวรูปพระนารายณ์ ขึ้นประดิษฐานบนพานทองสองชั้น ธูปเทียนกระทงดอกไม้ มาด้วยรถยนต์หลวง มาส่งที่หน้าเทวสถาน พระราชครูฯ ออกมารับที่หน้าเทวสถาน มีพราหมณ์เป่าสังข์ นำเข้ามาประดิษฐานไว้ในเทวสถานพระอิศวร ครั้นเวลาประมาณ ๒๓.๐๐น. พระราชครูฯ แต่งกายอย่างทำพิธีทั้งปวง เชิญเทวรูปพระนารายณ์จากสถานพระอิศวร ไปสถานพระนารายณ์ มือขวาถือพานพระ มือซ้ายถือเทียนเล่มใหญ่อัญเชิญพระขึ้นวางบนที่ตั้งเบญจคัพย์หันหน้าไปทาง ทิศตะวันตก พระราชครูฯ ไปกราบพระประจำเทวสถาน แล้วกลับมานั่งที่อาสนะ จุดธูปเทียนบูชาครู เทียนดูหนังสือ เทียนที่บาตรแก้วอาตมะวิสุทธิ เหมือนกับทำที่เทวสถานพระอิศวร ผิดกันแต่เวทที่ใช้อ่านเท่านั้นส่วนของในพิธี เมื่อทำเสร็จแล้วก็ไม่ต้องนำไปถวายเจ้านาย ใช้แจกจ่ายให้ประชาชนที่ไปขอ เพื่อให้เกิดสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล การที่ไม่แจกเจ้านาย โดยถือกันว่าพระนารายณ์เป็นพระเดช ตรงกันข้ามกับพระอิศวร ซึ่งเป็นพระคุณ

    วันแรม ๖ ค่ำ เวลาย่ำรุ่ง พระสงฆ์มาพร้อมกันแล้วถวายพรพระ ชะยันโต ท่านที่นำบุตรหลานมาตัดจุกต้องมาก่อนย่ำรุ่ง ในระหว่างที่พระสวดชะยันโต พราหมณ์ก็จะลงมือตัดจุกให้กับเด็กๆ ไปจนเสร็จ เมื่อตัดเสร็จแล้ว ก็นำบุตรหลานออกมาโกนผม หรือจะจ้างเขาโกนก็ได้ ซึ่งมีช่างคอยรับจ้างโกนอยู่ ในตอนนี้ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เมื่อพระฉันเสร็จ อนุโมทนากลับไปแล้ว จึงนำเอาเด็กเข้าไปในโบสถ์อีกทีหนึ่ง เพื่อเวียนเทียนสมโภชจุณเจิม มีพนักงาน เครื่องสูงประโคม แตรฝรั่ง แตรงอน เป่าสังข์ แกว่งบัณเฑาะว์ ฆ้อง เมื่อเวียนเทียนเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จพิธี แล้วอัญเชิญพระเทวรูปของหลวงกลับ เป็นอันเสร็จพิธีตรียัมพวายตรีปวาย

    ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นพิธีที่ทำตั้งแต่อดีตจนถึง พ.ศ. ๒๕๑๐ แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนขยายวันและพิธีตามความเหมาะสมของยุคสมัย

    ขยายความ
    ๑. พระมหาราชครู เอาขลังจุ่มน้ำมนต์ (ขลังคือมัดหญ้าคา)
    ๒. พิธีเอานางกระดานลงหลุม
    กระดาน ๓ แผ่น แผ่นหนึ่งยาว ๔ ศอก กว้างหนึ่งศอก
    สลักเป็นรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ แผ่นหนึ่ง
    สลักเป็นรูปนางพระธรณี แผ่นหนึ่ง
    สลักเป็นรูปพระนางคงคา แผ่นหนึ่ง


    สวัสดี
    ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
    ๒๔ มกราคม ๒๕๕๒
    (คัดจากประเพณีไทยฉบับพระมหาราชครู)​
     
  14. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    ตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมัน ผูกรัดมัดสวาทบาดจิตผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน ประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา

    [​IMG][​IMG]


    ตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมัน ผูกรัดมัดสวาทบาดจิตผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน ประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา เหลือ 18 ขวด

    ให้บูชา ๒,๐๐๙ บาท + ค่าส่ง ๖๐ บาท

    ตะกรุดเมตตาคู่แช่น้ำมัน อยู่ในรูปทรงกระบอก สูงประมาณ ๕ เซนติเมตร กว้าง ๑.๕ เซนติเมตร ด้านนอกถูกเลี่ยมไว้อย่างประณีตสวยงาม ด้านบนหัวท้ายเป็นพลาสติกสีม่วง(สีม่วงทุกชิ้น) ใส่ห่วงไว้สำหรับพกติดตัวได้เลย ด้านในรองไว้ด้วยแผ่นรองกันกระแทกขวดสีแดงป้องกันการกระทบกระเทือน ตัวขวดเป็นขวดใสแปะด้วยยันต์ นะหน้าทองสายศิลปิน ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา สมบูรณ์พูนสุข (ชิ้นใดที่ยันต์ดูลบเลือนไม่ต้องกังวลใจ เนื่องจากพลังงานอยูที่แผ่นสติกเกอร์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ตาท่านมองเห็น ) ด้านในขวดบรรจุตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมันสุดยอดเมตตาผูกจิต สายศิลปิน ผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน และทองคำเปลว เลียมเรียบร้อยอยู่ในรูปแบบพร้อมใช้


    ตัวตะกรุดเมตตาคู่นี้ทำจาก ตะกั่วเถื่อนบริสุทธิ์ขนาด ๑ นิ้ว คูณ ๑ นิ้ว โดยนำเข้าอุโบสถสังฆกรรมปาฏิโมกข์ประชุมสงฆ์ ๓๒ รูป เพื่อขออำนาจบารมีคณะสงฆ์และพลังงานบริสุทธิ์แห่งการสำรวจศีล เสร็จแล้วทำวัตรสวดมนต์ ๑๒ ตำนาน และ ธัมจักรกัปปวัตนสูตร ขณะสงฆ์สาธยายพระปริต พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ จาร "นะรับเอา" สายศิลปินซึ่งดีทางเมตตามหานิยมให้มีฅนอุปถัมภ์ค้ำชู เป็น นะรับเอาซึ่งสิ่งดีๆทุกสิ่ง เรียกโชคลาภเงินทอง ความผูกพันให้มีผู้ฅนมาอุปถัมภ์ค้ำชูเกื้อหนุนตัวเราให้ก้าวหน้า สู่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นนะฝ่ายเมตตาล้วนๆ
    เมื่อจารเสร็จ จึงแช่ในน้ำมันสุดยอดเมตตาผูกจิต สายศิลปิน ผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน น้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ นี้ เกิดจากยันต์คู่ ๒ ตัว คือ ยันต์ นะ ด. ดัน ดี (ยันต์ตัวผู้) และยันต์ นะ ปะ ฉะ ดะ (ยันต์ตัวเมีย) เป็นเมตตามหานิยมชนิดสุดยอดที่สุด ยันต์คู่ ๒ ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของเมตตา ผูกจิตผูกใจดึงดูด โชคลาภ อย่างคาดไม่ถึง เมื่อบรรจุตระกรุดและน้ำมัน เรียบร้อย จึงลงผสมคละเคล้าลงทองคำเปลวบริสุทธิ์เพื่อเพิ่มธาตุแห่งความสำเร็จนำเงิน ทองมาแก่ผู้บูชา เสร็จแล้วจึงอุดด้วยเทียนปากหงส์ ซึ่งได้จากพระราชพิธีตรียัมปวาย ผู้ทีรู้จะทราบกันดีว่าเด่นเรื่องเจรจามาก สุดท้ายจึงปิดขวด แล้วพ่อครูจึงประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา ด้วยตนเองทุกขวด เมื่อประกอบพิธีการบรรจุเรียบร้อย จึงนำไปบริกรรมคาถา กว่าครึ่งเดือนจึงนำมาทำพิธี ศุกร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ
    เวลา ๐๐.๓๐ น. – ๐๒.๓๐ น. ปลอด – อธิบดี – ราชาฤกษ์ ศุกร์เสน่หาเคล้าอังคาร อาทิตย์คู่เสาร์ พุธพฤหัสสัมพันธ์เดชขึ้นเด่นเป็นประธาน

    ตั้งพิธีฮินดูพราหมณ์ สาธยายมนต์ พลีต่อองค์อรรธนารีศวรเพื่อประสิทธิมหามงคล สมปรารถนากับผู้พกพาใช้

    เรียกได้ว่าตระกรุดนี้นั้นครบทุกด้านทั้งเรื่องเมตตา เจรจา โชคลาภ ชื่อเสียง เงินทอง ซึ่งท่านตั้งใจมอบให้แก่ผู้บูชาได้นำไปใช้ให้เป็นมหามงคล ดำเนินชีวิตในสภาวะปัจจุบันอย่างสำเร็จและสมปรารถนา

    นาย วีระ อริยโชติ
    โทร 0819089996


    ค่าส่ง 50 บาทครับ
    รับประกันแท้ 100%
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2012
  15. nookylaw

    nookylaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +1,039


    เรียน พี่วีระ

    ผมขอแจ้งว่าวันนี้เวลา 13.00 น.ผมโอนค่าตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” เป็นเงิน 2,069 บาทให้เรียบร้อยแล้วครับ

    ที่อยู่แจ้งทาง PM นะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  16. คุณบุญยัง

    คุณบุญยัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +884
    EI 6774 3854 5 th คุณขลุ่ยไม้
    EI 6774 3851 4 th คุณอำนาจ
    EI 6774 3852 8 th คุณarmymen
    EI 6774 3850 5 th คุณลัญจ์

    พี่วีระครับ ผมมีเรื่องตื่นเต้นจะเล่าให้ทราบครับ วันนี้ผมได้รับตะกรุดยันต์ยุคแปดแล้วครับ ได้มาปุ๊บก็รีบไปเลี่ยมทันทีเลย แล้วอารธนาใส่เลยครับ พี่รู้ไม๊ครับว่า พอใส่ได้สักพัก ผมขนลุกชัน หนาวสั่นสะท้านเลยครับ วูบหายวูบหายอยู่หลายครั้ง แรกๆก็ไม่สงสัยอะไร แต่พอเป็นบ่อยๆติดต่อกันชักผิดสังเกตุ เป็นอยูประมาณยี่สิบนาที(เดี๋ยวปกติ เดี๋ยวขนลุก) ขับรถอยู่ อ่านหนังสืออยู่ ยืน เดิน ก็ปรากฎอาการขนลุก เหมือนกับตอนเวลาสวดมนต์กราบพระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ ผมเลยเชื่อว่าน่าจะเป็นการปรับธาตุ หรือสัมผัสพลังของตะกรุดครับ เชื่อโดยสนิทใจ ผมเคยมีอาการอย่างนี้บ้างเวลาสวดมนต์ หรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ตื่นเต้นครับ เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วครับว่าท่านมาแล้ว
    ขอบพระคุณมากๆครับที่พี่แบ่งปันมาให้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มีนาคม 2012
  17. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    สำหรับผู้ที่ได้วัตถุมงคล พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ ไปบูชา
    ข้อห้าม มีเพียงศีลข้อ 3 ข้อเดียวครับ เรื่องอื่นตามสบายจะรอดนู่นนี่หรือทำอะไรไม่มีปัญหาครับ
     
  18. ฅนละคร

    ฅนละคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2012
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +8
    มีประสบการณ์จากพี่ท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟังครับ
    พอดีผมได้แบ่งไปให้เขาลองใช้ดู เนื่องจากคุยปรึกษากันอยู่นาน เพราะเขามีปัญหาทางครอบครัวอยู่ตลอด


    ตั้งแต่เขาบูชาสีผึ้งเทียนมัทรี สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ แฟนเปลี่ยนไป
    จากที่ไม่เคยใส่ใจ ใยดี แทบไม่พูดกันเสียด้วยซ้ำ ก็กลับมาพูดจาดีๆ รวมถึงเรื่องxxxด้วย
    ไม่เพียงแต่ตัวแฟนเขาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงญาติทางฝ่ายเขาด้วย ทั้งแม่ และคนในครอบครัว ล้วนเกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นตามมา
    เรียกได้ว่า เปลี่ยนจากหลังเท้า เป็นหน้ามือ ตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่คุยกัน ปกติเขาจะหมองเศร้า แต่ตอนนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส
    เรียกได้ว่า ช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้น และเปลี่ยนไปจริงๆครับ
    เขาแวะมาเล่าอยู่เรื่อยๆ แทบทุกวัน แต่ขออนุญาติไม่ออกนามนะครับ
     
  19. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,409
    นำบทความที่คุณทิพยจักรได้สนทนากับ พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ มาให้อ่านกันครับ

    ได้สนทนากับพ่อครูและน้องๆบนเรือนหลายคน มีคำถามว่าวิชาทางเมตตามหานิยมกับมหาเสน่ห์นั้น เป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่

    จึงได้ทราบจากพ่อครูท่านว่า วิชาทั้งสองไม่เหมือนกัน

    วิชา ทางเมตตามหานิยมนั้น เป็นวิชาทางฝ่ายขาว เป็นวิชาที่มีกระแสเย็น อันเกิดจากความปรารถนาดีของผู้ที่มีที่มีเมตตาจิตมีความกรุณา มีความเอื้อเฟื้อต่อโลกแผ่พลังจิตที่มีกระแสเย็นเป็นเมตตาธิคุณลงไปในวัตถุ ทำให้วัตถุดังกล่าวมีพลังเย็นเป็นเมตตาสิริมงคล เมื่อผู้มีศรัทธาพกพาวัตถุมงคลทางเมตตาแล้วก็จะพลอยได้อานิสงค์จากวัตถุมงคล นั้น คือ พลอยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขจากกระแสเมตตาธิคุณที่แผ่ออกมาจากวัตถุมงคล นั้นๆด้วย ทั้งนี้ยามเข้าหาผู้ใดกระแสเมตตาภายในวัตถุมงคลก็จะแผ่พลอยให้ผู้อยู่ใกล้ ได้อานิสงค์จากอำนาจเมตตานั้น บังเกิดความสุข ความเย็นใจขึ้นมา

    พลังงาน จากเมตตาธิคุณนี้เป็นพลังเย็นที่จะค่อยๆซึมไปยังสังขารร่างกายของผู้บูชา วัตถุมงคลและผู้ที่เข้าใกล้ เป็นพลังดีที่จะทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนชีวิตของผู้พกพาและผู้เข้าใกล้ให้ดี ขึ้น อำนาจเมตตานั้นดับร้อนให้เป็นเย็น ระงับดับโทษ ดับโทสะได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้นพลังเมตตาจึงเป็นพลังที่ทำหน้าที่ค้ำจุนโลกอย่างแท้จริง ดับร้ายกลายเป็นดีได้ ผ่อนโทษภัยจากหนักเป็นเบาได้ ทำให้เกิดความรักสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ ในครอบครัว เป็นพลังที่ทำให้ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชูผู้น้อย ทั้งเป็นพื้นฐานแห่งโชคลาภความอุดมสมบูรณ์ เป็นแคล้วคลาดคงกระพันด้วย เพราะอำนาจเมตตานั้นย่อมเป็นพลังคุ้มครองมิให้เกิดการเบียดเบียนซึ่งกันและ กันดังนั้นครูบาอาจารย์จึงกล่าวว่า อำนาจเมตตาจึงทำหน้าที่คุ้มครองป้องกันไปในตัว ความรักทที่เกิดจากกระแสเมตตานั้นเป็นพลังที่ซึมลึก ยิ่งแผ่ไปนานวันทำให้เกิดความรักที่ลึกขึ้น ไม่มีวันถอน ไม่ใช่ประเภทชั่วครั้งชั่วคราวแต่อย่างใด


    ส่วนวิชามหาเสน่ห์ แตกต่างออกไป

    วิชามหาเสน่ห์ เป็นวิชาที่มีกระแสร้อน หมกหมุ่น หลงใหล ชั่วครั้งชั่วคราวไม่จีรังไม่ถาวร

    อำนาจ จากวิชาเสน่ห์ทั้งปวงนั้น แม้ว่าจะรวดเร็ว แต่เป็นไปเพื่อสนองความต้องการทางด้านมืดของจิตใจ เพราะเป็นเรื่องที่หนักไปทางตัณหาราคะ ชู้สาว

    หลายคนอาจเข้าใจว่า วิชาทางมหาเสน่ห์นั้นแรงกว่าเมตตา ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะเป็นพลังงานคนละอย่าง และมีจุดมุ่งหมายในการทำวิชาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    พลังเมตตาเป็นพลังความปรารถนาที่แผ่ออกไปเพื่อให้คนอื่นเขาดีเขาร่มเย็น

    ส่วนมหาเสน่ห์เป็นพลังแห่งความต้องการความครอบงำจิตใจผู้อื่น แผ่กระแสพลังร้อน ไปครอบงำควบคุมบังคับจิตใจให้อยู่ในความต้องการของตน

    ด้วย เหตุนี้แม้ว่าทั้งสองวิชาต่างเป็นวิชาทำให้คนรัก คนนิยม เหมือนกัน แต่สาระเนื้อหาที่มาและผลที่แท้จริงกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง ผู้ที่นิยมในเครื่องวัตถุมงคลใดเกี่ยวเสน่ห์ เมตตามหานิยมจึงควรศึกษาให้ถ่องแท้

    การทำเสน่ห์ผู้อื่นไม่ว่าวิธีใด ถ้าเจ้าตัวเขารู้เมื่อใด ก็เสื่อมลงเมื่อนั้น ส่วนการแผ่เมตตาให้ผู้อื่น เขารู้เขายิ่งรัก นี่ก็เป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด

    วิชาทางเมตตาทำ ให้เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ส่วนมหาเสน่ห์ทำให้เกิดความลุ่มหลงชั่วคราว และไม่เป็นที่ปรารถนาแก่เทพยดาแต่อย่างใด

    ดังนั้นผู้รักในวัตถุมงคลของขลังหรือคาถาอาคมใดๆ จึงควรรู้จักเลือกในสิ่งที่ดีให้ตนและผู้อื่น ก็จะได้ความรักที่ยั่งยืน

    ทั้งเป็นสิริมงคลต่อตัวเองและผู้ที่เรารัก อย่างถาวรตลอดไป

    เก็บเอาความรู้จากพ่อครูมาเล่าให้ฟังครับ

    ที่มา monnut.com


    วัตถุมงคลของพ่อครู นั้นจะเน้นทางเมตตา สายศิลปิน ซึ่งจะมีพลังงานของแรงเมตตา ผู้คนอยากเข้าใกล้ รวมถึงมีพลังงานที่นำพาเงินทองมาให้แก่ผู้บูชา ซึ่งเป็นสายขาว โดยมีแรงของครูบาอาจารย์ องค์พ่อแก่ องค์พระพิราพ รวมถึงครูบาอาจารย์หลายท่าน จะน้อมนำผลดีให้แก่ผู้ใช้ท้งปัจจุบันและอนาคตแบบถาวร ถ้าหากผู้บูชานั้นทำความดี สวดมนต์ไหว้พระ รวมถึงหมั่นเจริญภาวนา อารธนาคาถา และมีเมตตาบริจาคทาน พลังความดีนั้นก็ยิ่งช่วยให้พลังงานของวัตถุรูปเคารพครูบาอาจารย์ หรือวัตถุมงคล แผ่พลังงาน เมตตา และดึงดูดโชคลาภเงินทองรวมถึงสิ่งดีๆเข้ามามากมายยิ่งขึ้นอีกด้วย
     
  20. g_banman

    g_banman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,165
    ตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมัน ผูกรัดมัดสวาทบาดจิตผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน ประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา 2,009 บาท
    ขุนแผนอู่ทรัพย์นับอนันต์พิมพ์เล็ก เหลือ 15 องค์ 2,500 บาท
    ตะกรุดยันต์ยุค 8 สำหรับผู้ที่ต้องการบารมีองค์พระพิราพ คุ้มครอง และเรื่องเมตตาโชคลาภ


    จอง 3 รายการนี้อย่างละ 1 รายการ โอนสิ้นเดือนได้รึป่าวครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...