1. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    iPadกับพระ
    หัวเรื่องที่ผมจะพูดถึงนี้ไม่ตั้งขึ้นมาเพื่อโฆษาหรือค้าขาย
    เสาร์ที่ผ่านมา อาทิตย์วันนี้หลายๆท่านที่เข้าสนามพระหรืองานประกวดพระ เราจะเห็นว่าหลายท่านมีเครื่องมือดูพระจะเป็นกล้องส่อง เป็นส่วนใหญ่ บางท่านทันสมัยหน่อยใช้ iPad เพื่อหาพระแท้กันในสนามพระ การค้นหาพระใด้ตลอด24ชม. เพื่อนๆสมาชิกwebpalungjitใช้internetในการสื่อสาร หาข้อมูลอันรวดเร็ว ดูตำหนิพระใด้โดยเฉพาะพระหลักๆ มีข้อมูลรูปภาพที่น่าเชื่อถือใด้ ใช้เครื่องมือที่สามารถซูมดูตำหนิที่สำคัญใด้ หาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อลดของเสีย(พระเก๊) ในสนามพระคงแปลกตามากขึ้น หลายคนนั้งอยู่ใต้ต้นไม้ อยู่หน้าห้องน้ำ..เพื่อดูพระผ่านเครื่องมืออันทันสมัย ผ่านมือถือแต่จอก็เล็กไป notebook ก็หนักไป

    การเปิดตัวของTab ไม่ว่าจะเป็น iPad และ GalaxyTab ผมเองเคยเล่นiPad2ของเพื่อนที่ทำงานลองใช้เข้าไปดูพระรูปพระ ซูมเข้าไปดูใด้อย่างชัดเจนเมามัน สะดวก รวดเร็ว ตัวเครื่องที่เบาบางเหมือนหนังสือพระเล่มหนึ่ง เดินเจอเป้าหมาย พระที่ต้องการแต่ไม่แม่นพิมพ์ ก็แอบไปonlineหลังต้นไม้ในห้องน้ำ เพื่อนๆสมาชิกลองเข้าไปดูTabอีกหลายตัวๆที่น่าสนใจ (ต้องมีระบบ3gน่ะครับจะใด้ออนไลน์ใด้ทุกสนาม) ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  2. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    เล็กๆน้อยๆครับ
    เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงสุดในปีนี้ ไม่ใช่ซีพียูใหม่ของอินเทล ไม่ใช่คลาวด์ เทคโนโลยี ไม่ใช่เทคโนโลยี 3D แต่เป็น 'แท็บเล็ต'

    บริษัทวิจัยทางการตลาดระดับโลกหลายสำนักต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้คือ ปีทองแท็บเล็ต อย่าง 'นีลสัน' มีรายงานพฤติกรรมผู้ใช้งานแท็บเล็ตหลังจากที่เริ่มใช้งานว่า 1 ใน 3 ไม่ได้กลับไปใช้งานคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอีกต่อไป ในขณะที่ 32% บอกว่า ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะน้อยลง และ 77% ของผู้ใช้งานแท็บเล็ตเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากเดสก์ท้อปหรือโน้ตบุ๊กมาทำงาน บนแท็บเล็ตแทน

    บริษัทที่ปรึกษา 'สตราเตจี้ อนาลิติกส์' คาดการณ์ว่า จากแทบไม่เคยมีแท็บเล็ตอยู่ในตลาดเลยในปี 2552 แต่พอถึงปี 2557 ยอดขายหมวดสินค้าไอทีสำหรับผู้บริโภคทั่วไป แท็บเล็ตกลับจะแซงสินค้าอื่นๆ จะเป็นรองก็เฉพาะทีวีเท่านั้น

    เท่านั้นยังไม่พอ 'การ์ทเนอร์' ก็ยังบอกว่า ยอดขายแท็บเล็ตในตลาดโลกจะมีถึง 54 ล้านเครื่องในปีนี้

    จากข้อมูลดังกล่าว ถึงแม้ดูเหมือนจะโปรโมต แท็บเล็ตแบบสุดๆ ในต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้ว ภาพนั้นปรากฏให้เห็นแล้ว ว่าอย่างน้อยคนไทยก็ยังเห่อแท็บเล็ตเหมือนคนในโลกนี้ด้วย เมื่อเกิดปรากฏต่อคิว iPad 2 ในวันแรกที่เปิดขายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีรายชื่อผู้ประสงค์เป็นเจ้าของแท็บเล็ตราคา 2 หมื่นรอคิวอยู่อีกเป็นร้อยๆ ราย โดยไม่มีทีท่าจะแผ่วลงแต่ประการใด

    อะไรที่ทำให้แท็บเล็ตน่าสนใจเช่นนั้น ทั้งๆ ที่มีหลายคนบอกว่า ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงจัง ไม่เหมาะกับการใช้งานทางด้านธุรกิจ เป็นได้แค่ของเล่นหรือ 'เทรนด์' ของคนมีเงิน

    ถ้ามองให้ลึกๆ แล้ว แท็บเล็ตมีเสน่ห์อยู่ในตัวเพียงพอที่จะทำให้ลืมเน็ตบุ๊กหรือลืม โน้ตบุ๊ก ได้จริงๆ

    หนึ่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เคลื่อนที่

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ผู้ผลิตพยายามมองหาคอมพิวเตอร์ที่พกพาไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ และต้องไม่พลาดการติดต่อโลกออนไลน์ด้วยให้กับตลาด โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เคยตอบโจทย์เรื่องนี้มาแล้วเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จนมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งแซงหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไปแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนักที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กิโลกรัม และถ้าอยากได้เบากว่านี้ ก็ต้องแลกกับเงินที่เพิ่มเกือบเท่าตัว หรือจะเป็นเน็ตบุ๊กที่เมื่อ 2 ปีที่แล้วเข้ามาพยายามตอบโจทย์เรื่องนี้ ซึ่งดูเหมือนจะไปได้ดี

    จนกระทั่ง แอปเปิล ส่ง iPad 1 ลงสู่ตลาด กลายเป็นปรากฎการณ์สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ครั้งสำคัญ ผู้บริโภครู้จัก 'แท็บเล็ต' ขึ้นมาแบบชั่วข้ามคืน ด้วยน้ำหนักที่เบามากกว่าเน็ตบุ๊ก แถมยังมีระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมกว่า ไม่ว่าจะเป็นไว-ไฟ บลูทูธ หรือจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G หรือ 3G รวมไปถึงอนาคต 4G

    'ผมต้องเดินทางบ่อย การนำโน้ตบุ๊กไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกนัก ผมจึงสนใจ iPad 2 เพราะพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกดี' หนุ่มวัยทำงานที่ไม่ประสงค์ออกนาม หนึ่งในร้อยคนแรกที่อดหลับอดนอนต่อคิวซื้อ iPad 2 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วเล่าให้ฟังถึงอารมณ์อยากได้แท็บเล็ตตัวนี้มาไว้ในครอบครอง

    สอง ตอบโจทย์เรื่องความสามารถในการใช้งาน (Usability)

    ต้องขอชมความบ้าดีเดือดของ สตีฟ จ็อบ ที่นำเทคโนโลยีทัชสกรีนซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' มาใช้ใน iPad ทำให้ แท็บเล็ต กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีคีย์บอร์ดอยู่ในตัว ที่ใครๆ ก็สามารถใช้งานได้แทบจะทันทีขอให้รู้วิธีเปิดเครื่องเท่านั้น ทำให้แท็บเล็ตกลายเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ง่ายต่อการใช้งานสำหรับคนทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 2 แห่งอังกฤษยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปหาซื้อแท็บเล็ตอย่าง iPad มาถวายหลังจากที่เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าชายแฮร์รี เคยถวายคำแนะนำให้แก่พระองค์เกี่ยวกับการใช้งานหน้าจอสัมผัสของ iPad

    สาม ซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนไป

    ซอฟต์แวร์ในแท็บเล็ต เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แท็บเล็ตน่าใช้งานมากๆ แถมยังง่ายอีกด้วย ผู้ใช้ไม่ต้องมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อีกต่อไป ไม่ต้องเสียเวลารอให้เครื่องบูทระบบเหมือนในโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ไม่ต้องจ้างหรือเสียเวลาติดตั้งซอฟต์แวร์สำเร็จรูปต่างๆ ที่ต้องการใช้งาน ซึ่งกินเวลาและมีความยุ่งยากอีกต่อไป

    ด้วยขนาดของระบบปฏิบัติการที่มีขนาดเล็กติดตั้งมาในเครื่องตั้งแต่วันแรกที่เปิดใช้งาน ทำให้สามารถใช้งานได้แทบจะทันทีเมื่อกดปุ่มหรือแตะบนจอภาพ จึงไม่เป็นเรื่องผิดปกติหากจะเห็นมีใครเปิดแท็บเล็ตใช้งานขณะนั่งรถไฟฟ้าเพียงแค่สถานีเดียว

    การใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ จากเดิมที่การติดตั้งมีขั้นตอนยุ่งยากสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้คอมพิวเตอร์ เปลี่ยนมาเป็นดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งให้เสร็จสรรพภายใต้รูปแบบการทำงานที่เรียกว่า แอปพลิเคชันหรือเรียกสั้นๆ ว่า แอปฯ โดยทำการซื้อขายผ่านร้านค้าออนไลน์ที่มีอยู่ในเครื่องแล้ว ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละระบบปฏิบัติการ อย่างของแอปเปิลเรียกว่า แอปฯ สโตร์ ถ้าเป็นในแอนดรอยด์เรียกว่า มาร์เก็ต

    แอปฯ ที่มีอยู่ในร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวมีทั้งฟรี และ เสียเงิน เวลานี้มีแอปฯ ที่ให้บริการดาวน์โหลดใช้งานรวมกันทุกค่ายน่าจะเกือบๆ 7-8 แสนแอปฯ เข้าไปแล้ว โดยมีราคาที่ซื้อขายกันตั้งแต่ 30 บาทจนถึงระดับพันสองพันบาท แต่ยังไม่เห็นมีแอปฯ ระดับราคาเรือนหมื่นเหมือนที่มีขายในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ เพราะถ้ามีก็คงไม่มีใครดาวน์โหลดมาใช้อย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีราคาไม่แพงหรือฟรี แต่แอปฯ ที่มีให้บริการนั้น ถือว่า มีคุณภาพดีมากๆ ตอบสนองการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

    เฉพาะแอปฯ สำหรับถ่ายภาพในแอปฯ สโตร์ของแอปเปิลก็มีกว่า 6,500 แอปฯ เป็นของฟรีประมาณ 3,000 แอปฯ ที่เหลือเป็นแอปฯเสียเงินที่มีราคาตั้งแต่ 0.99 เหรียญไปจนถึงเกือบ 5 เหรียญสหรัฐ

    สี่ แชร์คอนเทนต์ออนไลน์

    ข้อจำกัดหนึ่งที่มีหลายคนระบุว่า แท็บเล็ต ไม่สามารถเข้ามาแทนที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กได้ก็คือ การที่แท็บเล็ตไม่สามารถที่จะใช้เป็นอุปกรณ์ในการสร้างคอนเทนต์ขึ้นภายในตัวมันเอง เนื่องจากไม่มีคีย์บอร์ด หรือเมาส์ แม้กระทั่งข้อจำกัดในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ค่อนข้างมีข้อจำกัดและมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้น

    แต่วันนี้ รูปแบบการสร้างคอนเทนต์ในโลกออนไลน์กำลังก้าวเข้าสู่โลกของเทคโนโลยีคลาวด์ ที่มีการฝากและแชร์คอนเทนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง วีดีโอ พิมพ์เอกสาร แปลภาษา ฯลฯ ต่างโหลดขึ้นไปไว้ในโลกออนไลน์หมดแล้ว ดังจะเห็นได้จากเว็บไซด์กูเกิลที่สามารถพิมพ์เอกสารได้ผ่านบนอินเทอร์เน็ต โหลดรูปภาพก็อยู่บนอินเทอร์เน็ต ส่งข้อมูลก็ส่งผ่าน What App โทรศัพท์ทางไกลก็ผ่านสไกป์

    ห้า ราคาที่คบได้

    ถึงแม้จะมีเหตุผลมากมายเพียงใด ถ้าหากราคาของแท็บเล็ต อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับไม่ได้ ก็ย่อมไม่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างแน่นอน เมื่อดูจากราคาที่วางขายในปัจจุบัน ถึงแม้จะยังดูสูงอยู่บ้าง คือ ต้องมีเงินระดับ 15,000 บาทถึงจะเป็นเจ้าของได้ แต่ก็ถือว่า ถูกลงมามาก ซึ่งหากแท็บเล็ตเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น โอกาสที่จะเห็นแท็บเล็ตในราคาหลักหมื่นบาทก็สามารถเป็นไปได้อย่างแน่นอน

    สิ่งเหล่านี้ แท็บเล็ต ณ วันนี้ ตอบโจทย์ดังกล่าวได้หมดแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำไมยอดขายของ iPad 1 ในปีที่แล้ว มีกว่า 20 ล้านเครื่อง กินส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตไปเกือบ 85% โดยปีนี้มีการคาดการณ์ว่า จะขาย iPad 2 ได้ถึง 30 ล้านเครื่อง นี่ยังไม่รวมแท็บเล็ตของค่ายอื่นอีกที่จะทยอยขายในตลาดปีนี้อีกหลายสิบรุ่น

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  3. Bigzys

    Bigzys Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,123
    ค่าพลัง:
    +34
    ใช่เวลาทำงานต่างจังหวัดได้เวิร์คมากสำหรับผมนะ

    ไว้หาสถานที่ GPRS ปั้ม ร้านอาหาร เล่นเกม อื่นๆผมว่าสะดวกดี
     
  4. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,347
    ค่าพลัง:
    +8,189
    เห็นด้วยครับสมัยนี้สำคัญมาก แล้วหากเอามาใช้หาข้อมูลในการซื้อขายพระ ผมว่าจะทำให้ไม่เสียเปรียบด้วยครับ ใครจะมามั่วข้อมูมุลไม่ได้แล้ว
     
  5. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    เล็กๆน้อยๆครับ..ยุคนี้เราไม่สามารถสื่อสารผ่านนกพิราบกันใด้

    สุภาษิตโบราณที่ว่า 'ไก่ได้พลอย' คงเข้ากับยุคสมัยนี้ที่ 'แท็บเล็ต' ครองเมือง ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ผู้ใช้จำนวนมากหันมาเลือกซื้อแท็บเล็ตแบบไม่ตั้งใจ เพียงเพราะต้องการตามกระแสที่กำลังมาแรง ทั้งที่ยังงงๆ ว่า ซื้อมาแล้วจะใช้ประโยชน์อะไร และไม่เข้าใจถ่องแท้ว่า แท็บเล็ตนี้ผู้ผลิตสร้างมาเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่

    แรงไม่แรงดูได้จากแถวของผู้คนที่ยืนขาแข็ง นั่งจับเจ่าหลายชั่วโมง เพื่อจะได้เป็นเจ้าของ 'ไอแพด2' เรือนหมื่นกว่าบาท แค่วันเดียวขายเกลี้ยง 4,000 เครื่องภายในไม่กี่ชั่วโมง ไม่นับเครื่องในตลาดเกรย์มาร์เก็ต (ตู้ขายมือถือทั่วไป) ที่แต่ละร้านขายได้ไม่ต่ำกว่า 10-20 เครื่องในแต่ละวัน ทั้งที่แพงกว่าก็ยอมจ่าย ยังไม่รวมถึงแท็บเล็ตแบรนด์จีนแดง แบรนด์เกาหลีอีกหลายรุ่นที่ทำยอดขายได้งดงามไม่แพ้กัน ถือเป็นการการันตีความนิยมของแท็บเล็ตได้เป็นอย่างดี

    จนทำให้เกิดเป็นกระแส "แท็บเล็ตฟีเวอร์" เช่นเดียวกับแฟชันเสื้อผ้าที่ใครไม่ซื้่อไว้ใช้มีโอกาสเชย ตกเทรนด์ ได้

    น้ำหนักเบา ขนาดเล็กพกพาสะดวก เป็นเหตุผลหนึ่งของผู้ที่มีแท็บเล็ตในครอบครอง แต่ต้องทำอย่างไร ถึงทำให้ใช้ประโยชน์ของแท็บเล็ตได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่เห่อตามแฟชั่น ชั่วโมงนี้ ตัวเลือกที่น่าสนใจมี 2 ค่ายให้เลือกระหว่างไอแพด กับ แอนดรอยด์

    **ฮาร์ดแวร์แตกต่าง

    แท็บเล็ตที่ถือเป็นหัวหอกในตลาดปัจจุบันมีอยู่ 2 พวก 2 ค่าย ได้แก่ ค่ายแอปเปิลที่ส่งไอแพดเข้าประกวด โดยมีคู่แข่งรายสำคัญ คือ แอนดรอยด์ ของค่ายกูเกิลที่พัฒนาซอฟต์แวร์ ส่วนฮาร์ดแวร์จับมือกับผู้พัฒนาด้านฮาร์ดแวร์อีก 36 รายในการผลิตฮาร์ดแวร์ออกมาวางขาย

    ไอแพด เป็น แท็บเล็ตที่แอปเปิลผูกขาดในเกือบทุกเรื่อง เป็นทั้งผู้ผลิต กำหนดราคา กำหนดวิธีการทำตลาด กำหนดทุกสิ่ง แตกต่างจากแอนดรอยด์ที่กูเกิลสร้างขึ้นมา แล้วให้บรรดาผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สามารถนำไปปรับแต่งใช้ตามความเหมาะสม ทำให้แท็บเล็ตแอนดรอยด์มีระดับราคาไล่ตั้งแต่ต่ำไปสูง ตามประสิทธิภาพและออปชัน ผิดกับไอแพดที่ตั้งราคาขายในระดับเดียว ซึ่งอาจจะสูงแต่เมื่อดูจากนวัตกรรมที่ใส่มาถือว่า คุ้ม

    **ต่างโอเอส ต่างการใช้งาน

    ส่วนโอเอสหรือส่วนระบบปฏิบัติการทั้งไอแพด แอนดรอยด์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยแอปเปิลจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ ไอโอเอส (iOS) เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในขณะที่กูเกิลพัฒนาแอนดรอยด์ 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ใช้โค้ดเนมว่า 'Honeycomb'

    ไอโอเอส เป็นระบบปฏิบัติการที่แอปเปิลเป็นผู้พัฒนา และนำมาใช้บนอุปกรณ์ไอโอเอสของแอปเปิลทั้งไอแพด ไอโฟน และไอพอด ทัช จุดเด่นอยู่ที่หน้าตาอินเตอร์เฟสใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เน้นความหรูหราด้วยเอฟเฟ็กต์การเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่สวยงาม แต่ต้องแลกมาด้วยการเป็นระบบปิด ไอโอเอสผูกติดกับฮาร์ดแวร์ที่แอปเปิลเป็นผู้ผลิตเท่านั้น อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปนำชุด SDK มาพัฒนาแอปพลิเคชันเองได้อย่างอิสระ รวมถึงการเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน เพลง หรือวิดีโอ ส่วนใหญ่ต้องทำผ่านไอจูนเท่านั้น ไม่สามารถคัดลอกหรือย้ายไฟล์แบบอิสระได้เหมือนแท็บเล็ตแบรนด์อื่น

    ส่วน แอนดรอยด์ 3.0 เป็นระบบปฏิบัติการระบบเปิด ทำให้ผู้ผลิตแท็บเล็ตแบรนด์ต่างๆ นำไปติดตั้ง ปรับแต่งให้เข้ากับฮาร์ดแวร์ที่ผู้ผลิตแท็บเล็ตแต่ละแบรนด์ต้องการได้ นอกจากนั้น ในตัวระบบปฏิบัติการยังสามารถจัดการไฟล์ทั้งจากภายนอกและภายในได้อย่างอิสระ เป็นผลให้แท็บเล็ตที่ใช้โอเอส แอนดรอยด์ในตลาดมีวางจำหน่ายอยู่หลายรุ่น หลายแบรนด์และหลายประสิทธิภาพให้ผู้ใช้ได้เลือกตามกำลังทรัพย์และความต้องการของตน

    **ระบบปิด-ระบบเปิด มีผล

    เรื่องระบบปิด-ระบบเปิดถูกพูดถึงอย่างมากในวงการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เนื่องจากความโด่งดังของไอโอเอสที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบปิด จนทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่หลายคนเกิดความไม่พอใจในเรื่องการใช้งานที่ค่อนข้างยุ่งยาก ความจริงแล้วระบบปิดของแอปเปิลได้ถูกนำมาใช้บนอุปกรณ์ไอโอเอสแทบทุกตัว เพราะเป็นการป้องกันเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ดีที่สุด เนื่องจากการโอนถ่ายไฟล์ต่างๆ จะถูกทางโปรแกรมไอจูนกำหนดไว้ว่าจะสามารถโอนถ่ายไฟล์ประเภทใดได้บ้าง ซึ่งผู้ใช้ไม่สามารถเปิดไดร์ฟข้อมูลแล้วจับไฟล์เอกสารต่างๆ คัดลอกลงไปได้แบบแฟลชไดร์ฟหรือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ซึ่งเป็นระบบเปิดได้

    ที่สำคัญคือ เรื่องบัญชีผู้ใช้และระเบียบการดาวน์โหลด การดาวน์โหลดบนแอปสโตร์ที่เป็นระบบปิดจะต้องมีการสมัครสมาชิกถึงจะใช้งานได้ ส่วนการติดตั้งแอปพลิเคชันจะถูกจำกัดเฉพาะบัญชีของแต่ละคนเท่านั้น ถ้าใครนำอุปกรณ์ไอแพดไปเชื่อมต่อเพื่อคัดลอกแอปพลิเคชัน รวมถึงเพลย์ลิสต์เพลง รูปภาพ มาจากเพื่อน อาจมีผลให้ข้อมูลบางส่วนของตัวเองถูกลบออกและถูกแทนที่ด้วยบัญชีและแอปพลิเคชันของเพื่อนทันที

    ในขณะที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ถือเป็นระบบเปิดจึงไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะการติดตั้งแอปพลิเคชันจะทำได้อย่างอิสระและยืดหยุ่นกว่าไอโอเอส แถมยังสามารถใช้งานเก็บข้อมูลแทนแฟลชไดร์ฟได้ด้วย

    **แอปพลิเคชันคือไม้ตายสำคัญ

    พูดถึงแอปพลิเคชันหรือเรียกสั้นๆ ว่า แอปฯ ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อแท็บเล็ตอย่างมากโดยเฉพาะคนที่ต้องการนำแท็บเล็ตมาใช้งานอย่างจริงจัง ใครที่มีจำนวนแอปฯ ในสโตร์มากและน่าสนใจกว่าย่อมดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากกว่าแท็บเล็ตที่มีแอปฯ ในสโตร์ที่น้อยกว่า

    หากเปรียบเทียบจำนวนแอปฯ และความน่าสนใจของแท็บเล็ตยอดนิยมทั้ง 2 แบรนด์จะพบว่า ในส่วนของไอโอเอสจากแอปเปิลที่ใช้แอปสโตร์ เป็นตลาดในการซื้อขายแอปฯ บนไอแพด จะมีจำนวนแอปฯ ที่รองรับเฉพาะไอแพดทั้งสิ้นประมาณ 65,000 - 70,000 ตัว ในขณะที่แอนดรอยด์ 3.0 จากกูเกิลที่ใช้ 'มาร์เก็ต' เป็นตลาดซื้อขายแอปฯ จะมีแอปฯ ที่รองรับกับแอนดรอยด์ 3.0 จริงๆ อยู่ประมาณแค่หลักร้อยหลักพันเท่านั้น

    และหากแยกเรื่องความน่าสนใจในตัวแอปฯ จะเห็นอย่างชัดเจนว่าด้วยจำนวนแอปฯ ในสโตร์ที่มากของแอปเปิล ส่งผลให้ผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตมาใช้งานอย่างจริงจัง เช่น ต้องการนำไปใช้งานในการทำดนตรีหรือนำไปใช้ทำงานออฟฟิศ ตกแต่งภาพ จะมีตัวเลือกในการใช้งานแอปฯ ได้หลากหลายและตรงตามความต้องการมากกว่า

    ในขณะที่แอปฯ บนมาร์เก็ตในแอนดรอยด์ 3.0 จะเน้นแอปฯ ทำงาน พิมพ์เอกสาร เครือข่ายสังคม และเกมแนวฆ่าเวลาโดยปราศจากแอปฯ ที่สามารถใช้ทำงานเฉพาะทาง เช่น สร้างดนตรีหลายแทร็คหรือตกแต่งภาพระดับสูง อย่างสิ้นเชิง ข้อดีของแอนดรอยด์เมื่อนำไปใช้ทำงาน นอกจากเรื่องของแอปฯ ทำงานเอกสารแล้ว ในส่วนของการรองรับแฟลชถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอนดรอยด์สามารถใช้ทำงานและเล่นเว็บไซต์ได้สมบูรณ์กว่าไอโอเอสจากแอปเปิลที่รองรับแต่ HTML5 อย่างเดียว

    **ออปชันเสริมไม่เท่ากัน

    ปัจจุบันเรื่องของอุปกรณ์เสริมและพอร์ตเชื่อมต่อถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแท็บเล็ตให้ดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น เพราะผู้ใช้แท็บเล็ตจำนวนมากเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาเพื่อต้องการใช้ทำงานเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริมต่างๆ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

    แท็บเล็ตจากแอนดรอยด์ได้เปรียบมากในจุดนี้ เพราะกูเกิลไม่ได้ผูกมัดผู้ผลิตในการผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตเหล่านั้นสามารถเลือกใส่อุปกรณ์เสริมหรือพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ลงบนตัวแท็บเล็ตได้อย่างอิสระ ดังจะเห็นได้จาก แท็บเล็ตแอนดรอยด์ส่วนใหญ่จะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI เพื่อใช้เชื่อมต่อกับทีวีความละเอียดสูง หรือแม้แต่การติดตั้งพอร์ต USB มาบนแท็บเล็ตเพื่อไว้ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้

    แต่สำหรับแท็บเล็ตจากฝั่งแอปเปิลอย่างไอแพด ซึ่งด้วยแนวคิดการออกแบบมาให้การใช้งานเรียบง่ายและต้องการให้การเชื่อมต่อต่างๆ สามารถทำได้ด้วยการเชื่อมต่อแค่พอร์ตเดียว ทำให้เมื่อผู้ใช้ต้องการเลือกพอร์ตใช้งานอื่นๆ นอกเหนือจากช่อง 30 พิน เช่น USB หรือ HDMI จำเป็นต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมมาใช้ตามการใช้งานที่ต้องการ อีกทั้งด้วยการที่อุปกรณ์เสริมเหล่านั้นต้องเชื่อมต่อผ่านช่อง 30 พินเท่านั้น ทำให้การสลับใช้พอร์ตและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่สามารถทำได้บนไอแพด

    **ใช้อะไร เลือกอย่างนั้น

    แท็บเล็ตแต่ละตัวมีการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น แท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ส่วนใหญ่จะเหมาะกับผู้ที่เน้นการทำงาน ใช้เปิดเว็บไซต์ อัปโหลดบทความขึ้นเว็บ และเน้นเรื่องของเครือข่ายสังคมเป็นหลักมากกว่าเรื่องเล่นเกมที่เป็นรองลงมา เนื่องจากตัวระบบปฏิบัติการสามารถรองรับแฟลชและมีการติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อมาให้อย่างครบครัน ทำให้ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ด หรือการเชื่อมต่อช่องส่งสัญญาณภาพแบบความละเอียดสูง (HDMI) สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

    ในส่วนแท็บเล็ตจากแอปเปิลอย่างไอแพดจะเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความหรูหรา ไม่สนใจเรื่องจุกจิกอย่างปัญหาการซิงค์แอปฯ และยอมรับในเรื่องของระบบปิด รวมถึงชื่นชอบและจำเป็นต้องใช้งานแอปฯ เฉพาะทางหรือเป็นขาเกมระดับฮาร์ดคอร์เป็นหลัก เพราะด้วยจำนวนแอปฯ ที่มากกว่าแอนดรอยด์แท็บเล็ตทำให้การใช้งานในส่วนของแอปฯจะทำได้หลากหลายกว่ามาก

    สุดท้าย ไม่ว่าแอปเปิลไอแพดหรือกูเกิลแอนดรอยด์ แท็บเล็ตทุกตัวมีคุณค่าในตัวเองแทบทั้งสิ้นอยู่ที่ว่าผู้ใช้จะมองเห็นคุณค่า-ข้อดีเสียของแท็บเล็ตตัวไหนมากกว่ากัน จงพยายามตัดเรื่องตามแฟชั่นและข้ออคติออกไป พร้อมมองถึงเหตุผลและใช้ความต้องการที่แท้จริงเป็นตัวเลือกซื้อจะดีที่สุด

    ***ข้อควรรู้หากใข้แท็บเล็ต***

    1. บัตรเครดิตสำคัญเมื่อซื้อแอปฯ

    เป็นเรื่องที่ผู้อยากใช้แท็บเล็ตให้เต็มประสิทธิภาพต้องอ่านอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นมาร์เก็ตของแอนดรอยด์หรือแอปสโตร์ของแอปเปิล ถ้าผู้ใช้แท็บเล็ตอยากใช้งานให้คุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพจริงๆ การซื้อแอปฯ มาใช้งานก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงแม้จะมีแอปฯ ฟรีให้เลือกดาวน์โหลดก็ตาม

    เพราะฉะนั้น คนที่คิดจะซื้อแท็บเล็ตควรต้องเตรียมบัตรเครดิตให้พร้อมเพื่อไว้จับจ่ายสินค้าในสโตร์ ส่วนถ้าใครเงินเดือนยังไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ ก็สามารถใช้บริการบริการบัตรเคดิตเสมือน อย่างบริการ K-Web Shopping Card ของธนาคารกสิกรได้เช่นกัน

    2. แท็บเล็ตแทนแล็ปท็อปไม่ได้ทั้งหมด

    เชื่อว่าหลายคนคงตั้งความหวังไว้สูงว่าอุปกรณ์อย่างแท็บเล็ตจะสามารถทำงานแทนแล็ปท็อปได้แบบสมบูรณ์ เนื่องจากแอปฯ ที่มีให้ดาวน์โหลดอย่างมากมายตามการใช้งาน แต่ถึงอย่างไรข้อจำกัดของแท็บเล็ตในปัจจุบันก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องความยืดหยุ่นในการทำงานเฉพาะทาง

    ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือการตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงมากๆ ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาหน่วยประมวลผลที่เร็วกว่าแท็บเล็ตปัจจุบันจะรองรับ หรือเรื่องของซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่จะยังไม่รองรับกับระบบแท็บเล็ต จนถึงระบบสัมผัสหน้าจอที่อาจเป็นปัญหาในการใช้งานเพราะคนส่วนใหญ่ชินกับการใช้เมาส์ควบคู่คีย์บอร์ดมากกว่า

    ถ้าให้มองว่าแท็บเล็ตจะสามารถเข้ามาแทนที่แล็ปท็อปโดยสมบูรณ์ได้หรือไม่ คำตอบที่ได้คงอยู่ที่คำว่าไม่ แต่ถึงอย่างไรแท็บเล็ตก็สามารถใช้งานแทนเน็ตบุ๊ก สำหรับการพกพาไปนอกสถานที่ พิมพ์งานเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงความสามารถในการใช้งานแอปฯเฉพาะทางระดับเบื้องต้น เช่น การทำเพลง เล่นเกม 3 มิติ ตกแต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอความละเอียดไม่สูงมากพร้อมอัปโหลดขึ้นเครือข่ายสังคมที่เน็ตบุ๊กยังตอบสนองตรงจุดนี้ได้ไม่ดีนัก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  6. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    คิดจะซื้ออยุ่ครับ เก็บตังก่อน อิอิ ไว้เก็บรูปพระ ครับ
     
  7. khanthong

    khanthong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +344
    ดีครับ..มีประโยชน์จริงๆ..
     
  8. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    ของผม แค่ ipad1 ก็พอครับ ไม่ได้ใช้ไรมาก รอ หามือสองถูกๆ สัก ห้าพัน อิอิ
     
  9. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    กะว่าจะปล่อยพระสักชุดเอาไปผ่อนกระดานชนวนสักอันเหมือนกันครับ เห็นเด็กๆวัยรุ่นถือกันคนละอัน ทำให้นึกถึงเรื่องเล่าจากคุณตาคุณยายที่ต้องมีกระดานชนวนไปโรงเรียนวัดกันคนละอัน หุ หุ หุ แต่ก่อนผมใช้O2ประจำครับ เก็บไฟล์ภาพพระหรือไฟล์ข้อมูลและประว้ติเกจิอาจารย์ต่างๆ ได้เยอะมากครับเพราะสามารถใส่ Mini-SD ที่มีความจุสูงๆได้ แต่เดี๋ยวนี้เลิกเห่อไปแล้วครับ
     
  10. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    คิดมานานแล้วครับ ว่าจะต้องมีผู้เอาเทคโนโลยีตรงนี้มาใช้

    เพราะเมื่อหลายปีก่อน Nirvana เดินจับพระในสนาม จำตำหนิได้ไม่หมด
    ต้องแอบพกรูปถ่ายไปเปรียบเทียบ สำหรับพระเครื่องในดวงใจซึ่งหากเจอก็ต้องแอบเอามาดูอีกนั่นแหละ

    เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะมี I-pad แบบที่สแกนแสงออร่าของพระได้ นะครับ
    ทีนี้รู้กันจริงๆ ซะทีว่า เก๊-แท้

    ถ้าไม่โดนผู้ผลิตเครื่องหลอก ซะก่อน น่ะครับ.....อิอิอิอิ
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861

    สงสัย Nirvana ต้องเป็นคุณตา คุณยาย โดยไม่ตั้งใจแล้ว ล่ะครับ

    เพราะตอนเด็กๆ ก็ถือกระดานชนวนไปโรงเรียนเหมือนกัน ทำงัยได้อยู่บ้านนอก นะครับ

    จำได้ว่ากระดานชนวนแผ่นละ 1-1.50 บาท ดินสอหิน 2 แท่ง 25 ส.ต. ซึ่งส่วนมากทั้งสองรายการอายุไม่ยืนนัก เพราะหักพังเสียก่อนเสมอ......หุหุหุ
     
  12. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    ขอบคุณครับทุกท่าน:cool:ที่ช่วยกันแนะนำแสดงความคิดเห็น หรือช่วยกันหาเทคนิควิธีคัดกรองหาพระแท้กันในสนามพระ....
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    แล้วไม่แน่ นะครับ....

    อีกไม่นานนี้ อาจจะมีโปรแกรมพิเศษตรวจสอบตำหนิพระเครื่อง โดยเฉพาะเหรียญ ซึ่งดูมีมาตราฐานหน่อยนึง

    การทำงานคือ เมมรูปเหรียญที่แท้ไว้ในเครื่อง หรืออาจจะมี Data base
    แล้วเอาเหรียญที่จะตรวจสอบมาสแกน เสร็จแล้วเครื่องทำการวัดผลเปรียบเทียบจุดตำหนิต่างๆ บนเหรียญ ออกค่ามาเป็นเปอร์เซนต์ให้พิจารณา

    อย่างน้อยเรื่องเก๊ห่าง หรือจำเหรียญไม่ได้ ก็จบไปเพราะมี data base ขนาดใหญ่รองรับทุกเหรียญที่สแกนเข้ามา

    ถึงวันนั้นเซียนคงสะอื้นไปเหมือนกัน....หุหุหุหุ
     
  14. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    ไม่แม่นก็ต้องเอาเทคโนโลยี่เข้าช่วย updateกันนิดหน่อย..กับ New iPad


    หลายคนอ่านข่าวเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ของแอปเปิล (Apple) แล้วมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในความคิด อย่างเช่น The new iPad ที่ดูท่าไม่ฮือฮานั้นจะขายดีในตลาดไทยหรือไม่? หรือคนไทยจะเลือกเสียเงินน้อยกว่าเพื่อซื้อ iPad 2 ลดราคา? ว่าแต่ iPad 2 จะยังมีขายต่อไปหรือไม่? แล้วแท็บเล็ตค่ายอื่นจะลดราคาลงเพื่อแข่งกับ iPad ได้ดีขึ้นหรือเปล่า?

    คำถามเหล่านี้น่าสนใจไม่น้อย เพราะคำตอบที่ได้จะสะท้อนทิศทางตลาดแท็บเล็ตไทยในช่วงปีนี้อย่างชัดเจน

    ***The new iPad เข้าไทยเมื่อไร?

    The new iPad ที่มามาพร้อมหน้าจอ Retina Display ขนาด 9.7 นิ้วความละเอียด 3.1 ล้านพิกเซล 2047 x 1536 พิกเซล มีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 16 มีนาคม 2555 ในประเทศกลุ่มแรกอย่างสหรัฐอเมริกาแคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงค์โปร และ ออสเตรเลีย ในราคา 499 เหรียญ สำหรับรุ่น 16GB, 599 เหรียญสำหรับรุ่น 32GB และ 699 เหรียญสำหรับรุ่น 64GB

    แหล่งข่าวซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิลในไทยคาดว่าคนไทยจะสามารถใช้รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p บน The new iPad ได้ก่อนปลายปีนี้

    "คาดว่า iPad รุ่นใหม่จะมาถึงประเทศไทยก่อนปลายปี ที่ผ่านมาไทยถูกเลื่อนจากกลุ่มประเทศสุดท้ายที่เริ่มวางจำหน่าย มาเป็นกลุ่มที่ 2-3 ซึ่งคาดว่า iPad รุ่นใหม่ก็เช่นกัน ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วขึ้นกว่า iPad รุ่นแรก"

    *** จริงหรือ The new iPad ไม่ฮือฮา?

    เพราะ The new iPad ไม่ได้มีความมหัศจรรย์ครั้งใหม่อย่าง iPod รุ่นแรกที่มี Clickwheel หรือ iPhone ที่เปลี่ยนรูปแบบโทรศัพท์มือถือทั่วโลก หลายคนจึงรู้สึกผิดหวังแม้แอปเปิลจะการันตีว่า The new iPad ถูกเพิ่มสเปกให้มีแบตเตอรี่ที่นานขึ้น, กล้องดิจิตอลที่ดีขึ้น, ชิปทรงพลังกว่าเดิม และหน้าจอคมกริบ ซึ่งทุกข้อช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม-ดูภาพยนตร์-อ่านเอกสาร-ทำวิดีโอคอลล์ รวมถึงการใช้งานอื่นๆบน iPad ที่เหนือกว่าเดิม

    แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า The new iPad ที่ไม่ฮือฮาเท่า iPad รุ่นแรกนี้เองจะเป็นอุปกรณ์เปลี่ยนโลก หน้าจอ Retina Display ซึ่งยึดหลักความชัดมากเท่าที่ดวงตามนุษย์จะมองเห็นของแอปเปิลนั้นทำให้ The new iPad กลายเป็นแท็บเล็ตที่คมชัดที่สุด ดังนั้นการอ่านหนังสือ การท่องเว็บ หรือการเล่นเกม จะถูกยกระดับประสบการณ์การใช้งานของชาวแท็บเล็ตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    The new iPad ยังถูกการันตีว่ามาพร้อมเฉดสีที่ดีกว่าเดิมถึง 44% ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล A5X Dual Core และกราฟิกแบบ Quad Core กล้องดิจิตอลในเครื่องคือ iSight Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม IR Filter AF Lock Face Detection มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเดียวกับ iPhone 4s และสามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 1080p พร้อมระบบลดสัญญาณรบกวน (Noise) ระหว่างการบันทึกในสภาพแสงน้อย แถมยังสามารถเปลี่ยนคำพูดเป็นข้อความได้ รองรับภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน

    ***iPad 2 ปรับราคาลง คนไทยเฮ?

    เป็นไปตามธรรมเนียม เมื่อเปิดตัว The new iPad ไอแพดรุ่นเดิมหรือ iPad 2 จึงปรับลดราคาเป็นเริ่มต้นที่ 399 เหรียญ ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ แอปเปิล สโตร์ ปรับลดราคา iPad 2 ในไทยลงราว 2,400 บาทเหลือ 13,500 บาท จากเดิมที่มีราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท

    นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ไวร์ด ตัวแทนจำหน่ายระดับพรีเมี่ยมของแอปเปิล ภายใต้ชื่อร้าน iStudio by copperwired ระบุว่าแม้ iPad 2 จะถูกลดราคาในร้านออนไลน์ของแอปเปิลตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. แต่ในช่วงวันดังกล่าวยังไม่มีการประกาศปรับราคาหน้าร้าน iStudio ที่เมืองไทย ทำให้ดีลเลอร์ไทยยังต้องขายราคาเดิม แต่คาดว่าการประกาศราคาจะเกิดขึ้นใน 1-2 วันตามหลังร้านออนไลน์

    "การลดราคา iPad 2 เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววเลิกทำตลาด iPad 2 ยังมีสินค้าคงคลังอยู่ ในช่วงที่ยังไม่มีการประกาศ เรายังต้องจำหน่ายในราคาปกติ"

    อย่างไรก็ตาม รายละเอียด iPad 2 ที่หลงเหลืออยู่ในเมืองไทยยังเป็นเรื่องที่แตกต่างไปตามกลุ่มผู้ค้า เนื่องจาก "ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้าน การพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าทรูนั้นไม่มี iPad 2 ในคลังสินค้าตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา

    "iPad 2 เราเคลียร์สต็อกเรียบร้อยตั้งแต่เดือนที่แล้ว แอปเปิลมีการจัดการที่ดีและตรวจสอบ Run Rate ตลอดเวลา ปกติสินค้าแอปเปิลต้องส่งทุกเดือนแต่เดือนที่แล้วไม่มีของ บวกกับข่าวลือทำให้เราก็พอสรุปได้ว่าเป็นเพราะ iPad รุ่นใหม่กำลังมา"

    สอดคล้องกับแหล่งข่าวผู้ค้าอุปกรณ์แอปเปิล ที่เชื่อว่าแอปเปิลจะมอง iPad 2 เป็นสินค้าตกรุ่นที่ไม่ทำตลาดต่อ ทำให้การลดราคาเป็นเพียงการล้างสต็อกปกติ

    "โดยธรรมชาติของแอปเปิล แอปเปิลมักจะไม่นำสินค้าเก่ามาจำหน่ายแบบลดราคา เมื่อสินค้าใหม่มา สินค้าเก่าก็จะเลิกผลิต ตัวอย่างเช่น iPad 2 ที่ทำให้ iPad รุ่นแรกยกเลิกการผลิต หรือ iPhone 4S ที่ทำให้เวอร์ชัน 4 เลิกผลิตและหันไปทำความจุ 8GB เท่านั้น คิดว่า iPad 2 ในสต็อกประเทศไทยนั้นมีไม่มาก แอปเปิลจัดการสต็อกสินค้าได้ดีอยู่แล้ว"

    *** ตลาดแท็บเล็ตไทยจะแข่งขันอย่างไร ทั้งช่วงที่ The new iPad ยังไม่เข้าและเข้าไทยแล้ว?

    ในช่วงที่ยังไม่เข้าตลาดไทย แหล่งข่าวรายเดิมเชื่อว่าโอกาสที่ตลาดแท็บเล็ตไทยจะชะลอตัวนั้นมีสูง ภาวะเช่นนี้อาจจะมีผลต่อเนื่องถึงช่วงเดือนแรกที่ The new iPad เข้าสู่ตลาดไทยแล้ว เพราะผู้บริโภคบางส่วนอาจจะรอฟังเสียงวิจารณ์ว่า iPad รุ่นใหม่และเก่าต่างกันหรือไม่ และควรเลือกซื้อรุ่นใดจึงคุ้มค่าที่สุด

    "ทั้งหมดนี้คู่แข่งหลักอย่างซัมซุงน่าจะกำลังรอดูผลกระทบ ว่า iPad รุ่นใหม่จะทำให้ตลาดแท็บเล็ตเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งเป็นธรรมดาที่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับความต้องการของตลาด"

    อย่างไรก็ตาม แม้สำนักข่าวต่างประเทสจะวิเคราะห์ว่า The new iPad จะยิ่งทำให้แอปเปิลวิ่งหนีคู่แข่งในศึกแท็บเล็ตได้ห่างชั้นมากขึ้น แต่แหล่งข่าวเชื่อว่าปัจจุบันในประเทศไทยมีกลุ่มผู้ใช้งานแอนดรอยด์มากขึ้น ทำให้เชื่อว่าตลาดแอนดรอยด์ก็จะยังเติบโตได้ดีต่อไป

    สำหรับช่วงที่ The new iPad เข้าสู่ตลาดไทยเต็มตัว เชื่อว่าตลาดไทยจะคึกคักตามความคาดหมาย แต่ประเด็นสำคัญของคนไทยอยู่ที่การรองรับเครือข่ายข้อมูล The new iPad ถูกการันตีว่ารองรับทั้ง 3G HSPA+ ที่ 21Mbps และ LTE พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรีต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งจะอยู่ที่ 10 ชั่วโมง และ 9 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับ 4G

    The new iPad รุ่นที่รองรับเครือข่ายข้อมูล 4G (WiFi + 4G ราคาเริ่มต้นที่ 629 เหรียญ ถึง 829 เหรียญเป็นต้นไป) จึงเป็น The new iPad เวอร์ชันเดียวที่คนไทยจะไม่สนใจ เพราะคนไทยไม่รู้จะเอาไปทำอะไรในเมื่อไลเซนส์ไทยยังไม่คลอด

    เรื่องนี้"ปรัธนา ลีลพนัง"ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) อธิบายว่าไอแพดรุ่นใหม่เตรียมการรองรับเครือข่าย 4G ของสหรัฐฯ ทั้ง Verizon และ AT&T เรียกว่าเปิดตลาดสหรัฐฯโดยเฉพาะ ซึ่งแม้จะไม่ใช่ย่าน 1800 และ 2300 ที่ AIS ทดสอบอยู่ แต่ The new iPad ก็สะท้อนประโยชน์ของคนไทยในแง่การพัฒนา

    "The new iPad คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าแบตเตอรี่สามารถรองรับเครือข่ายข้อมูลความเร็วสูงได้ ซึ่งแม้ iPad ใหม่จะไม่รองรับความถี่ 4G ที่ย่านเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะผลักดันให้รองรับได้ในอนาคต ถือเป็นเทรนด์ที่ดีในการพัฒนาอุปกรณ์ต่อไป" โดยเชื่อว่าว่าการพัฒนา iPad ที่รองรับ 4G ของ AIS จะใช้เวลาไม่นาน "แค่ติดชิปเข้าไปก็รองรับได้"

    ***แท็บเล็ตพร้อมใจลดราคา?

    ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีคู่แข่งในตลาดแท็บเล็ตรายใดยอมรับว่าถูกกดดันเพราะการเปิดตัว The new iPad และการลดราคา iPad 2 จากการสอบถามผู้เล่นหลักในตลาดไทยอย่างซัมซุงและเอเซอร์ ล้วนมองว่ายังไม่พิจารณาลดราคาแท็บเล็ตเพื่อให้แข่งขันกับ iPad 2 ได้ดีขึ้น

    นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มองว่าราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในกลยุทธ์แท็บเล็ตของบริษัท แต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ในยุคนี้ เพราะผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่สมาร์ทขึ้น สะดวกสบายขึ้น

    'ซัมซุงมั่นใจว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำหน้าเกินใครบวกกับดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยของซัมซุง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของธุรกิจโทรคมนาคมซัมซุง มากกว่าการปรับลดราคาลงนั่นเอง '

    ขณะที่นายบุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ มองว่าการปรับราคาลงของ iPad 2 มีจุดประสงค์หลักอยู่ที่การล้างสต็อกสินค้ามากกว่า ขณะที่ปัจจุบันแท็บเล็ตของเอเซอร์ที่จำหน่ายอยู่ก็อยู่ในระดับราคา 11,000 - 12,000 บาทอยู่แล้ว แต่มีการพ่วงโปรโมชันเพิ่มความคุ้มค่ากว่าเดิม

    "เอเซอร์ จะทำโปรโมชันส่งเสริมการขายอย่างการแถมยูเอสบีแอร์การ์ดพ่วงเข้าไป ทำให้สามารถใช้งาน 3G ได้ด้วย"

    Company Related Link :
    Apple
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  15. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    Apple. เจอศึกหนักเรื่องชื่อ iPad. ต้องรอดูครับว่า ipad3. จะยังใช้ชื่อiPad. ได้หรือไม่
     
  16. kyukim

    kyukim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +460
    ขอบพระคุณอย่างสูงปรี๊ดดด เลยครับ เพราะว่ากะลังจะดูๆอยู่เลย
    รอ pad3 ออกเพื่อ pad2 จะได้ถูกลง แต่เห็นด้วยว่ามันจะไม่มีแล้ว
    เพราะตอนนี่้ iphone4 ไม่มีแล้ว เหลือแค่8G อย่างเดียว ดู pad2 32G
    แต่ราคามันไล่เรี่ยกะ iphone4s เลยไม่รู้เลยว่าจะเลือกอันไหน กลุ้มๆอยู่
    iphone4s แบทหมดไวมากกกก ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลย แต่ได้อ่านบทความ
    แล้วก็ได้ความรู้ขึ้นเยอะ ได้ความรู้ว่าจะซื้อก็ควรรีบ 555 เดี๋ยวหมดก่อน 555
    ใจจริงก็อยากลองดูแอนดรอยอ่ะครับ แต่เพื่อนใช้ กาแลกซี่แทป ยังอยากได้
    ipad เลย ก็เลยคิดว่าถ้าซื้อคงเอา ipad อ่ะครับ แม้ว่ามันจะยุ่งยากเวลาใช้งานก็เหอะ
    ขอบคุณมากนะครับ ผมนั่งอ่านจนจบเลย 555
     
  17. keepbarking

    keepbarking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +852
    Update นิดหน่อย

    ในวันที่ The new iPad ถูกแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเช่นนี้ เชื่อว่าหลายคนที่อยากได้แท็บเล็ตใหม่กำลังไขว้เขวว่าควรจะรอจังหวะซื้อในช่วงเวลาที่ New iPad เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว หรือควรจะซื้อเลยในช่วงที่ค่ายผู้ผลิตรายอื่นต้องเร่งมือชิงขายก่อนที่ The new iPad จะครองกระแสไปอีกหลายเดือน

    ดังนั้นสิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือหยุดไขว้เขวในใจ แล้วมาวิเคราะห์ปัจจัยร่วมไปพร้อมๆกัน

    The new iPad ที่มาพร้อมหน้าจอ Retina Display ขนาด 9.7 นิ้วความละเอียด 3.1 ล้านพิกเซล (2047 x 1536 พิกเซล ) มีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 16 มีนาคม 2555 ในประเทศกลุ่มแรกอย่างสหรัฐอเมริกาแคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงค์โปร และ ออสเตรเลีย ในราคา 499 เหรียญ สำหรับรุ่น 16GB, 599 เหรียญสำหรับรุ่น 32GB และ 699 เหรียญสำหรับรุ่น 64GB

    แอปเปิลให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าแรงตอบสนอง The new iPad นั้นดีเกินคาด และเครื่องที่ถูกผลิตมาสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้านั้นถูกซื้อไปหมดเกลี้ยง ทำให้ผู้สั่งจองภายหลังต้องถูกเลื่อนกำหนดจัดส่งออกไปอีก 2-3 สัปดาห์ จากเดิมที่ประกาศว่าจะจัดส่งได้ภายในวันที่ 19 มีนาคม ทั้งหมดนี้ทำให้ข้อมูลที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิลในไทย คาดว่าคนไทยจะสามารถรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p บน The new iPad ได้ก่อนปลายปีนี้มีโอกาสคลาดเคลื่อน แม้จะชัดเจนว่าไทยถูกเลื่อนจากกลุ่มประเทศสุดท้ายที่เริ่มวางจำหน่าย มาเป็นกลุ่มที่ 2-3 แล้วตั้งแต่ครั้งวางจำหน่าย iPhone 4s ที่ผ่านมา

    The new iPad ถูกเพิ่มสเปกให้มีแบตเตอรี่ที่นานขึ้น, กล้องดิจิตอลที่ดีขึ้น, ชิปทรงพลังกว่าเดิม และหน้าจอคมกริบ ซึ่งทุกข้อช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม-ดูภาพยนตร์-อ่านเอกสาร-ทำวิดีโอคอลล์ รวมถึงการใช้งานอื่นๆบน iPad ที่เหนือกว่าเดิม ทั้งหมดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่า The new iPad นี้เองที่จะเป็นอุปกรณ์เปลี่ยนโลก

    ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนรอ The new iPad คือหน้าจอ Retina Display ซึ่งยึดหลักความชัดมากเท่าที่ดวงตามนุษย์จะมองเห็น จอนี้เองที่ทำให้ The new iPad กลายเป็นแท็บเล็ตที่คมชัดที่สุด ทำให้การอ่านหนังสือ การท่องเว็บ หรือการเล่นเกมบน The new iPad ถูกยกระดับประสบการณ์การใช้งานของชาวแท็บเล็ตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    ยิ่งเมื่อรวมกับชุดชิปประมวลผล Apple A5X แม้จะยังคงเป็นดูอัลคอร์ (Dual Core) ไม่ได้ตามกระแส Quad Core เหมือนแอนดรอยด์ แต่การให้แรม 1GB เพื่อรองรับการเล่นเกมส์กราฟิกสูงร่วมกับชิปกราฟิกแบบควอดคอร์ (Quad Core) โดยเฉพาะ ช่วยทำให้คอเกมที่หวังซื้อแท็บเล็ตเป็นเครื่องเล่นมัลติมีเดียเลือกที่จะรอ

    ถามว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงรอ ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช ผู้อำนวยการนิวมีเดียและอีคอมเมิร์ส บริษัท เอ.อาร์. อิมฟอร์เมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเบื้องหลังงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีชื่อดังอย่าง"คอมมาร์ต" อธิบายว่าพฤติกรรมผู้ซื้อแท็บเล็ตในขณะนี้เหมือนกับผู้ซื้อคอมพิวเตอร์พีซีในยุคก่อน เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มองที่ความแรงของสเปกเครื่องแท็บเล็ต แต่ในปัจจุบัน ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์เปลี่ยนมามองที่ความต้องการในการใช้งานที่แท้จริง ซึ่งคาดว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นในตลาดแท็บเล็ตอีกไม่นาน

    "ผู้บริโภคในตลาดแท็บเล็ตสมัยนี้ยังเข้าใจผิดว่าต้องดูที่สเปกความเร็ว แต่แท้จริงแล้วไม่เพียงดูที่สเปก สิ่งที่ควรดูคือแอปพลิเคชันมากกว่า ผู้บริโภครู้ไหมว่า 25 แอปพลิเคชันในชีวิตต้องมีอะไรบ้าง แท็บเล็ตควรจะเป็นอุปกรณ์ที่มีอะไรมากกว่า Angry Birds, Cut the rope หรือดูละคร เพราะอย่างน้อยต้องตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้"

    ประสิทธิ์มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตลาดสินค้าคอนซูเมอร์กำลังขยายตัวเข้าสู่ตลาดไอที ทำให้วันนี้แท็บเล็ตกลายเป็นเรื่องแฟชั่น ผู้ใช้มองแท็บเล็ตคุณสมบัติใหม่ด้วยอารมณ์มากขึ้น แต่ยอมรับว่าอุตสาหกรรมไอทีเติบโตได้รวดเร็วเพราะกลุ่มคนเหล่านี้

    "ความเห็นผมคือไม่ต้องรอ ซื้อเลย เพราะแท็บเล็ตรุ่นปัจจุบัน ส่วนใหญ่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เกือบทั้งหมด การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแท็บเล็ตทำให้คนตื่นตัว ทุกอย่างเป็นกลไกตลาด แต่หลายฟีเจอร์คนไม่ได้งานจริงจัง สรุปคือผมอยากให้คนซื้อกลับมามองคุณสมบัติที่ใช้จริง ส่วนคนที่ไม่เคยซื้อแท็บเล็ตแล้วอยากได้รุ่นท็อปสุด ก็รอ"

    ประสิทธิ์ยกตัวอย่างว่า การสำรวจพบว่าคุณสมบัติหลักของอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคต้องการคือ"แค่มี Wi-Fi ก็พอ" สะท้อนว่าคุณสมบัติทั้งแบตเตอรี่ที่นานขึ้น, กล้องดิจิตอลที่ดีขึ้น, ชิปทรงพลังกว่าเดิม และหน้าจอคมกริบ ล้วนเป็นส่วนเสริมเติมแต่งเท่านั้น

    สำหรับตลาดไทย ประสิทธิ์มั่นใจว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะจำหน่ายได้ดีกว่าแท็บเล็ตต่อไป เนื่องจากแม้แท็บเล็ตจะมีความต้องการมากในตลาด แต่ยังอยู่ในระดับ "want แต่ไม่ need"

    "กระแสความต้องการแท็บเล็ตน่าจะไหลมาเรื่อยๆ ซึ่ง need จะเกิดได้เมื่อแอปฯเกิด ถึงวันนั้นแท็บเล็ตก็จะเป็นตลาดแมส"

    อีกสิ่งที่อาจจะทำให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรชลอการซื้อแท็บเล็ตหรือไม่ คือคาถาที่ว่า"ซื้อก่อนได้ใช้ก่อน" เพราะใครที่ยังไม่ต้องการใช้งานก็สามารถเลือกรอต่อไป แต่ถ้าไม่ การควักกระเป๋าซื้อแท็บเล็ตในขณะนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิด และสุดท้าย อย่าลืมว่าคุณมีงบประมาณเท่าใด เพียงพอต่อการซื้อแท็บเล็ตรุ่นไหน คุ้มค่ากับการใช้งานหรือไม่ หากตอบได้แล้วคุณก็จะรู้ว่าควรจะรอหรือลุย?
     
  18. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    update เครื่อง ipad ครับ ซึ่ง new ipad จะเปิดตัววันที่ 9 เมย ถ้าไม่คาดเคลื่อนนะครับ

    แต่ตอนนี้ หลายๆร้านก็นำเข้ามาขายแล้ว ถ้าสนใจก็ลองไปสอบถามดูนะครับ แต่ตอนนี้ รู้สึกจะมีปัญหาเรื่องความร้อน ซึ่งร้อนกว่า ipad2 เพราะแบตเตอรี่มีขนาดและความจุใหญ่กว่า เมื่อร้อนมากๆ จะตัดการทำงานเองอัตโนมัติ ถ้าไปซื้อก็ทดลองเล่นก่อนนะครับ หรือจะ หา ipad2 ก็ได้ แต่ตอนนี้กำลังขาดตลาด เพราะ ทาง apple ไม่ผลิตแล้ว
     
  19. tchai72

    tchai72 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    942
    ค่าพลัง:
    +15,106
    ใช้อยู่เหมือนกันครับ
    ทำให้รอดตายไปหลายต่อหลายหน อิๆๆๆ
    ช่วยให้หาพระที่ยากๆ ได้ดีด้วยครับเวลาเดินตามร้านที่
    ผู้ขายไม่รู้จักพระนั้นๆ
    แต่ใช้วิธีแอบๆ เปิดเช็คอยู่ครับ เดี๋ยวเค้าหาว่าอ่อน อิๆๆ

    tchai72
     
  20. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    เป็นผมก็เปิดเลยครับพี่ ไม่อยากมาเสียใจภายหลัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...