การทำทางโลกและทางธรรมให้สมดุลกัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Vatairat, 13 กรกฎาคม 2011.

  1. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,676
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ขอถามผู้ปฎิบัติธรรมทุกท่าน ขอความคิดเห็นทุกๆท่านด้วยค่ะว่า เราจะทำทางโลกและทางธรรมให้สมดุลกันอย่างไรค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา ในชีวิตประจำวันนะครับ....
     
  3. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    ทางโลกเขานำเอามาเป็นคติชีวิต เพื่อเปรียบเทียบ และนำไปพิจารณาในคุณค่าของการมีชีวิต
    แต่ไม่ใช่จมไปกับคติเหล่านั้น

    โลก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

    สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาให้ได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส....แล้วใจเป็นสิ่งรับรู้
    แล้วนำไปพิจารณาให้เห็นลักษณะของกองทุกข์ ที่ทุกชีวิตต้องประสบ และยินดี ยินร้าย
    ไปกับสิ่งต่างๆเหล่านั้น จึงเกิดความสลดสังเวช ที่ต้องดิ้นรน ขวานขวาย ทำให้ต้องหาทางดับเหตุของการยินดี ยินร้าย

    สุดท้าย หนทางดับเหตุไม่ได้อยู่ไกลตัวก็ด้วยการมีสติสัปปัญญะ ต่อสิ่งที่มากระทบ คือ โลก

    และการพิจารณานั่นแหละ คือ ธรรม ความสมดุลระหว่างโลก กับธรรม
    จึงเป็นเรื่องของตัวเราเอง ไม่มีจิตใจที่แส่ซ่ายออกไป
    เพราะนี้ความเป็นโลก มีสติสำรวมในการพิจารณาเร็วเท่าไร โลกของความคิดจะครอบงำเราไม่ได้เลย

    ฉะนั้น โลก จึงเป็นสิ่งที่ผ่านเข้ามาให้ได้เรียนรู้ นี้คือเหตุ
    ความสมดุลจึงเป็นผล

    จึงอยู่กับโลก อย่างมีความสุข เพราะเห็นความเป็นไปของโลก
     
  4. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,359
    ค่าพลัง:
    +6,493
    ให้มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอๆ
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ก็ยึดทางสายกลางมีแบบทางโลกเหมือนกัน คือเราอยู่ในสมมติเราไม่จำเป็นที่
    ต้องหลงสมมุติ เราต้องใช้เงินแต่เราไม่จำเป็นที่ต้องคิดเรื่องเงินทั้งวัน หรือ
    ตลอดเวลา เวลาที่เราทำงานเราก็ทำงานเพื่องานได้ มีสติรู้สิ่งที่ทำ สติจะเปลี่ยน
    ทุกอย่างที่เราทำเป็นการภาวนา นอกจากนี้เราศึกษามงคลชีวติก็ช่วยได้มาก เป็น
    แนวทางที่ควรศึกษา
     
  6. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +185
    การหาความสมดุลย์ของ2สิ่ง เปรียบตาชั่ง ใส่2สิ่งให้เท่ากันนั้นคือสมดุลย์หากชีวิตหนักทางโลก มนุษย์ส่วนใหญ่จะเอียงหนักทางโลก ก็หาพระธรรมมาศึกษา ไม่เข้าใจก็หาพระธรรมที่ครูบาอาจารย์ ได้ย่อยให้เหมาะสำหรับเด็กทารกในโลกธรรม มาเติมให้เต็มส่วนที่ขาดไป เต็มบ่อยๆ ฝั่งโลกเติมมากี่ปีก็ให้เวลาเต็มฝั่งธรรมเท่ากัน พระธรรมที่ย่อยมาดีแล้วเหมาะกับวัยทารก ที่เป็นรากฐานของการเดินทางในโลกธรรมในสมัยนี้ ก็คงต้องหาศึกษาเอาจากข้าทาสผู้รับใช้ของพระพุทธเจ้า ประเทศไทยมีหลายองค์ คงต้องเลือกเอาตามจริตของตน..
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ช่วยแยกแยะหน่อยได้ไหมครับ ตามความเห็นของ จขกท. อะไรคือทางโลก อะไรคือทางธรรม
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    โลกมันเอียง ด้วยเพราะ "คติ" จิตที่ตั้งไว้มันไม่ตรง

    ถ้าเราต้องการให้โลกสมดุล ก็ต้องหมั่นตรวจตรา ความ "ตั้งจิตชอบ" ไว้ด้วย

    ในโอวาทปาฏิโมกข์นั้น มีการกล่าวถึง "ทำจิตให้ผ่องใส 1" "ละอกุศลทั้งปวง 2"
    "ทำบุญให้ถึงพร้อม 3" แล้วแต่ก็ยังมีเรื่องของ "การตั้งจิตชอบ" ไว้ด้วย ดังนั้น
    ลำพัง "ศีล สมาธิ ปัญญา" บางที่เราพยายามแล้ว แต่มันกลับไม่ได้ผล ก็เพราะ
    ขาดการพิจารณาในส่วน "การตั้งจิตชอบ"

    อย่างเช่น พระเทวทัต ที่มีบุญญาธิการมาก เป็น พระปัเจกพุทธเจ้าในอนาคตพระองค์
    หนึ่ง เข้ามาอยู่พรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนาใกล้ชิดพระพุทธองค์แล้ว เรื่อง "ศีล สมาธิ
    ปัญญา" ของพระเทวทัตนั้นมีมาก แปลงร่างเป็นงูได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ นี่แปลว่า
    มีฤทธิ์มาก คนมีฤทธิ์มากสมาธิต้องดี สมาธิดีศีลต้องมี ศีลและสมาธิมีปัญญาจึงมี จึง
    สามารถเล่นแร่แปรธาตุได้สุขุมเลิศกว่าอสีตมหาสาวกทั้งหมด แต่ เสียแค่ตัวเดียว คือ

    "ตั้งจิตชอบ"

    จะเห็นว่า "ตั้งจิตชอบ" มีเนื้อหาสาระที่แยกออกมาจาก "ศีล สมาธิ ปัญญา" แบบเบ็ดเสร็จ
    เด็ดขาด ดังนั้น เราควรพิจารณาเข้าไปที่ "ตั้งจิตชอบ"

    ซึ่งการสำรวจเข้าไป ก็ไม่ยาก ใช้ "อคติ4" ธรรม4หัวข้อนี้ สำรวจใจเราลงไป ว่าเรากระ
    ทำ ศีล สมาธิ ปัญญา ด้วย "คติ" ใดนำไป

    เพราะ "ฉันทาหรือ พอใจในฌาณ อยากใหญ่ จึงสมาทาน ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ" ?
    ถ้าใช่ สมาทานสิกขาแล้วมันก็เอียง ไปข้างเป็นจ้าวโลก เป็นพรหม เป็นพระเจ้า

    เพราะ "โทษะหรือ มีความคับแค้นใจต่อโลก จึงสมาทาน ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ" ?
    ถ้าใช่ สมาทานสิกขาแล้วมันก็เอียง ไปข้างเป็นจ้าวสำนัก บาตรใหญ่

    เพราะ "โมหะหรือ เกรงว่าคนจะกล่าวหาว่าไม่รู้ จึงสมาทาน ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ" ?
    ถ้าใช่ สมาทานสิกขาแล้วมันก็เอียง ไปข้างเป็นนักตีฝีปาก พระทั้งโลกผิดหมด ตนถูก อยู่เรื่อย

    เพราะ "ภยาคติหรือ มีความหวาดกลัวต่อโลก จึงสมาทาน ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ" ?
    ถ้าใช่ สมาทานสิกขาแล้วมันก็เอียง ไปข้างเป็นนักสวดมนต์เป็นเกราะเพชร เล่นคุณไสย ไปวันๆ

    สำรวจเนืองๆ อย่าสมาทานสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยอคติ4 แล้ว โลกจะตรง
    โดยที่ไม่ต้องไปปรับโลกให้มันตรง เพราะ มันตรงที่เรา "ตั้งจิตไว้ชอบ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2011
  9. boonsongma

    boonsongma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +11
    ครูบาอาจารย์ผม เคยสอนผมว่า...
    ให้ใช้ปัญญาทางโลกหรือปัญญาไอคิวในการทำมาหาเลี้ยงชีพ เพราะเรายังอยู่ในโลก ยังมีภาระและครอบครัวดังนั้นต้องพัฒนาปัญญาไอคิวซึ่งก็คือวิชาที่เราศึกษาเล่าเรียนมาและพัฒนาตนเองตลอดเวลาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นๆ ถ้าทำดังนี้แล้วก็จักมั่นคงและเจริญก้าวหน้าในอาชีพ
    แล้วให้ใช้ปัญญาในทางธรรม คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นตัวส่องนำทางให้แก่ชีวิตอีกที อย่าใช้ปัญญาไอคิวมาส่องนำทางชีวิต เพราะจักนำลงสู่อบายภูมิ
    อาชีพที่เราทำต้องเป็นสัมมาอาชีพ และไม่เป็นอาชีพที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม เช่นค้าขายสัตว์หรือมนุษย์ ค้าขายอาวุธเครื่องประหาร ค้าขายสุรายาเสพติด
    ท่านอาจารย์สอนผมว่าในการดำเนินชีวิตเพื่อให้โลกและธรรมสมดุลให้ดูว่ากายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมของเราต้องประกอบด้วยองค์สาม
    คือ 1. ไม่ผิดกฏหมาย
    2. ไม่ผิดศีล
    3. ไม่ผิดธรรม
    ท่านยกตัวอย่างเช่นค้ายาบ้า นี่ผิดตั้งแต่ขั้นแรกแล้วซึ่งเป็นขั้นที่หยาบ, ค้าขายสุราดำเนินการถูกต้องเสียอากรและภาษีถูกต้องตามกฏหมาย แต่พอมาดูข้อ2นี่ก็ผิดแล้วเพราะผิดศีลข้อห้า, ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลนี่ข้อ1,2ไม่ผิดแต่ผิดข้อที่3 เพราะเป็นการพนันถือเป็นอบายมุขถือว่าผิดธรรม ถ้าปฏิบัติธรรมก็ไม่เจริญก้าวหน้า
    ดังนั้นถ้าจะเอาสมดุลทางธรรมก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเอาธรรมระดับไหน ขั้นหยาบ ขั้นกลาง หรือขั้นละเอียด ก็เลือกเอาเองตามสามข้อข้างบน
     
  10. สุดขอบฟ้า

    สุดขอบฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณวทัยรัตน์คะ
    ตราบใดที่เรายังเป็นปุถุชนค่ะ ยากนะคะที่จะเป๊ะ ๆๆ ค่ะ
    ง่าย ๆๆ ค่ะที่ฟ้าใช้ พรหมวิหาร 4 ค่ะ
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    กับทุกเรื่องราวที่มันถาโถมเข้ามา
    แล้วเจริญสติบ่อย ๆในแต่ละวัน
    ทาน ศีล ภาวนา เท่าที่กำลังเราจะปฏิบัติได้ค่ะ
    อย่าบล๊อกตัวเองกับทุกเรื่องมากเกินไป
    แล้วชีวิตเราก็จะสมดุลย์เองค่ะ
    ความสุข ความสมปรารถนา ความเจริญรุ่งเรือง
    ขอบังเกิดแก่คุณวทัยรัตน์ตลอดไปนะคะ
     
  11. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถึงเวลากินก็กิน จะภาวนาก็มีแต่อิ่มทิพย์แต่ต้องเป็น โรคกระเพาะอาหาร
    ถึงเวลานอนก็นอน ไม่ใช่ถึงเวลานอนจะภาวนาก็มีแต่จะฟุ้งซ่าน
    ถึงเวลาปฏิบัติก็ปฏิบัติ ถึงเวลาภาวนาก็ไม่เข้าที่ภาวนาแล้วเมื่อไหร่จะหลุดพ้น
    ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ทำได้ปฏิบัติก็ทำให้ต่อเนื่อง

    เว้นไว้แต่ถ้าถึงเวลานอนไม่ต้องภาวนา ถ้านอนไปด้วยภาวนาไปด้วยบางคนจิตตื่นเป็นอันว่าตึงเกินไปไม่ยอมนอน
    แต่สำหรับผมนอนภาวนาจะหลับดีกว่าไม่ภาวนา จิตไม่ตื่นอย่างที่ปฏิบัติขั้นกลางๆทุกข์ทรมานมาก อดนอนเจ็บตาไปหมดเพราะภาวนาไม่ถูกวิธี
    ต่อมาได้วิธีของหลวงปู่ใหญ่ท่านไปใช้ ทีนี้นอนไม่ต้องภาวนารู้สึกสดชื่นได้นอนพักผ่อนจริงๆซะทีจิตก็ไม่ตื่นตาหลับจิตก็หลับไปพร้อมๆกันใครทำได้เช่นที่ว่ามาก็จะมีแต่บรมสุขๆๆๆ
     
  12. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    เคยเป็นช่วงแรกๆ ของการปฏิบัติเหมือนกันครับ
    ภาวนาตอนนอน พอผ่านไป 2-3 วัน ใจสบายมีความสุข ร่างกายแย่เลย
    แล้วมันก็หลุดจากสภาวะนั้นออกมาเอง ปัจจุบัน ก็ภาวนาก่อนนอน แต่ก็หลับสนิทดีครับ
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ธรรมไม่ขัดกับโลก มีแต่จะช่วยโลก ดังนั้นหากปฏิบัติธรรมไปถูกต้องแล้ว เป็นสมดุลไปในตัว
    ไม่ต้องหาวิธีทำสมดุลให้กับธรรมกับโลก

    คำถามที่เราต้องตั้งใหม่ คือ ทำอย่างไรจึงจะปฏิบัติธรรมได้ถูกทาง

    การปฏิบัติธรรมที่ถูกทางคือ ทางสายกลาง คำว่าทางสายกลางนี้คือ เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ตามบทบาทและหน้าที่ของตน ตามสถานการณ์ เวลา

    สิ่งเหล่านี้ถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ตอบว่า เมื่อเรามีสติมองสิ่งๆต่างๆรอบตัว เท่าทันใน กิเลสของตน เราจะเห็นทางสายกลางไป ระหว่างที่เราเดินไปตามทางนิพพานนี้เราจะเห็นทางสายกลางตรงแน่วมากขึ้น
    ตัวภาวนามยปัญญา จะเห็นตามความเป็นจริง เมื่อเห็นตามความเป็นจริง รู้กุศล คือฉลาด รู้อกุศลคือ โง่ เราก็เลือกทางให้กับตนเองถูกต้องแม่นยำขึ้นไปเป็นลำดับลำดา

    แต่ใครไม่รู้จักตนเอง โดนกิเลสเอาไปกินหมด
     
  14. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    "ต้องมี เพชรน้ำหนึ่งคือ ซื่อสัตย์สุจริต เป็นนิจขยัน ประหยัดให้มั่น หันหลังให้อบาย มีความขยันหมั่นเพียร เรียนด้วยตนเอง "
    และมี ธรรมะอีก4 ประการคือ
    <table width="560" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td colspan="2"><dd>๑. จะต้องมีกตัญญูกตเวที </dd><dd>๒. สุภาพอ่อนโยน อ่อนน้อม เรียบร้อย </dd><dd>๓. เป็นผู้เสียสละได้ง่าย </dd><dd>๔. เป็นผู้ซื่อสัตย์สุจริตเป็นนิจ ขยัน ประหยัดให้มั่นหันหลังให้อบาย </dd></td></tr></tbody></table>
    ไม่ใช่เพียงแค่ให้ชีวิตทางโลกและทางธรรมสมดุลกันอย่างเดียว ยังชีวิตให้เกิดบุญวาสนาแล้วชีวิตจะรุ่งเรืองต่อไปได้ ด้วยธรรมะ4 ข้อนี้:cool:
     
  15. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -ละความชั้ว ทั้งหลาย

    -ทำความดี อย่างได้ขาด จากความดี

    -ทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    รู้กุศล คือ รู้ตัวฉลาด ไม่ได้หมายความว่ารู้กุศล แล้วเป็นคนฉลาด
    รู้อกุศลคือ รู้ตัวโง่ ไม่ได้หมายความว่า รู้แล้วเป็นคนโง่

    รู้ในตัวเองทั้งสองอย่างนั่นแหละว่า เราทำอย่างไรเราฉลาด เราทำอย่างไรเรียกว่าโง่
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    พระอาจารย์ท่านเคยสอนเรื่องนี้ค่ะ
    ว่าให้ทำทางโลกและทางธรรมให้เสมอกัน
    ประมาณว่า(อันนี้ติงว่าเอง)ทางโลก ก็ขยันขันแข็งในการประกอบหน้าที่การงานให้เจริญก้าวหน้า
    ในทางธรรมก็ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาค่ะ
     
  18. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574

    -ง่ายๆก็คือให้คบ บัณทิต ที่มีอยู่ ในตัว ใช้มั้ยครับ อย่าไปคบ พาล ใช้มั้ยครับ พาล ก็มีอยู่ในตัวเราใช่มั้ยคน
     
  19. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    จงอย่าทำให้มันสมดุลกัน แต่จงทำให้มันเป็นสิ่งเดียวกัน เสีย
    เพราะธรรม คือการมองสิ่งที่เราเรียกว่าโลกเป็นตามความจริง
    หากท่านทำให้ธรรม ครอบโลกของจิตท่านได้แล้ว ทุกอย่างที่ท่านทำในโลกก็ล้วนเป็นธรรม
    ทำงานหรืออยู่ด้วยจิตว่าง(คือไม่มีกิเลสตัญหา ไม่ใช่ว่าง แบบไม่มีอะไรนะ)แล้วท่านจะอยู่เย็น สบายๆ
    ร่างกาย ทำงานเต็มความสามารถ แต่จิตไม่ยึดติดต่อสิ่งใด
    ควรไม่ควรแล้วแต่จะพิจารณา
    ขอบคุณครับ



     

แชร์หน้านี้

Loading...