คนล้ม อย่าข้าม

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย DevaIsis, 15 มีนาคม 2012.

  1. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เจ๊เอาใจ อัตตาร์ ตามคำขอ ซึ่งเจ๊ก็ไม่ได้ตั้งกระทู้มานานแล้ว เพราะ โดนลบ โดน แบน เหอะ เหอะ

    วันนี้ เจ๊จะเล่านิทานเรื่อง คนล้ม อย่าข้าม

    อันเป็น นิยาย อาหรับราตรี เล่มใหม่ ที่เจ๊จะออกโพสต์ เพื่อสร้าง โปรไฟล์ดี ดี ให้ตัวเอง (กระทุ้โดนแบนไปเยอะ หุ หุ)

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    http://palungjit.org/attachments/a.1951678/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • na01592.jpg
      na01592.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120 KB
      เปิดดู:
      627
  2. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เด็กชายคนหนึ่ง จบการศึกษาเพียงชั้น ประถม 4 ก็ต้องออกมา ทำงานหาเลี้ยง พ่อแม่พี่น้อง เพราะมีน้อง 7 คน ที่ต้องรับภาระ

    เด็กชายคนนี้ เดินไปตามตลาด เพื่อของานเล็กๆ น้อยๆ ทำ เช่น คนเช็ดโต๊ะ ถูพื้น ขัดครัว ล้างเขียง ชงโอเลี้ยง เฝ้าโชห่วย ฯลฯ เท่าที่สภาพร่างกายของเด็กวัย 9 ขวบของเขานั้นจะเอื้ออำนวย

    วันหนึ่ง เจ้านาย เจ้าของร้านขายผัก ส่งเขาไปส่งผักในตลาด ด้วยรถจักรยานคันใหญ่ ที่เวลาจะถีบ เขาต้องยืนถีบ เนื่องจาก ช่วงขาสั้นเพราะยังอายุน้อย

    รถจักรยานนี้ ถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ แต่การออกแบบนี้ ผู้ที่ถีบจะต้องเป็น ชายวัยฉกรรจ์เท่านั้น

    เด็กน้อย ยีนถีบจักรยาน ออกแรงถีบก้าวแรกอย่างแรงสุดชีวิต เพื่อให้ วงล้อจักรยานดังกล่าว ปั่นครบ 1 รอบแรก และเสริมแรงให้ปั่นรอบที่ 2,3,4,5...จนกว่าจะสามารถนำพาเขาไปส่งผักที่ตลาดได้ ตามคำสั่งของนายจ้าง

    1231701791.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2012
  3. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ระหว่างทางจากร้านขายผัก ไปยังตลาดสดนั้น จักรยานคันใหญ่ กวัดแกว่งไป-มา ชวนให้ผู้คนผู้สัญจรไปมา อกสั่น ขวัญแขวน กันโดยทั่วหน้า

    เด็กน้อย ออกแรงถีบ จนกระทั่ง แทบจะสิ้นแรง ก่อนที่รถจักรยาน จะผ่านหน้า สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจาก ตลาดสดเพียง 2 ช่วงตึก

    ท่ามกลางสภาพที่เหงื่อไหลไคลย้อย และอ่อนแรง เหงื่อเม็ดโตได้ไหลเข้าสุ่ดวงตาที่หรี่ลงของเขา เนื่องจาก กำมือน้อยๆ ทั้งสอง ต้องควบคุมรถจักรยานอย่างระมัดระวัง นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2012
  4. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    และแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น....

    รถจักรยานของเด็กน้อย ชนเข้ากับ นายตำรวจผู้หนึ่ง ทำให้ จักรยาน พลิกคว่ำ และผักที่บรรทุกนั้น กระจายออกไปทั่วท้องถนน



    นายตำรวจผู้นั้น อายุประมาณ 30 กว่า กว่า ทั้งยังดูหนุ่มแน่น กล้ามเนื้ออุดมไปด้วย มัดกล้าม แสดงออกถึง ความทะมัดทะแมงในชุดเครื่องแบบ ได้ล้มลงไปกลางถนน พร้อมด้วยคราบเศษผักกระจัดกระจายไปจนเลอะเครื่องแบบของเขา

    เมื่อได้สติ เด็กน้อยตกใจมาก และรีบลุกขึ้นไปขอโทษขอโพยนายตำราวจหนุ่ม แต่มือของเด็กน้อยนั้น เลอะไปด้วยคราบเหงื่อไคล และ คราบสีดำ อันเกิดจาก เนื้อยางเก่าๆ ที่หุ้มคันบังคับรถจักรยานนั้น หลุดลอกออกไป ตามสภาพการใช้งาน

    สร้างความไม่พอใจให้นายตำรวจหนุ่มคนนั้น เพราะ เขาต้องรีบเข้าทำงานให้ตรงเวลา 08.00 น. เพื่อเข้าแถวเคารพธงชาติ

    ด้วยความที่นายตำรวจมาสาย เขาจึงรีบปัดมือน้อยๆ ที่แสนจะสกปรกออก แล้วรีบลุกขึ้นยืน ปัดเศษผักออกจากเครื่องแบบชุดหล่อ เพื่อไปให้ทันเวลา

    เขาออกอารมร์โกรธเกรี้ยวโกรธาใส่เด็กน้อย ผู้ซึ่งเป็นเหตุให้เขาเสียเวลาและนำพาความสกปรกโสมมของซากผักมาให้เขา !!!

    เขาตะโกนก้องว่า

    แม่งเอ๊ย...แล้วกระชากคอเสื้อยืดของเด็ก ตามนิสัยที่ไม่สามารถ ควบคุมอารมร์ได้เนื่องจาก ฮอร์โมนในวัยหนุ่ม พลุ่งพล่าน

    จากนั้น คว้าแขนเด็กชายออกจากตัวของเขา ในสภาพที่ ขยะแขยง เป็นที่สุด...
     
  5. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เด็กน้อยตกใจ ลนลาน และพร่ำโทษตนเอง เพราะ นอกจากจะเป็นความผิดของเขาแล้ว สินค้าที่บรรทุกยังเสียหายมากมาย เนื่องจาก ความประมาท เลินเล่อของเขา

    ตำรวจ สั่งให้เด็กน้อยรีบทำความสะอาดถนนนั้น ฉับพลัน ความคิดของเขา ก็ผลุดขึ้นในใจ

    ...ทำโทษมัน ให้กำหราบ และเข็ดจำ จะได้ไม่ กล้าแหยม กับเขาอีก...

    เนื่องจาก เด็กน้อย ทำให้เขาไปไม่ทัน แถมยังทำให้เสื้อผ้าของเขาสกปรก รวมทั้งผู้คนทั้งถนน ต่างรุมหัวเราะเยาะเขา เพราะ ทุกคนต่างรู้ดีว่า นายตำรวจคนนี้ มีนิสัยอวดเบ่ง และไม่ประนีประนอม เพราะ ชอบจับ ผู้ตั้งหาบเร่ แผงลอย และ รถ ตุ๊ก ตุ๊ก ที่จอดผิดป้าย เป็นประจำ

    เมื่อเด็กน้อยทำความสะอาด ซากผัก และ บรรทุกผัก ขึ้นรถจักรยานใหม่อีกรอบแล้ว เขาถูกเรียกเข้าไป เพื่อเขียนใบสั่ง

    ข้อหาที่โดนคือ กีดขวางการจราจร และไม่มีใบขับขี่ รถจักรยาน ในเมือง นั่นเอง !!!

    เด็กน้อยยืนตัวสั่นเทา เพราะ นอกจาก จะไม่มีเงินจ่ายแล้ว เขายังทำผักของนายจ้างเสียหาย

    เขายืนร้องไห้ และ ก้มลงกราบ นายตำรวจผู้นั้น ที่พื้น พร้อมเอามือ จับขากางเกงของนายตำรวจ

    ในขณะที่นายตำรวจ สะบัด หน้าแข้งอย่างแรง เพราะ สร้างความ สกปรกให้เขาเพิ่มขึ้น

    ผู้คนแถวนั้น ยืนนิ่ง ดั่งถูกสะกดด้วยมนตรา เพราะ บัดนี้ การหัวเราะเยาะของพวกเขา สร้างความเดือดร้อนให้เด้กน้อย เสียแล้ว

    แต่ก็ไม่มีใคร ที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือ ทุกคน ต่างหยุดหัวเราะ แล้ว รีบเดินจากไปจากจุดเกิดเหตุ

    ตามนิสัย ของคนไทย แท้ แท้ นั่นเอง
     
  6. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เมื่อเด็กน้อย เอาสินค้าเข้าไปส่งในตลาดแล้ว เขาตั้ง ปณิธาน ว่า

    ต่อแต่นี้ ต่อให้เขาตาย เขาก็จะไม่ ก้มลงกราบไหว้ใครที่พื้นดิน

    หรือ ร้องขอความช่วยเหลือ จากใครๆ อีกแล้ว

    และนั่น คือ คอนเซปทืในการใช้ชีวิตของเขา

    วันเวลา ผ่านเลยไป จากเด็กชายอายุ 9 ขวบ กลายเป็น ชายหนุ่ม ผู้แข็งแรง วัย 25 ปี

    ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่ผ่านมา เขาทำงานหนักทุกวัน เพื่อใช้หนี้ค่าปรับ 400 บาทเมื่ออายุ 9 ขวบ และ หนี้ต่างๆ อีกมากมาย เพราะ ตำรวจผู้นี้ กลั่นแกล้งเขาสารพัด ในข้อหา ที่แตกต่างกัน ตลอดไม่เว้น...

    เขายังคงเป็น จับกัง ในตลาด และ ไม่มีท่าทีว่า จะหา งานดี ดี สักงาน ทำได้เลย เพราะ ประวัติอันไม่พึงประสงค์ ที่นายตำรวจผู้นั้น ขีดเขียน เพิ่มเติมให้เรื่อยๆ

    ตลอดระยะเวลา 16 ปี อันขมขื่น !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2012
  7. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    วันหนึ่ง ในขณะที่เด็กน้อยสูบยาเส้นที่เหลือจากเพื่อนจับกัง ซึ่งแน่นอน เขาดูดได้เพียง 2 คำ เท่านั้น รอเหลือจากเพื่อนผู้แบ่งปัน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต

    เขาเห็นชายแก่ต่างประเทศท่านหนึ่ง ล้มลงกลางตลาดสด ในสภาพที่หายใจหอบอย่างแรง

    เขารีบเข้าช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล ตามความรู้ เล็กน้อยของเขา เท่าที่เขาสามารถจะทำได้ เนื่องจาก บิดาของเขา ก็เกิดอาการเช่นนี้ประจำ แต่ไม่มีเงินไปโรงพยาบาล (สมัยนั้น ไม่มีประกันสังคม นะจ๊ะ ท่านผู้อ่านที่เคารพรัก +)

    เขาบรรจง เอาผ้าขาวม้า (ลายไทยแท้ๆ) มาหนุนรองที่ต้นคอของชายแก่ พร้อมหยิบยาดมมาให้ชายแก่ และเอาขวดน้ำที่เหน็บที่ขากางเกง มาชุบน้ำ คอยเช็ดหน้าให้

    จากนั้น เขารอจนคนแก่ สงบ แล้วเอาอีกด้านของยาดม ที่เป็น ยาหม่องน้ำ มาถูให้ที่หน้าอก และ ขมับ และ จมูก และทุกๆ ที่ ที่เขาเคยดุแลบิดาของเขา

    เขาออกคำสั่ง ให้เพื่อนไทยมุงของเขา ออกไปจากบริเวณนั้น และโทรแจ้ง คลีนิค ใกล้ๆ (สมัยก่อน จับกังไม่มีมือถือหรอกนะ !)

    เมื่อ ชายแก่ถูกเคลื่อนไปถึง คลีนิค เขารีบออกมาประกอบอาชีพตามเดิม เพราะ สำหรับเขาแล้ว เวลาเป็นเงินเป็นทอง

    และแล้ว จะด้วยสวรรค์บรรจง ขีดเขียน พรหมลิขิตใหม่ให้เขา หรือจะด้วย ความดีงามในการใช้ชีวิตของเขาก็ตาม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

    ชายแก่ชาวต่างประเทศผู้นั้น เดินเข้ามาในตลาด เพื่อ ตามตัวเขา หลังจากเกิดเหตุการร์นั้น 3 เดือน !!!
     
  8. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,359
    ค่าพลัง:
    +6,493
    คนล้ม อย่าข้าม..(อย่างเด็ดขาด) คนล้ม ต้องรีบประคองเขาขึ้นมาครับ โมทนา จขกท.
     
  9. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ชายแก่ส่งเสียงภาษาอังกฤษ ถูกตามประกบด้วยหนุ่มมาดเท่ห์ ท่าทางทะมัดทะแมง ที่ออกอาการเดินแบบ พินอบพิเทา ในทุกย่างก้าวของชายแก่นั้น หนุ่มมาดเท่ห์คนนี้ แทบจะ ย่อเข่าลง เอาอกเอาใจ ประจบสอพลอ

    หนุ่มมาดเท่ห์ดังกล่าว ส่งเสียงร้องถามแม่ค้าในตลาด เพื่อตามตัว ผู้ช่วยชีวิตเจ้านายของเขา

    เมื่อข่าวบอกต่อ ต่อ กันไป ตามนิสัยแม่ค้าปากตลาด ชายชราก็พบตัวผู้ช่วยชีวิตของเขา

    ชายชรา ส่งภาษา ฟุดฟิดฟอไฟ ให้ลูกน้องแปล พร้อมหยิบเงิน จำนวน 1 หมื่น บาท ยัดเยียดใส่มือของชายจับกังผู้โชคดี

    แต่จับกังฮีโร่นี้ หาได้สนใจเงินทองไม่ เขาบอกพร้อมส่ายหน้าว่า

    ...ไม่เป็นไรครับ พ่อผมป่วยบ่อยๆ เหมือนกันครับ...

    เมื่อ ล่ามมาดคุณชาย แปลเป็น ภาษาอังกฤษส่งให้เจ้านายใจดี เจ้านายจึงรีบส่งภาษาต่อว่า

    ...Then come work with me !....
    อันแปลว่า เช่นนั้น จงมาทำงานกับเขา

    พร้อมเดินจากไป

    นามบัตรเล็กๆ ถูกยัดเยียดเข้ามือของ จับกังฮีโร่ และนั่นคือ จุดเปลี่ยน ในชีวิตของเขา !!!

    จุดเปลี่ยน อันนำมาซึ่ง ความมหัศจรรย์มากมาย

    จุดเปลี่ยน ที่สานฝันเล็กๆ ที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันของเขา ให้กลายเป็น ว่าวลอยลมบนท้องฟ้า

    จุดเปลี่ยน ที่ตัวเขาเอง ไม่คาดคิดว่า จะได้รับโอกาส

    เพราะในชีวิตของเขา ไม่เคยมีใคร ให้เขา ลิ้มลอง เลย

    แม้เพียงสักครั้ง...
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2012
  10. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เมื่อเขาตัดสินใจ หยอดเหรียญในตุ้โทรศัพท์ และกดเบอร์ตาม นามบัตร หลังจากที่ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ได้ 1 อาทิตย์

    เขาก็ได้รับข่าวดี ให้ไปที่ บริษัทหรูแห่งหนึ่ง ย่านธุรกิจดัง ของกรุงเทพ เมืองฟ้า อมร

    เขาแต่งชุดที่เรียบร้อยที่สุด เท่าที่เขามีคือ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่คอเสื้อด้านใน ถลอกปอกเปิด และกางเกงตัวสีดำใหญ่โคร่ง อันเป็น มรดก ที่พ่อของเขาเก็บไว้ยามที่สามารถทำงานขับ ตุ๊ก ตุ๊ก ได้ในวัยหนุ่ม

    เขาคาดเข็มขัดเส้นโต และดึงมันขึ้นมาเกือบถึงกลางหน้าอก เพื่อไม่ให้ กางเกงตัวนี้ หลุดลงไปจากเอว

    สภาพของเขา ดูร่อแร่ และไม่มั่นใจ รวมทั้ง ตื่นตระหนก เพราะ เขานั้น ไม่มีความรู้อะไรเลย แค่พอ อ่านออกเขียนได้ แล้วจะสามารถทำงานกับ ชายต่างชาติ ได้เช่นไร

    เขายังไม่สามารถอ่านป้ายที่ติดหรา กลางสำนักงานนี้ได้เลยสักตัว !

    เขาเคยขึ้น ลิฟท์ ส่งของไปยังโรงงาน แต่ไม่เคยเห็น ลิฟท์ที่มีปุ่มมากมายเช่นนี้เลย

    และไม่มีคำบรรยาย ป้ายเล็กๆ ที่ติดว่า ปิด/เปิด ด้วยภาษาไทย แปะไว้เลยสักตัว ที่ปุ่ม นั้น นั้น

    เขาต้องบอกให้ คนที่ร่วมโดยสาร ลิฟท์ ไปด้วยกัน คนหนึ่ง ช่วยกดลิฟท์ให้เขา เพราะ เขายืนนิ่ง อยู่ที่มุมหน้าประตู โดยที่ ลิฟท์ไม่ยอมปิดลง

    ชายคนนั้น ออกอาการ แสยะปาก ดูถูกเขา ที่เขา อ่านไม่ออก และใช้งานไม่เป็น

    เมื่อเขาไปถึงชั้นที่สำนักงานตั้งอยู่ เขาน้อมตัวค่อม ค่อม ออกปากขอบคุณ ชายผู้ส่งสายตาเหยียดหยามให้เขา

    ชายคนนั้น ไม่มีทีท่าจะแสดงอาการตอบสนองใดๆ เลย

    แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะ ตลอดชีวิต 25 ปีของเขานั้น มีแต่คนแสดงอาการแบบนี้

    เขาคือ ถังขยะ รองรับอารมร์ของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด

    เขาคือคนที่ต้องก้มลงเก็บเศษเงิน ที่พวกแม่ค้าพ่อค้า แกล้งทำหล่นใส่พื้น

    เขาคือ คนที่ต้องคอย นิ่งสงบ และ ก้มหน้าก้มตา เพื่อ รองรับคำสั่ง

    เขา เขา เขา เกิดมาทำไม....

    คือ คำถามที่ผุดขึ้นในใจของเขา บ่อยถึง ล้าน ครั้ง ตั้งแต่ จำความได้...

    ใช่ เขาไม่มีสิทธิ์ ตั้งคำถามนั้นถาม ใครๆ หรอก

    หากแต่ คำถามนี้ คือ คำถาม ที่เก็บไว้ในใจ คนเดียว

    ใส่กุญแจ ล๊อคเอาไว้

    โดย ลูกกุญแจ ก็โยนทิ้งไปแล้ว

    ไม่มีทีท่าว่า จะปลดล๊อคออกมาได้เลย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2012
  11. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ภายในสำนักงาน อันเป็นที่หมายของเขา นั้น เต็มไปด้วย ตู้กั้นกระจก และห้องที่ซอย ถี่ยิบ พร้อม พนักงานสาว/หนุ่ม วัยทำงานมากมาย ที่ไม่ส่งเสียงเลย ในขณะทำงาน

    เขาเดินสงบเสงี่ยม ท่ามกลางความเงียบงัน เข้าไปถามหญิงสาวผู้หนึ่ง ที่ออกอาการยิ้มต้อนรับเขา

    เขาเอานามบัตรยื่นให้ สาวผู้นั้นถามว่า ...นัดเอาไว้แล้วหรือยังคะ...

    เขาตอบว่า...ไม่ทราบครับ เพราะ ผมโทร.มาคุยแล้ว เขาบอกให้ มาที่นี่ วันนี้...

    หญิงสาวนิ่งอึ้งไปพร้อมหยิบสมุดเล่มโต มากางออกดูพร้อมตอบว่า

    ...อ๋อ...เชิญคุณทางนี้ค่ะ ท่านกำลังว่างพอดี

    เมื่อชายหนุ่มสอยเท้าเดินตาม หญิงสาวผู้นี้ ก็นำพาเขามายัง ห้องหรูแห่งหนึ่ง ที่มีไอเย็นเฉียบ จากเครื่องปรับอากาศ

    เมื่อชายชรา ว่าที่เจ้านายคนใหม่ ลุกขึ้นยืน พร้อมเอามือทั้งสองมาจับมือของเขา เขาตกใจมาก เพราะไม่เคยมีใคร อยากจะกุมมืออันสกปรกเหม็นเน่าของเขาเลย ในชีวิต

    เขารีบยกมือไหว้ น้อมตัวลง พร้อมกล่าวด้วยเสียงสั่นเทาว่า

    ...สวัสดีครับ...

    ชายชราส่งภาษาให้ชายมาดเท่ห์คนเดิม มาพูดคุยกับเขา พร้อมกับขอตัวลาไปเนื่องจาก ติดโทรศัพท์สายใหม่ที่เข้ามา...เขาตบบ่าของชายหนุ่มตัวเกร็ง 2 ที ดัง เป่าะ เป่าะ แล้วยิ้ม พร้อมไปรับโทรศัพท์ดังกล่าว

    หนุ่มมาดเท่ห์นำพาเขามายังห้องอีกห้องหนึ่ง ซึ่งคับแคบกว่า แล้ว ตั้งคำถาม ถามเขามากมาย

    ...คุณจบอะไร...
    ป.4 ครับ

    ...เคยทำงานอะไร...
    ผมรับจ้างแบกผักและส่งของในตลาดครับ

    ...ทำมากี่ปี...
    16 ปีเต็มครับ

    ชายหนุ่มเจ้าของคำถามมากมาย ถอนหายใจ ส่งเสียงดัง พร้อมกล่าวว่า

    ...พร้อมมาทำงานเมื่อไร...

    เขาตอบว่า...แล้วแต่ท่านครับ

    จากนั้น เขาก็ได้รับคำสั่ง ให้มาทำงานในวันรุ่งขึ้น โดยที่เขาเองยังไม่รู้เลยว่า หน้าที่อะไร เงินเดือนเท่าไร

    เขาจึงขมวดคิ้ว พร้อมอ้ำอึ้ง เพื่อจะถามต่อว่า หน้าที่อะไร เงินเดือนเท่าไร

    เหมือนกับคู่สนทนาจะรู้ใจ เขาตอบว่า

    เดือนละ 3 หมื่นบาท และทำหน้าที่ ขับรถตามคำสั่งนาย

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจมาก เพราะแต่ละเดือน เขาหาเงินได้เพียงไม่กี่พัน แต่เงินเดือน 3 หมื่น ในสมัยนั้น ถือว่า ต้องเป็น ระดับผู้บริหาร ที่จบจากเมืองนอกเท่านั้น จึงจะสามารถได้รับข้อเสนอ !!!

    เขาทำท่าทางตกใจ ในขณะที่ ชายมาดเท่ห์ตอบกลับว่า

    ...ขับรถส่งเจ้านาย หากฟังไม่เข้าใจ ให้กางแผนที่ หรือถาม ผม...

    จากนั้น เขาก็ยกมือไหว้หนุ่มคนนี้ แล้วรีบกลับบ้านไป ในสภาพตัวเบาโหยง เพื่อแจ้งข่าวดี ให้ครอบครัวของเขาฟัง...

    นี่เขาฝันไปหรือเปล่านี่...เขาคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
     
  12. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    สิ่งที่เขา ไม่ชอบใจเลยคือ ระยะทางระหว่างที่ทำงานและบ้านของเขานั้น ห่างไกลกันมาก

    แต่เหมือนกับ เจ้านายจะรู้ใจ หรือ เขาคิดเข้าข้างตัวเองก็มิอาจทราบได้ เจ้านายให้หนุ่มเลขา ส่งเงินให้เขา จำนวน 1 หมื่นบาท และกำกับว่า เงินเดือนออก ค่อยเอามาคืน

    เขาตกใจมาก เพราะ เงินเดือนทั้งครอบครัวของเขารวมกัน 3 คน ตลอด 3 เดือน (มีเพียงพี่น้องอีก 2 คนที่ยังอยู่กับพ่อแม่ และอายุน้อยแค่ 11 และ 15 ที่คอยเข็ญของตามเขาในซอกตลาด) ยังไม่เท่ากับ เงินก้อนนี้ ที่เขาได้รับ

    เขาจึงวางแผน จะย้ายครอบครัว มาอยู่ใกล้ๆ เหตุเพราะเป็นห่วง พ่อแม่ที่ชราภาพ

    น้องอีก 5 คนของเขา กระจัดกระจายไปตาม ยถากรรม แล้วไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลย

    พ่อแม่ของเขาบอกว่า ไม่ไปไหน เพราะ รักบ้านยิ่งกว่าชีวิต จะขอตายที่บ้าน

    เขาจึงจ้าง อาข้างบ้าน เพื่อทำอาหารและดูแลพ่อแม่ของเขา ยามที่เขายังไม่กลับบ้าน

    ส่วนเงินที่เหลือ เขารีบเอาพ่อของเขา ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อเข้ารับการรักษาอากรหอบ และเหนื่อยง่าย

    นอกจากพ่อเขาจะมียารักษาโรคหอบแล้ว แม่ของเขายังมีเงินเหลือเอาไปใช้หนี้เพื่อนๆ ข้างบ้านอีกด้วย

    มีบางส่วนที่เขาแบ่งปันเอาไว้ให้น้องเล็กๆ ทั้งสอง เพื่อจะได้ กลับเข้าไปเรียนโรงเรียนผู้ใหญ่หรือ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน เพื่อจะได้ มีความรู้ และไม่ต้องออกมาลำบากเหนื่อยยากในตลาด

    ไม่น่าเชื่อว่า เงินเพียง 1 หมื่นบาท ที่เลขาเจ้านาย ยัดใส่มือให้แบบไม่แยแสนั้น จะมี ค่ามากมายหมาศาล เช่นนี้

    ในสมองเขาผุดคิดขึ้นมาได้ว่า

    จากนี้ไป เขาจะตั้งใจทำงาน และยกระดับชีวิตให้ครอบครัว ตราบกว่าเขาจะสิ้นลมหายใจไป...

    พ่อแม่และน้องๆ ไม่ต้องทนแออัดยัดเยียด ในห้องแคบๆ ที่เอามุ้งสีขาว มาโยงกับคานไม้กลางบ้านเพื่อแบ่งช่องกันหายใจ อีกต่อไปแล้ว !!!

    ต่อแต่นี้ จะไม่มีใคร มาตะโกนด่าทอแม่ของเขา ด้วยคำผรุสวาทและหยาบคายต่างๆ หน้าบ้านของเขา เพื่อทวงหนี้อีกแล้ว

    พอเงินเดือน งวดแรกออก เขาจะเอาไปใช้หนี้ให้หมด

    และแน่นอน...ประวัติของเขาจะเปลี่ยนไป

    ใคร ใคร จะไม่ทำหน้าตาเหยเก เวลาเขาร้องของานทำอีกแล้ว

    เหตุเพราะ กลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่ปรับตลอดกาลคนนั้น จะหาเรื่อง นำความเดือดร้อนมาให้ นั่นเอง

    ...do me a favour, attach your office here :D
     
  13. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    (you never know whose life is written down here morons !)

    หลังจากทำงานตามเจ้านายและเลขา ได้ครึ่งเดือน เขาก็เริ่มมั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้

    เหตุที่เขาสามารถขับรถได้ เพราะ ตัวเขาเองนั้น เคยทำงานในอู่ซ่อมรถ และต้องเอารถยนต์ไปลองขับ หลังจากที่ซ่อมเสร็จ

    หากแต่เขาทำงานในอู่ซ่อมรถได้เพียง 1 ปีกว่า กว่า เท่านั้น ก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตในตลาด

    เนื่องจาก ตำรวจคู่ปรับของเขานั้น ชอบกลั่นแกล้ง เจ้าของอู่รถยนต์ประจำ

    เจ้าของอู่รถยนต์ จึงจำใจ ไล่เขาออก แม้เขาจะทำงานอย่างขยันขันแข็งและซื่อสัตย์

    ปัญหาใหญ่คือ เขาไม่มีใบขับขี่ ดังนั้น ช่วงครึ่งเดือนแรกนี้ เลขาจึงส่งเขาไปสอบใบขับขี่

    เขาทำข้อสอบได้เพียงนิดเดียวเพราะติดปัญหาเรื่อง ความจำ

    แต่เขาแปลกใจมาก ที่เลขาเจ้านายไปพูดคุยที่สำนักงาน หลังผลออกมาว่า เขาสอบไม่ผ่าน

    แล้วอยู่ดี ดี สำนักงานก็ออกใบขับขี่ให้เขา

    เขาจำได้แม่นยำว่า เพื่อนตำรวจ ของคู่ปรับคนนั้น เดินมาถามเขาว่า

    ...ไง...ได้ข่าวว่าไปสอบใบขับขี่...จะไปขับรถเมล์ที่ไหน

    เขาไม่ตอบกลับ ไม่ใช่เพราะเขาไม่กล้า แต่เพราะเขาไม่อยากมีเรื่อง

    หากเจ้านายฝรั่ง ล่วงรู้ว่า เขามีเรื่องกับตำรวจ ก็คงจะไล่เขาออกแน่ แน่

    และประวัติศาสตร์ก็จะ ซ้ำรอย

    ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า...
     
  14. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อยากรู้ล่ะซี...เจ้าวูฟกัง ว่าใครคือ จับกังฮีโร่
     
  15. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ไม่น่าเชื่อเลยว่า ผ่านมาได้ 6 เดือนเต็ม เขาทำงานตั้งแต่ ตี 5 จนถึง เที่ยงคืน รอรับ รอส่ง หิ้วของ ซื้อกาแฟฝรั่ง ซื้อของตามที่ เจ้านายสั่ง ด้วยภาษาใบ้ และภาษาไทยกระท่อนกระแท่น เขาจะสามารถ ปลดหนี้และหาบ้านเช่าหลังใหม่ให้พ่อแม่ได้

    แรกเริ่มพ่อแม่ไม่ยอมย้ายออก แต่ทนเสียงรบเร้าของพวก น้อง น้อง ที่ไม่ยอม เพราะ อยากอยู่บ้านใหม่ ไม่ได้ จึงจำใจ ย้ายบ้านออกมา

    บ้านหลังเดิมนั้น เขาให้ อาข้างบ้านมาอยุ่แทนเพื่อเป็น สถานที่ ตั้งกำลังพล ขนอาหารและเครื่องใช้ที่พ่อแม่ต้องการ ไปให้ยังบ้านเช่าใหม่

    และแล้ว...ความลับที่ปิดเอาไว้ 6 เดือน ก็ปรากฏขึ้น

    คุ่ปรับทราบแล้วว่าเขาได้งานที่ใหม่ที่ไหน จึงพยายามขี่มอเตอร์ไซค์ สะกดรอยตามเขาทุกฝีก้าว

    หลายครั้งที่เขาไม่ยอมหยุดรถ ขณะที่เจ้าคู่ปรับตัวแสบยืนโบก เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้เขาและเจ้านายในรถ

    เจ้านายวัยชรา จึงให้เลขามาสอบถาม เมื่อได้ความ จึงเรียกเขาเข้าไปเพื่อพูดคุย

    เขาจำใจต้องเล่าเรื่องทั้งหมด พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่นำปัญหามาให้

    อนาคตของเขา คงไม่มีอีกแล้ว ทุกอย่าง คงต้องโยนทิ้งไป

    เหลือเพียงความฝัน อันเลื่อนลอย อีกเช่นเคย

    แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิด เจ้านายฝรั่งสั่งให้เลขา ไปสถานีตำรวจ เพื่อพูดคุยกับคู่ปรับตลอดกาลของเขา

    ใช้ระยะเวลา เจรจากัน ครึ่งวัน

    จากนั้น เจ้าคุ่ปรับตัวแสบ เดินมาใกล้ตัวเขา พร้อมกระซิบว่า

    ...เมิงแน่มาก...แต่คงเริงร่าได้ไม่นาน ก็ต้องคลานกลับไปซอกเดิม เมิงจำคำของกรูใส่กะโหลกเอาไว้...

    ตั้งแต่นั้น เขาไม่เคยได้รับการ โบกรถให้หยุด จากเจ้าตัวแสบ หรือเพื่อนของพวกมันอีกเลย

    ซึ่งเขาก็ไม่ทราบตลอดชีวิตของเขาเลยว่า เลขาเจ้านายของเขา ใช้เวลาครึ่งค่อนวันเต็มๆ เพื่อสนทนาอะไร

    เพราะเขาไม่สนใจอีกแล้ว

    ตราบใดที่เขา ไม่ได้กระทำความผิด และรับใช้เจ้านายด้วยความ ขยันขันแข็ง อย่างสม่ำเสมอ

    เขาก็จะทำงานรับใช้ จนวันสุดท้าย ที่เจ้านายไล่ออก เพราะเบื่อหน่ายการรบกวน เช่นเดียวกับ เจ้าของอู่รถยนต์

    คนอย่างเขา ฝันอะไรไม่ได้หรอก เพราะนอกจากไม่มีสิทธิ์จะฝันแล้ว ฝันทุกฝัน ล้วนพังทลาย ในช่วงพริบตา

    ฟ้าคงส่งเขามา เพื่อ หยอกล้อ และ ลงโทษ จากความผิดในชาติก่อน ก่อน

    ก็เป็นได้...
     
  16. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    วันขึ้นปีใหม่ พวกน้อง น้อง ทั้ง 5 คน ล้วนผลัดกัน เข้ามา สวัสดีปีใหม่ พ่อแม่ของพวกเขา พร้อมซื้อของขวัญมาให้มากมาย

    คงจะรุ้นะว่า พวกนี้มาทำไม

    พวกนี้ ไม่เพียงแต่มาเยี่ยมชมบ้านเช่าใหม่ของพวกเรา แต่มานอนเล่นอยุ่หลายวัน และหลังจากพวกนี้กลับไป แม่มาบอกว่า พวกนี้เดือดร้อนต่างๆ นานา และมาขอยืมเงิน

    ในฐานะที่เขาเป็นพี่ชายคนโต ก็ต้องช่วยเหลือน้อง น้อง ...แม่เขาสำทับ

    แผนการร์ที่จะซื้อรถเข็นให้พ่อไปส่งที่ โรงพยาบาล ยามฉุกเฉิน จึงหายไป

    ห้างไนติงเกล ในสมัยนั้น ดังมาก และมีอุปกรณ์/ของใช้หลากหลาย

    เขาเคยเดินไปในห้างนี้บ่อยๆ เพื่อถามว่า รถเข็นคนป่วย ราคาเท่าไร และจะลดราคาบ้างมั้ย จนกระทั่ง พนักงานในห้างไนติงเกล รำคาญ

    เมื่อแม่ตัดสินใจ ให้เงิน น้องๆ ไปหยิบยืม เขาจำเป็นต้องเลื่อนแผนการณ์ออกไป

    และเมื่อผ่านไปแล้วถึงกระทั่งช่วงสงกรานต์ ก็ไม่มีทีท่าว่า จะสามารถซื้อรถเข็นได้

    เนื่องจาก น้อง น้อง เอา หลาน มาให้พ่อแม่เลี้ยงดูมากมาย พ่อแม่แก่แล้ว ก็เหงา จึงมี หลานเอาไว้แก้เหงา

    จากหลาน 1 คน เพิ่มเป็น 2 คน 3 คน 4 คน ไปเรื่อยๆ จนครบ 6 คน

    เงินที่หยิบยืมไป ก็ไม่มีทีท่าว่าจะส่งคืน แถมยังเพิ่มค่าอาหาร ค่านม ค่าของใช้แต่ละเดือนมากมาย

    เขาฉุกคิดได้ว่า บ้านที่ให้อาข้างบ้านอยุ่นั้น น่าจะเปิดเป็น ร้านโชห่วยเล็กๆ ให้ครอบครัวของอานั้น มีรายได้ด้วย

    แต่ติดที่ คู่ปรับนี้ จะมาสร้างความเดือดร้อนให้ หรือ เรียกเก็บเงินค่าดูแล ตามวิถีของคนไทย ที่ต้องจ่าย...

    เขาจึงล้มเลิกความคิดไป และ พยายามจะหารายได้เพิ่ม เพื่อให้พี่น้อง ที่ปัจจุบันนี้ นอกจากจะส่งหลานมาอยุ่ด้วยแล้ว ยังต้องหาที่ให้ เขยและสะใภ้ อยู่

    จากบ้านเช่าที่มีที่ว่างมากมาย ต้องเพิ่มค่าเช่า เช่าห้องข้างๆ อยู่เพิ่ม และอยุ่ในสภาพที่เบียดเสียเยียดยัด ยิ่งกว่าเดิม

    บ้างก็ทะยอยกันไปอยุ่ที่บ้านหลังเดิม สร้างความไม่พอใจให้อาข้างบ้าน ที่เคลื่อนพลทัพ มาตั้งรกรากรับช่วงไปแล้ว

    แต่สิ่งที่ดีคือ เขยและสะใภ้ ช่วยกันทำงาน ทำอาหาร ดูแลพ่อแม่ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    เงินเดือน 3 หมื่น ในชีวิต จึงไม่เหลือเก็บเลย ซ้ำยังไม่พอเพียง

    เสื้อผ้าที่ใส่ก็มีอยู่ 2 ชุด ใส่ซ้ำกันไม่ได้ เพราะกลัวเจ้านายจะบ่นว่า เหม็น

    รถเข็นในฝันที่ห้างไนติงเกล ก็บินผ่านไปในอากาศ ประดุจ ภาพมายา

    ทางออกเดียวคือ หางานทำให้ ผู้มาใหม่แต่หน้าเก่าทั้งหลาย

    เหลือ ข้อดีเพียงอย่างเดียวของการอยุ่ รวมญาติ กันคือ เจ้าคุ่ปรับเจ้าเล่ห์ ไม่กล้ามาตอแยหาเรื่อง หาราว

    เนื่องจาก พลพรรค มากมาย นั่นเอง
     
  17. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เขย สะใภ้ และ น้องชาย จึงอยากจะประกอบอาชีพ

    ด้วยความเกรงใจ จึงไม่กล้าไปของงานเจ้านาย เพราะที่จัดเงินเดือนให้ ก็มากมายอยุ่แล้ว

    เกรงใจมาได้ในปีที่ 3 ของการทำงานเมื่อชีวิตกลับไปอยุ่ในระบบเดิมคือ ต้องกู้เงิน หรือ จำนำ ของต่างๆ

    เจ้าหนี้ก็เริ่มหัวเราะเยาะว่า

    ...ไหนว่าได้ดิบได้ดี เป็นเศรษฐีร่ำรวยในเมืองกรุง ยังจะมายืมเงินอีก และจำไว้ด้วยนะ สมัยนี้ ดอกเบี้ยแพง ต้องจ่ายตามกำหนดด้วยล่ะ มิใช่ให้ไปยืนด่าเหมือนเดิม...

    ด้วยความคับอกคับใจ จึงไม่มีสมาธิในการขับรถ และก็เป็นเจ้านายฝรั่งเท่านั้น ที่สังเกตเห็น

    แรกเริ่มก็ไม่กล้าเล่าให้ฟัง เพราะ พระคุณของเจ้านายมากมาย จนชาตินี้ไม่สามารถจะตอบแทนได้

    แต่ทนสายตาของเจ้านายไม่ไหว และเจ้านายบอกว่า

    ...ไม่ไว้ใจกันหรือไง...

    จึงต้องเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก

    เจ้านายสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วบอกว่า

    ...วันรุ่งขึ้น ให้เอา น้อง น้อง มาหางานทำ 2 คน...

    หน้าที่ของน้อง น้อง มิใช่ขับรถ แต่เป็น หน้าที่ถูพื้น เช็ดกระจก ทำความสะอาด พรม และห้องน้ำ

    สร้างความไม่พอใจให้น้องๆ เพราะคิดว่า เส้นใหญ่

    เมื่อทำได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็ต้องขอ ลาออกไป เพราะ งานหนัก

    เจ้านายฝรั่งไม่เคยดุด่าเลย ทั้งที่เต็มใจให้ดุด่า เพราะ นำความเดือดร้อนมาให้ไม่มีที่สิ้นสุด

    การหางานใหม่ให้น้อง น้อง ทำก็คือ เปิดร้านโชห่วย เพียงอย่างเดียว

    เพราะไม่ต้องกลัวอิทธิพลใดๆ แล้ว กองทัพของพวกเราก็มี

    แต่ปัญหาคือ ของในร้านหายไป โดยไม่ได้เงินกลับมาเลย

    เมื่อเปิดไปได้ 6 เดือน เข้าเนื้อตัวเอง ก็ต้อง ล้มเลิกไป

    ในขณะที่ ต้องเฝ้ามองทุกอย่างพังทลายนั้น

    ความหวังใหม่ก็เกิดขึ้น

    เพื่อนในตลาดบอกว่า มีธุรกิจเป็น เซลล์แมน ให้พวกน้องๆ ทำ

    ธุรกิจนี้ ขยันก็ได้เงินเยอะ หากไม่ขยัน ก็ไม่ได้เงิน

    จึงเป็น การบังคับให้ น้อง น้อง ทำงานหนัก และมีวินัยไปในตัว

    ซึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่า อาชีพเซลล์แมนนี้เอง ทำให้ น้องๆ เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ

    ทุกคน ต่างแย่งกัน ขาย แย่งกันทำงาน เพื่อหวังค่าคอมมิชชั่น

    พ่อแม่จึงกลับมาอยู่ในสภาพที่ต้องคอยเลี้ยงหลาน และไปรับ-ส่ง หลานๆ ที่โรงเรียน

    แทนที่พ่อแม่จะสบาย กลับต้อง วนเวียนมาใช้ชีวิตหนักยิ่งกว่าเดิม

    พวกเรา จึงตัดสินใจ จ้างคนดูแล หลานๆ และพ่อแม่

    โดยวิธี หารค่าใช้จ่ายกัน

    หรือ ที่เรียกว่า

    ระบบ กงสี...
     
  18. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ระบบนี้ พวกเราใช้วิธีสวนทางกับระบบเซลล์แมนคือ

    ใครมีรายได้เยอะ ต้องจ่ายเยอะ

    แรกๆ ก็แข่งกันอวดค่า คอมมิชชั่น

    แต่หลังๆ ก็เริ่มปกปิด

    จึงต้องแก้ไข ด้วยการ ไปที่ สำนักงานของเซลล์แมน ว่า เบิก/จ่าย จริงเท่าไร

    พวกน้องๆ ถึงจะยอมจ่าย

    เมื่อขับรถเข้าปีที่ 5 ข่าวร้ายแจ้งมาว่า บริษัทของเจ้านาย จะต้องย้ายไปตั้งที่ สิงคโปร์ ด้วยความจำเป็น บางประการ

    ถึงกับเข่าทรุดเมื่อรู้ข่าวนี้ เพราะนั่นหมายถึง การตกงานอย่างถาวร

    แต่เจ้านายฝรั่งรู้ใจ ภาระมากมายที่ต้องแบกรับ จึงใจดี ฝากฝังให้บริษัทเพื่อน แต่คราวนี้ เงินเดือนมิใช่ 3 หมื่น แต่น้อยกว่านั้น มากมาย

    จากคนขับรถเลยต้องเปลี่ยนมาเป็น เซลล์แมน เหมือน น้องๆ เพราะ ในสมัยนั้น หยูกยาหายาก และเป็นที่ต้องการไปทั่ว

    ประกอบกับการเป็นคนมีวินัย และขยันขันแข็ง ทำให้ ยอดขายพุ่งกระฉูด เป็นที่อิจฉาของน้องๆ

    พวกเราช่วยกัน ขยายธุรกิจ แต่ด้วยความโชคดี ช่องทางในการติดต่อค้าขายนั้น เลขาของเจ้านายฝากฝังให้เป็นทอด ทอด

    และแล้ว เพียงไม่กี่ปี ก็กลายเป็น นายหน้าค้าของ ของตัวเอง ทั้งที่พูดภาษาอังกฤษ งุๆ ปลา ปลา ก็สามารถ เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

    เมื่อมีปัญหา เลขาเจ้านาย จะคอยให้ความช่วยเหลือตลอด เนื่องจาก เจ้านายที่อยู่ที่สิงคโปร์ ฝากให้ดูแลเป็นการส่วนตัว

    ถึงคราวปีใหม่ ไม่มีเงิน ก็พยายามหาของขวัญไปให้เลขา และเจ้านายฝรั่ง เพื่อตอบแทนพระคุณ

    แม้ของขวัญที่ซื้อให้ จะบินไปไม่ถึง สิงคโปร์ ถึงมือเจ้านายเก่า เนื่องจาก เป็นของที่ดูแล้ว ไม่มีสนนราคามากพอที่จะเสียค่า ขนส่งไปให้ ก็ตาม

    แต่ภายในใจ ก็ได้แต่ฝันว่า

    ...เจ้านายเก่า คงจะรับรู้ สักวัน หากฟ้าเปิดทางให้ คงได้มีโอกาส หิ้วของขวัญไปให้เจ้านายด้วยตนเอง...

    ธุรกิจใหม่นี้ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่า จะทำให้ พวกเราพี่น้อง สามารถตั้งตัวได้

    ส่วนเรื่อง แง่มุมทางธุรกิจ ก็ต้อง จ้างมืออาชีพ เขามาทำงาน เพื่อให้ ระบบการค้า ถูกผูกขาด ในมือของพวกเรา

    บัดนี้ เมื่อตั้งธุรกิจใหม่มาได้ พวกน้องๆ ก็เริ่มขยับขยาย พาลูกหลานจากบ้านไปเหมือนเคย เพราะอ้างว่า คับแคบ

    แต่สิ่งที่ยังคงไว้ คือ ระบบ กงสี เพราะ ต้องส่งเสีย เลี้ยงดู พ่อแม่ และลูกหลานที่เติบโตมาเป็นกำลังสำคัญให้ กองทัพของพวกเรา

    เมื่อ ธุรกิจ ขยายออกไปมากขึ้น

    ก็มีโอกาส เดินทางไปให้ของขวัญเจ้านาย ซึ่งในสมัยนั้น ต้องเดินทางไปโดยรถไฟ นานหลายชั่วโมง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล

    เมื่อไปถึง เจ้าน้ำตานี่สิ ที่ควบคุมไม่ได้ เพราะมันไหลออกมา เหตุเพราะ เจ้านาย เสียชีวิตไปนานแล้ว

    โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณเลย

    นั่นเอง
     
  19. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ข่าวล่ามาใหม่ว่า เจ้าตัวแสบคุ่ปรับเก่า จ้องไปหาเรื่อง ทำลายธุรกิจที่บริษัทของพวกเรา

    ทำให้ ต้องหาทางออกด้วยการ จ่ายในสิ่งที่ต้องจ่าย...

    แต่ก็ไม่มีทีท่าว่า ต้องหยุดจ่าย แต่ละปี เพิ่มขึ้นมากมาย เท่าทวีคูณ

    จากเดิมที่เคยเรียกว่า เจ้าสกั๊ง ก็เปลี่ยนเป็น ชื่อเล่น เฉยๆ

    เดิมที่เคยเดินสวนทางเจอกัน ลูกหลานของมัน ก็ยกมือไหว้ เรียงแถวหน้ากระดาน

    ...คนหนอคน...

    เมื่อไม่สามารถ ทนจ่ายค่า...ได้แล้วเพราะไม่เห็นประโยชน์

    จึงจำเป็น ต้องตีสนิท และให้ เจ้านายของมัน แทน

    เจ้านายของมัน ก็มีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ เพิ่มค่าดูแล มากมาย ตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น แถมยังต้องมี แตะเอีย ค่าน้ำร้อน น้ำชา มากมาย

    จึงต้องใช้แผนใหม่คือ ตั้งกองทัพเข้าไปเก็บส่วยจากมันแทน

    เพราะ มันพาลูกหลานมาฝากฝังไว้มากมาย

    การเก็บส่วยจากมัน ทำได้โดย ไปสืบว่า มันมีเรื่องราวกับใครบ้าง

    แล้วเอาเงินที่เคยจ่ายมัน ไปจ้างฝ่ายตรงข้าม มาดูแลแทน

    แต่ด้วยกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย จึงต้องมี เงื่อนไข

    ...ว่าแต่ละครั้ง ที่มันมาหาเรื่อง ก็จะลดเงินที่ต้องจ่ายให้ฝ่ายตรงข้ามไป...

    นับว่า ครั้งละ กี่พัน กี่หมื่น ก็ไปหักลดเอาจาก เงินที่ ฝ่ายตรงข้าม สมควรจะได้รับ

    ไม่นาน...เรื่องก็จบลง

    แต่ที่ไม่จบคือ สมญานาม ที่แก๊งค์คู่ปรับวัยเยาว์ตั้งฉายาให้คือ

    ...เจ้าพ่อจับกัง สกั๊งตัวเหม็น...

    จากที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมด อย่ารู้เลยว่า เป็นเรื่องของใคร

    ที่เล่าให้ฟังเพื่อ ตอกย้ำ ชื่อกระทู้นี้ว่า

    ...คนล้ม อย่าข้าม...​
     
  20. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    _/|\_

    ขอกราบขอบพระคุณ อย่างสูง มา ณ โอกาส นี้ค่ะ

    สาธุ

    ***หนูไม่ได้ตั้งใจ ไปอวดฉลาดในเว็บของท่าน ขอกราบอภัยอย่างสูงค่ะ***
    เดวาไอซิส
    15 มีนาคม 2555
    14.31 น.
    _/|\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...