ในเว็ปนี้ใครปรารถนาเป็นพระพรหม มั่ง

ดาวดึงส์ (สรรค์ชั้นที่ ๒) <O</O
แดนแห่งเทพ ๓๓ มีจอมเทพชื่อ ท้าวสักกะ หรือที่เรียกว่า พระอินทร์ เป็นใหญ่สุด เมื่อพระอินทร์องค์หนึ่งสิ้นบุญ จุติ ไป ก็มีพระอินทร์อีกองค์หนึ่งเกิดสืบแทนกันไป ดาวดึงส์ เป็นคำบาลีแปลว่า ๓๓ บางทีก็เรียก ไตรตรึงษ์ ซึ่งเป็นคำสันสกฤต แปลว่า ๓๓ เหมือนกัน<O</O
<O</O
ความเป็นอยู่ของเทวดาชั้นดาวดึงส์ล้วนแต่เป็นผู้เสวยทิพยสมบัติจากกุศลธรรมในอดีต บริโภคอาหารอันละเอียดสุขุม ชนิดที่เป็น สุธาโภชน์(ผู้บริโภคอาหารทิพย์) อารมณ์ที่ได้รับจึงล้วนมีแต่ อิฏฐรมณ์ (อารมณ์ที่น่าปรารถนา) และไม่มีความเจ็บป่วย ไม่มีอุจจาระ ปัสสาวะ เทวดาผู้ชาย มีความเป็นหนุ่มอยู่ในวัย ๒๐ ปี ส่วนเทวดาผู้หญิงมีความเป็นสาวอยู่ในวัย ๑๖ ปี สวยงามตลอดไปจนตาย มิได้มีความชรา เทวดาผู้หญิงไม่มีประจำเดือนและไม่ต้องมีครรภ์ เว้นแต่ ภุมมัฏฐเทวดา บางองค์ที่ยังมีประจำเดือน และครรภ์เหมือนมนุษย์ความเป็นอยู่ของเทวดาในเทวโลกนี้ เป็นเช่นเดียวกับมนุษย์โลก มีการไปมาหาสู่กันและเบียดเบียนกัน มีความรักใคร่ ปรารถนาเป็นคู่ครองกัน สมบัติของเทวดาเหล่านั้น มีความยิ่งหย่อนกว่ากัน ทั้งบริวาร วิมานและ อิฎฐรมณ์ ต่าง ๆ สุดแต่กรรมที่ตนได้กระทำไว้


<Ohttp://www.kanlayanatam.com/sara/sara16.htm

 

โมทนาสาธุ ในธรรมทานครับ

นึกว่านอนไปแล้วน่ะครับเนี่ย ยังอุตส่าหาความรู้มาให้ผมอีก สาธุครับ

 

ยินดีครับ....เป็นกำลังใจให้ทุกคนทำความดีครับผม....

 

ก็ท่านทั้งหลายที่กำลังฝึกฌานทำฌานปรารถนาได้ฌานนั่นแหละ
คือมีความปรารถนาไปเกิดเป็นพรหมหละ อย่างไม่ต้องสงสัย ฮ่า ๆ ๆ

 

ผมยินดีครับที่ผมได้ทำ...เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ...ผมตรวจสอบแล้วว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านได้สั่งสอนไว้....

​

สมาธิเกื้อหนุนปัญญา​

ปัญหา สมาธิเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่ปัญญาอย่างไร ?​

พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุผู้มีใจตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง รู้อะไรตามความเป็นจริง ? ย่อมรู้ตามความเป็นจริง มีทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์นี้ทางปฏิบัติเพื่อไปสู่ความดับทุกข์...” ​

สมาธิสูตร มหา. สํ. (๑๖๕๔ )
ตบ. ๑๙ : ๕๒๐ ตท. ๑๙ : ๔๗๐
ตอ. K.S. ๕ : ๓๕๒​

​

ฌาน ๔ นำไปสู่นิพพานได้​

ปัญหา ลำพังการทำสมาธิจนได้ฌานจะสามารถนำไปสู่นิพพานได้หรือไม่ ?​

พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเปรียบเหมือนแม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศตะวันออก หลั่งไปสู่ทิศตะวันออกบ่าไปสู่ทิศตะวันออกฉันใด ภิกษุเจริญพอกพูนซึ่งฌาน ๔ ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพานโน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพานฉันนั้น....​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฌาน ๔อันภิกษุพึงเจริญเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อความสิ้นไปเพื่อละสังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องบน ๕ (คือ รูป ราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะอวิชชา) เหล่านี้แล”<O</O

ฌานสังยุต มหา. สํ. (๑๓๐๑-๑๓๐๔ )
ตบ. ๑๙ : ๓๙๒-๓๙๓ ตท. ๑๙ :๓๖๐-๓๖๑
ตอ. K.S. ๕ : ๓๗๒​

​

สัมมาสมาธิเป็นไฉน ?​

...สัมมาสมาธิเป็นไฉน ? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายในเป็นธรรมผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะทั้งหลายสรรสเริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อน ๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นแหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ ...​

สติปัฏฐานสูตร ๑๒/๘๔​

ที่มา พระไตรปิฏก ฉบับ ปฏิบัติ โดย ธรรมรักษา.
�����ûԮ� ��Ѻ��Ժѵ� (ʵԻѯ�ҹ�ٵ�)​

 

คุณ ภานุเดช เข้าใจคำถามของท่าน จขกท. หรือเปล่าว่าเขาถามอะไร
ผมก็ตอบไปตามหัวข้อที่ถาม คุณภานุเดชครับ ก็ทำไปซิไม่มีใครห้ามมิใช่หรือ
พระพุทธองค์ก็ทรงสอนเรื่องนี้อยู่เช่นกัน เพราะเป็นทางที่ไม่ขัดกับ มรรค ผล
พระพุทธองค์ก็มิได้ทรงห้ามไว้เช่นกัน ทำไปเถอะได้ฌานแล้วไปเกิดเป็นพรหมน่ะ
ดีกว่าไป นรกหรืออบายภูมิเป็นไหนๆ แต่ที่แน่ๆ จะไปกันได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง จริงม๊ะ

 

ก็เพราะผมเข้าใจในคำถามของ จขกท. และทุกท่านที่ได้ตอบไปแล้วนั่นหละครับ...ผมจึงตอบต่อเพื่อเสริมกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติ ได้มีกำลังใจปฏิบัติได้อย่างถูกทางและไม่สงสัยในสิ่งที่ตัวเองกำลังปฏิบัติอยู่......ผมก็หวังเหมือนกันว่าท่านคงจะเข้าใจเหตุผลว่าผมยกมาทำไมนะครับ.....

 

เคยได้ ฌาน แต่ตายนอก ฌาน จะไปเกิดเป็นอะไรครับ

 

ถาม : คนที่แสดงละครหรือนำท่านพระยายมไปแสดงล้อเลียนให้ท่านมีเขา ตัวแดง มีหาง อย่างนี้เข้าข่ายปรามาสหรือไม่?
ตอบ : ท่านพระยายมท่านเป็นพระอนาคามี เท่ากับปรามาสพระอริยเจ้าเลย แย่เหมือนกัน เขาถึงได้บอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เคยเห็นการ์ตูนเขียน คนเขายืนคลำหัวพระยายมอยู่ เอ๊ะ ลูกวัวใครหว่ามีเขาเพิ่งจะพ้นหู เดี๋ยวก็ลาบเสียหรอก มันล่อกันขนาดนั้นจริง ๆ พระยายมท่านไม่ได้มีเขาหรอก ท่านเป็นพรหมสวยเต็มบุญเต็มบารมีท่านอยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่าท่านมีหน้าที่ที่จะช่วยเหลือคนไม่ให้ตกนรก คนที่ทำความดีก็จะเห็นท่านในทางที่ดี คนที่ทำความชั่วก็จะเห็นว่าท่านดุร้าย น่ากลัว มันเป็นการข่มคนชั่วอย่างหนึ่ง คนก็เลยเข้าใจผิดว่าเป็นพระยายมต้องมี สังวาลกะโหลก ต้องมีเขา พอไปวาดภาพก็ต้องให้ดุร้ายเข้าไว้
ถาม : ท่านเป็นพรหมแล้ว เวลาทำงานท่านก็ไปทำในนรกใช่ไหม?
ตอบ : อย่าลืมว่าตำหนักพระยายมไม่ได้อยู่ในนรกจ้ะ อยู่ปากทางนรกที่เป็นเขตของชั้นจตุมหาราช ชั้นจตุมหาราชจริง ๆ ก็เป็นพรหมเหมือนกันเพียงแต่เป็นพรหมที่ไม่ได้เข้าฌาน ตายก็เลยเป็นแค่เทวดา พอหมดอายุเทวดาเมื่อไหร่ท่านจะไปเป็นพรหม ถ้าท่านใดเป็นพระอริยเจ้าเข้าถึงที่สุดก็เข้าพระนิพพานเลย ไม่ต้องไปเกิดเป็นพรหมใหม่...



ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือกระโถนข้างธรรมมาส ฉบับที่ ๘๔ หน้า ๔ ตอบปัญหาธรรมโดย พระอาจารย์เล็ก สุธรรมปัญโญ.

http://grathonbook.net/book/84.4.html

 

อนุโมทนาครับ ตอนนี้ผมก็อยากเล่าสิ่งที่เจอน่ะครับ อยากฟังใหมครับว่าผมไปเจออะไรมามั่ง

 

ตามสบายนะ..............

 

ก็นะ ขอเล่าล่ะกันนะครับ

ผมไปงานศพยาย ยายเสียตอนอายุ70 แล้วพอเลิก งาน คนแก่ๆทางแฟนก้เสียอีก
แล้วเริ่มตายๆไปทีละคน จนมานั่งคิดว่า อีกหน่อยเรา คงต้องไปแทนที่แน่เลย
คนแก่ๆ ที่เคยคุยตายๆกัน แล้วคนที่จะแก่ตามไปก็จะเป็นเรา

ตอนนี้อายุ22 ถ้าเฉลี่ยนคนอายุ70
ครึ่งหนึ่งก็35
หมายความว่าอีก15ปีก็จะได้ครึ่งหนึ่งของอายุไขแล้ว
ถ้ารอจนถึง50 คนแก่ๆหลายคน ก็จะเริ่มทำตัวเหมือนเด็ก

เหมือนกับรอความตายแล้วจะเกิดใหม่

โดยสำหรับคนที่ไมได้เตรียมตัวที่จะเป็นอะไร
รวมทั้งพวกที่ปากบอกอยากนิพพาน
แต่ไม่ทำอะไร
ผมว่าพวกนั้น ตายไปไม่ตกนรกก็ไปเป็นสัมเวสี

ผมคิดว่าเริ่มปลงตก ทำไมคนเรามันอายุสั้นจัง

 

นอนๆไปก็ฝันว่ามีพระมาบวชให้ อาร์มแบบว่า สุดยอดเลย ไม่มีอาร์มอะไรเลย
นอกจากคำว่า ทำอะไรก็สุขไปหมด
พระท่านชี้ว่าตรงนี้นอนได้ใหม คือที่ให้อยู่ หาที่นอน
ประมาณว่าบวชและอยู่วัดเดียวกับท่าน

แล้วพอตื่นมาก็มานั่งคิดว่าท่านเป็นใคร
สำหรับนักบวชที่ยังไม่ได้เข้านิพพาน ท่านจะไปจุติเป็นอะไร
ก็คิดประมาณว่า ในสวรรค์ ก็มีแค่ ครุฆ เทวดา นางฟ้า และ พระพรหม
ถ้าที่ๆอยู่ของสมณะ ผู้ที่หลงใหลในญาณ จิตก่อนตายอย่างนั้น
ตายไปจะเป็นพระพรหม เพราะพระพรหม นั้นผู้ที่จะเป็นได้นั้นต้องออกบวช
แล้วคิดว่า ท่านน่าจะเป็นพระพรหม ลงมาชวนไปอยู่ด้วยกันแน่เลย

 

โมทนาสาธุนะครับคุณ....เป็นการดีที่เราทั้งหลายเตรียมตัวกันก่อนตาย....การเตรียมตัวก่อนตายถือเป็นการไม่ประมาทนะ....เราเกิดมาเป็นมนุษย์ชาตินี้ เกิดมาแล้วพบพระพุทธศาสนาอีก จริงๆเราเป็นคนที่เลือกเกิดได้นะ...ว่าในอนาคตเราจะเป็นอะไร...ใช่ว่าปล่อยตามลมตามแล้ง...

แต่การเตรียมการตายของคุณผมว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไร....ความตายไม่มีนิมิตเครื่องหมาย บางคนตายแต่เด็ก บางคนตายตอนหนุ่ม บางคนตายตอนแก่....คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า อาทิตย์หน้าคุณจะยังอยู่ในโลกนี้ แม้วันพรุ่งนี้คุณจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อยู่....คุณต้องเตรียมทุกวันนะครับ....อะไรที่ยังไม่ได้ทำรีบทำซะ....เราไม่ได้แช่งตัวเองนะ...ถ้าวันใดวันหนึ่งเราตายไปก่อน เราจะไม่เสียใจว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ....

 

ใช่ครับ คนเราเลือกเกิดได้ ในทางศาสนา ใครหลายๆคนเขาก็อธิฐานการเกิดไว้เยอะแยะ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
อดีตทำคือกรรมเก่า
ปัจจุบันคือกรรมใหม่

อยากรู้อดีตก็ให้ดูที่ปัจจุบัน
อยากรู้อนาคตก็ให้ดูที่ปัจจุบัน
ไม่ทราบ ผิดตรงใหนหรือเปล่านะ

 

ความแก่ และ ความตาย เป็นเพื่อนที่รอคอยเราอยู่เสมอ เป็นเพื่อนที่จริงใจ และ ไม่โกหก

ผู้ที่เข้าใจจะรีบเร่งปฎิบัติธรรมภาวนา เพื่อความเพียรแห่งการหลุดพ้น

ผู้ที่ไม่ฝึกจิตให้เที่ยงแท้ ให้คงที่ เมื่อความแก่เข้ามาเยือน จะกลายเป็นคนหลงๆลืมๆ

เมื่อสติไม่มีอีกแล้ว จิตใจจะเลอะเลือน เมื่อความตายเข้ามาเยือน

ความอาลัยอาวรณ์จะรุนแรง จนไม่สามารถห้ามปรามได้ จึงควรที่จะฝึดจิตแต่เดี๋ยวนี้

มุ่งมันปฎิบัติภาวนา ทำอย่างใจเย็น ไม่รีบร้อน จะขี้เกียจก็ทำ จะขยันก็ทำ

ทำด้วยใจที่มุ่งมั่น จนจิตใจนั้นเที่ยงตรงต่อพระนิพพาน จึงจะไม่กลับมาเกิดอีก

เมื่อไม่กลับมาเกิดอีก ความเจ็บ ความแก่ ความตาย ก็จะไม่ส่งผลอีก เพราะไม่มีตัวตนแล้ว

สาธุครับ

 

คนเราแก่ทุกวันนะ แก่ทุกลมหายใจเข้าออก แต่เนื่องด้วยว่าคิดว่าตนยังไม่แก่นั่นหละ...

อย่าไปรอแก่กันจริงๆนะท่าน....ถึงเวลานั้นไม่ทันแล้ว....เดี๋ยวตายก่อนแก่นี่จบเลย....จริงๆผมคนหนึ่งนะไม่อยากตายแก่ เบื่อความแก่ คือถ้าไม่มีประโยชน์เกื้อกูลต่อไปแล้วก็สมควรตายได้ มาให้เป็นภาระคนอื่นอีกนี่ขอนะ ไม่เอา เพราะมาเล็งดูทุกวันนี้ บุญใดที่ไม่ได้ทำไม่มี ภาระใดที่มี คนอื่นทำต่อได้...สบายใจนะ...

 

แล้วแต่คนคิดนะ
ผมว่า การตกนรกยังดีกว่าการต้องไปสัมภเวสี

เพราะการตกนรก ก็คือชดใช้กรรมที่ก่อ
เมื่อกรรมหมดบุญล้น ก็ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์
หรือไม่ก็ มาเกิด แบบ เหลือแต่ส่วนบุญ แต่ส่วนกรรมไม่ดีนั้นลดไปแล้ว

แต่การเป็นสัมภเวสีนั้นน่ะ ต้องโดดเดี่ยวอยู่ในความมืด ไม่ได้ชดใช้ทั้งบุญและกรรม
ถ้ามีกรรมอยู่พอหาที่เกิดได้ ก็ยังต้องมาชดใช้กรรมของตัวเองอีก
แปล
ถ้าต้องเป็นสัมภเวสี เที่ยวขอส่วนบุญไปทั่ว ผมว่า ผมยอมตกนรกดีกว่า

 

^-^

พูดอย่างนี้แสดงว่าไม่รู้จักนรก....