จะเป็นไปได้ไหม หากมีคนถึงฌาน แต่ไม่รู้ตัว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย overmage, 17 มีนาคม 2012.

  1. overmage

    overmage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +128
    คือ เป็นความสงสัยส่วนตัวครับ บางครั้งเวลาที่กล่าวอุทิศส่วนกุศล หรือ เวลาที่จะทำบุญ
    ผมมักตั้งจิตอธิฐานก่อนเสมอ ตอนที่ตั้งจิตก็จะตัดอารมอื่นออกหมดเลย(ทำได้แป๊บเดียว)
    ในจังหวะนั้นมักมีปิติเกิดขึ้นเสมอ(ที่ไม่ใช่คิดไปเอง) ตัวรู้สึกตัวโตขึ้นบ้าง เหมือนยืนอยู่
    คนเดียวในที่โล่งๆบ้าง แต่จะเป็นแค่ช่วงนั้นๆ วูบเดียว พอตั้งจิตเสร็จก็จะหายไป

    พอมาเทียบกับที่เรามานั่งสมาธิ เอ๊ะ ทำไมเราได้แค่ระดับ อุปจารสมาธิเอง ปิติอื่นๆ
    แทบไม่เกิดขึ้นเลย เลยเกิดความสงสัยว่า ตอนที่ผมนั่งสมาธินี่ ผมวางอารมผิดใช่ไหมครับ
    หรือว่า ผมนั่งสมาธิถึงอารมฌานแต่ไม่รู้ว่าถึงแล้ว เลยงงๆอยู่ครับ
    ขอพี่ๆ ชี้แนะเพิ่มเติมทีครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ในเมื่อรู้จักวิธีสอบอารมณ์ด้วยตัวเองแล้วก็ใช้แบบเดิมนั่นหละครับ...สอบอารมณ์ตัวเองด้วยตนเองว่าเราถึงแล้วหรือยัง.....
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มาดูตาม แบบแผนหรือ พระไตรปิฏกกันสักหน่อย

     
  4. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ตอบชัด ๆ ว่า ไม่มีใครได้ฌานโดยไม่รู้ตัว
    เพราะคนทำสมาธิ(การทำให้จิตตั้งมั่น)ดังนั้นจะมีสติรู้ตัว เนื่องจัดตัดอารมณ์อื่นออกหมดเหลือแต่จิตที่รู้ชัดอยู่จึงจะได้อารมณ์ฌาน

    ไม่มีใครได้ฌานโดยปราศจากจิตตั้งมั่นและการไม่รู้ตัว

    ถ้าไม่มีสติรู้ตัวก็จะไม่เรียกว่าสมาธิหรือได้สมาธิ
    เมื่อไม่ได้สมาธิก็จะไม่ได้ฌาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2012
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    จากพระไตรปิฏก เราจะ ยกเรื่อง ฉลาดในการตั้งสมาธิ และ ฉลาดในการอยู่สมาธิ
    มาพิจารณา

    คุณบอกว่า ก่อนจะแผ่เมตตา จะ ตั้งจิตให้เป็นสมาธิก่อน ตั้งเสร็จก็เอาตามกำลัง
    จิตเท่าที่มีอยู่ กระทำให้สำเร็จ แล้วพอใจแค่เท่าที่สำเร็จ(อิทธิบาท4 ทำงานเรียบร้อย)
    แล้วออกจากสมาธจิต เอาจิตที่มีกำลังปราศจาก อกุศลวิตก แนบอารมณ์ไมตรีจิต
    ต่อสรรพสัตว์ในฐานคนยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ไม่ต่างกัน ไม่ได้ดีเลิศ
    ไปกว่ากัน ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่ากัน ไม่ได้เสมอกัน(เพราะเห็นความทุกขยากมีอยู่
    ตามความเป็นจริง) เมื่ออยู่ในสมาธิจิตจนเสร็จกิจ ก็ปล่อย สลัดคืนกลับมาสู่โลก

    แต่ส่วนใหญ่ จะเผลอแอบกินปิติต่อ เพราะยังสำคัญตัวว่าจะเป็นเทวดา

    ก็จะเห็นว่า

    1. ฉลาดตั้งสมาธิ
    2. ฉลาดออกจากสมาธิ
    3. ฉลาดทำสมาธิให้สบาย( ควรแก่การงาน แผ่ไมตรีจิต ) ไม่ได้เอานิ่ง จมป๊อก จุมปุ๊ก
    มุ่งเอา จิตรวมแบบคนโง่( กล่าวโดยอาศัยว่า เป็นเลิศกว่าผู้ได้ฌาณ 4จำพวกนั้น )

    ก็จะเห็นว่า เข้าเป้าการเป็น ผู้เลิศแล้ว แต่..........................

    ถ้าทำข้อ 1-3 ได้ครบ แต่กลับ มาอิ่มสุข อิ่มปิติ อิ่มรสบุญ ก็แปลว่า จิตติดข้อง
    ในภพเทวดา ลืมยกพิจารณาใคร่ครวญ หลังจาก ศีลปรากฏ ทานปรากฏ สมาธิปรากฏ
    ก็เสียดาย ที่เทวดาลืมยก องค์ปัญญา ( จาคะไม่ปรากฏ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    จริงๆถ้าหมายถึงคนเข้าฌานนี่ต้องรู้ตัวแน่นอนตามที่คุ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หาธรรม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5864980", true); </SCRIPT> กล่าวไว้นั้นหละครับ....แต่จะมีในลักษณะคนที่เข้าฌานไม่รู้ว่าที่เข้าอยู่นั้นเป็นฌาน เพราะไม่ได้ศึกษามาว่าฌานคืออะไรเป็นอย่างไรอย่างนี้มีอยู่...คือคนที่ไม่รู้จักนั่นหละครับ...อย่างนี้มี....

    เหมือนเด็กทารกที่เขาให้กินข้าว ก็ไม่รู้หลอกว่าที่กินอยู่คือข้าว แต่รู้อยู่ว่าคืออาหาร อย่างนี้หละครับ....อันนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นข้อบกพร่องที่ไม่ได้ศึกษาพระปริยัติ....แต่ถึงแม้กระนั้นความดีก็มีอยู่...

    แต่มีอีกพวกหนึ่งศึกษาแต่พระปริยัติแต่ไม่รู้จักปฏิบัติ หน้าตาฌาน เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่พูดได้...พวกนี้ก็มีอยู่...ถ้ามีคนถามตอบได้ครับ..ตอบได้ตามตำรา...ถ้าถามสภาวะจริงไม่รู้หลอกครับ ให้สอบสภาวะตามจริง อันนี้จะไม่รู้ไม่เข้าใจ แม้เจ้าตัวเองก็ยังไม่พ้นสงสัย และธรรมที่พูดมานั้นไม่มีความแน่นอน เพราะตัวเองไม่แจ้ง...ไม่เคยผ่านมาก่อน เปรียบดั่งคนรู้แผนที่แต่ไม่เคยเดินตามแผนที่อย่างนั้นหละครับ....แต่ความดีก็ยังถือว่ามีอยู่...คืออย่างน้อยก็รู้แผนที่....


     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471

    ก็สรุปว่า

    เจ้าของกระทู้ เป็นผู้ฝึกตนดี แต่ ขาดวิธีการสอบทานการปฏิบัติ

    ทุกวันนี้ มันเป็นเรื่องที่วิปริต ผิดธรรม ระยำไปทั่ว

    การสอบทานนั้น ควรที่จะฝึก วินัยกัน ให้ใช้ ปริยัติสอบทาน สำหรับ
    ผู้ปฏิบัตตนดีแล้ว

    ทำไมต้อง ยกปริยัติให้ ผู้ปฏิบัติตนดีแล้ว เลิศแล้วอย่าง เจ้าของกระทู้
    ได้สดับ สัทธรรมจากปริยัติ

    ก็เพราะว่า เราจะให้ พระพุทธองค์เป็นผู้หมุนธรรมจักร แก่ผู้ที่ปฏิบัติดี
    ปฏิบัติชอบ

    แต่ถ้า คนมันชั่ว มันจะมุ่งปิดบังซ่อนเร้น ปริยัติ อ้างถึงว่า ควรอ่าน
    ควรแม แต่ ไม่เอามายกให้ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้อาศัยพระบารมี

    ก็จะซ่อนเร้น แล้ว ยกคำพูดของตน คำสอนจากตน ให้เป็นใหญ่ กว่า สัทธรรม ที่ควร
    เอามาเปิดเผย

    ถ้า อ้ายอี สมาชิกท่านใด โพสสัทธรรม ตามพระไตรปิฏก

    แอดมินของเว็บ คือ ภาณุเดช ก็จะ ย่ำยี ใต้ฝ่าเท้า เพื่อ กดสัทธรรม
    ให้เลือนหายไป

    เพื่อไม่ให้ วินัยในเรื่องการใช้พระไตรปิฏกเป็นเครื่องมือสอบทานการปฏิบัติ เกิดขึ้นแก่โลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  8. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,145
    ค่าพลัง:
    +1,960
    มีจ้า เป็นไปได้จ้า
    ผมนี่แล่ะคนนึง

    ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกครับ
     
  9. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,800
    มารอ อ่านคะ
     
  10. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ มันก็เรื่องธรรมดานินะ เมื่อเราได้ปฏิเวธมาเราไม่มีความแน่ใจ เราก็ต้องไปสอบกับปริยัติสิครับ....เราไม่ใช่พระพุทธเจ้า อีกอย่างเราก็ไม่ใช่พระอรหันต์ ที่จะแน่และเที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ก็ต้องเวียนหากันจนถึงพระนิพพานสิครับ..

    เกิดเราได้ปฏิเวธมา ปฏิเวธนั้นผิด เราไม่สอบต่อ แล้วยึดถือกอดไว้ กอดความคิดทิฏฐิตัวเองไว้ มันก็จะต้องผิดต่อไปสิถูกไมครับ....

    ที่คุณยกพุทธพนจ์มาก็ดีแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนิครับ ว่าแต่ว่าเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า เอกวีร์ .....วันนี้กินยาลืมเขย่าขวดเหรอ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  11. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    เอ้อ..ถามคุณ Phanudet

    สมาชิกชื่อ เด็กแว้นซ์ ผมหายไปไหน เมื่อก่อนเค้าอยู่ห้องวิทยาศาตร์

    เค้าเพิ่งมาตั้งกระทู้หาความรู้แนวทางการปฏิบัติในห้องอภิญญา เมื่อคืนวาน หรือโดนวิสามัญสำนึกไปแล้ว
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    สบายใจยังหละ ที่ได้ว่าผม แบบเต็มๆ ชัดๆ

    ตามหน้าที่ แอดมินเว็บที่ดี ได้ชื่อว่าทำตามนโยบาย
     
  13. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    มีครับเพราะไม่มีคนมายืนยันอารมณ์ให้เราว่าปฎิบัติไปถึงใหนแล้วถึงเราจะรู้บ้างเป็นนัยๆแต่ก็ไม่กล้าบอกกับตัวเองได้ว่าเราได้ฌานเพราะเราคิดว่ามันไกลตัวและเราไม่มั่นใจว่าเราสามารถทำได้แต่ก็อีกนั่นละฌานเกิดนั้นไม่ยากแต่รักษาอารมณ์นั้นยากถ้าติดกับฌานพอเจออะไรมากระทบแล้วไม่นักแน่นพอก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกอย่าเคร่งมากจนเกินไปนะครับเดินสายกลาง อย่าไปยึดติดมากจนเกินไปแต่ก็อย่าละความเพียรนะครับ
     
  14. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าคุณได้ เข้าฌาน ขนาดกำหลังอฐิฐาน คุณได้ล้มทั้งยึนแน่

    ครับ ความรู้สึกตัวตนหายไปครับ
     
  15. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,145
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เป็นไปได้แน่นอน เพราะว่าเห็นพี่ๆมือใหม่มาตั้งโพสถามว่า อาการนี้คืออะไรคะ เกิดอาการนี้คืออะไรครับ เต็มไปหมด เห็นแบบนั้น เห็นแบบนี้ เกิดแบบนั้นแบบนี้ จริงไม่จริงไปคิดดูเองหรือไม่ก็ติดตามดูเองครับ ของง่ายๆๆ
     
  16. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ไม่ได้แย้งท่านนะ ท่านตอบดีแล้ว...

    เพิ่มเติมท่านหน่อย กัลยาณมิตรที่จะมายืนยันเราว่าได้นี่นะ อย่างน้อยเขาต้องได้จริง ถ้าเขาได้ไม่จริงนี่ลำบากนะ พวกเดาๆสุมๆเอานี่มีมากนะ...เดี๋ยวเป็นสภาวะเตี้ยอุ่มค่อมกันเลยทีเดียว....

    ทางที่ดีเขาบอกเราว่าได้นี่อย่าเพิ่งไปปักใจว่าได้ หรือ เขาบอกเราว่าเรามั่วก็อย่าไปเสียกำลังใจว่าเรานั้นทำไม่ได้ ต้องตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แหล่งที่น่าเชื่อถือจริงๆก่อนจะดีกว่า....จริงๆเรื่องสถาวะธรรมในด้านของฌานนี่ ครูบาอาจารย์หลายองค์ท่านก็กล่าวไว้ บางท่านก็จะเอียดบอกหมดเลยแต่ละชั้นมีสภาวะอย่างไร บางท่านก็บอกข้ามๆไม่ลงลายละเอียด เช่น อัปนาสมาธิ แค่นั้นจบ ไม่ลงสภาวะก็มี....อีกที่หนึ่งที่น่าเชื่อถือคือ คัมภีร์วิสุทธิมรรค อันนี้จะเข้าใจยากหน่อยเพราะภาษาบาลีค่อนข้างมาก แต่สำคัญมากเพราะเป็นแบบแผนการปฏิบัติกรรมฐาน จะว่าไปทุกสำนักเลยก็ว่าได้......

    ถ้าตรวจสอบแล้วว่าใช่ ตามครูบาอาจารย์ ตามแบบแผน ตามพระไตรปิฏก ก็สามารถเชื่อได้ว่าเรานั้นได้จริงๆ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เป็นไปได้ เพราะอะไร รู้ไหม
    เพราะ เป็นคนลังเลสงสัย อุปมาว่า เราไปพบเจอของดีแล้ว ใจเราก็สัมผัสได้ว่านั่นคือสิ่งดี
    แต่อีกใจมันก็นึกคิดขึ้นมาว่า เอแบบนี้จะใช่หรือ มันอาจจะไม่ใช่

    ทีนี้ ตัวที่จะทำให้เราฟันธงชัดเจน มีอยู่อย่างเดียว ให้เรามุ่งสังเกตุความสงบ
    อย่าไปเอาเปลือกภายนอกมาขบคิดว่า เอนี่ใช่ฌาณหรือเปล่า แบบนี้ฌาณ1 หรือฌาณ2 นี่เรียกว่าไปตั้งคำถามผิด ทำให้เกิดธรรมเมา

    เราต้องจ่อไปที่สัมผัสแห่งความสงบเลย สงบมากขึ้น สุขมากขึ้น เบาตัวเบาใจมากขึ้น
    แบบนี้จะทำเอง รู้เอง สัมผัสเอง นี่แหละเรียกว่าใช้มหาสติในการสังเกตุ แล้วเราจะมั่นใจในผลของเรา
    จะทำให้ศรัทธาบริบูรณ์

    นี่หัดจำเอาไว้ อย่าไปฟังคนอื่นพูดมาก มารมันสิงปากคนเต็มไปหมด
     
  18. boontiga

    boontiga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    457
    ค่าพลัง:
    +2,357
    ตอบแทนให้นะคะ เห็นไปท่องเที่ยวหาหวยอยู่ห้องดูดวง ยังมีชีวิตอยู่ค่ะ
     
  19. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201

    คงเลิกโดนอุ้ม ไปซ่อนในรายละเอียด
    แต่เห็นกระทู้ ที่เค้าตั้งไว้ในห้องนี้ โผล่มาแล้ว :cool:

    นั่นแหละเค้าเรียกว่า จิตส่งออก ธรรมดาผู้ที่จะเข้าหา ธรรมดัดสันดาน
    มีมันหลากหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัย

    บ้างก็เนื่องด้วยทุกข์ทางโลก แฟนทิ้ง อกหัก รักคุด
    บ้างก็เนื่องด้วยเพราะบุพเพฯ
    บ้างก็เนื่องด้วยพระเครื่อง สวดมนต์ ปัองกันผี กลัวอุบัติภัยต่างๆ ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากจน
    บ้างก็เนื่องด้วยเพราะอยากรู้ขอบเขตหาที่สุดของจักวาล ต้องการพิสูจน์
    บ้างก็เนื่องด้วยเพราะอยากมีฤทธิ์มีเดช ไสยศาสตร์ต่างๆ
    บ้างก็เนื่องเพราะอยากรู้ดวงชะตาชีวิต
    ถ้างั้นแล้ว นสพ. หรือสื่อต่างๆ คงไม่มีคอลัมภ์ดูดวงทำนายฝัน หน้าที่การงาน ความรัก โรคภัยไข้เจ็บฯ
    หรือเรื่องราวที่แปลก ไม่คนก็สัตว์ ไม่สัตว์ก็ต้นไม้ อะไรสักอย่าง ใกล้วันหวยออก
    บ้างก็เนื่องด้วยเพราะเห็นในสัจโลกเป็นโทษ เป็นสิ่งน่าเบื่อหน่ายในกามคุณ จึงแสวงหาทางพ้นทุกข์ในหลักสัจธรรม

    สุดท้าย นั่นเพราะตัณหา อุปาทาน
    ยุบเข้ามาให้เหลือในหลักของอริยสัจ4 เห็นโทษเห็นภัย ความยากเป็นมรรคก็มี
    ความสามัคคี คือ มรรค มรรคมีหนึ่งเดียว ที่จะเข้าถึงได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  20. overmage

    overmage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +128
    เอาแล้วสิ เพราะผมตั้งประเด็นหรือเปล่าหนอเลยหลายฝ่ายเลย
    ผมไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น กราบขมาทุกท่านในความโง่เขลาของผมครับ
    ตามที่ผมได้รับการสั่งสอนมา หลวงพ่อท่านสอนเน้นให้ผมเรื่อง พรหมวิหาร 4 กับเรื่องสัทธรรม
    (ไม่แน่ใจว่าเรียกถูกไหม) ท่านกล่าวว่า
    ปริยัติทำให้รู้จัก ปฏิบัติทำให้รู้จริง ปฏิเวธทำให้รู้แจ้ง ในตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ
    ที่ผ่านมาผมมีปัญหาว่า บางอารม บางความรู้สึกที่เกิด ตัวบอกใช่ แต่ก็แอบค้านตัวเองด้วยเหมือนกัน
    เพราะสาเหตุต่างๆที่ตามตำรา เขียนกันว่า กว่าจะถึงอารมนั้นมันยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน

    แต่โดยรวมแล้วการปฏิบัติผมก็ยังขึ้นๆลงๆ เหมือนเดิม เดินเองไม่ไหว เลยต้องยังพึ่งคำปรึกษาเพื่อพิจารณาจากบอร์ดครับ
    เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมทำได้คือ ตัดปลิโพธทั้ง 10 ได้ (แค่สั้นๆ ไม่นานมากนัก) มันไม่สามารถทรงได้นาน

    ผมไม่อยากให้เกิดคำว่า ฉันผิด ฉันถูก ขึ้น แต่ผมคิดว่า หากเราใช้คำว่า ลองวิธีนี้ไหม น่าจะดีกว่า

    ครับพี่ ผมหลงประเด็นอย่างที่พี่โพสจริงๆ มัวคิดแต่ว่า เราได้ฌานหรือยัง
    ทำไมไม่คิดว่า เราหลบกิเลส ฆ่ากิเลสได้หรือยัง
    มารเองก็ขยันมาก มาสอบผมทุกวัน จนอาทิตย์ที่แล้วผมแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
    ต้องแพ้มัน ไม่เป็นไร เอาใหม่ มาสู้กันอีกยก

    ปล. ผมเป็นพวกศรัทธาจริตนะครับ การโพสตอบของทุกท่านมีผลกับการตัดสินใจของผม
    แม้ผมจะไม่ได้เอ่ยนาม แต่ผมน้อมรับฟังทุกท่าน และนำไปพิจารณา ขอขอบพระคุณมากครับ

    อยู่กับลม แต่ไม่รู้ลม คือคนที่ตายจากความดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...