พบ"ศพอัศจรรย์"กระดูกเป็นสีทองทั้งตัว

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบ "ศพอัศจรรย์" กระดูกเป็นสีทองทั้งตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มีนาคม 2555 14:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>พบศพ อัศจรรย์ อายุ 88 ปี กระดูกเป็นสีทองทั้งตัว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มีประชาชน แห่มาดูความอัศจรรย์ ของศพดังกล่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>จันทบุรี - ชาวจังหวัดจันทบุรี นับร้อยตะลึงพบศพที่เหลือแต่กระดูกอายุ 88 ปี มีกระดูกเป็นสีทองทั้งตัว โดยญาติเตรียมนำใส่โรงแก้วให้ประชาชนได้เห็นความอัศจรรย์ที่ไม่เคยพบเห็น

วันนี้ (13 มี.ค.55) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องอันน่าอัศจรรย์ ที่ชาวบ้านตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้เล่าขานว่า มีศพที่เหลือแต่กระดูก อายุ 88 ปี กระดูกมีสีทองทั้งตัวไม่เหมือนกับศพทั่วไป

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่โดยเดินทางไปที่สำนักสงฆ์อำพวาวนารามในพื้นที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และพบว่า ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ศิษย์ยานุศิษย์ของสำนักสงฆ์อำพวาวนาราม และประชาชนชาวตำบลคลองขุด และใกล้เคียงนับร้อยคนกำลังช่วยกันนำโรงศพนายเตมีย ใบ้ หรือ นายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ อายุ 88 ปีที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อลี เจ้าอาวาสวัดป่าคลองกุ้ง ที่เป็นพระอุปชาที่บวชให้กับนายเตมีย ใบ้ ที่ได้มรณภาพไปนานแล้ว มาแห่รอบวัดและเพื่อเปิดโรงศพเพื่อดูความอัศจรรย์ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลังการแห่โรงศพของนายเตมีย ใบ้ เสร็จสิ้น ญาติของผู้เสียชีวิต และนายภาชน์ วะโร อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้อาสาเป็นผู้เปิดโรงศพเองและเมื่อเปิดฝาโรงศพขึ้นมาญาติพี่น้อง ศิษย์ยานุศิษย์ และประชาชนที่มาร่วมในการทำบุญใหญ่ที่ผู้เสียชีวิตเคยให้ไว้ก่อนตายและให้มีการนำศพขึ้นมาเผาเมื่อศพครบ 15 ปี ประชาชน ศิษย์ยานุศิษย์ และญาติพี่น้องกับต้องตะลึงในความอัศจรรย์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เนื่องจากพบว่าศพของนายเตมีย ใบ้ หรือนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ อายุ 88 ปี ผู้ที่เคยทำประโยชน์ในการสร้างสำนักสงฆ์อำพวาวนาราม กระดูกทั่วร่างกายตั้งแต่ศีรษะถึงเท้าเป็นสีทองทั้งหมด และเป็นศพที่มีความอัศจรรย์ ที่ไม่เหมือนกับศพอื่นๆ ทั่วไป ที่ในความเป็นจริงแล้วกระดูกของผู้เสียชีวิตจะเป็นสีขาว

เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปประชาชนจากทุกสารทิศต่างเดินทางเข้ามาดูความอัศจรรย์ศพสีทอง ของนายเตมีย ใบ้ อย่างต่อเนื่อง ประชาชนบางคนถึงกับจุดธูปเทียน กราบไหว้ขอหวยแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล

นายภาชน์ กล่าวว่า ตอนแรกญาติพี่น้องตั้งใจที่จะเอาศพที่เหลือแต่กระดูกของนายเตมีย ใบ้ ไปเผาตามคำที่ผู้เสียชีวิตได้ให้ไว้เมื่อศพครบ 15 ปี แต่ทั้งนี้ เห็นว่าศพที่เหลือแต่กระดูกเป็นสีทองทั้งตัวทางญาติมีมติเห็นว่าควรที่จะซื้อโรงแก้วเพื่อมาบรรจุเก็บศพที่เหลือแต่กระดูกของนายเตมีย ใบ้ เพื่อให้ประชาชนที่ไม่เคยเห็นได้เข้ามาดูความอัศจรรย์ ที่เหลือเชื่อต่อไปอีกด้วย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา :::
Local - Manager Online

 

มองไม่ชัดครับภาพมันไกลเกินไปครับ

 

พระอรหันต์เกิดขึ้นแล้ว เป็นปัตจัตตังนะค่ะ

 

สีเหลืองแก่เก่าๆๆ หรือ สีทอง กันแน่ ขอชัดๆๆ

 

อย่าพึ่งด่วนสรุปอย่างนั้น ทั้งภาพและรายระเอียดอื่นๆก็ยังคลุมเคลือและคำว่าปัจตังนั้นก็ไม่ควรนำมาพูดพร่ำเพรื่อเพราะเมื่อนำมาเขียนเป็นประโยคเต็มๆอย่างนี้"พระอรหันต์เกิดขึ้นแล้ว เป็นปัตจัตตังนะค่ะ"เท่ากับว่าผู้พูดย่อมมีสถานะเป็นอรหันต์เช่นกัน หากท่านไม่อยู่ในสถานะนั้นๆก็ไม่ควรไปพยากรณ์อย่างนั้น...ข้อสังเกตุ
๑.กระดูกที่เห็นในภาพสีออกเหลืองๆไม่ใช่ทองซึ่งธรรมดาของกระดูกหรืองาเมื่อสัมผัสกับอากาศสีก็มักออกเหลืองได้เช่นกัน
๒.ผู้ที่บรรลุอรหัตน์มรรคอรรหัตน์ผลไม่สามารถอยู่ในเพศฆราวาสได้

 

อาตมาว่าถ้าเราเป็นชาวพุทธไม่ควรจะเชื่ออะไรง่ายและไปหลุ่มหลงกับของพวกนี้เพราะมันไม่ใชทางที่จะพบมรรคผลนิพาน

 

แค่ฉายา ก็มีนัยยะแล้ว

 

เฮ้อ อย่าพึ่งไปแปลเจตนารมณ์แบบอื่นสิค่ะ ดิฉันก็พูดไปตามที่เห็นนั่นแหละค่ะ ไม่ได้เป็นพระอรหันต์นะค่ะ อยากพูดอะไรเยอะกว่านี้อยู่ค่ะ แต่พูดไม่ได้.........................................

 

ใครมีปัญญาขอให้พิจารณาว่าโลกนี้ สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ สุดท้ายต้องสลายตัวเหมือนโครงกระดูกนี้ เขาเป็นเช่นใด เราก็เป็นเช่นนั้น

 

คือมันแตกต่างจาก ศพอื่นใช่มั๊ยฮะ มันเลยแปลก

 

ขอกราบอนุโมทนาบุญ


งานรายได้เสริม งานคีย์ข้อมูลออนไลน์ | งานพิเศษ งานเสริมรายได้

 

เถียงกันทำไมเรื่องแค่นี้อ่า

พระอรหันต์ก็เกิดตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว พระอรหันต์เกิดขึ้นแล้ว ก็ถูกของเขา^^

 

อืม...น่าสนใจคับ.....

 

ข้อ 2 อยู่ได้ ครับ แต่อยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ดูท่านพาหิยะ เป็นตัวอย่าง ครับ

 

จุดธูปขอหวยอีกเเล้วพี่ไทยเห้อ! ปวดหัวใจ

 

ขออธิบายเพิ่มเติมในส่วน ทั้งสองท่าน
1.พระอรหันต์ผลสามารถเป็นได้ในเพศฆราวาสครับ ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า
มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ

2.ถ้าผู้ที่อยู่ในเพศฆราวาสหากสำเร็จเป็นพระอรหันต์อยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ตรงนี้ไม่เป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นมิเท่ากับว่าอริยมรรคเป็นฆาตรกรใช่หรือไม่ ถ้าหากท่านต้องการอยู่ต่อไปก็ย่อมทำได้ ท่านก็มีวิธีการของท่านเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน พระพาหิยะนั้นที่อยู่ได้ไม่เกิน7วัน เพราะเป็นกรรมครั้งอดีตชาติของท่านมาส่งผลจึงทำให้อายุสั้น ไม่เกี่ยวกับมรรคผลที่ท่านได้รับแต่ประการใด

พระอรหันต์ในเพศฆราวาส ไม่เหมาะแก่การครองเรือนซึ่งมีแต่ความวุ่นวาย

ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจอาจจะทำการตำหนิท่านบ้าง กลั่นแกล้ง ใช้ทำงาน ฯลฯ

แทนที่จะทำบุญได้ผลมาก กลับกลายว่าได้บาปมากโดยไม่รู้ตัว

 

เห็นด้วยกับพรคุณเจ้าคะ อนุโมทนาสาธุ

 

พระไม่ใช่อยู่ที่เพศ หญิง เพศชาย ไม่อยู่ที่เสื้อ ไม่อยู่ที่สี ไม่อยู่ที่ยศศักดิ์ แต่อยู่ใจไม่ทำซึ่ง
ความชั่วทั้งปวง มีพระโสดาบันเป็นต้น พระบรมศาสดาเรียกว่าพระนะครับ

 

ก็แปลกดีครับ สีทองด้วย