ฝากคำถามถึงขันธ์ครับ...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฟางว่าน, 16 มีนาคม 2012.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ก็ใช่อีกแหละ ขอบคุณ เราจะไม่ประมาท
    อานิสงส์ใดที่เราทำไว้ดีแล้ว ก็ให้ท่านได้รับอานิสงส์นั้นด้วย ให้ท่านสมปรารถนาทุกประการ สาธุ ๆ
     
  2. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    จ้า ไม่ได้ประมาทอะไรนีนา หนูไม่ได้ใช้ บัตรเติมเงา นี้น่า
    ทุกคนมีกิเลสหมดแระเนอะ แต่ว่า การเห็นแต่ละคนมันมันเท่ากันลูกพี่
    ไม่ซินะ หนูมองพี่ว่า พี่อ่ะมีธุระ แต่กับสัญญาเจตสิค
    เนี้ยพูดภาษาอภิธรรม ด้วยนะ เอ จะคิดว่าเค้าติดตำราหรือเปล่า

    อย่าใช้บัตร เติมเงา มากนะ มันเปลือง
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    นี่ ๆ น้องนานา อย่ามัวแต่ไปวัดผลวัดกำลังใจคนอื่นอยู่เลย วัดผลตนเองก่อนดีกว่า

    เอางี้จะชวนชี้ให้สำรวจใจตนเองนะ ว่าเธอพัฒนาขึ้นหรือแย่ลง เราไม่ตัดสินเธอแต่ให้เธอพิจารณาตัวเธอเอง

    เอาง่าย ๆ นะ ลองกลับไปทบทวนตัวเองดู ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่รู้จักกันมาจนกระทั่งถึงวันนี้ นิสัยของเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง เธอทำตัวให้เกิดมงคลกับชีวิตบ้างหรือไม่ เอามงคล ๓๘ ประการมานั่งไล่ดูก็ได้ อย่างเช่นข้อ คาระโว จะ
    ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเธอ เป็นอย่างไร ตั้งแต่เรารู้จักกันจนกระทั่งถึงวันนี้ ดีขึ้นหรือแย่ลง ตอบใจตัวเองไม่ต้องตอบพี่

    หากเธออยากวัดความโกรธของพี่ ๆ หรือใคร ๆ ก็ให้ลองสำรวจใจตนเองเสียก่อน ลองมองย้อนกลับไปดูตัวเองก่อนว่า เวลาเธอโกรธนั้น เธอยังสามารถเตะแมวได้อยู่หรือเปล่า ถ้ายังโกรธถึงขั้นเตะแมวได้นี่ เธอก็อาจจะเตะพี่ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้น จะหมายถึงว่าอารมณ์ใจของผู้นั้นยังหยาบอยู่มาก

    การฝึกสมาธิถ้าผลออกมาเป็นแบบนี้ แสดงว่ายังใช้ไม่ได้ เมื่อสมาธิที่ฝึกยังใช้ไม่ได้ เรื่องการสัมผัสจะเชื่อได้หรือ เพียงคุณธรรมง่าย ๆ เช่น สัมมาคารวะ ความเคารพ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ถ้ายังไม่มี นี่มงคลหายอัปปมงคลเริ่มเกิดแล้ว รีบแก้ไข

    ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่อย่าเพิ่งมาคุยมาวัดใครให้เสียเวลา จะเป็นบาปแก่ตัวเปล่าๆ อย่ามัวมาวัดรอยเท้าผู้อื่นอยู่เลย ถึงบอกไงว่า อย่ามองข้ามตัวเอง ให้เห็นตัวเองให้จริง ๆ เสียก่อน ทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันใหม่

    ถ้าเธอเข้าใจได้เมื่อไหร่นะ อีกหน่อยเธอจะนึกถึงคำของพวกพี่ ๆ บางคนที่นี่เอง จะรู้แล้วว่า อันไหนจริงอันไหนปลอม หาของจริงในตัวเองให้เจอก่อน...หาของจริงในตัวเองให้เจอก่อน แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ก็ยังไม่สายนะ
     
  4. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    นานาจะรับไว้พิจารณาค่ะ

    นานาเตะแมว แล้วมาบอก เอออันนี้เราทำไม่ดีมา เราจะปรับปรุงตัว
    บางคนเตะเมีย แล้วไม่บอกก็อาจจะมีได้นะ
     
  5. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นอกเรื่องนิดนึงนะครับ
    นานาจังเตะแมว จิตตินนท์เตะหมาครับ
    แล้วสอนให้หมาเตะกลับด้วย ตอนนี้พอพูด เตะหมาๆ หมาก็จะยกขาหน้ามาเตะกับเท้าจิตตินนท์ทันที(บางทีหมาก็ขี้เกียจ เลยโดนจิตตินนท์เตะเล่นจริงๆ)
     
  6. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,456
    สงสัยคุณคงสับสนอะไรแน่ครับ
    ตกลงจิตมีหรือไม่มีครับ
    เดี๋ยวโพสต์นั้นพูดถึงจิต แ่ต่โพสต์นี้้กลับบอกว่าจิตไม่มี

    ว่างในขั้นสมาธินี่มันว่างจากความคิดความปรุงแต่ความรู้นี่ไม่ว่างครับ
    ที่คุณพูดมานี่มันยังหยาบอยู่จิตยังไม่เป็นสมาธิเลย
    อยู่ดี ๆ ก็บอกว่าว่าง ๆ มันว่างยังไง
    เดี๋ยวมันก็คิด แล้วคิดอีก ยังจะมาบอกว่าว่างอีก
    เดี๋ยวโล่งเดี๋ยวโปร่งเดี๋ยวตึงเดี๋ยวแน่นมันมั่วไปหมด
    สมาธิอะไรเป็นแบบนั้น

    ถูกแล้วครับคุณยังต้องฝึกอีกมาก
    พูดออกมามันมั่วไปหมด
    จับหลักจับเกณฑ์อะไรยังไม่ได้เลยคุณนี่
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ความเห็นส่วนตัวแล้วแต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ...

    จิตในความหมายของพระโสดาบันคือความรู้สึกนึกคิด หรือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จิตในความหมายของพระสกทาคามีคือผู้ที่เป็นองค์สมาธิอยู่ที่กลางท้อง เป็นดวงกลมๆใสๆสว่างมากหรือน้อยขึ้นกับความบริสุทธิ์ใจของผู้ปฏิบัติ จิตในความหมายของพระอนาคามีคือเป็นองค์รวมอยู่ที่กลางหน้าอก ถ้าภาวนาถึงขั้นนี้ก็ปักลงที่ตรงนี้.........ท่านอื่นเชิญแบ่งปันกันด้วยนะครับ.........
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก ที่กล่าวมานั้น นั่นยังวนเวียนอยู่กับรูปเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวจำแนก พระอริยบุคคล

    พระอริยบุคคล ต่างกัน รู้จักกิเลส ต่างกัน มีอวิชชา มากน้อยต่างกัน แต่เห็น อริยสัจเหมือนกัน

    ไม่เกี่ยวว่าเห็นจิตตรงนั้นตรงนี้
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เอาเถอะท่านเตชฯ ผมเชื่อในความปรารถนาดีของท่าน ตรงนี้มันเป็นกุศลอย่างหนึ่ง

    ท่านเตชฯ เรามีวิธีเช็ควัดผลการปฏิบัติของเราเองว่า มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงไรได้ โดยดูจากคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เช่น คนที่อยู่ในบ้านเดียวกันกับเรา หรือเพื่อนร่วมงานก็ได้ครับ โดยใช้วิธีสังเกตอากัปกิริยาของพวกเขาที่มีต่อเรา ถ้าพวกเขาแสดงอาการอิดหนาระอาใจ ไม่พอใจ เหนื่อยหน่าย เบื่อหน่าย เจอหน้าเป็นเดินหนี ไม่พูดด้วย หรือในบ้านมีแต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ มีแต่เรื่องวุ่นวาย มีคนเสียใจเพราะการกระทำของเราบ่อย ๆ มีคนหาว่าเราเป็นคนดื้อมีทิฏฐิมาก มีอาการงอนเกิดขึ้น อันนี้แสดงว่า จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แสดงออกหรือกระทำออกไปจากตัวเรา

    ธรรมดาแล้วเมื่อปฏิบัติธรรมจนมีความเข้าใจตนเองได้มากขึ้น การเข้าใจผู้อื่นก็จะมากขึ้นด้วย ยิ่งเข้าใจในธรรมได้มากขึ้นเท่าใด ความเมตตาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และใจที่เป็นกลางอิสระจากความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน จะทำให้ความรู้สึกลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชังลดลง ที่จริงต้องไม่มีเลย ผิดว่าตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก แม้แต่คนชั่วร้าย (ในสายตาเรา) ถ้ากล่าวธรรมถูกต้องก็สามารถสรรเสริญได้อย่างสนิทใจ นี้เป็นวิสัยของผู้เห็นความจริงแล้ว

    ด้วยความเห็นที่ถูกตรง เป็นสัมมาทิฏฐิ รู้ชัดถึงในเหตุที่ทำให้หลงเป็นทุกข์ได้ชัดเจนแล้ว เราผิดพลาด เราหลงอะไรมาเรารู้ชัดแล้ว จึงทำให้เป็นคนที่มีความซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเอง เมื่อเห็นว่าที่ผ่านมาเราได้หลงทำทุกข์โทษภัยให้กับตนเองมากมายเพียงไร ก็พลอยทำให้รู้สึกสงสารเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน ตั้งแต่ญาติสนิทมิตรสหายเป็นต้นไป แต่เพราะเรารู้จัก เราปล่อยวางได้แล้ว การแนะนำจึงมักไม่กระทำอย่างผลีผลาม เอาตนเองเป็นใหญ่ รักษาน้ำใจกันไว้ เมื่อมีผู้ไม่รู้หลงโกรธหลงกล่าวโทษให้ เรามีสติไม่หลงโกรธตอบได้ มีจิตว่างพิจารณาตามเหตุตามผลด้วยเมตตาแล้ว ไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุซ้ำเติมผู้นั้นให้จิตตกต่ำลงไปอีก นี่คือการเจริญเมตตาอย่างหนึ่ง ความโกรธฆ่าผู้อื่นได้ฉันใด ความโกรธอันนั้นก็ฆ่าเราได้ด้วยฉันนั้น เรื่องราวในครั้งพุทธกาลเป็นตัวอย่างที่ดีดังนี้ครับ

    พระพุทธเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ พราหมณ์อสุรินทกะ ทราบว่าเพื่อนรัก ไปบวชในสำนักพระพุทธเจ้า เขารู้สึกโกรธแค้นพระองค์มาก ได้รีบไปเฝ้าถึงที่ประทับ เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้ว เขาก็ระดมคำด่าอันหยาบคาย ใส่พระองค์จนนับไม่ทัน พระพุทธเจ้าทรงนิ่งให้เขาด่าข้างเดียว เขาด่าจนพอใจแล้ว จึงคิดว่า พระพุทธเจ้ายอมแพ้เขาแล้วจึงพูดว่า

    “พระสมณะ! เราชนะท่านแล้ว พระสมณะ! เราชนะท่านแล้ว”

    พระพุทธองค์ตรัสตอบด้วยพระเมตตาว่า

    “ – คนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าชนะท่าเดียว
    - แต่ความอดกลั้นไม่ได้ตอบโต้ เป็นความชนะของบัณฑิต
    - ผู้ใดโกรธตอบคนผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นคนเลวกว่าผู้โกรธก่อน
    - ผู้ไม่โกรธตอบคนที่โกรธแล้ว ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะได้ยาก
    - ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติสงบอยู่ได้ ย่อมเกิดคุณทั้งสองฝ่าย

    สุดท้าย พราหมณ์อสุรินทกะเกิดความเลื่อมใส ทูลขอบวช ครั้นบวชแล้วไม่นาน ปลีกตนไปบำเพ็ญเพียร ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์.

    เครดิตที่มาตามลิ้งค์นี้ครับ
    ท่านเตชฯก็ลองสังเกตดูเล่น ๆ ก็ได้ครับ


    โชคดีนะครับ...

     
  10. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,456
    คุณคิดไปเองทั้งนั้นครับ
    คิดว่าคนอื่นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
    ดูเหตุดูผลที่ผมโพสต์สิครับ
    อย่าเอาอารมณ์ความรู้สึกของตนแทรก
    อ่านดูให้ละเอียดแล้วจะเห็นเนื้อหาของธรรมในนั้น

    ถ้าเอาแต่อารมณ์เราถูกเขาผิดนำหน้า
    มันจะจับประเด็นไม่ถูกครับ

    ผมบอกตรงผมเอาธรรมที่รู้ที่เห็นมาพูด
    ถึงจะให้พูดอ่อนพูดหวานก็ไม่มีใครฟังหรอกครับ
    มันต้องกระแทกแดกดันบ้างครับถึงจะมีคนฟัง
     
  11. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    จิตเป็นภาคปฏิบัติ..........

    อะไรชื่อว่าหนึ่ง?.........
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ท่านเตชฯ ที่ผมกล่าวอ้อม ๆ มาทั้งหมดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับท่านนั้น จุดประสงค์จริง ๆ เพื่อจะบอกเป็นนัย ให้ท่านทราบว่า ที่ท่านกำลังเข้าใจว่าตัวเองได้หรือเข้าถึงภูมิอะไรอยู่นั้น ยังไม่ใช่ภูมิของอริยบุคคลหรอก ซึ่งระดับท่านน่าจะพอเดาออกได้อยู่แล้วว่าผมต้องการสื่ออะไร เพียงแต่กิเลสมันปิดใจท่านไม่ให้รับในส่วนนั้นเอง โดยเอาเรื่องอื่น ๆ มากลบความจริงตรงนั้นไว้ ไม่ให้ท่านเห็นจริงตาม กิเลสมันกลัวท่านจะรู้ความจริงน่ะ ตอนนี้ผมคงช่วยอะไรท่านมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่คนที่ยังพอจะช่วยท่านได้สำหรับในเว็บนี้นั้นก็ยังพอมีอยู่บ้าง ซึ่งเท่าที่ผมตามอ่านมา ท่านเหล่านั้นก็ได้มีเมตตาแก่ท่านไปบ้างแล้ว แต่กิเลสในตัวของท่านมันกลับปิดใจของท่านจนหมด มันไม่ยอมรับฟังแถมยังแฝงใจของท่านให้ไปปรามาสท่านเหล่านั้นเข้าเสียอีก กิเลสมันปิดโอกาสของท่านหมดเลย น่าเสียดาย ๆ ๆ ยังไง ๆ เสียขอให้ท่านรู้ทันและเอาชนะกิเลสตัวการร้ายตัวนั้นให้ได้นะ

    เอาไว้มีโอกาส กิเลสตัวนั้นมันอ่อนกำลังลงบ้างแล้ว ถึุงตอนนั้นเราค่อยคุยกันใหม่นะ
     
  13. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,456
    นี่มันความคิดของคุณครับ
    จะผิดจะถูกมันก็แค่ความคิดของคุณ
    จะให้ผมไปห้ามคุณคิดอย่างนี้มันก็ไม่ได้
    อยากคิดอะไรก็คิดไปถึงครับ
    มันก็แค่ความคิดเท่านั้นล่ะ
    อย่าไปหลงเชื่อมันมาก
    มันหลอกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
    เมื่อรู้ว่ามันหลอกเมื่อไหร่ก็พอจะเห็นทางได้บ้างครับ
     
  14. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    Apologize..........

    ขอโทษคุณขันธ์ครับ คุณขันธ์ปรารถนาพุทธภูมิหรือเปล่าครับ? ถ้าถามผมว่าอะไรชื่อว่าหนึ่ง ผมตอบตามภูมิธรรมว่า "จิต" ชื่อว่าหนึ่งครับ ย้ำว่า ตามภูมิธรรมนะครับ ขอแบ่งปันนะครับ ตัวสมุทัยน่ะประกอบไปด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน อุปาทานละด้วยสมถะกรรมฐาน.........
     
  15. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เรื่องปัญญาวิมุตติ และเจโตวิมุตติ หลวงปู่มั่นได้เคยอธิบายไว้แล้วใน "มุตโตทัย" ท่านว่า ไม่ควรไปแยกประเภทแบบนั้น เนื่องจาก ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องบริบูรณ์เสียก่อน จึงจะวิมุตติได้ จะอาศัยเฉพาะปัญญา หรือ สมาธิ ยังไม่เพียงพอ เพราะมรรคไม่ครบองค์
     
  16. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ก้าวหน้าไปเรื่อย...

    ตอนนี้จิตผมย้ายมาอยู่ที่ใจแล้ว คุณขันธ์ คุณสับสน คุณแพทริกซ์ช่วยวิจารณ์หน่อย ขอสัญญาว่าไม่โกรธ ท่านใดจะชี้แนะเชิญครับ ทิฏฐิของผม รูปกายเป็นอนัตตา ส่วนวิญญาณเป็นอัตตา ธรรมไม่เกิดไม่ดับนั้นมีอยู่ คือธรรมนิพพาน เป็นอสังขตธรรม ปราศจากความปรุงแต่งและไม่เจือด้วยสิ่งปรุงแต่ง ผมยังทำไม่ได้ครับแต่รู้ อ้าว! ก็ไม่มีใครถาม 555
     
  17. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    มันก็เป็นเวรกรรมของเขาแล้วเราจะไปเอามาเทียบกับตัวเองทำไม เขาไม่ดีมันก้อตัวเขาเราไม่ดีมันก็ตัวเรา เมื่อมันไม่ดีหากเราอยากจะดี ก็อย่าเอาไปเทียบว่าเตะแมวตัวเล็กกว่าไม่เป็นไร เตะเมียตัวใหญ่กว่าบาปกว่า คือ เรื่องของเรื่องถ้ามันไม่ดีก็อย่าไปคิด หากเราควบคุมเราเองได้ก็มีแต่คนอนุโมทนาเทวดาก็ชอบ ผีสางทั้งหลายก็รัก ใคร่เอ็นดู (เดาเอา) ช่างเหอะใส่ใจตนเองดีกว่าใส่ใจคนอื่น การเตะเมียมันไม่ดีมันบาป แต่หากเทียบได้การทำแบบนั้นกับบุพการีมีบิดามารดานั้น บาปเป็นร้อยเป็นพันเท่า สุดท้ายก็อย่าไปเทียบดีกว่า ทำดีไว้มากๆก็พอครับ
     
  18. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คุณ KENNY ชอบนั่งกำพระรึเปล่า ^^
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ......................ดูอภิชฌา และ โทมนัส นั่นแหละครับ...สิ่งนี้พอบอกเราได้:cool:
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ดูยังไง ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...