เมื่อถูกด่าควรทําอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 19 มีนาคม 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    121 เมื่อถูกด่าควรทำอย่างไร

    ปัญหา เมื่อเราถูกโกรธก็ดี ถูกด่าก็ดี เราควรทำอย่างไร ควรจะโกรธตอบ ด่าตอบ หรือควรจะเฉยเสีย ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนพราหมณ์..... ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นเราผู้ไม่หมายมั่นอยู่ เราไม่รับรู้เรื่องมีการด่าเป็นต้นของท่านนั้น ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าของท่านผู้เดียว ดูก่อนพราหมณ์.... ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่ หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่.... ผู้นี้ เรากล่าวว่า ย่อมบริโภคร่วมกัน ย่อมกระทำตอบกัน เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้น เป็นของท่านผู้เดียว”

    อักโกสกสูตรที่ ๒ ส. สํ. (๖๓๒)
    ตบ. ๑๕ : ๒๓๘ ตท. ๑๕ : ๒๒๕
    ตอ. K.S. I : ๒๐๒
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ต้องพิจารณานะ บบบ.

    ว่า เคสนี้คือ การตอบของผู้สิ้นตัณหา จะมี ฐานะตอบแบบนี้ได้

    ถ้า ปุถุชน แอบลักขโมยลีลาแบบนี้ เป็น กิจ หรือ กริยา ตน เขาเรียก "ลิงหลอกเจ้า"

    ประมาณว่า เอามงกุฏ และ พระขรรถ์ ของพระราชามาสวมใส่ และแกว่งไกวใส่ ผู้อื่น
    แล้ว วางมาดว่า ข้าแน่ ข้าหนึ่ง ข้าไม่โกรธใคร

    ดังนั้น

    ปุถุชน เวลาเจอคนด่า ทำอย่างไร เราก็ประยุกต์ไปตามความเป็นจริงว่า
    อาการใดบ้าง ที่เรายังเสพร่วม

    เช่น เห็นเขาโพสพระสูตรเมื่อไหร่ ก็ออกมา "ฮืมม....จริงหรือ ?" พอใคร
    โพสพระสูตรเมื่อไหร่ หากไม่ใช่พวกตน ก็จะออกมาพูดว่า พวกไม่ปฏิบัติ
    เอาแต่ จับตำรา

    แต่พอโพสไหน มาตามตำรา แต่ไม่เคยเป็นปฏิปักษ์มาก่อน ก็ โอยยย มาโมทนา
    ถือเอาเป็น มงกุฏ เป็น พระขรรภ์ แกว่งไกว

    พอดูให้ละเอียด ก็ จะ อ๋อ มีการเสพร่วมจริงๆ
     
  3. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>อย่าโกรธเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า


    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือ
    ติเตียนพระสงฆ์ ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคืองไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น

    เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคืองหรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น
    อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้นก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง
    หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม ติเตียนพระสงฆ์จะรู้ได้ละหรือว่า

    คำกล่าวของคำเหล่านั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต)หรือไม่ดี (ทุภาษิต) "ไม่ทราบ พระเจ้าข้า "

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย !ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริงในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม
    หรือติเตียนพระสงฆ์ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเราข้อนั้นไม่ปรากฎในพวกเราดังนี้ "



    ดูกรภิกษุทั้งหลาย

    บัดนี้เธอทั้งหลายนั่งประชุมสนทนาอะไรกันและเรื่องอะไรที่พวกเธอพูดค้างไว้
    เมื่อตรัสอย่างนี้แล้วภิกษุเหล่านั้นได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
    พระพุทธเจ้าข้า ณ ที่นี้เมื่อพวกข้าพระพุทธเจ้าลุกขึ้น ณ เวลาใกล้รุ่ง
    นั่งประชุมกันอยู่ที่ศาลานั่งเล่นเกิดสนทนากันขึ้นว่า

    ท่านทั้งหลายเท่าที่พระผู้มีพระภาคผู้รู้เห็นเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงทราบความที่หมู่สัตว์มีอัธยาศัยต่างๆ กันได้
    เป็นอย่างดีนี้ น่าอัศจรรย์นักไม่เคยมีมา

    ความจริง สุปปิยปริพาชกนี้ กล่าวติพระพุทธเจ้า ติพระธรรม ติพระสงฆ์โดยอเนกปริยาย

    ส่วนพรหมทัตตมาณพอันเตวาสิกของสุปปิยปริพาชก กล่าวชมพระพุทธเจ้าชมพระธรรม ชมพระสงฆ์โดยอเนกปริยาย
    อาจารย์และอันเตวาสิกทั้งสองนี้มีถ้อยคำเป็นข้าศึกแก่กันโดยตรง ฉะนี้

    ข้าพระพุทธเจ้าเดินตามพระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ไปข้างหลัง เรื่องนี้แลที่พวกข้าพระพุทธเจ้า พูดค้างไว้ พอดีพระองค์เสด็จมาถึง.


    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรมติพระสงฆ์ ก็ตาม
    เธอทั้งหลายไม่ควรอาฆาต ไม่ควรโทมนัสน้อยใจไม่ควรแค้นใจในคนเหล่านั้น

    ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
    อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่

    ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
    เธอทั้งหลายจะพึงรู้คำที่เขาพูดถูก หรือคำที่เขาพูดผิดได้ละหรือ?

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้อนั้นเป็นไปไม่ได้ทีเดียว พระพุทธเจ้าข้า.

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย

    คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น
    คำที่ไม่จริง เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่านั่นไม่จริงแม้เพราะเหตุนี้ นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้
    แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลายและคำนั้นจะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์
    เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระหยิ่มใจในคำชมนั้น

    ถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจจักกระหยิ่มใจในคำชมนั้น
    อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือชมพระสงฆ์ในคำชมนั้น
    คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่านั่นจริงแม้เพราะเหตุนี้ นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้
    แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลายและคำนั้นจะหาได้ในเราทั้งหลาย


    ที่มา : พรหมชาลสูตร ๙/๓ พระไตรปิฎกฉบับประชาชน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2012
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ไม่ถึงขั้นสิ้น ก็ทำแบบนี้ได้ครับ
    คือมันเกิด แต่ยังเห็นมันทัน ควบคุมมันไว้ได้ทัน ก่อนแสดงออกไป
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ถ้าเป็นการ ควบคุม ก็แน่นอนหละคร้าบว่า มันต้องได้

    แต่ ในที่นี้ คุณ 3b นี่แต่ไหนแต่ไร เขาเริ่ม ด้วยการ ปรามาส
    แล้ว การภาวนาของเขาก็สามารถสาวไปหาเหตุได้แล้วว่า ที่เขาปรามาส
    ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะ เขาซะใจ หากใครมาด่าเขา แล้วการทีเขา
    ปรารภเป็นอรหันต์บ้าง ปรารภเป็นโพธิสัตว์บ้าง ได้ชื่อว่า เป็นคนดี
    ธรรมคุ้มครอง คนเลวที่มากระทำเขา จะถูกตบเลือดสาด หรือไม่
    ก็เมียแท้งลูกตายไปเลย

    ตรงนี้ทำให้ ธรรมบทนี้ ที่เขายกมา ถ้า ยกมาในลักษณะเดิม
    คือ เพื่อ ยกตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ คนที่มาดากู ต้องมีอันเป็น
    ไป หรือ รับคำด่าของตัวเองคืน มันก็ เข้าอีหรอบเดิม ปัญหา
    เดิม ที่ล้างไม่หมด แต่ เปลี่ยนรูปแบบไป

    ไม่แช่ง ไม่โต้ตอบ แต่ ก็ยังแอบซะใจลึก

    ก็เลย ต้องยกดักเอาไว้ว่า ปุถุชน ไม่สามารถ จะ ก๊อปปี้จิตอรหันต์ได้

    ควรที่จะเห็นไปตามความเป็นจริงมากกว่า ว่า เรายังร่วมเสพอาหารบน
    โต๊ะร่วมกับเขา ในลีลาที่ต่างกันไป

    ถ้าเก่งมากๆ ก็จะกลายเป็นแบบ ผู้บริหารเวทจ์ ผู้ยกเวทจ์ ทุกวันคือก็จะ
    เป็นจ้าว เป็นจ้าวที่ชนะกษัตริย์อื่นถึง 18 กษัตริย์ แล้ว ยึดมงกุฏเขามา
    ซ้อนสวมใส่ตน
     
  6. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    เห็นด้วยโครตๆคราบ นึกขำในใจเหมือนกันว่า มันเรื่องอะไรน้าที่พระอรหันต์ต้องมานั่งเล่นอินเตอร์เนต เอหรือว่า เขามีจิตเมตตาสงสารผู้อืนอย่างสุดซึ้ง แต่...ดูๆไปก็ไม่ใช่นี่นา ไม่ใช่แล้วเป็นอะไรละ....(ไม่ได้นึกสะใจนะ)
    สาธุคั๊บคุณพี่นิวรณ์
     
  7. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ข้อนี้จริงแท้ครับ แต่ผมก็เห็นว่า ถ้าคนเริ่มเห็นทางเดินแล้ว อดีตเขาจะเป็นเช่นไร ถ้าอนาคตดูท่าทางกลับใจได้ ก็น่าจะให้โอกาสครับ :)
     
  8. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ปัญหา เมื่อเราถูกโกรธก็ดี ถูกด่าก็ดี เราควรทำอย่างไร ควรจะโกรธตอบ ด่าตอบ หรือควรจะเฉยเสีย ?
    ในคำถาม นั่นมีคำตอบเฉลยไว้แล้ว
    คนที่วางเฉยไ้ด้ คือคนที่สลายความโกรธได้ ถ้าสลายไม่ได้ถึงวางเฉยได้ แต่ก้ยังเก็บไปนอนคิดต่อที่บ้านอารมณ์ค้างยันเช้า คนเราถ้าร้ตัวว่าจะโกรธแล้ว จะรู้จักควบคุมความโกรธได้
    อีกเหตุผลที่ไม่ควรโกรธก้จากประโยคตรงนี้
    "ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้น เป็นของท่านผู้เดียว” คนที่ด่ามาถ้าใจเราไม่รับซะอย่างมันก้ย้อนกลับไปหาใจคนที่ด่าเต็มๆ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ไม่ใช่นะไม่ใช่ อย่า ก๊อปปี้จิตอรหันต์เด็ดขาด ต้องดูตามความเป็นจริง ถึงจะ
    ไม่หลง ภาพ หรือ image ที่สร้างมาลวงตัวเอง

    มาดูกัน

    ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่

    ข้างบนนี้คืออะไร คือ โกรธแล้ว ไม่สามารถปิดวาจาได้ มีการ พูดด่ากลับ
    อันนี้ ก็แน่นอน ถือว่า ร่วมวงด่ากันอยู่

    โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่

    แล้ว วรรคต่อมานี้ ดีขึ้นหน่อย คือ สำรวมวาจาได้ แต่ ใจกระเพื่อมสั่นไหว
    ไปหมด เร้าร้อนไปหมด ยังมีอาการร้อนแรง แล่นไว แบบนี้ก็ยังถือว่า ร่วม
    วงด่ากันอยู่ดี ไม่ใช่ไม่ร่วมนะ

    หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่

    อันนี้ ดีหน่อย คือ จิตไม่กระเพื่อม ไม่สั่นไหว แต่ หูเนี่ยะ หูมันยังคอยเงี่ย
    ฟังอยู่ ว่าพูดอะไร ว่าอะไรบ้าง รับฟังอยู่ หมายๆอยู่ว่า ถ้า มีคำนั้นนะ มี
    คำแสลงใจนะ จะโดดไปเอาให้จั๋งหนับเลย เนี่ยะ แม้นว่าจะมีอินทรีย์สังวรณ์
    แต่ มันยัง "หมายมั่น" รอคำแสลง รออาการแสลง คล้ายๆถ้าไม่เขี่ยะปมกู
    กูก็ไม่ขยับ ถือว่า รับได้เพราะพูดไม่ตรงจุด ไม่รู้จักกูจริง (บางที ไขว้ด้วย
    การถือปืนซุกไว้ในกระเป๋า ถ้ายังพูดอีก ก็แปลว่า ไม่รู้จักกูเสียแล้ว เป็นอาการ
    "หมายมั่น" อย่างหนึ่ง ) แต่ พอพูดโดนปมด้อยปั๊ป เห้ยนี่มันจะมากไปแล้ว
    เสร็จแล้ว พุ่งพรวดไปเลย ( ยิงเปรี้ยงไปเลย )

    หมายมั่น นี่ไม่จำกัดกาลนะ มันเหมือน ห่างออกมา ไม่โต้ตอบ แต่ คอยชะเง้อ
    คอยติดตาม คอยเฝ้ามอง คอยโอกาสอะไรสักอย่าง

    ดังนั้น

    ปุถุชนเนี่ยะ อย่างเก่งก็แค่ ไม่พูดจาโต้ตอบ

    ไอ้ที่ นั่งนิ่งๆไม่กระเพื่อมสั่นไหว มีน้อย

    ไอ้ที่ ไม่คอยติดตาม เฝ้าตาม คอยโอกาส นี่ ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่

    **************

    เช่น

    ผมเข้ามาโพสบทปริยัติปั๊ป มันจะมี 18มงกุฏตัวหนึ่ง ออกมาเย้วๆ ตามโอกาส

    เป็นต้น
     
  10. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    เมื่อถูกด่าควรทําอย่างไร<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT language=JavaScript src="http://a.admaxserver.com/servlet/ajrotator/818517/0/vj?z=admaxasia2&dim=280733&pid=f9495e6b-a541-414e-932e-d0ad5d5e6065&asid=b2a78f01-1304-47c3-8524-8df944047e53"></SCRIPT><!-- Zone Tag : Palungjit dot com Palungjit 300x250 --><SCRIPT type=text/javascript>innity_pub = "978d76676f5e7918f81d28e7d092ca0d";innity_zone = "25638";innity_width = "300";innity_height = "250";innity_country = "TH";</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://cdn.innity.com/network.js"></SCRIPT><SCRIPT>document.write(unescape("%3Cscript src='" + (document.location.protocol == "https:" ? "https://sb" : "http://b") + ".scorecardresearch.com/beacon.js?c1=8&c2=6864323&c3=995&c4=&c5=&c6=&c10=&c15=' %3E%3C/script%3E"));</SCRIPT><SCRIPT src="http://b.scorecardresearch.com/beacon.js?c1=8&c2=6864323&c3=995&c4=&c5=&c6=&c10=&c15="></SCRIPT><NOSCRIPT></NOSCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://as.innity.com/synd/978d76676f5e7918f81d28e7d092ca0d/25638/js/300/250/0/1332136284093"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript>innity_housead = "1";innity_country = "TH";innity_path = "/adnetwork/house/pub_2099/";innity_proxy = "proxy_46097";innity_ord = "ord=[timestamp]";</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://cdn.innity.com/global.js"></SCRIPT><SCRIPT>var _comscore = _comscore || [];_comscore.push({ c1: "8", c2: "6299460" ,c3: "1000000000000000003" });(function() {var s = document.createElement("script"), el = document.getElementsByTagName("script")[0]; s.async = true;s.src = (document.location.protocol == "https:" ? "https://sb" : "http://b") + ".scorecardresearch.com/beacon.js";el.parentNode.insertBefore(s, el);})();</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript>var NetworkID = 18;var AdSpotID = "25638";</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://sea-cdn.effectivemeasure.net/emn.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pub.innityserve.net/lib/innity.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pub.innityserve.net/adnetwork/house/pub_2099/proxy_46097.js?ord=[timestamp]"></SCRIPT><IFRAME style="PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: none; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; HEIGHT: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; PADDING-TOP: 0px" id=_em_inv_frame__emn frameBorder=0></IFRAME><SCRIPT type=text/javascript>google_ad_client = "ca-pub-6037698954609520";/* 300x250, created 21/07/09 */google_ad_slot = "3472486526";google_ad_width = 300;google_ad_height = 250;</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 300px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 250px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 300px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 250px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 onload="var i=this.id,s=window.google_iframe_oncopy,H=s&&s.handlers,h=H&&H,w=this.contentWindow,d;try{d=w.document}catch(e){}if(h&&d&&(!d.body||!d.body.firstChild)){if(h.call){i+='.call';setTimeout(h,0)}else if(h.match){i+='.nav';w.location.replace(h)}s.log&&s.log.push(i)}" height=250 marginHeight=0 frameBorder=0 width=300 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS><NOSCRIPT></NOSCRIPT>
    121 เมื่อถูกด่าควรทำอย่างไร

    ปัญหา เมื่อเราถูกโกรธก็ดี ถูกด่าก็ดี เราควรทำอย่างไร ควรจะโกรธตอบ ด่าตอบ หรือควรจะเฉยเสีย ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนพราหมณ์..... ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นเราผู้ไม่หมายมั่นอยู่ เราไม่รับรู้เรื่องมีการด่าเป็นต้นของท่านนั้น ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าของท่านผู้เดียว ดูก่อนพราหมณ์.... ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่ หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่.... ผู้นี้ เรากล่าวว่า ย่อมบริโภคร่วมกัน ย่อมกระทำตอบกัน เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้น เป็นของท่านผู้เดียว”

    อักโกสกสูตรที่ ๒ ส. สํ. (๖๓๒)
    ตบ. ๑๕ : ๒๓๘ ตท. ๑๕ : ๒๒๕
    ตอ. K.S. I : ๒๐๒

    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเสื่อมสลายไป<!-- google_ad_section_end -->
    อนุโมทนาสาธุครับเจ้าของกระทู้
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แหม...อยากจะบอกว่าให้ชกหน้ามันเลย แล้วค่อยเรียบเรียงเรื่องราว ก็ปุถุชนจะมัวไปคิดได้อย่างลึกซึ้งได้อย่างไร ยกเว้นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีแล้ว จึงจะสามารถระงับอารมณ์อันไม่พึงประสงค์ได้นะ

    แล้วเจ้าของกระทู้ ทำยังไงล่ะ เวลาที่ถูกด่า

    แต่สำหรับเรา พอถูกด่าปุ๊บ ใจมันกระเพื่อมขึ้นปั๊บเลย เห็นตอนที่มันพลุ่งพล่าน ถ้าปล่อยมันตอนนั้น มันต้องกระโจนเข้าไปราวีกับผู้ด่าแน่นอน ทิ้งไว้สักพักมันก็ระงับลง เพราะเฝ้าดูมันอยู่ พอมันรู้ว่ามีคนดูอยู่ มันก็เลยสงบเสงี่ยม ก็ต้องดูด้วยนะว่าคนที่ด่าน่ะ เค้ามีสติปัญญามากน้อยแค่ไหน ถ้าปัญญาน้อยกว่าก็ไม่โกรธ ถ้าเป็นคนที่เรียนรู้ และรู้มากกว่าก็สงสัยว่าผู้มีปัญญา ทำไมจึงไม่คิดก่อนพูด หรือก่อนด่าแค่นั้นเอง คิดแล้วก็วาง ไม่ไปต่อความยาว...สาวความยืด
     
  12. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    เงียบ:cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  13. kengjingjung

    kengjingjung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,366
    ค่าพลัง:
    +1,494
    สาธุๆๆๆ ครับ :cool:

    ถ้าเป็นผม อย่างแรกต้องพิจารณาตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
    ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาด่าหรือที่เขาสมควรโกรธ
    ก่อนจะพูดอย่างอื่น คำแรกที่พูดคือ "ขอโทษ"
    เมื่อพิจารณาตัวเองแล้วว่าเราไม่ผิด
    ถ้าคนนั้นเราคิดว่าไม่ใช่คนพาล เราก็ชี้แจงให้เขาทราบ
    ถ้าเป็นคนพาล เราไม่ต้องชี้แจงอะไรทั้งสิ้น และอยู่เฉยๆ อย่าไปสนใจ (ชี้แจงไปเขาก็ไม่ฟังหรอก)
    เพราะเดี๋ยวเป็นว่าเรายิ่งชี้แจง เรื่องมันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้
     
  14. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    บัณฑิตพึงชี้แจงแก้ปัญหาด้วยปัญญา ว่าไอ้ที่ด่านี่เรื่องมันจริงไหม ด้วยเหตุและผล พิจารณาหาประโยชน์ ดูจุดประสงค์ของการด่า
    บางทีก็มีธงตั้งใจมาด่าโดนตรงกะเคลมของอะไรแบบนี้
    แต่ไม่ควรโกรธตอบผู้โกรธยิ่งทวีความรุนแรง พึงใช้ธรรมะชนะอธรรม


    ผู้ไกลกิเลสย่อมเห็นด่าในด่า ยอมเห็นว่ามิใช่การด่า :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2012
  15. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ถ้าเราผิดก็ขอโทษ ถ้าชี้แจงได้ก็ชี้แจง ถ้าไม่ได้ก็ปล่อยมันไป
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    โอ้โห...จะบอกให้นะว่ามนุษย์เนี่ยร้อยเล่ห์เพทุบาย ชกหน้าก่อนเลย ต่อยให้เลือดกลบปาก แล้วค่อยถามว่า...พูดดีๆ เป็นมั้ย รู้จักมั้ย...โคนันทวิศาลน่ะ ใครๆ ก็ชอบคนพูดจาดีๆ ทั้งนั้นแหละ อยู่ดีๆ มาด่ากันได้ไง เป็นใครมาจากไหน พ่อแม่เลี้ยงมายังไม่เคยด่าเลย (ล้อเจ้าของกระทู้เล่นนะ อย่าไปทำนะ)
     
  17. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    ๑๖.ความอดทน

    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! จิตใจที่ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม คือ นินทาและสรรเสริญนั้น เป็นจิตใจที่ประเสริฐยิ่ง

    ภิกษุทั้งหลาย! ในหมู่มนุษย์นี้ผู้ใดฝึกตนให้เป็นคนอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ จัดว่าเป็นผู้ประเสริฐสุด ม้าอัสดร ม้าสินธพ พญาช้างตระกูลมหานาคที่ได้รับการฝึกดีแล้ว จัดเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ แต่บุคคลที่ฝึกตนดีแล้วยังประเสริฐกว่าสัตว์เหล่านั้น”

    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ผู้อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้สูงกว่าก็เพราะความกลัว
    อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้เสมอกันเพราะเห็นว่าพอสู้กันได้
    แต่ผู้ใดอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้ซึ่งด้อยกว่าตนได้ เราเรียกความอดทนนั้นว่าสูงสุด


    ผู้มีความอดทน มีเมตตา ย่อมเป็นผู้มีลาภ มียศ อยู่เป็นสุข เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เปิดประตูแห่งความสุขความสงบได้โดยง่าย สามารถปิดมูลเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทเสียได้ คุณธรรมทั้งมวล มีศีลและสมาธิเป็นต้น ย่อมเจริญงอกงามแก่ผู้มีความอดทนทั้งสิ้น ภิกษุทั้งหลาย! เมตตากรุณาเป็นพระอันประเสริฐในตัวมนุษย์

    จาก ใบไม้ในกำมือ อ.วศิน อินทสระ

    http://www.dhammajak.net/book-wasin/.--2.html
     
  18. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    " อย่าเลย อานนท์ เธออย่าพอใจให้ตถาคตทำอย่างนั้นถ้าจะต้องทำอย่างเธอว่า เราจะไม่มีแผ่นดินอยู่ มนุษย์เราอยู่ที่ไหนจะไม่ให้มีคนรักคนชังนั้น เห็นจะไม่ได้เรื่องเกิดขึ้นที่ใดควรให้ระงับลง ณ ที่นั่นเสียก่อนแล้วจึงค่อยไป อานนท์ เรื่องที่เกิดขึ้นแก่ตถาคตนั้นจะไม่ยืดยาวเกิน ๗ วัน คือจะต้องระงับลงภายใน ๗ วันเท่านั้น..." แล้วพระพุทธองค์ก็ตรัสต่อไปว่า


    "อานนท์...เราจะอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้อื่น เหมือนช้างศึกก้าวลงสู่สงคราม ต้องทนต่อลูกศรซึ่งมาจากทิศทั้ง ๔ เพราะคนในโลกนี้ส่วนมากเป็นคนชั่ว คอยแส่หาแต่โทษของผู้อื่น เธอจงดูเถิด...พระราชาทั้งหลายย่อมทรงราชพาหนะตัวที่ฝึกแล้วไปสู่ที่ชุมนุมชน เป็นสัตว์ที่ออกชุมนุมชนได้ อานนท์เอยในหมู่มนุษย์นี้ ผู้ใดฝึกตนให้เป็นคนอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ จัดว่าเป็นผู้ประเสริฐสุด ม้าอัสดร ม้าสินธพ พญาช้างตระกูลมหานาคที่ได้รับฝึกแล้ว จัดเป็นสัตว์อาชาไนย สัตว์อาชาไนยเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ แต่คนที่ฝึกตนดีแล้วยังประเสริฐกว่าสัตว์เหล่านั้น"

    " ดูก่อน อานนท์ ผู้อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้สูงกว่าก็เพราะความกลัว อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้เสมอกัน เพราะเห็นว่าพอสู้กันได้(ยังถือว่าธรรมดาๆ) แต่ผู้ใดอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้ซึ่งด้อยกว่าตน เราเรียกความอดทนนั้นว่าสูงสุด

    ผู้มีความอดทน มีเมตตา ยอมเป็นผู้มีลาภ มียศ อยู่เป็นสุข เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เปิดประตูแห่งความสุขความสงบได้โดยง่าย สามารถขุดมูลเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทเสียได้ คุณธรรมทั้งมวล มีศีล สมาธิ เป็นต้น ยอมเจริญงอกงามแก่ผู้มีความอดทนทั้งสิ้น"


    ในที่สุด ทาสและกรรมกรที่พระนางมาคันทิยาว่าจ้างมาด่าพระมหาสมณะก็เลิกราไปเอง เพราะเขาทั้งหลายรู้สึกว่าเขากำลังด่าเสาศิลาแท่งทึบ ซึ่งไม่หวั่นไหวเลย

    ความพยายามของพระนางมาคันทิยาเป็นอันล้มเหลวอาวุโส..พระศาสดาเคยตรัสไว้ว่า


    " ภูเขาศิลาล้วนยอมไม่หวั่นไหวด้วยลมจากทิศทั้ง ๔ ฉันใด บัณฑิตยอมไม่หวั่นไหว เพราะด่านินทาและคำสรรเสริญฉันนั้น "

    และที่สุด ผลกรรมก็ตามทันพระนางมาคันทิยาอย่างสาสมที่สุด ภายหลังจากที่พระนางมาคันทิยากลั่นแกล้งพระศาสดาไม่สมประสงค์ก็หันมาริษยาหาโทษให้พระนางสามาวดี พระนางถูกกล่าวหาหลายเรื่องจนพระเจ้าอุเทนทรงเชื่อ และจะประหารชีวิตพระนางสามาวดี แต่พระองค์ทรงทราบข้อเท็จจริงภายหลัง จึงสั่งประหารชีวิตพระนางมาคันทิยาพร้อมทั้งบริวารและญาติ ด้วยวิธีที่ทารุณอย่างยิ่ง นั่นก็คือการขุดหลุมฝังพระนางมาคันทิยาพร้อมด้วยบริวารผู้สมคบคิดแล้วเผาทั้งเป็นก่อนที่จะใช้ไถคราดจนอวัยวะทั้งปวงขาดกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างน่าสยดสยองที่สุด พระนางมาคันทิยาจึงจบชีวิตลงด้วยกรรมที่พระนางก่อขึ้นเองด้วยอาการดังนี้


    จาก http://palungjit.org/threads/เมื่อพระพุทธเจ้าถูกด่า-เจ้าเป็นสัตว์นรก.300501/
     
  19. jamwattana

    jamwattana สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    ถูกด่าก็ให้รู้ว่าถูกด่า
    ไม่ใช่แกล้งทำเป็น...
     
  20. พยัคฆ์หลับ

    พยัคฆ์หลับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +83
    เมื่อถูกด่า พึงนำหู ซ้ายเข้ารับ ... ให้คำด่า ไหลทะลัก ออกหูขวา
     

แชร์หน้านี้

Loading...