ในที่นี้ มีใครคิดบำเพ็ญเนกขัมบารมีชั่วชีวิต (โสดตลอดชีพ) บ้างครับ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โปเย, 8 มีนาคม 2012.

  1. wattanadist

    wattanadist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ผมเป็นวิศวกรอาวุโสตำแหน่งใหญ่โต อายุได้ 31ปี จริงแล้วผมมีพร้อมทุกอย่าง บ้าน รถ ทรัพย์สิน บริวารและตอนนี้ไม่ได้คิดเรื่องคู่ครองเพราะ ผ่านทุกขเวทมาแล้วถึงสามครั้งสามคราใหญ่ ๆ ในชีวิต...หากแต่ยังเหลือภาระหน้าที่รับผิดชอบที่ยังเป็นตัวผูกมัดผมอย่างแน่นหนา ไหนจะต้องรับผิดชอบลูกน้อง ต้องสอนเขาต้องให้คุณให้เมตตา ไหนจะหัวหน้าหรือผู้มีพระคุณและพ่อแม่พี่น้องที่ต้องให้ความเคารพและซื่อสัตย์จงรักภักดี...การทำบุญทำทานหรือฝึกจิตบ้างบางเวลาเพื่อให้ครายทุกขเวทนาหรือบ่วงพันธนาการเหล่านี้ยังดำเนินต่อไป...จิตดั่งเดิมผมนั้นต้องการคนรักเพียงหนึ่ง...แต่เวลานี้ผมรู้สึกเวทนากับความรักความสัมพันธ์ซึ่งหลายประสบการณ์จากคนรู้จักและคนใกล้ตัวหรือเรื่องราวที่เป็นตำนานผ่านพ้นมาหลายยุคหลายสมัยมันทำให้ผมเข้าใจว่า ท้ายสุดคือการพรัดพรากดังพุทธวัจจนะ...."ผมคงเกิดมาเพื่อคนอื่น" ไม่ใช่เพื่อตัวเอง...ในขณะนี้ผมยังคงต่อสู้กับบ่วงกรรมที่ผมคงก่อไว้ในอดีตก่อน ๆ ซึ่ง ต้องใช้ ทานบารมี ขันติบารมี และเนกขัมมะบารมีเข้ามาเป็นตัวเพิ่มเติมให้ผมยังคงดำรงชีพอยู่ได้เพื่อ ตอบแทนพระคุณและเลี้ยงดูท่าน ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างลึก ๆ แล้วว่า แม้นรูปงามเพียงใด มีทระพย์เพียงใด มีความดีเพียงใด หากแม้นมิได้มีผู้ที่เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมที่จะครอบครองเพื่อให้เธอเหล่านั้นมาร่วมทุกข์กับเราอันมีข้อจำกัด...ยังไงก็มิอาจหลีกหนีชะตากรรมที่ลิขิตไว้ไปได้...หากแต่ปัจจุบันก็ใช้คอนเซ่ปเดียวกันกับ จขกท. เหมือนกันคือ ผมยังชนะกิเลสไม่ได้หรอก แต่ผมชนะกิเลสของผมได้ด้วยการจินตนาการและการชื่นชม มวลหมู่ดอกไม้ที่อยู่รายรอบล้อมตัวผมทั้งหลายหรือที่เข้ามา ด้วยการเพียงแค่ชื่นชม สนทนา แต่ปราศจากผัสสะหรือการครอบครองใด ๆ ทั้งสิ้น.....ผมไม่ชัวร์ว่าตลอดชีพมั้ยแต่ผมกำหนดไว้แล้วว่าหากอายุ 35 ปีบริบูรณ์แล้ว....ผมจะปักธูป 16 ดอกกลางแจ้งลงดินและตั้งจิตอธิษฐานทันที...จะไม่ลังเลใด ๆ อีก
     
  2. kongyai3

    kongyai3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +162
    ไม่โสดหรือมีครอบครัวก็ถือเนกขัมบารมีตลอดชีวิตได้นะ

    ก็โมทนาสำหรับท่านที่คิดบำเพ็ญเนกขัม และครองความเป็นโสด

    แต่ก็บำเพ็ญเนกขัมมะ ไม่ได้ห้ามผู้ใดนะ ทุกคนสามารถถือเนกขัมบารมีนี้ได้
    ส่วนระดับความเข้มข้น ต่างกันตามระดับของจิตใจ
     
  3. lynnicky

    lynnicky สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +8
    ก็ไม่ได้คิดจะบำเพ็ญอะไรหรอกนะครับ

    บังเอิญผมรักคนๆหนึ่ง เขาเสียชีวิตไปแล้ว ผมก็เลยคิดว่า ชาติหน้าผมจะไปขอเธอออกเดทอย่างเป็นทางการ น่ะครับ

    ชาตินี้ผมก็คงใช้ชีวิตเพื่อที่บ้าน ครอบครัว ตั้งใจทำงานตามที่ฝัน หากมีโอกาสก็จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ดูแลตัวเองให้ดูหล่ออยู่เสมอ แค่นั้นล่ะครับ 55+
     
  4. Homealond

    Homealond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +476
    แรกก็ตั้งใจโสดค่ะ มีหมอทักเหมือนกันว่าจะโสด เพราะนิสัยไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ แต่โดนคนทางโลกดึงเยอะมากจริงๆ บอกว่าสวยซะเปล่า เดี๋ยวไม่มีคนเลี้ยงนะ เหงาตายนะ ทำให้แรกๆมันโดดไปมาสองฝั่งน่าดู

    แต่การเปลี่ยนแปลง มีครั้งหนึ่งที่ขับรถเล่นแล้วอารมณ์มันเนือยๆเหมือนเพิ่งออกสมาธิ ตอนนั้นเห็นนกบินคาบใบไม้ เห็นคนคนเดียวขับมอไซด์ และคนคู่ขับมอไซด์ มันก็แว่บมาในหัวว่า การมีคู่เป็นทุกข์ และการมีกายเป็นทุกข์

    แค่นี้แหล่ะ เหมือนมันปลดล็อคในใจ เพราะหลังจากนั้นมา ใจนิ่งมากๆเมื่อเห็นคนมาจู๋จี๋กันต่อหน้า ตั้งใจว่าจะโสดชัวร์ใจมันนิ่งมากค่ะ อารมณ์เหมือน เป็นคนที่อิสระทั้งกายและใจ หมดหน้าที่ดูแลพ่อแม่เมื่อไหร่ ตูขอไปเข้าป่าแล้วบวชตลอดแระ

    ตอนนี้เลยมีความสุขที่สุดด้วย เพราะไม่ต้องไขว่คว้า ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องอะไร มุ่งสู่ปลายทางของที่สุดแห่งทุกข์พอจริงๆ
     
  5. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    สาธุครับ พ้นจากภาวะอิตถีเพศ
    เข้าสู่มหาบุรุษเพศได้ (ไม่มีตัณหา
    ต้องการในเพศใดๆ ทั้งชายและหญิง)
     
  6. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    พ่อกับแม่ของผม ปัจจุบันนอนคนละมุ้ง
    ไม่มีกามแล้วครับ บำเพ็ญเนกขัมฯ จริงๆ
    ไม่ได้แค่ปากพูดให้ดูสวยหรู เท่านั้น
     
  7. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ใช่แล้ว ทุกอย่างย่อมต้องมีเวลาของมัน
     
  8. natsinee

    natsinee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +3
    "ผมคงเกิดมาเพื่อคนอื่น" ไม่ใช่เพื่อตัวเอง... ถูกใจข้อความนี้มากๆ ค่ะอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่า ก็ไม่ได้มีเราเท่านั้น ที่เกิดมาเพื่อคนอื่นค่ะ ตอนนี้เราก็ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอใจแล้วค่ะ
     
  9. ยอดผธู

    ยอดผธู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +272
    อยากเป็นเหมือนคุณจังเพราะตอนนี้อารมณ์เหมือนคุณตอนแรกๆน่ะเดี๋ยวอยากเดี๋ยวไม่พอไม่มีก็ไม่เอานะฉันเหงาแต่เอาจริงๆลังเลอยู่อย่างนี้ก็สุขนี่ตอนนี้สับสนมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยจ้า
     
  10. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ช่วงนี้ ถ้าคุณเติมเต็ม "ภายใน"
    ของคุณเองได้ด้วยพลังจิต พลังสมาธิ
    ในที่สุด คุณก็เหมือน "พระ" ได้ครับ คือ "เต็มอิ่ม"
    ไม่ต้องมีคู่ครับ สิ่งที่พร่องภายในคือพลังบางอย่างเท่านั้นเอง


    (ผมก็ไม่ใช่จะไม่สนใจใครนะครับ สนใจไปแต่เพียงไม่นาน ก็จบ เต็มภายในครับ)
     
  11. ยอดผธู

    ยอดผธู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอบคุณทีบอกจะลองปฏิบัติดูค่ะแสดงว่าให้มีพลังจิตพลังสมาธิถึงสนใจก็จบไปเองใช่ไหมค่ะ
     
  12. khatesi

    khatesi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +53
    ผมคิดไว้หลายปีแล้วครับ (ตั้งแต่เด็กๆ) ว่าจะบวชตอนอายุ29
     
  13. khatesi

    khatesi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +53
    เพิ่มให้อีก(พอดีว่างๆไม่มีอะไรทำอะครับ)

    คือ
    ครั้งแรกตอนเรียนประมาณ ป.1-ป.2 เรียนวิชาเกี่ยวกับพุทธศาสนา คุณครูก็เล่าพุทธประวัติให้ฟัง แล้วอาจารย์ก็พูดสรุปประมาณว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพุทธนี้คือ "นิพพาน" พอผมได้รู้ถึงศัพท์คำนี้ ผมก็เริ่มรักใคร่ในการออกบวชเป็นครั้งแรก

    ตอนเด็กๆผมเป็นคนชอบเถียงพ่อแม่ (เพราะชอบคิดว่าตนเองมีเหตุผล) ตอนนั้น ประมาณ ม.2-ม.3 แม่เลยพูดว่า "ระวังนะ ถ้าเป็นพ่อ เป็นแม่คนแล้วจะโดนกรรมสนอง" (อะไรทำนองนี้ละ นานแล้วจำไม่ค่อยแม่น) ผมก็เลยตั้งใจอธิฐานในใจทันทีเลยว่า "ผมจักไม่ครองเรือนและออกบวชให้ได้"

    หลังจากนั้นก็เริ่มสนใจและศึกษาพุทธศาสนาเรื่อยมา จนสะสมแทรกซึมอยู่ในจิตใจ จนสุดท้ายก็ตั้งจิตอธิฐานครั้งใหม่ว่า"หากได้ทำงานตอบแทนปัจจัยสี่พ่อแม่แล้ว ก็จักขอบวชสะสมบารมีโดยไม่สึกตอนอายุครบ29ครับผม"
     
  14. slither

    slither สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    พอดีผมมีเหตุจำเป็นที่ต้องเป็นโสดและซิงด้วย ก็เลยถือโอกาสบำเพ็ญกุศลทำบุญทำทาน
    ซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่ค่อยมีความยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่แล้ว แค่คิดว่าเกิดมา มีงานทำ
    มีกินมีใช้ ทำบุญบำเพ็ญภาวนา และรอความตายเท่านั้น เพราะผมมีทางเลือกใช้ชีวิตไม่มาก
    ตัวผมเองก็มีความผิดปกติทางกายภาพอยู่ แต่ไม่ได้พิการนะ ไม่ใช้เกย์ด้วย แต่ผมบอกใครไม่ได้จริงๆ พ่อแม่ของผมเองก็ยังไม่ทราบ ซึ่งผมก็ 32 ปีแล้ว พ่อแม่ท่าน ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงโสดจนถึงป่านนี้ ผมก็ไม่รู้จะบอกยัง คือมันจำใจ..เออจะพูดไงดี คือทางธรรมแบบนักพรตมันเป็นทางเดียวจริงๆ ยังไงซะกิเลสผมก็ยังมีอยู่ไม่สามารถที่จะบวชได้ตลอดชีวิต แต่เราก็ทำดีที่สุด เรื่องชีวิตคู่นั้นสำหรับผมตัดไปได้เลย ผมแทบจะเลิกคิดไปแล้ว อยู่คนเดียวดีกว่า ผู้หญิงไหนจะชอบผม เขาจะรังเกียดซะเปล่าๆ ด้วยสิ่งที่ผมเป็นอยู่
    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครเป็นเคสเดียว หรือคล้ายกับผมบ้าง (กึ่งระบายนิดน่อย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...