ชายชราขอทาน...พิการแขนขา...แต่มีเงินทำบุญเป็นล้าน..

พวกกระหายในบุญ อนุโมทนา กันเป็นว่าเล่นเลยฮิ้ววววว

 

พวกขวางความดีคนอื่น หรือพวกที่พยายามชักใบให้เรือเสียก็มีเยอะนะ พูดให้ชัดก็คือ "มาร" ก็มีเยอะนะ

 

บุญกรรม เป็นเรื่องทำแต่ง แล้วแต่เราจะปรุงมันอย่างไร?
เราอยากกินอาหารอย่างไร ชอบแบบไหน เราปรุงอย่างนั้น
อย่างผม ก็ไม่ชอบอนุโมทนาบุญร่วมกับใคร แต่ชื่นชมในใจ
เท่านั้น แต่ถ้ามีคนขอพ่วงอนุโมทนาด้วย ไม่ว่ากันครับ เพราะ
ไม่อยากปรุงแต่งกรรมตัวเองให้เป็นลูกน้องใคร แม้ว่าจะมีเจ้านาย
เลี้ยงดูดีก็ตาม ขอทำบุญด้วยบุญของตัวเอง ดีกว่า "บุญพ่วง" ไม่เอา
แล้วครับ


อนึ่ง บุญนี่ใช่ว่าจะดีไปหมดใช่ไหมครับ? บางคนโลภบุญมาก ที่ไหนมีบุญ
ขอเอี่ยวด้วย แต่ตอนได้รับผลบุญ เคยเป็นไหมครับ? "ว้า ให้ฉันทำไม ฉันไม่
อยากได้เลย" อะไรแบบนี้ นั่นแหละครับ เวลาทำบุญไม่ค่อยพิจารณาให้ดีก่อน
เห็นเป็นบุญก็รีบคว้าเอาเลย


ผมไม่ขัดขวางการทำบุญของใครนะครับ
เพียงแต่เข้าใจว่าคนเราทำบุญต่างกันในรายละเอียด
ใครชอบแบบไหน นิยมอย่างไร ก็เลือกกันไปครับ ส่วนตัวผม
ก็ไม่นิยม "อนุโมทนา" เพียงเพราะเห็นว่าเป็นบุญ เอาไว้ก่อนดีกว่า
เพราะเวลารับจะได้ "ไม่ลำบากใจที่จะต้องรับ" น่ะครับ (โดยเฉพาะบุญพ่วง)

 

ยังมี "เปรตจำนวนมากที่รอการโปรด"
พวกเขาหิวบุญ เพราะมีบุญน้อย ทำไป
เถิดครับ เพราะเปรตก็ต้องทำบุญเอา
ตัวรอดเหมือนกัน


ส่วนท่านไหน ไม่ได้โปรดเปรตแล้ว ก็
จะไม่ยุ่งตรงนี้ ใครจะวางแผนการตลาด
อยู่เบื้องหลัง สร้าง Story เพื่อทำงาน
โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนแห่ตามๆ
กันมาเพราะ "สร้างกระแส" ไม่ใช่ด้วย
"ปัญญา" ก็แล้วแต่เขา เพราะบางทีเขา
อาจมีปัญหาการเงิน ไม่รู้จะฟอกเงินทุจริต
ที่ไหนได้ ก็อาศัยอิทธิพลเข้าไปนั่งในคณะ
กรรมการ วางแผนให้เบ็ดเสร็จ ลงเงินลงขัน
นำไปก่อน เพราะรู้นิสัยคนไทยที่ "ชอบแห่
ตามๆ กันอย่างขาดสติปัญญาพิจารณา" ก็
ส่งผลให้ได้เงินตามมาเยอะ และหมุนเงินกลับ
คืนมาได้ง่ายๆ ครับ แค่เงินเดือนคนทำงาน,
ค่ารับเหมาก่อสร้าง ก็พอทำให้เงินบริสุทธิ์ได้แล้ว


ปล. ไม่ได้ว่าใครนะครับ ใครจะทำอะไรก็ทำไปครับ

 

ได้มากได้น้อยก็ได้เหมือนกัน ยังไงก็อนุโมทนาด้วยครับ

 

ถ้าผมถูกหวยอย่างตาเอี่ยม ผมจะกล้าทำอย่างตาเอี่ยมใหม.......อืม...น่าคิด....ยอมรับนับถือใจตาเอี่ยมจริงๆครับ

 

ผมอ่านแล้วครับ แต่พอดีผมไม่ทราบเลขหรือโต๊ะและงวดที่แกไปแทงน่ะครับ เลยขอตอบว่าไม่รู้ว่าแกได้มาได้อย่างไรและเมื่อไหร่ก็คงไม่ผิดนะครับ

ตอนที่ผมถูกหวยมากๆผมก็ยังแบ่งเอาไปแจกญาติมิตร และ ถวายวัดเลยครับ หรือว่าคนอื่นๆไม่ทำกันครับ? ผมเห็นเค้าทำกันเป็นเรื่องปกตินะ ขนาดผู้หลักผู้ใหญ่ยังชอบพูดเสมอว่า "ถ้าได้โชค ก็แบ่งเอาไปทำบุญด้วยนะลูกนะ จะได้ต่อโชค ต่อบุญ" ผมก็เชื่อผู้ใหญ่ครับ

ถ้าไม่อยากคิดมากก็คิดเสืยว่าตาเอี่ยมแกใช้หนี้วัด ซึ่งเป็นที่พักพิงของแกทั้งค่าสถานที่และอาหารประทังชีวิต ก็มีความกตัญญูต่อวัดดี ดีกว่าได้แล้วไม่ทำอะไรตอบแทนให้วัดเลย

 

คิดแบบเบาๆก็พอครับ อย่าคิดหนักๆ ขอโมทนาในส่วนกุศลที่ลุงได้ทำแล้วในกาลนี้ (ก็เฉพาะส่วนที่เป็นกุศลล้วนๆ).ลุงท่านยังมีจิตระลึกถึงคุณของวัดและยังตอบแทนคุณด้วยเรียกว่ากตัญญูกตเวทิตา ถ้าลุงทรงจิตแบบนี้ได้ตลอดก็ไม่คลาดจากสุคติภพในภายหน้า กำลังใจที่จะไปสวรรค์นั้นไม่ใช่เรื่องหนักเป็นเรื่องเบา คือเบาจากโลภ โกรธ หลงก็แค่นั้น

 

ทำบุญมากก็ดี-ทำบ่อยก็ดี-ทำเยอะก็ดี-ทำน้อยแค่พอตนก็ดี (แต่ไม่ทำบุญเลยไม่ดี)แล้วจะไม่ดีอย่างไรเล่า..ขอรับ อนุโมทนาในบุญที่ท่านทำด้วยครับ.

 

ครับผมก็ว่างั้น มารมันเยอะจริงๆ เผลอๆเยอะซะจนดลจิตดลใจให้คนเรา ดิ้นพล่านกระหายในบุญกันซะมาก จนหน้ามืดตามัวไปหมดไม่ลืมหูลืมตาคิดพิจารณาอะไรให้รอบคอบก่อน เห็นคนทำบุญก็สักแต่ว่าอนุโมทนาๆ(เพราะถ้ามองเพียงผิวเผินการกระทำของลุงแกก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี) ตามๆกันไปโดยไม่ดูองค์ประกอบกันเลยทั้งๆที่โผสบอกกันในนี้ และที่ไม่โผสบอกเพียงแต่อ่านแล้วก็ปลิ้มปิติไปกับลุงแกด้วย

ถ้าลองมองๆดูแล้วถึงแม้เจตนาของลุงเขาจะบริสุทธิ์ก็จริง
แต่เราก็ไม่แน่ใจเท่าไรว่าวัตถุทานบริสุทธิ์มั้ย ? แล้วเนื้อนาบุญหละบริสุทธิ์มั้ย
กับการที่แกถวายเงินให้วัด ให้พระ ? จะเป็นบุญจริงๆหรือเปล่า หรือเป็นบุญร้อน

แต่ดูๆแล้วงานนี้ลุงแกคงได้บริวารเพียบเลยฮิ้ววววว
ไม่ไปดิ้นพล่านอยู่ในนรกเป็นเพื่อนแก ก็คงไปเป็นบริวารแกบนสวรรค์ ฮิ้ววว

ผมว่าการที่ลุงแกจะนำเงินที่ได้มาถวายให้กับในหลวงคงได้บุญมากกว่าการเอาเงินถวายวัดนะ อันนี้ดูน่าอนุโมทนากับมากกว่าอีก

 

คุณเทวดามืด การที่หลายๆคนเค้าอนุโมทนาบุญกับลุง ไม่ใช่เค้าโลภบุญ โปรดเข้าใจเสียใหม่ แต่เค้าโมทนาบุญเพราะว่าคุณลุงทั้งๆที่มีข้อจำกัด แต่ท่านก็สร้างบุญสร้างกุศลได้อย่างที่น้อยคนจะทำได้ถ้ามีสภาพกับท่าน

แล้วก็ไอ้คนขี้เหนียวนะ ต่อให้เป็นเศรษฐี รวยเป็นร้อยๆล้าน พันๆล้าน เศษเงินสักสิบบาทยี่สิบบาทยังไม่กระเด็นเลย

แล้วก็ความเชื่อที่ว่า กลัวว่าเราอนุโมทนาบุญกับใคร เดี๋ยวจะต้องตกเป็นบริวารเค้า ความคิดอย่างนี้เค้าเรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิ อย่าปล่อยให้มันมาบดบังปัญญาของเรา..... คนเค้าโมทนาบุญกับลุง เค้าไม่มามัวคิดอย่างนั้นหรอก

แล้วก็มามัวคิดว่าวัตถุทานบริสุทธิ์หรือปล่าว เนื้อนาบุญบริสุทธิ์มั้ยอะไรนะ มันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่คนส่วนใหญ่ในที่นี้ที่เค้าโมทนาบุญ เพราะเค้าเห็นว่าลุงขวนขวายในการทำความดีต่างหาก อย่างที่บอก ลุงกายพิการ แต่ใจลุงไม่พิการ ตรงกันข้ามใจของคุณลุงงามมาก.....

 

ขอเพิ่มเติมอะไรหน่อย เพื่อประโยชน์ของผู้อ่านคนอื่นๆ

อยากจะบอกว่า บางครั้งปัจจัยที่มาขวางบุญของเรานั้น ไม่ใช่อะไรเลย หากแต่เป็น ความลังเล ของเราเอง บางครั้งสำหรับบางคน จะให้ที ก็คิดไปโน่นไปนี่ ไปกลัวอย่างโน้นอย่างนี้ ให้ไปแล้ว ก็ยังไม่ตัดไม่ปลงอีก ไปยึดว่านั่นนะที่ถวายไป ที่เราไปสร้างโน้นสร้างนี้ มันเพราะฝืมือเรา คนอื่นทำไม่ได้อย่างเรา ใจกลับไปยึดติดตรงนั้นอีก

นี่แหละ ถึงเป็นเหตุให้คนสองคนทำบุญเหมือนกัน แต่ได้บุญไม่เท่ากัน ก็เพราะมันวัดกันที่ใจแล้ว ยังไม่ต้องไปดูปัจจัยอื่นเลย มันวัดกันตั้งแต่จุดสตาร์ทแล้วละ !

อิอิ จัดให้ จัดเต็มและจัดหนัก !


จัดให้ ย่อมาจาก จัดการให้ หรือจัดการหามาให้หรือปล่าวน๊อ ?
จัดเต็ม ย่อมาจาก จัดการอย่างเต็มที่หรือปล่าวน๊อ ?
จัดหนัก ย่อมาจาก จัดการอย่างหนักหรือปล่าวน๊อ ?

 

ครับ ^^(||)(||)(||)(||)

 

ตอบดีจัง

 

ตอบได้เยี่ยมจริงๆ ค่ะ เพิ่งรู้นะว่าการที่เราจะอนุโมทนาบุญกับใครซักคน จิตจะต้องเต็มไปด้วยความโลภ เอ..แต่แปลก ทำไมถึงไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นเลยนะ จริงๆ ดิฉันกลับไประลึกถึงมุทิตามากกว่านะ คือยินดีอะ ยินดีกับผู้ทีทำบุญล้วนๆ