telwada ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น พระศรีอารย์ ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 กันยายน 2004.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. suriyannnn

    suriyannnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +124
    จิต ของพระศรีอารย์ อยู่กับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้
     
  2. khatesi

    khatesi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +53
    ไม่ใช้มั้ง ในพระชาติท้ายๆ ตามบุญบารมีและธรรมเนียมของพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้นั้น ในช่วงพระชาติท้ายๆที่เกิดในภพภูมิมนุษย์ ส่วนใหญ่จะเกิดเป็นกษัตริย์หรือพราหม์ที่มีตำแหน่งสูงศักดิ์หรือมีผู้คนนับหน้าถือตา

    ดูอย่างในหลวงท่านยังไม่ได้ตรัสรู้ในเร็วๆนี้ แต่บุญบารมีภารกิจหน้าที่และพระจริยวัตรนั้น มีแต่ความเสียสละ ความเพียรพยายาม ฯลฯ (อิทธิบาท4ในการปรารถพุทธภูมิ คุณมีในขันธสันดารหรือยังครับ คุณ telwada)ล้วนเป็นไปเพื่อประชาชน(เหล่าสรรสัตว์) ดังที่พระองค์ให้คำสัตย์ไว้ตอนครองราชว่า"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม" ธรรมในที่นี้ก็ไปหาดูกันเองนะ
     
  3. kantple

    kantple Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +77
    ผมปวดหัวอย่างแรงตั้งแต่หน้าแรกเลยครับท่าน อยากตะโกนดังๆว่า อย่ามาใกล้กูนะ.กูมีพระ๊.นะ 555..อยากจะฟ้องหย่าแทนภรรยาเขาจริงๆ อิอิอิ
     
  4. นายภัทรนี้

    นายภัทรนี้ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    เห็นสิ่งที่คุณทวดาพิมพ์ว่า "ขณะเดินกลับบ้านพัก ข้าพเจ้าก็เห็นพระมาลัยลอยมาทางด้านทิศใต้อยู่เหนือต้นฉำฉา หลายครั้ง"
    คุณเทวดา ถ้าอย่างนั้น คุณอาจสมมติไปอย่างก็ได้ ท่านอาจไม่ใช่พระมาลัย
    ดูเว็บประกอบง่ายๆ (ที่มาเพิ่มเติมเรื่องของ พระมาลับเถระเจ้า
    www.larnbuddhism.com/pramarai/)
    = = = = พระมาลัยเป็นเรื่องที่พระภิกษุชาวสิงหลแต่งขึ้น
    เมื่อประมาณ พ.ศ. ๙๐๐ เศษ กล่าวถึง พระอรหันต์
    องค์หนึ่งซึ่งมากด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา กมลจิตสงบจากกิเลส
    ที่มีนามว่าพระมาลัยเทวเถระ = = = =



    หรือคุณเห็นเป็นพระมาลัยทางมหายาน?
    (地藏王菩萨 พระกษิติโพธิสัตว์ หรือพระมาลัย ท่านมีชื่อในภาษาบาลีว่า ksitigarbha ตามความเชื่อแบบมหายาน)



    ถ้าเป็น อันหลัง พุทธนิกายมหายาน ไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไร(ชอบกินเหล้า มีเมีย ชอบแก้แค้น ถือตน) เพราะชอบแต่งเรื่องขึ้นมา อย่าง
    - พระโมคคัลลานะเถระ ถอดจิตแล้วหลงไปในหมื่นจักรวาลธาตุอื่น จนหาทางกลับมาที่จักรวาลของเราไม่ได้ จนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเสด็จไป
    พาจิตท่านกลับมา ภายหลัง มีการตรวจสอบแล้วว่า วัดจีนในนิกายมหายานแต่งขึ้นมา

     
  5. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ถ้าข้าพเจ้าตอบไปก็อย่าคิดว่าข้าพเจ้าสติเฟื่องนะจะบอกให้
    ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล ย่อมผ่านการฝึก ผ่านการสร้างสมบารมี ผ่านการเล่าเรียนแลศีกษา ข้าพเจ้าคือ เทพองค์หนึ่งที่ต้อง ผ่านการเล่าเรียนศึกษา ผ่านการสร้างสมบารมี ผ่านการฝึก เพื่อให้ได้หลักวิชชาอย่างครบถ้วน
    จะว่ามีผู้ส่งก็คงไม่เชิงนัก น่าจะกล่าวว่า เป็นจารีต วัฒนธรรมของ เทพเจ้าทั้งหลายที่ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ เพื่อเล่าเรียนศึกษา เพื่อฝึก เพื่อสร้างสมบารมี ถึงอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ลงมาบนโลกมนุษย์โดย "พญาครุฑ"ขอรับ
    อนึ่ง ท่านทั้งหลายอย่าคิดว่า เทพเจ้า หรือเทวดา ไม่มีจริงนะขอรับ
    ศาสนาทุกศาสนา เป็น ศาสนาแห่งเทพเจ้า หรือ เทวดา ทั้งนั้นขอรับ ไม่มียกเว้น
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด ด้วยเหตุผลที่ว่า "ข้าพเจ้ากำลังพัฒนาการปฏิบัตและวิจัยและทดลอง ถึงความเป็นไปได้ของสรีรร่างกาย ทุกส่วนว่า จะสามารถปรับเปลี่ยน หรือสร้างซ่อมแซม สิให้เสื่อมตามวัฎจักรของโลกได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ก็คงมีอายุนับอสงไขย ถ้าทำไม่ได้ ก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน ขอรับ"
     
  7. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    การจะปฏิบัติธรรมจนบรรลุถึงชั้น อรหันต์ได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้อย่างง่ายดาย ต้องมีความเพียร ต้องมีความอดทน ต้องมีหลักวิชชาการที่ถูกต้อง ต้องมีสมาธิที่ดี จึงจะสามารถปฏิบัติได้
    สอนหลักวิชชาให้ได้ สอนหลักการปฏิบัติให้ได้ แต่จะสำเร็จถึงชั้นอรหันต์,นิพพาน หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ขึ้นอยู่กับสมองสติปัญญา และปัจจัยอื่นดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปแล้ว
    การปฏิบัติธรรม ถ้าจะปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา สมณะโคดม ก็ให้สืบค้น กระทู้ เรื่อง "การปฏิบัติธรรมแบบง่าย" และ "ใตรลักษณ์ ทางลัดของผู้ที่ไม่ต้องการคิดมาก" อ่าน แล้วคิดพิจารณาทำความเข้าใจ ฝึกปฏิบัติ แล้วคุณก็จะประสบผลสำเร็จ อย่างน้อยที่สุด ก็ชั้นโสดาบัน
    หากคุณอยากจะฝึกปฏิบัติ ตามหลักวิชชาการของข้าพเจ้า ก็ลองใช้ความเพียรค้นหา หลักวิชชาการ ๔ คู่ ๘ ข้อ แล้วศึกษาจดจำ คิดพิจารณา ให้เกิดความเข้าใจ
    ส่วนการปฏิบัติตามหลักวิชชาการของข้าพเจ้า ก็คล้ายคลึงกับหลักปฏิบัติทางพุทธศาสนา พระสมณะโคดม เพราะข้าพเจ้าได้รับการอบรมขัดเกลามาทางพุทธศาสนา การปฏิบัติจึงคล้ายคลึงกันและบ้างก็เหมือนกัน เพียงแต่ หลักวิชชาการแตกต่างจาก หลักธรรมในพุทธศาสนาที่มีอยู่
    ที่สำคัญ หลักวิชชาการของข้าพเจ้า ถึงแม้ว่า จะมีเพียง ๔ คู่ ๘ ข้อ ก็จริงอยู่ หากคิดพิจารณาแล้วจะครอบคลุมไปทั่วทุกด้านของศาสนาทุกศาสนา ไม่ว่าศาสนาใดใด ก็ไม่อาจหลีกพ้นจาก หลักวิชชาการของข้าพเจ้า อย่างเด็ดขาด ดังนั้นคุณจะสำเร็จ อรหันต์หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยต่างๆที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ข้างต้น ฉะนี้
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณขอรับ เรื่องของภัยธรรมชาตินั้น ย่อมเกิดมีขึ้นได้ หากความสมดุลทางธรรมชาติเปลี่ยนไป เช่น ป่าไม้ลดน้อยลง ไม่ได้สัดส่วน มลภาวะอากาศสกปรกมีฝุ่นละอองหรือก๊าซไม่พึงประสงค์หนาแน่นเกินควร สภาพลมฟ้าอากาศย่อมแปรปรวนอย่างแน่นอน
    ถ้าถามว่า น้ำจะท่วมอีกไหม ความจริงแล้ว น้ำก็ท่วมอยู่ทุกปีในที่ๆน้ำเคยท่วม แต่ถ้าหมายถึงท่วมแบบท่วมใหญ่อีกหรือไม่ อันนี้ข้าพเจ้าไม่ขอตอบนะขอรับ และคุณก็ไม่ต้องไปสนใจคำทำนาย หรือไปสนใจคำโฆษณาว่า เกิดปรากฏการณ์อะไรต่อมิอะไรตามพวกฝรั่ง ไม่จริงดอกขอรับ
    แต่หากศีลธรรมทางศาสนาในจิตใจของมนุษย์เสื่อมโทรมลงแล้วละก้อ นั่นแหละสิ่งสำคัญเลยละ ภัยธรรมชาติก็จะเกิดถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น ในเมื่อคุณรู้แล้ว ก็หมั่นฝึกศึกษาปฏิบัติ ศีลธรรมตามศาสนาให้มากเข้าไว้ อย่างน้อยก้จะได้สบายใจว่า ถ้าเกิดภัยธรรมชาติขึ้นจริง คุณก็รอดอยู่ไปจนแก่เฒ่าละขอรับ
     
  9. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้าไม่ใช่พระพทธเจ้า ที่สำคัญ ชาติกำเนิดไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขนาดพระสมณโคดม เกิดเป็นลูกกษัตริย์ ยังต้องทิ้งบ้านทั้งเมือง ทิ้งวรรณะกษัตริย์ เพื่อแสวงหา โมกษะ ทางหลุดพ้น
    คุณจะกล่าวเพ้อเจ้อเป้นนิยาย แถมยังไม่เอาของสูงมาเปรียบเทียบไม่รู้จักที่ควรหรือไม่ควรเลยนะ
     
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    สิ่งที่ข้าพเจ้าพิมพ์หรือเล่าไปนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จะพระมาลัยองค์ไหนข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ ทราบเพียงว่า ในตอนนั้น ข้าพเจ้ากำลังสืบค้นว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ทำไมจึงได้เกิดเหตุการณ์ปลาดมหัศจรรย์ กับตัวข้าพเจ้า พอข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าน่าจะเป็นพระมาลัยเป็นแน่ และคิดว่าข้าพเจ้าจะบวชเป็นพระภิกษุทำไมกัน พอเดินไปประมาณหน้าบ้านพักห้องที่ สอง หรือห้องที่สาม พระมาลัยก็ลอยมาเลยขอรับ นุ่งเหลืองห่มเหลือง เห็นได้อย่างชัดเจนที่สำคัญ ยิ้มให้ข้าพเจ้าด้วย
    ยังมีอีกอย่างหนึ่ง ที่สามารถพิสูจน์ได้ง่ายมาก ถ้าคุณได้มาเที่ยวที่เชียงราย ข้าพเจ้าจะไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี ในวัน ศุกร์ เสาร์ ข้าพเจ้าจะห้อยพระมหาอุปคุตไปด้วย แล้วคุณจะเห็นว่า พระมหาอุปคุตที่ข้าพเจ้าห้อยไป จะมีฉัพพรรณรังสี เปล่งแสงออกมา เพราะข้าพเจ้าอัญเชิญให้พระมหาอุปคุต ซึ่งเป็นพระอรหันต์พระองค์หนึ่ง มาสถิตอยู่ที่พระจำลองมหาอุปคุตที่ข้าพเจ้าห้อยอยู่ พิสูจน์ได้ขอรับ ขอเพียงคุณอธิษฐานขอให้ได้เห็นฉัพพรรณรังสีจากพระที่ข้าพเจ้าห้อยอยู่ แล้วคุณจะได้เห็น เรื่องจริงนะขอรับ
     
  11. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    การจะศรัทธาสิ่งใดก็ต้องรู้จักว่าควรหรือไม่ควรโดยใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณา
    ข้าพเจ้าประกาศตัวว่าคือ "ศรีอาริยเมตไตรย" ก็ไม่ได้หวังให้ใครมาศรัทธาในตัวข้าพเจ้า ความมุ่งหมายในการประกาศตัว ก็เพื่อปัองกัน รักษา ซ่อมแซม พัฒนาศาสนาให้ดี ให้เจริญ เพื่อจักได้มีประโยชน์ต่อต้วมนุษย์เอง ใครจะศรัทธาในตัวข้าพเจ้าหรือไม่ศรัทธาในตัวข้าพเจ้า ก็ไม่ใช่เรื่องที่ข้าพเจ้าจะต้องสนใจ เพราะข้าพเจ้ามีอาชีพทำกินไม่เดือนร้อน ที่จะต้องไปเรี่ยไร หรือขอบริจาคจากใครกินอยู่แล้ว
    อีกประการหนึ่ง คุณเข้าใจของคุณเองนะที่ว่า คนที่ไม่ทำประโยชน์ให้สังคมฯลฯ ข้าพเจ้าเพียงกล่าวอุปมาอุปมัย เปรียบเทียบเท่านั้น
    ถึงอย่างไรก็ตามแล้วที่คุณว่า พวกสังคมดั้นด้นไปตามหา พวกที่วิปัสสนากรรมฐานในท่ามกลางป่าเขานั้น มีที่ไหนกันบ้างละ มีสักกี่รูปกี่องค์กันบ้างละ เขาไปตามหาเพื่ออะไรกันละ แล้วพวกเขาเหล่านั้นน่าศรัทธาที่ตรงไหนกันละ......ความคิดแค่หางอึ่งเท่านั้นเองแหละน่าขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2012
  12. Doksil

    Doksil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +1,136
    ท่านพระศาสดาจารย์ครับ นิพพานเป็นอัตตา หรือ อนัตตาครับ
     
  13. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    ถ้าท่านพระศาสดาจารย์ตอบว่าเป็นเรื่องของมันจะทำไงดีครับ - -"
     
  14. Doksil

    Doksil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +1,136
    ท่านอย่าไปหลู่ศาสดาครับ
     
  15. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    รอฟังธรรมครับ
     
  16. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อัตตา หมายถึง ตัวตน อันหมายถึง ขันธ์ ๕
    อนัตตา หมายถึง ไม่ใช่ตัวตน หากจะให้เกิดความเข้าใจละเอียดขึ้น ก็จำต้องคัดลอกความหมายจากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฎกฯ ความว่า
    "ลักษณะที่เป็นอนัตตา, ลักษณะที่ให้เห็นว่าเป็นของมิใช่ตัวตน ได้แก่ ๑) เป็นของสูญ คือ เป็นเพียงการประชุมเข้าขององค์ประกอบที่เป็นส่วนย่อยๆ ทั้งหลาย ว่างเปล่าจากความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา หรือการสมมติเป็นต่างๆ ๒) เป็นสภาพหาเจ้าของมิได้ ไม่เป็นของใครจริง ๓) ไม่อยู่ในอำนาจ ไม่เป็นไปตามความปรารถนา ไม่ขึ้นต่อการบังคับบัญชาของใครๆ ๔) เป็นสภาวธรรมอันเป็นไปตามเหตุปัจจัย ขึ้นต่อเหตุปัจจัย ไม่มีอยู่โดยลำพังตัว แต่เป็นไปโดยสัมพันธ์ อิงอาศัยกันอยู่กับสิ่งอื่นๆ ๕) โดยสภาวะของมันเอง ก็แย้งหรือค้านต่อความเป็นอัตตา มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา"

    นิพพาน คือ ชื่อชั้นของการปฏิบัติธรรม ในทางพุทธศาสนานั้น หมายถึง คือ สอุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสมีเบญจขันธ์เหลือ ๑ อนุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ๑ อันนี้จะเรียกว่า นิพพานธาตุก็ได้ (จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับพระธรรมปิฎกฯ)

    นิพพาน ตามความหมายของข้าพเจ้า คือเกิดจากประสบการณ์ที่ได้สังเกต จากการฝึกปฏิบัติของข้าพเจ้าก็คล้ายคลึงกับความหมายของ นิพพานธาตุ ตามหลักพุทธศาสนา คือ เมื่อบรรลุถึงนิพพานแล้วก็จะมีปรากฏการณ์ทางสรีระร่างกาย สองสถานะ คือ ร่างกายโปร่งแสง และยังมีรูปกายอยู่ครบถ้วนเพียงแต่โปร่งแสงสามารถมองทะลุผ่านได้ บ้างก็คล้ายเป็นกระจกเงา อย่างหนึ่ง
    อีกอย่างหนึ่ง คือ ร่างกายสูญสลายไม่มีรูปกายให้เห็นอีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักวิชชาการที่ฝึกปฏิบัติ
    เมื่อข้าพเจ้าได้อธิบายเรื่องของนิพพาน ทั้งในทางพุทธศาสนา และทั้งในทางความเป็นจริงคือ ของจริงจริง แล้ว
    คำถามของคุณ ที่ถามว่า นิพพานเป็น อัตตา หรือเป็น อนัตตา
    นั่นก็หมายความว่า คำถามของคุณ ถามว่า "นิพพาน เป็น สิ่งมีตัวตน หรือ เป็นสิ่งไม่ใช่ตัวตน" คุณต้องการคำตอบแบบไหนกันละ ในเมื่อ
    นิพพาน คือ ชื่อชั้นของการปฏิบัติ ชั้นที่ ๕ ในจำนวน ๖ ชั้น (ณ.ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าค้นพบว่ายังมีชั้นการปฏิบัติที่สูงกว่านิพพาน อย่างน้อย ๑ ชั้น แต่ยังไม่รู้ว่าควรใช้ชื่อชั้นว่าอะไรดี)
    ขณะปฏิบัติธรรม หรือฝึกตน ย่อมต้องมี อัตตา คือ ตัวตน แต่ไม่หลงใน ตัวตน จำต้องยึดติดใน ตัวตน คือ อวัยวะต่างๆ แต่ไม่หลงในอวัยวะต่างๆ เช่น เราหล่อนะ เราหูดีนะ เราตาดีนะ เราผิวดีนะ เรามีตาทิพย์นะ ฯลฯ คือต้องวางเฉยในตัวตนทั้งหลายเหล่านั้น อย่างนี้เป็นต้น
    นิพพาน เป็น ทั้ง อัตตา และเป็น ทั้ง อนัตตา กล่าวคือ มีตัวตน แต่ไม่หลงในตัวตน ถ้าไม่มีตัวตน แล้วเราจะปฏิบัติหรือฝึกสำเร็จได้อย่างไร ต่อเมื่อฝึกปฏิบัติจนบรรลุถึงธรรมในชั้นต่างๆแล้ว ก็จะเกิดความเข้าใจเองว่า ควรเป็น อัตตา หรือ เป็น อนัตตา ส่วนที่กล่าวว่าเป็นอนัตตานั้น ก็เพราะ ตามคำศัพท์ของอนัตตา ในแง่ของความเป็นสิ่งสมมุติ ฯลฯ
    ความจริงแล้ว คำถามที่ว่า "นิพพาน เป็น อัตตา หรือ อนัตตา"นั้น ไม่ถูกต้อง เหตุเพราะมันเป็นคนละเรื่องคนละอย่างกัน ความเป็น อัตตา กับ อนัตตา นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะตัวเรา แต่ยังหมายถึงสิ่งรอบๆตัวเราอีกด้วย โปรดได้ใช้สมองสติป้ญญาลองคิดพิจารณาดู ตามหลักการทางศาสนาเถิดขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2012
  17. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +510
    เออ....ตอบอย่างนี้น่าสนทนาด้วยหน่อย
    วุ่นแล้วสิเรา.....เฮ้อ
     
  18. Doksil

    Doksil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +1,136
    ท่านศาสดาจารย์ครับ คนพูดกันมากเรื่องวันสิ้นโลก ครับท่านพอจะทราบไหมครับ ตามหลักอจินไตย4
    พระพุทธเจ้าสมณโคดมกลาวไว้ว่า "ตถาคตเท่านั้นที่รู้แจ้งในอจิยไตย"
     
  19. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ขออภัย ข้าพเจ้าไม่ใช่ ตถาคต และไม่ใช่ พระพุทธเจ้า ไม่อาจทำนายเรื่องของวันสิ้นโลกได้
    แต่ข้าพเจ้ารู้เพียงว่า
    ถ้ามนุษย์โลกไม่มีศาสนา หรือ ศาสนาเสื่อมโทรมถึงจุดจุดหนึ่ง นั่นแหละวันสิ้นโลก
    ศาสนาเท่านั้น ที่จะทำให้โลกยังคงเป็นโลก ยังคงมีมนุษย์อยู่บนโลก ปราศจาก ศาสนา โลกย่อมไม่มี และมนุษย์ก็ไม่มีเหมือนกันขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2012
  20. Doksil

    Doksil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +1,136
    ในความคิดของท่านศาสดา ศาสนาตอนนี้เสื่อมหรื่อรุ่งเรืองครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...