บุคคลผู้ไม่ยอมรับธรรม มิใช่สักกายทิฐิ แต่เพราะ "เขามีครูอยู่แล้ว"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 28 มีนาคม 2012.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    บุคคลบางจำพวกไม่รับธรรมจากผู้อื่นนั้น ยังไม่อาจ
    กล่าวได้ว่าเขามีความดื้อรั้นหรือทิฐิ เพราะเขาอาจมี
    "ครูบาอาจารย์ของเขาอยู่แล้ว" ซึ่งเขา "พิจารณา"
    ดีแล้วว่า "ควรเชื่อผู้ใด" และผู้ใดที่ไม่อาจเชื่อได้จริง


    ดังนั้น "การสรุปโดยลวกๆ" ว่าถ้าคนๆ หนึ่งไม่ยอม
    รับฟังเรา แล้วเขาคนนั้นจะต้องมีสักกายทิฐิ จึงเป็น
    "การด่วนสรุปที่โง่เขลานัก" เพราะคนเราไม่ใช่ว่าจะ
    เชื่อคนทุกคน แต่คนเรา "เลือกที่จะเชื่อ" จากใคร
    บางคน แม้เขาไม่เชื่อคนๆ หนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ
    คนทั้งโลก ก็หาไม่
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ทุกคนมี "ครูบาจารย์ตามบุญวาสนาของตน" ไม่ต้องแย่งเป็นครูใคร


    หน้าที่ของมนุษย์แต่ละคนต่างกัน ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องแย่งเป็นครูของใคร
    เพราะเขาคนนั้นอาจมี "ครูบาอาจารย์ตามบุญวาสนา ของเขาเองอยู่แล้ว"
    จึงไม่ต้องไปกระทำเกินหน้าที่ของตัว การศึกษาธรรมนั้น มวลปราชญ์พึง
    แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ในฐานะ "สหายธรรม" เป็นธรรมดา แต่ไม่
    ใช่ในฐานะ "ครูบาอาจารย์" เพราะการจะบำเพ็ญบารมีเป็นครู "ผู้มีบารมี"
    ได้นั้นไม่ธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น ท่านตั๊กม้อ เดินทางไปโปรดเหลียงบู๊ตี่
    ฮ่องเต้ แต่ผลลัพท์คือ "ถูกเนรเทศออกจากแคว้น" ไป นี่เพราะแม้ได้ธรรม
    แล้วแต่ "บารมีความเป็นครู" เฉพาะของพระเจ้าเหลียงบู๊ตี่นั้น "ยังไม่ได้"
    นั่นเอง ดังนั้น ไม่ต้องไปเป็นครูใคร ไม่ต้องพยายามให้ใครมาฟังเรา หรือ
    เขาจะฟังไม่ฟัง ก็ช่างเขา เพราะการเป็นครูใคร จำเป็นไปด้วย "บุญวาสนา"
    ที่ทำร่วมกันมาแต่ปางก่อน มิใช่ว่าตนมีธรรมแล้ว จะโปรดสัตว์ สอนคนได้
    ทุกคนก็หาไม่ แม้แต่ในสมัยโบราณ พระอาจารย์ของพระนาคเสนยังต้องมี
    เฉพาะเจาะจง เลือกมาหนึ่งท่าน ไม่ใช่ว่าทุกท่านจะกระทำได้ ก็หาไม่ ดังนี้


    อนึ่ง "พระพุทธเจ้า" เป็น "บรมครูสูงสุด" อยู่แล้ว อันสัตว์ทั้งหลายในยุคนี้
    ล้วน "สื่อตรงถึงได้" ไม่ต้องใช้สิ่งอื่นใดมาขวางกั้น แต่ใช้ครูบาอาจารย์อื่น
    เป็น "พื้นฐานเพื่อส่งไปให้ถึงพระพุทธเจ้าที่แท้จริง" นั้น ย่อมสามารถทำได้
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ไม่ต้องพยายาม "ยัดเยียดธรรมะ" ให้แก่ใคร เพราะเขามีวิจารณญาณเลือกได้เอง


    การเสนอธรรมะ เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้อง "พยายามยัดเยียดธรรมะ" ให้แก่ใคร ก็
    ได้ เพราะนั่นเป็น "ความหลงตัวเองอย่างยิ่งประการหนึ่ง" หลงอย่างไรหรือ? ก็หลงว่าตนนี่
    แหละจะสั่งสอนเขา ตนนี่แหละ จะปราบทิฐิของเขา ไม่จบไม่สิ้นเสียที สุดท้าย ตนนั้นจึงติด
    "บ่วงวังวนในความคิดของตนนั้น" ทำให้ต้องมาทำซ้ำๆ พยายามสอนใครบางคนซ้ำๆ ไม่มี
    ทางจบสิ้นไปได้ จนกลายเป็น "จิตที่อาฆาตผูกมัด" ไปโดยไม่รู้ตัว อนึ่ง การให้ธรรมแก่คน
    โดยทั่วไปไม่ได้เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เป็นการทำหน้าที่อย่างหนึ่ง แต่การที่มีจิต
    ผกมัดอาฆาตตามล้างผลาญว่าจะต้องเล่นงานคนนั้น จะต้องสั่งสอนคนนี้ นั่นคือ การทำจน
    เกินหน้าที่อันควรแล้ว เช่น ถ้าท่านขัดแย้งทางความคิดกับเพื่อนๆ ในเว็บ แล้วท่านตามจ้อง
    เล่นงานคนๆ นั้น ไม่จบไม่สิ้น ไม่ต้องสงสัย ท่านว่าได้อะไร จิตที่ผูกมัดอาฆาตจะแนบเนียน
    ซ่อนลึก ไม่ให้เจ้าตัวรู้ตนว่าตนนั้นผูกมัดอาฆาตเขาเสียแล้ว จากนั้น จิตย่อมดำมืดลงทั้งยัง
    หลอกตัวเองว่า "ตนมีเมตตาคิดโปรดเขาผู้นั้น" นั่นคือการหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างหนึ่ง


    การนำเสนอข้อมูลทางสาธารณะนั้น ผู้รับจะใช้วิจารณญาณของเขาเอง ซึ่งไม่ได้ผิดอะไร
    แต่การจ้องเล่นงานและตามจิกจี้ใครบางคน นั้น ไม่ใช่ "จรรยาบรรณที่ดีของผู้ใช้สื่อ" เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มีนาคม 2012
  4. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +680
    โพสนี้ของท่าน..ขอเทกระหน่ำโมทนาครับ..ท่านวัชรธร..ได้ใจๆ..(พอดีว่ามีประสบการณ์ตรง ฮ่า ฮ่า ฮ่า..)..
     
  5. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +680
    THANK YOU SO MUCH....WATCHARATORN..
     
  6. viriyathika

    viriyathika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +109
    เห็นด้วยอย่างแรงครับ
     
  7. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    สมมติ น่ะ หาก ธรรม ของ ท่าน ที่ แสดง เป็น สิ่ง ที่ น่า

    เชื่อ ล่ะ แต่ เขา ไม่ เชื่อ จะ เป็น สักกายทิฐิ หรือ ไม่ จ๊ะ
     
  8. PumpDemon

    PumpDemon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +30
    เขาก็ได้อธิบายไปแล้วไงท่าน
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    อธิบาย อย่าง ไร

    เรา สมมติ ว่า ผู้ ที่ มี อาจารย์ นั่น สอน ศิษย์ แบบ ผิดๆ

    แต่ ธรรม ที่ (สมมติว่าท่าน) แสดง ไป ถูก แต่ เขา เหล่า นั้น

    ไม่ เชื่อ ฟัง แบบ นี้ เขา เรียก ว่า อะไร เรา ก่ ถาม ว่า อยู่ ใน

    กลุ่ม ทิฐิ หรือ เปล่า

    ... เออ แน่ะ ถาม ก่ ไม่ ได้ ... พิลึก

    ถ้า รู้ ก่ ควร จะ ตอบ ว่า อยู่ หรือ ไม่ อยู่ ก่ จบ

    ... ถ้า รู้ ว่า ไง ก่ ตอบ แทน จขกท ก่ ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2012
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    คำสอนสำนักโปเยวัชรธรและพ้องเพื่อน
    พระเจ้า
    ผลแอปเปิล
    มาร์คไรเดอร์
    อุลตร้าแมน
    มหาบุรุษเพศ
    พลัง "หยาง-เอี๊ยง"
    พลัง "อิม-เอี๊ยง"
    มีกามกัน
    แลกเปลี่ยนลมปราณกัน
    เทพราหู
    จิตวิญญาณมืด
    ปีศาจ
    ครึ่งปีศาจ
    เซียน
    ธรรมผ้าขาว
    พลังปราณทิพย์
    ความรัก
    ดวงใจทิพย์
    พระวิญญาณบริสุทธิ์
    พลังฟ้า
    โลกเที่ยง
    สรรพสิ่งเที่ยง
    การรับธรรม ดุจรับยารักษาโรค

    นำเสนอของสำนักโปเยวัชรธรก็เสนอไป แต่ที่ทำอยู่เสนอคำพวกนี้ปนอยู่กับธรรมะของพระพุทธเจ้า ถูกย้าย ถูกลบไปกี่กระทุ้แล้วครับ ทำไมไม่หยุดคิด และไตร่ตรองดูว่าทำอะไรผิด ไปอ่านกฎกติกาของเว็บบอร์ดพลังจิตสักหลายรอบก็จะเข้าใจครับ

    PaLungJit.com - กฎกติกา
     
  11. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    สักกายทิฐิแปลว่า ความยึดมั่นในขันธ์๕ ว่าขันธ์๕นี้คือเรา เป็นของเรา

    เอ่อ... แต่ที่เห็นคุยๆกัน ไม่น่าจะใช่นะ
    ไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย...- -!

    ทิฐิแปลว่า ความเห็น
    เป็นคำกลางๆมีความหมายกลางๆ ใช้ร่วมกับคำอื่น เช่น สัมมาทิฐิ แปลว่า ความเห็นที่ถูก ส่วนมิจฉาทิฐิ แปลว่า ความเห็นที่ผิด
    ........................:d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2012
  12. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แล้ว ทิฐิมานะ แปลว่า อะไร หรือ ฮับ

    ข้าง บน น่า จะ ใช่ ทิฐิมานะ ใช่หรือ เปล่า
     
  14. DekNoii

    DekNoii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +0
    แปลว่าดื้อด้านรึป่าวน้าาาา ^ ^
     
  15. changnoy

    changnoy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +3
    แปลกดี ก็อธิบายชัด แต่ก็ยังถามสงสัยทิฐิมานะแน่ๆ
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เขียน ผิด นิด หนึ่ง

    ให้ เปลี่ยน จาก ใช่ เป็น ใช้ ครับ
     
  17. DekNoii

    DekNoii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +0
    เอ้อละเหยลอยมา ลอยมาแล้วจะลอยไป น้ำท่วมทุ่งเต็มตลิ่งเราทั้งหลายชายหญืงสนุกกันจริงร่วมสนทนา
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    คู่ กรณี มา แซว
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

    ยังไม่สามารถสรุปได้นะครับ


    พระพุทธเจ้าแสดงธรรมมากมาย ธรรมบางอย่าง
    เช่น เรื่องสุขาวดี ล้ำลึกและไม่น่าเป็นไปได้ ไม่
    น่าเชื่อเลย (ว่าจะมีพระพุทธเจ้าในโลกธาตุอื่น
    คือ สุขาวดีอยู่ด้วยขณะนี้) พระพุทธเจ้าจึงถาม
    พระสารีบุตรว่า "ท่านเชื่อหรือไม่?"


    พระสารีบุตรตอบประมาณว่า "อะไรที่ท่านพอ
    แจ้งด้วยปัญญา อันนั้นท่านก็เชื่อ อะไรที่นอก
    เหนือจากนั้น ก็ยังไม่ใช่ทั้งเชื่อและไม่เชื่อ"


    พระสารีบุตรบรรลุอรหันต์แล้วในตอนนั้น ย่อม
    ไม่มีสักกายทิฐิ แต่ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อใน
    ธรรมะทั้งหมดที่พระพุทธเจ้าแสดง แต่นั้นไม่
    ใช่ "ความไม่เชื่อ เป็นการ ฟังไว้เฉยๆ" ก่อน
    ถ้าแจ้งด้วยตนเองเมื่อไร ก็เชื่อได้เมื่อนั้น


    ดังนั้น ไม่แปลกที่คนฟังจะไม่เชื่อ มีเหตุผล
    มากมาย จะด่วนสรุปว่าเป็นสักกายทิฐิ ไม่ได้
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ดี ครับ รับ ฟัง อยู่

    เป็น ตัว อย่าง สำหรับ ผู้ อื่น ด้วย

    การ ตอบ .... ตอบ ด้วย การ อ้าง ถึง

    หรือ นำ จาก ตำรา โบราณ

    เพื่อ แจ้ง แถลง ไข ข้อ สงสัย

    ไม่ ต้อง ถก เถียง กัน ไป มา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...