พลังในอักขระ/ตัวอักษรและการตั้งชื่อที่ให้คุณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 6 มิถุนายน 2007.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    บทความต่อไปนี้ เป็นเรื่องเล่าประสบการณ์จากการใช้พลังจิต วิเคราะห์ตัวอักษรว่า แต่ละตัวเป็นเช่นใด ถ้าเอามาใช้ให้ถูก เลือกให้ถูก ก็จะเสริมพลังอำนาจแห่งความก้าวหน้าได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพลังจิตหรือกำลังภายใน ที่เกินกว่า 70 เมตรขึ้นไป หรือ คนที่มีรัศมีออร่า เกิน 4.5 เมตรขึ้นไป เพราะเขาจะเข้าใจและสัมผัสได้ ผู้ที่ มีกำลังภายในไม่ถึง 70 เมตร มีรัศมีออร่า ไม่ถึง 4.5 เมตร จะอ่านได้ แต่สัมผัสพลังของอักขระไม่ได้ ก็จะไม่เข้าใจ

    บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำลาย หลักเกณฑ์การตั้งชื่อที่มีมาแต่เดิม
    ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่อยากเสนอในแนวทางเลือกใหม่ ขอให้ใช้วิจารญาณ โดยเฉพาะผู้ที่สัมผัสพลังไม่ได้
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    พลังในอักขระ/ตัวอักษร และการตั้งชื่อที่ให้คุณ

    เมื่อวิญญาณหนึ่งได้มาเกิดด้วยผลแห่งกรรม
    ก็จะเป็นอันว่า ได้มีอีกหนึ่งชิวิตที่จะต้องเกิดมาผจญกับ
    สัจจะธรรม แห่งทุกข์ คือ การเกิด การแก่ การ เจ็บและการ ตาย
    ซึ่งเน้นกฏแห่งอนัตตา
    เป็นความเสรี อีกครั้ง ที่จะมีโอกาสยืนอยู่บนจุดเริ่มใหม่
    ที่เรียกว่า Ground Zero
    หรือจุดต่อระหว่าง สวรรค์พิภพ กับ นรกโลกันต์
    ว่า เราจะทำดี เพื่อ ยกตัวให้สูงขึ้น
    หรือ เลือกที่จะทำเลว เพื่อดิ่งลง นรกภูมิ

    การทำเลวนั้นง่าย เพีบงแต่ปล่อยให้จิตตามใจ
    ความปราถนาของกายที่มีแต่โลภะ มีแต่กิเลส
    การทำดีเพื่อยกตัวนั้น ถึงแม้จะง่ายในหลักการ
    แต่พอทำจริงๆๆ ปฏิบัติจริงๆ ทำได้ยาก

    นั่นคือ หลัก ทำสมาธิ ถือศีล
    เมื่อมีศีลก็จะมี สมาธิ
    เมื่อมีสมาธิ ปัญญาก็จะตามมา

    และมีผู้มาเน้นเรื่องนี้ในเวปนี้ในแนว โลกุตตระ
    และการมีสัจจะ ซึ่งเป็นสมาธิที่เข้มข้นกว่าธรรมดา
    ก็ลองพิจารณาดู
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    สมาธิที่นำพาให้หลุดพ้น...คือ "สมาธิพิจารณา"
    สมาธิพิจารณา....เกิดเมื่อปฏิบัติตนด้วย... "สัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    สังคมมนุษย์เป็นสังคมหมู่ ที่ผู้คนจะต้องอยู่ร่วมกัน
    ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้ปัจจัยในการดำรงชีวิต
    แต่เดิมมีอยู่ 4 คือ
    ให้ได้ที่อยู่อาศัย
    ให้ได้สื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม
    ให้ได้ อาหาร
    ให้ได้ยารักษาโรค

    ในปัจจุบัน กิเลสของคนมากขึ้น
    จึงต้องเพิ่ม
    รถยนต์
    มือถือ
    คอมพิวเตอร์
    และอินเตอร์เนต
    ที่มีอยู่แล้ว คือ "เซ็กส์"
    ไม่ต้องแสวงหา
    เพียงแต่ใช้ให้ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม
    หรือทำตามศีลข้อ กาเม จะดีที่สุด
     
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    การตั้งชื่อ มีมาตั้งแต่เริ่มกรุงสุโขทัย หรือ มากกว่า 700 ปีมาแล้ว
    ถ้าไม่มี เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
    องค์ประฐมกษัตริย์ คือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
    ตามด้วย พ่อขุนบาลเมือง
    พ่อขุนรามคำแหง
    พ่อขุนลิไท
    พ่อขุนไสลือไท

    การมีชื่อ มีประโยชน์ เพราะคนหมู่มาก ต้องมีการอ้างอิง
    เพื่อ ประโยชน์ และสิทธิ์เฉพาะตน
    มีการผูกพันธ์ระหว่างกันในเรื่อง งานและการค้า การอ้างสิทธิ์
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ในยุคแรก ผู้คนใช้หลัก ตั้งชื่อตัว
    และตามด้วยคำที่บอกว่า เป็นลูกใคร
    ลูกพ่อคนไหน ลูกแม่คนใหน อยู่ ณ บ้านใด

    ต่อมาเมื่อมีกฏหมายและระเบียบการตั้งชื่อ
    ที่ออกมาในรัชกาลที่หก แห่งราชวงศ์จักรี
    คนไทยจึงเริ่มมีการใช้นามสกุล

    ผู้ที่อยู่ในสาย ราฃวงศ์ อยู่ในสาย ราชินีกุล
    ก็ตั้งนามสกุล ตามชื่อของต้นราชสกุล ของเจ้าฟ้า เจ้าเมือง
    มีนับพันสกุล มีทำเนียบอ้างอิง

    ที่ดูง่ายที่สุด คือ สกุลที่ มีคำว่า " ณ "
    เช่น ณ อยุธยา ณ สงขลา ณ ถลาง ณ หนองคาย ฯลฯ
    บุคคลทั่วไป ที่ทำงานในราชการยุคแรกๆๆ
    ก็จะขอพระราชทานจาก เบื้องสูง ซึ่งพระองค์ท่าน
    ก็เมตตาตั้งให้
    บุคคลทั่วไปก็พากันตั้งเองบ้าง ให้คนอื่นที่มีความรู้ตั้งให้บ้าง

    เริ่มแรกยังมีการขอไม่มากนัก
    นามสกุลจึงมักจะง่ายและสั้น
    ต่อมา หายาก เพราะจะเป็นการซ้ำกัน
    จึงต้องมีการต่อท้ายให้ยาว เพื่อไม่ไห้ซ้ำกับคนอื่น
    ตอนหลังๆๆ เราจึงเห็นนามสกุลของคน ยาวมากๆๆ

    ซึ่งที่ยาวมากๆๆ นี้ จะมีปัญหา เมื่อ โกอินเตอร์
    เพราะในต่างประเทศ เขาจะเรียก ที่ นามสกุล
    ไม่ใช่ชื่อ ดังนั้นชื่อที่ยาวๆๆ
    จะเป็นปัญหาอย่างมาก ที่เขาจะเรียกคนไทย

    ในปัจจุบัน มีกฏหมายให้โอกาสเสรีในการตั้งชื่อ
    ภรรยาสามารถใช้นามสกุลของตัวเองได้
    โดยไม่ต้อง ใช้นามสกุลของสามีตามกฏหมายเดิม

    และเริ่มมีบางคน เริ่มใช้เสรีถาพนี้ในการตั้งชื่อ
    โดยจะมีชื่อ ชื่อต้น ชื่อกลาง และชื่อสกุล
    โดยเฉพาะกลุ่ม ศาสนาคริสต์

    ที่จะมีชื่อ ตัว ชื่อนักบุญที่เป็นพ่ออุปภัมถ์ แล้วชื่อสกุล
    เช่น นาย ประเสริฐ ยอแซฟ คงแก่เรียน
    จึงไม่ต้องแปลกใจ

    ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย พม่า
    ยังใช้หลักการตั้งชื่อแบบเดิม
    คือ ชื่อ อะไร ลูกใคร พ่อชื่ออะไร แม่ชื่ออะไร

    อย่างมาเลเซีย จะมีคำว่า "..บิน ฮะซัน .."
    บอกว่า เป็นลูกใคร
    เป็นต้น
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คนไทยเมื่อเกิดมา ต้องมีใบสูติบัตร
    หรือใบแจ้งเกิดที่จะต้องใช้อ้างอิงเข้าไปในทะเบียนบ้าน
    เพื่อสิทธิของการมีอยู่
    สิทธิของการเป็นคนไทย
    สิทธิในการเข้าเรียน ในโรงเรียน
    สิทธิการหางานทำ
    สิทธิในการแต่งงาน
    สิทธิในการตาย
    (ถ้าไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน จะไปแจ้งตายได้อย่างไร
    จะเผาศพก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีใบแจ้ง
    จาก เขต อำเภอไปให้เจ้าอาวาสวัดที่จะเผาศพนั้น
    คงต้องใช้ระบบ ปอเต็กตึ้ง
    นำฝังที่วัดดอนยานนาวา เป็นศพนิรนาม
    พอมากๆๆเข้าก็จะมีงานล้างป่าช้า
    เอามากระดูกมากอง แล้ว เผาพร้อมๆๆกัน)

    สิทธิในทางการเมือง ทั้ง สมัครรับเลือก ตั้ง
    สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง

    สิทธิเหล่านี้มีค่า
    ดังจะเห็นว่าในปัจจุบัน ( พค 50-มิย 50)
    บ้านเมือง วุ่นวายด้วยสิทธิของการเลือกตั้ง
    การถูกตัดสิทธิ ในการ สมัครรับเลือกตั้ง
    การถูกตัดสิทธิในการออกคะแนนเสียง
    บางคนถึงกับเทียบว่า
    เป็นการประหารชีวิตของการมีสิทธิ

    การมีชื่อ มีสกุลเป็นของมีค่ามากตามที่ว่า
    จึงมีต่างด้าวบางคน
    พยายามเสียเงินเสียทองมากมายที่จะ มีชื่อในทะเบียนบ้าน
    จะมีบัตรประชาชน เพื่ออยู่ในประเทศไทยได้ตลอดไป

    เมื่อเราเป็นคนไทย
    ก็จงภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นไทย
    ได้เกิดมาใต้ร่มโพธิ
    ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจุบัน
    ซึ่งทรง ทศพิศราชธรรมตลอดมา
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  8. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    อืม....น่าสนใจนะ อยากอ่านต่อเร็ว ๆ จัง
     
  9. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    แล้วจะรู้ได้ยังไงคะว่า แสงออร่ายาวกี่เมตร..:)
     
  10. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,254
    ข้อมูลแปลกดีครับ
     
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    มีผู้ถามมาว่า จะรู้ได้อย่างไรว่า พลังไปได้ไกลกี่เมตร
    วิธี พิศูจน์เบื้องต้นให้สังเกตุดังนี้
    1.เวลานั่งทำสมาธิ ที่จุดกลางหน้ากระหว่างคิ้ว เต้นตุบๆๆ ค่อนข้างชัดเจน
    2. เวลาไปสถานที่ที่ มีพลัง เช่น วัด ในโบสถ์ หน้า ศาลพระภูมิ ตัวจะมีขนลุก
    วาบ
    3. เวลามองใคร เพียงแต่จ้อง ก็รู้ในจิตว่า เขาเป็นคนอย่างไร คิดอะไรอยู่
    และมาทำไม

    เมื่อสามารถรับรู้ข้อใดข้อหนึ่งจาก 3 ข้อ
    ให้หาเพื่อนมาหนึ่งคนทดลองยืนห่างกัน 1เมตร
    ทั้งสองคนให้ยกมือ สองข้างขึ้น สูงในระดับ หน้าอก
    แล้วทำท่าผลักอกกัน โดยยันด้วยฝ่ามือ ทั้งสอง
    จะรู้สึกเหมือนกับว่า มี พลังดันกันจริงๆๆ

    ลองเลื่อนระยะห่างกันออกไป 5เมตร
    แล้วลองผลักกันดู ว่า ยังมีพลังลึกลับดันอยู่หรือไม่

    ถ้ามีก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆๆ ที่ 10 เมตร 20 เมตร 30เมตร 40 เมตร
    ลองไปเรื่อยๆๆ จนกว่า จะรู้สึกว่า แรงดันระหว่างกันจะน้อยลงมาก
    ดูว่า ได้ระยะแค่ไหน นั่นระยะอำนาจพลังจะใกล้เคียงกับเท่าที่ควรจะเป็น

    ถ้าไม่แน่ใจ มาทดลองดัน กับผมก็ได้ ทุกวัน เว้น วันจันทร์ ช่วงบ่ายที่ บู๊ธ หมายเลข 052-053 บนสถานีไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร ไม่ต้องเสียเงิน
     
  12. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,587
    กะ ขะ คะ ฆะ งะ จะ ฉะ ชะ ฌะ ญะ......
    ......... พระคาถาปลุกตัวเองก่อนที่จะลงมือรักษาผู้อื่น
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    (ต่อ)

    ศาสนาพุทธ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายหินยาน หรือ มหายาน
    จะเน้นการสวดมนต์ การพร่ำภวนา ด้วยคำพูด
    หรือสื่อด้วยเสียง จากการร้อง การเคาะไม้ ตีเกราะ เคาะระฆัง ฯลฯ

    ทั้งหมดเป็นไปตามหลักที่เรียกว่า" MANTRA" หรือหลักของ"มนตรา"
    มนตรา คือการพร่ำ การบ่นภวนา ซ้ำๆๆ กันมากๆๆ บ่อยๆๆ
    การทำเช่นนั้น ทำให้เกิด พลังของความศักดิ์สิทธิ
    ยิ่งซ้ำมาก ก็ยิ่งศักดิสิทธิ์มาก
    คำเช่น นะโม โอม สาธุ อาเมน ฯลฯ
    พูดกันมาก จึงขลังและศักดิสิทธิ์ ยิ่งนัก

    การพูดบ่นภวนาซ้ำๆๆ จึงมีพลังและมีความขลัง
    จึงเป็นที่มา ของการที่ คนไทย
    ต้องสวดมนต์บ่อยๆๆ ซ้ำๆกันทุกวัน
    การทำวัตรเช้า
    การทำวัตรเย็น
    การสวดพาหุง
    การสวดคาถาชิณบันชร
    การสวด บทอิติปิโสภควา ให้ได้ 108 จบ
    หรืออย่างน้อย ต้องให้เท่า อายุตัวเอง บวก 1
    เป็นการย้ำว่า การสวดบทซ้ำๆนั้น
    เป็นการเพิ่มอำนาจและความขลังจริง

    พวกเราบางคนทำไปโดยไม่รู้ว่า
    ทำไมต้องสวดกันมากมาย ซ้ำๆๆกัน
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
    เด็กที่เกิดมาใหม่จะมีชื่อเล่นและชื่อจริง

    ชื่อเล่นมักจะตั้งตามลักษณะของเด็ก
    เช่น จิ๋ว บอย แนน ขวัญ ยา ฯลฯ

    ชื่อจริง บางคนก็จะไปที่วัด ขอให้พระตั้งให้
    หรือไม่ก็ให้ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือตั้งให้

    บางคนก็ตั้งเองโดยอาศัยตำราตั้งชื่อ
    ที่จะมีบทอ้างอิงว่า ถ้าเกิดวันจันทร์
    ให้เลือกอักษรที่เป็น เดช เป็น ศรี เป็น มูละ เป็นบริวาร
    ห้ามใช้อักขระที่เป็นกาลกินี

    ไล่ไปเรื่อย ตั้งแต่ วันอังคาร...จนถึงวันอาทิตย์ ให้ครบ 7 วัน
    เลือกตัว เป็นเดช เป็น ศรี เป็น มูละ เป็น บริวาร
    ไม่เลือก ตัวกาลกินี

    อักขระเหล่านี้ มีอยู่ในตำรา
    จะใช้ทีก็ต้องเปิดตำรา เลือกหาเอา
    มีคนสักกี่คนที่ท่อง ตัว เดช ตัวศรี ตัวมูละ ตัวบริวาร ตัวกาลกินี
    ได้ ของทุกวันของสัปดาห์
    พลังมนตรา จึงไม่มี

    เด็กทุกคนเมื่อ โตขึ้นและไปโรงเรียนได้
    ก็จะเข้าเรียนชั้นอนุบาล
    ตำราเล่มแรก คือ บทเรียน"อาขยาน"

    เริ่มด้วย คำว่า " ก.เอ๋ย ก ไก่
    พร้อมกับมีรูปไก่โต้งตัวใหญ่สีสวยงาม

    ตามด้วย "ข.ไข่
    พร้อมกับมีรูปไข่หนึ่งใบหรือหลายใบ วางบน ฟาง
    .....................................................
    ไปเรื่อยๆๆ จน ถึง ฮ.นกฮูก ตาโต
    มีนกฮูก ตาโต เกาะบนกิ่งไม้ ตาวาวๆๆ

    พวกเราทุกคน ล้วนแล้วแต่ผ่านบทเรียนเหล่านี้มาแล้วทั้งนั้น
    ไม่ว่า จะแก่แค่ไหน ก็เชื่อว่า ยังท่อง ก.เอ่ย ก.ไก่ได้
    และจำรูปที่อ้างอิงได้

    ถ้ามีคนไทย ตั้งแต่โบราณมา
    และยังไม่ตายที่ได้อ่านบท "อาขยานรวมกันแล้ว
    น่าจะมากกว่า 200 ล้านคน

    คน มากกว่า 200 ล้านคน ได้อ่าน ได้ท่อง อักขระนี้
    มามากมาย หลายจบ
    เมื่อใช้หลักการอ่านซ้ำซาก ของ มนตรา
    อักขระเหล่านี้ จึงมีพลังอย่างอัศจรรย์

    จะเห็นได้ชัดเมื่อ เพ่งและอ่านด้วยจิตรู้
    เมื่อเพ่งแล้วสัมผัสได้ชัดเจนว่า อักษรตัวใด
    มีพลังเช่นใด แรงมาก แรง น้อย
    ให้ผลลบ ให้ผลบวก แก่ผู้นำมาใช้ในการตั้ง ชื่อ และ สกุล
    มีผลต่อชื่อที่ตั้ง ในการก้าวหน้า ของชีวิต
    มีผลต่อทิศทางของชีวิต ว่าจะไปดี หรือ ไม่ดี

    มีคนบางคนที่มีจิตสังหรณ์ว่า ชื่อเดิมไม่ดี
    จึงมีการเปลี่ยนชื่อใหม่
    บางคนเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ
    จนกว่าจะพบว่า ชื่อไหน ทำให้ตัวสะบายที่สุด

    ดังนั้นต่อไปนี้ จะเป็นการแยกแยะให้ดูว่า
    อักขระตัวใด มีผลและอิทธิพลต่อ การตั้งชื่อเช่นไร

    ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวคิดใหม่ ที่แตกต่างกับแนวคิดเก่า
    ผู้ที่มีพลังจิตสูง มีกำลังภายในสูง ลองทดสอบดูว่า เป็นจริงหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2007
  15. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ดีจังค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ดี เพราะเพิ่งไปเปลี่ยนชื่อมาเหมือนกัน
     
  16. tg22070

    tg22070 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +601
    อยากอ่านต่อครับ ถ้ามันขัดแย้งกับหลักการตั้งชื่อที่มีอยู่จะเป็นอย่างไรครับ
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลักการที่แนะแนวไป ตามหลักของ"มนตรา"นี้
    สามารถรับรู้ของพลังแต่ละตัวอักษร ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีพลังจิตดี

    คำถามว่า จะขัดกับหลักเดิม เรื่อง ตัวอักษร
    ที่เป็นเดช เป็น ศรี เป็นมูละ เป็นกาลกินี หรือไม่

    ในแนวใหม่แนะแนวว่า อักษรใด มีพลังมาก/น้อย อย่างไร
    ให้พลังในด้านใด ถ้าใช้ในการตั้งชื่อ
    แล้ว ความโน้มเอียงจะเป็นอย่างไร

    เราสามารถประยุกต์ สองระบบ เข้าด้วยกันได้

    โดยเลือกตัวที่ดี มีพลัง ที่เสริมอำนาจและให้คุณตามที่ใจปราถนา
    แล้วค่อยมา แยกอีกที ว่า ใช้ตัวใหนได้
    ใช้ตัวไหนไม่ได้ ใช้ตัวไหนดี

    ตาม กฏเกณฑ์เดิม ของตำราตั้งชื่อ
    คงจะเข้าใจนะครับ
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    (ต่อ)

    อักษรตัวแรกในภาษาไทย ที่เด็กนักเรียนใหม่ทุกคน จะต้องเรียนรู้ คือ

    ก. ก เอ๋ย ก.ไก่
    จะเห็นภาพประกอบ เป็นไก่โต้ง ตัวผู้ ที่สวยงาม
    ยืนกลางสนามหญ้าที่เขียวขจี เป็นสง่า
    สัตว์ ตัวผู้ ตามธรรมชาติ จะสวยงามกว่า ตัวเมีย
    ยกเว้นคน

    สัตว์ตัวผู้ ต้องงามสง่า เพื่อดึงดูดตัวเมีย ในการต่อขยายพันธ์
    แต่สำหรับคน แล้ว ผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายไล่ตามฝ่ายหญิง
    ตามคำคมที่มีมานานว่า "นารีมีรูปเป็นทรัพย์"

    ไก่เป็นสัตว์ปีก ในสปีซี่ เดียวกับ นก
    ไก่จะตื่นแต่เช้าทุกวัน เมื่อตื่นแล้วก็จะขัน ที่เยกว่า "ไก่ขัน"
    เป็นการบอกเวลาตื่นสำหรับบางคน ที่จะต้องไปทำงานแต่เช้า

    ตามธรรมชาติ ไก่ จะหากินเองได้
    หาอาหารกินตามพื้น ตามใต้ใบไม้
    เมื่อมีอันตรายมาก็จะบินหนีได้
    และที่สำคัญ
    ไก่ไม่มีวันอดตาย

    ธรรมชาติของไก่ และสัตว์ปีก คือ ตื่นแต่เช้า
    หากินตอนเช้า เราจะได้ยินเสียง จ๊อกแจ๊ก จอแจ

    พอบ่ายก็เข้านอนเงียบ
    พอตกเย็นก็ตื่นออกมาหากินอีกรอบ
    เราจะได้ยินเสียง จ๊อกแจ๊ก จอแจอีกครั้ง

    ปรากฏการนี้เป็นกลไก ของธรรมชาติ มาแต่ดึกดำบรรพ์
    ที่ปรับให้การคงอยู่ ตามธรรมชาติดีที่สุด

    ชาวยุโรป หลายประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ฯลฯ
    มองเห็นเรื่องนี้ ว่า เป็นเรื่องดี เพื่อ สุขภาพ และมีอายุยืน
    จึงพากันปิดร้านค้า ปิดบ้านนอนกัน ตอนบ่าย
    และมาเปิดอีกครั้ง ในตอนเย็น จนถึงมืด ได้เวลานอนแบบไก่

    ฝรั่งเศสมีความประทับใจในเรื่อง วัฏจักรของไก่
    ถึงขนาด ตั้งตราประจำทีมชาติฟุตบอลล์ว่า "ตราไก่"

    ดังนั้น ก.ไก่ ตัวแรก เมื่อ ใช้ในการตั้งชื่อ
    มีแนวโน้มว่า จะทำให้ผู้นั้น
    เป็น คนขยัน สง่างาม สังคมยอมรับ สดใส เจ้าชู้
    และที่สำคัญ คือ
    ไม่อดตาย
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ข.ไข่ในเล้า
    ภาพที่เห็นคือ ไข่ใบสวยงามสีนวล หรือ ขาว
    วางนิ่มๆๆ บนกองฟาง
    เหมือนกับจะกลัวว่า จะแตกเอาง่ายๆๆ
    เวลาขนเอาไป จะต้องใช้ ถาดรองไข่ ที่ทำเป็นหลุมซ้อนๆๆ กันไว้

    ไข่จะมีรูปร่าง ทรงรี ซึ่งเป้นรูปทรงที่แข็งแรงที่สุด
    ในการ ทนต่อการถูกบีบ ถูกอัด
    ถ้าไข่มีรูปอื่นเช่น รูปสี่เหลี่ยม จะแตกง่ายที่สุด

    แม่ไก่ หรือแม่เป็ด ถ้าไข่มีรูปสี่เหลี่ยม
    คงจะเดาไม่ถูกว่า เวลาออกไข่ จะทารุณ แค่ไหน

    ไข่ทุกใบจะมี ไข่ขาว และไข่แดง
    ซึ่งจะเป็นตัวลูกเจี๊ยบ และมีอาหารพอดีที่จะทำให้เป็นตัว
    แล้ว มีแรงจิกเปลือกไข่ออกมาเอง เวลาที่จะต้องมาเกิด

    ผิดกับของ คน ที่ ไข่ที่ถูกผสมแล้วด้วยตัวอสุจิ
    จากการมีเพศสัมพันธ์
    จะต้องเลื่อนลงมาเกาะที่ผนังมดลูก
    มีสายสะดือ ดูดอาหาร จาก แม่
    ถ้าแม่กินอาหารไม่ครบ ทารกก็ะอ่อนแอ
    ถ้าขาดธาตุปูนมากๆๆ ทารก ก็จะแย่ง ธาตุปูน จากฟันแม่
    ดังนั้นหลังจาก คลอดลูกแล้ว บรรดาแม่ๆๆ ก็จะฟันผุกันเป็นแถวๆ

    ถ้ากินฟอสฟอรัสไม่พอในการสร้างสมอง
    สมองก็จะน้อย ความโง่ก็จะเป็นผลพลอยเสีย

    คำคมที่เกี่ยวกับไข่ มีหลายคำ
    ไข่ในหิน หวงยังกะไข่แดง ถูกเจาะไข่แดง
    ล้วนแต่ ออกไปในแง่ลบ

    ไข่เป็นของที่มีค่า มีความหมาย
    แต่ช่วยตัวเองไม่ได้
    ต้องให้แม่ฟัก
    ต้องใช้แสงแดดและความร้อนช่วยฟัก (ไข่เต่า ตามหาดทราย)
    ต้องให้คนเอาเข้าเตาอบฟักไข่
    จึงจะรอด เป็นตัวเป็นตนได้

    เมื่อใช้ในการตั้งชื่อ ก็จะมีแนวโน้ม
    ว่า เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการดำรงชีวิต
    แต่มีจุดอ่อน ที่ ช่วยตัวเองไม่ได้
    ทำงานใด ถ้าไม่มีใครช่วย จะไปไม่รอด
    เป็นอักขระ กลางๆๆ ไม่ค่อยแข็งแรง
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ค.ควายเข้านา

    ภาพที่ทุกคนจะนึกออกคือ
    ควายตัวขนาดสมบูรณ์กำลัง ยืนในทุ่งนา
    มีต้นข้าวหรือ หญ้าเขียวชะอุ่ม อยู่โดยรอบ

    ควายไทย มีขนาดกลาง มีความซื่อสัตย์ ขยันทำงาน
    มีความจำแม่น พอเย็นเดินกลับบ้านเข้าคอกได้เอง

    ควายในประเทศจีน มีขนาดเล็ก โตกว่าสุนัขเล็กน้อย ใช้งานไม่ได้
    ควายในอาฟริกา ตัวใหญ่ และดุ ใช้งานไม่ได้เช่นกัน

    ประเทศไทย แต่เดิมใช้ควายในการทำนามาตลอด
    ต่อมา มีควายเหล็ก คูโบต้า จาก ประเทศ ญี่ปุ่นเข้ามา แทน
    ควายไทยก็ค่อยๆๆ ลดหายไป
    เพราะ ชาวนา ต้องขายออกไป ด้วยความยากจน

    การใช้ควายเหล็ก ต้องใช้เชื้อเพลิง มีค่าใช้จ่ายสูง
    ไอเสียที่ออกมา มีผลต่อเรือนกระจก
    ทำให้ อากาศ วิปริต ดังเช่นทุกวัน

    ใช้ไปนานๆๆ ก็ต้องซ่อม ให้เสียเงิน
    พอหมดอายุก็ต้องทิ้ง ซื้อใหม่

    ควายจริงๆๆ นั้น ไม่ต้องใช้น้ำมัน
    กินแต่หญ้า เท่ากับเรามีเครื่องตัดหญ้าชั้นดี
    ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

    ใช้ไปนานๆๆ แทนที่จะเสีย
    กลับออกลูกออกหลาน ขยายพันธ์
    พอมากเกินใช้ ก็แบ่งขายให้เพื่อนบ้านเอาใช้ต่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...