ตอนเราหลับจิตของเราไปอยู่ไหน

เด็กที่ไม่มี สิ่งสกปรก ในจิตสะอาด มีศีล 5 ครบแต่ทำไมถึงฝันละเจ้าค๊ะ บางครั้งกลัวมากจนฉี่ลาด ไม่เคยเห็นคนในฝันมาก่อน มาตามทำร้ายเรา บ้าง หน้าตาดุร้ายบ้าง ทั้งๆที่ สัตว์ หรือคน ก็ไม่เคยทำร้ายไม่เคย คิดร้ายกับใคร ศีล ครบทุกข้อแต่ทำไมฝันร้ายละ

 

มันเป็นสัญญาเก่ามั้ง เรียกว่า กรรมนิมิต และคตินิมิต

ถ้ายังมี รูปและนาม อยู่ครบๆ ก็ฝันได้ทั้งนั้นแหละจ้า

เรียกว่า ฝันกลางวัน ก็ยังมี ใช่ว่าจะมีแต่ ฝันกลางคืน นะ

บางคนจิตของเจ้ากรรมนายเวร มาแทรกตัวเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในดวงจิต ก็มี

กรรมของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนเป็นแบบบนี้ บางคนเป็นแบบนั้น

เอาแน่ไม่ได้ ได้แต่รู้ตามประสบการณ์มาเป็นบทเรียนซึ่งกันและกัน

อย่างพี่ขวัญ ไม่ฝันเลยนะ หลับสนิทเหมือนแบตหมดทุกวัน(เพราะไม่รู้ตัวขาดสติในฝัน?) แต่มีละเมอเป็นบางครั้ง

เรื่องฝันหรือไม่ฝันมันบอกอะไรไม่ได้หรอก อาจบอกได้แค่ว่า มีปกติเป็นคนไม่สนใจเรื่องนอกตัว

ไม่ชอบส่งจิตออกนอก มีจิตส่งในตลอด

หรือเป็นคนไม่ชอบฝันอยู่แล้ว มันก็ไม่ฝัน บางคนก็ฝันร้าย บางคนก็ฝันดี

อย่าไปคิดมาก คิดว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติของจิต ของเรา มันเป็นเช่นนั้นเอง

ก็ทำกุศลจิตให้เกิดบ่อยๆ ละวาง โลภ โกรธ หลง ปล่อยวางตัณหาความอยากเป็น

ความไม่อยากเป็น ก็จะช่วยให้จิตมันเกิดในสุคติภพ บ่อยๆเนืองๆ

ก็จะช่วยลดการจุติจิตในทุคติภพ ลงไปได้บ้าง จิตเรามันจุติและดับตลอดเวลานะ

จิตเรามันไม่เคยหยุดเกิด ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่เราไม่รู้ไม่เห็นเอง

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=DMTljy8mLfk&feature=related]ง่วงนอนยังอุสายิ้ม( baby so cute ) !!! - YouTube[/ame]

 

แสดงว่ากรรมมีจริง เราเคยฆ่าคนในอดีต เขาตามเรามา แม้แต่ในฝันใช่ไหมเจ้าค๊ะ แม้แต่เรานอน เขาก็ยังตามมารบกวนเรา ได้

 

ครับ ตามนั้นแล กฎแห่งกรรมเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีวิญญาณหมดแหละ แล้วแต่เราจะทำปฏิกริยากับสิ่งนั้นมากแค่ไหน
ก็โดนสนองคืนเท่านั้นแหละครับ
แต่ถ้าท่านเชื่อใน GOD ก็เป็นอีกเรื่องไปเลย จะนับถืออะไรก็แล้วแต่ความชอบนะ

 

หนูจะทำยังไงดีเจ้าค๊ะไม่ให้เขามายุ่งกับหนูอีก หนูจะได้หลับสบาย หนูว่าทุกคนก็ฝันร้าย หนูก็พยายามจับจิตให้ได้นะว่าหลับตอนไหน แต่ก็หลงหลับไปทุกที

 

ทำบุญทำกุศล ได้แก่ ทำทาน สวดมนต์ ทำสมาธิให้จิตสงบ(ทำกรรมฐาน)

แล้วอุทิศบุญกุศลนั้น ไปให้เจ้ากรรมนายเวรระบุไปเลยถึงคนที่ทำให้เราฝันร้าย

อาจจะบอกเพิ่มไปว่าเราขอโทษขออโหสิกรรมที่ทำให้เขาเจ็บแค้นไม่เป็นสุข

และเราทราบถึงความเจ็บปวดของเขาแล้ว(คือเรานอนหลับไม่เป็นสุข เป็นทุกข์ตลอดมา)

เราสำนึกผิดแล้วและขอให้เขาเป็นสุขมีสุคติภพเป็นที่ไป

ถ้าจะทำบุญใหญ่หรือถวายสังฆทาน ก็ขอให้เขาอนุโมทนาบุญกับเรา

บุญที่เราทำด้วยจิตบริสุทธิ์และเขาระลึกได้ อนุโมทนาบุญกับเราได้

จะหนุนให้เขาไปเกิดใหม่ในสุคติภพได้

ทำครั้งเดียวไม่สำเร็จ ก็ทำไปเรื่อยๆ อย่าท้อ ด้วยจิตที่ตั้งมั่นจะให้เจ้ากรรมนายเวร

ของเรามีความสุขมีสุคติภพ ซักวันเขาก็ต้องได้รับบุญนั้นจนได้

เมื่อไรที่เราเป็นสุข สบายใจ ก็อย่าลืมอุทิศกุศลจิตนั้นให้เขาไปด้วย

เขาจะได้เป็นสุขไปพร้อมๆกับเรา ทำไปเรื่อยๆ จะเป็นผลดีทั้งกับเราและเขาเอง

ทำกุศลจิตให้เกิดเนืองๆ เราเป็นสุข เจ้ากรรมนายเวรที่แทรกในดวงจิตเรา

เขาก็ได้รับเนื้อนาบุญของเราด้วย อาจจะช่วยเปลี่ยนนิสัยเจ้ากรรมนายเวรของเราด้วย

 

ผู้ที่เป็นเจ้ากรรมกับเรารู้ว่า ทำแล้วไม่ดี แล้วเขามายุ่งกับเราทำไมละเจ้าค๊ะ ทำไมเขามาทำร้ายเราด้วย ทั้งๆที่ไม่ดีเลย

 

เพราะเขาไม่รู้ตัวไง เขาถึงทำแบบนั้นกับเรา

เราถึงทำบุญทำกุศล แล้วอุทิศให้เขาไป เพื่อให้เขามีสติระลึกถึงผลบุญให้ได้

แล้วเขาจะเปลี่ยนภพไปได้เอง

เจ้ากรรมนายเวร ก็เหมือนคนที่โกรธจัด ถูก โทสะ โมหะ ครอบงำอยู่

คนที่โกรธจัดน่ะ เขาขาดสติ ทำได้ทุกอย่างเพื่อระบายโทสะ เขาไม่รู้ถูกผิดหรอก

เขารู้แต่พอใจทำแบบนี้ เหมือนเราเผลอไปเหยียบตาปลาคนอื่นแล้วไม่ตั้งใจ

แต่คนนั้นเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิรักโลภโกรธหลงขาดสติรุนแรงเขายับยั้งชั่งใจไม่ได้

เขารู้แต่ต้องเหยียบเราคืนเขาถึงจะสงบได้ อาการประมาณนั้น

ถ้าเรามีสติพอเราก็ไม่ต่อความยางสาวความยืด อาจแถมพูดขอโทษหรือให้เงินเพื่อให้เขาพอใจ

จะได้ไปจากเราแบบไม่ต้องติดค้างกันอีกต่อไป

บางทีเหมือนเรายอมเสียเปรียบเขา แต่เพราะเรารู้มากว่าเขา เราถึงอภัยให้คนไม่รู้ได้

เหมือนเราดูคนบ้ามันไล่ตีคนอื่นแล้วหัวเราะชอบใจ เราก็ได้แต่ดูแต่ช่วยคนบ้าให้มันรู้ตัวไม่ได้

วิธีจะช่วยคนบ้าได้ก็คือ ต้องให้เขาระลึกถึงบุญกุศลของเขาให้ได้ เขาก็จะมีกุศล

เป็นที่เกาะพาไปสู่ภพใหม่ เปลี่ยนภพภูมิได้

อีกวิธีหนึ่ง คือ เราฝึกเจริญสติเจริญปัญญา ปล่อยวางเจ้ากรรมนายเวรไป

พอเราไม่รับรู้เขาสำเร็จ คือเขาเอื้อมไม่ถึงเรา หรือ เราตัดสัญญาณเป็นคือไม่รับรู้อะไรๆ

ฝึกให้เห็นว่าความฝันไม่ใช่ความจริง ให้จิตเรามันปล่อยวางความฝันให้ได้

เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว เหมือนเราเป็นหินไม่สะทกสะท้าน เพราะเราแยกโลก

ความเป็นจริงกับโลกความฝันและโลกทิพย์ได้ แบบนี้ก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ไป

แต่วิธีนี้มันใช้ได้กับภาพมายาและความฝันที่จิตเรามันไปผูกพันธ์กับเขาแล้ว

ต้องการจะสลัดออกมานะ ก็ต้องบอกจิตเราให้มีสติรู้ตัวและไม่โดนคนอื่นหรือ

สิ่งแปลกปลอมมาครอบงำตอนหลับ!!!

มันก็มีหลายวิธีนะ แต่ต้องอาศัยการฝึกจิตให้มีสติและเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง

ฝึกใจไม่ให้งมงาย ฝึกใจให้เห็นความจริง อย่าไปฝักใฝ่เรื่องโลกทิพย์ มันถึงจะหลุดจากภาพมายาได้

 

อ่านไปแล้วสองรอบ พยายามทำความเข้าใจทุกข้อความให้ได้เจ้าค๊ะ

 

อ๊ะๆ เด็กน้อย ยิ้มออกแล้ว!!!

 

เด็กมิใช่ผ้าขาว
เกิดเพราะมีกรรมวิบาก พาให้ต้องเกิด มันมีเหตุถึงมีผล
วิบาก....ที่ทำมีพอ ๆ กับ ผู้ให้กำเนิด หรือประเภทเดียวกัน
แผ่เมตตาบ่อย ๆ ให้เจ้ากรรมนายเวร ทุกคนมีกรรมเป็นของตน
ความฝันด้วยเรื่องเดิม หรือเรืองที่จะเกิดในอนาคตได้
ทำสมาธิบ้่างจะลดการฝันได้
ขอให้เจริญในธรรมทุกท่าน
สาธุ
แสนสวาท

 

ปริศนาเรื่องตอนหลับจิตของเราไปอยู่ที่ไหน และกายฝันเป็นอย่างไร ลองอ่านดูนะครับ

Kayadham(กายธรรม)เป็นคนดีด้วยสำนึกดี!! โดยวิชาหลวงพ่อวัดปากน้ำ - ผู้ใดเห็นดวงธรรม 8

Kayadham(กายธรรม)เป็นคนดีด้วยสำนึกดี!! โดยวิชาหลวงพ่อวัดปากน้ำ - ผู้ใดเห็นดวงธรรม 10

 

เพิ่มเติมอีกนิดว่า จิตเป็นส่วนหนึ่งใจ หมายถึง คิด(สังขาร)
โดยที่ใจ ประกอบไปด้วยธรรมชาติ 4 อย่างเรียกง่ายๆว่า เห็น จำ คิด รู้ (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)

 

แล้วตกลงจิตไปอยู่ ที่ไหนแสดงว่าจิต นิ่งอยู่กับที่คือที่เรานอนอยู่ หรือไปอีกมิติหนึ่ง ภพอื่น ๆเพียงแวบเดียวแต่ไม่ปะติดปะต่อ เพราะเราบังคับจิตไม่ได้ เราบอกว่าจิตเป็นของเรา แต่ทำไมเราบังคับ ไม่ได้ แสดงว่าไม่ใช่ของเราสิ หรือ ร่างกายบังคับจิตให้คิดคือส่วนสมอง สั่งจิต

 

เราชอบคําลงท้าย ของเธอจัง

 

เจ้าค๊ะ_________เจ้าค๊ะ

 

ตอนเราหลับเวลาในจิตเราเพียงแค่กระพริบตาก็ตื่นแล้ว แต่เวลา ตื่นนอนทั้งวันมีเวลานานมากในแต่ละวัน ตื่นมาแปลงฟัน กินข้าว สามมื้อ เที่ยวเล่น อาบน้ำนอน ดูหนัง เดินเล่น นานมากๆในแต่ละวัน
แล้วจิตเราไปทำอะไร หนูนอน 21.00 เพียงแค่เวลา หลับตาตื่นอีกที ก็ 8.00 แล้ว
ตั้งแต่เวลา 8.00 ถึง 21.00 นานมาก ๆ ตอนเราหลับแป๊บเดียวเองนั้นแสดงว่าเวลาแต่ละคนไม่เท่ากันนะสิ ในแต่ละวัน เวลาอาจจะเป็นความรู้สึกหรือปล่าว เจ้าค๊ะ

 

ตัวกำหนดเวลา อาจเป็นที่จิตเราก็ได้นะเจ้าค๊ะ เช่น คนติดคุกจิตเขามีเวลาอยากออกมาจากคุก 1 วันนานมากเหมือน 1 ปีคอยเวลาออกแต่ละนาทีนานมากๆ แต่เวลาที่เราอยู่กับความสุข หรือสนุกเวลาเที่ยวเล่นเวลาเดินเร็วมากนั้นแสดงว่าเวลาแต่ละคนไม่เท่ากัน ใช่ใหมเจ้าค๊ะ