พระเครื่อง พระกรุ นิยม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    เหรียญเสมา ๘ รอบ หลวงปู่ทิม อิสริโก
    เขียนโดย ชินพร สุขสถิตย์
    [​IMG]เหรียญเสมา ๘ รอบ หลวงปู่ทิม อิสริโก มูลเหตุจูงใจที่มีเหรียญเสมา ๘ รอบและสร้างเป็นเหรียญฉลุลงยาสีต่างๆนั้น มาจากแนวความคิดที่ว่า ในระหว่างปี พศ.๒๕๑๖-๒๕๑๘ นั้นเหรียญลงยาของหลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา จังหวัดปราจีนบุรี,เหรียญลงยาของหลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม และเหรียญเสมาลงยาพิมพ์พิเศษต่างๆของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากและมีสนนราคาแพง อีกทั้งหายาก ผม(คุณชินพร สุขสถิตย์) จึงคิดสร้างเหรียญลงยาไว้ใช้แทนกันเพราะพิสูจน์แล้วว่า หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเก่งจริงๆและจะทำออกให้บูชาเพื่อหาเงินสร้างศาลาภาวนาภิรัต จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหรียญ ชุดเสมา ๘ รอบขึ้น
    เหรียญเสมา ๘ รอบ มีหลายแบบหลายพิมพ์ โค๊ตที่ตอกเพื่อกันปลอม จึงมีหลายโค๊ตเพื่อจะได้ช่วยกันตอกให้ทันเพราะผู้ที่จองไว้ มาคอยรับของกันตั้งแต่เช้าวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นวันเริ่มงาน มีบางท่านรับเหรียญเสมาหน้าทองคำหลังเงิน, หน้าทองคำหลังทองคำ ไปโดยไม่ตอกโค๊ตก็มีโดยบอกว่า “รับจากมือหลวงปู่ แล้วต้องตอกโค๊ตอีกทำไม?” แต่ปรากฎภายหลังว่า เหรียญที่ไม่ตอกโค๊ตสนนราคาเช่าหาจะต่ำกว่ามาก ดีไม่ดีหาว่าเก๊ไปเลยก็มี
    เหรียญเสมาทองแดงจะตอกโค๊ตตัวอุ ( ฯ ) ไว้บนสังฆาฏิ หัวอุไม่ค่อยติดเพราะพื้นโค้ง มองเป็นเลขหนึ่งอารบิค ( 1 ) ไปก็มี ถ้าเป็นเหรียญพิเศษจะตอกโค๊ตนะเม็ดงา โค๊ตเดียวกับที่ใช้ตอกพระกริ่งชินบัญชรแต่โค๊ตก็สึกมากแล้วจึงเอาโค๊ตนะแอล ที่แรกตั้งใจสร้างไว้เพื่อตอกพระกริ่งชินบัญชรมาตอกไว้ด้วย เพราะโค๊ตอุ ตอกหัวติดบ้างไม่ติดบ้างจนดูเป็นเลขอารบิคไป
    สำหรับเหรียญที่ตอกโค๊ตตราศาลาเพิ่มขึ้นอีก ถือเป็นเหรียญส่วนตัวของผม(คุณ ชินพร สุขสถิตย์) ส่วนโค๊ต 3 ก็เป็นเหรียญส่วนตัวของคุณประชา ตรีพาสัย และคุณพัฒนา บุญอนุกูล(ผู้ทำปลัด โค๊ต3) เหรียญทองแดงที่ไม่ได้ตอกโค๊ตก็มี แต่ขอให้พิจารณาจุดตำหนิในเหรียญเป็นสำคัญ ไม่จำเป็นจะต้องถือโค๊ตเป็นหลักก็ได้ เพราะเหรียญทองแดงมีถึง ๒ หมื่นกว่าเหรียญ จึงตอกได้ไม่หมด และไม่ได้ตอกอีกเพราะโค๊ต (อุ, นะแอล, ศาลา)ได้ทำลายและสึกไปหมดแล้ว
    เหรียญเสมา ๘ รอบเป็นพระเครื่องชุดฉลองอายุครบ ๘ รอบของหลวงปู่ทิม สร้างทั้งหมดหลายแบบประกอบไปด้วย

    ๑. เหรียญเสมาหน้าทองคำหลังทองคำ
    ๒. เหรียญเสมาหน้าทองคำหลังเงิน
    ๓. เหรียญเสาหน้าเงินหลังเงิน
    ๔. เหรียญเสมาหน้าเงินหลังนวะโลหะ
    ๕. เหรียญเสมาเงินลงยาที่จีวรสีเหลือง
    ๖. เหรียญเสมาเนื้อนวะโลหะผสมชวนพระกริ่งชินบัญชร
    ๗. เหรียญเสมาเนื้อทองแดง
    ๘. เหรียญเสมาพิเศษเนื้อทองแดงลงยา

    เหรียญชุดเสมา ๘ รอบ คุณปราโมทย์ มาเจริญ ช่างศิลป์ของแผนกเผยแพร่ กรมชลประทานเป็นผู้ออกแบบ แล้วมอบให้คุณฐิติพงษ์ อุดมรัตนศิษย์ นำไปทำทั้งหมด เสร็จแล้วได้นำพระทั้งหมดไปถวายให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกเดียวตั้งแต่ วันฉัตรมงคล ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๘ และออกให้บูชาเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ อันเป็นวันทำบุญอายุครบ ๘ รอบของหลวงปู่ทิม (ปลุกเสกร่วมๆ ๔๕วัน)
    เมื่อปี่ ๒๕๒๐ หลังจากหลวงปู่ทิมมรณะภาพได้เพียงปีเศษ เหตุการณ์ที่ผมรู้เห็นมากที่สุดคือเรื่องของคุณสมนึก ใยสูง ซึ่งขณะนั้นมีการก่อสร้างถนนรัชดาภิเษกจากสี่แยก อ.ส.ม.ท. มาจนถึงสี่แยกรัชโยธิน ในปัจจุบันและเลยไปบรรจบกับถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างที่ถนนกำลังก่อสร้างเสร็จเป็นช่วง ๆ และทางการยังไม่เปิดให้รถวิ่ง ถนนบางตอนยังเต็มไปด้วยกองหิน กองทราย เศษเหล็ก ทั้งสองข้างทาง เสาไฟฟ้ากำลังปักใหม่ๆ ไฟฟ้าบนเสายังไม่ติด ในช่วงที่เป็นเขตติดต่อระหว่างสี่แยกรัชดาติดกับถนนลาดพร้าวมาจนถึงที่เรียกว่า สี่แยกรัชโยธิน ในปัจจุบันนี้ ในระยะเวลานั้นถนนสร้างเสร็จแล้วไปแถบหนึ่ง ในเวลากลางคืน บรรดาสิงห์มอร์เตอร์ไชค์ ทั้งหลายต่างก็ใช้ถนนเส้นนี้เป็นที่ประลองความเร็วของรถ จนเป็นที่รกหูรำคาญใจของคนที่ปลูกบ้านอยู่ริมถนนในย่านนั้น
    นายมนัส ใยสูง มีนิวาสถานอยู่ที่บ้านริมถนน ซึ่งปัจจุบันคือ เรือนไม้เก่า ๆ อยู่ติดกับร้านทำเครื่องเสียง ติดรถยนต์ Rocket Sound ติดถนนรัชดาภิเษก นายมนัสสมัยนั้นเป็นเด็กหนุ่ม (ปี ๒๕๒๐) ที่ชอบแต่งเครื่องมอร์เตอร์ไซค์คู่ชีพให้วิ่งเร็ว เมื่อแต่งใช้ได้แล้วก็เอามาลองขับกันบนถนนรัชดาภิเษกหน้าบ้านของตัวเองนั้น พรรคพวกเพื่อนฝูงที่ร่วมแก๊งนักบิดและมีส่วนในการแต่งเครื่องก็คอยยืนดูผลการทดลอง รอบนั้นนายมนัส ใยสูง เป็นผู้ทดลองขับรถของตนเอง โดยเพื่อนคนอื่นได้ลองกันมาหลายรอบแล้ว นายมนัสออกรถคู่ชีพด้วยความเร็วเต็มที่ของเครื่องยนต์ที่สามารถบิดได้ นายมนัสหายไปพักใหญ่ก็ไม่ขี่ย้อนกลับมา เมื่อนานเข้าจนผิดสังเกตุเพื่อนๆจึงออกตามหา ไปจนถึงปากซอยเสือใหญ่ ก็เห็นแสงไฟจากรถมอร์เตอร์ไซค์ของนายมนัสจองพังยับเยินไม่มีชิ้นดีอยู่ข้างทางบนกองหินและไกลออกไปอีกประมาณ ๒๐ เมตร ก็เห็นร่างของนายมนัสนอนสลบนิ่ง ไม่ไหวติง อยู่กลางกองหินและเศษเหล็ก เนื้อตัวถลอกปอกเปิกไปหมดเพื่อน ๆ จึงช่วยกันหามส่งโรงพยายาลภูมิพลทันที
    นายมนัสไปฟื้นที่โรงพยาบาล เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยถลอกเลือกออกซิบ ๆ ตามผิวหนัง แผลใหญ่ไม่มี แต่ถึงกระนั้นนายมนัสก็ลุกไม่ได้เนื้อตัวปวดเมื่อยไปหมด และต้องพักฟื้นอยู่หลายวันจึงกลับบ้านได้ ในคอนายมนัส ใยสูง ห้อยเหรียญเสมา ๘ รอบ เนื้อทองแดงอยู่เพียงเหรียญเดียว นายมนัสเล่าถึงเหตุการณ์ในสมัยนั้นให้ผู้เขียนฟัง
    “พวกผมทดลองรถกันเสียงดังมาก จนเป็นที่รำคาญของชาวบ้านยานนั้น เขาจึงเอาเสาไม้มาขวางทางรถผมไว้ ผมขับไปด้วยความเร็วสูงไม่ทันเห็นจึงชนเสาเข้าเต็มที่ รู้สึกตัวว่าลอยขึ้นไปสูงมาก แล้วก็หมดความรู้สึกไปเลย มาฟื้นอีกทีก็ไปอยู่โรงพยาบาลซะแล้ว ถ้าไม่มีเหรียญหลวงปู่ทิมห้อยคอไว้ผมคงจะไปเมืองผีแล้วเมื่อผมหล่นลงมา หัวผมน่าจะกระแทกกับกองอิฐกองหินจนคอหักสมองกระจายไปแล้ว แต่นี่เป็นเพียงสลบไปเท่านั้น ดีที่ไม่เป็นอะไรเลย” นายมนัส ใยสูง พูดพลางก็เอามือลูบคลำพวงพระเครื่องที่มีแต่ของหลวงปุ่ทิมล้วน ๆ ไปพลาง ๆ พร้อมกับเล่าให้ฟังต่อไปอีกว่า
    “ครั้งที่รถมอร์เตอร์ไซค์ชนยังไม่เท่าไหร่ เพราะสลบไปเสียก่อน แต่ครั้งหลังนี่ซิครับเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หัวใจผมหล่นลงไปกองอยู่กับตาตุ่มเพียงนิดเดียว ถ้าไม่ได้เหรียญเสมาเหรียญเดิมกับเหรียญเจริญพรแล้วละก้อ ผมคงไม่มีโอกาสมาคุยกับพี่ในวันนี้แล้ว” คุณมนัส ใยสูง เล่าถึงเหตุการณ์ ที่ตนประสบต่อมาอีก ๓ ปีให้หลังว่า
    “ผมเป็นคนชอบสะสมปืนพก มีเงินมีทองพอเมื่อใดผมมักจะหาซื้อปืนไว้เป็นสมบัติเสมอ ๆ ผมมีปืนพกยี่ห้อต่าง ๆ ๓ กระบอก มีอยู่วันหนึ่ง ผมได้นำปืนทั้ง ๓ กระบอกมาทำความสะอาด มีปืนอยู่กระบอกหนึ่งที่ผมรู้ว่ามีลูกปืนค้างอยู่ในลำกล้องอีกหนึ่งลูก ขณะที่สนใจอยู่กับปืนทั้ง ๓ กระบอก หน้าบ้านก็มีรถขายฝรั่งดองซึ่งเป็นของรับประทานเล่นที่บรรดาสาว ๆ ชอบ ต่างก็มารุมซื้อของดองอยู่ที่หน้าบ้านผม พี่ชายผมชื่อนายสมนึก ใยสูง เมื่อยินเสียงรถขายผลไม้ดองและมีสาว ๆ ล้อมซื้ออยู่ก็รีบวิ่งลงมาข้างล่าง เมื่อผ่านมาตรงที่ผมกำลังทำความสะอาดปืนอยู่ก็คว้าไปกระบอกหนึ่งเอาไปอวดสาว ๆ เผอิญปืนกระบอกที่เอาไปนั้น เป็นปืนที่มีลูกกระสุนค้างอยู่ในลำกล้อง ๑ นัด ผมรีบวิ่งตามลงไปเพื่อจะบอกให้พี่ชายผมได้รู้ว่า ปืนกระบอกนั้นมีลูก ให้ระมัดระวังเดี๋ยวจะเกิดอันตรายผมก็ตะโกนเตือนไปก่อนว่า นึก!!..ปืนมีลูก ผมตะโกนคำว่าปืนมีลูก ยังไม่ทันจะหมดประโยค พี่ชายของผมก็หันปากกระบอกปืนมาทางผม แล้วเหนี่ยวไกทันที่...ปัง!
    เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ครับ ลูกกระสุนปืนเฉี่ยวกกหูผมแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ซึ่งเป็นระยะกระชั้นชิดมาก เรียกว่ายิ่งกว่าระยะเผาขนอีก พี่ชายผมหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม เพราะไม่นึกว่าปืนจะมีลูกจริง และยังไม่ทันฟังผมพูดให้จบประโยคเสียก่อน สำหรับผมเองนั้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ มันเสียวยิ่งกว่าตอนขับรถมอร์เตอร์ไซค์ซะอีก หัวใจผมเหลือนิดเดียว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริง ๆ “ นึกมันบอกว่า..หัวใจของมันเหมือนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม รอดจากติดคุกเพราะฆ่าน้องชายมาได้อย่างไรก็ไม่รู้ เพราะตัวเองคิดไม่ถึงว่าปืนจะมีลูกและระยะที่ยิงก็เป็นระยะเผาขนจริง ๆ ไม่น่าจะผิด แต่เหมือนมีอะไรที่มองไม่เห็นมาปัดมือขวาที่ถือปืนอยู่ให้เบนออกไป
    ปัจจุบันคุณมนัส ใยสูง เป็นผู้รับเหมาติดตั้งวางเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วประเทศไทยรวยเป็นหลายร้อยล้านแล้ว
    เรื่องของเหรียญเสมาแปดรอบมีเรื่องเล่าให้ฟังอยู่เรื่องหนึ่งว่า ที่บ้านฉาง ระยอง ก่อนที่ทางการจะเข้าไปสร้างโครงการ อีสเทรินซีบอร์ด ไม่นาน กิจการค้าที่ดินโดยเฉพาะที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง โด่งดังมาก การซื้อขายที่ดินนับเป็นธุระกิจที่ทำเงินได้มหาศาลบรรดานายทุนและเศรษฐีทั้งหลายต่างกว้านซื้อที่ดินในบริเวณบ้านฉางกันอย่างขนานใหญ่ เรื่องราวการขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในที่ดินจนถึงมีการฆ่าฟันกันเกิดขึ้นหลายราย มีเรื่องราวอันเกี่ยวกับ เหรียญเสมาชุด ๘ รอบ เกิดขึ้นเรื่องหนึ่งในระยะนั้น แต่บุคคลที่อยู่ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ประสงค์ที่จะออกนามเพราะเป็นผู้พิพากษา
    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อมีการขัดผลประโยชน์เกิดขึ้น การจ้างวานให้เก็บก็เกิดขึ้น ขณะที่เป้าหมายหรือ นาย ก. (นามสมมุติ) กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านแห่งหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งชุมชนของบุคคลหลายอาชีพ มือปืนออกจะใจกล้ามาก ขณะที่นาย ก. กำลังจิบกาแฟอยู่นั้น มือปืนก็ปราดเข้าล็อดคอแบบประชิดตัว มือขวาของมือปืนก็ล็อดคอนาย ก. ไว้ ส่วนมือซ้ายที่ถือ ปืนขนาด ๑๑ ม.ม. อยู่ก็จิ้มเข้าที่พุงกะทิของนาย ก. แล้วเหนี่ยวไกทันที
    เสียงดัง....แซ๊ะ ๆ แต่ไม่มีเสียงกระสุนปืนลั่นออกจากปากลำกล้อง ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างตกตะลึง เมื่อนาย ก. รู้สึกตัวถูกยิงและกระสุนไม่ลั่นออก็เกิดมีกำลังใจต่อสู้กอดรัดกับมือปืนไว้ เจ้ามือปืนวายร้ายก็เหนี่ยวไกปืนอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ผลปืนลั่น โป่ง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว นาย ก. ตกใจรีบคลายการกอดรัดมือปืนออกเพราะใจเสีย ความร้อนจากกระสุนปืนถูกหนังศรีษะพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากบริเวณกกหู มือปืนเลยหลุดรอดหนีไปได้
    หลังจากที่ได้สตินาย ก. ก็เอามือลูบที่บริเวณกกหูปรากฏว่ามีเพียงเลือดไหลออกมาซิบ ๆ เท่านั้น ในคอนาย ก. นี้ห้อยเหรียญเสมาแปดรอบ หน้าทองคำหลังเงิน อยู่เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น
    เหรียญเสมาหน้าทองคำหลังเงิน เป็นเหรียญเสมาเนื้อพิเศษสร้างพร้อมกันและเป็นเหรียญรุ่นเดียวกับเหรียญเสมา ๘ รอบ
    เรื่องราวของเหรียญเสมาเนื้อทองแดง ๘ รอบ ยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง เหตุการณ์ที่จะสาธยายให้อ่านกันต่อไปนี้ คุณธงชัย อุดมความสุข อดีตสามาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่ผู้ล่วงลับไปแล้วได้เล่าโดยเชียนเป็นบันทึกไว้ดังนี้
    ผมเองเคยประสบกับอภินิหารในวัตถุมงคลซี่งได้รับการอาราธนาปลุกเสกโดยหลวงปู่ทิมมาแล้วเมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ เมื่อทดลองเอาพระกริ่งชินบัญชรอาราธนาตัดสายรุ้งบนท้องฟ้าหลังจากฝนขาดเม็ดไปใหม่ ๆ ที่บ้านแม่ข่า ตำบลแม่ข่า อำเภอฝาก จังหวัดเชียงใหม่ และผลปรากฏว่ารุ้งกินน้ำบนท้องฟ้าขาดเป็นช่วง ๆ เมื่อยกเอาพระกริ่งชินบัญชรตัด เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมเองมีความเชื่อมั่นในวัตถุมงคลที่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จังหวัดระยองว่าสามารถคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายได้อย่างสนิทใจ
    ผมมีพรรคพวกที่เป็นสมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่ที่อำเภอฝางอยู่คนหนึ่งเป็นรุ่นน้องของผมและเป็นคนที่ผมรักมากเพราะมีอุปนิสัยใจคอคล้ายคลึงกัน เมื่อผมไปแวะเยี่ยมหา คุณสันติ ตันสุหัช ซึ่งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่เขตอำเภอฝางที่บ้านพักของคุณสันติ ผมได้เล่าเรื่องที่ผมได้ทดลองอาราธนาพระกริ่งชินบัญชรฟาดตัดรุ้งกินน้ำขาดให้คุณสันติฟัง โดยมีความตั้งใจว่าจะเอาพระเครื่องซึ่งหลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกและผมมีอยู่ นำมามอบให้กับคุณสันติไว้ใช้ประจำตัว เมื่อขอชมพระเครื่องในคอของคุณสันติที่แขวนอยู่ก็ได้พบเหรียญเสมาหลวงปู่ทิม เป็นชนิดแบบ หน้าเงินลงยาหลังนวโลหะ เมื่อเห็นดังนั้นทางผมก็เอ่ยปากถามว่าไปได้ที่ไหนมา จึงได้รับฟังถึงเรื่องราวเกี่ยวกับอภินิหาร ของเหรียญเสมาหลวงปู่ทิมจากปากคำของคุณสันติ
    คุณสันติเป็นนักนิยมพระเครื่องคนหนึ่งในอำเภอฝาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้สั่งบูชาพระเครื่องจากวัดละหารไร่ โดยได้ขอบูชาเหรียญเสมาหน้าเงินหลังนวโลหะ และเหรียญเสมาทองแดงมาจำนวนหนึ่ง
    คุณสันติเป็นคนใจคอกว้างขวางตามแบบฉบับของนักการเมือง เป็นคนมีเพื่อนฝูงมาเสมอจากคะแนนเสียงที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่เขตอำเภอฝางที่ได้รับคะแนนถึงหนึ่งหมื่นสามพันกว่าคะแนนแบบนั้นเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคุณสันติเป็นที่นิยมรักใคร่ของคนทั่วไป
    เมื่อเสร็จจากการเลือกตั้งไม่นาน คุณสันติได้นำเหรียญเสมาเนื้อทองแดง ไปฝากไว้กับคุณบรรจบ เตียวกุล หรือที่คนอำเภอฝางเรียกว่า “โกเจ็ง” ซึ่งเป็นเจ้าของสวนลิ้นจี่ชื่อดังในอำเภอฝาง เพราะคุณสันติเป็นเพื่อนกับน้องชายโกเต็ง ชื่อ นายวิชิต เตียวกุล ซึ่งทำงานอยู่ในสวนลิ้นจี่ อยู่ที่บ้านแม่สันมะกอกหวานตำบลแม่งอน อำเภอฝาง ทางคุณสันติ จึงได้ฝากเหรียญเสมากับโกเจ็งเพื่อนำไปให้กับคุณวิชิต (โกชิต) เพราะว่า โกเจ็งต้องเข้าไปดูงานในสวนทุกวัน เมื่อได้รับเหรียญเสมาของหลวงปู่ทิมก็นำมาใส่ในกระเป๋าเสื้อไว้เพื่อนำไปให้กับโกชิตผู้เป็นน้องชายที่อยู่ในสวนลิ้นจี่โกเจ็งได้ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยมีลูกชายซ้อนท้ายออกจากบ้านในตัวตลาดบ้านแม่ข่า เมื่อขี่จักรยานยนต์จวนจะถึงสวนลิ้นจี่ ขณะนั้นเวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ได้มีคนร้ายแอบซ่อนอยู่ข้างทางจำนวน ๒ คน เมื่อโกเจ็งขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงจุดนั้น คนร้ายได้ใช้ปืนเอ็ม.๑๖ กราดยิงโกเจ็ง ๑ ชุดใหญ่ กระสุนถูกรถจักรยานยนต์พังยับ มีกระสุนเพียงนัดเดียวที่ยิงถูกขาของโกเจ็งรถจักรยานยนต์ล้มลง เมื่อโกเจ็งตั้งสติได้ก็ใช้อาวุธปืนที่พกไปยิงโต้ตอบ จนคนร้ายได้หลบหนีไปและได้หวนกลับมายิงโกเจ็ง ซ้ำอีก ๑ ชุด จนแน่ใจแล้วว่าโกเจ็งคงตายแน่แล้วจึงหลบหนีไป
    เมื่อเสียงปืนสงบ ชาวบ้านจึงได้พากันออกมาดูที่เกิดเหตุ พบโกเจ็งและลูกชายนั่งอยู่ที่ข้างทางตรงจุดที่ถูกยิง จึงได้ช่วยกันพาไปส่งยังโรงพยาบาลอำเภอฝาง
    โกเจ็งถูกระสุนที่ขา ๑ นัดเป็นรอยซ้ำ ส่วนลูกชายที่ไปด้วยไม่เป็นอะไรเลย และในตัวก็ไม่มีพระอะไรแขวนอยู่ หากจะพูดว่ามือปืนกระจอกยิงไม่ถูกก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะระยะห่างเพียง ๕ เมตรและยิงด้วยปืนเอ็ม.๑๖ ที่ปล่อยกระสุนออกไปเป็นชุดๆ ชุดหนึ่งประมาณ ๑๖ นัด และยิงถึง ๒ ชุด รวมเป็น ๓๒ นัดแต่กระสุนไม่ถูกต้องตัวเลย ทั้ง ๆ ที่รถจักรยานยนต์ที่ขี่ไปพังยับเยินหมด
    ก็เห็นจะต้องเชื่อมั่นอย่างสนิทใจ ว่าที่โกเจ็งรอดพ้นจากอันตรายไม่ถูกระสุนปืนเอ็ม.๑๖ รางพรุนไปหมดนั้น จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากอำนาจของพระเครื่องเหรียญเสมาเนื้อทองแดงที่โกเจ็งใส่อยู่ในกระเป๋าเพื่อนำไปฝากให้กับโกชิตต้องชายที่อยู่ในสวนลิ้นจี่เท่านั้น


    นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง ของประสบการณ์จากการใช้เหรียญเสมา หลวงปู่ ทิม อิสริโก หลังจากท่านมรณภาพไปเพียงไม่กี่ปี


    ขอขอบพระคุณข้อมูลของ อ. ชินพร สุขสถิตย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  2. a1303

    a1303 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    อยากทราบว่า

    ลูกอมพอเหลือไหม? ถ้ามี ขอจองและขอราคาด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2012
  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอทราบราคาก่อน ทาง PMได้เปล่าครับ :cool:
     
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    ปิดตาฝังพลอย หลังยันต์ห้า ฝังพลอยเสกเนื้อผงพรายกุมาร

    จัดสร้าง 9,000องค์ ในปี 17 พร้อมๆกับปิดตาหลังยันต์น้ำเต้าโดยคุณชินพร หลวงปู่ถึงกับร้องทักว่า " ยันต์นี้เป็นของพระอรหันต์ รูปหนึ่ง "

    ข้อมูลมวลสาร


    พระปิดตา หลังฝังพลอยหลังยันต์ห้าเนื้อผงพรายกุมาร ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ โดยทางคณะผู้สร้างนำโดย คุณชินพร สุขสถิตย์ และ คุณประชา ตรีพาสัย ได้ไปว่าจ้าง ท่านอาจารย์ทองเจือ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผสมเนื้อพระ และ กดพิมพ์พระให้ โดยมีส่วนผสมของ ผงพลายกุมาร, ผงอิทธิเจ, ผงปัททะมัง และ ผงตรีนิสิงเห ของท่านหลวงปู่ทิม เป็นส่วนผสมหลักๆ ที่ทางคณะผู้สร้างได้รับมอบมาจากหลวงปู่ทิม ท่าน และ ได้มอบให้ ท่านอาจารย์ทองเจือ กดพิมพ์พระให้ โดยมีเนื้อพระ หลายสีด้วยกัน ทั้ง สีขาว ดำ และ น้ำตาล มีทั้งแบบ ด้านหลังฝังพลอยเสก โรยตะไบพระกริ่งชินบัญชร และ ไม่มี ก็มี ครับ

    ตำนานผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    เมื่อกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่องวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแด่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ต่อไปในวันข้างหน้าโดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้นั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่ทิมอิสริโกทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ ” กะโหลกพรายกุมาร “ วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสยดสยอง ทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด ) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น ”ผงพรายกุมารมหาภูติ “ ซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจ เกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ “ วิญญาณของาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่ “ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำ การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งาม ยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินี้ หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหาภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ ครับท่าน
     
  5. a1303

    a1303 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอจองลูกอม

    ขอจองลูกอม2ลูกนะครับ พรุ่งนี้จะโทรหาครับ
     
  6. mongkut32

    mongkut32 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอราคาปิดตาน้ำท่วมองค์ที่2ที่เลี่ยมเงินด้วยครับพอดีไม่มีทุนทรัพย์ถึงขนาดเลี่ยมทองคำอ่ะครับอิอิ ทางPMก็ได้ครับ ขอบคุณครับ
     
  7. boypragass

    boypragass สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    พี่สายตรงช่วยดูให้หน่อยครับ ผงพรายกุมาร พิมพ์เล็ก บล็อกแรก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Drdome

    Drdome Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +67
    สอบถาม

    ราคาเท่าไหร่ครับ
     
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848

    เหรียญที่แนะนำครับ
    เป็นเหรียญที่หลวงปู่ทิม ท่านปลุกเสกให้กรณีพิเศษก่อนที่จะลงปลุกเสกในพิธีใหญ่ และเป็นเหรียญที่มีประวัติการสร้างที่หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกอย่างชัดเจนครับ (มีประสบการณ์ในพุทธคุณมากครับ)


    หลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่ไปไกลแล้วครับ แล้วหลวงปู่ทิมองค์นี้ราคาเท่าๆกันครับ

    ขอบพระคุณมากครับที่ให้ความสนใจ
     
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    " ความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องพระปิดตา "

    พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง

    พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจ ผิดๆ กันมาตลอดเลยครับจริงแล้วพระปิดตาเป็น พระเมตตามหาโชดครับ

    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการส ร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" กับ "พระมหาอุต"

    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย

    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย


    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกส ินทร์เรื่อยมา จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย


    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้


    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย


    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็น


    ปริศนาธรรม ที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสน าธุระทั้งสิ้น

    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น


    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว

    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวก ับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง


    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย


    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินต ะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น

    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึง

    พระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างง ดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพ ิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว

    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอ ง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังน ี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย

    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปท างเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์

    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้ว คลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ


    ปริศนาธรรม ของพระปิดตา นั้นพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมเป็นหลักครับ
     
  11. พิศมัย

    พิศมัย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +6
    ใช่พระปิดตาหลวงปู่ทิมไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. พิศมัย

    พิศมัย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +6
    พี่ครับพี่บอกได้ไหมครับว่าของที่ไหนครับ
     
  13. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,273
    ค่าพลัง:
    +13,236
    ขอเรียนถามครับ ขุนแผนองค์นี้รุ่นไหนครับ แท้ไหมครับ มีคนเขาบอกว่าหลวงปู่แก้วเสก

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_0077.JPG
      PIC_0077.JPG
      ขนาดไฟล์:
      123 KB
      เปิดดู:
      1,887
    • PIC_0079.JPG
      PIC_0079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.2 KB
      เปิดดู:
      1,868
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848

    ขอบพระคุณมากครับ

    คาถาบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร,พรายเดี่ยว,พรายคู่ ของหลวงปู่ทิม อิสริโก

    {ตั้งนะโม3จบ}

    พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
    นะเมตตาจะมะหาราชาเทวีราชะ บุตรตราบุตรตรี
    สะมะณะพราหมณ์ชี ทาสาทาสีกระสตรีทายะราชะอิถี
    นารีสัพพะ เอหิมุชิสัพพัง สัพพะโกธัง วินาสสันติ
    ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโย พรหมานุตตะโม
    ปิโย นาคะสุปิบินสิยัง นะมามิหัง วิกะริงคะเร

    อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง

    อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ 3 จบ

    หรือ

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2012
  15. Kengnana

    Kengnana สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +5
    จองลูกอมชุดใหม่1ลูก
     
  16. wut_62

    wut_62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +723
    ขอทราบราคา หนุมาน เนื้อตะกั่ว ลป.แก้ว ด้วยครับ
     
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    ..................ขอบคุณครับ
    ...........ขอบคุณครับ...ขอบคุณครับ
    ........ขอบคุณครับ.........ขอบคุณครับ
    .....ขอบคุณครับ...............ขอบคุณครับ
    ...ขอบคุณครับ....................ขอบคุณครับ
    ..ขอบคุณครับ......................ขอบคุณครับ...................ขอบคุณครับ
    .ขอบคุณครับ........................ขอบคุณครับ.....ขอบคุณครับ....ขอบคุณครับ
    ขอบคุณครับ..........................ขอบคุณครับ.......ขอบคุณครับ..ขอบคุณครับ
    .ขอบคุณครับ..........................ขอบคุณครับ......................ขอบคุณครับ
    ..ขอบคุณครับ..........................ขอบคุณครับ.................ขอบคุณครับ
    ...ขอบคุณครับ.....................................................ขอบคุณครับ
    .......ขอบคุณครับ.............................................ขอบคุณครับ
    .........ขอบคุณครับ.....................................ขอบคุณครับ
    ............ขอบคุณครับ..............................ขอบคุณครับ
    ................ขอบคุณครับ.......................ขอบคุณครับ
    ..................ขอบคุณครับ.................ขอบคุณครับ
    ......................ขอบคุณครับ..........ขอบคุณครับ
    ........................ขอบคุณครับ......ขอบคุณครับ
    ..........................ขอบคุณครับ.ขอบคุณครับ
    ....................... ขอขอบพระคุณมากครับ..................
     
  18. popcron_99

    popcron_99 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +14
    ยอดปราถนาสูงสุดเลยครับ ทุกองค์มีเจ้าของหมด (อยากเป็นผมบ้างจัง ต้องลองอธิฐานกับหลวงปู่ซะแล้วครับ :cool:)
     
  19. ชาติไปณี

    ชาติไปณี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอจองนาคปรกเอวคอด ปี17 นะครับล พี่เล็ก
     
  20. chaiyo6600

    chaiyo6600 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +607
    ขอจองลูกที่ 7 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...