การดูดวง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พุทธิวัฒน์, 8 มกราคม 2011.

  1. พุทธิวัฒน์

    พุทธิวัฒน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +18
    อยากรุ้ว่ามีคนที่สามารถดูอนาคตได้จริงรึป่าวครับ ผมเคยได้ฟังมาว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าหมอดูเมื่อตายไปแล้วจะเกิดในอบายภูมิเพราะทำให้คนอื่นหลงเชื่อ เพราะผมว่าขัดกับหลักของกฎแห่งกรรมที่ว่าใครทำกรรมดีคนนั้นจะได้รับกรรมที่ดี คนไหนทำกรรมชั่วจะได้รับกรรมชั่ว อย่างเช่นดูดวงโดยวิธีดูวันเกิดอย่างนี้แสดงว่าคนเกิดวันเดียวกันปีเดียวกันต้องรับกรรมเหมือนกันหรอครับ ผมว่าดูไม่ค่อยมีเหตุผล ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหนครับ รบกวนผู้รู้จริงๆช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ แล้วถ้าคนๆนั้นดูดวงแล้วจะถือเป็นบาปมั้ยครับ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    คนที่เห็นอนาคตได้มีอยู่ครับแต่เขามองเห็นอนาคต ณ ปัจจุบันนี้ พอถึงเวลานั้นจริงอาจจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ครับ
    แต่คนที่ใช้หลักวิชาดูดวงก็มีที่แม่นมากก็มีนะครับ แต่บางอย่างเราก็อาจจะคิดไปเองได้ อย่างพระพุทธองค์เคย
    กล่าวเกี่ยวกับสมณะผู้มีศีลไม่เป็นหมอโหราศาสตร์ว่า

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้น ยังสำเร็จการ
    อยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิดเพราะทำเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้อยู่ คืออะไรบ้าง? คือทำนายจันทรคาธ สุริยคาธ ทำนาย
    ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ดาวนพเคราะห์ ว่าจักเดินในทางบ้าง นอกทางบ้าง, ทำนายว่าจักมีอุกกกาบาต ฮูมเพลิง
    แผ่นดินไหว ฟ้าร้องบ้าง, ทำนายการขึ้น การตก การหมอง การแผ้วของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดาว จะมีผล
    อย่างนั้นๆ ดังนี้บ้าง.

    ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชาเห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้
    ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
     
  3. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    หมอดููเป็นอาชีพที่ก่อกรรมให้กับตนเอง แต่เป็นกรรมประเภทโมหะคือความหลง หลงไปว่ามีสิ่งอื่นที่ไม่ใช่กรรมเป็นตัวกำหนดทุกข์สุขของคนเรา เป็นมิจฉาทิฐิอย่างหนึ่ง ผลก็คือไปบังทางมรรคผลนิพพานของตนเอง ก็แทนที่จะเข้าวัดหาพระสงฆืองค์เจ้าเพื่อหาทางพ้นทุกข์ตามอริยมรรค ก็เสียเวลาไปหาพระที่ดูดวง เมื่อหาไม่ถูกที่มันก็หมดโอกาสได้มรรคผลนิพพาน อย่างในพระไตรปิฎกก็มีตัวอย่างอุบาสก 5 คนไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า คนหนึ่งนั่งเขี่ยดินเพราเคยเกิดเป็นไส้เดือน คนหนึ่งนั่งหลับเพราะเคยเกิดเป็นงู คนหนึ่งนั่งเขย่าต้นไม่เพราะเคยเป็นลิง อีกคนนั่งดูดาวเพราะเคยเกิดเป็นหมอดู อีกคนฟังธรรมอย่างตั้งใจจึงบรรลุธรรมเพียงแค่คนเดียว แบบนี้แหละวิบากกรรมของหมอดู ขนาดมีโอกาสได้ฟังธรรมต่อหน้าพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้อะไรเลย เมื่อไปติดกับมิจฉาทิษฐิจึงปิดมรรคผลนิพพานของตัวเอง
    แต่อาชีพนี้ก็ไม่ได้ห้ามสวรรค์นะ ถ้าทำดีก็ไปสวรรค์ได้ แต่ไปไม่สูงเท่าไรอย่างมากก็แค่ชั้นจาตุมหาราชิืกา เพราะเงินที่ได้มาจากการประกอบอาชีพนี้ไม่บริสุทธิ์มันมีเชื้อโมหะเจออยู่ ทรัพย์ไม่บริสุทธิ์เอาไปทำบุญผลได้น้อยลง แต่ถ้าใช้วิชาไปหลอกลวงด้วยวิธีฉ้อฉลก็ตกนรกแน่นอน
    แล้วคุณรู้ไหมสมัยก่อนคำว่าดูดวงเป็นอย่างไร ดูดวงในอดีตคือดูดวงบุญดวงบาปในตัวเอง เขาให้ฝึกสมาธิจนดูกรรมของตัวเองได้ ต่อมาคำนี้ถูกแอบหยิบยืมไปใช้กลายเป็นดูดาวดูเดือนไปโน่น คนละเรื่องกับความหมายดั้งเดิมไปเลย
     
  4. นฤมิต๑

    นฤมิต๑ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +40
    โหราศาสตร์คือศาสตร์ที่ใช้ในการพยากรณ์ ในอดีตการพยากรณ์มักจะใช้กับสถานะการณ์ที่มีความจำเป็นจริงเท่านั้นหรือเกี่ยวกับสิ่งที่มีความสำคัญ ที่อาจจะจะมีผลกับชนหมู่มากประชาชนเหล่านี้เป็นต้น ส่วนการดูชะตาราศรี(ไม่ใช่ดูดวง)เพื่อการแก้ไขให้เหมาะแก่การดำเนินชีวิตตามสมควรเท่านั้น ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก็ได้แสดงไว้ชัดเจนว่าสัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ฉะนั้นดวงที่ว่าเรานั้นแหละเป็นผู้กำหนดหาใช่ใครมากำหนดให้ ถ้าหากดางชีวิตกำหนดหนดได้โดยการสร้างสิ่งนั้นสิ่งนี้หมอทำนายดางชะตาต้องแก้ไขให้ตนเองอยู่สุขสบายทุกคนแล้ว ที่นี้การสัมผัสได้ถึงผลกรรมที่จะเกิดขึ้นบางอย่างของบางคนอาจจะเป็นความสามารถพิเศษในทางอิภิญญา เพื่อการแนะนำให้บุคคลนั้นปฏิบัติตัวให้ถูกทางสร้างผลกรรมที่ดีเสีย ด้วยอาจจะเป็นผลแห่งกรรมดีในอดีตส่งผลให้มาถูกทาง แต่ไม่ใช่การแก้กรรม ความสามารถนี้เลยอาจจะดูคล้ายกับหมอดูหรือการพยากรณ์ แล้วจะเป็นบาปกับผู้แนะนำหรือไม่ ไม่เป็นหากเราแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้เขาสร้างกรรมดีไม่หลงงมงาย ซึ่งการแนะนำผู้อื่นให้เข่าใจหลักธรรมหรือแนวทางของการสร้างกรรมดีพระพุทธองค์เรียกว่าทานอย่างหนึ่ง ที่ได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ถ้าหากแนะนำในสิ่งที่ผิดงมงายกระทำหรือแก้ไขไปในทางเบียดเบียน ให้ร้ายทำลายผู้อื่นแล้วเป็นบาปผลนั้นก็จะตกกับผู้นั้นเองเป็นธรรมดา และการทำเพื่อลาภสักการะต่างๆย่อมเป็นบาป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  5. bhuddhany

    bhuddhany Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    ถ้าคุณศึกษาพุทธศาสนาเเล้วคุณจะไม่ดูหมอเเน่นอนครับ
     
  6. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    i agree with you..ajareya ^_^
     
  7. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,012
    หมอดูส่วนมาก จะตกนรกเพราะว่าโกหก ไม่ได้ไปบอกความลับสวรรค์หรอก เพราะส่วนมากเป็นการคาดเดาทั้งนั้น จากหน้าตา หรือว่าน้ำเสียง เพราะคนที่ไปดูหมอดู แสดงว่าเขาต้องการที่พึงทางใจ ยิ่งไปดูแล้วถ้าได้คำำทำนายไม่ดีก็ได้แรงกดดันมาเพิ่ม ทำให้จิตตกเข้าไปอีก ทุกคนเป็นไปตามกรรม มันจริงอยู่แล้ว เพราะเราทำอะไรเราย่อมจะได้สิ่งนั้น ถ้าไม่เคยซื้อล็อตเตอร์รี่ แล้วเราจะมีโอกาสถูกรางวัลที่หนึ่ง หรือเปล่าก็ไม่มี
     
  8. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    พุทธทำนาย มีเนื้อหาอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ ?

    บางที สิ่งที่บอกหรือเตือนล่วงหน้า อาจจะไม่ใช่หวังผลเพื่อตนเองก็ได้นะครับ ?

    อย่างผม ศึกษาการดูดวง ด้วยตนเอง ผมก็ไม่เก็บเงินหรอกครับ มีใครมาถามก็ดูให้บ้าง

    แต่ผมจะไม่บอกแค่ดวง แต่ผมจะบอกว่า ดวงดี คือ กรรมดีให้ผล ดวงตก คือ กรรมชั่ว

    ให้ผลต่างหาก เพราะคนไทยมัวแต่งมงายกับการดูดวง แต่ไม่สนใจศึกษาการสร้างกรรม

    ผมก็จะใช้จุดนี้ เข้าหาคน และให้ความรู้ อย่างเช่นคนที่ ไหวพระ 9 วัด สะเดาะห์เคราะห์

    แต่ยัง กินเหล้าอยู่ ศีล 5 ก็ไม่ครบ ผมก็บอกว่า แก้ดวงไม่ได้หรอก ศีล 5 ยังไม่ครบเลย

    ดวงดี คือ กรรมดีให้ผล ถ้าอยากจะมีแต่ดวงดีตลอดไป ศีล 5 ให้ครบตลอด

    และ หมั่นทำทาน ภาวนา.... กุศลกรรมบท 10 นี่คือการแนะ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการ

    ให้ธรรมทาน อย่างนึง โดยที่ผมก็คิดแค่ว่าอยากให้คนไทยเข้าใจเรื่องดวง เรื่องกรรม

    ให้มากขึ้น เข้าใจพุทธศาสนาให้มากขึ้น ผมว่าศาสตร์เหล่านี้มีอยู่จริง ทั้งลายมือ

    ฮวงจุ้ย ตัวเลข หรือไพ่ แต่จะรู้โครงร่างเพียง 70 % เท่านั้น เพราะที่เหนือกว่าคือกรรม

    เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม หรือการกระทำของแต่ละคน ดังนั้น จึงไม่มี

    หมอดูคนไหน บอกดวงได้ละเอียดทุก วัน เวลา วินาที ว่าจะเกิดอะไรแน่ชัดหรอก......

    และ คนดูดวง ก็ต้องมีศีลธรรม อยู่ที่ว่า เจตนา จะบริสุทธิ์ หรือไม่

    ถ้าเจอ คนหวังแต่เงิน หรือ หวังให้คนติด หวังได้ลาภยศ แน่นอน อบาย

    แต่ผมคิดว่ามีเหมือนกัน คนที่ดูได้ และไม่ต้องการ เงิน ลาภยศ ต้องการช่วยเหลือคน

    และเผยแพร่พุทธศาสนา ขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญ.........
     
  9. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ส่วนตัวผมแล้วเป็นคนชอบดูดวงครับ แต่ถามว่าเชื่อมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าผมให้ได้แค่ เชื่อ 40 ไม่เชื่อ 60 ถึงแม้ว่าจะเข้าข่ายความเป็นจริงอย่างไรก็ตาม เช่นเขาบอกว่า "ช่วงนี้การเงินแย่มากๆเลยนะ (แน่นอนแหละครับ ก็เศรษฐกิจแบบนี้ใครจะเงินงามได้ล่ะครับ) อ้อ สุขภาพก็ไม่ค่อยดีนะเราเนี่ย เจ็บออดๆแอดๆตลอด (ก็ดูสภาพอากาศสิครับ เอาแน่เอานอนได้ที่ไหน เผลอแผลบเดียวป่วยซะแล้ว ขนาดระมัดระวังแล้วยังไม่วายเลย)" อะไรทำนองนั้นเป็นต้น มันขึ้นกับเหตุปัจจัยอะไรหลายๆอย่างครับ แต่พูดกันถึงตามหลักพุทธศาสนานะครับ การดูดวงนั้นเป็นเดรัจฉานวิชาอย่างหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้ดำเนินไป แต่ก็ยังเห็นว่ามี "พุทธพยากรณ์" อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับ เพราะแบบนี้ไง ผมถึงบอกว่า เชื่อ 40 ไม่เชื่อ 60 แต่อย่างไรเสีย เราต่างหากครับ ที่กำหนดชะตาตัวเราเอง จำไว้อย่างนะครับว่า "สิ่งที่เราต้องประสบในชาตินี้ ก็คือสิ่งที่เราเคยกระทำไว้เมื่ออดีตชาติ"
     
  10. นฤมิต๑

    นฤมิต๑ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +40
    กรรมกำหนดffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    พระพุทธองค์ ทรงสอนไว้ว่า สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม<O:p></O:p>
    บางที่มีคนสอนบ้าง แนะนำบ้าง เขียนเป็นหนังสือบ้าง แก้กรรมหนีกรรม สะเดาะเคราะห์ เพื่อให้พ้นความทุกข์นั้นๆ ทีนี้ลองมาดูซิว่า วิธีการเหล่านั้นก็หนีไม่พ้นการสร้างกุศล การปล่อยนกปล่อยปลา การทำบุญต่างๆ ก็เป็นไปตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา การสร้างคุณงามความดีนั้นคือกุศล การปล่อยสัตว์ ไถ่ชีวิตสัตว์ นั้นก็เมตตากรุณา
    ฉะนั้นมาดูซิว่า การเมตตาต่อผู้อื่น การสร้างคุณงามความดี ที่เรียกว่ากุศล ต้องมีสัมมาถิฐิเป็นหลักในการพิจารณา มีความถูกต้อง จิตที่ดี อาชีวะที่ดี มิตรที่ดี เป็นต้นเหล่านี้เป็นละวางแล้วแห่งความเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักการเสียสละให้ผู้อื่น ก็เป็นทาน ทานก็เป็นบุญอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก เมื่อรู้จักการให้ รู้จักเมตตากรุณา ย่อมจะลดความเห็นแก่ตัว(รู้จักหมายถึงว่าเข้าใจ เข้าถึง) ก็จะไม่ยึดติดความเป็นตัวตน ตัวกูของกู เรียกว่าอัตตา ไม่มีอัตตาก็ลดความอยาก อยากมี อยากเด่นอ ยากรวย อยากสวย อยากดี สารพัดอยาก ความอยากคืออะไรก็กิเลสอย่างหนานั้นเอง บางคนว่าชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว พอแล้ว ขอแค่อยู่เป็นสุขสบาย ไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่เดือดร้อนพอแล้ว นั้นแหละอยาก เพราะยังเห็นแก่ตัว ที่ว่ามาเหล่านั้นก็ความอยากดี
    หากเข้าใจเข้าถึง ก็จะรู้ได้ว่านี่คือการพัฒนาตนให้สูงยิ่ง หมายความว่าสิ่งที่กระทำนี้ลดอย่างนี้ก็เป็นหนทางที่จิตได้สงบ ก็คือการเจริญภาวนา การสวดมนต์ การฟังธรรมก็ทำให้จิตสงบ สุดท้ายก็หนีไม่พ้น กาย วาจา ใจ เช่นนี้แหละ ซึ่งก็เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์
    มนต์ คาถา ใดๆที่อ้างกันเอามาว่าวิเศษ มั่นท่อง มั่นสวด เท่าอายุ เท่าวัน วันนั้นต้องคาถานี้ คาถาบูชาสิ่งนั้นสิ่งนี้ หวังเพียงยึดเอาสิ่งอื่นผู้อื่นเป็นที่พึง เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นก็ว่าไม่แน่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วทำไมไม่ทบทวนตนเองละ หวังพึ่งบารมีผู้อื่น ทำไมไม่สร้างบารมีของตนเองละ เราไม่เก่ง ไม่พอ ไม่ถึงบ้างละ แล้วถามท่านเหล่านั้นที่พยายามหวังพึงนั้นท่านสร้างได้ภายในวันเดียวหรือ มนต์คาถาที่ถูกต้อง คือการจับเอาหัวใจที่สำคัญของจุดประสงค์นั้นๆมาเป็นบทเตือนสติ เช่น สุ จิ ปุ ลิ คาถานักปราชญ์ แล้วท่องได้จำได้ ขึ้นใจคือทำได้ ย่อมเป็นจริง แล้วการกระทำอย่างนี้เรียกว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน<O:p></O:p>
    ทุกอย่างล้วนเกิดจากการกระทำของตนนั้นเอง การกระทำคือกรรม กรรมที่ตนเองสร้างขึ้น ไม่มีใคร ดลบันดาล ไม่มีอภินิหารใด เทพเทวาทั้งย่อมช่วยเหลือป้องกันได้แก่ผู้ประพฤติดี ปฎิบัติชอบ ล่วงเกินกฎแห่งกรรมนั้ไม่ได้ ดั่งคำสอนของพระพุทธองค์สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม (ไม่มีใครผู้ใดกล้าล่วงกรรมแน่นอน) <O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Picture062.jpg
      Picture062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.2 KB
      เปิดดู:
      38
  11. ชั

    ชั Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +48
    ทางที่ดีอย่าไปดูเลยครับ ดวงเราจะดี จะต้องคิดดีๆ พูดดีๆ ธรรมดีๆ แล้วดวงท่านจะดี ผมดูให้เลย.
     
  12. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    หลักมีอยู่ว่า...
    ..แม้แต่เทวดา...ยังทำนายนิมิตรในอนาคตผิด....เพราะยังมีกิเลศ
    ..ดังนั้น หมอดูฆาราวาสทั้งหมด...จึงเหลวไหล...
    ...หลักมีอยู่ว่า ผู้ได้อนาคตสังญาน จึงจะสามารถเห็นอนาคตได้
    ..หลักมีอยู่ว่า มีฆาราวาสหรือพระองค์ใดในประเทศไทยมีญานนี้
    ...หลักมีอยู่ว่า พระอาจารย์มั่น ภูริทัติโต หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน พระอาจารย์ฝั้น ท่านพ่อลี เป็นอาธิ...สามารถเห็นอนาคตได้..
    ...หลักมีอยู่ว่าเพราะพระเหล่านี้ เป็นอริยะสงฆ์อรหันต์ทั้งนั้น จึงสามารถทำได้
    นอกนั้น...โนเวย์
     
  13. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    คนเรามีวาระบุญวาระกรรม และการเกิดมาตามวันเวลาต่างๆ ก็เป็นไปตามวาระกรรม
    เช่นบางคนเกิดในฤกษ์ดาวโจร บางคนเกิดในฤกษ์นักบวช เป็นต้น นี้คือพื้นของบุญ
    และกรรมที่ทำมา และนำพาให้เราเกิดตามห้วงเวลาดังกล่าว หมอดูที่เก่งจะถอดระหัส
    และเข้าใจในระหัสแห่งวันเดือนปีเกิด,ฤกษ์ยามต่างๆ จึงทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ..

    ที่กล่าวมาเป็นวิบากกรรมดีและชั่วที่ทำมาในอดีต การที่เราไปยึดมั่นและเชื่อตามโดย
    ไม่พิจารณาให้ดี เช่นเมื่อทายทักว่าไม่ดีก็ท้อแท้และวิตกกังวลครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
    โดยไม่ทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ดีขึ้น และสำหรับคุณที่ถูกทำนายทายทักว่าดี
    ก็ชะล่าใจรอคอยวาระที่จะมาถึงโดยไม่ทำอะไรเลย จนเป็นการประมาทในชีวิต
    นี้คือข้อเสียของการดูดวง และการทำนายทายทัก..

    ทุกอย่างแก้ไขได้เปลี่ยนแปลงได้ อนาคตขึ้นอยู่กับปัจจุบัน หากคุณไม่ทำปัจจุบันให้ดี
    อนาคตจะให้ดีเป็นไปได้ยาก ท่านจึงสอนไม่ให้เรายึดติดกับอดีต แต่จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
    ไม่ว่าวิบากกรรมดีชั่วของอดีตจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่หากทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
    ประกอบไปด้วยทาน ศีล ภาวนา อนาคตดีแน่นอน ขอรับประกัน...
     
  14. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    ปกติก็ไม่ใช้คนชอบดู แต่ได้ไปดูมา10 ท่าน จะเป็นแบบไม่ใช้ประมาณ 3 ท่าน นอกนั้นก็เป็นคนดีส่วนใหญ่ฐานะไม่คอยดี ทั้งที่จบมาสูง โทอเมริกาก็มี แต่ก็ไม่อยากรวยแล้ว เพราะรู้แล้ว ว่ามีอีกภพรออยู่ จะเป็นคนที่ไม่มีคู่ ไม่ผิดศิล ทั้งสายเทพสายพระ มีปลอมเหมือนกันที่เจอ 10 ท่านเจอประมาณ3ท่านที่ไม่ใช้ เป็นกรรมของบุคคลที่ต้องมาช่วยคน และมาทำบารมี ถึงเวลาก็จะเลิกและเข้าทางธรรมหมด ที่ไปของเขาคือพรหมโลก ถ้าเขาตายในญาณครับ จะดีหรือเลวถ้าเขาญาณตายก็ไปพรหมหมด สูงต่ำ ตามกำลังญาณของเขาเหล่านั้น มนุษย์ธรรมดาสามารถทำญาณได้ทุกคน คนที่ยังไม่ได้ก็อย่าพึ่งพูดครับเพราะท่านยังด่อยอยู่ หากตาย จิตตอนตายชอบอะไรก็ไปตามใจอยาก ส่วนใหญ่ชอบสนุกไปที่คนส่วนใหญ่ไปกัน ที่เจอคนส่วนใหญ่ชอบกินเหล้า เที่ยวกลางคืน ที่ไปของเขาเหล่านั้นคืออบาย4 แต่พวกที่มีญาณส่วนใหญ่ พวกนี้รู้ดีและมีโอกาสเลือกที่ไปก่อนพวกมนุษย์ที่ไม่รู้ ที่เจอก็มีแต่ใหว้พระสวดมนต์ อาจจะบังเอินเจอแต่คนดี คนไม่ดีอยากเจอก็ไม่ได้เจอ ได้คุยแค่โทรศัพย์กัน แล้วเขาก็เอาเงินไป555 ยอมโง้จะได้รู้ครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 เมษายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...