***** อาจารย์ฟ้อนชดใช้กรรม *****

หนังสือธรรมะ..... คำสารภาพของวิญญาณบาป โดย นพ. อาจินต์ บุณยเกตุ

เรื่องที่ 9
***** อาจารย์ฟ้อนชดใช้กรรม *****


ท่านผู้ที่มีอายุเลย 50 ปีไปแล้ว หรือประมาณ 60 ปีแล้วคงจะจำเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างหนึ่งได้ นั่นคือวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เวลาประมาณ 01.00 น. ประเทศเราได้ถูกกองทัพญี่ปุ่น บุกยกพลขึ้นบก ทางชายทะเลภาคใต้ คือที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมๆ กันก็บุกยกพลขึ้นบก โจมตีมาลาเซียและสิงคโปร์ในขณะเดียวกัน โดยญี่ปุ่นประกาศสงครามเข้าร่วมกับเยอรมันนี เรียกว่า ฝ่ายอักษะ สู้รบกับอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย อเมริกา ฯลฯ รวมเรียกว่า ฝ่ายสัมพันธมิตร

ในวันนั้น ทหารไทย ตลอดจนยุวชนทหารไทย ได้แสดงวีรกรรมไว้มาก โดยทำการต่อสู้กับทหารที่เข้าโจมตีอย่างยอมตาย ทั้งๆ ที่ ฝ่ายข้าศึกมีกำลังมากกว่าอาวุธยุทธภัณฑ์เหนือกว่า การตระเตรียมกำลังพลเหนือกว่า ทหารทั้งสองฝ่ายได้เสียชีวิตไปเป็นอันมาก และในที่สุดก็ต้องยอมพ่ายแพ้แก่ทหารญี่ปุ่น

รัฐบาลในตอนนั้น จำต้องประกาศยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านดินแดน และยอมเป็นกำลังฝ่ายอักษะด้วย ก็เท่ากับไทยเราเข้าร่วมสงครามกับญี่ปุ่นโดยปริยาย ทหารญี่ปุ่นเต็มไปหมดทั้งบ้านทั้งเมืองในกรุงเทพฯ พ่อค้าวานิช ร้านค้าญี่ปุ่น แม้แต่ร้านถ่ายรูปที่ถนนเจริญกรุงก็แต่งตัวเป็นนายทหารญี่ปุ่น สะพายดาบซามูไรอย่างแข็งขัน กำลังทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ มากมาย อาทิ สนามกีฬาแห่งชาติ สวนลุมพินีวัน โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย สถานเอกอัครราชทูตฝ่ายสัมพันธมิตร โรงเรียนใหญ่ๆ หลายแห่ง ถูกทหารญี่ปุ่นยึดครอง สโมสร ราชกรีฑา ถูกยึด และบางส่วนถูกทำลายเสียหาย

ต่อจากนั้นไม่กี่วันคนกรุงเทพฯ ก็ได้ยินเสียงเครื่องบินสี่เครื่องยนต์ของสหรัฐฯ มาทิ้งระเบิด ตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ในกรุงเทพฯ มีสถานีรถไฟกรุงเทพฯ บางกอกน้อย บางซื่อ กรมทหาร และหน่วยที่ตั้งกำลังทหารญี่ปุ่น พอเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรบินเข้ามา สัญญาณภัยทางอากาศ หรือที่เรียกในตอนนั้นว่า

 

เรื่องที่หมอนำมาเขียนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งสิ้นสุด ทั้งหมดเกี่ยวกับกรรมทั้งกรรมดีและกรรมชั่วของมนุษย์ในยุคนั้น น่าอ่านมากเหมือนกฎแห่งกรรมของคุณทองหยก เลียงพิบูลย์ เรื่องทั้งหมดที่คุณหมอเขียนน่าจะย้ายไปไว้หมวดอื่น เช่น หมวดศาสนาเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม

 

ิ อ ฟ้อน ดีสว่าง??

 

ไม่ใช่

เป็นคนละคนกัน กลับไปอ่านเรื่องให้ดี

 

เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย เหะๆ

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

มีกี่ฟ้อนล่ะครับ

อาจารย์ฟ้อนที่ดังๆ เลือดอาจารย์สู่เลือดลูกศิษย์ คงจะมีฟ้อนเดียวมั๊งครับ

ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นฟ้อนไหนครับ ??? ผมลองอ่านดี ๆ แล้วก็ยังไม่ทราบเลย

ช่วยบอกหน่อยครับ

 

แล้วสมชายล่ะ

แล้วคุณว่าคนชื่อสมชายมีกี่สมชายล่ะ??????

 

สมชายที่ดังเรื่องโกหกมีคนเดียวครับ

ถ้าเป็นสมชายฯ ที่โกหกจนเป็นข่าวดังว่าเก็บเงินนักท่องเที่ยวได้เป็นล้าน ๆ และนำคืนให้กับเจ้าของจนได้รับรางวัล และการชื่นชมมากมาย ถึงกับมีการทำไม้บรรทัดทองคำให้ก็มีคนเดียวครับ ชื่อ "สมชาย เลือดทหาร" นึกถึงคนอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ พยายามนึกว่าเป็นสมชายฯอื่นก็ไม่ได้

อ.ฟ้อน ที่ดัง ๆ สมัยญี่ปุ่นบุก และเป็นต้นตำรับผู้ใช้มีดแทงเข้าไปในปากเพื่อใช้เลือดสักให้กับลูกศิษย์ก็มีคนเดียวครับ

รู้สึกว่าคุณนิรทุกข์จะนับถือ อ.ฟ้อน นะครับถึงบอกว่า อ.ฟ้อนที่บทความเขียน ไม่ใช่ อ.ฟ้อน ดีสว่าง

ผมเองก็นับถือ อ.ฟ้อน เพราะผมก็มีวัตถุมงคลของ อ.ฟ้อน เป็นหุ่นพยนต์เนื้อสัตตโลหะ ไม่รู้ว่ารู้จักหรือเปล่า และลูกศิษย์ อ.ฟ้อน คือ อ.ลอย จ.อยุธยา ก็รับสืบทอดวิชาหุ่นพยนต์แต่ทำด้วยไม้ไผ่ที่ใช้แทงผี พันด้วยด้ายสีทั้งตัว พร้อมจารที่พลาสติกที่ใช้เลี่ยมกรอบซะด้วย ถ้าคนเคยเห็นจะทราบดี ตอนนี้ก็เห็นคนแสวงหากันอยู่ครับ

ผมเพียงแต่จะบอกว่าบทความนี้คงหมายถึง อ.ฟ้อน ที่ทุกคนรู้จัก จะหมายถึง อ.ฟ้อนอื่นก็ไม่ได้ เหมือนตอนข่าว คุณสมชาย เลือดทหาร กำลังดัง ถ้าพูดถึงสมชายที่โกหกว่าเก็บเงินฝรั่งได้จะไปหมายถึง สมชาย อื่นก็ไม่ได้ครับ

และเมื่ออ่านบทความนี้แล้วหากใครกลัวศรัทธาที่มีอยู่กับ อ.ฟ้อน ตกไป ก็ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อก็ได้นี่ครับว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ฟังหูไว้หู

ที่ผมถามว่าถ้าไม่ใช่ อ.ฟ้อน ดีสว่าง ที่ดังในยุคนั้น แล้วจะเป็น อ.ฟ้อน ไหนซะล่ะครับที่คงดังเป็นตำนานเฉพาะเรื่อง
ที่ยังกล่าวถึงมาทุกวันนี้ และทุกวันนี้ก็ยังมีลูกศิษย์สาย อ.ฟ้อน ที่ทำพิธีไหว้ครูทุกปี และมีการแทงปากเอาเลือดมาเหมือนกันอยู่แถวเสนานิเวศน์ เคยได้ยินหรือเปล่าครับ

ผมก็พยายามอ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็น อ.ฟ้อน ไหน และถ้าบทความที่ว่านี้ไม่ใช่ อ.ฟ้อน ที่เข้าใจ ก็รบกวนช่วยชี้แจงให้ชัดเจนหน่อยครับ ว่าสมัยนั้น มี อ.ฟ้อน ไหนอีก หรือมี อ.ฟ้อนที่มีพฤติกรรมเดียวกัน 2 คน คนนึง คือ อ.ฟ้อน ดีสว่าง ซึ่งเป็นของจริง แต่มี อ.ฟ้อน อื่นที่เป็นของปลอมเลียนแบบในสมัยนั้น ซึ่งผู้เขียนบทความนี้กำลังหมายถึง ยังงี้สิครับถึงจะไม่หลงประเด็น

 

หุ่นพยนต์ อ ลอย ที่ เลี่ยม พลาสติก จาร ยัน ตัว อุ ใช่ไหมครับ ผมเองอยากได้เหมือนกัน ได้ยินว่า ท่านเป็นรุ่น น้อง อ เฮง ใช่ไหมครับ
ท่านลอยเรืออยู่หน้าวัด สุวรรณ อ เฮงลอยหน้าวัด ประดู่ เเปลกดีครับ

 

จารตัวอุใช่แล้วครับ

หุ่นพยนต์ อ.ลอยจะมีจารที่พลาสติกเลี่ยมด้วย ตัว อุ ถูกต้องแล้วครับ และกรอบจะเลี่ยมเป็นรูปใบโพธิ์กลับหัว หรือเหมือนรูปหัวใจครับ มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ส่วนท่านจะเป็นรุ่นน้อง อ.เฮง หรือไม่นี่ผมไม่ทราบครับ

 

คนเดียวกันเเน่นอนครับ จมูกท่านบี้

 

เเทงปากด้วย เหมือนเกสตาโปเลย

 

ผมว่า คงเป็นอาจารย์ ฟ้อน ดีสว่างนั่นแหละครับ จะมีอาจารย์ฟ้อนที่ไหนอีก........

 

แต่วัตถุมงคลของอาจารย์ฟ้อนแรงจริงๆนะ

 

เหรียญมีสองด้านนะครับ ลองมองด้านไม่ดีบ้าง ถ้าท่านต้องรัรบกรรมอย่างนั้นจริงๆ คุณที่ปวารณาตัวเป็นศิษย์ท่านก้ทำบุญให้ท่านบ้างคับ เพื่อความสบายใจ

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ลูกศิษย์ทั้งหลายทำบุญไปให้ท่านบ้างละกัน

 

อาจารย์ฟ้อน เจ้าตำหรับประสะโลหิต เรื่องนี้ผมเคยอ่านที่นี่แหละ มีคนเขียนว่าท่านทำเป็นเรื่องหลอกลวงและได้รับกรรมจากการกระทำนั้นจนตายและตกนรกไป ซึ่งจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบแต่ค่อนข้างสะเทือนขวัญลูกศิษย์ท่านอย่างมากเลยครับ เพราะท่านมีศิษย์มากมายนับพันนับหมื่นคนทีเดียวครับ อื่นๆนอกจากนี้ โทษทีเกิดไม่ทันครับ

 

ผมว่าสัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามมกรรม

ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ท่านใดกล่าว ใส่ร้าย บุคคลอื่น โดยเจตนา ย่อมได้รับกรรมหนัก

แต่ถ้าขาดเจตนา เขลารู้ไม่จริง กรรมก็เบาลง มีเหมือนกัน

เท็จ จริง บาป นรก สวรรค์มี อย่าได้ใช้ชีวิตประมาท

 

ข้อความที่ว่า ท่านอาจารย์ฟ้อนชดใช้กรรม นั้นใครเป็นคนเขียน เชื่อถือได้แค่ไหน คนดี หรือคนไม่ดีก็ไม่ทราบได้ เจตนาดี หรือเจตนาร้ายเราก็ไม่ทราบเจตนาของเขา การฟังความข้างเดียวจาก คนเขียนคนนี้ถือว่าไม่รอบคอบอย่างยิ่ง อย่าไปเชื่อโดยไม่มีหลักฐานครับ

ใครกล่าว ใส่ร้าย บุคคลอื่น โดยเจตนา ย่อมได้รับกรรมหนัก
แต่ถ้าขาดเจตนา รู้ไม่จริง กรรมก็เบาลง