ฮือฮา! พบสัตว์ยักษ์ลึกลับเกยตื้นในรัฐเซาท์แคโรไลน่า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 29 มีนาคม 2012.

  1. mongko

    mongko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +329
    มันคือจรเข้นํ้าเค็มครับ
     
  2. ลุงเจ

    ลุงเจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +598
    ไม่มีคนในภาพเลย สร้างภาพหรือเปล่า
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ
    ภาพที่ดูว่าสัตว์โตมากๆ เพราะเกิดจากการถ่ายภาพ เจตนาให้เป็นเช่นนั้น
    และความคิดเห็นของคุณลุงเจก็น่าคิดนะคะ
    (ภาพนี้ นำเสนอทางทีวีด้วยค่ะ)
     
  4. linkinpark.ball

    linkinpark.ball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +253
    คงมีการเปลี่ยนแปลงที่ใต้ทะเลลึกแหละครับ พวกปลาที่เราไม่เคยเห็นก็เลยเกยตื้นขึ้นมา ต้องมีอะไรแน่ๆๆเกี่ยวกะเปลือกโลกอ่ะครับผม
     
  5. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าคาเมรอนหรือไร ที่ทำ อวตาร...ลงทุนลง..ทุนลงทะเลจุดที่ลึกที่สุดในโลก ความลึกสูงกว่าหิมาลัยอีก....
    ...ผลคือ พบปลาตัวเล็กๆ...สีขาว ไม่มีตา....นั่นลึกที่สุดในโลก
    ....ตื้นขึ้นมา...เจ้าพวกยักษ์ใหญ่ พวกปลาหมึกบางสายพันธ์อาศัยอยู่และอาจจะรวมเจ้าตัวนี้ด้วย...เรื่องธรรมดาของสมุทรศาสตร์
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,195
    ค่าพลัง:
    +21,324
    น่าเอามาลาบ.............ใส่ข้าวคั้วหัวหอม มะนาว..................เป็นตาแซ่บอยู่บ่

    บักสัดปะลาด
     
  7. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    พบซากสัตว์ทะเลลึกลับขนาดใหญ่เกยตื้นชายหาดฟอลลีบีช รัฐเซาท์แคโรไลน่า ของประเทศสหรัฐฯ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยเมื่อสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พบซากสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดขนาดใหญ่นอนเกยตื้นชายหาดฟอลลีในรัฐเซาท์แคโรไล น่า ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่า อาจจะเป็นสัตว์ใต้ทะเลลึกสายพันธุ์ใหม่ โดยสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวมีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติ และที่น่าสนใจคือ อาจเป็นสัตว์ครึ่งบนครึ่งน้ำขนาดยักษ์ แต่ยังไม่เคยมีการค้นพบสัตว์ประเภทนี้มาก่อน

    ใต้ทะเลลึกแต่เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มันขัดกันหรือเปล่า
     
  8. ตุ๊กตาผี

    ตุ๊กตาผี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +3
    ตัวมันสวยดีfishh_
     
  9. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
  10. doctor182

    doctor182 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    งูดินเจ้าแถวบ้านเฮ้าเอิ้นงูดิน:boo:
     
  11. apple_lin

    apple_lin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +704
    ปลาสเตอร์เจียน มันใหญ่ได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย?? และดูมันเหมือนสัตว์ประหลาดจริงๆ นะ
     
  12. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    อาจจะเป็นเพราะมุมกล้อง และ/หรือ กำลังขึ้นอืดมั๊งคะ อิอิ

    แบบที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีบันทึกมา (เท่าที่หาเจอและมีรูปภาพ) คือ White sturgeon จับได้โดย Joey Palotta ในปี 1983

    [​IMG]

    ที่มา : White sturgeon – Acipenser transmontanus | Dummidumbwit's Weblog


    ส่วนรูปนี้ภาพมันเล็ก คำบรรยายในภาพอ่านไม่ค่อยได้ เลยไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า แต่คำบรรยายของอีกเว็บหนึ่งเขาบรรยายข้อมูลไว้เหมือนกันคือ เป็นปลา sturgeon ที่จับได้โดย Joey Pallotta

    สังเกตว่า ตัวใหญ่กว่าภาพแรกมาก ถ้าเป็นตัวเดียวกันก็คงเป็นเรื่องของมุมกล้องที่ถ่ายทำให้ดูใหญ่ขึ้น

    Sturgeon
    [​IMG]
    The biggest Sturgeon on record was a White Sturgeon that weighed 468 pounds (212.28 kg) caught in 1983 by Joey Pallotta in Benicia, California.


    ที่มา : Top Ten World Record Fish
     
  13. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/YW8eIcmQxRI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  14. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    tobetruly :cool: ทำลายสถิติกันไป

    น่าจะมีการจัดทำ world record ใหม่นะ เห็นพวกนักตกปลาเขาเกทับด้วยการทำสถิติใหม่ๆ กันอยู่เรื่อย

    Monster Sturgeon

    http://www.bcfishtours.ca/-Whale5.jpg

    แต่เจ้าแอตแลนติกสเตอร์เจี้ยนในธรรมชาตินี่ สัตว์แพทย์บอกว่าใกล้จะสูญพันธ์แล้ว เพราะถูกล่านำไปทำไข่ปลาคาร์เวีย

    http://hilight.kapook.com/view/69252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2012
  15. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    คาเวียร์

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    [​IMG] [​IMG]
    คาเวียร์สีดำ (บน) เป็นคาเวียร์จากปลาสเตอร์เจียนเบลูกา (Huso huso), คาเวียร์สีส้ม (ล่าง) มาจากปลาแซลมอน



    คาเวียร์ หรือ ไข่ปลาคาเวียร์ (อังกฤษ: Caviar) เป็นไข่ปลาที่ผ่านการปรุงรสโดยไข่มาจากปลาหลากหลายประเภท โดยส่วนมากนิยมนำมาจากไข่ปลาสเตอร์เจียน คาเวียร์ได้มีการโฆษณาและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก


    คำว่า คาเวียร์ มาจากภาษาเปอร์เซีย ว่า خاگ‌آور (Khag-avar) ซึ่งมีความหมายว่า "ไข่ปลาที่ปรุงรส" โดยในแถบเปอร์เซียจะใช้หมายถึงปลาสเตอร์เจียน


    การรับประทานคาเวียร์ นิยมจะตักไข่ปลาด้วยช้อนคันเล็ก ๆ ทาลงบนขนมปังแล้วรับประทาน
    ในปัจจุบัน คาเวียร์ที่มีชื่อเสียง จะมาจากฝั่งทะเลสาบแคสเปียน ในแถบอาเซอร์ไบจัน, อิหร่าน และ รัสเซีย คาเวียร์มีหลายประเภทและหลายสี โดยคาเวียร์สีทอง ที่มาจากปลาสเตอร์เลต (Sterlet, ชื่อวิทยาศาสตร์: Acipenser ruthenus) เป็นคาเวียร์ที่หายาก นิยมรับประทานกันในหมู่กษัตริย์และบุคคลชั้นสูง โดยในปัจจุบันคาเวียร์ชนิดนี้แทบจะหาไม่ได้เนื่องจากมีการล่ามากจนเกินไป และทำให้เกิดการสูญพันธุ์


    ในสมัยอดีต เมื่อเด็กป่วยเป็นหวัด แม่ที่ฐานะดีจะให้ลูกกินคาเวียร์จนหายเป็นปกติ ชนชั้นสูงในรัสเซียก็นิยมกินคาเวียร์ เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารอายุวัฒนะ และชาวโรมันนิยมบริโภคคาเวียร์เป็นยา เมื่อครั้งที่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย เสด็จเยือนฝรั่งเศส พระองค์ทรงประทานคาเวียร์เป็นราชของขวัญแด่จักรพรรดินโปเลียน เพราะในฝรั่งเศสคาเวียร์เป็นของหายาก และเมื่อ จักรพรรดินโปเลียนทรงปราชัยในสงครามกับรัสเซีย ความนิยมกินคาเวียร์ก็ได้แพร่เข้าสู่ยุโรปโดยใช้เส้นทางจากรัสเซียผ่านเมืองฮัมบูร์ก ในเยอรมนี


    โดยแหล่งที่ขึ้นชื่อว่ามีปลาสเตอร์เจียนชุกชุม คือทะเลสาบแคสเปียน ในอดีตเคยอาศัยอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ให้ชาวประมงรัสเซียได้จับกันเป็นจำนวน มาก จนทำให้ปลาลดจำนวนลงมาก รัฐบาลรัสเซียจึงต้องออกกฎหมายห้ามจับโดยเด็ดขาด และส่งเฮลิคอปเตอร์ออกตรวจจับผู้ที่จับปลาที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าพบว่าชาวประมงคนใดจับปลาสเตอร์เจียนโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกส่งไปลงโทษจับปลาที่ไซบีเรีย แต่เมื่อสหภาพโซเวียตล่ม สลายชาวประมงรัสเซียก็ได้ออกมาจับปลาสเตอร์เจียนอีก และถือว่าโชคดีถ้าใครจับปลาสเตอร์เจียนที่มีไข่ได้ เพราะปลาหนึ่งตัวอาจมีไข่ในท้องถึง 50 กิโลกรัม เพียงพอจะทำให้คนที่จับมีฐานะขึ้นมาได้ และนอกจากจะขายไข่ได้ในราคาดีแล้ว เนื้อปลาเองก็อาจขายได้ราคางามถึงปอนด์ละ 900 ดอลลาร์ขึ้นไปด้วย ในเวลาต่อมา เหตุเพราะปลาสเตอร์เจียน ถูกจับไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ดังนั้นรัฐบาลรัสเซียจึงจัดตั้งศูนย์เลี้ยงปลาสเตอร์เจียนขึ้นที่ เมืองแอสทราคาน ส่วนที่คาซัคสถาน นั้นก็มีศูนย์ประมง ซึ่งมีบริษัทคาเวียร์ เฮ้าส์ & พรีเมียร์ เป็นผู้ดูแล โดยมีเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนมากถึง 160,000ตัว


    สำหรับประเทศอิหร่านนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 เป็นต้นมา ได้มีการทำฟาร์มเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน เนื่องจากพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน เคยทรงดำริจะมีฟาร์มเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน ของอิหร่านเอง และได้พยายามโฆษณาว่า คาเวียร์จากฟาร์มอิหร่านมีรสดีกว่าคาเวียร์จากทะเลสาบแคสเปียนของรัสเซีย


    ส่วนที่สหรัฐอเมริกาชาวรัสเซียที่อพยพไปอเมริกาได้เริ่มทำฟาร์มปลาสเตอร์เจียนบ้างเพื่อส่งคาเวียร์ออกขายแข่งกับรัสเซียและอิหร่าน


    ในปัจจุบันทั้งในทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ มีการล่าจับปลาสเตอร์เจียนกันมาก จนองค์การ CITES (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญ พันธุ์) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการค้าสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ทั้งหมดราว 30,000 ชนิด ได้เข้ามาควบคุมการทำร้ายปลาสเตอร์เจียนด้วย เพื่อไม่ให้สูญพันธ์ ทั้งนี้เพราะได้มีการพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า คาเวียร์จากทะเลสาบแคสเปียนมีคุณภาพดีที่สุด จึงทำให้มีการซื้อขายคาเวียร์ทำเงินได้ปีละตั้งแต่ 2,000–4,000 ล้านเหรียญ แต่ CITES ก็ตระหนักดีว่าการปกป้องคุ้มครองปลาจำพวกนี้นั้น จำต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งศุลกากร, นักวิทยาศาสตร์ และชาวประมง จึงได้ออกกฎหมายบังคับห้ามจับปลาสเตอร์เจียน ในปริมาณที่เกินกำหนด อีกทั้งห้ามชาวประมงไม่ให้สร้างมลภาวะที่ร้ายแรงในทะเลสาบ และห้ามฆ่าปลาสเตอร์เจียนในช่วงก่อนอายุวางไข่ (15 ปี) รวมถึงให้มีการจำกัดโควตาการผลิตคาเวียร์ โดยให้ทุกประเทศที่อยู่เรียงรายรอบทะเลสาบแคสเปียนปฏิบัติตาม <sup id="cite_ref-0" class="reference">[1]</sup>


    <sup id="cite_ref-0" class="reference">ที่มา วิกิพีเดีย</sup>


    คาเวียร์ - วิกิพีเดีย
     
  16. GupTun

    GupTun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +113
    ตัวโตแท้เหลา qsqu
     
  17. Copenhagen

    Copenhagen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2011
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +17
    คือปลาสเตอร์เจียนขึ้นอืดนี่เอง
     
  18. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,077
    ค่าพลัง:
    +638
    เจอปลาแปลก ๆ สัตว์แปลก ก็ไปจับไปฆ่าเขา เพื่อจะได้ครองครองคนเดียว เพื่อความดัง แทนที่จะปล่อยให้เขาอยู่ของเขา จะได้มีให้ลูกหลานดู ไอพวกนี้เห็นแก่ตัวมาก ๆ เลย
     
  19. karain

    karain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    640
    ค่าพลัง:
    +707
    ตัวบักเอ้กเลย แล้วตกลงมันตัวไรเนี่ย
     
  20. hmu111

    hmu111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +391


    ชัดเจนมากครับ เหมือนกันมากกกกกกกก:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...