สมัยก่อนเค้าไม่ใช้รองเท้าเลยได้รับพลังจากพื้นดินจริงไหม

ดีครับ อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ สาธุด้วยครับ

คุณobs2553 เคยได้ยินเรื่องคลื่นสมองของคนหรือเปล่าครับ ?

 

เห็นด้วยค่ะ
ใครมีความรู้ความเข้าใจหรือข้อมูลที่ดีๆ น่าเชื่อถือ มาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ดี

 

ได้ยินมาหลายแนวค่ะ ไม่แน่ใจค่ะว่าเป็นเรื่องไหน เล่ามาเลยจ้า :d

 

ขอเสนออีกความคิดนึง ที่ไม่ต้องไปวุ่นวายพิสูจน์กันมาก หรือต้องพูดคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ก่อน ถึงจะทำใจอ่านได้

ฝ่าเท้ามนุษย์หนะ เป็นจุดรวมประสาทปริมาณมากจุดหนึ่ง การเดินโดยไม่ใส่รองเท้า เราจะรับสัมผัสต่างๆ กระตุ้นประสาท กระตุ้นสมองอย่างเต็มที่ ทำให้คนที่เดินใส่รองเท้านานๆ พอถอดรองเท้าเดิน จะรู้สึกแปลก ไม่ชิน และรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้น

 

จากรายการวิทยาศาสตร์ทางทีวีของประเทศแถบสแกนดิเนเวียน ผมจำไม่ได้ว่าประเทศไหน เขาผลิตเครื่องเล่นในร่ม เพราะที่นั้นเวลาฤดูหนาวแล้วออกข้างนอกลำบาก เขาเลยไปเอาผลงานวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับคลื่นที่ปลดปล่อยมาจากสมองของคนเรา มาประดิษฐ์เป็นเกม

คือเขาทำเป็นชุดโต๊ะน่าจะมีขนาดเล็กว่าโต๊ะสนุก จะมีผูู้เล่น สองฝ้่งนั่งอยู่ข้างละหนึ่งคน เขาก็มีอุปกรณ์ทีดูเหมือนกับ ที่ครอบศรีษระที่มีสายไฟฟ้าต่อเข้ากับเครื่องอะไรสักอย่างหนึ่ง เหมือนกับเครื่องมือแพทย์เลย สายไฟที่ออกจากศรีษระนั้นวิ่งไปต่อกับลูกบอลกลม ๆ มีขนาดไม่เล็กมาก น่าจะประมาณลูกกอฟล์ แล้วมีรางให้ลูกบอลวิ่งอยู่ตรงกลาง สามารถวิ่งตรงตามรางบังคับให้ไปฝั่งตรงข้าม (ผู้บังคับลูกบอลจากคลื่นสมอง)

ลูกบอลที่ว่านี้จะวิ่งไปได้ต้องอาศัย การทำสมาธิของผู้เล่นแต่ละฝั่ง ถ้าใครสามารถบังคับให้ลูกบอลไปถึงจุดที่กำหนดที่ฝั่งตรงข้ามได้ คนนั้นชนะ

โดยสรุป

ลูกบอลสามารถวิ่งไปได้แรงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้เล่นฝั่งไหนทำสมาธิได้ดีกว่ากัน
ถ้าใครทำสมาธิได้ดี ลูกบอลก็จะวิ่งไปยังฝั่งตรงกันข้ามใครถึงก่อนคนนั้นชนะ

 

คล้ายกับเครื่องนี้หรือเปล่าคะ?
brain-machine interface(BMI)
v
v

ตะลึง!!! บังคับ Asimo ด้วยคลื่นสมอง


จำนวนผู้อ่าน 7,140 คน
โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th
1 เมษายน 2552 เวลา 06:28 น.

รายงานจากเว็บไซต์ Physorg.com กล่าวว่า แผนกวิจัยและพัฒนาของฮอนด้าได้พัฒนาอินเตอร์เฟซใหม่ที่สามารถตีความคำสั่ง จากคลื่นสมองสำหรับการแสดงท่าทางพื้นฐานได้ 4 แบบด้วยกัน โดยอินเตอร์เฟซ(ลักษณะคล้ายเครื่องดัดผมที่ใช้สวมหัวในสมัยก่อน)ที่ว่านี้จะ สามารถใช้ควบคุมแขนและขาของอาซิโม่ได้นั่นเอง

​

นอก จากจะควบคุมท่าทางผ่านคลื่นสมองได้แล้ว อินเตอร์เฟซที่พัฒนาขึ้นนี้ยังสามารถสั่งการควบคุม"ลิ้น"ได้อีกด้วย แต่เนื่องจากอะซิโม่ไม่มีลิ้น และมันก็ไม่ได้พูดได้จริงๆ อย่างที่เราเห็นในการแสดง แต่เป็นการใช้คนพากย์อยู่หลังเวที รายงานดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ควบคุมไม่จำเป็นต้องออกท่าทางแต่อย่างใด เพียงแค่สวม brain-machine interface(BMI) แล้วจินตนาการความคิดว่า กำลังยกแขนขวาขึ้นมา คลื่นสมองของคำสั่งดังกล่าวจะถูกอ่านจากอินเตอร์เฟซและถูกตีความก่อนส่งไป ให้เจ้าอะซิโม่ทำท่าทางเดียวกัน

​

ทีม พัฒนาคาดว่า ในอนาคตเราจะสามารถสั่งให้อะซิโม่ช่วยทำงานต่างๆ แทนเราได้ โดยไม่ต้องออกคำสั่ง เพียงแค่จินตนาการว่า ต้องการให้มันช่วยทำอะไรเท่านั้น อย่างเช่น แม่บ้านที่ต้องการผู้ช่วย เป็นต้น สำหรับที่มาที่ไปของโครงการนี้ หากยังจำกันได้ เมื่อปี 2006 มีการนำเสนอข่าวการใช้คลื่นสมองบังคับมือกลให้ขยับตามที่คิดได้เป็นผลสำเร็จ การสาธิตการทำงานครั้งล่าสุดจึงถือเป็นพัฒนาการของระบบอีกขั้นหนึ่งที่ต้อง ติดตามกันต่อไป

เครดิตข้อมูล (arip.co.th)
http://www.arip.co.th/news.php?id=408753

ดูคลิปได้ที่
http://www.clipmass.com/movie/1256357852165018

 

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/q-fE9QBy0FI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

ใครชอบนวดฝ่าเท้ามั่งยกมือขึ้น


ภาพจาก www.yogamarrakech.files.wordpress.com

 

ดีจริง ก็ลองเดินดู แต่อย่าเดินไปเหยียบขี้ล่ะ อันนี้ไม่ดีแน่ :boo:

 

อันนี้เจ๋งมากครับ

ไม่รู้ผู้ผลิตเขาจะทำเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ น่าจะซื้อมาช่วยกู้ระเบิดทางใต้ครับ

 

เมื่อก่อนเป็นนักวิ่งครับ พอซ้อมเสร็จ โค้ชเขาก็จะใหัวิ่งเบาๆบนสนามหญ้าพักใหญ่ๆโดยไม่ใส่รองเท้า รู้สึกผ่อนคลายมากหลังซ้อม...อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ

 

สมัยก่อนไม่ได้ใส่รองเท้าจริงๆๆ

 

สมัยก่อนมีแต่คนรูปร่างดี ว่ามั๊ย

เป็นไปได้มั๊ยว่า พอหลังๆคนเราหันมาใส่รองเท้าแล้วทำให้มีแต่คนอ้วนท้วม บรรดาพยาธิ ตัวขอ ตัวตืด ใบไม้ในตับ แส้ม้า ใส้เดือน พากันเข้าร่างกาย ได้ยากลำบากทำให้ร่างกายขาดพยาธิคอยแย่งสารอาหาร จากร่างกายเรา