นิทาน เรื่อง "พญานาค"

แปลกแต่จริง...กำลังจะทักอยู่เหมือนกันตั้งแต่เห็นครั้งแรก..ใจตรงกันเลยอ่ะ

 

ถึงแม้จะรักมากปานจะกลืนกิน แต่ผมก็แยกแยะได้ว่าอันไหนของกิน อันไหนของรัก :VO

 

ใช่แล้วยักษ์จากรามเกียรติ์ คือผมดูยักษ์หน้าโหด ๆ แล้วมันไม่เหมาะกับผมอะ รู้สึกไม่ชอบเลย มีอันนี้ละที่พอจะเข้าท่าเข้าทาง เพราะถ้าผมจะโหดก็โหดเมื่อยามจำเป็นเท่านั้นเอง (eek)

 

Like... 1000 ครั้งเลย คารมณ์เอาใจสาวๆแบบนี้เลย..ที่ว่าตัวจริง

 

คล้าย ๆ ครับ แต่อันนี้เป็นตอน ปกปักษ์รักษาและคุ้มกันพญานาค ถ้าพญานาคดื้อก็จะกลืนลงท้องไปเลย (eek)

 

ต้องขอมติที่ในที่ประชุมค่ะ คุณแหม่ม แอบหนีเที่ยวทั้งกลางคืน ทั้งกลางวันแบบนี้ แล้วไม่มีเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟัง สมาชิกสภานิทานฯ จะให้ทำอย่างไรดีคะ?

ถ้าอย่างนั้น สรุปว่าให้เล่าเรื่องเจ้าหญิงเลือดขาวแล้วกัน เอ๊ะ! ไม่เกี่ยวกับพญานาคนี่ (แต่ตัวเราว่าเกี่ยวนะ) ธิดาน้อยเล่ามาเลย....(เรื่องนอกโลกก็ได้)

 

ไม่เอาหรอก ในท้องยักษ์มีแต่ขยะลอยตุ๊บป่อง กลืนแล้วไปอยู่ในส่วนอื่นของยักษ์ไม่ได้เหรอ เช่น ในหูน่ะ จะได้ร้องเพลงให้ฟังทั้งวัน นอนหลับฝันดีด้วย

 

ท่านคุรุวาโรมาตอบให้ด้วย

นิมิตนี้แสดงว่า อยากไปนิพพาน แต่ยังมีราคะอยู่ครับ(หญิงสาวคือราคะครับ)

 

แล้วทำไมต้องเป็น "เจ้าหญิงเลือดขาว" อ่ะคะ

 

คล้าย ๆ ครับ แต่อันนี้เป็นตอน ปกปักษ์รักษาและคุ้มกันพญานาค ถ้าพญานาคดื้อก็จะกลืนลงท้องไปเลย

ดีครับ กระทู้ของเรา จะได้ไม่มีใครกล้ามาก่อกวน เพราะเดี๋ยวยักษ์จับกินครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอเป็นคนไม่มีเหตุผลแล้วกันค่ะ อยู่ดีๆ มันก็พิมพ์ขึ้นมา

 

มาจากในกระทู้ เป็นตำนาน

ตามตำนานเล่าว่า พระนางมัสซูรี เป็นหญิงสาวชาวภูเก็ต ที่อนุชาองค์สุลต่านแห่งลังกาวี ทรงเลือกเป็นคู่ครองเนื่องจากพระนางเป็นหญิงสาวที่มีความเพียบพร้อมทั้งงานบ้านงานเรือนและความสวยงาม ทั้ง ๆ ที่ทางราชวงศ์ได้คัดเลือกหญิงสาวชาวลังกาวีหลายคนให้พระอนุชาเลือก แต่ก็ไม่ถูกใจ กลับมาถูกใจสาวไทยชาวภูเก็ต (เค้าไม่ได้เล่าว่าเจอกันที่ไหน) หลังจากพระนางมัสซูรี มาอยู่กับพระอนุชาของศุลต่านในฐานะพระชายาคนรอง
แต่ด้วยเหตุที่ภรรยาคนใหญ่ที่เป็นปะไหมสุหรีมีบุตรเป็นผู้หญิง ส่วนพระนางมัตซูรีมีบุตรเป็นชาย ตามกฎของสำนักภรรยาที่มีบุตรเป็นชายจะได้เป็นตำแหน่งปะไหมสุหรี ทำให้ชาวลังกาวีที่เป็นพระญาติของปะไหมสุหรีองค์เดิมเก็บความอิจฉาไว้ลึก ๆ หลังคลอดบุตรชาย เกิดสงคราม มีเหตุให้พระอนุชาขององค์สุลต่าน ซึ่งเป็นพระสวามีของพระนางมัตซูรี ต้องเดินทางออกรบ ดังนั้นเป็นโอกาสของผู้ที่ปองร้าย

ต่างหาเรื่องสร้างสถานะการณ์ว่าพระนางมัตซูรีมีชู้ ทำให้องค์ศุลต่าน ตัดสินประหารชีวิตพระนางด้วยกริซ โดยที่พระอนุชาสามีของนางไม่อาจกลับมาช่วยเหลือได้ทัน ตอนที่ถูกฆ่าด้วยคมกริซ พระนางเจ็บปวดมากและคิดว่านางไม่มีความผิด ก็เลยอธิฐานว่า ถ้านางไม่มีความผิดให้เลือดที่หลั่งออกมาเป็นสีขาว และพระนางก็ได้หลั่งเลือดออกมาเป็นสีขาวราวน้ำนม องค์ศุลต่านเองก็ช่วยชีวิตพระนางไม่ได้เพราะพระนางเสียเลือดมากแล้ว

และพระนางได้สาปแช่งให้ลังกาวีอย่าได้มีสันติสุขจน 7 ชั่วโคตร หลังจากนั้นเกาะลังกาวีก็เงียบเหงา ผู้คนอยู่กันอย่างไม่มีความสุขในมนต์ตราแห่งการสาปแช่ง จนมาถึงวันนี้พ้นระยะ 7 ชั่วโคตรมาแล้ว ลังกาวีก็เลยฟื้นเข้าสู่ความสนุกรื่นเริงเหมือนเดิม…

 

ขอบคุณค่ะ...คุณคุรุวาโร ที่เล่าสู่กันฟัง คุณมิกไปหลั่นล้ากระทู้อื่นอีกแล้ว ไม่ยอมมาเล่านิทาน

แล้วที่เกาะลังกาวีมีพญานาคหรือเปล่าคะ?

 

เน็ตเค้าอืดอ่ะ :'(

อันนี้อีกตำนานหนึ่งค่ะ เนื่องจากเรื่องค่อนข้างยาว เลยต้องเอาลิ้งค์มาแปะค่ะ

ประวัตินางเลือดขาวและตำนานเมืองพัทลุง (ร้อยแก้ว)

 

อ่านแล้วค่ะ น่าสนใจมากๆ เป็นเรื่องจริงใช่หรือเปล่าคะ คงต้องรบกวนคุณคุรุวาโร ไปส่องพญานาคที่เมืองพัทลุงซะแล้ว

 

มีซิ...คุณมิก ที่ใดมีพระบรมสารีริกธาตุ หรือพุทธศาสนา ที่นั่นย่อมมีพญานาคอยู่ใกล้ๆ เพื่อปกป้องดูแลรักษา

สรุปด้วยซิว่านิทานเรื่องสอนให้รู้ว่า..............?

 

เสาร์นี้ไม่ได้ไปเที่ยวกับบรรดาสมาชิกนะคะ
เพราะเดินทางไปจ.กระบี่ค่ะ 11-17 เม.ยค่ะ

 

ช่วงนี้ท่านคุรุฯ แอบไปลั้นลานอกถ้ำเป็นประจำเลยค่ะ
ยามมุกมิกเฝ้าจนหลับยามไปหลายทีละ ^_^

คุณคุรุวาโร ไม่ค่อยสบายค่ะจากการที่กายทิพย์ไปผจญภัยจนได้รับความบอบช้ำภายใน ต้องรักษาตัวด้วยกำลังภายในค่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะส่งกำลังบุญไปช่วยประสานกายทิพย์ให้แข็งแรงดังเดิมนะคะ คุณมิกและเพื่อนๆ ช่วยด้วยนะ เพราะพวกเราเป็นต้นเหตุแห่งอาการป่วยนั้น

 

อีกสักพักก็จะนั่งสมาธิแล้วค่ะ หวังว่าพลังของมิกจะมีแรงส่งไปถึงท่านคุรุนะคะ

นิทานข้างบนนั้นสอนให้รู้ว่า...การ "ให้อภัย" นั้น เป็นการให้ที่ประเสริญสุด ค่ะ โดยเฉพาะ "อภัยทาน" ค่ะ