ข้อความจากต่างมิติ - จิตวิญญาณเริ่มเข้าสู่ความมืดได้อย่างไร-นรกอยู่ที่ไหน-ลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์จมดิ่งลงสู่ความมืดเรื่อยๆ
แล้วความมืดที่ชักนำจิตใจของลูซิเฟอร์ล่ะมาจากไหน?
ใช่มารที่ระบุอยู่ในศาสนาพุทธหรือปล่าวครับ

fly_pig

 

ความมืด คือ การปราศจากแสงสว่าง เท่านั้นเองครับ
ยิ่งแสงสว่างริบหรี่ลงมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่า
ความมืดยิ่งครอบงำมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
และเมื่อจิตขาดแสงสว่างแล้ว ก็จะตกต่ำลงไปเรื่อยๆเท่านั้นด้วยครับ

และถ้าตามความเข้าใจของผมนะครับ พยามารตัวจริง
ก็คือลูซิเฟอร์นี่แหละ ไม่ใช่พยามารที่อยู่บนสวรรค์แบบไทยเราหรอก
เพราะว่านั่นยังกระจอกอยู่ แต่ลูซิเฟอร์นี่ เป็นมหาเทพชั้นแรกสุด
รองจากพระผู้สร้างด้วยซ้ำไป และอยู่ลำดับก่อนพระเจ้าด้วยซ้ำไปครับ

อ้างอิงจากข้อมูลจากต่างมิติหนะนะครับ..ไม่บังอาจคิดเองแต่ประการใด
...............................................

 

แม้ว่าจิตวิญญาณ จะเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะถูกทำลายได้
แต่พลังงานแสงสว่างของมันก็สามารถถูกจับไว้ได้ โดยพลังงานด้านลบ
แล้วกักขังไว้ในความหนาทึบที่มีพลังอำนาจอย่างมาก
จนที่ในที่สุดแล้วจะทำให้จิตวิญญาณจมดิ่งลงไปสู่ระดับชั้น
ที่มีระดับพลังงานต่ำที่สุด หรือหนาทึบที่สุดของแดนสุขาวดี
(โลกแห่งจิตวิญญาณ – ผู้แปล)

ดินแดนสุขาวดี เป็นดินแดนสวรรค์ ดินแดนแห่งความสุข มีลักษณะสว่าง บางเบา
ดินแดนทุกขาวดี เป็นดินแดนนรก ดินแดนแห่งความทุกข์ มีลักษณะดำมืด อับทึบ เต็มไปด้วยความทุกข์ ความเจ็บปวด การลงฑัณฑ์
..............................................................................
จากที่เคยอ่านมาในหนังสือของ ครายออน จำได้คร่าวๆ ครายออนบอกไว้ว่า ไม่มีสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า ลูซิเฟอร์ จริงๆหรอก และความมืด ก็คือ สภาวะที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจ ดังนั้น มันจะไม่มี พลังความมืด และแสงสว่าง คือ สภาวะที่แสดงออกถึง พลังอำนาจ

ผมพึงพอใจกับลูซิเฟอร์ของท่านครายออน มากกว่าของท่านแมทธิว ก็อย่างที่คุณชยุตอธิบาย แมทธิวเป็นเทพระดับล่าง ส่วนท่านครายออนอยู่สูงมาก ๆ ภูมิรู้ต้องแตกต่างกันแน่นอน ภูมิรู้ของท่านแมทธิวยังติดมาจากมนุษย์ผสมสวรรค์ แมทธิวมาจากสังคมคนนับถือคริสต์ ก็ต้องได้รับความเชื่อจากคริสต์มาไม่มากก็น้อย แต่ถึงแม้ท่านครายออนจะอยู่ระดับสูงมาก ๆ ผมก็ไม่รับรองว่าภูมิรู้จะเชื่อได้ทั้งหมด เพราะยังมีอุปาทานเจือปนอยู่ แต่ก็น่าเชื่อกว่าความเห็นของท่านแมทธิวมาก

อย่างไรก็ตามท่านแมทธิวอธิบายเนื้อหาได้กระจ่างชัด เข้าใจง่าย ท่านครายออนยากไปนิดหนึ่ง ของท่านเมตาตรอนเข้าใจยากที่สุด (แม้จะเป็นงานแปลโดยคนแปลเดียวกัน)

 

ขอเสริมต่อจากคุณ Kingkong1 นิดหนึ่งค่ะว่า ข้อมูลจากทั้งครายออนหรือแมตทิว
ต่างก็ต้องเอามาปะติดปะต่อกัน คือ มันเหมือนจิกซอของความเป็นจริงหนึ่งเดียว น่ะค่ะ
ซึ่งข้อมูลความจริงมันมีอยู่หลายชั้นดังที่เมตาตรอนใช้คำว่า
"Multi-dimentional layers of Truth"
เมื่อปัญญาผุดขึ้นมาในขณะที่จิตเราโลดแล่นไปบนทางผ่านยาวไกลที่เชื่อมต่อ
ทะลุดถึงกันทั้งหมด(the Corridor of Cosmos)
ทุกมิติที่ปรากฏมีอยู่ในเอกภพ

แมตทิวนำเสนอข้อมูลความจริงในระดับที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์มากกว่าครายออน
แต่ทั้งหมดก็คือความจริงอันเป็นหนึ่งเดียว เพียงแต่แบ่งเป็นชั้นๆ(layers)มากกว่าค่ะ

ดังนั้น จึงเป็นภาระของเราที่จะทำการเข้าถึงปัญญาเพื่อลุความจริงหนึ่งเดียวนั้นเป็นชั้นๆไป

ตรงนี้ถ้าอัตตาจับเมื่อไหร่ เป็นได้นั่งเถียงกันไม่รู้จบค่ะ
เพราะนั่งเถียงเรื่องเดียวกันแต่คนละ layer
มันจึงเปล่าประโยชน์ไปโดยปริยาย

แต่ผู้ที่สามารถท่องไปบน corridor ได้ไกลกว่า ก็สามารถจับประเด็นของผู้ที่ตามมาได้
เพียงแต่ ต้องนอบน้อมตนเองเข้ามาหาผู้กำลังเดินตามมาเท่านั้น (ละอัตตา ณ จุดที่ตัวเองเดินทางไปถึงได้)
และเมื่อจับ layer ในประเด็นที่ถกกันของผู้ตามมาได้ ก็จะรู้เองว่าต้องพูดอย่างไร
ทำอย่างไรจึงเกิดประโยชน์ที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังเดินตามมา

ตรงนี้จึงต้องใช้เมตตาค่ะ จึงบังเกิดผลดีแก่โดยรวมในขณะที่กำลังถกกันในเรื่องหนึ่งๆ
ในกลุ่มที่แต่ละคนมีเลเยอร์ของความจริงแตกต่างกันในประเด็นเดียวกัน

 

/\
/\
/\

ชัดเจนเลยครับ

 

พออ่านที่คุณโซ่โพสต์แล้ว ผมก็เลยนึกถึงข้อความหนึ่งของท่านเมตาตรอนขึ้นมาได้
น่าจะอยู่ในกระทู้นี้

................................................................................

"ข้อความจากต่างมิติ-มิติคู่ขนาน-โลกใต้พิภพ-ufo-yeti"

http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-มิติคู่ขนาน-โลกใต้พิภพ-ufo-yeti.246724/

ตอนที่ 12

เราอยากจะบอกพวกคุณว่า มีชาวโลกหลายคน
ที่เชื่อเหลือเกินว่าการพบเห็นจานบินของพวกเขาเป็นเรื่องจริง
แม้ว่ามันจะมาจากภาพที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองบ่อยๆก็ตาม

ตอนพวกคุณเป็นเด็ก มีพวกคุณกี่คนที่เคยเห็นซานตา คลอส อยู่บนท้องฟ้า
นั่งอยู่บนรถเลื่อนที่ถูกลากด้วยกวางเรนเดียร์จริงๆบ้าง

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ซานตา คลอส ของพวกคุณ
ก็มีตัวตนอยู่จริงๆ และมีความตระหนักรู้อยู่จริงๆซะด้วย
เพราะว่าพวกคุณได้ป้อนอาหารให้แก่ “สิ่งมีชีวิตในรูปแบบความคิด”
(thought form life) ของพวกคุณ
ผ่านทางระบบความเชื่อของพวกคุณเองอยู่เสมอ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

และอันที่จริงแล้ว “ตัวละคร” มากมายจากนวนิยายของพวกคุณ
ก็มีตัวตนอยู่จริงๆ และมีการตระหนักรู้อยู่จริงๆด้วยเช่นกัน
แต่อยู่ในรูปแบบของความคิดหรือจิต
ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกระแสจิตของผู้คนจำนวนมาก

คุณจะเห็นว่าพวกคุณมีความคิดสร้างสรรค์กันมากแค่ไหน
เพราะว่าโดยแท้จริงแล้ว มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง
ของ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” (Mental Science) ของพวกคุณเอง
ที่ทำให้มันสัมฤทธิผล และสำแดงตัวตนออกมาได้
เพราะระบบความเชื่อของพวกคุณ


(ยังมีต่อครับ)
……………………


ซึ่งจากข้อความข้างบนนี้ และรวมถึงจากเนื้อหาในหลายๆกระทู้
และจากหลายๆรูปธรรมชีวิตที่สื่อสารมาด้วย ก็จะทำให้เราพอจะสรุปได้ว่า

มันเป็นไปได้ทีเดียว ที่ความเชื่อของชาวโลก เกี่ยวกับเรื่องใดๆก็ตาม
จะไปสร้างสิ่งๆนั้นขึ้นมาจริงๆ หมายถึงให้มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ และก็เป็นเรื่องจริง
และเป็นความจริงในระดับนั้นๆด้วย...

หมายความว่า ถ้ามีชาวคริสต์จำนวนเท่าไหร่นะ ราว 1/4 - 1/3 ของโลกเชื่อเรื่องลูซิเฟอร์อยู่
เพราะความที่ถูกศาสนาสอนมาอย่างนั้น แล้วผลมันจะเป็นยังไงหละ
มันก็มีลูซิเฟอร์อยู่ในมิติใดมิติหนึ่งจริงๆหนะสิครับ แล้วแบบนี้จะเรียกว่าอะไรหละ

ถ้าจะเรียกว่า "ไม่มีจริงตั้งแต่แรก" ก็ถูกของครายออน และ ของท่านเมตาตรอน
แต่ถ้าจะบอกว่า "มันมีจริง" ก็ถูกตามที่แมทธิวบอกไว้ และตามที่ท่านเมตาตรอนบอกไว้ด้วย

สรุปว่าโลกในมิติทางกายภาพของเรานี้ มันคือ "มายาการ"
อันเกิดจากการฉายภาพออกมา ของจิตใต้สำนึก หรือ จิตสำนึกก็ตามแต่
ของคนทั้วโลกร่วมกัน..คิดๆดูแล้วก็งงๆนะครับ..

งั้นเอาข้อความอีกข้อความหนึ่งที่ท่านเมตาตรอนกล่าวไว้ไปอ่านอีก
เพื่อเพิ่มความงงอีกหน่อยก็แล้วกันนะครับ...

........................................................................

ที่มา:

"ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/

...กระบวนการทางจิตและความเชื่อของพวกคุณ เป็นตัวสร้างอดีตของพวกคุณ
และมันก็มีอดีตอยู่มากมายหลายเวอร์ชั่น พอๆกับที่อนาคตมีมากมายหลายเวอร์ชั่นนั่นแหละ


พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ถ้าชนรุ่นหลังของพวกคุณ
ถูกสอนให้เชื่อมาตั้งแต่เด็กเหมือนๆกันหมดว่า
อาณาจักรโรมันปกครองโลกมานานจนถึงศตวรรษที่ 17
แน่นอนว่า อดีตนั้นก็จะกลายมาเป็นความจริงด้วย
และหลักฐานต่างๆที่สอดคล้องกับความเชื่อนี้
ก็จะถูกค้นพบและยืนยันความเชื่อนี้ด้วย


และถึงแม้ว่ามันจะเป็นอดีตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กับอดีตที่คนรุ่นคุณได้สร้างขึ้นมาแล้วก็ตาม
แต่ทั้งสองอดีตนี้ ก็จะกลายเป็นความจริงทั้งคู่
อดีตทั้งคู่นี้ อาจจะแยกจากกัน แต่มันก็จะมีอยู่จริง
ในโปรแกรมแห่งกาลเวลาที่เป็นมายาการนี้...

....................................................

 

ณ ตอนนี้ โซ่เข้าใจแบบนี้ค่ะว่า

ความจริงหนึ่งเดียวนั้น อยู่ในส่วนของปรมัตถ์
ไม่ใช่ความจริงในส่วนของมายาการที่เกิดจากความเชื่อของมนุษย์แต่ละคน

ความจริงในส่วนของมายาการ ขึ้นอยู่กับความเชื่อ
ในบริบทเพื่อสร้างประสบการณ์แบบมนุษย์ในลักษณะของ soul
ตามระบบเมทริกซ์มายาการที่สร้างมาพิเศษโดยเฉพาะ
(โลกคือระบบพิเศษที่แตกต่างไปจากส่วนใหญ่ในจักรวาลที่มีอยู่
เป็นดั่ง อัญมณีบนมุงกุฏ ที่ใครๆในเอกภพก็ให้ความสนใจและมีความสำคัญยิ่งยวด
เพราะเป็นสิ่งใหม่ในจักรวาลที่ทำให้เกิดการเลื่อนระดับขึ้นในลักษณะใหม่)

ความจริงแบบมายาการเป็นเพียง sub set ของความจริงในปรมัตถ์เท่านั้นเอง
ความจริงหนึ่งเดียวในปรมัตถ์มัน beyond กว่าความจริงตามมายาการจากความเชื่อ

ส่วนที่เมตาตรอนกล่าวไว้ตรงที่พี่ชยุตยกมา
มันเหมือนเป็นการอธิบายระบบเมทริกซ์ที่ใช้สร้างประสบการณ์ในแบบมนุษย์ให้ฟังเพิ่มเติมน่ะค่ะ

ดังนั้น ผู้ที่ทะลุระบบเมทริกซ์นี้ไปได้ แล้วไปเดินอยู่ corridor of Cosmos ย่อมมีปัญญา
เกิดรู้แจ้งไปได้มากกว่าผู้ที่ยังใช้ความเชื่อตามกรอบในระบบมายาการ

 

แมทธิวอธิบายเรื่อง นรก - สวรรค์ ได้เข้าใจดีค่ะ

 

ครายออน หรือ ระบบ ตอนนี้เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งครับเธอใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วๆไปเลย เธอมีพลังจิตสูงมาก เธอสามารถรับรู้ได้ทุกอย่างและควบคุมได้ทุกอย่าง

 

จากการฟังจิตจักรวาลต่อเนื่องเรื่อยๆ ได้รู้ว่าครายออน ก็คือ รูปธรรมชั้นสูง
จากกลุ่มดาวแซจิตตาเรี่ยน เป็นผู้เชีี่ยวชาญทางพลังงานแม่เหล็กโลกพวกเขาดูแล
เรื่องนี้อยู่ สนามแม่เหล็กโลกกำกับทางด้านปัญญา ความฉลาด รวมทั้งทำให้
เกิดฤทธิ์ได้โดยไม่ต้องฝึกสมาธิแบบยุคเก่า เช่น การโทรจิต ฯลฯ

เมื่อสนามพลังงานแม่เหล็กโลกถึงยกสูงขึ้นกว่าเดิม
คนบนโลกจะพิเศษอย่างที่ว่ามา...

 

อ่านเพลินดีค่ะ ..ชอบ..
จะมีเรื่องราวต่ออีกมั้ยเนี่ย ?