ทำไม ฮิตเลอร์ ถึงฆ่าคน และทรมานคน เป็นล้านเลย >< (ทรมานโหดมากๆ)

ทำเป็นเล่นไป เขาเคยใฝ่ฝันจะเป็นนักบวชด้วยนะ

ฮิตเลอร์เข้าร่วมในโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในอารามเบเนดิกติ นสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11 ที่ซึ่งบนกำแพงหลายแห่งนั้นถูกสลักไปด้วยยอดที่มีสัญลักษณ์สวัสดิกะ<sup id="cite_ref-16" class="reference">[17]</sup> ประสบการณ์ในลัมบัคนี้เองที่ฮิตเลอร์ในวัยแปดขวบเข้าร่วมในวงประสานเสียงของ โบสถ์ เรียนร้องเพลง และเคยกระทั่งวาดฝันว่าสักวันหนึ่งตนจะเป็นนักบวช<sup id="cite_ref-17" class="reference">[18]

</sup>อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ - วิกิพีเดีย

 

เมื่อก่อน ดิฉันก็คิดในทำนองนี้..
คิดว่าฮิตเล่อร์เป็นพวกที่มีความเกลียดชังในจิตใจสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวยิว / แต่พฤติกรรมสะท้านโลกนี้อาจมีที่มา..มีเบื้องลึกและรายละเอียดมากกว่าที่เรารับรู้กันโดยทั่วไป อาจเป็นปัญหาด้านจิตใจที่สะสมมาตั้งแต่ยังเด็กจนย่างสู่วัยผู้ใหญ่ ที่หล่อหลอมพฤติกรรมของผู้นำเยอรมันท่านนี้ให้เป็นอย่างที่ปรากฏ

น่าเสียดายเหมือนกันนะ

**************************************************
ทำไมฮิตเลอร์ถึงเกลียดยิว

"คุณพล" แนะนำตัวเสร็จสรรพและตั้งคำถามทันทีว่า ทำไมผู้นำนาซีเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ถึงจงเกลียดจงชังชาวยิวนัก คำถามย้อนอดีตแต่ทันกระแสแบบนี้ถามตอบรอบโลกจะรอช้าได้อย่างไร

ฮิตเลอร์ เชื่อว่าชาวเยอรมันเป็นเผ่าอารยันที่บริสุทธิ์ มีความสามารถเหนือกว่าคนชาติอื่น และมองว่าชาวยิวที่กระจัดกระจายอยู่ในยุโรปและทั่วโลกนั้นเป็นคนที่สร้าง ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในเยอรมันที่เริ่มมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งชาวเยอรมันกำลังทุกข์ยากเพราะแพ้สงคราม จนกลายเป็นการต่อต้านลัทธิไซออนนิสต์ (ความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐให้แก่ชาวยิว)

อารยัน หมายถึงเผ่าที่อาศัยอยู่บริเวณเปอร์เซีย หรือ ปัจจุบันคือ อิหร่าน ต่อมาคนกลุ่มนี้ก็ย้ายถิ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐานในทางภาคเหนือของอินเดีย ดังนั้น อินเดียก็เป็นแขนงหนึ่งของเผ่าอารยันไปด้วย ขณะที่อีกสายเชื่อว่าได้เข้าไปในยุโรปตะวันออกและยุโรปใต้

แนวคิดที่ว่าชาวเยอรมันเป็นชาวอารยันบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่ฮิตเลอร์ น่าจะทึกทักขึ้นเอง เพราะเห็นกันชัดเจนว่า รูปลักษณ์ภายนอกของชาวเยอรมันไม่ได้เหมือนกันกับชาวอิหร่านเลย ความสัมพันธ์ระหว่างชาวอารยันกับยุโรปนั้นน่าจะเป็นเพียงจากการถ่ายทอดทาง ภาษาเท่านั้น

โดยเมื่อชาวอารยันเข้าไปปักหลักในยุโรปก็เผยแพร่ภาษาของเขาไปด้วย ดังนั้น คำต่างๆ ของภาษาในยุโรป จึงมีความคล้ายคลึงกับคำของอิหร่านและอินเดีย ซึ่งนักวิชาการได้จัดภาษาเหล่านี้อยู่ในตระกูลอินโด-ยูโรเปียน

การที่ฮิตเลอร์เกลียดชาวยิวนั้นน่าจะเป็นข้ออ้างเพื่อใช้ในการปลุก กระแสชาตินิยมในเยอรมนีมากกว่า ความคิดที่ว่าชนชาติตัวเองดีกว่าชาติอื่นเป็นการสร้างเหตุผลอันน่าจะชอบธรรม ให้แก่ฮิตเลอร์ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติอื่น เพื่อนำพาเยอรมนีครองความเป็นใหญ่ในโลก และที่จริงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขาไม่ได้มุ่งหมายถึงชีวิตชาวยิวเท่านั้น เขาสั่งฆ่าคนชาติอื่นด้วยถ้ามีโอกาส ทั้งนี้ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แนวคิดสุดขั้วของเขานั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นชาวยิว 6 ล้านคน

สรุปแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่ฮิตเลอร์เกลียดชาวยิว นอกจากความบ้าอำนาจและความต้องการครอบครองโลกของเขา นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าเขามีบรรพบุรุษเป็นชาวยิวหรือเช็ก แม้ยังไม่เคยมีการศึกษายืนยัน แต่ที่แน่ๆ ฮิตเลอร์ไม่ได้เป็นชาวเยอรมันด้วยซ้ำ เขาเป็นชาวออสเตรีย โดยกำเนิด แต่มาใช้ชีวิตอยู่ที่เยอรมนีตั้งแต่เขายังหนุ่มๆ เท่านั้น

Around the World - Manager Online -

 

ดิฉันเชื่ออยู่อย่างหนึ่งนะ เชื่อว่า..
ในคนทั่วไป ถึงจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติด้านอื่นๆ ดีแค่ไหน แต่หากจิตใจเต็มไปด้วยความเกลียดชัง อาฆาตมาดร้าย ก็ไม่อาจสร้างสรรค์สิ่งดีๆได้

 

ตามคำทำนายของนอสตราดรามุส ฮิสเลอร์เป็น 1ใน 3 ผู้ปรปักษ์ต่อพระเจ้า

(แอนตี้ไครส์) ในประวัติชาติมนุษย์ มี 3คน

1. นโบเลียน 2.ฮิตเลอร์ 3.ซัมดัม ในคำทำนาย นอสตรามุสเขียน ได้เขียน
ชื่อ ไปตรงๆ

 

"ทำไม ฮิตเลอร์ ถึงฆ่าคน และทรมานคน เป็นล้านเลย "

ตอบตามคำถามเลยว่า เค้ามีไม่ความเมตตา ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ครับ

ถ้าเค้านับถือศาสนาพุทธ ถือศีล5 เรื่องทารุณ โหดร้ายแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

 

ยุคตื่นทอง เมกา จำเป็นต้องฆ่า อินเดียแดง เป็นจำนวนมากมาย หลายสิบล้าน
เพราะอยากได้ทอง แถมต้องฆ่า ควายป่า แหล่งอาหารโปรตีนของ เหล่านักรบ อินเดียแดงด้วย อีกหลายสิบล้าน ทั้ง ๒ แทบจะสูญพันธ์ หมดจาก ทวีป

ฝีมือ ยิว ที่บงการ เมกา ทำสงคราม แย่งชิงทรัพยากรทั่วโลก ยอดตายคงไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้าน America's death toll on the world: 27,000,000++, page 1

ประชากร โลกที่มีมากกว่า ๖ พันล้านคนในปัจจุบันนี้ มียิวอยู่เพียง ๑๒ ล้านคน ยิวทั้ง ๑๒ ล้านนี่ ที่จริงแล้ว ก็คือคณะผู้ครองโลกของแท้นั่นเอง.. (แต่ไม่จำเป็นต้องน้อยใจ เพราะที่ครองสวรรค์ ครองนิพพาน ส่วนใหญ่ กลับเป็น ไทยพุทธ น่ะสิ)
---------------------------------------
แทบทุกศาสนา ที่อ้างพระเจ้า ต่างก็สอนให้ เกลียดกันเช่นนี้ โลกจึงจะไม่เคยมีสันติภาพ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=150383231680153&set=a.150383211680155.43284.100001254325595
ถ้าเปิดไม่ได้ อ่านตามนี้ครับ
คัมภีร์ทาลมุดของศาสนายิว
ความจริงเกี่ยวกับคัมภีร์ตัลมูด
โดย อาจารย์บรรจง บินกาซัน

คัมภีร์ ตัลมูดเป็นคัมภีร์ที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมคำบอกเล่าของแร็บไบ(ธรรมาจารย์ชาว ยิว)หลังสมัยนบีมูซาและในระหว่างที่พวกชาวยิวต้องเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายเป็น เวลานับร้อยปี คัมภีร์ตัลมูดเกิดขึ้นจากความหลงผิดและอคติในเรื่องเชื้อสายของชาวยิวที่ถือ ว่าเผ่าพันธุ์ของตนเหนือกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่พระ เจ้าทรงคัดเลือก ดังนั้น คัมภีร์ตัลมูดจึงถือว่าคนที่มิใช่ยิวทั้งหมดเป็นสัตว์และมิได้เป็นลูกหลาน ของอาดัม ต่อไปนี้เป็นข้อความบางตอนในคัมภีร์ตัลมูด

?ยิวถูกเรียกว่ามนุษย์ แต่ผู้ที่มิใช่ยิวมิใช่มนุษย์ พวกเขาเป็นสัตว์เดรฉาน? (Talmud : Baba mezia,114b)

?อากุม (ผู้ที่มิใช่ยิว) เป็นเหมือนหมา ใช่ คัมภีร์สอนให้เราให้เกียรติสุนัขมากกว่าผู้ที่มิใช่ยิว? (Ereget Raschi Erod.22 30

? ถึงแม้พระเจ้าจะสร้างผู้ที่มิใช่ยิวขึ้นมาก็ตาม พวกเขาก็ยังเป็นสัตว์ในร่างมนุษย์ มันจึงไม่เหมาะสมสำหรับยิวที่จะได้รับการรับใช้โดยสัตว์ ดังนั้น เขาจะได้รับการรับใช้โดยสัตว์ในรูปมนุษย์? (Midrasch Talpioth, p.255, Warsaw 1855)

?หญิงมีครรภ์ที่มิใช่ชาวยิวไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ที่ตั้งท้อง? (Coschen hamischpat 405)

?วิญญาณของผู้ที่มิใช่ยิวมาจากวิญญาณที่สกปรกและถูกเรียกว่าหมู? (Jalkut Rubeni gadol 12b)

? ถึงแม้ว่าผู้ที่มิใช่ยิวจะมีโครงสร้างร่างกายเหมือนยิว แต่เมื่อเปรียบกับยิวแล้ว พวกเขาก็เหมือนกับลิงเปรียบเทียบกับมนุษย์? (Schene luchoth haberith, p.250 b)

?ถ้าหากท่านกินกับผู้ที่มิใช่ยิว มันก็เหมือนกับการกินกับสุนัข? (Tosapoth, Jebamoth 94b)

? ถ้ายิวมีคนใช้หรือสาวใช้ที่ไม่ใช่ยิวตาย เขาจะต้องไม่แสดงความเห็นใจแก่ยิว ท่านจะต้องบอกยิวว่า : ?พระเจ้าจะทดแทนสิ่งที่คุณเสียไปเหมือนกับว่าวัวหรือลาตัวหนึ่งตายไป?? (Jore dea 377,1)

?การมีสัมพันธ์ทางเพศระหว่างผู้ที่มิใช่ยิวเหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสัตว์? (Talmud Sanhedrin 74b)

?เป็นที่อนุญาตให้เอาร่างกายและชีวิตของผู้ที่มิใช่ยิวได้? (Sepher Ikkarim III c 25)

? มันเป็นกฎหมายที่จะฆ่าใครก็ได้ที่ปฏิเสธคัมภีร์โตราห์ พวกคริสเตียนก็อยู่ในพวกที่ปฏิเสธคัมภีร์โตราห์? (Coschen hamischpat 425 Hagah 425.5)

?ท่านจะฆ่าพวกนอกรีตที่ไม่ใช่ยิวด้วยมือของท่านเองก็ได้? (Talmud, Abodah Zara, 4b)

?ยิวทุกคนที่หลังเลือดของพวกที่ไม่ใช่ยิวกำลังทำสิ่งเดียวกับการบูชานยัญต่อพระเจ้า? (Talmud : Bammidber raba c 21& Jalkut 772)

ยิวเตรียมตัวทำความชั่วอย่างไร ?

?ถ้าหากยิวผู้ใดอยากจะทำชั่ว เขาควรจะออกไปยังเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเขาและทำชั่วที่นั่น? (Moed Kattan 17a)

?ถ้าผู้ที่มิใช่ยิวตียิว ผู้ที่มิใช่ยิวคนนั้นจะต้องถูกฆ่า? (Sanhedrin 58b)

?ยิวไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างทำงานให้แก่คนที่มิใช่ยิว? (Sanhedrin 57a)

? ถ้าวัวของชาวอิสราเอลขวิดวัวของชาวคะนาอัน ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าวัวของชาวกันคะนาอันขวิดวัวของชาวอิสราเอล จะต้องจ่ายค่าชดใช้โดยเต็ม? (Baba Kamma 37b)

?ถ้ายิวพบสิ่งของที่พวกที่มิใช่ยิวทำหายก็ไม่จำเป็นต้องคืน? (Baba Mezia 24a & Baba Kamma 113b)

? พระเจ้าจะไม่เว้นโทษยิวที่ยกลูกสาวของตัวเองให้แต่งงานกับคนแก่หรือหาภรรยา ให้แก่ลูกชายที่ยังเป็นทารกของตนหรือคืนของที่หายให้แก่ผู้ที่มิใช่ยิว...? (Sanhedrin 76a)

?เมื่อยิวฆ่าคนที่มิใช่ยิว จะไม่มีการลงโทษประหารชีวิต ยิวจะเก็บสิ่งที่ยิวขโมยมาจากผู้ที่ไม่ใช่ยิวไว้ก็ได้? (Sanhedrin 57a)

?ผู้ที่มิใช่ยิวจะไม่ได้รับการคุ้มครองของกฎหมายและพระเจ้าได้เอาเงินพวกเขาให้แก่แก่อิสราเอลแล้ว? (Baba Kamma 37b)

?ยิวอาจจะใช้วิธีการโกหกเพื่อกำจัดผู้ที่มิใช่ยิวได้? (Baba Kamma 113a)

?พวกเด็กๆที่ไม่ใช่ยิวทั้งหมดเป็นสัตว์? (Yebamoth 98a)

?เด็กผู้หญิงที่มิใช่ยิวอยู่ในสภาพที่สกปรกตั้งแต่เกิด? (Abodah Zarah 36b)

?พวกที่ไม่ใช่ยิวชอบมีเพศสัมพันธ์กับวัว? (Abodah Zarah 22a-22b)

ยิวดูถูกนางมัรฺยัมผู้บริสุทธิ์

? จงกล่าวว่านางมารีย์เป็นโสเภณี นางผู้เป็นลูกหลานของกษัตริย์และเจ้าเมืองได้เล่นชู้กับช่างไม้? นอกจากนี้แล้วในเชิงอรรถหมายเลข 2 ถึง Shabbath 104b ของฉบับ Soncino ยังมีกล่าวไว้ในตัวบทของคัมภีร์ตัลมูดที่ไม่มีการตัดว่าแม่ของเยซัส นางมิเรียมช่างทำผมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน (Sanhedrin 106a)

ยิวดูหมิ่นพระเยซู

?จงกล่าวว่าเยซูกำลังถูกต้มอยู่ในเยี่ยวร้อนๆ? (Gittin 57a)

ยิวโจมตีความเชื่อของคนที่มิใช่ยิว

?พวกคริสเตียนและอื่นที่ปฏิเสธคัมภีร์ตัลมูดจะลงนรกและจะถูกลงโทษทั้งโคตร? (Rosh Hashanah 17a)


?ยิวจะต้องทำลายคัมภีร์ของชาวคริสเตียน นั่นคือคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่? (Shabbath 116a)

ดร. อิสราเอล ชาฮักแห่งมหาวิทยาลัยฮิบรูรายงานว่าชาวอิสราเอลได้เผาคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธ สัญญาใหม่นับเป็นพันเล่มในแผ่นดินปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเมื่อวันวันที่ 23 มีนาคม 1980 (ดู Jewish History, Jewish Religion, p.21)

คำสอนบ้าๆบอๆของคัมภีร์ตัลมูด

?จงพูดว่าอาดัมมีสัมพันธ์ทางเพศกับสัตว์ทุกชนิดในสวนแห่งเอเดน? (Yebamoth 63a)

?จงประกาศว่าการเกษตรเป็นอาชีพที่ต่ำที่สุด? (Yebamoth 63a)

?ยิวจะแต่งงานกับเด็กผู้หญิงอายุ 3 ขวบก็ได้ (โดยเฉพาะสามขวบกับหนึ่งวัน)? (Sanhedrin 55b)

?ยิวอาจจะมีเพศสัมพันธุ์กับเด็กก็ได้ตราบใดที่เด็กคนนั้นอายุต่ำกว่า 9 ขวบ? (Sanhedrin 54b)

?เมื่อผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้หญิงก็ไม่เป็นอะไร? (Kethuboth 11b)

? ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับสัตว์สมควรที่จะแต่งงานกับนักบวชยิว ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับปีศาจก็ควรที่จะแต่งงานกับนักบวชยิว? (Yebamoth 59b)

?จงพูดว่าไม่มีโสเภณีในโลกที่แร็บไบเอลีซาร์แห่งคัมภีร์ตัลมูดไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย? (Abodah Aarah 17a)

?จงพูดว่าไม่มีแร็บไบคนใดจะตกนรกได้? (Hagigah 27a)

?แร็บไบคนหนึ่งโต้วาทีกับพระเจ้าและชนะ พระเจ้ายอมรับว่าแร็บไบชนะโต้วาที? (Baba Mezia 59b)

? ผู้ชายยิวมีหน้าที่ต้องกล่าวคำวิงวอนต่อไปนี้ทุกวันว่า ?ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ทำให้เราเป็นผู้ที่มิใช่ยิว เป็นผู้หญิงหรือเป็นทาส?? (Menahoth 43b-44a)
บทความโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน
ใส่คำบรรยายภาพ
คัมภีร์ทาลมุดของศาสนายิว
ความจริงเกี่ยวกับคัมภีร์ตัลมูด
โดย อาจารย์บรรจง บินกาซัน

คัมภีร์ ตัลมูดเป็นคัมภีร์ที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมคำบอกเล่าของแร็บไบ(ธรรมาจารย์ชาว ยิว)หลังสมัยนบีมูซาและในระหว่างที่พวกชาวยิวต้องเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายเป็น เวลานับร้อยปี คัมภีร์ตัลมูดเกิดขึ้นจากความหลงผิดและอคติในเรื่องเชื้อสายของชาวยิวที่ถือ ว่าเผ่าพันธุ์ของตนเหนือกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่พระ เจ้าทรงคัดเลือก ดังนั้น คัมภีร์ตัลมูดจึงถือว่าคนที่มิใช่ยิวทั้งหมดเป็นสัตว์และมิได้เป็นลูกหลาน ของอาดัม ต่อไปนี้เป็นข้อความบางตอนในคัมภีร์ตัลมูด

?ยิวถูกเรียกว่ามนุษย์ แต่ผู้ที่มิใช่ยิวมิใช่มนุษย์ พวกเขาเป็นสัตว์เดรฉาน? (Talmud : Baba mezia,114b)

?อากุม (ผู้ที่มิใช่ยิว) เป็นเหมือนหมา ใช่ คัมภีร์สอนให้เราให้เกียรติสุนัขมากกว่าผู้ที่มิใช่ยิว? (Ereget Raschi Erod.22 30

? ถึงแม้พระเจ้าจะสร้างผู้ที่มิใช่ยิวขึ้นมาก็ตาม พวกเขาก็ยังเป็นสัตว์ในร่างมนุษย์ มันจึงไม่เหมาะสมสำหรับยิวที่จะได้รับการรับใช้โดยสัตว์ ดังนั้น เขาจะได้รับการรับใช้โดยสัตว์ในรูปมนุษย์? (Midrasch Talpioth, p.255, Warsaw 1855)

?หญิงมีครรภ์ที่มิใช่ชาวยิวไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ที่ตั้งท้อง? (Coschen hamischpat 405)

?วิญญาณของผู้ที่มิใช่ยิวมาจากวิญญาณที่สกปรกและถูกเรียกว่าหมู? (Jalkut Rubeni gadol 12b)

? ถึงแม้ว่าผู้ที่มิใช่ยิวจะมีโครงสร้างร่างกายเหมือนยิว แต่เมื่อเปรียบกับยิวแล้ว พวกเขาก็เหมือนกับลิงเปรียบเทียบกับมนุษย์? (Schene luchoth haberith, p.250 b)

?ถ้าหากท่านกินกับผู้ที่มิใช่ยิว มันก็เหมือนกับการกินกับสุนัข? (Tosapoth, Jebamoth 94b)

? ถ้ายิวมีคนใช้หรือสาวใช้ที่ไม่ใช่ยิวตาย เขาจะต้องไม่แสดงความเห็นใจแก่ยิว ท่านจะต้องบอกยิวว่า : ?พระเจ้าจะทดแทนสิ่งที่คุณเสียไปเหมือนกับว่าวัวหรือลาตัวหนึ่งตายไป?? (Jore dea 377,1)

?การมีสัมพันธ์ทางเพศระหว่างผู้ที่มิใช่ยิวเหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสัตว์? (Talmud Sanhedrin 74b)

?เป็นที่อนุญาตให้เอาร่างกายและชีวิตของผู้ที่มิใช่ยิวได้? (Sepher Ikkarim III c 25)

? มันเป็นกฎหมายที่จะฆ่าใครก็ได้ที่ปฏิเสธคัมภีร์โตราห์ พวกคริสเตียนก็อยู่ในพวกที่ปฏิเสธคัมภีร์โตราห์? (Coschen hamischpat 425 Hagah 425.5)

?ท่านจะฆ่าพวกนอกรีตที่ไม่ใช่ยิวด้วยมือของท่านเองก็ได้? (Talmud, Abodah Zara, 4b)

?ยิวทุกคนที่หลังเลือดของพวกที่ไม่ใช่ยิวกำลังทำสิ่งเดียวกับการบูชานยัญต่อพระเจ้า? (Talmud : Bammidber raba c 21& Jalkut 772)

ยิวเตรียมตัวทำความชั่วอย่างไร ?

?ถ้าหากยิวผู้ใดอยากจะทำชั่ว เขาควรจะออกไปยังเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเขาและทำชั่วที่นั่น? (Moed Kattan 17a)

?ถ้าผู้ที่มิใช่ยิวตียิว ผู้ที่มิใช่ยิวคนนั้นจะต้องถูกฆ่า? (Sanhedrin 58b)

?ยิวไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างทำงานให้แก่คนที่มิใช่ยิว? (Sanhedrin 57a)

? ถ้าวัวของชาวอิสราเอลขวิดวัวของชาวคะนาอัน ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าวัวของชาวกันคะนาอันขวิดวัวของชาวอิสราเอล จะต้องจ่ายค่าชดใช้โดยเต็ม? (Baba Kamma 37b)

?ถ้ายิวพบสิ่งของที่พวกที่มิใช่ยิวทำหายก็ไม่จำเป็นต้องคืน? (Baba Mezia 24a & Baba Kamma 113b)

? พระเจ้าจะไม่เว้นโทษยิวที่ยกลูกสาวของตัวเองให้แต่งงานกับคนแก่หรือหาภรรยา ให้แก่ลูกชายที่ยังเป็นทารกของตนหรือคืนของที่หายให้แก่ผู้ที่มิใช่ยิว...? (Sanhedrin 76a)

?เมื่อยิวฆ่าคนที่มิใช่ยิว จะไม่มีการลงโทษประหารชีวิต ยิวจะเก็บสิ่งที่ยิวขโมยมาจากผู้ที่ไม่ใช่ยิวไว้ก็ได้? (Sanhedrin 57a)

?ผู้ที่มิใช่ยิวจะไม่ได้รับการคุ้มครองของกฎหมายและพระเจ้าได้เอาเงินพวกเขาให้แก่แก่อิสราเอลแล้ว? (Baba Kamma 37b)

?ยิวอาจจะใช้วิธีการโกหกเพื่อกำจัดผู้ที่มิใช่ยิวได้? (Baba Kamma 113a)

?พวกเด็กๆที่ไม่ใช่ยิวทั้งหมดเป็นสัตว์? (Yebamoth 98a)

?เด็กผู้หญิงที่มิใช่ยิวอยู่ในสภาพที่สกปรกตั้งแต่เกิด? (Abodah Zarah 36b)

?พวกที่ไม่ใช่ยิวชอบมีเพศสัมพันธ์กับวัว? (Abodah Zarah 22a-22b)

ยิวดูถูกนางมัรฺยัมผู้บริสุทธิ์

? จงกล่าวว่านางมารีย์เป็นโสเภณี นางผู้เป็นลูกหลานของกษัตริย์และเจ้าเมืองได้เล่นชู้กับช่างไม้? นอกจากนี้แล้วในเชิงอรรถหมายเลข 2 ถึง Shabbath 104b ของฉบับ Soncino ยังมีกล่าวไว้ในตัวบทของคัมภีร์ตัลมูดที่ไม่มีการตัดว่าแม่ของเยซัส นางมิเรียมช่างทำผมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน (Sanhedrin 106a)

ยิวดูหมิ่นพระเยซู

?จงกล่าวว่าเยซูกำลังถูกต้มอยู่ในเยี่ยวร้อนๆ? (Gittin 57a)

ยิวโจมตีความเชื่อของคนที่มิใช่ยิว

?พวกคริสเตียนและอื่นที่ปฏิเสธคัมภีร์ตัลมูดจะลงนรกและจะถูกลงโทษทั้งโคตร? (Rosh Hashanah 17a)

?ยิวจะต้องทำลายคัมภีร์ของชาวคริสเตียน นั่นคือคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่? (Shabbath 116a)

ดร. อิสราเอล ชาฮักแห่งมหาวิทยาลัยฮิบรูรายงานว่าชาวอิสราเอลได้เผาคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธ สัญญาใหม่นับเป็นพันเล่มในแผ่นดินปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเมื่อวันวันที่ 23 มีนาคม 1980 (ดู Jewish History, Jewish Religion, p.21)

คำสอนบ้าๆบอๆของคัมภีร์ตัลมูด

?จงพูดว่าอาดัมมีสัมพันธ์ทางเพศกับสัตว์ทุกชนิดในสวนแห่งเอเดน? (Yebamoth 63a)

?จงประกาศว่าการเกษตรเป็นอาชีพที่ต่ำที่สุด? (Yebamoth 63a)

?ยิวจะแต่งงานกับเด็กผู้หญิงอายุ 3 ขวบก็ได้ (โดยเฉพาะสามขวบกับหนึ่งวัน)? (Sanhedrin 55b)

?ยิวอาจจะมีเพศสัมพันธุ์กับเด็กก็ได้ตราบใดที่เด็กคนนั้นอายุต่ำกว่า 9 ขวบ? (Sanhedrin 54b)

?เมื่อผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้หญิงก็ไม่เป็นอะไร? (Kethuboth 11b)

? ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับสัตว์สมควรที่จะแต่งงานกับนักบวชยิว ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับปีศาจก็ควรที่จะแต่งงานกับนักบวชยิว? (Yebamoth 59b)

?จงพูดว่าไม่มีโสเภณีในโลกที่แร็บไบเอลีซาร์แห่งคัมภีร์ตัลมูดไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย? (Abodah Aarah 17a)

?จงพูดว่าไม่มีแร็บไบคนใดจะตกนรกได้? (Hagigah 27a)

?แร็บไบคนหนึ่งโต้วาทีกับพระเจ้าและชนะ พระเจ้ายอมรับว่าแร็บไบชนะโต้วาที? (Baba Mezia 59b)

? ผู้ชายยิวมีหน้าที่ต้องกล่าวคำวิงวอนต่อไปนี้ทุกวันว่า ?ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ทำให้เราเป็นผู้ที่มิใช่ยิว เป็นผู้หญิงหรือเป็นทาส?? (Menahoth 43b-44a)
บทความโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชนfficeffice" /><O></O>
<O></O>

 

?ยิวถูกเรียกว่ามนุษย์ แต่ผู้ที่มิใช่ยิวมิใช่มนุษย์ พวกเขาเป็นสัตว์เดรฉาน? (Talmud : Baba mezia,114b)

?ยิวจะแต่งงานกับเด็กผู้หญิงอายุ 3 ขวบก็ได้ (โดยเฉพาะสามขวบกับหนึ่งวัน)? (Sanhedrin 55b)

?ยิวอาจจะมีเพศสัมพันธุ์กับเด็กก็ได้ตราบใดที่เด็กคนนั้นอายุต่ำกว่า 9 ขวบ? (Sanhedrin 54b)
?เมื่อยิวฆ่าคนที่มิใช่ยิว จะไม่มีการลงโทษประหารชีวิต ยิวจะเก็บสิ่งที่ยิวขโมยมาจากผู้ที่ไม่ใช่ยิวไว้ก็ได้? (Sanhedrin 57a)

?ผู้ที่มิใช่ยิวจะไม่ได้รับการคุ้มครองของกฎหมายและพระเจ้าได้เอาเงินพวกเขาให้แก่แก่อิสราเอลแล้ว? (Baba Kamma 37b)

?ยิวอาจจะใช้วิธีการโกหกเพื่อกำจัดผู้ที่มิใช่ยิวได้? (Baba Kamma 113a)

?พวกเด็กๆที่ไม่ใช่ยิวทั้งหมดเป็นสัตว์? (Yebamoth 98a)

?เด็กผู้หญิงที่มิใช่ยิวอยู่ในสภาพที่สกปรกตั้งแต่เกิด? (Abodah Zarah 36b)

?ถ้าหากยิวผู้ใดอยากจะทำชั่ว เขาควรจะออกไปยังเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเขาและทำชั่วที่นั่น? (Moed Kattan 17a)

?ถ้าผู้ที่มิใช่ยิวตียิว ผู้ที่มิใช่ยิวคนนั้นจะต้องถูกฆ่า? (Sanhedrin 58b)

?ยิวไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างทำงานให้แก่คนที่มิใช่ยิว? (Sanhedrin 57a)

? ถ้าวัวของชาวอิสราเอลขวิดวัวของชาวคะนาอัน ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าวัวของชาวกันคะนาอันขวิดวัวของชาวอิสราเอล จะต้องจ่ายค่าชดใช้โดยเต็ม? (Baba Kamma 37b)


เป็นคัมภีร์ที่สอนได้ชั่วจริงๆ ผมไม่แปลกใจที่ท่านฮิตเลอร์กาหัวชาวยิวไว้ แต่ทุกวันนี้เขาก็ครองโลกอยู่เช่นเดิม ว่าแต่ว่าคัมภีร์นั่นอยู่ที่ไหนครับ ผมจะอาสาไปฉีกทิ้งหน่อย

 

coolllllllllllllllllllllll"

 

coolllll"""""""""""""""

 

อนุโมทนาจริงๆครับสำหรับลูกหลานี่เกิดทันหลวงพ่อและได้ไปกราบหลวงพ่ออีกทั้งรับพระกับมือ บำเพ็ญมาบารมีมาดีแล้วครับ

แต่ผมขอนิดหนึ่งนะครับ "คนที่เกิดทันหลวงพ่อ เขามีกำัลังมาพอตัวแล้วละ ผมบอกคุณเท่านี้นะ" คนที่เกิดไม่ทันหลวงพ่อใช่ว่าจะเอาดีไม่ได้นะครับ เพราะหลวงพ่อท่านก็ยังอยู่กับลูกหลานไม่ไปไหน แค่กายเนื้อของท่านประทับอยู่ที่มหาวิหารแก้วร้อยเมตร อีกอย่างอย่าลืมนะครับว่าในอนาคตก็ใช่ว่าจะไม่มีพระอรหัตน์มาอยู่ที่วัดท่าซุง และพระอรหันต์ท่านนั้นต่างก็เกิดไม่ทันหลวงพ่อ
เห็นประโยคนี้ของพี่แล้วผมนึกถึงคำพูดของหลวงพี่อนันต์ที่บ้านสายลมเลยเกี่ยวกับ ลูกศิษย์หลวงพ่อที่เถียงกัน ใจความคร่าวๆดังนี้(ผิดถูกขออภัย ไม่มีอ้างอิงนะครับ)

ลูกศิษย์ที่เกิดทัน และไม่ทันเกิดเคืองใจกันและสนธนากันดังนี้

เกิดทัน: (พูดประมาณว่าตัวเองเกิดทันหลวงพ่อนะ บลาๆ ๆ....)

เกิดไม่ทัน : นี้ขนาดเกิดทันหลวงพ่อนะเนี่ย ยังอยู่แบบนี้ และพูดแบบนี้ ความเลว ยังเหมือนเดิมเลย

เกิดทัน (โทสะเข้าจับจิตเลยครับ)
เกิดไม่ทัน(ก็ไม่พ้นโทสะ)



ผมไม่มีเจตนาจะหาเรื่องกล่าวร้ายพี่นะครับ ยังไงเราก็พี่น้องลูกหลานหลวงพ่อเช่นกัน แค่แสดงความคิดเห็นครับ

 

ผมเข้าใจเจตนานะครับว่าพี่ต้องการจะเผยแพร่ความรู้และคำสอน แต่ว่านำมาเผยแพร่ตรงนี้เหมาะสมหรือไม่รบกวนพิจารณาด้วยนะครับ เรื่องบางเรื่องควรพูดเฉพาะในกลุ่มผู้มีศรัทธาจริงๆก็พอนะครับ ไม่งั้นอาจทำให้เกิดกรรมปรามาสพระได้

 

นำเสนอข้อเท็จจริง...

Hitler ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ กินมังสวิรัติเกือบทุกมื้อ

 

หืมผมคิดว่าฮิตเลอร์นี่ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆรวบรวมกําลังนาซีถล่มหลายประเทศนี่ ไม่ใช่ง่ายๆนะครับ จิตใจต้องเด็ดเดี่ยวมากๆ ผมไม่รู้ว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์จริงหรือเปล่า แต่บุคลที่จะเป็นหัวหน้าคนส่วนใหญ่ก็กําลังใจเด็ดเดี่ยวทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองคิดนะครับ

พระเยซู โดนไม้กางแขน มันกางแขนนะครับ แล้วโดนทรมารตาย ผมไม่รู้ว่าตอนโดน พระเยซูไปต่อว่าด่ารึเปล่า โดนกางแขนเพราะจะช่วยคนอื่น (แต่น่าเสียดายท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่ก็สามารถสอนคนไปสวรรค์ได้ด้วยแต่ผมไม่รู้ว่า ไปเป็นพรหมได้ไหม)

แต่ท่านก็ยังไม่เป็นบรมครู เพราะศีลศาสนาคริสต์ผมไม่คอยเห็นด้วยกับการ เคารพพระเจ้าคนเดียว มันแปลกๆ มันขัดกับศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าท่านเอาหลักกามลามสูตรมาสอนเลย ว่าจะเคารพพระพุทธองค์ อาศัยศรัทธากับปัญญาผมชอบพระพุทธเจ้า

ตอนที่ท่านบอก ว่า ตถาคตก็เป็นได้แค่ผู้บอกทาง พระพุทธเจ้าท่านใจใหญ่มาก อุปมาผมคือผู้หลงทาง แล้วพระพุทธเจ้าผู้บอกทาง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของท่าน กับกาลามสูตรตรงข้อสุดท้าย อย่าเพิ่งเชื่อว่าเป็นครูของเรา แต่ถ้าการเชื่อพระพุทธองค์แต่พระองค์เดียวนี่ก็น่าจะตัดนิวรณ์ไปได้มั้งไม่แน่ ที่บอกว่าไม่แน่ เพราะศาสนาพุทธต้องใช้ปัญญา วิเคราะ ให้ท่องแท้จริงๆ


ไปๆมาๆผมใส่มานะทิฐิของผมไป ก็อย่าไปยึดติดไรมาก ผมยังมีมานทิฐิยังเลวอยู่มาก ก็อย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่ผมบอกมา จนกว่าท่านจะลองหาข้อเท็จจริงละกัน สวัสดี >D

 

ไม่ว่าจะกี่ร้อยเหตุผล ผู้ก่อสงครามและสั่งฆ่าผู้คนเป็นล้านๆ ไม่น่าจะใช่คนดี

แม้เขาจะเป็นหน่อพุทธภูมิ ผมก็ยังอยากจะฆ่าพวกเขาอยู่ดี

รู้ว่ามันบาปแต่ก็ยังอยากทำ ถ้าฆ่าโพธิสัตว์ที่โหดร้ายได้สัก 4 องค์ และสามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้หลายล้าน เสียดายก็แต่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้

 

สมัยเรียนเนี่ย ผมชอบฮิตเลอร์นะ เขาเก่งดี เพราะสามารถพลิกเยอรมันจากเดิมที่เป็นประเทศที่แพ้สงครามกลับมาเป็นมหาอำนาจได้ ข้อเสียคือเรื่องฆ่าคนมากอะนะ

 

กรรมเป็นเรื่องอจินไตย ทราบได้อย่างไรว่าไม่ได้มีกรรมผูกพันกันมาก่อนเหมือนพระองคุลิมาล
พระองคุลิมาล ไม่ได้ฆ่าคนทั้งหลายเหล่านั้นเพราะอยากฆ่า แต่เป็นเพราะคนทั้งหลายนั้น เคยร่วมกันฆ่าท่านมาก่อน ในชาติก่อน

 

ผู้แพ้ผิดตลอด เมกาใช่ว่าจะไม่โหดนะ ชาวบ้านญี่ปุ่น ผู้หญิง เด็ก คนแก่ หนีไปอยู่ในถ้ำ พวกทหารมะกันเอาปืนครก ปืนใหญ่ ยิงถล่ม ทั้ง ๆ ที่นั้นไม่มีทหารเลย และญี่ปุ่นโดนปิดล้อมไว้หมดแล้ว โดยกองเรือบรรทุกเครืองบินของเมกาหลายลำ ทำให้ญี่ปุ่นเป็นหมาจนตรอก ใช้กามิกาเซ่ แต่ก็ได้ผลช่วงแรก ๆ เท่านั้น เมกามันฉลาดแก้เกมได้ง่าย ๆ เลย ญี่ปุ่นมันไม่เหลืออะไรมาต่อสู้แล้ว แค่ปกกันตนเอง แต่เมกามันยังทิ้งนุ๊กไป 2 ลูก เรียกว่า แก้แค้นตามนิสัยชนของเมกามากกว่า

 

ความโง่เง่าไร้ที่สิ้นสุดของมนุษย์ ก็คือการเข่นฆ่ากันเอง

แม้ไม่ได้ฆ่าคนอื่น คนบางคนก็ยังฆ่าตัวตายอยู่ดี เป็นอะไรที่น่าพิศวงที่สุด

เหตุใดเราแทบไม่เคยเห็นสัตว์ฆ่าตัวตาย หรือก่อสงครามเข่นฆ่ากันเอง ทั้งที่เป็นเดรัจฉาน

งงๆๆๆๆๆๆ

 

เรามองว่า...
คนเราตอนเกิดมาใหม่ๆ
ทุกคนยังบริสุทธิ์..ยังไม่มีความชั่วปรากฎ
ยังไม่ได้สร้างกรรมชั่ว

แต่เมื่อเติบโตขึ้นไปตามกาลเวลา
ความไม่รู้..อวิชชา..ทั้งหลายทั้งแหล่
มันนำพาให้คนเราจากที่เป็นคนดีๆ(ตอนที่ยังเป็นทารก)
สามารถกลายเป็นคนชั่ว คนเลวได้


ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที..บนโลกนี้
ถ้าถูกอวิชชา ความไม่รู้เข้าครอบงำ
ก็กลายเป็นเลว คนชั่วไปได้ง่ายดายแบบนี้แหละ

บางครั้งเรามองว่าคนที่ทำผิด ทำชั่ว ทำเลว
บางครั้งพวกคนเหล่านี้น่าสงสารนะ
เพราะพวกเขาถูกอวิชชาเข้าครอบงำ

ถ้าเมื่อใดก็ตาม...ที่พวกเขาตาสว่าง..
ดวงตาเห็นธรรมขึ้นมา
ตอนนั้นก็อาจจะรู้ หรือสามารถแยกแยะได้ว่า
อะไรคือถูก อะไรคือผิด อะไรคือเลว อะไรคือดี

ประมาณนี้แหละ

 

ผู้แพ้ผิดตลอด สยามใช่ว่าจะไม่โหดนะ ไปเห็นบทความที่เขียนถึงประวัติศาสตร์การรบระหว่างสยามกับลาวไว้อย่างนี้

หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าอนุเสด็จหนีไปแล้ว 5 วัน กองทัพไทยจึงยกทัพมาถึงเมืองพันพ้าว ..หมื่นนเรศโยธิน หมื่นเสมียนวัลลภ แม่ทัพไทยพาทหารข้ามมาเวียงจันทน์ เข้าเก็บกวาดเอาทรัพย์สมบัติในพระราชวัง บ้านเรือนก็ถูกเผาทำลาย นครเวียงจันทน์ที่เคยเจริญรุ่งเรืองสวยงามมาแต่โบราณหลายร้อยปี คงเหลือแต่เถ้าถ่านตั้งแต่นั้นมา ไพร่ฟ้าราษฎรจำนวนมากถูกพระยาราชสุภาวดีกวาดต้อนไป เหลือไว้เป็นพลเมืองเวียงจันทน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ครั้นถึงเดือน 3 (กุมภาพันธ์ 1827) พระราชสุภาวดีก็ลงไปถึงกรุงเทพฯ พระเจ้าแผ่นดินไทยตรัสว่า “ตัวเจ้าอนุวงศ์ยังจับไม่ได้ จะกลับมาตั้งบ้านเมืองอีกประการใดยังไม่ชัดแจ้ง เมืองเวียงจันทน์ไม่เอาไว้เป็นบ้านเมืองอีกต่อไป ให้กลับคืนไปทำลายล้างเสียให้หมด อย่าให้กลับเป็นบ้านเมืองได้”
.
.
.
.
ในตอนต้นของสารได้ชี้ให้เห็นถึงการแผ่ขยายอำนาจของสยาม เข้าสู่อาณาจักรลาวล้านช้าง ซึ่งทำให้นครเวียงจันทน์อันเป็นหัวใจของอาณาจักรลาวล้านช้างต้องเสื่อมอำนาจลง ดั่งสารกล่าวว่า

คุดทะ อ้าปีกขึ้น ขำเมกเรืองลด
จันโท เมามัวมุด มืดแสงสูนอ้ำ

สารได้ยกเอาครุฑอันเป็นสัญลักษณ์ของสยาม ขึ้นมาเป็นตัวละครที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีพลัง และการแผ่อำนาจเข้ายึดครอง อันทำให้พระจันทร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของลาวต้องอับแสงลง ทำให้ไพร่ฟ้าราษฎรและเสนาอำมาตย์ต้องล้มตายลง ดังสารว่า

ไฟก็ ลุกวืบไหม้ เสนาทะเมามุด
เปลวเป่ง เฮืองอาลุน ขอบแสงสูนฟ้า

ในประวัติศาสตร์ สมัยลาวตกเป็นหัวเมืองขึ้นของสยาม ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์แห่งความขมขื่น มีพลเมืองลาวจำนวนไม่น้อย ได้ถูกกวาดต้อนไปสยาม ดั่งสารกล่าวว่า

อามม เมาแบบพื้น เฟือนฟาดฟองสมุทร
นาโคคะ คาดโฮงฮามย้อง

หมายความว่า เมื่อสยามเข้ามายึดครองแล้วเขาได้ก่อกรรมทำเข็ญ และกวาดต้อนเอาคนลาวไปสยาม เพื่อจุดประสงค์ลบล้างความเป็นชาติ นำเอาประชาชนไปเป็นพลเมืองของตน เพื่อให้ตนมีกำลังยิ่งกว่าพวกอื่น นี้เป็นจุดพิเศษของสงครามศักดินาสมัยนโยบาย ซึ่งได้ทำให้ไพร่ฟ้าราษฎรลาวจำนวนหนึ่ง ต้องได้พลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนด้วยความอาลัยอาวร

ปล. เข้าใจว่าข้อเขียนในบทความที่ก็อปปี้มาเอามาจาก “สารลึบพะสูน” ซึ่งเป็นวรรณกรรมเรื่องหนึ่งของลาว

ที่มา