นักเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติทุกท่าน มีใครเตรียม"อาวุธปืน"บ้างหรือไม่?

ขอนับถือคุณอัสนีครับ มีความรู้เรื่อง อาวุธปืน ดีมาก สมกับเป็นที่พึ่งของสมาชิก (กระทู้บนใช้อ้างถึงแล้วมันไม่ขึ้น)

 

ขอบคุณคุณพูน ครับที่กล่าวชม กระผมไม่ค่อยเก่งเรื่องอาวุธปืนหรอกครับ แค่มีประสบการณ์บ้างนิดหน่อยเองครับ คือเรา มีกะตังค์น้อย เราก็ต้องศึกษา สมัยก่อนไม่มีหรอกอินเตอร์เน็ต ต้องดูจากหนังสือ แถมอยากรู้มาก ก็เลยไปสนามยิงปืนบ่อย ไปจนสนิทกับทุกคน ชมรมยิงปืนทุกชมรม (ไม่แน่นักยิงปืนเพื่อการกีฬาถ้าอ้างถึงจะร้องเอ้อ...ก็ได้)ได้รู้จักปืนทุกชนิดก็เมื่อมายิงทดสอบกับพี่ๆที่เขายิงทดสอบให้กับหนังสือ และร้านปืนนี่แหละ ยิงทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ทุกขนาดกระสุน แม้นแต่ลูกโม่ .44 แม๊กนั่ม ก็ยิงมาแล้วมันดังสะท้านหูดีจัง ลูกซองก็ยิงมาเป็นหมื่นนัด ยิงจนไม่รู้จะใช้เป้าอะไร ยิงแล้ว อย่างปืน11.มม.หรือระบบลูกเลื่อน 1911นี่ก็ได้วิชาจากพื่ๆนี่แหละ ในการดัดแนบ สามชาย ให้ไกปืนเบา จะเอาเบาเท่าไหรก็ได้ แต่ระวังเบามากอันตรายจากการลั่นก็มากด้วย การยิงปืนทุกขนาด เมื่อมายิงเร็วทุกท่านก็มาจบที่กระสุนขนาด9มม.เพราะแรงรีคอลย์ต่ำ การหยุดยังดีเมื่อฝึกยิงจุดสำคัญ คุมปืนในการจับเป้าหมายได้ง่าย สังเกตุ ปืนยี่ห้อดังๆเช่นSTI ราคากระบอกล่ะเป็นแสนๆถ้ามีกะตังค์ ไปแต่งซิ่งด้วยแล้ว บางกระบอก สามแสนกว่าบาท ใส่ศูนย์ เลเซอร์ เรียกได้ว่า ยกปุ๊บศูนย์ตรงเป้ายิงไม่เคยพลาดเลย กีฬายิงปืนเป็นกีฬาที่ลงทุนสูงมากๆ ยิงถ้าไม่มี เครื่องโหลดกระสุนที่ใช้ยิงด้วยแล้ว เตรียมไปเลยเมื่อไปยิงในสนาม
-กระสุนซ้อมเมื่อก่อน เก้าร้อยกว่าบาท เดียวนี้พันกว่าบาทแถมจำกัดจำนวนในการผลิตด้วย(กล่องหนึ่ง50นัด)
-เป้าแผ่นละ8.50 เดียวนี้น่าจะ10บาท (ไม่ค่อยได้เข้าสนามแล้ว มีทั้งเป้าตาวัวลักษณะวงกลม เป้าหุ่นคน เป้าไอพี เอส ซี)
-ค่าล้างปืนเมื่อยิงแล้ว กระบอกล่ะ50บาท (อันนี้แล้วแต่ว่าจะล้างที่สนามหรือจะเก็บไว้ล้างเองไม่ว่ากัน)
-ปืนต้องมีหรือเช่าราคาเช่าตามสนามก็แล้วแต่ว่าเขาจะให้เช่ายิงราคาเท่าไหร่ แถมเจ้าหน้าที่เขาก็มาสอนให้ด้วยถ้ายังไม่ค่อยเป็น(กระผมก็เคยไปสอนยิงลักษณะนี้มาส่วนใหญ่ก็ไปแนะนำเจอผู้ใจดีก็เลี้ยงแป๊บซี่ให้กินแค่นี้ก็พอแล้ว)
คิดดูว่ากีฬาชนิดนี้ต้องมีทุน เข้าสนามก็ต้องเตรียมไปสองพัน เผื่อไว้ ยิงมันก็ต้องเสียค่ากระสุนอีก แต่ที่ยิงไอพี เห็นเขาโหลดกระสุนมาเองโดยสั่งซื้เครื่องจากเมืองนอกมาทำการโหลด วัสดุอุปกรณ์เมืองนอกเขามีครบหมดครับ
ที่ถูกแต่ปืนเดียวนี้แพงก็มีขนาด.22 การออกแบบเห็นมีที่ร้านขายปืนหลังวัง เป็นแบบปืนจู่โจม ไม่ว่าจะเป็นHK M16 A2 A4 สาระพัดที่จะออกแบบมาล่อ เงินเรา (ลองดูในกูลเกิ้ลซิ่ ยั่วกิเลสจริงๆ)ขนาดนี้ซื้อมาซ้อมยิงได้กระสุนก็ราคาถูก แถมไว้ใช้ป้องกันตัวที่บ้านได้ ถึงแม้นขนาดกระสุนจะเล็กแต่ถ้ายิงย้ำและถูกจุดสำคัญก็ไม่เหลือและคดีหลายคดีที่เป็นกระสุนขนาดนี้ก็.............ครับ

 

เหมือนกันครับ มีตังค์น้อยต้องศึกษาเยอะ เด็กๆ สมัยนี้โชคดีมีอินเตอร์เน็ตให้ค้นหาข้อมูล คุณอัสนี ใช้ชื่อใน เวป อวป. ชื่ออะไรครับ เอาไว้คุยกันในนั้นก็ได้ เห็นรูปที่ลงซ้ายมือแล้ว สงสัยคงเคยเจอกันที่บ้านสายลมแน่

 

ผมชอบตรงเนี้ย "มาจบที่กระสุนขนาด9มม.เพราะแรงรีคอลย์ต่ำ การหยุดยั้งดีเมื่อฝึกยิงจุดสำคัญ คุมปืนในการจับเป้าหมายได้ง่าย" โอเคเลยคุณ อัสนี

 

ผมอ่านเรื่องพี่อัสนีซะเข้าใจเลยครับ เซ้งจังคนขายปืนกะกระสุนรวยเอาๆ เราจนลงๆ ส่วนโจรก็ใช้กระสุนฟรี ว่าแต่ว่าพี่อัสนีและพี่ buccaneer81 ครับ ผมอยากได้ตัวนี้มากกกกกก พี่ๆคิดอย่างไรกันครับ? อยากได้ ruger LCR .357 นะครั จะได้ยิงได้สองขนาด .38special ก็ยิงได้ ผมว่านี่จะเป็นปืนสารพัดนึกของผมครับ

 

ถึงจะเป็นนยิงปืนสั้น ไม่แม่น แต่ใจก็ยังอยากได้

ลูกโม่ .44 Magnum งามๆสักกระบอก


เนื่องด้วย ตอนเด็กๆ ดูหนัง มือปราบปืนโหดมากไปหน่อย




<TABLE style="BORDER-SPACING: 2px 5px; WIDTH: 22em" class=infobox cellSpacing=5><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>
Clint Eastwood as Harry Callahan in Dirty Harry
</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>First appearance</TH><TD>Dirty Harry</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Last appearance</TH><TD>The Dead Pool</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Created by</TH><TD>Harry Julian Fink
R.M. Fink
</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Portrayed by</TH><TD>Clint Eastwood (All movies)</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: center; BACKGROUND: #dedee2; COLOR: #000" colSpan=2>Information</TH></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Nickname(s)</TH><TD>Dirty Harry</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Aliases</TH><TD>Larry Dickman</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Gender</TH><TD>Male</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Occupation</TH><TD>Police officer</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Title</TH><TD>Inspector</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>Spouse(s)</TH><TD>Unnamed (deceased)</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มีพร้อมเหมือนกันครับ...ส่วนหนึ่งเพราะใจชอบ ส่วนหนึ่งเพราะหน้าที่

 

ตามความเห็นผม ปืนสั้นในการรับภัยพิบัติควรใช้กระสุนขนาดเดียวจะมีปืนกี่กระบอกก็ได้...การนำพากระสุนจะได้ไม่หลากหลายและไม่สับสนในการใช้งาน นอกจากเราต้องการสะสมด้วยใจรักก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ

 

-สวัสดีครับ ทุกท่าน กระผมขอตอบรวมๆเลยน่ะครับ กรณี ปืนลูกโม่ ที่น้องsunny430นำมาให้ชม นั้น ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ปราบปราม จะใช้เป็นปืนสำรอง ที่ภาพยนต์ จะเห็นว่ามีซองพกซ่อนที่ขาหรือช่วงท้อง ส่วนใหญ่จะใช้ขนาด.38 ส่วน.357 นั้นเวลายิงปืนสั้นจะดังสะใจพร้อมแรงเผาไหม้ของดินส่งหัวกระสุนให้เกิดแรงทะลุทะลวงสูงไปด้วย เพราะดินขับมันเยอะ เวลาไปยิงในสนาม(ยิ่งใช้กระสุนจริงยิงด้วยแล้วดังมากๆ)ทุกช่องยิงเขาจะหันมองเป็นตาเดียวแล้วว่า"เฮ้ย..ยิงปืนเสียงเบาๆหน่อย"ทั้งขนาด.357,.44แม็กนั่ม แรงรีคอลย์สูงมากทีเดียว ต้องใช้พลังในการคุมปืนสูงมากๆผู้หญิงข้ออ่อนๆไม่ได้ฝึกมาพอยิงตูม ด้วยความตกใจและข้อมือไม่แข็งพอปืนอาจจะสะบัดหลุดจากมือก็ได้ เวลาเจอสถาณการณ์จริงต้องต่อสู้ จากได้เปรียบกลายเป็นเสียเปรียบไปเลย
ข้อดีของขนาด.357,.44
-อำนาจการทะลุทะลวงสูงเพราะดินขับเยอะ
-โดนจุดที่ไม่สำคัญแต่หยุดยั้งได้ชะงักเพราะอวัยวะที่โดนเช่นที่แขนหรือขาจะเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ได้ถ้าคนโดนใจไม่แข็งพอมันหดหมดทั้งกายใจจะฝ่อลงไปอยู่ตาตุ่ม
-ยิงขู่เสียงดังปานฟ้าถล่ม เรียกได้ว่ากลางคืนที่เงียบสงัดนี้ตื่นทั้งหมู่บ้านแน่ๆ
ข้อเสีย
-อย่างที่บอกครับ แรงรีคอลย์ สูงตามตัวทีเดียว ทำให้คุมปืนลำบาก
-ขนาดกระสุนใหญ่ปืนก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย การพกพาไปไม่สดวกสังเกตุดูเจ้าหน้าที่ที่ต้องใช้ อวป.ส่วนใหญ่จะใช้ลูกดก แถมแม็ก(ซองกระสุน)อีกหนึ่งหรือสอง
-ความจุน้อยถ้าการต่อสู้ระยะสั้นใช้ได้แต่การต่อสู้ระยะยาวมีปัญหาแน่ๆ เพราะต้องเสียเวลารีโหลดกระสุนใส่โม่รุ่นเก่าๆก็ห้านัด รุ่นใหม่เห็นเจาะถี่เป็นแปดนัด
-ดินเยอะการเปิดเผยตำแหน่งก็สูงตามพอกระสุนออกจากลำกล้องไฟครับ แล๊ปยาวเป็นฟุตเลย นั่นแหล่ะครับเป็นสัญญาณบอกตำแหน่งของเราไฟที่ออกมาจะส่องสว่างให้เห็นกำบังที่เราหลบอยู่เมื่อคู่ต่อสู้เห็นแค่นิดเดียวเขาจะคำนวนออกเลยว่าจุดอ่อนของกำบังเราอยู่จุดใดบ้างแถมถ้ามีสไนท์เปอร์โดนเต็มๆครับ
-ราคาค่ากระสุนสูงเอาเรื่องทีเดียวไปซื้อของนอกชนิด+Pตกลูกละห้าสิบกว่าบาทถึงหกสิบกว่าบาทแน่ะ

-คุณพูนครับ บางครั้งก็ไปครับกระผมไม่ค่อยชอบคนเยอะเท่าไหร่พอเจอคนเยอะมักจะถอยหนี แต่ถ้าเป็นงานบุญพบครูบาอาจารย์พระอริยะสงฆ์ล่ะก็คนเยอะก็ทนครับ เวปอวป.กระผมไม่ได้สมัครหรอกครับเคยแวะเข้าไปดูแต่ไม่ค่อยได้ออกความเห็นอย่างที่บอกเราไม่ค่อยมีกะตังค์ เราใช้การศึกษาแต่กระดาษอย่างเดียว(เดียวนี้พัฒนามาเป็นอินเตอร์เน็ตก็เลยประหยัดมากๆเลย)ที่เวป อวป.มีผู้ทรงความรู้และมีความสามารถที่จะนำเอาของจริงๆมาศึษาได้เยอะและดีกว่าเราครับ ที่ให้ความเห็นเป็นเรื่องเป็นราวก็ที่นี่แหละครับ ต้องขอบคุณน้องsunny430ที่เปิดหน้าต่างนี้มาให้เพื่อนๆครับ
-จริงอย่างที่คุณbuccaneer81บอกขนาดกระสุนนี้สำคัญมากๆ ในสหรัฐอเมริกา ทุกรัฐ สถานีตำรวจที่นั่น ถ้าโรงพักใด ใช้กระสุนขนาด9มม.ก็จะใช้ขนาดนั้นทั้งหมด รวมถึงอาวุธปืนด้วย เช่นใช้กล๊อค19ก็จะใช้ขนาดนี้ทั้งหมด เหตุผลคือเมื่อเกิดเหตุที่ปะทะกันยาวนานสังเกตุดูว่าอเมริกาแม้นจะได้ชื่อว่าเทคโนโลยีสูงแต่คนก็ยังมีความต่ำอยู่มากๆกฏหมายเขาก็บทลงโทษรุนแรง แต่พอมีเหตุทีไรร้ายแรงทั้งนั้น จุดนี้จึงจำเป็นต้องใช้กระสุนขนาดเดียวกันเพื่อใช้กันได้ กระสุนหมดก็ยังใช้ของเพื่อนๆที่ร่วมปฏิบัติงานนั้นได้ เท่าที่ศึกษามาขนาดกระสุนที่ ตำรวจอเมริกาใช้มากที่สุดคือขนาด.40,9mm สองขนาดนี้แหละกำลังดีครับ

สังเกตุดูที่ท้ายรถทุกคันจะมีปืนMP5 ติดประจำตัวผู้ขับขี่เลย​

 

พลังจิตสายบู๊ ตุนกระสุนก็อย่าลืมตุนน้ำยาทำความสะอาดปืนด้วยนะค้าบ
(อัพหน่อย)

 

ก็ไม่อยากเตรียมหรอกนะจริงๆแล้วอ่ะ
แต่คงจะไม่เอาปืนหรอก เอาดาบหรือ
มีดสั้นคมๆหลายๆเล่มหน่อยก็เท่านั้น
ใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่ามากๆและไม่
ดูว่าจะเอาไปฆ่าใครเหมือนพกปืน
วันนั้นมาถึงจริงๆ คงไม่มีใครที่จิตใจดี
กันหมดทุกคนหรอก มันต้องมีคนที่มุ่ง
ร้ายต่อคนอื่นแน่นอน เราคงต้องป้องกัน
ตัวเองไว้ เราขอโทษนะ

 

ประเดี๋ยว คุณ sunny ได้เปิดกระทู้ มีด ขึ้นมาอีกให้สนุกสนาน กัน


มีด ถ้ามีความชำนาญในการใช้ สามารถป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี
แต่คนส่วนมากที่จะฝึกจนสามารถใช้มีด ให้ได้ขนาดนั้น มีน้อย


ปืน จึงเป็นตัวเลื่อกที่ง่ายกว่า สำหรับการป้องกันตัวของประชาชน
และ เป็นตัวเลื่อกที่ง่ายกว่า สำหรับโจรผู้ร้าย


เมื่อ แน่ใจว่า โจรผู้ร้ายบุกเข้าบ้าน เราคงไม่ต้องไปพิจารณาว่า เขาถือมีดเข้ามา หรือเขาถือปืนเข้ามา เพื่อเลือกอาวุธต้อบโต้ป้องกัน


หากมีปืนอยู่ในบ้าน ให้คว้าปืนก่อนจะมีโอกาศรอดมากกว่า สำหรับนัดแรกนั้น จะยิงขู่ หรือยิงจริง แล้วแต่สถานการณ์

 

ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะเปิดกระทู้ ปืน ยันเรือรบเลยครับ เอาแบบสนุกสุดๆไปเลยครับ


พี่ดาบหักครับ ซื้อ glock 26, glock 19, glock 17 เลยครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วยิงในสภาวะที่ชื้นแฉะได้ครับ และตัวปืนต้องการการดูแลน้อยครับ จริงๆแล้วปืนทุกกระบอกยิงตอนเปียกได้ครับ แต่ไม่ใช่เอาไปจุ่มในน้ำครับ ไม่มีอะไรเป็นตัวขัดการทำงานครับ ส่วนลูกปืนมีหลายที่เค้าทดสอบเอาลูกปืนไปแช่น้ำสองวันแล้วเอามายองก็ยังยิงได้ครับ ใน 30 นัดจะด้านสักสามนัดครับ ผมว่าเลือกปืนที่ถนัดครับ แต่หารกเอาไปลุยน้ำหรือ ฝนชุ่ม ต้องถอดมาล้างและชะโลมน้ำมันทุกครั้งนะครับบ เดี๋ยวขนิมกิน

 

-สวัสดีครับ
-กรณีปืนที่ใช้ในที่ชื้นแฉะหรือในน้ำ ปืนทุกชนิดสามารถยิงได้ครับ แต่การบำรุงรักษา ให้คงสภาพนั้นต้องแตกต่างกันไปแน่นอน อย่างโครงปืนที่เป็นเหล็กก็ต้องบำรุงรักษามากหน่อย แต่โครงโพลีเมอร์ เช่น กล๊อคหรือยี่ห้ออื่นๆที่เป็นโพลีเมอร์ ก็รักษาง่าย แค่เช็ดให้แห้งก็ใช้ได้แล้ว ส่วนการยิงใต้น้ำ ปื นกล๊อคได้ทดสอบให้ดูแล้ว แต่การหวังผลไม่แน่นอนถ้าจะมีผลต้องยิงระยะประชิดเท่านั้น เป้าหมายที่ไกลซักสอง-สาม เมตรไม่มีผล เนื่องจากความหนาแน่นของน้ำกลายเป็นแรงต้าน ให้แรงส่ง หัวกระสุน ไปได้ไม่ไกลและหมดกำลังในการทะลุทะลวงลง ครับ และอีกอย่างปืนที่ยิงในน้ำก็จะทำให้ติดขัดได้ง่ายเพราะมวลความหนาแน่นของน้ำนั่นแหละครับคลิป ทดสอบยิงปืนใต้น้ำ - คลิปแมส

​

-ปืนโครง เหล็กและ โครงโพลีเมอร์ ข้อเปรียบเทียบ
-ปืนโครงเหล็ก
-ความคงทนสูง และสามารถนำมาดัดแปลงหรือเมื่อชิ้นส่วนใดชำรุดก็สามารถให้ช่างอาวุธที่ชำนาญ ทำทดแทนของเดิมที่ชำรุดได้ ข้อเสียคือ มีน้ำหนักมาก และต้องหมั่นตรวจสอบบำรุงรักษา เป็นพิเศษ
-ปืนโครงโพลิเมอร์
-ความคงทนต่ำ เมื่อชิ้นส่วนใดชำรุดต้องซื้ออะไหล่เปลี่ยนอย่างเดียว มีน้ำหนักเบา การบำรุงรักษาง่ายเพราะชิ้นส่วนเหล็กมีไม่มาก ข้อเสีย การเก็บรักษา ต้องหลีกเลี่ยงที่ที่มีอุณหภูมิสูงจัด เช่นในรถยนต์ เพื่อนข้าพเจ้า เก็บปืนกล๊อค ไว้ในรถยนต์ ผลปรากฏว่า เกิดอาการผิดรูปที่ระหว่าง โครงด้านล่างที่เป็นโพลิเมอร์ กับโครงด้านบนที่เป็นเหล็ก โดยโครงด้านบนที่เป็นเหล็กอยู่รูปเดิมแต่โครงโพลิเมอร์ด้านล่าง งอฉีกผิดรูปลงมาด้านล่างครับ ก็เลยแก้ไข ใช้ยางหนังสติกรัด หลายๆเส้น แล้วตากแดดแบบเดิมวันหนึ่ง ก็กลับมาเหมือนเดิมครับ ใครที่มีปืนโครงโพลิเมอร์ระวังน่ะครับ เพราะความร้อนของดวงอาทิตย์ทุกวันนี้ ร้อนมากๆ ในรถถ้าจอดตากแดดก็เตาอบดีๆนี่เอง

 

ลองกล็อก19C ก็ดีนะ เปียกชื้นไม่ค่อยมีปัญหา แต่ใช้แล้วต้องทำความสะอาดทุกครั้งนะ พี่น้อง

 

....!!

ปืนโครงโพลิเมอร์ โดน-อบในรถ ถึงกับเบี้ยว !


อย่างนี้ก็ไม่สามารถ ซุกปืนประเภทนี้ ไว้ในรถได้เลย ไม่รู้มันจะเบี่ยวเมื่อไร
เกิดฉุกเฉิน ต้องชักขึ้นมาใช้ แล้วมันเบี่ยวคามือ คงหัวใจวายตายไปก่อนที่จะได้ยิง ...(deejai)(deejai)

 

เอาแล้วครับ วันแรงๆมาถึงแล้ว ผมคิดว่ากระทู้ สายปืนของผมต้องถูกนำมาปัดฝุ่นให้ทุกคนอ่านและย้อนกลับไปอ่านหาข้อมูลกัน

วันนี้วันที่ 20 แล้วครับเป็นช่วงเฝ้าระวังไปอีก 16 วัน โดยประมาณครับ ผมในถานะตัวตั้งตัวตีเรื่องอาวุธ ขอเข้ามารายงานตัวเป็นคนแรกว่า ตอนนี้ผม ลูกซอง พรอ้ม และ 9มม ของผมก็พร้อมทุกกระบอกครับตอนนี้ หนึ่งกระบอกร้อยเข็มขัด tactical พร้อมแม็กสำรองและไฟฉาย และ กระบองบาตัน พร้อมสวมเข็มขัดพิทักพื้นที่บ้านทันทีครับ และอีกกระบอกหนึ่งอยู่ในกระเป๋าภัยพิบัตเรียบร้อยยยส์ พร้อมกระสุนอีกวงหนึ่งสำรองไว้ในกล่องกันน้ำในกระเป๋าอีกทีครับ ส่วนลูกซองก็พิงไว้เฝ้าบ้านเช่นกันครับ แล้วคุณหละครับ.......กำลังอยู่ระหว่างวันเวลาแรงๆแบบนี้ ปืนพร้อมไหม?