ท่านอาจารย์สุรชัยฯ ศิษย์องค์หลวงพ่อฯ พาทำบุญสร้างพระ และการสงเคราะห์ ด้วยมโนฯ และญาณ8

หากเมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์ ดวงดาวเรียงตัวกัน ไปแล้ว....

ก็ต้องคอยสังเกตดู ในข้อต่อไป คือ....

3. ชนกลุ่มศาสนาหนึ่ง จะรวมตัวกันเป็นหนึ่ง
เพื่อประกาศ สู้กับ อีกศาสนาหนึ่ง

ณ ตรงนั้น.. ก็คงเกิดเหตุแน่นอน
โอ้.. กรรมมหาชนของโลก..
โอ้.. ทุกข์หนัก สาหัส มหาศาล

ใกล้อย่างที่สุดแล้วหรือนี่....

.............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

องค์หลวงพ่อฯเคยกล่าว ไว้ในทำนองว่า..

ก่อนที่จะเกิด ภัยสงครามใหญ่
1. จะเกิดภัยน้ำท่วมใหญ่
2. ดวงดาว มาเรียงตัวในแนวเดียวกัน
3. ชนกลุ่มศาสนาหนึ่ง จะรวมตัวกันเป็นหนึ่ง
เพื่อประกาศ สู้ กับอีกศาสนาหนึ่ง
4. หาก ประเทศฝรั่งเศส โดนบุก..
คนไทย ที่อยู่ต่างประเทศ ให้กลับประเทศไทย
5. ชาวนา ที่ไม่เคยมีเงินแสน ก็จะมี เงินแสน
เขารบกัน ไม่มีเวลาทำมาหากิน อาหารจึงจะแพง
(ผมนั่งคิดเองว่า..
เดี๋ยวนี้ ชาวนา ขายครั้งหนึ่ง ก็มีเงินแสน เป็นปกติ
หรือว่า ในความหมายนี้
จะหมายถึง ข้าว เกวียนละ แสน หรือไม่ หนอ)

ก็ไม่ได้บอกว่า จะต้องเชื่อ
แต่ก็อาจจะเป็น ข้อสะกิด ข้อระแวด ระวัง เตือนใจ เตือนภัย ตระเตรียมกันไว้บ้าง
เผื่อว่า.. จะเป็นประโยชน์ กับพวกเราได้บ้าง เท่านั้นเอง ครับ
ที่จะเตรียมหนทาง เตรียมการ แก้ไข ปกป้อง ป้องกัน
ทั้งในเรื่องอาหารการกิน และเภทภัยที่จะมีมาหลายรูปแบบ

หากไม่เกิดเภทภัย ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ไม่ต้องเผชิญ กรรมอันใหญ่หลวงนัก
และ เป็นเพราะว่า.. ผม ก็จำมาผิดเอง.. ไม่เกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์
เพราะว่า ครูบาอาจารย์ ท่านฯ ก็ไม่ได้บอกให้มาพูดในทำนองนี้

นั่นก็คือ.. สัญญาไม่ดี ความจำไม่ดี
ผมผิดเอง ที่จำมาผิด ๆ เอง ครับ

..................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา
ได้ไปกราบพบท่านอาจารย์ ที่กระผมฯ ให้ความเคารพยิ่ง

ท่านก็เมตตาพูด คุย และให้ข้อแนะนำ คำชี้แจง หลายต่อหลายเรื่อง
ทั้งในเรื่องการเมือง เนื่องด้วยกรรมของประเทศ กรรมของในหลวง จากอดีต
อนาคตของราชวงศ์ อันจักสืบเนื่อง ยืนยาวไป คู่ไปกับประเทศไทย ตราบนานเท่านาน

อีกทั้ง ในเรื่องของ ท่านแม่(น้ำ) เจ้ากรรมของพวกเราทุกคน ที่ได้รับผลกระทบ
กับในเรื่อง ความเกรงกลัวว่า จะมีน้ำมาอีกในปีต่อ ๆ ไป ท่านก็เปรย ๆ ทำนองว่า..

เรื่องกรรมของน้ำ คงจะไม่มี ไม่ต้องกังวลมากไป
แต่.. ที่เป็นห่วงในผลของกรรม ต่อไป ก็คือ กรรมของสงคราม

ท่านให้คำแนะนำ (ในความหมายของ คำแนะนำ หมายถึงกระผมฯ เอง) ว่า....
(แต่ผมฯ เห็นว่า อาจจะมีประโยชน์ต่อพวกเรา.. ก็เลยเล่าให้ฟังกันไว้)

ต่อไป ให้ผมฯ (พวกเรา) เร่งบำเพ็ญเพียร

1. ทานต่าง ๆ ให้กระทำเป็นการเนือง ๆ ไม่ขาดสาย
2. ศีล รักษาอย่างเตร่งครัด กระทั่งปฏิบัติได้ เป็นปกติ
3. ภาวนา เร่งบำเพ็ญเพียร ทำจิต รักษาใจ ให้ใสสะอาด วันละ 5 นาที ก็ยังดี
4. ทำบุญอานิสงส์ใด ๆ ใหญ่ น้อย ให้ปรารถนา พระนิพพานทันชาติปัจจุบันเข้าไว้

พวกที่เป็น สัมมาทิฐิ มีความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยโดยแท้
ปฏิบัติ ตามข้อปฏิบัติข้างบนนี้ จะรอดปลอดภัย จาก กรรมสงคราม

ซึ่งก็สอดคล้องกับ คำขององค์หลวงพ่อฯ ที่กล่าวไว้ในทำนองว่า....
หากเมื่อเกิดสงครามขึ้นมา ประชาชนของ คู่สงคราม เมื่อเห็นเภทภัย
ต่างก็สวด อ้อนวอนต่อพระเจ้าของเขา แต่ ก็ช่วยไม่ได้
สำหรับคนที่นับถือพระศาสนาด้วยศรัทธาแท้ ปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตของ
ทาน ศีล ภาวนา และ "ของที่พระพุทธเจ้าทำไว้ให้" จะช่วยเหลือ คุ้มครอง ได้จริง

อย่างไรก็ตาม
พวกเรา ก็ไม่พึง "ประมาท" ในการดำรงชีพ
ดั่งคำตรัสสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ที่ว่า..
"พวกเธอทั้งหลาย จงดำรงชีพ ด้วยความไม่ประมาท เถิด"

สิ่งใด (ผลกรรม) ที่จักต้องเกิด.. ก็ย่อมบังเกิดขึ้น ใครที่ไหนจะห้ามได้
จะช่วยได้ก็เพียง ช่วยบรรเทาให้เบาบาง ดังคำแนะนำขององค์หลวงพ่อฯ
ที่กล่าวไว้ ในทำนองว่า..
"การสะเดาะเคราะห์ ก็คือการบรรเทาผลของกรรม
จากตาย เป็นเพียงแค่บาดเจ็บ
จากเจ็บมาก เป็นเพียงแค่เจ็บน้อย
จากเจ็บน้อย เป็นเพียงแค่ตกใจ
จากตกใจ เป็นเพียง กล่าวเตือน

ที่เพียรอธิบายมานี้
ก็มุ่งหวัง ว่า อาจจะก่อให้เกิดเป็นประโยชน์กับพวกเราได้บ้างสักเล็กน้อย
นะครับ

...................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

Natchayarat Love King ผ่าน Dislike Yingluck For Concentration Citizen
ความดีต้องชนะ ใครคิดร้ายต่อในหลวงมันต้องมีอั<WBR>นเป็นไป

จาก FaceBook


ดวงเมืองปี 55
www.youtube.com

โหรดัง พยากรณ์ ดวงเมืองปี 55 จะเป็นอย่างไร
ติดตามจากเทปเจาะข่าวร้อน วันที่ 25 ธันวาคม 2554

...................................................................................................................................................

สอดคล้องกับท่านผู้ทรงคุณ ที่ผมเคารพ
ท่านฯ เปรย ๆ ว่า

ดวงเมือง ตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์
ผูกดวงไว้ ในลักษณะของฝ่ายทหารจะเด่น ในเรื่องของ "อำนาจ"
เพราะว่า ยังมีภาวะที่ต้องสู้รบ และป้องกัน จาก "ข้าศึก" อยู่เนือง ๆ

มีนา เมษา อาจจะมีเหตุการณ์ยุ่ง ๆ อีก

ก็เป็นไปตามกรรม..
สิ่งใดจะเกิด สิ่งใดจะปรากฏ ก็เป็นไปตามกรรม..
ใช่ไหมครับ

..................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

.

"บุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย ย่<WBR>อมจะไม่สลาย คือ

จะต้องไม่พินาศไปด้<WBR>วยอำนาจของโลก ซึ่งเต็มไปด้วยความแปรปรวน"​

​

ปีใหม่ก็ จะคืบคลานเข้<WBR>ามาถึง ก็เป็นอันวาชีวิตของเราก็ล่<WBR>วงเข้ามาอีก ๑ ปี ปีใหม่ ที่เคลื่อนเข้ามาเรา ก็<WBR>จะแก่เข้าไปอีก ชีวิตของเราก็จะเดินเข้<WBR>าไปหาความดับ เพราะธรรมดาของชีวิตเมื่อมี<WBR>ความเกิดขึ้นในเบื้องต้น และก็มีความเปลี่ยนแปลงไปในท่<WBR>ามกลาง และมีการตายแตกทำลายพันธุ์<WBR>ไปในที่สุด

นี่เป็นกฎธรรมดา ของสิ่งมีชีวิ<WBR>ตที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้<WBR>พ้นได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่จะเข้ามาถึงจัดว่าเป็น พ.ศ. ที่มีความวิกฤติที่สุดของชีวิ<WBR>ตประเทศไทยในยุคนี้ เพราะว่าตกอยู่ในเขตที่มีความวิ<WBR>กฤตอย่างหนัก ความแปรปรวนเป็นไปของโลก ของชีวิตมนุษย์

อันนี้ ก็ถือว่าเป็นปกติธรรมดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>าตรัสว่า โลก มีอันจะต้องฉิบหายไปในที่สุด ไม่มีอะไรทรงตัว ทีนี้สำหรับเราเหล่าพุทธบริษั<WBR>ทในฐานะที่ท่านทั้งหลาย เป็นพุทธมามกะ คือนับถือพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ พระบาลีกล่าวว่า บุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยย่<WBR>อมจะไม่สลาย คือ จะต้องไม่พินาศไปด้<WBR>วยอำนาจของโลกซึ่งเต็มไปด้<WBR>วยความแปรปรวน

ทั้งนี้ ก็เพราะว่าองค์สมเด็<WBR>จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า สิ้นเวลา ๒,๕๐๐ ปีเศษ สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ทรงมีพระพุ<WBR>ทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า

"อานันทะ ดูก่อน อานนท์ เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป ๒,๕๐๐ ปีเศษ คือ หลังจากกึ่งพุทธกาล ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี คือ พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นต้นมา โลกจะเต็มไปด้วยความวิกฤต ไฟจะตกจากอากาศ ไฟจะลุกในอากาศ ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ บรรดาคนจะมีความทุกข์ยากล้<WBR>มตายเป็นอันมาก และองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้<WBR>าก็ทรงกล่าวต่อไปอีกว่า

อานันทะ ดูก่อน อานนท์ ความวิกฤตคือความร้<WBR>ายแรงของโลกก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะมีความร้ายแรงก็จริงแหล่ แต่ทว่ายังไม่ร้ายแรงเท่าหลังกึ<WBR>่งพุทธกาล อันนี้องค์สมเด็จพระพิชิ<WBR>ตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>าตรัสว่า

ดูก่อน อานนท์ ยักษ์หินที่ถูกสาปจะลุกขึ้<WBR>นอาละวาด ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟั<WBR>นล้มตายกันฝ่ายละครึ่งจึงจะหยุ<WBR>ดยั้ง สมณะชีพราหม์จะล้มตาย แต่ว่าประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนาจะมีภัยอันนี้เหมือนกัน แต่ทว่าไม่ร้ายแรงนัก ไม่ถึงกับพินาศ นี่เป็นคำพยากรณ์ขององค์สมเด็<WBR>จพระบรมโลกนาถศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้"

ทีนี้ คำพยากรณ์ขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าปรากฎเป็นความจริง คือตั้งแต่ปี ๒๔๘๕ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เกิดขึ้น เมื่อสงครามสงบแล้ว ความวิกฤติของโลกยังไม่สงบ มีการรบราฆ่าฟันเป็นปกติ ระยะนี้เป็นระยะหลังกึ่งพุทธกาล มีสมณะชีพราหมณ์ทั้งหลายล้<WBR>มตายเป็นอันมาก คำพยากรณขององค์สมเด็จพระผู้มี<WBR>พระภาคเจ้าจึงตรงตามความเป็นจริ<WBR>ง อีกข้อหนึ่งที่องค์สมเด็จพระผู้<WBR>มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า ประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกันแต่ไม่<WBR>ร้ายแรงนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทย
ก็ถือกันว่าเป็นประเทศที่<WBR>ทรงพระพุทธศาสนา

ถ้าเราจะพิจารณากันตามความเป็<WBR>นจริง จะเห็นว่าประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนาทั้งหมดไม่มีปร ะเทศใดที่ทรงคำสั่งสอนขององค์<WBR>สมเด็จพระบรมสุคตบรมศาสดาสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้าไว้ได้ครบถ้วนเช่<WBR>นประเทศไทย ในประเทศไทยเรามีทั้งพระสูตร พระวินัย ปรมัตถ์ คือพระอภิธรรม

สำหรับประเทศอื่น เช่น ประเทศพม่า โดยมากจะไม่เคร่งครัดในเรื่<WBR>องของพระวินัย โทษในเรื่องพระวินัยเขาไม่เคร่<WBR>งครัด เพราะถือว่าไม่สำคัญ จะนิยม แต่ในเฉพาะด้านของปรมัตถ์ คือ อภิธรรมเท่านั้น ตามบาลีว่า

"พระสูตร คือประเทศไทย พระวินัย คือ มอญ อภิธรรม คือ พม่า"

หมายความว่า ในประเทศไทย เรานิ<WBR>ยมพระสูตร แต่ว่าเรามีพระวินัย และพระอภิ<WBR>ธรรมครบถ้วน

สำหรับวินัยมอญ ก็มายถึงว่<WBR>าประเทศมอญเขาเคร่งครัดในพระวิ<WBR>นัยแบบชาวมอญ

สำหรับพม่า นั้น ยกพระสูตรทิ้งไป พระวินัยทิ้งไป เหลือพระอภิธรรม

เราก็จะเห็นว่า ในประเทศไทย ยั<WBR>งคงทรงไว้ได้ทั้ง ๓ ประการ
คือ พระสูตร พระวินัย และพระอภิธรรม ทั้ง ๓ ประการ

เมื่อเราพิจารณาตามกระแสพระสั<WBR>ทธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระพุ<WBR>ทธญาณ ท่านทรงพยากรณ์กั<WBR>บพระอานนท์แล้ว

จะเห็นว่าประเทศไทยเรา คงพระวินั<WBR>ย คือ เคารพองค์สมเด็จพระจอมไตรไว้<WBR>ตามพระพุทธพยากรณ์

จึงถือว่า ประเทศไทย อยู่<WBR>ในเขตคำพยากรณ์ที่พระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ คือ อาจจะต้องไม่สลายไป ในการนับถือองค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาที่มีพระบาลี<WBR>ว่า

"พุทโธ อัปปมาโณ" คือว่า คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้<WBR> การเคารพในพระธรรมว่า ธัมโม อัปปมาโณ การเคารพในพระธรรมว่าหาประมาณมิ<WBR>ได้ หรือ คุณของพระธรรมหาประมาณไม่ได้ สังโฆ อัปปมาโณ คุณของพระอริยสงฆ์หาประมาณมิได้

การเคารพในคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามารถจะยังชีวิตและความสุ<WBR>ขของเราให้คงอยู่ได้ปลอดภั<WBR>ยจากอันตราย

ดูตัวอย่าง เมื่อองค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้ายังทรงชีวิตอยู่ในขณะนั้น องค์สมเด็จพระบรมครูเสด็จประทั<WBR>บอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร

ในขณะนั้น ปรากฎว่าพระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์ถูกพระยาชมภูบดี<WBR>รุกราน เหาะขึ้นมาในอากาศเห็<WBR>นยอดปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร บรมกษัตริย์มีความสวยสดงดงามยิ่<WBR>งกว่า ความริษยาก็เกิดขึ้น จึงได้ลงมาจากอากาศมายืนอยู่<WBR>บนยอดปราสาท ชักพระขรรค์อันประจำพระองค์ขึ้<WBR>นฟันยอดปราสาท

ความจริง พระขรรค์นี้ แม้แต่เหล็กท่อนใหญ่ ๆ กระทบแล้วไม่หนักนักก็จะขาดไปทั<WBR>นที แต่อาศัยที่พระเจ้าพิมพิสารมี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระมหามุ<WBR>นี คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นไตรสรณาคมน์ทั้ง ๓ ประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็<WBR>นพระโสดาบัน ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ จึงป้องกัน แทนที่ยอดปราสาทจะขาด พระขรรค์ของพระยาชมภู ก็บิ่<WBR>นทำลายไป

พระยาชมภูมีความเจ็บใจ จึงได้ยกเท้าขึ้นกระทื<WBR>บยอดปราสาทก็เป็นเหตุให้เหล็<WBR>กยอดปราสาททิ่มทะลุรองเท้<WBR>าไปโดนเท้าบาดเจ็บ ถึงกับมีความโกรธมาก จึงเหาะกลั<WBR>บประเทศของพระองค์ และก็ใช้วิชชุศรไปร้อยพระกรรณ คือ ร้อยหูของพระเจ้าพิมพิสารบรมกษั<WBR>ตริย์ คือมีศรเป็นกรณีพิเศษ เมื่อศรเข้ามาประกาศว่า เราจะร้อยหูของพระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์

พระเจ้าพิมพิสาร ได้ทราบแล้ว ได้ยินแล้ว เห็นแล้ว ก็มีความกลัว จึงเสด็จไปเฝ้าองค์พระประทีปแก้<WBR>วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในที่สุดบารมีของพระรัตนตรัยมี<WBR>พระพุทธเจ้าทรงเป็นประมุขก็ระงั<WBR>บอันตรายนั้นเสียได้

ในที่สุด บังคับให้พระยาชมภูบดี<WBR>เข้ามาเฝ้าสมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดา ได้ฟังพระธรรมเทศนามีความเลื่<WBR>อมใสอุปสมบทในพระพุทธศาสนา และก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เป็นอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา

แสดงว่า ที่พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์<WBR>พระบาทท้าวเธอพ้นจากอันตรายได้<WBR>เพราะอาศัยคุณพระรัตนตรัยเป็<WBR>นสำคัญ ในฐานะที่พระองค์เข้าถึงความเป็<WBR>นพระโสดาบัน มีความมั่นคงในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีศีลห้าเป็นสมุจเฉท คือ รักษาศีลห้าเป็นปกติ

ฉะนั้น วันนี้ เป็นวันที่สุดของปี ๒๕๑๘ ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เข้ามาถึง ก็เป็นปีที่เต็มไปด้วยความวิ<WBR>กฤตของประเทศไทย ฉะนั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีควมมั่<WBR>นคงในคุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปฏิบัติจิตให้ตรงต่อเฉพาะพระพุ<WBR>ทธองค์ว่าที่องค์สมเด็<WBR>จพระบรมโลกนาถทรงสั่งสอนไว้ เราทำอย่างไรที่ว่าทรงความดี<WBR>ตามที่องค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าท่านทรงกล่าวให้พวกเราทุ<WBR>กคนเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ทุกสิ<WBR>กขาบท คือ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภิกษุ และสามเณร มีความจำเป็นจะต้องทรงสิกขาบททั<WBR>้งหมดให้ครบถ้วนบริบูรณ์

สำหรับฆราวาสก็มีความจำเป็นอยู่<WBR>เหมือนกัน แต่ทว่าบางท่านก็สามารถรักษาสิ<WBR>กขาบทให้ครบถ้วนได้ เพราะความจำเป็นในชีวิต

ฉะนั้น ขอให้ตั้งสัจธรรมไว้ว่า ถ้าศีลข้อใดก็ดีใน ๕ ข้อนี้ เราจะทรงไว้ได้ตลอดชีวิต จะไม่ละเมิด ให้ตั้งจิตถึงองค์สมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้าว่า ในชีวิตของเรานี่ สิกขาบทใดสิกขาบทหนึ่ง หรือสองสิ<WBR>กขาบท ก็ตามที

ซึ่งไม่เกินวิสัยเราจะทรงไว้ให้<WBR>ครบถ้วน ไม่ยอมให้มัวหมอง

สำหรับท่านผู้ใดสามารถจะทรงสิ<WBR>กขาบททั้ง ๕ ประการได้ หรือ ๘ ประการได้ก็ยิ่งดี อย่างนี้ได้ชื่อว่ามี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสี<WBR>ห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในการปฏิบัติ กาย วาจา ใจ และสำหรับกำลังใจนั้นมีความสำคั<WBR>ญ บรรดาพุทธบริษัททุกท่<WBR>านทรงความดี คือ นึกถึงบารมีขององค์สมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ไว้เป็<WBR>นสำคัญ

การนึกถึงพระพุทธคุณทำอย่างไร
ว่ากันมากไป ก็ไม่ถนัด อิติปิ โส ภควา ฯ จนจบก็ไม่ไหว

ฉะนั้น โบราณาจารย์ จึงกำหนดไว้ว่า บุ<WBR>คคลใดผู้ใดมีความนึกถึงบารมี<WBR>ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า ก็ให้ภาวนาว่า “พุทโธ” ใช้คำว่า "พุทโธ" ให้เป็นปกติ

ภาวนาไว้ ทุกวัน ทุกคืน ตลอดเวลา และการที่จะภาวนาไปได้ตลอดเวลา และการที่เราจะภาวนาไปได้ตลอดวั<WBR>นตลอดคืน ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจิตย่อมมีภาระนึกคิดอย่<WBR>างโน้นคิดอย่างนี้ บางทีก็ต้องสนทนาปราศรัย ในการที่จะนึกทุกวันทุกเวลาเป็<WBR>นไปไม่ได้ แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ขาด

พระโบราณาจารย์ที่มีความฉลาด ได้<WBR>สั่งสอนไว้ว่า

ถึงเวลาก่อนหลับ ให้บรรดาพุทธบริ<WBR>ษัท กำหนดใจนนึกถึงคุณของสมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์<WBR> จะกำหนดการเข้าออกของลมหายใจว่า "พุทโธ" เวลาหายใจเข้านึกว่า "พุธ" เวลาหายใจออกนึกว่า "โธ" อย่างนี้เป็นความดี หรือ นึกถึงคุณความดีของสมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้า

และก็เป็นการป้องกันภัยอันตราย เวลาที่ท่านทั้งหลายภาวนาว่า "พุทโธ"
อมน้ำลายไว้ในปาก ภาวนาไว้จนขึ้นใจ ในจิตมีความสุข ค่อยกลืนน้ำลายลงไป

อย่างนี้คุณพระรัตนตรัยมีพระพุ<WBR>ทธเจ้าเป็นต้น จะคุ้มครองสรรพอันตรายแก่พุ<WBR>ทธบริษัทได้

และ เวลาตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ และก่อนหลับทุกวัน ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไรก็<WBR>ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า "พุทโธ" เป็นปกติ อย่างนี้จิตของบรรดาท่านพุทธบริ<WBR>ษัท ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึง พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะได้ ทั้ง ๓ ประการ

แล้วการนึกถึงความดีของ สมเด็<WBR>จพระพิชิตมาร
ก็ได้ชื่อว่าเข้าถึ<WBR>งความดีทั้ง ๓ ประการครบถ้วน คือ
พระพุทธเจ้า จะเป็นพระพุทธเจ้<WBR>าได้ ก็ต้องอาศัย พระธรรม
เมื่อทรงธรรมแล้ว พระองค์ก็บรรลุ<WBR>อภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุ<WBR>ทธเจ้า
ธรรมะ ของพระพุทธองค์ ที่<WBR>เราจะพบได้ ก็อาศัยบรรดาพระอริ<WBR>ยสงฆ์ทั้งหลาย ประชุมสังคายนากัน ร้<WBR>อยกรองเอาไว้ จึงได้ตกทอดถึงพวกเรา

ฉะนั้น การนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงชื่อว่<WBR>า เข้าถึงความดีครบไตรสรณาคมน์ ทั<WBR>้ง ๓ ประการ

การนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระพิชิตมาร ใช้คำว่า "พุทโธ" เป็นปกติ
ถ้าหากว่ากล่าวโดยธรรม ถ้าเรามีอารมณ์อ่อน ที่ว่ามีอารมณ์จิตเข้าไม่ถึงฌาน เวลาตายแล้วก็ไปสู่สวรรค์เทวโลก มีชั้นดาวดึงส์ เป็นต้น ดูตัวอย่าง มัฏฐกุณฑลีเทพบุตร หรือ สุปติฏฐิตเทพบุตร เป็นต้น หรือ สาตะกีเทพธิดา นี่ใช้กำลังจิตมีศรัทธายังอ่อน นึกถึงความดีขององค์สมเด็จพระชิ<WBR>นวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าชั่<WBR>วเวลาเล็กน้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุปติฏฐิ<WBR>ตเทพบุตร ทำความชั่วคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิ<WBR>ตมาตลอดชีวิต เมื่อเวลาจะตายไม่กี่นาที จึงได้นึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้อาศัยนึกถึงความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>า ในเวลานั้น จิตผ่องใส เวลาตาย แทนที่จะไปรับอกุ<WBR>ศลในอบายภูมิ กลับไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์<WBR>เทวโลก

ต่อมาเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้าได้ไปเทศน์โปรดพระพุ<WBR>ทธมารดา
สุปติฏฐิตเทพบุตร ได้ฟังอุณหิสวิ<WBR>ชัยสูตรจบลง ปรากฎว่าได้บรรลุพระโสดาบัน
บาปทั้งหลายที่ท่านทำไว้ ไม่มี<WBR>โอกาสจะให้ผล

นี่ การนึกถึงคุณความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระทศพล มีผลต่อบรรดาท่<WBR>านพุทธบริษัท ถึงแม้ว่าเ ราจะทำบาปทำกรรม มากมายเพียงใดก็ตามที่ อาศั<WBR>ยความดีขององค์สมเด็จพระชินสีห์ <WBR>สามารถจะบำบัดให้เราพ้นไปจากภั<WBR>ยพิบัติ คือ พ้นจากอบายภูมิได้

ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้<WBR>งหลาย จงอย่าประมาทในชีวิต
คิดว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้<WBR>นไป ปีเก่าจะหมดไป ปีใหม่จะเข้ามาถึงเรา จงรักษาสั<WBR>จธรรม ทรงความดีเข้าไว้

คือ จะนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่หยุดยั้ง

คือว่า ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นปีที่จะเต็มไปด้วยวิกฤติ<WBR>การณ์อย่างที่สุด โดยวิธีที่เราจะใช้ในฐานะที่เป็<WBR>นมนุษย์ธรรมดาเพื่อความพ้นอั<WBR>นตราย

ดูตัวอย่าง พระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์ พระบาทท้าวเธอต้องถูกทำร้<WBR>ายจากพระยาชมพูบดี แต่อาศัยที่มีความเคารพในองค์<WBR>สมเด็จพระชินสีห์บรมศาส ดาอย่างมั่นคง

ในที่สุด อันตราย ก็ยุติลง ด้<WBR>วยอำนาจของพระพุทธเจ้า นี่ ในสมัยพระพุทธเจ้า

ถ้ามาในสมัยหลัง เมื่อสมัยที่พระมหากษัตริย์มี<WBR>อำนาจเป็นพิเศษ
ขณะนั้น ปรากฎว่าข้าราชบริพารของพระองค์<WBR>ท่าน หลายท่านที่อาตมา รู้จักเป็นกลุ่ม ๆ บุคคลกลุ่มใหญ่ มีความเคารพองค์<WBR>สมเด็จพระจอมไตรบรมศาส ดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปกติ คือ

ในยามปกติ พวกเขาเหล่านั้นจะไม่<WBR>คล้องพระเครื่องอยู่ในตัว
เขาถือว่า จิตใจของเขาเข้าถึ<WBR>งพระอยู่เป็นปกติ

แต่ว่าภาวนาของบุคคลพวกนี้ ไม่<WBR>ขาด
พอตื่นขึ้นมาเช้าก็จับคำว่า "พุทโธ" อยู่เป็นปกติ
เวลายามว่าง เมื่อจิตว่างจากกิจอื่น ก็ใช้<WBR>คำภาวนาว่าพุทโธ
เวลาที่ไม่ลืม เกรงว่าจะลืม
เวลาเช้า เวลาที่จะไปไหน หรืออยู่บ้านก็<WBR>ตาม
เกรงว่าอันตรายจะมีต่อเขา เขาแนะนำ

นี่ อาตมา เคยได้รับทราบมาเอง
คือ ได้รับคำแนะนำจากคนผู้นั้<WBR>นจากปากเขาเอง บอกว่า
เวลาที่เราเกรงว่า จะเกิดอันตรายต่อร่างกาย ให้อมน้<WBR>ำลายไว้ในปาก
ภาวนาว่า พุทโธ ให้ขึ้นใจ เป็นการ เสกน้ำลาย แล้วกลืนลงไป ๓ ครั้ง
บุคคลประเภทนี้ แม้จะปะทะข้าศึกหนัก ศัตรูหนักเพียงใดก็ตาม
ก็มีการแคล้วคลาด

ถ้ามีความดีเป็นที่สุดขนาดหนัก
ถ้ามีจิตทรงความดีขนาดกลาง เขาบอกว่า ยิงของเขาไม่ออก
ถ้าว่าทรงความดีขนาดเบา ใจยังเบาอยู่ ยังไม่เข้าถึงที่สุด ยิงไม่เข้า
เขาว่าอย่างนั้น ความจริงก็เป็นไปตามนั้น
เพราะเคยไปด้วยกัน เขาปลอดจากอันตรายจากสรรพาวุธทุ<WBR>กอย่าง

ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทจ
งอย่<WBR>าวางใจ จงอย่าประมาทในชีวิต
จงคิดว่าคุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ทั้
ง ๓ ประการ จะสามารถทรงเราให้มีชีวิตอยู่<WBR>ได้

นี่กล่าวโดยเฉพาะ ถ้าเราสิ้นอายุขัย
การนำถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า
ก็จะทำให้เราพ้นทุกข์

ฉะนั้น นับตั้งแต่นี้ต่อไป ตั้งใจไว้ว่า
จนกว่าจะสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่เต็มไปด้วยความวิกฤตทุกทิ<WBR>ศของโลก
จะเต็มไปด้วยความ เร่าร้อน

เราจะยึดเอาคุณความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้า
เข้าไว้เป็นประจำ คือ คำภาวนาว่า "พุทโธ พุทโธ" เป็นปกติ

ถ้าเป็นอย่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้<WBR>งหลาย จะมีความสุขในชีวิต
คือ จิตของท่านจะทรงสมาธิ
อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำจิ<WBR>ตใจของท่านให้เยือกเย็นมีความสุ<WBR>ข
อันตรายจะเกิดขึ้นกับท่านทั้<WBR>งหลาย ก็จะพ้นภัย
ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ

แต่ถ้าชีวิตอายุขัยที่จะสิ้<WBR>นไปเมื่อไร
ความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า
ก็จะบันดาลให้เราพ้<WBR>นอบายภูมิทั้ง ๔ ประการ
คือ ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน
อย่างเลวที่สุด เราก็จะเป็นเทวดา
ถ้าจิตใจมีสมาธิแรงกล้า เราจะเข้าถึงการเป็นพรหม
ถ้าจิตของเราโดยนิยม ไม่ยึดในขั<WBR>นธ์ห้า หรือว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
จิตเรา เกาะ องค์สมเด็จพระสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้า ว่า
พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่น เอาใจไว้ตรงนี้
คือ ยึดองค์สมเด็<WBR>จพระทรงธรรม์บรมศาสดานั่นเอง

ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว
พุทธบริษั<WBR>ททั้งหลาย ถ้าจะพ้นจากกิเลส
จะเข้าถึง พระนิพพาน ได้

เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
สำหรับปีเก่าจะสิ้นไป ปีใหม่จะเข้ามา
ขออำนาจพุทธบารมีขององค์สมเด็<WBR>จพระชินสีห์บรมศาสดาสัม มาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน และพระธรรมคำสั่งสอนขององค์<WBR>สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้าพร้อมไปด้<WBR>วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมดที่มี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระบรมสุ<WBR>คตศาสดาสัมมาสัมพุทธเ จ้าเป็นที่สุด

จงปกปักรักษา บรรดาท่านพุทธบริษั<WBR>ททุกท่าน ให้มีความมั่นในคุ<WBR>ณพระรัตนตรัย
ขอให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้<WBR>งหมด
ภัยใด ๆ ที่ปรากฎต่อโลกจงอย่ามีกับพุ<WBR>ทธบริษัท
ขอให้จิตใจของท่านพุทธบริษัท มี<WBR>ความปลอดโปร่ง
พ้นจากกิเลสเป็<WBR>นสมุจเฉทปทาน
เข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน ได้ในชาติ<WBR>นี้ ฯ

ที่มา - หนังสือ กรรมฐาน ๔๐
(ขอน้อมโมทนา คุณTeerayutSPG ส่ง เมล์ มาให้)

................................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

ปีใหม่ 2555
ด้วยบุญบารมีที่พวกเราฯ บำเพ็ญไว้ดีแล้ว
และอานิสงส์ที่กระผมฯ ได้เพียรสร้าง
จะมาก น้อย เพียงใดก็ตาม

ขอกราบอาราธนา คุณพระไตรรัตน์ พรหม เทพเทวา นานาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
โปรดดลบันดาล ให้พวกเราฯ และคนที่พวกเรารัก เคารพ
เกิดความสุขในทางโลก เกิดสุขสว่างในใจจิตเนือง ๆ
มีความสุขกาย สุขใจ สืบเนื่องไป ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เทอญ.

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

...........................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 5 ก.พ.2555
มีโอกาสไปร่วมงานบุญบวชพระกับพวกเรา ท่านหนึ่งฯ
ที่ วัดพระศรีมหาธาตุ ถนนพหลโยธิน วงเวียนบางเขน

ได้ร่วมบุญบวชพระ ก็ได้เห็นบรรยากาศ มหาอภัยทาน
แต่ไม่ได้ติดกล้องถ่ายภาพไปด้วย จึงไม่มีภาพมาให้ได้ชมกัน

หากวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม นี้ ว่าง
คงจะได้ภาพบรรยากาศแห่งมหาบุญ มาฝากกัน

เขาจะนำ โค กระบือ ที่ถูกปล่อย ขึ้นรถบรรทุกยาว 3-4 คันรถ
มาให้พวกเราได้ป้อนอาหาร และร่วมบุญกันอย่างชื่นใจ ชื่นจิต

มีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย ตามกำลังใจ ของใคร ของเรา

องค์หลวงพ่อฯ แนะนำไว้ ในทำนองว่า..

อานิสงส์อภัยทาน เป็นบุญอันใหญ่ยิ่ง เป็นการไถ่ชีวิต ให้เขามีความสุข

ทุกข์ยาก ซึ่งเป็นกรรมเก่าของเรา ตั้งแต่อดีต ที่จะส่งผลมาถึงในปัจจุบัน
อันที่จะทำให้เราเสียชีวิต พิกลพิการ เสียหายทรัพย์สิน ก็จะทุเลา เบาบางไป

แทนที่จะตาย กลายเป็นแค่บาดเจ็บ
เจ็บมาก เป็น เจ็บน้อย
เจ็บน้อย เป็น แค่ตกใจ
ตกใจ เป็น เพียงแค่ กล่าวเตือน

และยังเป็น ทานบารมี พรหมวิหารธรรม
อันจักเสริมส่งให้จิตใจเยือกเย็น เข้าสู่พระกระแสธรรม ได้ง่าย ได้เร็ว
อันจักมีพระนิพพาน เป็นที่สิ้นสุด ในเร็วชาติ

ขอน้อมโมทนาอย่างยอดยิ่ง กับพวกเราที่ใฝ่พระนิพพาน อย่างทุ่มเทชีวิต จิตใจ

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

.....................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

เกศาประกายแก้ว ชัดเจนทั้ง 2 เส้น ยาวเป็นพิเศษ
เส้นหนึ่ง โผล่จากขอบด้านล่าง ยาวขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นไปด้านบน
อีกเส้นหนึ่ง โผล่จากผ้าทิพย์ ที่เห็นรอยเส้นเกศา ที่กดลงไปในเนื้อพระ
ต่อมา เนื้อพระแห้งขึ้น เส้นเกศาจึงดีดตัว ลอยเด่น ขึ้นมา





ขอบขวา ขององค์พระ เกิดเป็น ขุยขาวแข็ง คล้ายว่า กำลังเกิดการ แปรสภาพ



ขอบล่าง ขององค์พระ ก็เกิดเป็น ขุยขาวแข็ง และเส้นเกศา โผล่ที่ตรงนี้ 1 เส้น



32. พระหางหมาก ยอดเยี่ยม เกศาประกายแก้ว

เดิม เส้นเกศา จากขอบล่าง ไม่ยาวเท่านี้ ต่อมายามเพิ่มขึ้นมาก
คุณไตรทศ บุณะสุวรรณ (Top) ยอม สละ ของรัก ของหวง
เพื่อเป็น ทุนสร้างเหรียญ แด่.. เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหารกล้า

ตอนแรก ผมติดต่อ ขอเช่าบูชาจากเขา..
เขาบอกว่า ให้ไม่ได้ เพราะหวงมาก..
แต่หากเป็นบุญ ยอมสละ ยอมละ ได้

จึงขอน้อมโมทนา ในกำลังใจ อันยอดยิ่ง สมกับชื่อ Top

โดยจะให้พวกเรา ทุกท่าน ได้มีส่วนร่วม "ประมูลบุญ"

ดูรายละเอียด และร่วม ประมูลบุญ ได้ที่....
บุญสร้างสิ่งอันเป็นมงคล แด่เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร เท่ากับทำบุญทุกอย่างในประเทศไทย

ขอน้อมโมทนา ยิ่ง

.....................................................................................................................................

 

ขออนุญาตฝากงานบุญ

อภิ มหา อภัยทาน
ปล่อยปลา 10 ตัน
วันที่ 23 เม.ย.2555

ดูรายละเอียด ได้ที่ โพส # 3490 ของ....
http://palungjit.org/threads/คนบ้าทำบุญ.75308/page-175

ช่วยกันบอกต่อ ก็ได้บุญเพิ่มเติม

ขอน้อมโมทนาอย่างยอดยิ่ง....

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

..............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->

 

เปลี่ยนวันที่ ที่ปล่อยปลา เร็วขึ้น จากเดิม เป็น....

ขออนุญาตฝากงานบุญ

อภิ มหา อภัยทาน
ปล่อยปลา 10 ตัน
วันที่ 21 เม.ย.2555

ดูรายละเอียด ได้ที่ โพส # 3490 ของ....
http://palungjit.org/threads/คนบ้าทำบุญ.75308/page-175

ช่วยกันบอกต่อ ก็ได้บุญเพิ่มเติม

ขอน้อมโมทนาอย่างยอดยิ่ง....

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

..............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

พุทธพยากรณ์โลก

โดย องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=897







<DD>ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ เป็นอันว่า ในระหว่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท คงจะทราบว่าตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ่าวเปอร์เซีย กำลังจะเกิดสงครามจากอิรักกับหลายประเทศร่วมกัน คือ "อิรัก" ฝ่ายหนึ่ง กับหลายประเทศฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะเปรียบเทียบกัน คล้ายๆ กับสงครามโลกครั้งที่ ๒ คือ เยอรมัน กับอิตาลี ญี่ปุ่นฝ่าย หนึ่ง อเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส อีกหลายประเทศร่วมกัน


<DD>แต่ทว่าสงครามนี้จะเกิดหรือไม่เกิด อันนี้ก็ทราบไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่า ต่างคนต่างก็ตั้งท่า ต่างคนต่างก็เตรียมพร้อม ที่จะลงมือซึ่งกันและกันและคำพยากรณ์ ก็จะไม่พยากรณ์ว่าจะ มีสงครามหรือไม่ แต่ทว่ามีหนังสือเล่มหนึ่ง เขาให้ชื่อว่า นอสตราดามุส เขาพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า ถึง ๒,๐๐๐ ปี


<DD>โดยเฉพาะ อย่างยิ่งปีนี้ ค.ศ.๑๙๙๐ จะเป็นปีเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ แล้วสงครามโลกครั้งที่ ๓ นี่จะเป็นสงครามที่มีความร้ายแรงมาก แต่ความจริงหนังสือนี่อาตมาก็ไม่ได้อ่าน เขาให้มาเหมือนกัน อ่านผ่านไปนิดเดียว แล้วก็เขาบอกว่าประเทศอเมริกา อาจจะถูกระเบิดนิวเคลียร์ แล้วก็จะมีเหตุการณ์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้น


<DD>รวมความแล้ว เป็นสงครามทำลายศาสนา ในระหว่างศาสนากับศาสนาคือ ศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม เขาว่าอย่างนั้นนะ ตามที่หนังสือว่า หรือ ตามที่คนบอก อาตมาก็ไม่ได้อ่านชัด ทีนี้เรื่องของ "ดามุส" ดามุสเขาพูดไว้จะแน่นอนขนาดไหน ก็เป็นเรื่องของเขา สำหรับพวกเราบรรดาท่านพุทธบริษัท ในฐานะที่เป็น ศากยบุตรพุทธชิโนรส เป็นลูกของพระพุทธเจ้าเราก็มา ดูคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าบ้าง


<DD>พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้กับพระอานนท์ว่า

<DD>อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกลงจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชน และบุคคลให้พินาศจะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่าอานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงนักยังหาไม่ได้ ทั้งนี้ ก็เพราะว่า หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว


<DD>อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ยักษ์นอกพุทธศาสนานั่นหมายถึง คนที่ไม่ได้เคารพพระพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟัน ซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตาย ฝ่ายละมากๆ สมณะ ชี พราหมณ์จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก นี่เป็นคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


<DD>เป็นอันว่า ท่านดามุสคนนี้ ก็พยากรณ์ไว้ตรง แต่เขาบอกว่า ค.ศ.๒๐๐๐ โลกจะสลาย แต่ว่าพระพุทธเจ้าของเราบอกว่า โลก ยังไม่สลาย พระพุทธศาสนา จะทรงอยู่ได้ ตลอด ๕,๐๐๐ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงพยากรณ์ ไว้ที่ พระธาตุดอยกิตติ ครั้งหนึ่งทรงตรัสว่า


<DD>"ชี้ว่าเขตประเทศนี้ ต่อไปจะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปี" นี่หมาย ถึงประเทศไทย


<DD>เป็นอันว่า สงครามจะเกิดขึ้นที่ดามุสบอก ก็หมายถึงสงครามซีกตะวันตก หมายถึงอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ กับตะวันออกกลาง สงครามจริงๆ ยังคงไม่ถึงประเทศไทย


<DD>ทีนี้เรามาย้อนรอยถอยหลังกันก่อนว่า ตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติตรัสรู้ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะมี การรบราฆ่าฟัน ซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกลงจากอากาศ ไฟจะลุกจากอากาศ ก็เป็นความจริง ในขณะนั้นปรากฏว่า ลูกปืนกลจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดเพลิงบ้าง ทิ้งจากอากาศ ประเทศไทยเรา ก็พลอยยับเยิน ไม่น้อยเหมือนกัน เล่นเอาตู้รถไฟ ต้องไปขี่กัน ที่บางกอกน้อย ทั้งๆ ที่ตู้มันหนัก แต่แรงของระเบิด ดันตู้รถไฟจนไปขี่กัน ตึกบ้านเรือนโรงลำบากมาก


<DD>แต่ว่าสงครามนั้น เป็นเหตุบันดาลอย่างหนึ่ง นั่นคือว่าสร้างความทุกข์ บรรดาท่านพุทธบริษัท คำว่า สงคราม นี่ อาตมา ผู้พูดเอง ก็ยังรู้สึกหวาดเสียวอยู่ เพราะว่า เคยอยู่ในระหว่างสงคราม ขณะนั้นอยู่กรุงเทพฯ แสงไฟฟ้าก็ใช้อะไรไม่ได้ ต้องใช้ตะเกียง ตะเกียงน้ำมันก๊าดไม่มีจะใช้ น้ำมันโซล่าก็หาไม่ได้ ต้องใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวมาทำตะเกียง ของทุกอย่าง ของกินของใช้ต้องปันส่วน เพราะหาไม่ได้ จะได้ก็ของจากญี่ปุ่น เวลานั้นของเรามีน้อย เวลานี้โรงงานมีมาก แต่ก็ไม่ แน่นัก เพราะระเบิดจากอากาศก็ดีจรวดก็ดี หรือว่าระเบิดจากภาคพื้นดินก็ดี อาจจะเกิดกับโรงงานต่างๆ ในประเทศไทยได้ ถ้าสงครามเขา เกิดขึ้น


<DD>หากว่าท่านจะถามว่า ทำไมสงครามเกิดขึ้นที่ตะวันออกกลางแล้วจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ทำไมไทยจึงต้องหวาด ระแวง ความจริงไม่ได้พูดให้ระแวง พูดให้ทราบ ตามความจริง หรือ ตามความรู้สึก นึกคิด ถ้าเรื่องนี้ผิด ก็ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าเป็นการคาดคะเน มากกว่าอย่างอื่น คิดว่าถ้าสงครามเกิดขึ้น ระหว่างสงครามศาสนา ก็จงอย่าลืมว่า ศาสนาที่อยู่ ระหว่างสงคราม ก็มีอยู่ในประเทศไทยทั้ง ๒ ศาสนา ถ้าเขารบกัน แต่เพียงภายนอกก็ดี


<DD>แต่บังเอิญคนที่นับถือศาสนานั้นๆ ทั้ง ๒ ศาสนาเกิดทะเลาะ วิวาท รบราฆ่าฟันกันในเขตของเรา เขตของเราก็ต้องยับเยิบไป เหมือนกับสนามหญ้ากับสุนัข ๒ ฝ่ายกัดกัน สนามหญ้าก็แหลก ถ้าบังเอิญเขารบกัน ก็ไม่เป็นไร ดีไม่ดีเขาจะชวนเรารบ เราจะรบหรือไม่รบ เขาก็จะรบหรือ ว่าเราไม่รบ เขาก็ไม่รบ แต่เขายึด เรายอมให้เขายึดไหม ในส่วนต่างๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศไทย


<DD>สำหรับความนึกคิด ในเวลานี้ ไม่ใช่หมอดูนะ ไม่ใช่พยากรณ์ ตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือหลักอะไรทั้งหมด เป็นแต่การคาดคะเนว่า เหตุการณ์จะต้องเกิดขึ้น อาการต่าง ๆ ที่ปรากฏในปัจจุบันจะฟูขึ้น เพราะรับการสนับสนุนเรื่องการเงิน กำลังอาวุธจากที่อื่น จากนั้นเหล่าทหารตำรวจของเรา ก็ต้องเคลื่อนกำลังเข้าไปรักษาเขต ทีนี้เขตต่อเขต เขตยันเขต เขตที่เขาก่อขึ้นเป็นเขตในประเทศไทย และเขตต่อไปข้างหน้า ก็เป็นเขตที่เขาพวกเดียวกัน อะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ลองวาดภาพกันดู ถ้ามันเกิดจริงๆ ตามเขาว่านะ อันนี้ไม่ได้รับรองว่า มันจะเกิดจริงหรือไม่


<DD>ถ้าเกิดจริงส่วนประเทศไทย ทุกจุดทุกภาค ก็มีบุคคลที่ถือ ศาสนาตรงกันข้าม กับพระพุทธศาสนา ก็มีกำลังสูงขึ้น ที่เขาโต้กันที่เชียงใหม่ อภิปรายก่อนหน้าที่จะพูดนี้ไม่ถึงเดือน เขาโต้กันถึงหลักสูตรการศึกษาว่า


<DD>หลักสูตรพระพุทธศาสนาถูกลดลงไป หลักสูตรศาสนาอื่น เข้ามาแทน อย่างนี้ก็ต้องมีอาการน่าคิดว่า เขาวางแผนล่วงหน้าไว้ไกลมาก หรือว่าเป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน โดยเฉพาะระยะใกล้ก็ได้


<DD>ก็เป็นอันว่า ในเมื่อสงครามใหญ่เกิดขึ้น ทางด้านตะวันออกกลาง ทีนี้ เศษสงครามมันก็อาจจะเข้ามาถึงประเทศไทย ต่อไปก็เป็นการเดาอีก ขอเดานะ ไม่ได้พูดตรงๆ จะหาว่าดูผิดก็ไม่ได้ เดามันผิดได้ ขอเดาว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้นอย่างนั้นจริงๆ แต่ความจริงเวลานี้ ยังไม่มีใครจะให้เกิด เวลาที่พูดนี่นะ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ แต่กว่าหนังสือนี่จะออกถึงเดือนมีนาคม ถ้าสงครามเกิดก็เกิดแล้ว ไม่เกิดก็ไม่เกิด


<DD>ในระหว่างนี้ต่างคนต่างมองต่างคนต่างพูด แสดงเรื่องการเมือง เอาเหตุผลต่างๆ มาหักล้างกัน ก็ไม่แน่นักว่ามันจะเกิด ก็อยากจะบนบานศาลกล่าวว่ามันไม่เกิดนั่นแหละเป็นการดี แต่ทว่าพระดำรัสของ องค์สมเด็จพระชินสีห์ ไม่เคยผิด แต่ว่าท่านไม่ได้บอก พ.ศ.


<DD>เป็นอันว่าประเทศไทยก็จะถูกหาง หรือท้ายฝน ละอองฝนจากสงคราม ก็เป็นอันว่าเราถูกละอองฝน ดินแดนเราก็จะไม่เสีย แต่ว่าชีวิตคนอาจจะเสียไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่น่าห่วง ก็คือ ของกินของใช้ ราคามันจะแพงมาก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าเราต้องใช้น้ำมัน โรงงานต่างๆ ต้องใช้น้ำมัน ในเมื่อสงครามเกิดขึ้น ในเขตของบ่อน้ำมัน เราจะมีโอกาสซื้อน้ำมันได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่


<DD>ท่านดามุส ท่านบอกว่า อำนาจของฝ่ายน้ำมัน มีอำนาจมาก สามารถเอาอาวุธ ใส่ในท้องปลา ไปยิงที่ไหนก็ได้ นั่นหมายถึง เรือดำน้ำ ถ้าเราส่งเรือไปซื้อของในเขตใดเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตของศัตรูของเขาเรือดำน้ำของเขา ก็อาจจะยิงเรือพาณิชย์ ของเราก็ได้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ คนที่พบระหว่างสงคราม จะมีความรู้สึก หนาวๆ ร้อนๆ


<DD>แต่ว่าขอยืนยัน บรรดาท่านพุทธบริษัทว่า สิ่งที่เราไม่ต้องกลัวอย่างหนึ่งคือ เขาประกาศบอกว่า การสงครามนี้เขาจะใช้อาวุธเคมีบ้าง จะใช้นิวเคลียร์บ้าง จะใช้นิวตรอนบ้าง อาวุธทั้งหลายเหล่านี้ น่ากลัวจริงๆ แต่สำหรับความรูสึกของผู้พูด ไม่มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะว่าพระพุทธเจ้ามีความศักดิ์สิทธิ์ ของๆ ท่าน ทุกชิ้นที่ผลิตออกมา ท่านบอกว่า กันรังสีต่างๆ ได้หมด รังสีต่างๆ จะไม่สามารถกระทบกาย หรือทรัพย์สินบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีของของท่านได้ ที่ท่านทำให้นะ


<DD>ก็เป็นอันว่า ท่านยืนยันมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๑ และท่านทำทุกครั้ง ท่านก็ยืนยันทุกครั้งว่า เกี่ยวกับรังสีต่างๆ ไม่ต้องกลัวเลย รังสีจะไม่เข้าใกล้บุคคลที่มีของที่ท่านทำให้ของนั้นอยู่ไหน ก็หาเอาเองก็แล้วกัน ของนั้นจะขอบอกเป็นนัยๆ เอาตรงๆ เลย ก็ได้คือ พุทธานุสสติ นั่นคือนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ และก็ภาวนาไว้ว่า "พุทโธ" เวลาหายใจเข้านึกว่า "พุท" เวลาหายใจออกนึกถึง "โธ"


<DD>ก่อนจะออกจากบ้าน ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ บูชาพระก่อน ภาวนาว่า "พุทโธ" ก่อนอธิษฐานขอความปลอดภัยก่อน จะไปก็เสกน้ำลาย ด้วยกำลังของพุทโธสัก ๓ ครั้ง แล้วก็เดินออกจากบ้านไป หรืออยู่บ้านก็ได้ ภัยอันตรายจะไม่มีแก่ท่าน หรือว่าถ้าทำอย่างนั้น ยังไม่เกิดความมั่นใจ ก็เอาของที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทำไว้ติดกับร่างกาย


<DD>แต่ต้องอาราธนาทุกวัน ว่า "นะโม ตัสสะ 3 ครั้ง" แล้วก็ว่า "พุทโธ" เหมือนกัน และก็อธิษฐานให้ปลอดภัย อย่างนี้จะปลอดภัยจากรังสีต่างๆ แม้แต่สะเก็ดระเบิด หรือว่ากระสุนปืนของข้าศึก ก็จะไม่มีอันตรายกับท่าน ถ้าท่านทั้งหลายมี "พุทธานุสสติ" เป็นกำลังใจ


<DD>ทีนี้เรามาคุยกันต่อไปนี่มันเรื่องคุยนะ ถ้าบังเอิญเวลานี้มีอิรักตั้งท่ายัน อิรักปรากฏว่า ประกาศว่ามีคน ๑๘ ล้าน แต่ทว่า "อิรัก" อิรักอิหร่านนี่รบกันมาประมาณ ๘ ปี พออเมริกาส่งกำลังเข้ามาในอ่าวเปอร์เซีย อิรักอิหร่านดีกันฉิบ พื้นที่ของอิหร่านที่อิรัก ยึดได้ ก็พันตารางไมล์ก็ตาม คืนให้หมดปล่อยเชลยให้หมด เวลานี้ศัตรูกับศัตรู อิรักกับอิหร่านเป็นมิตรกัน อิหร่านก็เข้ากับอิรัก ไม่เห็นด้วยที่อเมริกา จะเอาวัฒนธรรมของเธอ มาใช้ในตะวันออกกลาง เขาถือว่าผิดกฏของพระศาสนา


<DD>นี่ป็นอันว่า อิรักก็มีเพื่อน เข้าอีกหนึ่งประเทศ คือ อิหร่าน อิหร่านนี่ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน หนักเหมือนกัน แล้วต่อมาอย่าลืมว่า สายเลือด ที่ร่วมกันมา เขาอาจจะไม่ทิ้งกันนั่นคือศาสนา คนที่นับถือศาสนาร่วมกัน อาจจะร่วมมือกันภายหลัง อย่างนี้สงครามใหญ่จะ เกิดขึ้น ซึ่งตรงกับคำพยากรณ์ของพระท่าน


<DD>ในปีที่ญวนแตกอเมริกาหนีกลับบ้าน ปีนั้นก็ถามพระท่านว่า หลังจากนี้จะมีอะไรบ้าง สงครามใหญ่จะเกิดขึ้นไหม ท่านบอกว่า คำว่าสงครามโลก ยังไม่เกิด คำว่าสงครามโลกนั่นหมายถึงว่า ทั้งโลกแบ่งกันเป็น ๒ พวก ร่วมกันทั้งหมด แล้วก็ตีกันในระหว่างฝ่ายต่อฝ่าย คือตีกันรบกันอย่างนี้เรียกว่า "สงครามโลก"


<DD>แต่สงครามครั้งที่จะเกิดทางด้านตะวันออกกลาง ท่านบอกตรงว่า จะเกิดที่ด้านตะวันออกกลาง เขายังไม่เรียกว่าสงครามโลก เขาเรียกว่า สงครามใหญ่ สงครามใหญ่คราวนี้จะ มีความร้ายแรงไม่น้อย ร้ายแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่ว่าท่านก็ไม่ได้บอกอย่างดามุสว่า ถึงแม้อเมริกาอาจจะถูกนิวเคลียร์ ท่านไม่ได้บอกไว้ คือไม่ได้ถาม


<DD>รวมความว่าคำพยากรณ์ของท่านที่พยากรณ์ว่าจะเกิดที่ตะวันออกกลางก็ตรงแล้ว เวลานี้ตะวันออกกลางจะมีสงคราม อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสงครามเศรษฐกิจ เริ่มบีบรัดกันขึ้นมาการถูกบีบนี่ บรรดาท่านผู้ฟังและท่านผู้อ่าน สมัยเยอรมันก็ดี ญี่ปุ่นก็ดี อิตาลีก็ดี ที่ต้องประกาศเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เพราะว่า การถูกบีบคั้นจากโลกตะวันตกหรือหลายๆ ประเทศ ที่เรียกกันว่า "สันนิบาตชาติ" ในเวลานั้นทั้ง ๓ ประเทศ ลาออกจากสันนิบาตชาติ


<DD>"สันนิบาตชาติ" ต่างคนต่างบีบคั้นต่างๆ หาทางกลั่นแกล้ง ถ้าไม่รบก็อดตายมีความจำเป็นต้องรบ หมายถึงว่า ยอมเสี่ยง ยอมเสี่ยงการเสียอิรภาพ การเสียประเทศจะต้อง เป็นเมืองขึ้นเขากับความตาย ทีนี้การรบความตายมันก็เกิด แต่เกิดเฉพาะบุคคลบางกลุ่มที่เป็นทหาร และบุคคลที่อยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์ที่ถูกระเบิด คนนอกนั้นจะไม่ตาย ถ้าไม่รบ ความอดเกิดขึ้น มันจะตายทั้งประเทศ เขาต้องตัดสินใจรบ เรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีฉันใด เวลานี้อิรักกับอิหร่าน กำลังจับมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสนามุสลิมเขาเป็นศาสนาที่มีความรักกันมาก


<DD>อย่างตอนใต้ประเทศไทย คราวนั้นฟังข่าวจากทางโทรทัศน์ จากท่าน พันเอกณรงค์ กิตติขจร ท่านบอกว่า ใครล่ะ พันเอกกัดดาฟี มั้ง ถ้าพูดชื่อผิดขออภัยด้วย ท่านเคยไปเจรจากัน บอกว่า อย่ามายุ่งกับประเทศไทยเลย แต่เขาบอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งด้วย แต่ที่ยุ่งนั้นเป็นเรื่องของศาสนา ที่จะให้มีการแบ่งแยกประเทศไทย ออกเป็นของมุสลิมส่วนหนึ่ง ของไทยส่วนหนึ่ง เขาหวัง ๔ จังหวัด แต่ความจริงถ้าเขายึด ๔ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๘ จังหวัด ถ้า ๘ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๑๖ จังหวัด ผลที่สุดเขาต้องการยึดทั้งหมดทั้งประเทศไทย ความพอใจของคนไม่มีฉันใด


<DD>บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าสงครามเกิดขึ้น ถ้าเราจำเป็นต้องเสียดินแดน เรื่องเสียเฉพาะน่ะ ไม่มีแน่นอน มันต้องเสียกันเรื่อยไป เวลานี้เรา ก็ไม่มีพอที่จะเสียแล้ว แต่ที่พูดนี่ก็ไม่ได้หมายความว่า สงครามจะเกิดจริง สมมติว่าถ้ามันจะเกิดทีนี้เรื่องของศาสนา ก็จะเกิดขึ้นที่พูดนี่ไม่ได้ยุให้คน ๒ ศาสนาทะเลาะกันนะ เป็นแต่เพียงว่าท่านณรงค์ท่านบอกว่า ท่านไปพูดกับประธานาธิบดีของเขา ประธานาธิบดีของเขาก็บอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งเป็นเรื่องของศาสนา ทีนี้ศาสนาจะเอาเงินมาจากไหน ก็ทราบไม่ได้เหมือนกัน


<DD>รวมความว่า หันมาคุยกันในประเทศไทย ถ้าสงครามเกิดขึ้นจริงๆ เราจะเป็นอย่างไร ประการแรก เรายังพูดถึงศาสนาก่อน ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราจะหนักเรื่อง น้ำมัน นิดหน่อย แต่ว่าน้ำมันในประเทศไทย ถ้าเร่งรัดจริงๆ จะเหลือใช้ เพราะอะไร เพราะว่าน้ำมันในประเทศไทยนี่มีมาก การเจาะ บรรดาท่านผู้อ่านและท่านผู้ฟัง ที่พูดนี่ก็ขอเดา คิดว่าท่านที่เจาะเขาคงจะเจาะไม่ถึงเพดานจริงๆ ของน้ำมัน รวมความว่า ถังน้ำมันถังใหญ่จริงๆ น่ะ เราจะพูดตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศจีน เขาก็มีน้ำมันเขาอยู่สูงกว่าเรา ประเทศพม่าก็มีน้ำมัน อินโดนีเซียก็มีน้ำมัน แล้วก็ไทยล่ะอยู่กลางทำไมจะไม่มีน้ำมัน


<DD>ทีนี้เวลานี้การเจาะน้ำมัน การดูดน้ำมันเขาว่าได้น้อย แต่ความรู้สึกของผู้พูด หรือตามข่าวหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าความจริงประมาณน้ำมันที่ได้ มันมากกว่าข่าวที่เขาแจ้งมา ข้อนี้จะเท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบ สุดแล้วแต่หนังสือพิมพ์ แต่เขาบอกว่าเขาแจ้งได้น้อย ก็ยังมีอีกหลายหลุมที่เขาเจาะพบแล้ว เขาบอกว่าไม่พอกับเชิงพาณิชย์ จึงไม่ยอมดูดขึ้นมา นี่ก็เป็นลีลาของพ่อค้าเป็นของธรรมดา ถ้ากำไรน้อยเขาจะไม่เอา หรือจะมาพูดกันอีกทีหนึ่ง


<DD>เวลานี้ทราบว่า คนไทยศึกษาเรื่องวิชาการเจาะน้ำมันมาได้ดีแล้ว มีความชำนาญพอแล้ว แล้วก็กำลังจะเจาะก่อน หนังสือจะออกคงจะเจาะแล้วละมั้ง เจาะก๊าซที่สงขลาใกล้ๆ กับบ่อเดิม จะเอาก๊าซมารวมกัน เข้ากับท่อเดียวกัน ขึ้นมาใช้จะได้มีปริมาณสูง ถ้าบังเอิญท่าน หรือนายทุนท่านใดท่านหนึ่ง ในพื้นที่ ที่ไม่มีสัญญาประมูลกับบริษัทต่างๆ แต่น้ำมันมีมาก ปริมาณของประเทศไทยนี่ ถ้าจะลองเจาะอย่างต่างประเทศเขา เอาที่ใดที่หนึ่งก็ได้สักที่หนึ่ง ที่พูดนี่เป็นการสมมติกันนะ จะเชื่อหรือไม่สมควรเชื่อ


<DD>เพราะความรู้สึกว่ามีอยู่ว่าการเจาะที่แล้วมา เขาเจาะกันยังไม่ถึงฝาผนังหรือเพดาน ของถังน้ำมัน ซึ่งมันเป็น ถังใหญ่คลุมจักรวาล มันเป็นทะเลอีกชั้นหนึ่งต่างหาก คือเป็นทะเลน้ำมันจริงๆ ประเทศไทยตั้งอยู่เหนือทะเล น้ำมันจีน ก็เช่นเดียวกันแล้วก็พม่าก็เหมือนกัน อินโดนีเซียก็เหมือนกัน มาเลเซียก็เหมือนกัน บรูไนก็เหมือนกัน มันเป็นถังถังเดียวกัน ถ้าบังเอิญ เราจะเจาะอย่างอังกฤษ ที่เขาบอกว่า อังกฤษเจาะที่ทะเลเหนือ เจาะลง ไปลึกลงไปใต้ดินถึง ๖ กิโลเมตร ก็ได้น้ำมันขึ้นมาเพียงพอ


<DD>แต่ประเทศไทยเราสำรวจแล้วว่า ที่ใดที่หนึ่งมีน้ำมันพอที่จะเจาะได้ ก็ลองเจาะสัก ๖ กิโลเมตร จะมีผลเป็นประการใดเรื่อง นี้ก็ลองถามท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง ท่านมีความชำนาญในด้านนี้มาก ก็เรียกว่า "ดร.สรรพศาสตร์"


<DD>ท่านดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า

<DD>ถ้าเจาะลงไปถึง ๖ กิโลเมตร ในถังน้ำมันที่มีพื้นแผ่นดินหนา หมายความว่า หลังถังน่ะลึกลงไป เจาะลงไปแค่ ๓ กิโลเมตร จะถึงผิวถังน้ำมัน หรือหลังคาน้ำมัน ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ไอ้ท่อที่เจาะลงไปนั้น จะจมไปในตัวถังน้ำมัน บ่อน้ำมันจริงๆ ครึ่งกิโลเมตร ถ้าเจาะในที่ตื้น ที่บางจุดอยู่ไม่ไกลกรุงเทพนัก


<DD>ในที่นี้ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ท่อจะจมลงไปในเขตของน้ำมัน ประมาณ ๖ กิโลเมตร ถามว่า ดร.สรรพศาสตร์ ถ้าเราจะดูดใช้อย่างปัจจุบันนี่ ถ้าทำอย่างนั้นจะใช้ได้สักกี่ปี ท่านบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เอา ๓๐ เท่าของปัจจุบันใช้ไป ๕,๐๐๐ ปี น้ำมันยังไม่หมด ปริมาณยังไม่ลด


<DD>นี่แหละบรรดาท่านผู้อ่านและท่านผู้ฟัง ถ้าบังเอิญท่านดร.สรรพศาสตร์ ท่านพยากรณ์ตามความรู้ของท่าน ถ้าตรงตามนี้ประเทศไทยเราก็ไม่จน อย่างอื่นจะไม่มีก็ไม่เป็นไร ไฟของเรามีน้ำมันเราก็ถูก อุตสาหกรรมของเราลงทุนถูก เพราะน้ำมันถูก เราจะขายต่างชาติได้ดี ระยะนั้นประเทศไทยเราจะรวย


<DD>เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เราคุยกันมาวันนี้ก็ป่วย แต่เกรงว่าเล่มที่ ๑๘ นี่จะไม่ครบ ทำไปแล้ว บ้างตามสมควร แต่ไม่แน่ใจ ว่าจะครบหรือไม่ครบ ก็ลุกขึ้นมาทำหันไปดูเวลาเหลือเวลาประมาณนาทีเศษ ก็ขอเตือนบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ว่า จงอย่าหวั่นไหวต่อสงคราม


<DD>ขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าสงครามจะเกิด ก็จริงแหล่แต่ทว่าเราจะไม่ตายเพราะสงครามโลก เราจะไม่อดตายเพราะสงครามโลก และนักเกษตรศาสตร์ก็ดี นักเกษตรศาสตร์นี่จะมีโชคดีมากคือจะรวย ข้าวจะแพง พวกที่เลี้ยงสัตว์ก็ดี ราคาจะแพง จะรวยทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่มีความประมาท บรรดาท่านพุทธบริษัทประเทศไทยจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์.

ที่มา - จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

"คลิก" ฟังเสียงของท่านทั้งหมดได้ที่นี่

1. เหตุแผ่นดินไหว คลิกที่นี่

2. โพรงดินในเมืองไทย คลิกที่นี่

3. พุทธพยากรณ์ 1 คลิกที่นี่

4. พุทธพยากรณ์ 2 คลิกที่นี่

5. ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี คลิกที่นี่

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --></DD>

 

เนื่องด้วย คำพยากรณ์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
กล่าวไว้ อันเกี่ยวกับเรื่องของ สงครามศาสนา ที่อาจจะพึงบังเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ในทำนองว่า....

เหตุ และวิถีทาง แห่งสงคราม<O</O
ที่จะเกิดขึ้นนั้น หรือ ไม่เกิดขึ้น (ปี 2555 / 2556) ก็เป็นไปตามกรรม ใครก็บังคับไม่ได้
<O</O
หากสงครามไม่เกิดขึ้นก็จะดียิ่ง..
แต่หากว่าจะเกิดขึ้น พวกเรา ก็ไม่พึงประมาท
ควรเตรียมการระมัด ระวังเภทภัย

อันที่จะสามารถบรรเทาได้ เหมือนกับผลของการสะเดาะเคราะห์ คือ ตาย เป็น บาดเจ็บ / เจ็บมาก เป็น เจ็บน้อย / เจ็บน้อย เป็นแค่ ตกใจ / ตกใจ เหลือเพียงแค่ การกล่าวเตือน

เท่าที่ได้รับฟังมา พอสรุปได้ว่า เหตุการณ์จะอาจจะเกิดขึ้น ตามลำดับ ดังนี้.. (อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้)

1. หาก อิสลาม รวมตัวกันเป็นหนึ่ง ประกาศเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ สู้กับคริสต์<O</O
ก็แสดงว่า สงครามคงต้องเกิดขึ้น และ จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นลำดับ
<O</O
2. หากว่า ประเทศฝรั่งเศส โดนบุก.. ให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ เดินทางกลับสู่ประเทศไทย
<O</O
3. ศิษย์ฯ ถามองค์หลวงพ่อฯ ว่า หากเกิดสงครามขึ้น.. คนไทยที่อยู่อเมริกา ควรจะทำอย่างไรกัน
<O</O
องค์หลวงพ่อฯ บอกว่า ถ้ามันยุ่ง ๆ ให้เข้า วอชิงตัน.. ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรที่จะรุนแรง..
แต่ หากเมื่อพิจารณาให้ดีว่า อีก 51 รัฐ ของอเมริกา ทำไมองค์หลวงพ่อฯ ไม่แนะนำให้เข้าไปอยู่ล่ะ.. จะรุนแรงไหม
<O</O
4. ประเทศไทย ก็มีส่วนที่ต้องเสียหายบ้าง แต่ก็ดีกว่า ประเทศอื่น ๆ ท่านฯ เปรียบเทียบว่า หมากัดกันหน้าบ้านเรา หญ้าแพรก ก็แหลกบ้าง เป็นธรรมดา (ทั้ง 2 ศาสนา ที่มีในไทย) โดยเฉพาะ 4 จว. ภาคใต้
<O</O
5. เมื่อเกิดสงคราม มหาอำนาจเขาจะมาตั้งฐานทัพในประเทศไทย เราเป็นประเทศเล็ก ๆ เราไม่พอใจ<O</O

เราก็ห้ามเขาไม่ได้ หลัก ๆ ก็ ดอนเมือง สัตหีบ อุดรธานี....
<O</O
6. ของ ที่พระพุทธเจ้า ให้ไว้ สามารถปกป้อง กันภัย ได้จริง “พระคำข้าว องค์เดียว แลกบ้าน แลกรถ”
<O</O
7. ให้ระวังจรวด ที่จะมาทางน้ำ หรือ ทางบก โรงงานอุตสาหกรรม อาจจะมีความเสียหายได้
<O</O
8. เขารบกัน ไม่มีเวลาทำมาหากิน ดังนั้น เราจะสามารถขายสินค้าทางการเกษตรได้ดี ราคาแพง
<O</O
9. ชาวนาที่ขายที่ดินไม่ได้ ก็จะดีใจ เพราะสินค้าทางการเกษตรจะแพงมาก (ในหลวง ก็ทรงปูพื้นฐาน เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง) ชาวนา ที่ไม่เคยมีเงินแสน ก็จะมีเงินแสน (ตรงนี้น่าจะเป็นนัยยะที่สำคัญ)
<O</O
เท่าที่สังเกตดู เดี๋ยวนี้ ชาวนา เขาก็ขายข้าวได้เกินแสน กันอยู่แล้ว.. นัยยะ ตรงนี้ องค์หลวงพ่อฯ ท่าน คงจะสื่อถึงว่า พวกเราอาจะได้ กินข้าว“เกวียนละแสน” กันบ้างละครับ (เดาเอง ท่านไม่ได้พูดตรง ๆ)
<O</O
10. สมณะชีพราหมณ์ ประชาชน (ที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา) ล้มตาย อย่างละครึ่ง สงครามจึงจะเลิกลา
<O</O
ศาสนาที่เขารบกัน ต่างก็สวด อ้อนวอนต่อพระเจ้าของเขา แต่ก็ช่วยไม่ได้ ศาสนาก็จะเสื่อมสลายไป..
<O</O
11. พวกเราที่เห็น การตายกันมากมาย ไม่ทราบว่าความตายจะเข้าถึงตัวเราเมื่อไรก็ได้ เกิดความเบื่อหน่ายในทุกข์ พากันเร่งรัดปฏิบัติพระกรรมฐานกันมากขึ้น ทำให้เกิดความเจริญในธรรมกันมากยิ่งขึ้น.. พระพุทธศาสนา จึงจะเจริญขึ้นฝ่ายเดียว

เพื่อความไม่ประมาท ในการดำรงชีวิต จนเกินไป

1. เราพึงปฏิบัติพระกรรมฐาน ให้เป็นปกติ ทุกวันไม่ควรว่างเว้นจาก ทาน ศีล และภาวนา

<O</O
2. จัดหา สมบัติพ่อให้ คือ สิ่งอันเป็นยอดมงคล ที่องค์หลวงพ่อฯ ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยที่ท่านฯ ก็บอกว่า ท่านฯ นั่งเฉย ๆ เรื่องพุทธาภิเษก เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า พระองค์ท่าน เป็นผู้ทำพิธีเอง
<O</O
จึงตรงกับที่องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ว่า.. ของที่พระพุทธเจ้าทำให้ไว้ สามารถปกป้อง กันภัย ได้จริง<O</O
พวกเราจึง พึงมี สมบัติพ่อให้ กันไว้ เพื่อเป็นสรณะ เป็นเครื่องป้องกันภัยให้ตัวเรา และคนที่เรารัก
ยังพอหาเช่าบูชากันได้ ในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป
<O</O
3. องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ทรงตรัสไว้ว่า..
ทิฆัจฉา ปะระมะ โรคา.. โรคหิว เป็นโรคอย่างยอด
ถ้าเราไม่หิว ก็ไม่ต้องกินข้าว ก็จะไม่เกิดกิเลสมากขึ้น..
ถ้ากำลังหิวอยู่ ธรรมะ ก็ไม่สามารถปฏิบัติให้มีความก้าวหน้าขึ้นได้..
ความหิว ส่งผล ก่อเกิดความโมโหได้ง่าย ฆ่ากันตาย เพราะหิว ก็มีมากมาย

แล้วถ้าหากว่า สงครามเกิดขึ้นจริง.. สินค้าทางการเกษตรแพงอย่างยอดยิ่ง ข้าวเกวียนละแสน อย่างนี้
<O</O
ชาวนา พ่อค้า ที่ขายส่งออก ย่อมได้ราคาที่ดี ต่างก็ยินดี.. แล้วตัวเรา และประชาชน ที่อยู่ในประเทศ หากว่า มีรัฐบาลที่ไม่ดี ไม่จัดการช่วยเหลือ ไม่จัดโควตาข้าว ให้แต่ละครอบครัว พวกเราก็แย่แน่ ๆ
<O</O
ดังนั้น อัตตาหิ อัตโนนาโถ.... ตนแลเป็นที่พึงแห่งตนเอง....

ถ้าหากว่า อิสลาม รวมตัวกันเป็นหนึ่ง.... ประกาศสู้กับ คริสต์
ถ้าหากว่า.... ฝรั่งเศส โดนบุก....

พวกเราจึงพึงตระเตรียม ข้าว ปลา อาหารแห้ง ที่พอเหมาะแก่ครอบครัว ที่จะพอให้รับประทานได้เป็นปี.. นาน แค่ไหน ก็ไม่ทราบได้.. ตายฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรา

หากเป็นไปได้ อันไม่เกินวิสัย..ขอให้เภทภัยผ่านพ้น โดยไม่เกิดสงคราม ด้วยเถิด.

.....................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

กำหนดการเดินทางไปถวายเที<WBR>ยนพรรษา 2555
ในภาคอีสาน​

อานิสงส์ของการถวายเที<WBR>ยนพรรษาแก่พระภิกษุ จะทำให้เป็นผู้มีปัญญาดีเจริญก้<WBR>าวหน้า เหมือนดังแสงเทียนที่สว่าง แด่ตนเอง และครอบครัว
โดย.....คุณวิชัย คุ้มวัน (การไฟฟ้าฯ) และคณะศิษย์หลวงพ่<WBR>อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2555 เวลา 20.30 น.

รถออกจากการไฟฟ้าฯ ถนนงามวงศ์วาน เชิงสะพานลอยข้ามถนนวิภาวดีรั<WBR>งสิต

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2555

07.00 น. - ร่วมบวงสรวง และถวายเทียน วัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์ (พระพุทธบาท 7 รอย)
อ.ภูพาน จ.สกลนคร และทานอาหารเช้าบนภูพาน
- ถวายเทียน สำนักพุทธโมก และสำนักสาขา จ.สกลนคร
18.00 น. - ถึงสะพานมิตรภาพไทย (ยาว 1.20 ม. กว้าง 15 ม.) จ.หนองคาย
ชมตลาดที่ติดแม่น้ำโขง ริมโขงกินแหนมเมืองที่ร้านคุ<WBR>ณแดง
พักโรงแรม ใกล้ตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย

วันอาทิตย์ 29 กรกฎาคม 2555

08.00 น. - ทานอาหารเช้าร่วมกันที่โรงแรม
08.30 น. - ถวายเทียนนมัสการหลวงพ่อพระใส จ.หนองคาย
09.00 น. - ถวายเทียนที่ วัดทุ่งสว่าง (วัดยาหม่อง)
10.00 น. - ซื้อของฝากที่ตลาดท่าเสด็จ อยู่ริมโขง (ทานอาหารกลางวันอัธยาศัย)
11.30 น. - ออกเดินทางไป ร่วมบวงสรวง และถวายเทียน พระธาตุบังพวน
13.30 น. - หมู่บ้านนาข่าน (ขายผ้าพื้นเมือง)
19.00 น. - แวะกินอาหารอีสาน (ไก่ย่างสวนกวาง) จ.ขอนแก่น และเดินทางกลับบ้าน
กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2555 ประมาณ 24.00 น.)
(กำหนดการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ตามแต่เวลา และโอกาส จะเอื้ออำนวย)
เดินทางโดย รถบัสปรับอากาศ VIP. ชั้น 2 ค่าโดยสาร ท่านละ 2,200 บาท
ท่านที่มีความสนใจที่จะร่วมเดิ<WBR>นทางบำเพ็ญบุญพิเศษ ในคั้งนี้ โปรดติดต่อ....................<WBR>...
คุณวิชัย (การไฟฟ้าฯ) โทร. 089-6860-043 บ้าน 02-921-5634 หรือ คุณอุบล 089-984-7344
การชำระค่าโดยสารในการเดินทาง ชื่อบัญชี คุณวิชัย คุ้มวัน
ธนาคารทหารไทย สาขาย่อย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เลขที่บัญชี 168-2-01636-3 <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ล้มเหลวได้แต่อย่าล้มเลิก
(เปิดพบโดยบังเอิญ.. แค่ ปลอบใจตัวเอง เท่านั้น ครับ)

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=KvlEd0hCCHA"]http://www.youtube.com/watch?v=KvlEd0hCCHA[/ame]

...........................................................................................................................................................

 

ขออนุญาตแจ้งข่าวบุญพิเศษ..

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; WIDTH: 140px; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; HEIGHT: 169px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0" cellSpacing=1 cellPadding=2 width=140 align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD><TD style="BORDER-TOP-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT-COLOR: #c0c0c0; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #c0c0c0; BORDER-TOP-COLOR: #c0c0c0; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px; BORDER-RIGHT-COLOR: #c0c0c0"></TD></TR></TBODY></TABLE>

พระโคตรเศรษฐีหลายรุ่น พร้อมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ​

เมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รับพานพระแล้ว หลวงพ่อได้หยิบพระดู
ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และได้กล่าวขึ้นว่า

" เออ..เข้าใจ..เข้าใจ ข้างหนี่งเป็นทุ่งเศรษฐี ข้างหนึ่งพระสีวลี เข้าใจจริงๆ เข้าใจจริง ๆ โยมนี่ "

" นี่นะโยม พระของโยมนี่ ถ้าผู้ใดได้ไปบูชา จะเป็นเศรษฐี โคตรเศรษฐี จนไม่เป็นดีมากนะ โยมนี่เป็นคนมีปัญญา เอาล่ะนะฉันจะบอกให้ พระของโยมที่ทำมาทั้งหมดนี้ ถึงแม้จะไม่มีรูปพระเลย ของๆโยมก็ขลัง เขาสำเร็จอยู่ในตัวเขาแล้ว ให้ใครเอาไปทำอะไรๆ ให้ยิ่งกว่าทำ คำว่าเสื่อมไม่มี ของๆโยมนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยครบหมด เนื้อเกลี้ยงๆก็ขลัง " ​

​

พระยอดธง เศรษฐีรัตนโกสน์

ค.ศ. เนื้อแร่โคตรเศรษฐี
ท. เนื้อแร่เทพรักษา

....................................................................................................................................................................................................

สืบเนื่องจาก Link..
http://palungjit.org/threads/พระยอดธง-รุ่น-ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์-มวลสารแร่โคตรเศรษฐี.271310/

เช้าวันนี้ ย่าอี๊ดฯ โทร.มาแจ้งว่า..
มีผู้จอง พระยอดธง เนื้อแร่โคตรเศรษฐี (คศ)
แต่ยังไม่มารับ กระทั่งถึง ณ บัดนี้

เข้าใจว่า น่าที่จะสละสิทธิ์แล้ว (ไม่ติดต่อเลย)

จึงขอแจ้งข่าวบุญมาว่า..

เมื่อร่วมบุญ 8,000 บาท
จะมอบ พระยอดธง เศรษฐีรัตนโกสน์ เนื้อแร่โคตรเศรษฐี จำนวน 1 องค์


โอนเงินบุญแล้ว
ให้ส่งข้อความทางโทรศัพท์ หรือ โทร.แจ้ง ที่อยู่ โทร.081-9069140

มูลนิธิส่งเสริมปฏิบัติธรรม<O</O
ศิษย์พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)<O</O
155 หมู่ 9 บ้าน คลองยาง ต.หนองสาหร่าย
อ.ปากช่อง
นครราชศรีมา
30130<O</O

เพื่อให้ทางสำนัก จัดส่ง "พระ" มาให้

ค่าจัดส่ง ย่าอี๊ดฯ ประภาศรี นิยมแก้ว บอกว่า จัดส่งให้ ฟรี

ขอน้อมโมทนา ในกำลังบุญ กำลังอานิสงส์ อันยอด ในครั้งนี้
เป็นอย่างยิ่ง

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

....................................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

................................................................................................................................................................................

ขออนุญาต แจ้งข่าวบุญพิเศษ..

ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี
เททอง หล่อแม่พระรณี สูง 2.50 เมตร (ใหญ่ที่สุด)

ณ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง สมุทรสาคร

วันอาทิตย์ ที่ 29 กรกฎาคม 2555

เวลา 08.39 น. บวงสรวง
เวลา 11.00 น. ถวายภัตราหารเพลแด่สงฆ์
เวลา 13.19 น. เททอง

ขอเรียนเชิญทุกท่านให้มีโอกาสได้ร่วมบุญ โดยทั่วถึงพร้อมเพรียงกัน

หากไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานบุญ
สามารถ โอนเงินบุญ ไปร่วมบุญ ได้ที่..

ธนาคาร กสิกรไทย สาขา สมุทรสาคร
บัญชี พระชลอ วิมโล
ออมทรัพย์ 184 245 8117

ขอน้อมโมทนา สาธุการยินดี อย่างยอดยิ่ง

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

...............................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

(ย่าประภาศรี นิยมแก้ว ก็คือ ย่าอี๊ดฯ ลูกสาวคนเล็กของท่านแม่ชีปทุมฯ ผู้ดูแลสำนัก)

ขออนุญาต น้อมแจ้งข่าว งานบุญพิเศษ
ท่านแม่ชีปทุม โชติอนันต์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ แร่โคตรเศรษฐี
ที่ ท่านท้าวทตรฐ นำมามอบให้แก่ ผู้มีบุญทั้งหลาย

องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ ในทำนองว่า..
"แร่นี้" ต่อให้ไม่สร้างเป็นองค์พระ ก็ "ขลัง"

ประวัติ ความเป็นมา ค้นหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่..
http://palungjit.org/threads/พระยอดธง-รุ่น-ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์-มวลสารแร่โคตรเศรษฐี.271310/

............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- attachments -->

 

ภาพนี้.. ไปพบเห็น ที่ Facebook
เห็นว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับมุมมองของพวกเรา ครับ

จาก Link....
http://palungjit.org/threads/บุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมวิสุทธิวิโมกข์-40-000-องค์-มอบให้-ตำรวจ-ทหาร-4-จังหวัดภาคใต้.326817/

........................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

(ย่าประภาศรี นิยมแก้ว ก็คือ ย่าอี๊ดฯ ลูกสาวคนเล็กของท่านแม่ชีปทุมฯ ผู้ดูแลสำนัก)

ขออนุญาต น้อมแจ้งข่าว งานบุญพิเศษ
ท่านแม่ชีปทุม โชติอนันต์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ แร่โคตรเศรษฐี
ที่ ท่านท้าวทตรฐ นำมามอบให้แก่ ผู้มีบุญทั้งหลาย

องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ ในทำนองว่า..
"แร่นี้" ต่อให้ไม่สร้างเป็นองค์พระ ก็ "ขลัง"

ประวัติ ความเป็นมา ค้นหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่..
http://palungjit.org/threads/พระยอดธง-รุ่น-ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์-มวลสารแร่โคตรเศรษฐี.271310/

............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

ได้รับ ข้อความทาง PM (จึงขออนุญาต ไม่แจ้งชื่อ นะครับ)


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ............................
เรียน คุณ มหาหินทร์

ดิฉันได้ส่งปัจจัยผ่านทาง SCB ไปจำนวน 100 บาทวันนี้ช่วง 13.08 น. นะคะ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ค่าไปรษณีย์ ค่ารถ ค่าอาหาร

ขอย้ำนะคะว่า ขอเป็นส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ในค่าดำเนินการนะคะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

ก..............
</TD></TR></TBODY></TABLE>
.....................................................................................................................................

ขอน้อมโมทนา สาธุการ ยินดี อย่างยอดยิ่งนัก
กระแสธารน้ำใจ อันหาได้ยกในฐานะในปัจจุบัน

เงินแม้จะเพียง 100 บาท
เราไม่อาจจะสามารถใช้เกณฑ์ใด ๆ ไปวัดได้ว่ามาก หรือน้อย
ที่จะตัดสินได้ ต้องใช้เกณฑ์ "กำลังใจ" ของผู้ร่วมบุญ ใช่ไหมครับ

ท่านที่ทำบุญ 100 บาท กับ ท่านที่ทำบุญ 100,000 บาท
เอาสิ่งใดไปวัดได้ ว่า ใครจะได้รับผลบุญ มีอานิสงส์ มากกว่ากัน

องค์หลวงพ่อฯ แนะนำไว้ ในทำนองว่า..
ต้องดูจากความบริสุทธิ์ 3 ประการ คือ..
1. ผู้ให้ทาน.. บริสุทธิ์ไหม (มีศีล)
2. ทาน ที่ให้ บริสุทธิ์ไหม (ไม่โกงใครมา)
3. ผู้รับ บริสุทธิ์แค่ไหน

ดังนั้น ปัจจัย 100 บาท ที่ท่านฯ ได้กรุณาช่วยในงานบุญ ที่ตั้งมั่น คือ..
"ให้เป็นส่วนหนึ่งในค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ค่าไปรษณีย์ ค่ารถ ค่าอาหาร" นั้น

กระผมฯ ขอน้อมโมทนา อย่างยอด ยิ่งนัก

และ อันเนื่องด้วยผลแห่งบุญ คุณความดีใด ๆ
ที่กระผมฯ ได้บำเพ็ญเพียรมาแล้ว ถึงปัจจุบัน แม้ในอนาคตกาล
ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

ขอท่านฯ ได้โมทนา
พึงได้รับประโยชน์ และความสุข เช่นเดียวกัน
และยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด....

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

.....................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->