ตะเกียง มีใครเตรียมบ้างครับ

ตอนนี้ผมกำลังจะศึกษา ตะเกียงเจ้าพายุครับ
แต่น้ำมันก๊าซแพงมากลิตรนึง60-80 บาท
แต่ใช้ได้สว่างดีครับ ตัวเก่าๆ ก็ยังใช้ได้ดี
เคยไปเข้าไปซื้อที่ กทม ของใหม่ ตัวละพันหก แพงมากเลย
ตอนนี้มีอยู่ 3 ตัวครับ โดยปกติเป็นคนชอบตะเกียงเจ้าพายุอยู่แล้วครับ
ตอนนี้กำลังหัดซ่อมตัวเก่าๆอยุ่อยุ่แต่ฝีมือยังไม่เข้าขั้น
สำหรับตัวนี้เป็นตัว 350 แรงเทียนครับ
จะมีตัว 500 แรงเทียนซึ่งสว่างมากๆ ความสว่าง 50 - 80 ตารางเมตรนี่สบายๆเลย

 

ตัวนี้เพิ่งเอาลงมาจากเขาใหญ่

 

ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อค่ะ เพราะว่าตัวมันค่อนข้างใหญ่ หอบไปลำบาก

แต่พอเปลี่ยนแผนจะตั้งรับที่บ้าน วันนึงไปเดินตลาด เดินศีรษะเกือบชนตะเกียงที่เขาแขวนไว้ขาย

มันเหมือนลางสังหรณ์อะไรสักอย่างเลยซื้อมาค่ะ ตัวละ 199 บาทเอง

ซื้อน้ำมันก๊าซมา 2 ลิตร กำลังจะหาแกลลอนลูกเล็กมาใส่น้ำมันอยู่ค่ะ

เพราะตอนไปซื้อ เขาใส่ขวดน้ำลิตรมาให้

 

ซื้อไว้เหมือนกันแต่อันเล็กคะแต่ยังไม่ได้หาซื้อน้ำมันเลยคะ
อยากได้ตะเกียงอันใหญ่กว่าที่มีนี้สักอันแต่หายากคะ

 

ผมใช้ Coleman 220 น้ำมันเบ็นซินขาวลิตรละ 50 บาท จุดง่ายดูแลง่าย แต่ใช้ใส้แมงปอ แสงสีขาวกว่าของเดิม ครับ ถ้าจะซื้อหากไม่เน้นสะสมขอแนะนำของใหม่ดีกว่า เก็บลมได้นาน รุ่น 285 ราคา 3,200 ครับ

 

ตะเกียงรั้ว3ใบ น้ำมันก๊าซ2ปี๊บใหญ่ ตะเกียงไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่หลายรูปแบบ แม้กระทั่งตะเกียงกระป๋องใส่น้ำมันดีเซลหรือน้ำมันพืช(ใช้แล้วก็ได้) ฟืนเพื่อก่อไฟให้ความร้อนและแสงสว่างอีกพอสมควร ไม่นับเครื่องปั่นไฟนะครับ คือเตรียมตั้งรับแบบบ้านนอกครับ

 

แล้วตะเกียงแบบขัดด้านข้างแล้วมียักษ์ออกมา พอจะบอกได้ไหมว่าหาที่ไหนวานบอกหน่อย 55555555(ล้อเล่น)

 

ลองผสมน้ำมันเองซี่ครับ
ผมเองเล่นตะเกียงเจ้าพายุมาบ้างเหมือนกัน




ลองหาอัตราส่วนที่เหมาะสมของ น้ำมัน ดีเซลและเบนซิน ดู
เช่น ตะเกียงเจ้าพายุบางตัว ใช้ ดีเซล 1 ส่วน เบนซิน 5 ส่วน
หรือบางตัว 1: 8 หรือ 1:3 อะไรก็แล้วแต่

ยังไงก็ประหยัด และหาง่ายกว่าน้ำมันก๊าด

แต่การผสม น้ำมันเบนซิน ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะไวไฟมาก
ถ้าไม่แน่ใจ ก็อย่าไปยุ่งกับ น้ำมันเบนซิน

การใช้น้ำมันเบนซิน ล้วนๆ อาจทำให้ตะเกียง ระเบิดได้ ถ้าไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้น้ำมันเบ็นซิน ( ส่วนมากให้ระรึกไว้ว่า มันจะระเบิด )

การผสมน้ำมัน เบ็นซิน กับดีเซล ถ้ามีเบนซินมากเกินไป อาจทำให้ตะเกียงระเบิด


ที่สำคัญ เอาสูตร ของคนอื่น หรือ ของตะเกียงตัวอื่น ยี่ห้ออื่น มาใช้ร่วมกันไม่ได้

แต่

ตะเกียงบางตัว จะเป็น FLEX-FUEL คือ ใช้ได้ทั้ง น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน แอลกอฮอ

เจ้าตัวที่ว่ามานี้ ได้มาเมื่อไร จะเอามาให้ชมกัน

 

ตะเกียงมันแพง หาไส้ยากด้วย ที่บ้าน เก็บน้ำมันเก่าไวเยอะเลย น่าใจใช้ได้ยามฉุกเฉิน เอาเสื้อโปโลเป็นไส้ก็ได้ .."เสื้อเก่านะ" ถ้วยน้ำจิ้มเทน้ำมันใส่ ตัดผ้ามาม้วน วางไว้อย่าให้ไส้จมน้ำมัน อยู่ได้หลายชั่วโมง

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=yRLR07GRgvQ]Best Rocket Stove Design Ever - UPDATE - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=kMfbt2bQC7g]Woodgas Simple Version - YouTube[/ame]
ลองทำดูแล้ว ไฟแรงดี

 

แม่จ้าวววว............. เอาเสื่อ โปโล ไปเป็นใส้


ชิชะ .....


ผมเอา เสื้อ LACOSTE ไปเป็นใส้บ้าง ดิ ....(deejai)(deejai)(deejai)

 

ชอบตะเกียงเหมือนกันแต่เป็นตะเกียงธรรมดาแบบต่างเตรียมไว้หลายอันแต่ไม่ได้ใช้น้ำมันก๊าสใช้น้ำมันพืชเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งด้วยความไม่รู้ไปใส่น้ำมันก๊าซตะเกียงไหม้หมดเลยกระจกก็แตกเสียดายซื้อมาลูกตั้ง550บาท

 

ผมไปซื้อชุดตะเกียงจ้าวพายุที่ใช้กับถังแก๊สปิกนิค 5 กิโล แสงสว่างจ้ามาก ๆ เลยครับ แต่ไม่เท่าจ้าวพายุรุ่นท๊อปนะครับ(รุ่นที่ให้แสงแรงสุด) มันเท่ากับจ้าวพายุรุ่นกลาง ๆ ประหยัดมาก เปิดทั้งคืน ถังยังหนักอยู่เลย ไม่ได้ชั่งดูว่าหายไปเท่าไร แต่ว่าประหยัดมาก ไม่มีกลิ่นแก๊สออกมาด้วย

 

ผมใช้ aida 500 แรงเทียน อยู่ครับ
เป็นตะเกียงที่ใช้ตั้งแต่รุ่นพ่อมาแล้ว
ถือว่าเป็นตะเกียงมรดก ก็ได้
มีน้ำม้นก๊าดอยู่จำนวนหนึ่งครับ
ถ้าเกิดภัยพิบัตขึ้น ผมว่าตะเกียงรั้ว หรือตะเกียงน้ำมันก๊าดธรรมดา
น่าจะเกินพอครับ
แสงสว่าง+การประหยัดน้ำมัน (1 ลิตรใช้ได้หลายคืน)
น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
อย่าลืมเรื่องเจ้าพายุ จุดในบ้านนี่ เรื่องกลิ่นน้ำมัน
และอ็อกซิเจนในบ้าน ด้วยนะครับ

 

สมัยเด็กกระแสไฟแถวบ้านมันอ่อน โดนเครื่องบ้านเจ้านายของพ่อดูดไปหมด ไม่พอเปิดไฟเลยต้องพึ่งตะเกียงแก็สนี่แหล่ะ ข้อเสียคือกลิ่นกากแก็สมันเหม็นพิลึก ผมกับเพื่อนชอบฉี่ใส่แล้วมันจะเป็นฟองและควันขึ้นมาสนุกดี บ้างก็นำมาทำแรงดันจรวดเล่น ต่อมาพ่อหาเครื่องดูดไฟมาใช้บ้างเลยเลิกใช้เก็บไว้ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ

 

Warm up Coleman 220 ทดลองจุดเล่นครับ

 

-สวัสดีครับ
-ชอบเหมือนกันตะเกียง ทั้งเจ้าพายุ และ ตะเกียงแก๊สก้อน อื่อ..อันหลังนี้หาไปนานเลยใครรู้บ้างมีขายที่ไหน เมื่อก่อน นี้ เวลาฝนตก ก็เอามานั่งใช้บัสโซ ขัดจานทองเหลืองกันให้วาว เมื่อใช้กับตะเกียงแก๊สก้อน เร่งน้ำมากก็สว่างมากพุ่งไปไกล
-อีกอย่างทำตะเกียงเอง ใช้ผ้าด้ายดิบ มาตัดทำเป็นใส้ ใช้น้ำมันพืชหรือ น้ำมันโซล่า เทใส่ขวดนำใส้จุ่มน้ำมัน แค่นี้ก็จุดให้แสงสว่างได้แล้ว
-ปัจจุบันใช้แก๊สกระป๋อง พร้อมดวงโคมให้ความสว่างมากๆครับ

นี่ครับกล่องอย่างนี้ ใส่หัวแก๊สและดวงโคมอยู่ด้านใน

ประกอบแล้วเป็นอย่างนี้ และแผ่นโลหะสะท้อนแสง

เริ่มจุดเปิดแก๊ส แล้วกดแม๊กนีโต

เริ่มติดครับ

เมื่อติดแล้วจะสว่างมากน้อยก็เร่งระดับแก๊สเอาครับ​

 

ตะเกียงมี 2 ตัวนี้ครับ ( + 2 เตา)

ตะเกียงเบนซิน M286

ของดีทนทาน แต่ราคาประหยัด
เติมน้ำมันครั้งหนึ่ง
จุดได้ถึง 7-14 ชั่วโมง
2,500 บาท




ใส้ตะเกียงของเดิมขาดง่าย...ให้ใช้ ใส้ตราผีเสื้อ แทน...ครับ





และ กล่องใส่ตะเกียง ...ครับ

กล่องตะเกียงขนาดกลาง จาก Coleman ใส่ตะเกียงน้ำมัน เช่น 286, 282, 214
900 บาท





TKL-N894 Adventure Lantern

ตะเกียงยอดนิยมที่ได้รับความวางใจและใช้กันมากที่สุดในบ้านเรา
ใช้และจุดติดง่ายด้วยระบบแม็กนีโตรในตัว กดปั๊บ ติดปุ๊บ สว่างไสวในทันที
ให้แสงสว่างพอเพียงกับการใช้งาน3-4 คน
อัตราการบริโภคแก็สต่ำใช้ได้ 6-8 ชั่วโมง ด้วยความสว่าง 50แรงเทียน
แก็สหาง่ายสามารถใช้กับ แก็สกระป๋องสั้น Kovea 230g./ แก็สกระป๋องยาว Butane 220g./ Dragon 340g.
โคมแก้วทนไฟ SCHOTT SUPRAX Made in Germany
Plastic Case หนา แข็งแรงป้องกันแรงกระแทก พร้อมฝาที่เป็นขาตั้งกระป๋องแก็สในตัว
ขนาดเล็กกระทัดรัด ด้วยมิติ 110x105x145 mm. น้ำหนักเบาเพียง260 กรัม
มาพร้อมกับkovea Adapterใช้แปลงให้ตะเกียงใช้ได้กับแก็สกระป๋องยาว Butane220g.+ไส้แท้ 2 อัน+Plastic Case
ราคา 1,000.- บาท ส่ง EMS ฟรีทั่วประเทศ หรือ ส่งถึงบ้าน/ที่ทำงาน ในกทม.
* จัดส่งแบบพัสดุไปรษณีย์เก็บเงินปลายทางมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม +100.-
** สินค้านี้ไม่รวมแก็สกระป๋องตามภาพ**




มีตะเกียงก็ต้องมี...เตา

เตา Coleman 550 B

Multi-fuel stove with integrated fuel tank
Burner bowl and pot supports protect flame in windy conditions
Precision flame control
Leveling ring adjusts legs to keep pots level on uneven surfaces
Operates on Coleman liquid fuel, unleaded gasoline, or kerosene
Kerosene generator included
One fill up will last through a typical weekend
Filler cap with lanyard prevents cap loss
Dry weight is 21.6 oz
Made in USA



<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/1eLPNMqEzKQ?version=3&feature=player_detailpage"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/1eLPNMqEzKQ?version=3&feature=player_detailpage" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/bbAn7r7-15E?version=3&feature=player_detailpage"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/bbAn7r7-15E?version=3&feature=player_detailpage" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/39SZ2Kt1-_I?version=3&feature=player_detailpage"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/39SZ2Kt1-_I?version=3&feature=player_detailpage" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>

และเตา Kovea Camp-4


KOVEA Camp4

Moonwalker Stove KB-0211G
เตาตัวเล็ก แต่คุณภาพคับกล่อง
ด้วยรูปทรงล้ำสมัยและสมรรถนะสูง จนเป็นที่ใว้วางใจให้ประจำอยู่ในเป้ของนักเดินทาง ให้ความร้อนด้วยกำลังไฟสูงถึง 6710 BTU
ใช้ง่ายจุดด้วยไฟฟ้าระบบแม็กนีโตร กดปั๊บ ติดปุ๊บ ร้อนเร็วทันใจ พร้อมระบบ Anti-Flare System ช่วยให้เปลวไฟนิ่งไม่สะดุด
รุ่นใหม่ปี 2011 ตัดขดลวดบนเตาแบบรุ่นเก่าออก เพื่อแก้ปัญหาผิวภาชนะใหม้ตรงกลางก่อน แต่ความร้อนโดยรวมไม่ลดลง
ผลิตจากสแตนเลส และอลูมินั่มอัลลอย ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายยิ่งขึ้น
สายหุ้มด้วยสแตนเลสถักทนทานแข็งแรง พร้อมท่องอ 90° ป้องกันสายหักขณะพับเก็บ
ขารุ่นให่กางออกได้กว้าง และมั่นคงกว่าเก่า ในขณะเดียวกัน เมื่อพับเก็บก็ยังคงมี ขนาดเล็กกระทัดรัด
ด้วยมิติ 97x115x87mm [กxยxส Case Box ] น้ำหนักเบาเพียง 280 กรัม
Plastic Case รุ่นใหม่ เก็บเตาได้ง่าย หยิบออกใช้คล่อง ใส่อแดปเตอร์ค้างใว้ได้ ไม่ต้องถอดอแดปเตอร์ออกเหมือนcase รุ่นเก่า
แก็สหาง่ายสามารถใช้กับ แก็สกระป๋องสั้น Kovea 230g./ แก็สกระป๋องยาว Butane 220 g./Dragon 360g.
เตาCamp4 มาพร้อมกับkovea Adapter ใช้แปลงให้เตาใช้ได้กับแก็สกระป๋องยาว Butane220g.+Plastic Caseรุ่นใหม่
ราคา 1400.- รวมส่งEMS. หรือส่งถึงบ้าน/ที่ทำงาน ในกทม.
* จัดส่งแบบพัสดุไปรษณีย์เก็บเงินปลายทางมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม +100.-
** สินค้านี้ไม่รวมแก็สกระป๋องตามภาพ**




เปรียบเทียบเตา 2 ตัว







ปล. ไม่แนะนำให้ใช้เตา น้ำมัน+แก๊ส ในตัวเดียวกัน...เนื่องจากพบปัญหาซีลรั่วซึม

เตา F1 Multi-Fuel (รุ่นที่พบปัญหา)

ใช้ได้ทั้งแก๊สและน้ำมันเบนซินในตัวเดียว
1900 บาท



.

 

ThailandOutdoor Shop เป็นตัวแทนในประเทศไทยของสินค้าคุณภาพจาก Coleman ลองเชิญเข้าไปชมสินค้าโคลแมนได้ที่นี่เลยครับ



Arc Lantern

ตะเกียงที่นักสะสม

Coleman หมายปอง





ตราสินค้า Coleman ที่มีรูปตะเกียงเพื่อบอกจุดกำเนิดของบริษัทฯ



ถ้ามาตรวัดความสำเร็จของผู้ผลิตเตาและตะเกียงแคมปิ้ง วัดกันด้วยจำนวนเตาและตะเกียงที่ผลิตออกจำหน่ายแล้วละก้อ บริษัท Coleman ถือไ้ด้ว่าเป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลกครับ เพราะในช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาตะเกียงและเตาสนาม Coleman ได้มากมาย model ถูกผลิต-จำหน่ายออกขายไปทั่วโลกเป็นจำนวนหลายสิบล้านหน่วย

และถ้ามาตรวัดความสำเร็จของบริษัทผลิตอุปกรณ์กลางแจ้ง โดยรวมถึงความรุ่งโรจน์ของบริษัทในปัจจุบันแล้ว อันนี้ก็ต้องยกให้ Coleman เช่นกันครับ ในขณะที่ผู้ผลิตตะเกียงเจ้าพายุยักษ์ใหญ่ รายอื่นต้องม้วนเสื่อเลิกกิจการ หรือลดขนาดโรงงานลงเพื่อทำตะเกียงเจ้าพายุขายในตลาดเฉพาะเจาะจง ( Niche Market) ให้แก่นักสะสมหรือกลุ่มคนที่ต้องการแสงสว่างในที่ที่ไม่มีไฟฟ้า แต่ Coleman ก็ได้ผันจากธุรกิจทำตะเกียง-เตามาเป็นยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจผลิตอุปกรณ์ Outdoor Camping ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น กระติกน้ำ เตาปิกนิก เต๊นท์ เรือ!! รองเท้า!! ฯลฯ .. จนแทบจะไม่เหลือคราบของผู้ผลิตตะเกียงรายใหญ่ของโลกในอดึตเลยครับ ยกเว้นสัญญลักษณ์ตะเกียงที่คงอยู่ในตราสินค้า เพื่อบอกที่มาของ

บริษัทฯ ส่วนท่านที่อยากรู้ว่า Coleman ในปัจจุบันทำมาค้าขายอะไรบ้างก็ลองเข้าไปดูที่ http://www.coleman.com ได้เลยครับ



Sunshine of The Night

ตำนานของ Coleman เริ่มต้นเมื่อคุณ W.C. Coleman อดีตพนักงานขายเครื่องพิมพ์ดีด เกิดไปหลงใหลในโคมไฟ

"Efficient Lamp" คุณ Coleman ชายหนุ่มสายตาสั้นแต่วิสัยทัศน์กว้างไกลคนนี้จึงได้เริ่มธุรกิจจำหน่ายและ ให้บริการซ่อมตะเกียงเจ้าพายุในปี ค.ศ. 1900 และก่อตั้งบริษัท Hydro-Carbon Light ขึ้นในปี ค.ศ.1905 และผลจากการสั่งสมความรู้ประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงตะเกียงและมุ่งมั่นที่จะ ประดิษฐ์ตะเกียงเจ้าพายุเอง โคมไฟตั้งโต๊ะ Coleman รุ่น Air-O-Lite Lamp ดวงแรกก็ออกวางจำหน่ายในอีกสิบเอ็ดปีต่อมา (ค.ศ. 1911)




คุณ W.C. Coleman ผู้ก่อตั้งบริษัท Coleman




โฉมหน้าของ Coleman Air-O-Lite Lamp ที่เริ่มวางจำหน่ายในปี

ค.ศ.1911 (model A)



บริษัทได้ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Coleman Lamp และในปี ค.ศ. 1919 และหลังจากนั้น Coleman ได้สยายปีกของตนส่งตะเกียงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปบุกตลาดยุโรป



ตะเกียง Coleman ที่ผลิตและจำหน่ายในสหรัฐอเมริกานั้นเป็นตะเกียงน้ำมันเบนซินครับ อาจเป็นเพราะน้ำมันเบนซินนั้นเป็นเชื้อเพลิงที่แพร่หลายกว่าในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในช่วงปี ค.ศ. 193x ทาง Coleman ก็ได้หันมาเริ่มสายการผลิตตะเกียงน้ำมันก๊าด (ผลพวงจากตลาดยุโรป) โดยตะเกียงน้ำมันก๊าดเกือบทั้งหมดจะถูกผลิตโดยบริษัท Coleman ประเทศแคนาดา เนื่องจากประเทศแคนาดานั้นรับอิทธิพลในการใช้ตะเกียงเจ้ายุน้ำมันก๊าดมาจาก ประเทศฝั่งยุโรป เนื่องจากการใช้น้ำมันก๊าดมีความปลอดภัยสูงกว่า (ไวไฟน้อยกว่า)




(ภาพซ้าย) โฆษณาตะเกียง Coleman ในนิตยสาร Weekly News of India

ในปี ค.ศ. 1929





ตะเกียง Coleman รุ่น 220 ใส้คู่พิมพ์นิยม (ซ้าย) คู่กับตะเกียง Coleman รุ่น 200 พิมพ์นิยมใส้เดียว (ขวา)



ตะเกียงเจ้าพายุพิมพ์นิยมของ Coleman นั้นได้แก่รุ่น 220 ซึ่งเริ่มผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 มาจนถึง ปี ค.ศ.1968 โดยสิ่งที่โดดเด่นของตะเกียง Coleman รุ่นนี้และอีกหลายต่อหลายรุ่น คือเป็นตะเกียงไส้คู่ครับ ว่ากันว่าจุดประสงค์ที่ทำไส้ตะเกียงแฝดนั้นอย่างแรกเป็นการกำจัดเงาของเสา ส่งน้ำมัน (Generator) ที่อยู่ตรงกลาง และอย่างที่ 2 คือ เพื่อให้ความร้อนในการอุ่นน้ำมันในเสาส่งน้ำมันเพียงพอครับ ซึ่งตะเกียงเจ้าพายุใส้คู่นั้นถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของตะเกียง Coleman เลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าท่านเห็นตะเกียงเจ้าพายุ 2 ใส้ให้เดาไว้ก่อนได้เลยว่าเป็นยี่ห้อ Coleman (ตะเกียงยี่ห้ออื่นที่เป็น 2 ใส้ก็มีครับ แต่ไม่ได้มีมากรุ่นเท่า Coleman)



อย่างไรก็ตาม ตะเกียงที่ Coleman ภาคภูมิใจที่สุดน่าจะได้แก่ตะเกียง Coleman ไส้เดียวรุ่น 200 ที่มีสายการผลิตมากมายหลายรุ่น และได้ถูกเลือกให้เป็นตะเกียงในตราสินค้าของ Coleman ปัจจุบัน และตะเกียงรุ่นนี้ยังถูกผลิตออกมาจำหน่ายในรุ่น Centennial ในการฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งบริษัทฯอีกด้วย (เรื่องราวเกี่ยวกับตะเกียง Coleman 200 เขียนโดยคุณโก๋ อ่านได้ที่นี่ )




เตา Coleman Model1 เตาสนามตัวแรกของ Coleman และกลายเป็นแม่แบบของเตาน้ำมัน 2 หัวของ Coleman ในปัจจุบัน



From Lantern To Stove

หากจะนับจุดเริ่มต้นการเป็น Outdoor Company ของ Coleman แล้ว ปี ค.ศ. 1923 น่าจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสม เพราะ Coleman ได้เปิดตัวเตาสนามออกวางจำหน่ายหลังจากที่สายธุรกิจตะเกียงนั้นมั่นคงแล้ว ผนวกกับความนิยมในการ”ออกแค๊มป์”ของชาวอเมริกันได้เริ่มเติบโตขึ้นอันเป็นผล พวงจากธุรกิจรถยนต์ ที่เติบโตสูงมาก เมื่ออเมริกันชนมีรถรถยนต์ในครอบครอง การออกเดินทางท่องเที่ยวแบบ”แค๊ป์คาร์” และอุตสาหกรรมอุปกรณ์แค๊มปิ้งก็เติบโตเป็นเงาตามตัวครับ

เตาสนามตัวแรกของ Coleman ได้แก่เตา Coleman Model 1 ซึ่งเป็นเตาฟู่สนามสองหัว (ข้อสังเกตุ บริษัท Coleman นั้นเป็นบริษัทที่ชอบอะไรเป็นคู่ๆมากครับ ตะเกียงสองใส้ เตาสนามสองหัว ฯลฯ)

อย่างไรก็ตาม เตาสนามในยุคแรก (ค.ศ. 1923-1941) จะเป็นเตาขนาดใหญ่ประเภทเตา Campcar ครับ สิ่งที่ผลักดันให้ Coleman หันมาเริ่มผลิตเตาแค๊มปิ้งขนาดพกพกนั้นมาจากความต้องการของกองทัพสหรัฐฯใน การหาเตาประจำกายให้กับทหารของตนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (รายละเอียดอ่านได้จาก "เตาทหาร" ) โดยเตา Coleman GI Stove ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Coleman เป็นอันมาก ด้วยความทนทาน (แต่หนัก!) ภายหลังจบสงครามโลกแล้ว ทาง Coleman ก็ยังได้นำแบบ GI Stove มาผลิตเพื่อจำหน่ายให้ประชาชนใช้งานแค้มปิ้งในนาม “Pocket Stove” ครับ





ผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำให้ Coleman กลายเป็นเจ้าพ่อเตาแค๊มปิ้งพกพา “GI Stove”




แผ่นโฆษณาเตา Coleman Pocket Stove หรือ GI Stove รุ่นขายประชาชน ที่ผลิตจำหน่ายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2




เตา Coleman Peak1 ทัพหน้าของเตาสนาม Coleman ยุคใหม่



ถึงแม้ว่า Coleman ได้ผลิตและจำหน่ายเตาสนามมากมายหลายรุ่น แต่เตาสนามตัวแรกที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Coleman ว่าเป็น”เตาสนามยุคใหม่” ที่ออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัดประสิทธิภาพสูงเพื่อนักแบกเป้เดินป่าและนักปีน เขาได้แก่เตา Coleman Peak1 โดยเตา Peak1 นี้เป็นการย่อขนาดและลดน้ำหนักของ GI Stove ลง แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความร้อนสูงขึ้น ซึ่งเตา Peak1 นี้ถือเป็นเตาที่มีการออกแบบลงตัวดีมาก และเป็นต้นแบบของเตา eXponent ที่ผลิตจำหน่ายอยู่ในทุกวันนี้



Total “Outdoor Company”

คุณสมบัติประการหนึ่งที่ทำให้ Coleman เป็นบริษัทที่มีอายุยืนเกิน 100 ปี และเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด คือความสามารถในการอ่านใจอเมริกันชน และปรับ/ขยายผลิตภัณฑ์ให้รองรับความต้องการของลูกค้าครับ เมื่อระบบไฟฟ้ากระจายไปตามบ้านเรือนมากขึ้น Coleman ก็ปรับตะเกียงเจ้าพายุของตนให้เป็นแบบ Outdoor มากขึ้น และเมื่อกระแส Outdoor ของอเมริกันชนมาแรงมากในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Coleman ก้อ Go Outdoor เต็มที่ครับ

ผลิตภัณฑ์ Outdoor ที่แตกสายจาก ตะเกียง/เตาและกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกรู้จัก Coleman คือกระติกน้ำแข็ง (Cooler) ครับ โดยกระติกน้ำแข็งรุ่นแรกที่ผลิตจำหน่ายในปี ค.ศ. 1954 นั้นเป็นเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ และได้เปลี่ยนเป็นวัสดุพลาสติกในเวลาต่อมา ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณภาพการนอนกลางดินกินกลางทรายของ ชาวกลางแจ้งทำให้ยอดจำหน่ายกระติกน้ำแข็ง Coleman โตกระฉูด และ Coleman ได้เปลี่ยนคำนิยมของบริษัทจาก “แสงทิวาในยามราตรี”(Sunshine of the Night) มาเป็น “ไปเล่นนอกบ้านกันเถอะ” (Let’s Play Outside) นับแต่นั้นมา




กระติกน้ำแข็ง Coleman รุ่นแรกออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 1954 และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนไทยรู้จักชื่อเสียง Coleman มากที่สุด




กระติก Coleman ยุคใหม่ สีสันสดใสพร้อมใส่เครื่องดื่มแช่เย็นให้ความชื่นใจแก่ชนกลางแจ้ง








บริษัท Coleman ได้ปรับตัวเองจากบริษัทผลิตตะเกียง&เตามาเป็นบริษัทอุปกรณ์กลาง แจ้งอย่างเต็มรูปแบบ โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมีตั้งแต่ เป้ โต๊ะ-เก้าอี้สนาม เต๊นท์ เรือยาง! กระติกน้ำ เตา ตะเกียง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ Outdoor และอื่นๆอีกมากมาย



ทุกวันนี้แม้ว่า Coleman จะได้กลายเป็นบริษัท Outdoor Company ที่ผลิตผลิตภัณฑ์กลางแจ้งทุกแบบทุกประเภทจำหน่าย แต่ Coleman ก็ไม่เคยลืมที่มาของตนโดยยังคงผลิตตะเกียงเจ้าพายุทั้งแบบตะเกียงน้ำมัน เบนซิน น้ำมันก๊าด และตะเกียงแก๊ส จำหน่ายอยู่ครับ แถมหันมาจับตลาดนักแคมปิ้งรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบายด้วยตะเกียงหลอด LED ที่ปิดปุ๊บติดปั๊บ ไม่ต้องเติมน้ำมันและสูบลม ใช้งานได้ในห้องและในเต๊นท์โดยไม่ต้องกลัวปัญหาคาร์บอนได+มอนออกไซด์แต่ อย่างใดครับ




ตะเกียงเจ้าพายุโฉมใหม่ของ Coleman ที่ใช้หลอด LED และแบตเตอรี่




Quad Lantern นวตกรรมตะเกียง Coleman ใหม่ล่าสุด ความสว่างสูงถึง 190 ลูเมนและใช้งานได้ยาวนานถึง 75 ชั่วโมงทีเดียว



หนูเล, เมษายน 2552

ฉลองครบรอบ 10 ปีเวปไซด์ Thailand Outdoor

และฉลองการเปิดตัวร้าน ThailandOutdoor Shop








​

 

เมื่อถึงยุคภัยพิบัติเมื่อนานๆเข้าน้ำมันก็าด และน้ำมันต่างๆ ก็จะหาไม่ได้ ต้องพึ่งพิงธรรมชาติ เช่นมะพร้าว นำมาสกัดเป็นน้ำมัน โดยวิธีโบราณ ได้น้ำมันมาใช้ทั้งกิน และทำน้ำมันตะเกียงได้ เราต้องย้อนยุคไปดูภูมิปัญญาชาวบ้านเมื่อร้อยปีที่แล้ว เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดในภัยพิบัติ

ตัวอย่างตะเกียงโบราณแบบง่าย เป็นเหมือนหม้อดิน เติมน้ำมันมะพร้าว(หรืออื่นที่หาได้) ไส้ตะเกียงอาจจะใช้ผ้าหรือด้าย ลองสอบถามปู่ย่าตายายในชนบทดู จะได้ความรู้ในเรื่องนี้เยอะพอสมควร

​