- - - -ทำน้ำปะปาไว้ใช้เอง - - - ไม่ยากอย่างที่คิด - - -

โดย ไตรรงค์ ปิมปา​

​

ทุกวันนี้ การนำคลอรีนไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น การฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ นำไปใช้เป็นส่วนของน้ำยาล้างห้องน้ำ และนำไปใช้เตรียมน้ำสำหรับเลี้ยงกุ้ง ดูแล้วน่าตกใจนะครับ ไม่น่ายำมาใส่น้ำดื่มได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ถ้าใส่คลอรีนในปริมาณที่เหมาะสม คือใส่ประมาณ 2 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร (2 ส่วนต่อล้านส่วน) จะสามารถฆ่าเชื้อโรคในนน้ำดื่มที่เรากักเก็ยในภาชนะได้พอดี และไม่ทำอันตรายต่อผู้ที่นำน้ำนั้นไปดื่มด้วย แต่จะพบว่า น้ำยังคงมีกลิ่นฉุนของคลอรีน ถ้าไม่ชอบกลิ่นนี้ ก็สารมารถทิ้งไว้ค้างให้ระเหยไปก่อนนำมาใช้และดื่มได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วข้ามคืน
​

<center> <table id="AutoNumber1" border="1" cellspacing="1" width="696"> <tbody><tr> <td width="231">

​

</td> <td width="231">

​

</td> <td width="231">

​

</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#00ffff" width="231">ลักษณะ
• ก๊าซสีเขียว, เหลือง
• กลิ่นฉุน</td> <td bgcolor="#00ffff" width="231">ลักษณะ
• ผลสีขาวคล้ายแป้ง
• กลิ่นฉุน</td> <td bgcolor="#00ffff" width="231">ลักษณะ
• น้ำสีเขียวอ่อน
• กลิ่นฉุน</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#ccffcc" width="231">• เหมาะสำหรับ ระบบการผลิตน้ำที่ต้องมีผู้ดูแลเป็นชำนาญการ
• ต้องขอใบอนุญาตการใช้</td> <td bgcolor="#ccffcc" width="231">• เหมาะสำหรับระบบประปาหมู่บ้าน
• เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน
• หาซื้อได้ตามร้านขายเคมีภัณฑ์ทุกจังหวัด</td> <td bgcolor="#ccffcc" width="231">• เหมาะสำหรับในครัวเรือน
• มีอายุการใช้งานสั้นกว่าคลอรีนรูปแบบอื่น
• หาซื้อได้ตามร้านขายเคมีภัณฑ์ทุกจังหวัด</td> </tr> </tbody></table> </center> ​

น้ำที่เสี่ยงต่อการมีเชื้อโรคปนเปื้อน

<center> <table id="AutoNumber2" border="0" cellspacing="1" width="79%"> <tbody><tr> <td width="50%">น้ำในลำคลอง มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคสูงจากการที่มีมีสิ่งสกปรกไหลลงสู่ลำน้ำ และตัวน้ำเองก็มีเชื้อโรคปนเปื้นเนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาศัยอยู่</td> <td width="50%">

​

</td> </tr> <tr> <td width="50%">

​

</td> <td width="50%">น้ำในบ่อ มีการปนเปื้อนได้ จากน้ำที่ซึมมาจากดินใต้ฐานบ่อ และหากบ่อปิดไม่ชิด ก็จะมีการปนเปื้อนจากอากาศ และสิ่งของที่ตกลงไป</td> </tr> <tr> <td width="50%">น้ำฝน มีโอกาสปนเปื้นจากอากาศที่ฝนตกลงมาชะ จากภาชนะที่ไม่ทำความสะอาดก่อนนำมาเก็บน้ำ และปนเปื้นภายหลังจากอากาศ หรือสิ่งที่ตกลงมาหากไม่ได้ปิดฝามิดชิด รวมทั้งอาจมีการเติบโตของเชื้อโรค เชื้อรา พืชในน้ำต่างๆ ที่ล่องลอยมากับอากาศ และลูกน้ำหรือสัตว์อาศัยในน้ำต่างๆ </td> <td width="50%">

​

</td> </tr> </tbody></table> </center> ​

การเลือกซื้อคลอรีน
คลอรีนทั้งสามแบบสามารถนำมาใช้กับน้ำดื่มน้ำใช้ในบ้านได้ แต่การเลือกซื้อต้องดูความเหมาะสม ราคาไม่ควรแพงเกินไป เลือกซื้อจมปริมาณที่ใช้ เพราะคลอรีนมีการระเหย ระเหิด เสื่อมคุณภาพได้ และจะใช้ไม่ได้ผล หากใช้ไม่มาก ซื้อคราวละ ½ กิโลกรัมก็มีขาย หากใช้กับระบบประปา อาจซื้อแพ็คละ 20-50 กิโลกรัม ส่วน แบบก๊าซ ไม่เหมาะกับการใช้ในบ้านเรือน เนื่องจากราคาสูงและไม่ปลอดภัย
ตัวอย่างการใช้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคในบ้านเรือน
ควรทำตามขั้นตอนดังนี้

• ใส่น้ำที่กรอง หรือตกตะกอนจนใสแล้ว ลงในภาชนะที่ทำความสะอาดแล้ว เช่น โอ่ง แท้งค์น้ำ
  
• เตรียมปูนผลคลอรีนให้มีความเข้มข้น 2 มิลลิลิตร/ลิตร ดังนี้
  • ตักน้ำจากภาชนะมา 1 ขัน
    
  • ใส่ผงคลอรีนลงไป ½ ช้อนชา สำหรับน้ำ 8 ปี๊บ (1 ปี๊บ เท่ากับ 20 ลิตร) หรือเติมดังตาราง
    
  <table id="AutoNumber3" style="border-collapse: collapse;" border="0" cellpadding="2"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#66ff99">ปริมาณน้ำในภาชนะ</td> <td align="center" bgcolor="#66ff99">ปริมาณผงปูนคลรีน แบบ 25%</td> <td align="center" bgcolor="#66ff99">ปริมาณผงปูนคลอรีน แบบ 60%</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#66ffff"> 1 โอ่ง = 8 ปี๊บ</td> <td bgcolor="#66ffff">½ ช้อนชา</td> <td bgcolor="#66ffff"> 1/8 ช้อนชา</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#ccffcc">1 แท้งน้ำ = 50 ปี๊บ</td> <td bgcolor="#ccffcc"> ½ ช้อนแกง</td> <td bgcolor="#ccffcc"> 1 ช้อนชา</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#00ffff">1 แท้งน้ำ = 85 ปี๊บ (1.2 x 1.2 x 1.2 เมตร)</td> <td bgcolor="#00ffff"> 1 ช้อนแกง</td> <td bgcolor="#00ffff"> ½ ช้อนแกง</td> </tr> </tbody></table>
  • ใช้ไม้สะอาด คนกวนให้เข้ากันสักครู่ (ห้ามใช้มือกวน เพราะคลอรีนจะกัดมือ เนื่องจากคลอรีนมีความเป็นกรด จะบาดเจ็บเหมือนโดนน้ำกรด)
  • ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอนสัก 20 นาที
• นำน้ำปูนส่วนใส เทลงภาชนะแล้วกวนให้เข้ากันด้วยไม้ หรือท่อพีวีซีที่สะอาด
  
• ทิ้งไว้ให้คลอรีนทำงาน 30 นาที คลอรีนจะคงฤทธิฆ่าเชื้อเมื่อยังมีกลิ่นอยู่ หากใช้เครื่องมือตรวจให้มีค่าคลอรีน 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร
• ปิดฝาภาชนะไว้ให้มิดชิด เพื่อไม่ให้คลอรีนระเหยไปเร็วเกินไป และป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนจากภายนอก
  
• จัดวางภาชนะสำหรับตักใช้ในที่สะอาด เหมาะสม เช่น แก้วน้ำ ขันน้ำ หรือใช้การปิดจากก๊อกน้ำ กรณีใช้จากแท้งค์น้ำ หรือตุ่ม ภาชนะที่มีก๊อกน้ำ
• เติมคลอรีนได้อีก เพื่อคงฤทธิในการฆ่าเชื้อโรค เมื่อพบว่าน้ำไม่มีกลิ่นคลอรีนแล้ว
• หากไม่ชอบกลิ่นคลอรีน ให้เปิดภาชนะทิ้งไว้ประมาณ 12-18 ชั่วโมง คลอรีนจะระเหยไป และยังคงสะอาดได้อีกระยะหนึ่ง โดยต้องปิดภาชนะไว้ให้มิดชิด

---------------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นเพิ่มเติม จากประสบการณ์ตรง @ D2

ผมเคยโดนน้ำท่วมเมื่อปี 40 ที่ชุมพร หนักมาก เลยทำน้ำปะปาไว้ใช้เอง น้ำที่เราทำเองแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากวิธีการทำน้ำของการปะปา (อย่างน้อยก็มีน้ำล้างหน้า แปรงฟัน หุงข้าว )

ถ้าจะทำน้ำดื่ม เพียงตั้งทิ้งไว้ให้คลอรีนหมดกลิ่น(ตามข้อมูลด้านบน) แล้วก็นำไปต้มให้เดือด ก็ใช้ได้เเล้วครับ

สิ่งที่ต้องใช้
- คลอรีนชนิดผง ปริมาณที่ใช้ ให้ดูเปรียบเทียบจากข้อมูลด้านบนได้เลยนะครับ ซื้อมาสัก 2 - 5 ก.ก. ก็ได้ครับ(ถ้าเค้าแบ่งขาย)

- น้ำที่ท่วมในบ้านหรือหน้าบ้าน ยังไงก็ได้เเล้วแต่สะดวก ดูที่สะอาดที่สุด :boo: (ถ้าใครวิ่งรถผ่านคลองปะปาใน กทม. ก็ดูเอาเองนะว่า มันต่างจากน้ำที่ท่วมมั้ย ?)

- สารส้มแกว่งน้ำ 1 ก้อน ขนาดสักเท่ากำปั้น (ร้านขายยาแผนโบราณ)

- พาชนะใส่น้ำดิบ ขนาดสัก โอ่ง 1 ใบ หรือ 100 ลิตรก็ได้ตามสะดวก (ถังพลาสติกก็ได้)

- พาชนะใส่น้ำที่ตกตะกอนแล้ว อันนี้แล้วแต่ท่าน ว่าจะมีพื้นที่เก็บน้ำได้ ขนาดไหน ตามสะดวก(ถังพลาสติกก็ได้)

- สายยาง ขนาด ครึ่งนิ้ว หรือ 3/4 ก็ได้ ยาวสัก 3 - 4 เมตร เอาไว้ดูดน้ำที่ทำการตกตะกอนจากสารส้มแล้ว ถ่ายลงภาชนะใบใหม่ เพื่อใช้ในขั้นตอนใส่คลอรีน (ถ้าใช้ขันหรืออย่างอื่นตัก จะทำให้ตะกอนน้ำฟุ้ง)

---------------------------

อุปกรณ์ก็ประมาณนี้ครับ ส่วนอัตรส่วนผสมให้ดูเปรียบเทียบจากข้อมูลด้านบนได้เลยครับ

คลอรีนถ้าใส่เยอะก็ไม่เป็นไรครับ แต่มีผลเสียคือ ต้องตั้งทิ้งไว้นาน เพื่อให้หมดกลิ่นคลอรีน

มันจะช้าก็ตอน รอให้น้ำตกตะกอน และรอให้คลอรีนหมดกลิ่น

----------------------------

หลักการตามที่ผมเข้าใจก็คือ

- สารส้มทำน้ำดิบให้ตกตะกอน

- คลอรีนใช้ฆ่าเชื้อ

แค่นี้เองครับ ง่ายมั้ย จะรอให้ใครมาส่งน้ำคงไม่ทันแล้วนะจ๊ะ

-------------------------------------
พี่ ๆ ท่านใดมีความเห็นเพิ่มเติม ต่อยอดได้เลยครับ ช่วย ๆ กันครับ

 

งั้นต้อง อดใจรอให้น้ำเน่าผ่านไปก่อน คอยน้ำที่ประเมิณแล้วว่า สะอาดที่สุด

หรือไม่ ก็นำมา กรองด้วยถังใส่ทรายละเอียด ก็ได้ครับ ช่วยลดเรื่องเวลา (แต่ตอนนี้ทรายหายากแล้วนะ)

วิธีทำถังใส่ทรายกรองน้ำ ผมจำไม่ไ้ด้เเล้วว่าอยู่กระทู้ไหน

 

ขอบคุณมากครับ ผมจะลองไปหาดูอีกทีครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณครับ ที่มาเผยแพร่ ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย ลุยตลอดเลยครับ

 

สู้ต่อไป เพื่อคนที่เดือดร้อนลำบากกว่า ขอให้สิ่งศักสิทธิ์คุ้มครองคุณก้องด้วยครับ

ใจจริงผมอยากไปร่วมทีมช่วยเหลือกับเค้าบ้าง แต่สถานะการณ์ทางครอบครัวไม่
อำนวย

ส่งกำลังใจอย่างเดียวก็แล้วกันนะครับ สู้โว้ย !!

 

เป็นประโยชน์อย่างมากครับ ขออนุญาตเผยแพร่นะครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุครับ

ข้อมูลเป็นประโยชน์อย่ามากในสภาวะวิกฤติจากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ขออนุญาตนำไปเผยแพร่นะครับ

 

จริงๆ หาพวก ด่างทับทิมแบบผง เก็บไว้ใช้ ละลายน้ำ ก็ใช้ได้เช่นกันครับ

 

ตอนนี้ยังพอมีเวลานะคนกรุง ทดลองทำก่อนจะไม่มีเวลานะครับ

 

ถ้าตะกอนในน้ำเยอะ ให้ทำแบบนี้ก่อน แล้วค่อยนำมาแกว่งด้วยสารส้มอีกทีก็ได้ครับ


ZZ
ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด



วันที่สมัคร: Apr 2005
ข้อความ: 3,831
พลังการให้คะแนน: 3390


อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ยัย fame
น่ากลัวจัง.........แล้วเราพอจะสู้ไหวไหม............บ้าน 2 ชั้นพออยู่ได้ไหม.....ถ้าไม่ได้คงต้องถอยแล้วละ.......
แต่เมื่อเช้าฟังข่าวว่า.........กทม.รับมือได้.........ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้หาซื้อน้ำดื่ม ปลากระป๋องไม่ค่อยจะได้แล้ว.....หมดเกือบทุกห้าง
</td> </tr> </tbody></table>

ต้องตระเวณหลายห้าง...หรือซื้อที่ ตลาด / โชห่วย / 7-11....ครับ

น้ำดื่มอาจต้องใช้....การกรองด้วยทราย (slow sand filter) + คลอรีน (ร้านขายยา) + ต้ม


Wednesday, July 14, 2010

Slow Sand Filter

​

I built this slow sand filter for my water treatment - only problem was that the sand I got was probably 90% clay. It took two full weekends to wash enough sand for the filter. It's much easier when you have 300 school children helping out. This whole project was a bit of a pain, but gave me something to do. The pipes and the pipe fittings didn't fit together, then I had to find some metal rod to make the holes in the pipe. Cutting out the hole in the side of the bucket was kind of a pain, and after washing, making rubber washers out of motorcycle tubes, the thing LEAKED!! I messed with it yesterday (used PVC glue) and hopefully it doesn't pour water all over my floor anymore!

 

ให้ท่านทั้งหลาย...พิมพ์...ข้อมูลนี้เก็บไว้ด่วน...ครับ


.

 

ขออนุญาติดันขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาใหม่ และยังไม่ได้อ่าน:love:

 

ขอบคุณมากๆครับ...
มีกระทู้อะไรที่น่าสนใจ.. รบกวนขุดขึ้นมาให้อ่านกันอีกนะครับ..

 

เป็นประโยชน์ครับ แนะนำนิดนึงครับ ครอลีนเราสามารถหาซื้อได้ที่ ศึกษาภัณฑ์นะครับ