เชื่อหรือไม่ พระพุทธเจ้า, พระเยซู, พระนบีมูฮัมหมัด เป็นหนึ่งเดียวกัน?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 15 มิถุนายน 2007.

  1. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    แถมให้อีกนิดแล้วกันไอ้ท่านบ๊อง ทั้งคริสต์และอิสลามเขายังสอนให้ติดภวะตัณหาอยู่ ทั้งไม่ได้สอนให้ทำลาย กามะตัณหา ภวะตัณหา วิภวะตัณหา แล้วจะบรรลุธรรมได้ยังไง
    หวังว่าคงจะฉลาดขึ้นมาบ้างนะจ๊ะ ไอ้ท่านบ๊อง
     
  2. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,482
    มีอารมณ์ "เหงา" ด้วยรึ?
    (555)
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ความคิดและปัญญาคุณอนาคาริกนั้นดีถ้าคิดในแง่อื่น แต่จะสวนทางกับคำสั่งสอนของหลักศาสนาพุทธ ถ้าพระพุทธเจ้า, พระเยซู, พระนบีมูฮัมหมัด เป็นหนึ่งเดียวกัน? และทำไมไม่บันดานให้ทั้งโลกมีแค่ศาสนาเดียวกันไปเลยครับ จะได้ไม่ต้องมีสงครามทางศาสนาเหมือนอย่างอดีตและปัจจุบัน แปลก !!!!! ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2007
  4. กังขา ณ ปลาย

    กังขา ณ ปลาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +1,763
    ทุกครั้งได้แต่พูดว่า ไม่อยากจะยุ่งด้วยเลย.. แต่.. ก็...

    (i) (f)

    จะว่า แท้แล้วศาสนาไม่มีในโลก
    ...ยังไม่เข้าใจคำนี้ ว่าจขกท. จะหมายถึงอะไร

    แท้แล้วศาสนาเป็นเพียงบัญญัติ แล้วมาเรียกทีหลังว่าศาสนาอะไรบ้าง
    ...อันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะโลกก็คือบัญญัติ ศาสนาก็คือบัญญัติ แต่ละศาสนาไม่ได้แตกหน่อมาจากกัน เพียงแต่ แต่ละศาสดาพยายามสอนถึงสัจธรรมที่ท่านค้นพบ ซึ่งมีแต่ศาสนาพุทธที่พระพุทธองค์ค้นพบถึงที่สุด คือความว่างเปล่า

    ถ้าจะว่าศาสนาพุทธไม่ใช่เป็นเพียงศาสนาพุทธที่ให้ยึดถือ แต่เป็นการกล่าวสอนถึงสัจธรรมอันก้าวล่วงบัญญัติไป แบบนั้นจะไม่สงสัย พุทธแท้ คือพุทธะ ไม่ใช่หลักการให้ยึดถือใดๆ แต่ต้องปล่อยทั้งหมดทั้งสิ้น จึงจะเข้าถึง

    มีแต่พระสัพพัญญูเจ้าจึงจะอธิบายถึงปรมัตถธรรมและสมมุติธรรม ได้แจ่มแจ้ง ยิ่งกว่าผู้ใดทั้งปวง

    พระนบีมูฮัมหมัดคือพระเยซู ซึ่งก็คือ พระศรีอาริยเมตไตรย์มหาโพธิสัตว์
    ...คุณไม่มีทางรู้หรอก แค่เรื่องใกล้ตัว ยังไม่รู้เลย โดยเฉพาะประวัติของพระอชิตะ ซึ่งจักมาตรัสรู้เป็นพระศาสดาพระศรีอาริย์ในอนาคต ดูจะห่างไกลจากศาสนาอิสลามค่อนข้างมาก แม้ศาสดาในศาสนาอื่นจะเป็นโพธิสัตต์แห่งพุทธะได้ แต่เราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร.. นอกจากเป็นผู้... เออ.. แบบนั้นแหละ.. เข้าใจใช่มะ..

    เหตุใดพระศาสดาองค์อื่นไม่สอนเรื่องนิพพาน?
    ...และพระโพธิสัตต์นั่นแล เป็นผู้ควรสอนเรื่องนิพพานอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นผู้มั่นคงต่อโพธิญาณ แม้ไม่เอ่ยคำว่านิพพาน ก็ต้องเอ่ยถึงสภาวะแบบนั้น ไม่ว่าจะใช้ถ้อยคำใดสื่อสาร ถึงจะอธิบายอย่างสัพพัญญุตาไม่ได้ ก็ต้องแจ้งแถลงไขได้ ว่านิพพานเป็นอย่างไร พระโมฮัมหมัด พูดถึงนิพพานนะ ภาษาค่อนข้างสวยงาม เคยอ่าน มีเพื่อนเป็นอิสลาม .. แต่จำไม่ได้ละ ไม่ได้ก็อปไว้ คนที่เป็นอิสลามจริงๆ ก็เข้าใจถึงภาวะแห่งความรักและการเป็นหนึ่งเดียว แต่จะมีอิสลามแท้กี่คนในโลก ไม่ต่างจากที่คนเป็นพุทธแท้ ช่างหายาก แต่ก็ถือว่า ศาสนาพุทธ มีศาสดาเป็นถึงผู้เป็นเอกของโลก ผู้ที่สืบถอดศาสนาพุทธต่อๆ มาจากพระศาสดาเมื่อพระองค์ทรงปรินิพพาน ก็ล้วนแต่เป็นผู้มีบารมี


    ...ส่วนการสอนให้พ้นทุกข์ ไม่ใช่การสอนให้เอาชนะกิเลส แต่เป็นการดับกิเลสสิ้นเชิง เหนือบุญบาป สุขทุกข์ คือภาวะหลุดจากกรรมวิบาก

    ทุกขัง เป็นหนึ่งในสามัญลักษณะของไตรลักษณ์ คือความทนอยู่ไม่ได้
    ทุกขเวทนา เป็นการเสวยความไม่พึงพอใจ ทั้งทางกายและจิต บางคนได้เมียสวย ไม่พอใจก็มี
    ทุกขสัจ เป็นทุกข์ในอริยสัจ 4 คือการเกิดมาเป็นทุกข์ ด้วยรูปขันธ์ เหตุแห่งทุกข์

    นิพพานไม่ใช่ของยากเพียงกำหนดจิตว่างก็นิพพานได้?
    ... มันไม่ง่ายอย่างนั้น อาจได้เพียงนิพพานชั่วคราว นิพพานเป็นเรื่องของการทำลายกิเลส ไม่ใช่แค่ข่มหรือเอาชนะ แต่หมดกิเลส หมดตัณหา อุปาทาน ไป

    เพียงมีสติเห็นอนิจจังของชีวิตขณะตายก็ไม่เกิดอีกแล้วคือ "นิพพาน"?
    ...ไฉนคุณยังยืนยัน นั่งยันแบบนี้อยู่อีก อธิบายไปมากมายแล้ว คุณเห็นไตรลักษณ์น่ะ ช่วยให้ปล่อยวางได้ นิพพานไม่ได้ แต่การปล่อยวางนั่นแหละที่จะทำให้นิพพาน ปล่อยให้หมด แม้แต่ความคิด ปล่อยรูป ปล่อยนาม ปล่อยให้ได้..

    อ้างอิงที่คุณยกมา .. ภิกษุแก่และอาพาธมาก เพียรพยายามเพื่อนิพพาน แต่ไม่
    สำเร็จเพราะอาการอาพาธนั้นรุมเร้าหนัก เมื่อได้ถึงอภิญญา 5 แล้วก็เสื่อมลง
    อีกเพราะอาการอาพาธนั้น ดังนี้ ท่านจึงคิดได้ว่า หากเราตายลงขณะอภิญญา
    เสื่อมนี้ คงไปเกิดที่ใดไม่รู้ แต่หากตายลงขณะได้อภิญญา 5 นี้ยังได้อานิสงค์
    อย่างน้อยก็จุติที่พรหมโลก คิดดังนี้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายเสียแต่ยัง
    อภิญญาไม่เสื่อม ขณะกำลังจะตายนั้นเอง ก็ปลงตกเห็นอนิจจัง วางจิตนิ่งเฉย
    จิตไม่เป็นจุติจิต จึงไม่มีปฏิสนธิจิตเกิดอีก เป็นเพียง "ภวังคจิต" ไม่มีนิมิต
    จึงได้บรรลุอรหันตผล คือ กิเลสนิพพานขณะนั้นและดับขันธปรินิพพานต่อทันที
    <!-- / message --><!-- sig -->

    คุณลองอ่านที่คุณยกมาเองนั่นดู ว่าตรงไหนที่ทำให้นิพพาน
    และคุณพูดเรื่องกิเลสนิพพาน ไม่เคยเคลียร์... (nogood)


    ส่วนชื่อกระทู้ อันนี้ ก็ดูโอนะ ถ้าว่ากันแบบปรมัตถ์
    เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธเจ้าแน่ เราล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

    แต่ในสมมุติ ใครเป็นใคร คนที่รู้ได้ ไม่ใช่คนทั่วๆ จะมามั่วๆ ได้

    ตั้งหัวข้อปรมัตถ์ อย่าอธิบายแบบสมมุติ มันจับแพะชนแกะ จะทำให้เป็นไปไม่ได้


    ธรรมะรักษา ขอปัญญาจงเกิดแก่คุณ

    (i)
     
  5. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    เอาเข้าไป ผมไปพบท่านไม่ได้หรอก เพราะท่านอยู่โรงพยาบาลบ้า
    หลังจากตาย ก็ไปพบท่านไม่ได้อยู่ดี เพราะท่านต้องไปนรกขุมสุดท้าย
    สรุปคือ ถ้าไม่ได้ไป copy มา ก็ไม่สามารถแสดงธรรม ได้เลย ตามที่ขี้โม้ ขี้ฟันเอาไว้ ฮ่าฮ่าฮ่า
    "เรื่องอยากๆทำเป็นไหม"
    เป็นซิเป็น ผมทำเป็น ท่านก็ช่วยมาใกล้ๆหน่อยซิ กำลังอยากตบกะโหลกคน เพ้อเจ้อ หลงตัวเอง บ้า ไร้ยางอาย หน้าด้าน อยู่พอดีเลย ไอ้ท่านบ๊อง
     
  6. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    สรุปคือแสดงธรรมอะไรไม่ได้เลย
    ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเพ้อเจ้อว่าตน "ตรัสรู้""บรรลุธรรม" แล้ว
    ท่านมันไม่ผิดจาก นกแก้วนกขุนทองเลย ไอ้ที่ copy มาโพสต์ มายัดไส้เป็นคำพูดตัวเอง แล้วคิดว่าไม่มีใครจับได้นี่มันทุเรศมาก โดนจับได้แบบจะจะ หลายทีแล้วทำเฉยอีก นี่มันทุเรศจริงๆนะจะบอกให้
     
  7. babifun

    babifun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +81
    นิพพานแล้วก็ช่วยเหลือคนอื่นได้นะครับ
    แต่การช่วยเหลือนั้นมาจากปัญญา
    คือไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ความสุขจากการช่วยเหลือ
    แต่ช่วยเพราะพิจารณาแล้วว่าควรทำ
    (อยากให้พิจารณาครับว่าความสุขที่ไม่ใช่ที่สุดของมนุษย์
    เพราะเมื่อมีสุขแล้วก็ยังมีความต้องการที่จะได้ความสุขมาอีก
    เป็นวัฏฏะวนเวียนไม่จบไม่สิ้น
    แต่ถ้านิพพานแล้วจะช่วยเหลือมนุษย์ได้อย่างแท้จริงคือช่วยให้นิพพาน(หมดความต้องการ...ทำงานด้วยปัญญา))
    จะเห็นได้จากการที่แสวงหาความสุขมากๆก็ทุกข์แฝงที่เกิดจากความต้องการมีสุขมากเช่นกัน
     
  8. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +3,843
    ฮิๆ ลุงที่แอบอ้างเป็นพระศรีฯมาปล่อยไก่ ใช้ภาษาไทยให้วิบัติที่ห้องนี้อีกแล้ว (nogood)
     
  9. Enigma

    Enigma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2005
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +314
    ก็เพราะคุณไม่เคยศึกษาทางคริสต์ คุณก็เลยสรุปเอาแบบมั่วๆไง เอาเป็นว่าขอร้องทุกคนเถอะนะ เป็นคนพุทธไม่เคยเรียนรู้เรื่องศาสนาอื่นก็อย่าไปโจมตีเลย อย่าด่วนสรุป ให้พูดเรื่องอื่นดีกว่า เพราะต่างคนต่างไม่รู้ ต่างคนออกความเห็นเพราะความคาดเดา เพราะความไม่รู้ จะทำให้ยุ่งกันใหญ่ จริงๆทุกคนในเวบนี้ นิพพานก็ไม่เคยไป ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร มีใครอยู่ที่นั่นบ้าง ก็อย่ามาโต้เถียงกันดีกว่า ไม่เกิดประโยชน์ เอาเวลาไปปฏิบัติให้ไปถึงนิพพานไม่ดีกว่าเหรอ ให้เป็นอรหันต์หรือพระอริยะแล้วช่วยคนดีกว่านะ
     
  10. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +3,843
    ผู้อ่านทั่วไปคงสงสัยว่าทำไมลุงrawiphanถึงโดนอัดแบบนี้ ตามไปดูที่
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=74029
    แล้วจะรู้ครับ แกว่าแกเป็นพระศรีอาริย์ รู้แจ้งทุกเรื่อง แต่ละตำตอบcopyทุกศาสนามาตอบแบบข้างๆคูๆ วิปัสนูกิเลสครับ
     
  11. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    เอาเข้าไป ตามท่านไปโรงพยาบาลบ้าเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก
    จากโลกนี้ไป ตามท่านไปนรกเนี่ยนะ ท่านไปตัวเดียวเถอะ
    ว่าแต่ ไม่เห็นแสดงธรรมที่อ้างว่า "ตรัสรู้" "บรรลุ"แล้ว โดยที่ไม่ได้copyมา ให้อ่านบ้างเลย เห็นแถไป ก็แถมา อยู่เรื่อย ไอ้ท่านบ๊อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2007
  12. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +199
    พระพุทธเจ้า ท่านนบีมูฮัมหมัด และ พระบุตรเยซู ทรงเป็นศาสดา
    แต่ พระบิดา องค์อัลเลาะห์ พกาพรหม และพระศิวะ เป็นองค์เดียวกัน
     
  13. bookturbo

    bookturbo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +23
    ถูกครับที่บอกว่าพระทั้งสามศาสนานั้นค้นพบธรรมเดียวกันแต่ไม่ใช่องค์เดียวกัน แต่สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงทราบนั้นคือทุกส่วนของกฏธรรมชาติท่านรู้แจ้งเรื่องวัฏสังสาร แต่พระเยซูและนบียังไม่ทราบทั้งสององค์เพียงรู้วิธีปฏิบัติตนสู่อารยะบุคคลเท่านั้นยังไม่สามารถเข้าใจแตกฉานถึงเรื่องวัฏสังสาร จึงแตกต่างกันเรื่องความเชื่อเรื่องนิพพาน ทั้งสองศาสนาไม่เชื่อเรื่องนิพพานเพราะไม่รู้วิธี แต่พระพุทธองค์ทรงเข้าใจเรื่องนี้ดีรู้ตั้งแต่ เกิด คงอยู่ และแตกดับ เรื่องอะตอมต่างๆของจักรวาลนี้ดี ฉนั้นต่างกันมากครับแค่วิธีการเกิดขององค์ศาสดาทั้งสามก็ต่างกันมากมายอยู่แล้ว ทั้งเยซูและนบี ก็อาจเป็นแค่ผู้บรรเทาที่พระพุทธองค์ส่งมาเท่านั้น
     
  14. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ครั้งที่5แล้วนะ


    แล้วก็แถไปเรื่อยจนได้ เมื่อไหรจะแสดงธรรมที่อ้างว่า"ตรัสรู้"โดยที่ไม่ต้องไปลอกมาซะที เห็นเพ้อเจ้อไปเรื่อย แสดงไม่ได้ก็ยอมรับมาเถอะ ว่าทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง ผมเข้าใจว่าท่านวิกลจริต

    ป.ล.ถามเป็นครั้งที่5แล้วนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2007
  15. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2007
  16. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ไอ้ท่านฟายนี่มั่วไม่เลิกจริงๆ

    ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้ท่านบ๊องนี่มั่วไม่เลิกจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

    1. ไม่สามารถแสดงธรรมตามที่เพ้อเจ้อได้ถ้าไม่ได้ copy มา
    2. สิ่งที่copy มา ก็ไม่เคยทำความเข้าใจ พอให้อธิบาย ก็อธิบายไม่ได้เพราะ ไม่ได้เข้าใจเลยสักแต่ว่า copy (นกแก้ว นกขุนทอง)

    3.พอถูกจับได้ก็แถไปเรื่อย เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย หน้าด้านจริงๆ
    4.แล้วก็เลิกมั่วเลิกเพ้อเจ้อเถอะ ไอ้ท่านบ๊อง นอสตราดามุสเขาเขียนเป็นโคลงกลอน(the century)บทละ แค่ประมาณสี่บรรทัด บรรทัดละไม่กี่คำ แล้วท่านไปเอาคำแปลมาจากไหนเยอะแยะ ละเอียดขนาดนี้ มั่วนิ่มจริงๆ ไอ้ท่านฟายนี่
    5.ถ้าจะเพ้อเจ้อว่าตน"ตรัสรู้" ทำไมต้องเอาคำทำนายของผู้ที่ไม่มี แม้ศีล5 มามั่วนิ่ม
    6.ทำไมชีวิตท่านยังเหลืออีกตั้ง 14600 วัน มันยาวนานเหลือเกิน แผ่นดินต้องหนักอีกตั้งนาน ฮ่าฮ่าฮ่า

    ป.ล. เมื่อไหร่จะแสดงธรรมที่อ้างว่า "ตรัสรู้"แล้ว "บรรลุ"แล้วพร้อมทั้งอธิบายได้ สักที ( แบบcopyมาไม่เอา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  17. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    แถไปก็แถมา ช่างเป็นพญาบ๊อง เป็นควายในร่างคนจริงๆ
    มั่วไม่เคยมียางอายเลย ที่ไป copy มาหัดทำความเข้าใจด้วย ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ อธิบายสิ่งที่ไป copyมา ก็ไม่เคยได้ ไอ้ฟาย หน้าด้านจริงๆ
     
  18. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ท่านทั้งหลายดูความหน้าด้านของไอ้ท่านบ๊องมัน เอาชื่อนอสตราดามุสมาอ้างแล้วไส่คำพูดที่ตนแต่งขึ้งลงไปซะเยอะ ทีอย่างนี้มันเชื่อผู้ไม่รู้จักแม้ศีล5 แถมข้อความข้างบนยังลอกบางช่วงบางตอนของ bible เอามายัดไส้ ทั้งที ตอแหลไว้ซะเยอะว่าตน "ตรัสรู้แล้ว" เป้นพระศรีฯ ตน"บรรลุธรรม"แล้ว และค้านพระพุทธพจน์มาตลอด วันดีคืนดีก็เอาพระพุทธพจน์มาอ้าง ดูมัน ดูมัน ฮ่าฮ่าอ่า
     
  19. ปู่ของrawiphan

    ปู่ของrawiphan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +51
    น่าสงสารคุณรวิพันธุ์นะ ศึกษาธรรมะมามาก รู้มากด้วย แต่วางไม่เป็น ไม่รู้ไปปฏิบัติอิท่าไหน ? จนธรรมแตกแล้ว !!! (พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก)

    ต้องอุเบกขา แล้วละท่าน

    กมฺมุนา วตฺตตี โลโก
    สัตว์โลก ย่อมเป็นไป ตามกรรม
     
  20. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    สมเพศตัวเองเถอะยัง ครึ่งบกครึ่งน้ำ ประเภทหนึ่งเดียวในโลก ฮ่าฮ่าฮ่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...