มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 12 พฤษภาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พุทธพจน์เกี่ยวกับแผ่นดิน
    พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม 2 ทีฆนิกาย
    มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร
    [๙๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า .....
    ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ .....

    วิเคราะห์
    เมื่อดูจากลูกโลกแล้ว จะเห็นว่าพื้นดินบริเวณชมพูทวีป หรือแถบประเทศอินเดีย และเนปาลในปัจจุบันนี้นั้น จะเป็นดังในภาพข้างล่างนี้

    [​IMG]

    จะเห็นว่าคนที่อยู่บริเวณชมพูทวีปนั้น ถ้าสามารถมองทะลุพื้นดินลงไปได้ แนวสายตานั้นก็จะทะลุผ่านจุดศูนย์กลางของโลก (ที่ใจกลางโลก) ลงไป จนถึงผิวโลกอีกด้านหนึ่ง ทั้งนี้เพราะไม่ว่าคนจะยืนอยู่จุดไหนของผิวโลก ถ้าเขายืนตัวตรงแล้ว ลำตัวของเขาจะตั้งฉากกับผิวดินที่เป็นพื้นราบเสมอ (ผิวดินที่ไม่มีความชัน)

    เมื่อดูจากลูกโลกแล้ว จะเห็นว่าผิวโลกฝั่งตรงข้ามกับชมพูทวีปนั้น ก็คือมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาเหนือและประเทศเม็กซิโก และอยู่เหนือทวีปแอนตาร์กติกา บริเวณขั้วโลกใต้

    ดังนั้น ผู้ที่อยู่ที่ชมพูทวีป และสามารถมองทะลุพื้นดินลงไปได้ (ดูภาพด้านล่างประกอบ) ก็จะเห็นว่าพื้นดินตั้งอยู่บนน้ำ (มหาสมุทรแปซิฟิก) และเห็นว่าน้ำตั้งอยู่บนลม (ลมที่พัดที่ผิวน้ำทะเล) และเห็นว่าลมตั้งอยู่บนอากาศ (อากาศที่ถัดจากลมออกไป)

    ดังในภาพข้างล่างนี้ (ซึ่งคนจะรู้สึกว่าตนเองอยู่บนดิน ไม่ใช่ยืนตะแคงอยู่ข้างโลกดังภาพข้างบน จึงต้องหมุนโลกให้เหมือนคนอยู่ข้างบน ตามความรู้สึกของคนจริงๆ)

    [​IMG]

    ซึ่งจะเห็นว่าตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ทุกประการ

    บางท่านอาจจะแย้งได้ว่า การที่จะคิดว่าพื้นดินตั้งอยู่บนน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพื้นดินมีมหาสมุทรล้อมรอบอยู่แล้ว การที่จะจินตนาการไปว่าแผ่นดินเป็นก้อน ลอยอยู่ในน้ำ เหมือนเรือใหญ่ลอยอยู่ในทะเล ก็เป็นเรื่องที่จะเป็นไปได้เช่นกัน

    คำแย้งเช่นนี้ก็ฟังดูมีเหตุผลที่เป็นไปได้ แต่ถ้าพิจารณาถึงส่วนต่อไป คือ น้ำตั้งอยู่บนลม และลมตั้งอยู่บนอากาศแล้ว จะเห็นว่าถ้าไม่รู้ไม่เห็นจริงๆ แล้ว (โดยเฉพาะด้วยความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เท่าที่คนทั่วไปมีอยู่ในสมัยนั้น ซึ่งคงจะไม่รู้เรื่องแรงดึงดูดของโลก และแรงดึงดูดระหว่างมวล) ก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีคนจินตนาการได้ว่าน้ำจะสามารถตั้งอยู่บนลม โดยที่ลมนั้นตั้งอยู่บนอากาศได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะต้องคิดว่า น้ำก็จะร่วงไหลลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย และแผ่นดินก็จะต้องร่วงหล่นตามไปด้วย ใครเล่าจะคิดว่าน้ำจะสามารถลอยนิ่งอยู่ได้บนลม และบนอากาศ

    จากเหตุผล 2 ข้อข้างต้น ก็น่าจะพอสรุปได้ว่าพุทธพจน์ที่ว่า ..... มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ ..... นี้ น่าจะเกิดได้จากพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธเจ้าโดยแท้
    ธัมมโชติ
    3 กุมภาพันธ์ 2545

    ที่มา http://www.geocities.ws/tmchote/Thumma/Analysis/an013.htm
     
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เคยอ่านที่ อจ.มหาวิทยาลัยเขียน เขาบอกว่ามีพราหมณ์ถามพระพุทธองค์--ท่านตอบว่าแผ่นดินตั้งอยู่บนน้ำ ---คือมีน้ำล้อมรอบ พราหมณ์ถามจนถึงว่า "อวกาศตั้งอยู่บนอะไร" ท่านตอบว่า "ไม่ได้ตั้งอยู่บนอะไรเลย ผู้ถามเองก็ไม่รู้จริง" คือถ้อยคำมีจำกัด และความไม่ชัดเจนในการแปลอีก ภาษาดิ้นได้
    --ท่านบอกว่า โลกลอยอยู่เหมือนผลมะขามป้อม (แสดงว่าโลกเป็นทรงกลม)
    --จริงๆแล้วท่านรู้ทุกอย่าง แต่ได้เทศนาแต่เรื่องพ้นทุกข์ เหมือนใบไม้หนึ่งกำมือจากใบไม้ทั้งป่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  3. โพธิภูมิ

    โพธิภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +112
    แต่ถ้าเราลองคิดกลับกัน...ปฐพีคือพื้นดินหมายถึงโลกก้อนกลมๆทั้งก้อน ตั้งอยู่บนน้ำคือมหาสมุทรทั้งหมด ที่ห้อหุ้มดินทั้งหมดก็คือโลกไว้...ส่วนน้ำ ก็คือมหาสมุทรทั้งหมดก็ถูก ห้อหุ้มด้วยลมไว้...ส่วนลมก็ถูกห้อหุ้มไว้โดยอากาศก็คือชั้นบรรยากาศต่างๆ...ส่วนอากาศก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนอะไรเลยเพราะอวกาศก็คือความว่างไม่มีที่สิ้นสุด....โลกจึงลอยอยู่ดั่งผลของมะขามป้อมฉะนี้แล....สาธุ สัพพัญญูความรู้แจงของพระพุทธองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ
     
  4. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +3,882
    สาธุครับ ท่านอธิบายได้ดีมาก
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๐ หน้าที่ ๙๐/๒๖๑
    [๙๗] ครั้งนั้น พระอานนท์ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ เหตุไม่เคย
    มีมามีขึ้น แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้ แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้จริงๆ ความขนพองสยองเกล้าน่าพึงกลัว
    ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอเป็นปัจจัย
    สำหรับให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว
    ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อย
    แล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ เหตุไม่เคยมีมามีขึ้น แผ่นดินใหญ่นี้ไหว
    ได้ แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้จริงๆ ความขนพองสยองเกล้าน่าพึงกลัว ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น
    อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอเป็นปัจจัย สำหรับให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    [๙๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรพระอานนท์ เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘
    ประการเหล่านี้แล เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ๘ ประการเป็นไฉน ฯ
    ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ สมัยที่ลม
    ใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ ย่อมยังน้ำให้ไหว น้ำไหวแล้ว ย่อมยังแผ่นดินให้ไหว
    อันนี้เป็นเหตุ เป็นปัจจัยข้อที่หนึ่ง
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ ถึงความเป็นผู้ชำนาญในทางจิต
    หรือว่าเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เขาเจริญปฐวีสัญญา เพียงเล็กน้อย เจริญอาโปสัญญา
    อย่างแรงกล้า เขาย่อมยังแผ่นดินนี้ให้สะเทือนสะท้านหวั่นไหวได้ อันนี้เป็นปัจจัยข้อที่สอง
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใดพระโพธิสัตว์จุติจากชั้นดุสิต มีสติสัมปชัญญะ
    ลงสู่พระครรภ์พระมารดา เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว
    อันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่สาม
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระโพธิสัตว์มีสติสัมปชัญญะ ประสูติจากพระครรภ์พระมารดา
    เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่สี่
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
    เมื่อนั้นแผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่ห้า
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระตถาคตให้อนุตรธรรมจักรเป็นไป เมื่อนั้นแผ่นดินนี้
    ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่หก
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระตถาคตมีพระสติสัมปชัญญะ ทรงปลงอายุสังขาร เมื่อนั้น
    แผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่เจ็ด
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เมื่อนั้น
    แผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้เป็นเหตุเป็น ปัจจัยข้อที่แปด
    เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
    ดูกรอานนท์ เหตุ ๘ ประการ ปัจจัย ๘ ประการ เหล่านี้แล เพื่อให้แผ่นดินไหว
    ใหญ่ปรากฏ ฯ
     
  6. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    แล้วไม่รวมกับแม๊กม่า เหรอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...