ขอคำแนะนำในการปฏิบัติค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปิยะคุณ, 23 พฤษภาคม 2012.

  1. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391

    อยากจะขอคำแนะนำ ชี้แนะ ค่ะ คือ ช่วงก่อนนี้ ตกค่ำ เราจะเข้าห้องพระปฏิบัติ

    ธรรมได้ ใช้เวลาพอสมควร ไม่มีอาการง่วง แต่ระยะหลัง ๆ อย่าว่าแต่นั่งสมาธิ

    เลยค่ะ แม้แต่สวดมนต์เองก็ตาม บางที สวด วกไปวนมา เพราะเกิดอาการง่วง

    นอน ยิ่งหนไหน สมาทานกรรมฐานเสร็จแล้วเริ่มนั่งภาวนา จิตก็เริ่มทิ้ง กายก็

    เริ่มทิ้งตัว จะหลับท่าเดียว ฝืนไม่ไหว เลยอุทิศบุญแล้วออกมานอน กลับนอน

    ไม่หลับ ตาค้าง ตื่นซะอย่างนั้น เคยลองภาวนาต่อ ดันอยากหลับทันที

    บางทีคิดไปเองว่า คงพักผ่อนไม่พอ แต่ถ้าไม่เริ่มคิดเข้าห้องพระ อยู่ถึงเที่ยง

    คืนก็ทำได้ อยากสอบถาม ขอคำชี้แนะค่ะ เวลานี้เหมือนตัน ๆ หมดกำลังใจยัง

    ไงไม่ทราบ ได้แต่ภาวนาไปเรื่อย ๆ ระหว่างวัน เช่น ทำงานบ้านก็ภาวนา กวาด

    บ้าน - ถูบ้านก็ภาวนา ไป รบกวนขอคำชี้แนะด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เปลี่ยนเวลาครับ......จากสวดก่อนนอนมาสวดตอนตื่นนอนใหม่ๆ....หลับให้เช้าลงครับ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2012
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    แนะนำให้นอนทำสมาธิ + เจริญสติ ครับ
    มันจะหลับ ก็หลับไปเลย
    ถ้ามันไม่หลับ ก็กำหนดสติ ตามดูไว้ตลอด
    โจทย์คือ ตอนที่ร่างกายหลับลงไป ตอนนั้น หายใจเข้า หรือ หายใจออก อยู่?
     
  4. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    -----------------------------------
    ก่อนหน้านี่ สวดมนต์ตอนเช้า ปฏิบัติธรรมตอนค่ำ มาระยะหลัง ปฏิบัติธรรมตอนค่ำนี่แทบตัดไปได้เลยค่ะ สงสัยต้องเปลี่ยนมาปฏิบัติตอนบ่าย ๆ หลังจากเสร็จงาน แต่ก็กลัวว่าจะไม่รอด เพราะใจมันไม่สงบแน่ ๆ --- ขอบคุณมาก ๆ ค่ะสำหรับคำแนะนำ
     
  5. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ------
    เคยทดลอง สมาทานจบ แล้วก็เริ่มนอนภาวนา ถ้าหากเราตื่นมาตอนกลางดึก คำภาวนาก็ยังคงภาวนาต่อ แต่ถ้ารู้ตัวเวลาเช้า คำภาวนาจะหายไป อาจเป็นเพราะจิตที่กังวลกับภาระตอนเช้าก็เป็นได้ --- ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ ^ ^
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    จริงๆ เจ้าของกระทู้ ลงมือปฏิบัติธรรม ได้หลายอย่างแล้ว แต่....

    ลืมทำความเข้าใจว่า เราปฏิบัติเพื่ออะไร

    เราปฏิบัติธรรม ลงมือกระทำ ทุกอย่าง เพื่อให้ประจักษ์ในสิ่งที่ทำเหล่านั้น
    มันแสดงเป็น ทุกขสัจจ ให้เห็น

    เช่น สวดมนต์ บริกรรม นอนลงไป ตื่นมา อ้าวมันยังอยู่ เนี่ยะ เล็งเห็น
    ได้ไหมว่า มันอยู่เพราะ มันเป็นทุกข์

    หรือแม้ว่า มันจะไม่อยู่ มันก็เป็นทุกข์ เหมือนกัน ไม่ต่างกัน

    ************

    ที่นี้ เขาให้พิจารณา สภาพปัจจุบันธรรม รู้เอาตรงนั้น เดี๋ยวนั้น ดังนั้น อย่าปรุง
    แต่งการปฏิบัติเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น มันจะทำให้เกิด อริยาบทของวาระจิต ทำให้
    เกิดการ ปิดบังทุกข์

    เช่น "เช้ามาคำภาวนาหายไป เพราะจิตกังวลกับงานก็เป็นได้" เนี่ยะ อะไรอย่างนี้
    ไม่ต้องไปสาวหาเหตุแบบนั้น เอาแต่ ตื่นเช้ามา รู้ไปตรงๆว่า จิตยังพิจารณาย้อน
    เข้ามาดูในๆ(ยังอยู่) หรือว่า ส่งออก(หายไป) รู้ไปตรงๆเลย

    เพราะถ้าไปเผลอ ปรารภว่า อ๋อ เพราะจิตมันกังวลงานมั้ง อะไรแบบนี้ จะโดนกิเลส
    มันหลอกให้ ท้อใจ

    ทำไม ท้อใจ

    เพราะ เราตื่นมาต้องไปทำงานทุกวัน

    มารมันเลย เอา ความเข้าใจเรื่อง "อ๋อ เพราะจิตกังวลงาน" มาหยอดใส่หัวเรา

    หากมันหยอกสำเร็จ แล้ว เราเผลอเข้าใจว่า นี่คือตัวปัญญา เสร็จเลย!!

    ก็เราต้องตื่นไปทำงานทุกวัน มันก็จะทำให้เรา เกิดการดำริย้ำแบบไร้กลิ่นไร้สี
    (ยาพิษ)ไปทุกๆวัน ความท้อใจมันย่อมปรากฏให้เห็นเนืองๆ เอาหนะสิ

    พอความท้อใจปรากฏให้เห็น แล้ว เราไปคว้ามาเป็นเรา เอาการดำรินี้มาเป็นเรา

    ก็เรียบร้อย

    ปฏิบัติตอนไหน ก็มีแต่ รู้สึกว่า ห่างไกลความเจริญ

    แท้ที่จริงๆแล้ว ผลิกดูมันให้ห่างๆ ในสิ่งที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเช้า จะเย็น จะนอน
    จะตื่น จะกวาดบ้าน จะถูเรือน เอาสิ่งที่เห็น ปัจจุบัน นั่นแหละ เป็นสิ่งระลึก
    รู้เข้าไปตรงๆเลย ก็จะภาวนาได้แบบ ผลิกฟ้าคว่ำกะลา กันเลยทีเดียว
     
  7. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ----------------------
    คำตอบชัดเจนเลยทีเดียว อนุโมทนาบุญในการให้สติ - เตือนสติ ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ บางทีก็หลงลืมไปว่า หนนั้น ทำอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่กิเลส หนนี้พอมันไม่ได้อย่างที่เคย ใจมันก็ดิ้นรน มารเข้าแทรก จิตปรุงแต่ง เพ้อเจ้อไปต่าง ๆ นานา จริงดั่งคุณว่าไว้ไม่ผิดเลย ขอบคุณมากมาย

    ดิฉันคงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่กับกับการปฏิบัติของตัวเอง ว่าเพื่ออะไร ^ ^
     
  8. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    กำหนดอารมณ์ในการทำสมาธิใหม่....

    อย่าปล่อยให้อารมณ์อ่อน จะทำให้เคลิ้ม เหมือนตอนใกล้จะหลับ แล้วมันก็จะหลับจริง ๆ

    หากมันไม่ยอมตื่น เดินจงกรมเสียก่อน กำหนดใจให้รู้พร้อมในการเดิน จิตก็จะเป็นปัจจุบัน

    อารมณ์ (กำหนดให้จิตพร้อม ตื่น เหมือนตอนที่กำลังจะออกสตาร์ท 100 เมตร ....ระวัง )

    หากทำกิจกรรมใด ๆ ก็ให้รู้อยู่ที่อาการกระทำนั้น ไม่ต้องภาวนาอะไร นอกจากรู้ที่การเคลื่อนไหว

    ของกาย หากเราบริกรรม รู้ที่คำบริกรรมมันก็ไม่เห็นอาการที่กายกำลังเคลื่อนไหวอยู่ จิตโดด

    ไป โดดมา มันก็ไม่นิ่ง ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของกาย แต่ไปรู้อยู่ที่คำบริกรรมแทน มันก็เป็นการคิด

    ไม่ใช่อาการที่รู้อยู่กับการกระทำทางกาย .......กายคตาสติ

    ขณะที่นั่งทำสมาธิก็ทำใจให้เป็นกลาง ๆ อย่าใจเร็วด่วนได้ ...ดู รู้ การหายใจ เข้า - ออก ไม่ต้องเพ่ง

    ความสบาย เกิดจากเราทำใจให้สบาย เป็นกลาง ๆ ไม่ต้องสวดมนต์มากมาย แค่ บท

    พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ก็พอ การปฏิบัติเป็นการบูชาที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว น่าจะพอ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2012
  9. kridda

    kridda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +48
    เป็นข้อพิจารณาครับ

    ถีนมิทธะ คือ ความง่วงเหงาหาวนอน หดหู่ เซื่องซึม เกิดมาจากความไม่ยินดี ความเกียจคร้าน ความอ่อนเพลีย การกินอาหารมากเกินไป จิตหดหู่ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือทำงานหนัก แก้โดยอุบายแก้ง่วง 8 ประการ ตามที่พระโมคคัลลานะได้รับคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า
    (สรุปโดยย่อ)
    1.ให้มีสัญญา คือ ตั้งสติสัมปชัญญะ ความรู้ตัว ถ้ายังไม่หาย
    2.ให้นึกถึงธรรมะที่ได้ฟังมา นำมาพิจารณาใคร่ครวญแก้ง่วงไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่หาย
    3.ควรสวดมนต์ ในบทที่ตนเองจำได้ ถ้ายังไม่หาย
    4.เอามือยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว ถ้ายังไม่หาย
    5.ให้ลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ ถ้ายังไม่หาย
    6.ให้ทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือนึกถึงแสงสว่าง ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้นึกในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น เปิดใจนึกถึงแสงสว่าง ถ้ายังไม่หาย
    7.เดินจงกรม กลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ เอาใจไว้ในตัว ถ้ายังไม่หาย
    8.ให้สำเร็จสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในการนอน ว่าเมื่อหายง่วงหายเพลีย เราจะลุกขึ้นมาทำความเพียรต่อ
     
  10. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    -------------------
    ขอบคุณมากค่ะ จะนำไปปรับใช้ให้เกิดผลนะค่ะ อนุโมทนาในคำแนะนำด้วยค่ะ
     
  11. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    -----
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับอุบายทั้ง 8 นี้ แล้วจะนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์นะค่ะ อนุโมทนาบุญในน้ำใจที่ค้นหาบทความนี้มาให้อ่านเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติด้วยนะค่ะ
     
  12. tai chi

    tai chi เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    526
    ค่าพลัง:
    +3,053
    ผมก็เป็นครับ ก็เลยนอนก่อน 30 นาที - 1 ชั่วโมง แล้วอาบน้ำหรือล้างหน้าก่อน แล้วค่อยปฎิบัติ ก็ได้ผลครับ :cool:
    ขอเสีย คือ หลับยาวเลยเวลา ครับ:mad:

    ลองดูครับ
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  13. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ทำงานบ้านไปก็ภาวนาได้ ภาวนาทุกกริยา ได้ก็ดี เพราะจะช่วยให้นั่งสมาธิง่ายขึ้น เวลานั่งสมาธิก็ไม่ต้องอะไรมากเลยสวดมนต์นิดเดียว นั่งนิดหน่อย จบครับ
     
  14. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    -----------------
    ตอนแรกรู้สึกกังวล แต่พออ่าน ๆ หลาย ๆ ความเห็น สิ่งที่ได้มาก็คือ แรงใจ มากมาย แสดงว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียว " โลกของพระธรรม มันช่างอบอุ่นนัก " ขอบคุณนะค่ะ สำหรับความเห็น อนุโมทนากับคำแนะนำที่เหมือนจะเป็นกำลังใจ :cool:
     
  15. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    --------------------
    ค่ะ ช่วงนี้ก็ทำแบบนี้ไปก่อน ให้ผ่านช่วงนี้ไป เดี๋ยวอารมณ์นั้นก็คงจะหายไป ทีจริงตัวเราเองไม่เคยเดินจงกลมเลย ภาวนาเอาพุทธานุสติก็มีบ้าง แต่เอาเป็นเรื่องเป็นราวนั้นไม่มี เมื่อต้นปีพี่ท่านนึงบอกว่า หลวงพ่อให้หนูเดินจงกลมนะ ...... จากนั้นก็เป็นอย่างที่เล่า จนนำมาซึ่งความไร้สติ ยังดีที่วันนี้ได้หลาย ๆ ความคิดเตือนสติ ขอบคุณมากนะค่ะ อนุโมทนาในคำแนะนำด้วยค่ะ
     
  16. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ก้มีอีกวิธีหนึ่งคือ ทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิม2 ชม. 6 โมงเย็นหรือ1 ทุ่มเริ่มทำได้แล้ว ทำแบบสั้นไม่นาน ไม่เกินครึ่งชม. คิดว่าน่าจะพอทนง่วงไหว ถ้าให้ดีก้อิติโสสัก1 จบ ก่อนจะนั่ง
    บางกท. ยิ่งนั่งยิ่งนอนไม่หลับ บางกท. นั่งเมื่อไร ก้ง่วงเมื่อนั้น

    เดินจงกรมประโยชน์ 5 ข้อใหญ่ดังนี้
    ซึ่งประโยชน์นี้มีให้เหนได้ ในหลายๆ เว็บ
    ถ้าจะเดินจงกรม ก้สัก 10-15 นาทีก้พอ ถ้าไหวก้เดินนานกว่านี้นิดนึง
     
  17. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ---------------
    ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ เมื่อคืน ลองใหม่ ก็ผ่านไปได้ แต่ไม่ดีนัก แต่ก็ดีกว่าทุกวัน จะลองปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อนุโมทนาบุญในสิ่งที่นำมาให้อ่านและคำแนะนำด้วยนะค่ะ
     
  18. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    การตั้ง สัจจะ เป็นด่านแรก ของผู้ฝึกตน
     
  19. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    -------------
    ขอบคุณมากค่ะ อนุโมทนาบุญที่แนะนำนะค่ะ
     
  20. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ถ้าทำติดต่อครบ 3 วันคงจะดีมาก ...เอาใจช่วยสำหรับคนที่ตั้งใจจริง....:cool: คำว่าไม่ดีนัก แต่จริงๆแล้วกำลังจะดี เปนการปรับจิตให้เข้าที่
    เมื่อกำลังจะเข้าที่ ก้เลยดูเหมือนดีบ้างไม่ดีบ้าง ออกจะไม่ดีเสียมากกว่าก้ให้คิด
    ว่าเท่านี้ "โอเคแล้ว." เป็นการได้มาแบบทีละนิดๆ ๆ เหมือนกำลังค่อยๆขึ้นบันได ก้าวช้าๆ จึงจะก้าวผ่านไปได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...