ช่วยคนที่เรารัก....จากความตาย (ประสพการณ์จริง)

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Samy, 4 มิถุนายน 2012.

  1. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    อนุโมทนาสาธุคุณSamyครับที่นำธรรมทานมาเล่าสู่กันฟัง ขอให้ผลบุญที่คุณSamyเผยแผ่เรื่องรายเหล่านี้จงส่งผลให้คุณSamyเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  2. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    ต่อให้จบครับ น้ำตาลลดต่ำ เอาแล้วพ่อจะไม่อยู่จริงๆใช่ไหม ยังไม่ทันออกพรรษษาเลยครับเดือนชนเดือนพ่อเข้า โรงพยาบาลอีแล้ว คราวนี้ให้เลือดด้วยครับ ๒ ยูนิท ดีขึ้นได้ยาบำรุงเลือดมาท่าน ช่วง ๒ ปีสุดท้ายในชีวิตพ่อมันไวมากครับ พ่อทำงานไม่หยุด เริ่มแต่บวชลูกชาย ทำบ้านตัวเองพี่สาวคนโตว่าจะกลับมาแต่งงาน ทำบ้านรอ ผมบวชอยู่ได้ ๘ เดือนก็เอาหละ พ่อดูสังขารร่วงโรยไปมาก ต้องสึกไปเป็นเพื่อนแกเลยครับ เอาหละจบกันชาตินี้ครองผ้าเหลืองได้เท่านี้ก็ดีใจแล้ว ๘ เดือน ๑ พรรษา ใบประกาศนักธรรมตรีอีก ๑ ใบไม่เสียเวลาป่าว เร่งเลยครับท่าจะช้าไม่ได้ ผมบนกระบานนังขึ้นไม่ดีเลย นั่งสปิ้นเตอร์ไปลงพิษณุโลก ต่อสองแถวไม่ ๖ ล้อ หน้าถานีรถไฟ ดิ่งไป อ.กงไกรลาศ อย่าช้าที ไปทำไมครับ ขอสาวแต่งงาน หัวใสแจ๋วไปเลย ไม่ได้บ้ากามหรืออะไรครับ สาบานได้เลยว่าผมคิดไว้เรื่องเดียวคือ ให้พ่อเบาใจว่าเรามีคู่ มีครอบครัวได้ก่อนที่ท่านจะลาจากเราไป คิดแค่นั้นจริงๆครับ อย่าให้พ่อได้ลูกสะใภ้ที่ดี คนดี ให้แกเห็น ในเวลาต่อมาพ่อผมไม่เรียกผมกินข้าวครับ เรียกลูกสะใภ้กินข้าว ซื้อไก่มา ๔ ไม้ หมา ๒ ไม้ ปกติโควต้าผม ๒ ไม้ที่เหลือ เรามีครอบครัวแล้วต้องแบ่งให้ แฟนอยู่แล้ว ยังไม่ทันกินเลย แบ่งให้น้อยบางนะ น้อยยังไม่ได้กิน..หิ้วขนมผ่านหน้าเราเฉยเลย สรุปผมทำสำเร็จพ่อรักแฟนผมเหมือนลูกคนนึง มากกว่าผมเสียอีก แม่บอกว่าลูกเราไม่ดีอ่ะ ลูกเขย ลูกสะใภ้ดีกว่า นั้นไง เอาหละพ่อมีความสุขแล้วผ่าน ปี ๒๕๕๓ พ่อแต่งานลูกสองคนเลย ผม กุมภาพันธ์ พี่สาวคนโต กรกฎาคม พ่อพูดในงานแต่พี่สาวว่า "ผมได้เห็นลูกเขย และลูกสะใภ้ที่น่ารักทั้งสอง ผมหมดห่วงนอนตายตาหลับแล้วครับ" หลังจากนั้น พ่อทำบ้านอีก ปลูกบ้านใหม่ให้ผมอยู่ ในรั้วเดียวกัน เราเป็นครอบครัวใหญ่ขึ้น เปิดร้านขายของไว้หน้าบ้าน แฟนผมจะได้ไม่ต้องไปไหน เป็นแม่บ้านดูแลบ้าน ผมเองก็ช่วยบ้างในบางโอกาส เพราะว่าถ้าเขาอยู่ตัว ก็จะปลีกตัวไปทำสวนที่ตนเองชอบและตั้งใจไว้ตั้งแต่เรียนเกษตร ว่าเราต้องมีฟาร์มเป็นของตนเองกับเขาให้ได้ ๑ ปีผ่านไป ผมทำกับข้าวให้พ่อกินประจำ อะไรที่แกชอบหามา ให้สมกับโอกาส และคำอธิฐานขอพระในโบสถ์เมื่อครั้งบวชอยู่ ลูกไม่รวยนะ ไม่มีเงินให้พ่อใช้ แต่ขออยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหน ท่านเลี้ยงเรามา ยี่สิบกว่าปี อีกกีปีที่เหลือ ชีวิตพ่อ วัย ๗๑ ปี จะอยู่กับผมอีกกีปีผมไม่สน แต่รู้แน่ว่าแป๊ปเดียว ก้านไม้ขีดที่เกินมา ๗๓ ก้านนั้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เอาหละชอบไร เทียวที่ไหน กินอะไร ไปกัน(พ่อเลี้ยงนะ) นั้นแหละผมหละ เข้าปลายปี ๒๕๕๓ พ่อดูร่วงโรยผิดหูผิดตามากเลย เดินเหมือนคนเมา แต่ไม่เมานะ พอต้นปี ๒๕๕๔ พ่อสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกครั้ง คราวนี้ได้สติ ไม่ยอมให้อุ้ม นั้นๆไงเก่งอยู่ ปัดมือผมออกใส่กางเกงผูกหูกางเกงไม่ได้ครับ สั่นทั้งตัว น่ากลัวมากครับ ตัวเย็น ตัวขาวซีด ไม่ได้ ตอนนั้นขายรถหมดครับ ๒ คัน เก่าสนิท เฟียส คันประวัติศาสตร์ และ เปอโย ๕๐๕ อีกคัน หมดสภาพรอซื้อใหม่ ทำยังไงดี ต้องโทรเรียก เฮียปอ มารับครับ จับมัดใส่เปรขึ้นรถเข้าโรพยาบลเลย ไปถึงหมองงครับ เลือดหาย พ่อเลือดหายได้ไง ไม่ถึงปีเลือดหมดตัวอีกแล้ว นี่อันนี้สำคัญแต่เราไม่ทราบว่าคืออะไร ให้เลือดก็จบ จริงครับ ๗ โมงเช้าซ้อนมอไซด์กันกับบ้านเฉย หมอสงสัยแล้วแต่ไม่ว่าอะไร แม่บอกว่าถ้าใครเป็นอะไรอีกจะทำยังไง เฮียปอมาบ้านแต่ละที มันดูไม่ดีเท่าไหร่ มาที ๒ คัน คันละ ๕ คน อันนี้ไม่ได้ว่านะ แต่ชาวบ้านเขาแตกตื่น ตกใจ ไซร์เลนวับวาวไปทั้งซอย เลยต้องซื้อรถใหม่ ออกเลยไม่ฟังคำเสียงครับ ออกเดือนพฤษภา วันเกิดแกเลย แกได้ใช้จริงๆครับ ๓ เดือน สิงหาคม พ่อเสียเลย นี้หละครับบ้างอย่างในชีวิตเรา รอนานไม่ได้ จดจด จ้องจ้อง หมาคาบไป...รับประทาน..ห่า หมด จริงนะชีวิตเรามันสั้นจะทำอะไรก็ทำ "คิดดี ทำดี ชื่อว่า ฤกษ์ดี มงคลดี" ศาสนาเราจริงๆไม่มีฤกษ์นะครับ ตถาคตท่านว่า คิดจะทำดี เรื่องดีๆ ทำเลยครับ ถ้าจะออกปล้นรถขนเงินหละก็ ยามอุบากองภาคพิเศษก็เอาไม่อยู่ครับ คุกชัวร์ ช้าเร็วอีกเรื่อง เข้าเดือนมิถุนายน พ่อท้องบวมกลมเป็นลูกแตงโมเลย พุงใสเลย ท้องร้องเหมือน พายุแคทรีน่า สิบลูกอยู่ในท้องแกเลย ครืด..ๆๆ...โครก...บุ..ครืด อยู่อย่างนี้ เสียงลำไส้พ่อบิดตัวกันอย่าแรงครับ ดังมาก ในทองพ่อมีแต่ลม เดือนแรกไม่ปวด พ่อบอกไม่ปวดแต่ก็เอาแน่กับแกไม่ได้ครับ ใจแกเด็ด ถ้ามีสติแกไม่เคยร้องโอยๆ เราก็ไม่ทราบว่าขนาดไหน พ่อป่วยขนาดไหน พ่อก็บอกว่า พ่อคงต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่เลย พูดอย่านี้บ่อยมาก วันดีคืนดีก็ถามว่า ถ้าพ่อไม่อยู่จะทำยังไง หนูจะทำยังไง ใจผมก็กดความรู้สึก พ่อเองก็เช่นกัน ผมตอบไปว่าไม่เป็นไรนะพ่อไม่มีปัญหาอยู่อย่างนี้หละ ไม่มีอะไรน่าห่วง ถามบ่อยมาก ผมไม่ลำคาญครับรู้ในใจเต็มออกว่าของจริง งานนี้ไม่หลอก อะไรจะเกิดต้องเกิด ๗๒ ปี ครบเมื่อวันออกรถมาแล้ว ย่างเข้า ๗๓ แล้ว ใจมันร้อน อีกในหนึ่งเฉยชา เอาหละ พ่อเหนือยมามากแล้ว ประโยชน์อะไรที่จะเอาพ่อหนีตายไปไหนอีก มาคิดอีกที เช็คดวงพ่อตามตำรา หลวงพ่อดูสิว่าตกเศษอะไร คิดอย่างมั่นใจเลย ลง ๐ ผมนี่ขนลุกเลย โทรไปอุทัยธานี หาพี่คนกลางว่า หลวงปู่สังวาล์ย วัดป่าเขามโนราห์ จำพรรษาอยู่ไหม พี่บอกว่าหลวงปู่จำที่ใต้ นครศรีฯ เอาไงดี ไปที่วัดที่ผมบวช พระอาจารย์ก็บอกว่า ศรัทธาที่ไหนก็ไปสิ ผมงงเลยครับเอาไงดี ทำไมคราวนี้มันมืดแปดด้านอย่างนี้ บอกพี่สาวคนกลางว่า พ่อตก ๐ นะถ้าจะไปก็ไปปีนี้หละ แต่ถ้าต่ออายุได้ก็ ๘๐ เลย รู้อยู่เต็มอกแต่ทำอะไรไม่ได้เลย วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ พ่ออาเจียรมากเลย ทานอะไรเข้าไปไม่ได้ เพราะไม่ถ่ายหลายวันแล้ว ลำไส้มันตัน พ่ออาเจียรออกมามากจนผมสงสาร เข้าประคองตัวแกตลอด พ่อบอกว่าไม่ไหวเลย ถ้าอย่างนี้หนักครับ ผมพาพ่อเข้าโรงพยาบาลวันนั้นเลย หมอเวรให้น้ำเกลือ ใหยาหยุดอาเจียน นอนดูอาการเช้ากลับบ้านเท่านั้นเอง พ่อกลับเข้าบ้านยิ้มกับหมาที่มารับหน้าว่า "พ่อยังไม่ตาย พ่อยังอยู่" หมาก็ดีใจที่เห็นพ่อกลับบ้าน วันที่ ๒๒ พ่ออาเจียนหนักกว่าเดิมคราวนี้ผมวินิจฉัยเองเลยว่าต้องผ่าตัดด่วน หมอต้องทำยังไงก็ได้ให้พ่อถ่าย ผมเปลี่ยน โรงพยาบาล ไปรพ.ทหาร ข้าราชการด้วยกันต้องช่วยน่า ไปถึงหมอเวรตามเคย ไม่น่าได้เรืองอะไร เดีํยวให้ยาหยุดอาเจียนก็กลับบ้านคิดว่างั้น แต่หมอที่นี่เก่งอ่ะ จำชื่อท่านไม่ได้ แต่หน้าห้องติดว่า พท.พญ หน้าตาเด็ก เสือคอกลมกางเกงยีน รับฟังทุกคำพูดที่ผมเล่าให้ฟังครับ งั้นเอ็กซเลย์ให้หมอดูนะ ผมถือฟิลม์มาหาหมอๆ มองแป๊ปเดียวเอง ผ่านะพ่อคุณต้องผ่าฉุกเฉิน ลำไส้ใหญ่ตัน แต่หมอไม่ทำให้นะ ต้องกลับไปหา โรงพยาบาลเดิม ในใจเอาแล้วไง ไม่ทำอะไรให้พ่อเราอีกหละ หมอครับผมเป็นเด็ก ผมจะไปบอกเขาให้ผ่าตัดด่วนพ่อผมได้ไงครับ หมอน่ารักมาก หมอบอกว่าเดียวหมอเขียนจดหมายไปให้ ถือจดหมายนี้ไป กับฟิลม์ จริงหรือว่ะหมอแกจะซูปตาร์ขนาดนั้นเลยหรือ จดหมายแผ่นเท่าใบจ่ายยาจะทำอะไรได้ เอาหละถึงตรงนี้น้ำตาไหลอีกแล้วจับใจเลย มันไหลเองน้อยใจแทนพ่อเราอุตส่าห์ไว้ใจ แบกหน้ามาหาหมอใหม่ไล่เรากลับซะนี่ ไปก็ไปเขาบอกว่าที่นั้นเครื่องมือทันสมัยที่สุดในจังหวัดแล้ว เจ้าของไข้ต่อเนื่องหมอจะผ่าก็ทำได้ แต่ให้กลับไปที่เดิมดีกว่า อ่้าวหมอจะพูดทำไมนี่ อือถือ จม.ไปก็ได้ครับ เมื่อถึง โรงพยาบาลเดิมแล้วก็เอาจดหมายของหมอทหารให้ หมอเวรดู ใจก็คิดแล้วเหมียนเดิมไม่ทำอะไรให้พ่อกูอีก น่าจะทำจดหมายกูหายด้วยซ้ำ เออผิดคาดวุ๊ยหมอเวร ตาโตเป็นไข่ห่าน แม่งหมอทหารแกซูปตาร์ของแท้นี้หว่าได้เรื่องหละ หมอเวรขอฟิลม์เอ็กซ ประชุมหมอเป็นการใหญ่ วันอาทิตย์นะหมอเด็กทั้งนั้น ใหม่ถอดด้ามเลย อือไม่เป็นไรซูปตาร์เขียนจดหมายมาได้ผล พยาบาลรีบนำตัวพ่อไปตึกศัลยกรรมชายด่วนเลย ต้องขอขอบคุณหมอเจ้าของจดหมายจริงๆครับ ใบเบิกทางที่ดีมากเลย ยังกรรมของแกไม่หมดแค่นี้ครับ พ่อต้องเจออะไรในโรงพยาบาลนี้อีกมากครับ พรุ่งนี้ไม่ปวดหลังจะเอาให้จบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3431.JPG
      IMG_3431.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      80
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012
  3. kungzaza88

    kungzaza88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +536
    อนุโมทนาสาธุคุณSamy ด้วยครับที่เล่าเป็นวิทยาทานในครั้งนี้ สาธุ
     
  4. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่คุณสะสมมาให้เขาไปค่ะ รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่คุณเคยบวชเป็นพระ เจาะจงให้เจ้าหมาที่คุณเคยทำร้ายทุบตีเขา เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้คุณปวดหลังอยู่ขณะนี้ ขออโหสิกรรมที่ทำไว้กับเขา ถ้าเขามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ หมั่นทำบ่อยๆและทำไปเรื่อยๆนะคะ
     
  5. JASITA

    JASITA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +105
    มารอ....ติดตามด้วยคนจ้า
     
  6. ใฝ่รู้

    ใฝ่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +240
    ความเป็นคนดีของคุณไม่ใช่แต่เพียงเป็นลูกกตัญญู แต่ยังเผยแพร่เรื่องกรรมขาวและดำให้เราทั้งหลายได้ตระหนัก เรื่องจิตที่โลภซึ่งส่งผลให้แทบสิ้นใจ ณ.เวลานั้น นับเป็นเครื่องสอนใจได้อย่างดี ขอบคุณมาก
     
  7. คนยอง

    คนยอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +242
    ทีแรกนึกว่าคนรักที่เป็นแฟน เลยไม่สนใจ แต่พอเข้ามาอ่านแล้ว อืม.....น่าสนใจมาก เหล้าชอบกินคุณพ่อเหมือนผมเลย แต่ท่านก็เสียนานแล้ว เดียวจะกลับมาอ่านต่อครับ ....
     
  8. novoice

    novoice Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +87
    อนุโมทนาสาธุ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วให้ข้อคิด และได้ใจเต็ม ๆ ( แต่ช่วยเว้น วรรค หน่อยจะได้อ่านง่าย ๆ ต้องแพ่งจนปวดตา) 5555 thank .....
     
  9. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    สามวันสุดท้ายของชีวิต

    คืนวันอาทิตย์ พ่อเข้านอนที่ตึกศัลยกรรมชาย มีประมาณ ๓๕ เตียง พ่อลุกเดินทำกิจวัตรได้เองปกติ ผูกหูกางเกงเองได้ นอนรอคิวผ่าตัด รอหมอศัลฯมาวางแผนการรักษาในวันจันทร์ พ่อมีสีหน้ากังวนมากแต่ถ้าไม่ใช่คนใกล้ชิดจะไม่ทราบว่าท่านกังวน ผมจับมือท่านปีบนวดให้ น่อง ขา มือ แขน ข้อเท้า ทั้งชีวิตผมไม่เคยใกล้ชิดพ่อแบบนี้เลย มันอาย มันเขินอาย เรื่องดีๆแบบนี้ทำไม่ได้ ทำยากมาก ทีคนที่เราเพิ่งรู้จักได้ไม่กี่เดือน กับสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ แซวสาว บ้าขอเบอร์ดาวคณะให้รุ่นพี่ วิ่งท้าทางแปลกๆ เพื่อแรกกับสิ่งที่เขาเรียกว่าทำเนียมปฏิบัติ เราทำได้ ทำดีเสียด้วย แต่กับสิ่งที่ควรทำ กับคนที่ควรทำ เราไม่กล้า ทั้งที่ใจก็รูปว่าควรทำ และต้องทำ พ่อเองก็เป็นคนแข็ง ดิบไม่ยอมใคร ยอมหัก ไม่ยอมงอ ด่าหัวหน้ากลางที่ประชุมได้ หักผู้รับเหมอ จนตัวเองถูกฟ้องศาลว่าเรียกรับผลประโยชน์ ต่อยเพื่อนร่วมงานเมื่ออายุเข้า ๕๕ วัยนี้แกยังแรงได้ แต่กับลูก มนุษย์ที่ได้ชื่อว่า "ลูก" พ่อยอมได้ทุกอย่าง โกรธแค่ไหน เจ็บแค่ไหน ปากพ่อจะไม่เคยด่า ว่า หรือแช่งลูกเลย พ่อเคยบบอกว่า พ่อ แม่ แช่งลูกไม่ได้ ลืมก็ไม่ได้ ต้องอด อดให้ได้ นี่หละครับ คำว่า ลูก คำเดียว ทำให้คนเราอ่อนได้มากจริงๆ แต่เมื่อผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พ่อแต่งตัวแต่เช้ามึด รีบเข้ากรุงเทพมาแต่ตีสี่ เมื่อมาไบเทคได้ ผมก็เข้าห้องรอเข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แม่เล่าให้ฟังว่าพ่อนั่งมองจอ โปรเจ็คเตอร์ที่ทาง สถาบันฯ จัดเตรียมให้ อย่างใจจดจ่อมาก เมื่อถึงคิวผมพ่อมองหน้าผมไม่ชัดหลอก ได้ยินแต่เสียงขานชื่อ ที่ท่านได้บรรจงตั้งให้ผมตั้งแต่แรกเกิด พร้อมทั้งลอยยิ้มที่มีความสุข หมดแล้ว ลูกคนสุดท้ายเรียนจบแล้วพ่อดีใจนัก เมื่อผมออกจากห้องประชุมได้ แม่ พ่อ พี่สาว และพี่ป้าน้าอาก็เข้าแสดงความยินดี พ่อเดินได้ช้ากว่าเขา ด้วยโรคเก๊าท์ และหัวเข่าที่ยับดามด้วยเหล็ก เมื่อถึงตัวผมพ่อเข้ากอดผมแน่ และหอมแกล้มด้วยความชื่นใจ ผมแกล้งไม่สนใจ แต่ในใจรู้เต็มออกว่า พ่อไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน มันยากมาก การแสดงออกแบบนี้สำหรับพ่อทำได้ยากมาก แต่พ่อก็ทำ ครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย นั้นเพราะความรักที่มีต่อลูกแท้ๆ เมื่อผมแต่งงาน เดือนเมษายน ปีที่พ่อจากผมไปนั้นเอง แฟมผมบอกว่า หาพวงมาลัยน้ำอบหอมๆมาไหว้ พ่อ แม่ กันผมบอกว่าไม่ต้องหลอก แค่ดูแลท่านดีๆ หากับข้าว กับปลาให้พร้อม ดูแลท่านไม่ให้ขาดก็พอแล้ว เขาไม่เคยทำนะ ไม่เป็น อายว่ะ แฟนบอกว่าเอาเหอะ แกอยู่กับเราได้ไม่นาน อุ๊ย..คำนี้จี๊ดอ่ะ เฮ้ยจริงสิ ลูกสองคนไม่อยู่ ปกติพ่อคนโตจะนำน้องๆ ไหว้ พ่อ แม่ นี้ไปนอกกันหมด เหลือเราคนเดียว ผู้ชายอ่ะมันอาย เรื่องแบบนี้ทำยาก จริงๆไม่เคยกอด พ่อ กอด แม่เลย จำความได้ไม่ทำเลยนะ เด็กๆชั่งมันไม่นับ โตมายิ่งบ้า โตมายิ่งเชี่ย...หยาบขึ้น..ๆ อือสะใภ้นำก็ดีนะเราก็ตามแบบเนียนๆเลย ผมก้มกราบ เป็งวาจาออกว่า "พ่อ แม่ หนูขออโหสิกรรม สิ่งที่หนูล่วงเกินมา ทำให้พ่อแม่เสียใจ หนูขอโทษ ขออย่าได้ถือโทษโกรธลูกเลย" ว่าไป ยังไม่ได้ว่าหลอก ตัวสั่น หลังแข็ง คอแข็ง ตัวเกร็งไปหมด เสียงสั่น นำหู น้ำตาไหล บ้าจริงออกมาได้ไง อายจังมันออกมาเองขนหัวลุก แล้วก้มลงกราบ พ่อแม่ อายุยืนๆนะๆ อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ให้ลูกๆนะ พ่อไม่ตอบอะไรเลย บอกว่าอยู่เย็นเป็นสุขนะ เหมือนท่านรู้ว่าชีวิตท่านคงอยู่ไม่พ้นปีนี้แน่ ใครเข้าข่ายสันดานเดียวกับผมรีบเลยครับ วันนี้ พรุ่งนี้รีบขอขมาท่านสะครับเดี๋ยวไม่ทัน แม่บอกว่าที่เรามาขอขมาวันนี้เหมือนว่าพ่อเขารออยู่ เขาดูแล้วดีใจนะที่เราทำให้แกหนะ ถูกจังหวะ ถูกเวลาตลอดหวิดๆทุกที นั้นหละครับเรื่องที่ดี เรื่องที่ควรทำซะอย่าอาย มือผมก็บีบนวดแกไป ชวนคุยว่าพ่ออย่ากังวนนะ หมอเก่งมาก อากู๊พระอาจารย์ตัดไส้ไป เยอะเลยอยู่ได้อีก ๑๐ ปีนะ พ่ออีก ๑๐ ปี ก็ ๘๒ ปี แค่นี้มันก็คุ้มเกินเป้ามาเยอะแล้ว เอาหนะกำลังใจดีๆพ่อ พ่อสวนมาเลย เรื่องกำลังใจพ่อไม่มีตกหลอก แล้วก็เงียบไป ดึกวันนั้น หมอศัลฯรีบมาดูพ่อเลย ดูฟิลม์เอ็กซไม่เห็นความปกติ ต้องขอฟิลม์ของโรงพยาบาลทหาร ดู พบเลยครับ ลำไส้ใหญ่อุดตัน ต้องผ่าด่วนที่สุด นัดคิวไว้วันอังคาร แต่พอเช้าวันจันทร์ หมอมาบอกว่ากลัวพ่อจะทนไม่ไหว เลยต้องเข้า เอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ พอเข้าเอ๊กซเรย์ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเสี่ยงครับ ค่าของ ไต ต่ำมาก คนไข้อ่อนแอสุดๆ ผมคิดในใจว่า มันจะผีซ้ำด้ามพลอย อะไรอย่างนี้ เหมือนคำที่พ่อพูดเสมอว่า "หามผีตกป่าช้า" ไม่เผา ก็ต้องฝัง มันต้องอะไร ไม่อะไรสักอย่าง เอาเลยครับ ฉีดสารทึบรังษี เลยครับ เดินหน้าเต็มตัว ถอยไม่ได้แล้ว หมอนี้ก็จริงเลยครับเนียน จริงๆบอกว่าทำใจ ทำใจนะครับ ผมก็จบ นี่คิดตลอดว่าพ่อจะได้กลับบ้าน พ่อจะหาย วันนั้นเอง เอ็กซเรย์เสร็จ หมอคนนี้แซงคิวห้องผ่าตัดเลย โชว์พาวเลย พ่อโชคดีเจอแต่หมอเก่งๆ แย่งคิวผ่าตัดเขาได้หมด คนอื่นต้องให้แก จากวันอังคาร เป็นเย็นวันจันทร์ ผมและพี่สาวคนกลาง แม่ถามหมอว่าเป็นยังไงบ้าง มีโอกาสรอดไหม หมอบอกแบบยิ้มๆ ว่า ตั้งแต่ผมผ่าตัดมายังไม่มี ผ่าตัดแล้วเสียชีวิตครับ ไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ โอ้โห พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่มี ดีใจครับ ใจชื้นมาเลยครับ หมอคนนี้ท่าทางเก่ง มือดี มีแววรอด แต่หมอบอกว่าพ่ออายุมากแล้ว ผมกล้วแค่เรื่องติดเชื้อเท่านั้นครับ ตรงนี้ฟังแล้วไม่มีอะไร ทุกคนไม่ตระหนักถึงคำว่าติดเชื้อเป็นยังไง แม่บอกว่าหมอระวังๆหน่อยนะคะ หมอว่าผมระวังอยู่แล้วครับ แต่ของเสียในลำไส้ใหญ่ของแก แรงดันมันสูงมาก(ประมาณว่ามีดจิ้มเข้าไปที่ลูกโปร่งอย่างนั้นครับ) แต่กระจายเละไปหมด แม่ถ้าว่า หมอผ่ากันกี่คนค่ะ คนเดียวครับผมทำคนเดียวกับผู้ช่วย ผมคิดในใจว่าเฮ้ยหมอ ไม่ได้ผ่าไส้ติ่งนะคนเดียวเลยหรือ ใจดีถามหมอว่า ในกรุงเทพ รพ.ใหญ่ๆ หมอรุมกันเลยไม่ใช่หรือครับ หมอสวนผมมาว่า ถูกครับ คนอื่นเขาก็มีบัสดี้กัน สองหรือ สามคน แต่ผมไม่มี นั้นไง เอากูแล้วไง ต่ออีกว่าบางโรงพยาบาล เคทแบบนี้ หมอ ๖ คนเลยก็มี อ้าวเฮ้ย..กูเชื่อให้มึงนะนี่ ชักไม่มั่นใจแล้วสิ แม่ถ้าว่าไม่มีใครเอาหมอเป็นบัสดี้หรือค่ะ หมอศัลฯ ที่ตอนนี้ผมอยากจะเรียกว่า "สันขวาน" แล้ว สวนมาอีกว่า ป่าวครับยิ้มที่มุมปากเบาๆ บางๆแล้วพูดว่า ผมไม่เอาเค้า ไม่ใช่เค้าไม่เอาผม กำลังพิจารณาอยู่ว่า จะเอาใครดี เฮ้ย...นี่พ่อกูนะหมอนึกในใจ ช่วยหาใครมาเป็นลูกมือแกทีเหอะ แม่บอกว่าจะไหวหรือหมอ หมอบอกว่าโอ้สะบายครับ ผมทำมาเยอะ อือ..ตกลงชีวิตพ่อผม ขึ้นอยู่กับหมอนะ พี่สาวบอกหมอแกคงแน่อ่ะ แต่ผมดูแกแล้วก็น่าจะจริงครับ ไม่ใช่เวรแก พยาบาลโทรตามแกก็มา เอ็กซเรย์ไม่ได้แก่ก็ลุ้นจนได้ ห้องไม่ว่าง แกก็แซงคิวมาให้ได้ หรือว่าหมอคนนี้จะเป็น ซูปตาร์ ของที่นี้ ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่เชื่อใจหมอนะ เราเชื่อใจหมอ โอเค เซ็นต์ยินยอมให้ผ่าตัด เย็นวันจันทร์นั้นเอง ถัดจากพ่อไป สองเตียง มีลุงแก่ๆคนนึง ท้องบวมอย่างพ่อเลย แต่เป็นที่ตับ ฝีในตับ หรือมะเร็งตับไม่แน่ใจ ผุดลุก ผุดนั่งอยู่ เดีํยวนั่ง เดี๋ยวนอน ไม่เป็นสุขลูกหลานมาหาแกก็ยังคุยได้ หัวเราะได้ พยาบาลพูดอยู่ใกล้ๆหูผม บอกกับญาติลุงแกว่า "แตกแล้ว ไม่พ้นเย็นนี้ ทำใจนะ" พักเดียวลูกหลายมากันเต็มห้องเลย ร้องไห้กัน ระงม ลุงแกก็รู้ว่า เวลาของแกหมดแน่แล้ววันนี้ ก็ร้องไห้อีก ตกลง คนไข้ก็ร้อง คนเยี่ยมก็ร้องขาดสติกันทั้งห้อง พอเห็น ลุงแกเริ่มหายใจไม่ออก ลูกหลานก็ร้องบอก พุธ โธ พุท โธ พ่อนึดพุทธ โธ นะ เสียงร้องก็ร้อง เสียงสวด ภาวนาก็ว่าไป ดังไปทั่ว ตึกศัลยกรรมชาย มันเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก ไม่ใช่ญาติเราก็เหอะ มันบอกไม่ถูก ที่กำลังจะได้เห็นอีกหนึ่งชีวิตต้องดับสูญไปต่อหน้า ต่อตา มันยิ่งกว่า เรียวลิตี้ ที่เราแอบดูเขาอีก มันชัดเจน มันอึดอัด มันสงสารเขา ผมและพี่สาวดูอย่างใจจด ใจจ่อ พ่อพูดขึ้นว่า "หนูอย่าไปมอง" พ่อไม่อยากให้ใจเสีย เพราะอีกไม่ถึง ชั่วโมง พ่อก็ต้องผ่าตัดแล้ว ไม่นานพยาบาลก็มารูดม่าน คลุมเตียงไว้รอบด้านเป็นอันรู้กันว่า หนึ่งชีวิตได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2012
  10. Just another day

    Just another day เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +236
    อ่านไปน้ำตาไหลไปเลยค่ะ
    เรื่องต่ออายุและรักษาอาการป่วยอะไรเนี่ยเราเชื่อนะ พ่อเราโดนมะพร้าวหล่นใส่หัว (เดาเอาไม่มีใครเห็น) มีลูกมะพร้าวอยู่ข้างๆ กับกองอาเจียน พ่อนอนอยู่มีคนไปเจอ
    พอแม่โทรมาบอกเรารีบโทรหาเพื่อนเราซึ่งถือศีลอยู่วัด ปรากฏว่าหลวงพ่อท่านทราบท่านสวดมนต์ให้ พอพ่อเราฟื้นมาเอ็กซ์เรย์ปรากฏว่าหัวไม่มีรอยอะไรเลย แต่พ่อเราเบลอๆ ไปเป็นเดือน หลวงพ่อบอกว่าพ่อเราเคยไปทุบหัวตัวอะไรไว้ แต่เราไม่กล้าไปถามท่าน ตอนหลังก็มีอีก ท่านก็สวดให้อีกและให้ทำบุญให้เขา แต่ห้ามไปถามพ่อเราว่าเคยไปฆ่าตัวอะไรมา ท่านบอกเป็นสัตว์ใหญ่ด้วย
     
  11. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    คืนวันจันทร์

    พ่อเข้าห้องผ่าตัดแล้ว เราทุกคนนั่งรอพ่ออยู่หน้าห้องผ่าตัด เวลาเกือบ ๔ ชั่วโมง ในห้องผ่าตัด มันเป็นเวลาที่บีบหัวใจเรามาก พอเวลาใกล้ค่ำ เกือบๆทุ่ม บุรุษพยาบาลเข็นเตียงพ่อออกมาจาห้องผ่าตัด สถาพนอนหลับปกติ ผู้ช่วยหมอเดินบีบลูกโปร่งตามมาด้วย พอคืนตึกได้ บุรุษพยาบาลก็โยนร่างพ่อลงเตียงใหญ่ จริงครับอย่าเรียกว่ายกเลย โยนดีกว่า โครม นึกในใจคราวพ่อมึงนะ กูจะมาเป็นอาสาสมัครให้ เอาให้โครมใหญ่กว่าพ่อกูอีก พยาบาลเห็นเราหน้าเสียหันมายิ้ม แล้วบอกว่า คนไข้จะฟื้นตัวเร็วค่ะ เฮ้ย..ตีแกล้มพ่อกูก็ตื่นแล้วมั่ง พักเดียว ๑๕ นาทีได้ พ่อลืมตาขึ้นมาเลย เฮ้ย..เอ็งพูดถูกว่ะ มาถึงตอนนี้คิดว่าพ่อไม่อยากเสียเวลาที่จะได้คุยกับเรานะ พอเดินไปที่เตียงก็เห็นรอยผ่าตัดที่ใหญ่มาก เรียกว่าชำแหละดีกว่า ใบมีดกรีดลงตั้งแต่ลิ้นปี่ ลากยาวลงมาที่สะดือผ่านกลางสะดือลงไปจบสุดท้องน้อย เป็นฟุตครับ และมีแผลขนาดกำปั้นด้านข้างสอดลำไส้ใหญ่ออกมา ขับถ่ายของเสียแทนช่องทางปกติ แกอายครับ พี่สาวยั่วพ่อว่าอายตูดหรือพ่อ ก้นใหม่เป็นไง แกก็พยักหน้า อยากจะขำอยู่ถึงตรงนี้ดูแล้วไม่น่าตายนะ หมอแกเก่งสมราคาคุยแหละ เราทุกคนเฝ้าไข้แทบจะอาบ เจลฆ่าเชื้อกันเลย กลัวพ่อติดเชื้อ นึกได้เมื่อไหร่กดเจล ทำความสะอาดมือแขนทั้นที ถ้านึกถึงความตายได้อย่างนี้ น่าจะเป็นโสดาบันไปแล้ว ไม่ให้พ่อติดเชื้อหมูๆ ทำได้ ที่สายน้ำเกลือ ก็มียาฆ่าเชื้อเข้ากะแสเลือดอยู่แล้ว ใบหน้ายิ้มแย้ม หน้าพ่อเหลืองใสดั่งทอง ออร่ามันฟ้อง พ่อน่าได้กลับบ้านนะ ทุกวันตั่งแต่สึกจากความเป็นพระ ผมจะสวดมนต์เป็นประจำอยู่แล้ว ถวายพรพระ อย่างเดียวเลย ในบทถวายพรพระ เริ่มต้น ที่ นโม สามจบ พุทธัง สะระนังคัจฉามิ ถึง ตะติยัมปิ....สังฆัง สะระนังคัจฉามิ อิติปิโส พาหุง มหากาล ชะยันโต ถึง พะวัณตุสัป บทเมตตา ที่สวดว่า เมตตา ญาภิขเว เจโตวิมุทติยา อาเสฯ.....เตภิขขุ พัคคะวะโต ภาสิตังอะภินันทุนติ ยันทุนนิมิตังจบ เพราะผมเกิดวันจันทร์ ต้องสวดยันทุน เป็นพระปริต แล้วจึงนั่งสมาธิ แล้วแผ่เมตตา บ้างวันกันแผ่เลย ไม่นั่ง ยิ่งช่วงพ่อป่วยแถม โพชังคะปริตตังให้อีก ชุดใหญ่ เท่าที่จำได้ พยายามสวดไม่ให้ลืม ปัจจุบันผมยังไม่มีลูก ถ้าถึงคราวผมบ้างใครจะสวดให้ ต้อง เช็งตัวอ่วย ต้องช่วยตัวเองให้พ้นอบาย เช็คดวงจิตให้พร้อมรบ พ่อถามกี่โมงแล้วหนู "ต้องไป" พ่อพูดมาลอยๆว่าต้องไป ต้องไป ไปไหนพ่อ ผมถาม พ่อไม่บอกเงียบไป ผมบอกว่าหลับตานะ พักผ่อนนะพ่อ พี่คนกลางว่าจะกลับอุทัยธานีก่อน คืนแรกผมเฝ้าพ่อ นั่งจับมือพ่อไว้อย่างนั้น ปีบมือซ้ายให้เลือดไหลเวียนดี พ่อเริ่มมีไข้ขึ้นสูงเวลา สี่ทุ่มของคืนวันจันทร์ หลังออกจากห้องผ่าตัดได้ ๓ ชม. พ่อบอกหิวน้ำ ผมบอกว่าเราตกลงกันแล้วไง หลังผ่าตัดห้ามกินน้ำ พ่อบอกเองนะว่ากินน้ำแล้วไปเลยนะ แกพยักหน้า ท้องพ่อยุบลงเยอะเลย หมอบอกว่า ตัดลำไส้ใหญ่พ่อทิ้งไป ๑ ฟุต แกบอกว่าเซลล์มะเร็งอยู่ทุกส่วนชองช่องท้อง แม้พนังหน้าท้องก็มี ผมเห็นที่แผลมีจุดดำ เป็นกลุ่มๆหลายแห่ง คล้ายๆขนมปังขึ้นรา แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือป่าว หมอบอกว่าน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน หรือถ้าพ้น ๓ วัน ไปได้ก็ต้องดูว่า พ่อจะทนคีโมได้ไหม สรูปว่าอีกไม่นาน แต่ผมคิดว่าน่าจะได้ออกโรงพยาบาลนะ แล้วก็อีกเดือน ๒ เดือนค่อยไปอระไรแบบนี้มากกว่า เข้า ๕ ทุ่มพ่อพูดขึ้นมาอีกว่า ไป ไป ต้องไป พูดอยู่คนเดียว เพ้อคนเดียว ว่า"นี้เขาไปไหนกัน โหใหญ่จังเลย รถไฟใหญ่จังเลย รถไฟขบวนนี้ใหญ่จังเลย" รถไฟอะไรพ่อ พ่อพูดไปยิ้มไปเห็นอะไร เราไม่เห็น แต่ภาพในหัวมันใหญ่เท่าตึกนั้นหละ รถไฟขบวนนี้ ใหญ่มาก ผมไม่ให้พ่อเพ้อต่อ กระแทกเสียงใส่ว่า "ไปไหน พ่อบอกขึ้นรถไฟไง ผมว่าขึ้นไม่ได้ ไม่ไป" พ่อเลิกยิ้ม คลายจากภวังค์ได้ แล้วหันหน้ามาหาผมบอกว่า เออ..ไม่ไป..ถูกแล้ว..ไม่ไป พ่อยกมือขึ้นเหมือนกำลังจะบอกผมว่าถูกแล้วที่ห้ามพ่อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5882.JPG
      IMG_5882.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      37
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012
  12. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ท่ีได้ดูแลพ่ออย่างใกล้ชิก่อนตาย ผิดกับดิฉันท่ีรู้ข่าวคืนแรกแม่เข้าโรงพยาบาล และอีกวันแม่ก็เสียแล้ว ช็อคแล้วก็ช็อค คล้ายคนบ้าโลกท้ังโลกแตกสลาย ไม่ได้เวอร์ค่ะเพราะต้ังแต่เล็กจนโต สนิทกับแม่มากและไม่ได้เรียก"แม่"นะ เรียกแม่ว่า " อี่ป้ึง" เป็นคำท่ีคนเหนือเขาเรียกคนอ้วนๆน่ะคะ ตอนอยู่บ้านด้วยกันจะกอดจะคลอเคลียกับแม่เล่นเหมือนเพ่ือนเลย นอนก็กอดแม่อุ่นเลย ชีวิตน้ีเสียใจอยู่เร่ืองนี้เร่ืองเดียวท่ีไม่ได้ดูแลแม่ แกก็ไปเร่็วเหมือนกันไม่มีโอกาสทันได้ตอบแทนอะไรเลย แต่ผ่านมานานก็ไม่เคยลืมเลยพอคิดถึงนำ้ตาไหลตลอด และคงจะเป็นแบบน้ีจนตายแหละค่ะ แม้ไม่คิดทุกวันแต่พอแว๊ปหรือมีเร่ืองไรก็คิดถึงทุกที
    ท่ีทำได้คือพยายามทำดีค่ะ เขาว่าถ้าลูกเป็นคนดีพ่อ-แม่ก็ได้บุญ ทำบุญไปให้ ไหว้พระสวดมนต์บ่อยๆ แผ่เมตตา อุทิศผลบุญให้แม่ คิดว่าท่านได้รับค่ะ สาธุ
     
  13. banyat

    banyat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +19
    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ คัดลอกใส่เอกสารwordแล้วพิมพ์ เย็บเล่มเก็บไว้อ่านยามว่างนะครับ ขอขอบคุณที่เสียเวลาพิมพ์โพสต์ เป็นอุทธาหรณ์ที่ดีมากเลยครับ.
     
  14. simplicity

    simplicity สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +10
    อนุโมธนาสาธุคะ เล่าเรื่องได้สนุกและเข้าใจถึงกฎแห่งกรรม
     
  15. nanunui

    nanunui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุโมทนาในการเล่าเรื่องกฎแห่งกรรมไว้เป็นอุทธาหรณ์ให้คนทั้งหลายให้ตระหนักถึงและขออนุญาตท่านคัดลอกไว้อ่านและเผยแพร่ต่อครับ ขอบุญกุศลที่เกิดจากการให้ความรู้เป็นธรรมทานนี้จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสพแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  16. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    อนุโมทนาบุญค่ะ อ่านแล้วคิดถึงพ่อมากๆ ทุกวันนี้พยายามทำบุญ นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศลไปให้ .... อยากพบท่านอีกสักครั้ง คิดถึงมากค่ะ
     
  17. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    ขอบคุณเรื่องราวนี้มากนะครับ
     
  18. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    คืนวันอังคาร

    ช่วงดึกของคืนผ่าตัด พ่อเพ้อถึงรถไฟ จะขึ้นรถไฟให้ได้ ผมใจหายเลย นึกในใจว่ารถขบวนนี้ เขาคงมารับพ่อเราแน่ เพราะเมื่อวานก่อนก็ ๒ ศพ วันจันทร์ ๑ ศพ แล้วพ่อเราก็โคม่านะ มาถึงตรงนี้ อย่าคิดว่าผมใส่ไข่นะ ไม่ใช่ว่าผมจะเอา เรื่องรถไฟผี ที่เขตต์ ฐานทัพ เป็นพระเอกมาเล่าให้ฟัง ผสมผเสเรียกเลทติ้งอะไร พ่อผมเพ้อถึงเรื่องนี้จริง แต่เราจะเอาไว้เป็นอีกประเด็นเรื่องมันเยอะ เอาหลักๆก่อนครับ ผ่านคืนวันจันทร์ไปได้ ดูหน้าตาพ่อเหลืองสวย มีน้ำมีนวลมากเลย ผมเฝ้าเวรดึกกับพี่สาวสองคนในคืนแรก ตี ๔ พ่อไข้ขึ้นสูงมาก ต้องให้ยาลดไข้ทางเส้นเลือด และมอร์ฟีน เบาเทาบวด ก็จะไม่ให้บวดได้อย่างไรแผลทั้งช่องท้องขนาดนั้น เป็นผมนะตายตั้งแต่จิ้มลิ้นปี่ผมแล้ว วิศัลญีแพทย์ กับ วิศัลญีนรก คำนี้คุ้นๆหูไหมครับ ใครทำกรรมปานาติบาตไว้มาก ต้องไป วิศัลญีนรก ตามไตรภูมิพระร่วง หรือแม้แต่คำสอนของพุทธมหายาน ให้คำนิยามนรกคุมนี้ไว้ใกล้เคียงกัน คือ เมื่อสัตว์นรกจุติ ในนรกขุมนี้ จะมีนายนิริยะบาลคอยลงทัณฑ์ โดยใช้มีดบ้าง ขวานบ้าง แต่จริงๆมันน่ากลัวกว่านั้นมาก หั่น เฉือน ชำแหละเนื้อหนัง สัตว์นรก จนร่างสัตว์นรกแหลกเหลวไป แล้วก็เกิดขึ้นใหม่อีก ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าจนกว่าจะหมดกรรม เพียงแต่พ่อผมไม่ต้องรอนานขนาดนั้น ท่านได้ผลจากการฆ่านก ฆ่าสัตว์เลย แผลอย่างนี้ท่านไม่น่าทนได้ แต่สีหน้ากลับดูผ่องใสมาก มันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะดูแลท่าน เพราะคิดว่าท่านหายแน่ๆ อะไรนะที่มาบางตา บางใจเรา ให้ชะล่าใจได้ขนาดนี้ หรือจะเป็นผลจากคำอธิฐานจากคราวก่อน ที่ทำให้ผมได้มีโอกาส ป้อนข้าว ป้อนน้ำท่านจริงๆ รุ่งเช้ามีพระสงฆ์ขึ้นตึกมาบิณฑบาตร ผมมีขนมตุนไว้ห่อหนึง นิมนต์พระรับขนม ใส่มือให้พ่อจบ พร้อมเงิน ๒๐ บาท พ่อเต็มใจใส่ จบพนมมือรับพรพระ ๒ โมงเช้า ผมกลับ แม่มาเฝ้าต่อ พ่อดีใจทุกครั้งที่แกป่วย แล้วแม่มาดูแล มันเหมือนกับว่าแม่ไม่ทิ้งแก ดูดำดูดีกันอยู่ ไม่ว่าที่ผ่านมาพ่อดูเหมือนว่าจะเป็นฝ่ายทำความหนักใจให้แม่ก็ตาม แต่ไม่มีครั้งไหนเลย ที่พ่อเข้าโรงพยาบาลแล้วแม่ไม่มาเฝ้า คู่นี้เขาคู่แท้จริงๆ ทั้งสุข ทุกข์ ไม่ทิ้งกันเลย แม่ส่งลูก พ่อส่งบ้าน รถ เครื่องใช้ในบ้าน แบ่งกัน พ่อชอบพูดเวลาเมาๆไว้ให้ลูกฟังเสมอๆ ว่า "ไอ้ธิ ถูกหวย ได้รวยอีติ๋ว" มันเป็นอย่างนั้นจริง พ่อถูกห่วย เงินท้องที เงินสวัสดิการออก พ่อมักแบ่งให้แม่ไว้ใช้สอยในบ้านหมด จะเหลือไว้เพียง กลม ๒ กลม เท่านั้น กินก็กินไป ส่วนที่รับผิดชอบพ่อไม่เคยทิ้ง พอผมกลับบ้านก็สวดมนต์ไหว้พระ อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรพ่อก่อน แล้วค่อยนอน ๕ โมงเย็น ก็ไปเฝ้าพ่อต่อ วันนี้พ่อพูดได้เยอะเลย กว่า ๔๘ ชม.แล้วที่พ่อไม่ได้กินน้ำ สงสารมาก แต่ก็ต้องกัดฟัน เพราะการผ่าตัดใหม่ๆ แค่ไส้ติ่งก็ทานน้ำไม่ได้ ผมบอกพ่อพักผ่อนนะ พ่อหลับตาได้ ๑๐ นาที ไม่เกินนี้ รอเวลาอยู่ตลอด พูดแต่คำว่า "ต้องไป" เอาอีกแล้วไปไหน ต้องไป วันนี้พี่สาวคนกลางกลับอุทัยธานี ผมเฝ้าคนเดียว สี่ ทุ่มเวลาเดิม พ่อไข้ขึ้นสูงมาก พยาบาลต้องเอาถุงเจลแช่เย็นมายื่นให้ ผมใช้วางบนหน้าผากพ่อเลย ผ้าขนหนูก็เช็ดตัว หลัง ขา ตกกลางคืน กับผมพ่อดูไม่ดีเลย แม่ว่ากลางวันพ่อชวนคุย เล่าเรื่องตลกด้วย คืนนี้เป็นอีกแล้ว พ่ออยู่ดีๆ ก็บอกว่า เขามาทำอะไรกัน ผมถามว่าใคร แกก็มองไปปลายเตียงอีกเช่นเคย ผมบอกว่าเขาไม่สบายมาหาหมอ แกก็ชี้มือ เหมือนว่ามีคนเดินกันพลุกพล่าน เอาแล้วไง ๕ ทุ่ม จะมีใคร ปิดไฟกันหมด พ่อชอบหลอกผีลูกทุกที แต่ผมเองคิดว่าพ่อเห็นจริง ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ คงยกหูโทรศัพท์ต่อสายกันวุ่นแล้ว พ่อผมบอกว่า กระเป๋าตังค์พ่อไปไหน อยู่กับหนู พ่อไม่ต้องใช้นะ พ่อบอกว่าแล้วพ่อจะกินข้าวยังไงหละ แกไม่มีเงินติดตัว แกจะเอาเงินไปไหน หรือว่าท่านจะเห็นภพภูมิ อีกภพแล้ว ไม่มั้ง แค่อาการของคนเพ้อ ไข้ขึ้นสูงเท่านั้น พ่อจะถามผมว่า กลับไปนอนสิ พ่ออยู่ได้ ไม่เป็นไร แต่ผมทิ้งไม่ได้ครับ เตียงไหน ใครทิ้งไม่เฝ้า กลับบ้านไปนอนก็ชั่งเค้า ผมนั่งหลับนก จับมือพ่อบีบทั้งคืนทนได้ ผมตอบว่าไม่เป็นไร หนูนอนกลางวัน พ่อนอนนะ มอร์ฟีนเอย ยาฆ่าเชื้อเอย ยาแก้ไข้ ไม่ทำให้ท่านง่วงบ้างเลยหรือ ทั้งวันทั้งคืน เข้าวันที่ ๒ แล้ว พ่อไม่ได้หลับอย่างเต็มอิ่มสักที ทำไมใจท่านแข็งขนาดนั้นเลย ห่วงลูกว่าจะไม่ได้นอน ผมเลยบอกว่าพ่อหลับเยอะๆ อาการดีขึ้นจะได้อยู่ห้องพิเศษ มีแอร์เย็นๆ หนูกิน นอน อยู่ที่นี้ทุกวันก็ยังได้ แต่ที่ผิดปกติที่เราเห็นคือ หน้าอกพ่อกระเพื้อมน้อยมาก หายใจสั้น ผมบอกว่าพ่อหายใจลึกๆ พ่อก็หายใจที แล้วก็เหมือนเดิม ต้องบอกก่อนครับว่า พ่อผมนี้ เครื่องช่วยหายใจเอาออกแต่คืนแรกเลยครับ มีแต่สายออกซิเจนเท่านั้น หมอว่าพ่อฟื้นตัวดี ผมเฝ้าท่านจนฟ้าสาง ตี ๔ ครึ่ง พยาบาล ผู้ช่วยคนไข้ เริ่มเช็ดตัวคนไข้ ผมก็ทำความสะอาดเนื้อตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ วันนี้ พ่อเริ่มมีของเสียออกจากทางระบายใหม่มากขึ้น มองแล้วรู้ว่า อะไรคืออะไรเลย มันไม่ย่อยมาก ยังไม่ใช้อุจจาระ แต่เหมือนจับฉ่ายเคี่ยว ๓ วัน มากกว่า ใครชอบกินจับฉ่าย ก็ขอโทษทีนะครับ แต่คิดว่าเห็นภาพง่ายที่สุด พระมาอีกแล้ว วันนี้ พี่สาวคนกลางมาถึงลพบุรีแต่เช้า อยู่ดีๆพ่อก็พูดขึ้นว่า "หือ..กระรอก..กระแต..พ่อเอามาเลี้ยงนะ..แต่ไม่รอด...พ่อยิงแม่มันร่วงจากต้นไม้...ลูกก็ร่วงลงมาด้วย พ่อเก็บมาเลี้ยงมันก็ตาย" เอาอีกแล้ว งานนี้กระรอก..กระแต มาหา เมื่อคราวน๊อกเบาหวานสูง ก็นกไปทีแทบแย่ คราวนี้ยังเหลือ กระรอกกระแตอีก ตัวเดียวนี่นะ เพราะอะไร กระรอกเขาเป็นแม่ ใช่ไหม เขามีลูกน้อย ลูกเขายังเล็ก ช่วยตัวเองไม่ได้ ใช่ไหม เรายิงเขาตก สัญชาตญาณสัตว์ ความเป็นแม่ เค้าหวงลูก ห่วงลูกมากนะ ถูกยิงตกมาพร้อมลูก ตกลงมายังไม่ตายหลอก จิตยังไม่ขาด มันมีแรงนะ ๒ เท่าเลย แรงห่วง แรงอาฆาต พ่อก็คงรู้สึกผิด ผิดเดี๋ยวนั้นเลย ระลึกได้เดี๋ยวนั้นแหละว่าไม่ควรเลย พี่ลูกลุง ยังเล่าให้ฟังเลยว่าพ่อ หิ้วกลับแพ มาให้พี่ทำกินกัน ลูกมันก็ให้กล้วยกิน แต่คงเล็กมากเลยไม่รอด ก่อนพ่อเสีย เดือนเดียว มีกระรอก ถูกแมวที่วัดตะครุบ พระอาจารย์วิ่งไล่แมว ผมวิ่งไปจับกระรอกที่ปากแมวได้ มันชัก เพราะว่าแมวกัดเข้าไปที่กระโหลกทีนึงแล้ว เป็นรูเขี้ยวนิดเดียวเอง ผมนำกระรอกกลับบ้าน พ่อเห็นดีใจมาก แกหาที่นอน ผ้านิ่มอย่างดี ใส่กรง เรียกหนูทุกคำ ไม่เป็นไรนะเดียวหาย พ่อใช้หลอดจุ่มน้ำแล้วป้อน ทั้งๆที่พ่อก็ป่วยแล้ว ช่วงนั้นต้องสวนแป้งแล้วครับ กำลังอยู่ในช่วงตัดชิ้นเนื้อไปแลป ว่าเป็นเซลล์มะเร็งหรือป่าว กว่าผลจะออก พ่อผมก็ทำบุญ ๕๐ วันไปแล้ว กรรมของท่าน ไม่ต้องรักษา ท่านเคยบอกว่า ถ้าเป็นอะไรเรื้อรังนะ ตายไปเลยดีกว่า กูรำคาญ ไม่นาน ๓ วันได้ กระรอกก็ตาย พ่อบอกว่าหนูไปเกิดที่ดีๆนะ พ่อก็เต็มที่แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง เขี้ยวแมวคงเข้าสมอง แล้วติดเชื้อนะผมว่า แล้วท่านก็พูดว่าเมื่อก่อนพ่อยิงมานักต่อนักแล้ว หนูอย่าทำนะ(หมายถึงผม) พ่อทำมาเยอะแล้ว สงสารก็สงสาร เงินครู มันน้อย เลี้ยงหลานถึง ๓ คนครับ เมาๆอย่างนั้น หลานได้ดีทุกคน ช่างฝีมือทหารคน ช่างกลบางซ่อน ได้งาน กรป.กลาง อาจารย์คน ผมยังไม่เกิด เลี้ยงหลานด้วยนก หนู ปลา กระรอก ตามแต่จะหาได้ ทำทุกวัน ทำเพื่อกิน ไม่ได้ทำเอามัน หรือเรียกว่ากีฬาอย่างทุกวันนี้ ยังขนาดนี้ คิดดูเอาครับ พี่ น้อง ภรรยา ลูกๆ สวดมนต์ให้ขนาดนี้ ยังไม่ยอมเลยครับ ผมกับพ่อนิมนต์พระองค์เมื่อวานอีก ถวายเงินและขนม น้ำ บอกพ่อว่าอโหสิกรรมให้ กระรอกกระแตนะพ่อ พ่อพยักหน้าทำด้วยความเต็มใจ ๒ โมงเช้าแล้วนะพ่อ เดี๋ยวแม่ก็มา แม่มาผมก็กลับ ทุกวันสวดมนต์เสร็จจะบอกว่าให้พ่อหายป่วย บอกเจ้ากรรมนายเวรพ่อทุกครั้ง และที่สำคัญที่สุด ทุกครั้งที่สวดมนต์ให้พ่อ จิตมันนิ่งดีมาก สว่างมาก ขนลุกขนพอง ปิติดีทุกครั้ง ไม่น่าพลาด อย่างนี้รอด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2012
  19. สมิตา

    สมิตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +189
    ดีมากๆ ชีวิตคนเราก็เหมือนละคร เริ่มเกิดจนถึงตาย ถ้าเอามาเล่าก็ได้แง่คิดเยอะ
     
  20. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    คืนวันพุธ กรรมนิมิต

    เย็นวันพุธ เมื่อผมเปลี่ยนเวรกับแม่ แม่บอกว่าหมอให้โอวัลตินพ่อได้แล้ว ผมนึกในใจเร็ว ๆมาก กินได้แล้วหรือ ผมเช็ดตัวให้ท่านแล้ว เอาตลับบอลบริหารปอดให้ดูด ปรากฎว่าพ่อดูดไม่ขึ้นสักบอลเดียว แปลกจังพ่อเอาหน่อย หนูจะได้ไปอยู่ห้องพิเศษ หมอบอกว่าถ้าพ่อดูดบอลขึ้นจะย้ายห้องให้ หนูก็จะได้เฝ้าพ่อสบายๆหน่อย แกก็พยายามดูดนะครับ แต่ด้วยความที่ท่านผ่าตัดใหญ่มา และทุนเดิมดูดบุหรี่จัดมาก ทำให้ปอดไม่มีแรง หายใจยังลำบากครับ วันนี้พ่อมีแรงทางร่างกายมาก ตาแจ่มใส แต่เริ่มมีอาการ ผุดลุก ผุดนั่ง นอนก็บอกว่าจะนั่ง นั่งก็จะนอน ผ่าท้องขนาดนี้นั่งไม่ได้หลอกมันเจ็บแผล เราตอบแทน ท่านบอกว่าไม่เจ็บเอาเทอะนั่ง ผมหมุนเตียงแขนประคองหลังท่านให้นั่ง ได้สักพัก ก็เอนต่อ พ่อบอกว่าหนูนอนเหอะ วันนี้ผมเตรียมเสื่อ หมอนมาอย่างดี นอนได้แล้ว ชินสถานที่แล้ว แปลกจริง ผมเองก็นอนไม่ได้ ใจมันกะสับกะส่ายบอกไม่ถูก เข้าตี ๑ พ่อเริ่มถอดสายน้ำเกลือออก ผมต้องตามพยาบาลมาใส่ให้ใหม่ เวรซ้ำ กรรมซัด เบาหวานดันมาขึ้นเอาวันนี้ อะไรมันจะสับซ้อนอย่างนี้ พยาบาลบอกก็เอายาเบาหวานให้แกกินสิ มันเป็นกลางดึก ผมนึกในใจ ว่าแล้วกูจะไปหาที่ไหน พ่อกลืนน้ำยังลำบากเลย ผมบอกแกว่าพ่อใจเย็นๆนะ นอนเฉยๆ ผมก็เช็ดตัวให้ พอเสร็จพ่อบอกว่าหิว พยาบาลก็บอกว่ากินได้ แม่ก็ป้อนโอวัลติน ไปแก้วแล้วเมื่อเย็น ผมบอกว่ารอเดี๋ยวนะพ่อ หนูออกไปซื้อแป๊ะ เดินไปหน้าโรงพยาบาล เข้า เซเว่น ซื้อนมวีฟิส น้ำนมข้าวโพด ให้ท่านทาน ก็พ่อหิวอ่ะครับ จะไม่ให้กินก็ไม่ได้ เอาที่น้ำตาลต่ำ โรลแฟต คัดของดีทุกอย่าง เดินกลับมาที่ห้องกดเจลล้างมือ เทนมใส่แก้ว ป้อนท่าน ท่านกินให้เลย สักพัก ท่านบอกว่าพอ อิ่ม นมกล่องนี้เอง ที่เป็นอาหารมื้อสุดท้ายในชีวิตพ่อ ผมเองไม่รู้เลยว่าผมจะไม่มีโอกาสได้ป้อน น้ำ ป้อนอาหารท่านอีกแล้ว แต่ในต้อนนั้นมันไม่รู้อะไรเลยนะ มันมีอะไรมาบังเรา บังใจ ว่าพ่อกำลังจะไป ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว อิ่มแล้วพ่อก็เอนหลับตา เวลา ตี ๓ กว่า พ่อยกมือขึ้นเหมือนจะหยิบของในอากาศ หยิบแล้วก็วาง ๓ ครั้ง แล้วพ่อก็ลืมตา บอกว่าจะลุก ผมจับท่าน นั่ง นอน ทั้งคืนเลยครับ พอพ่อลุกนั่งได้ พ่อก็ควานหาของรอบๆตัวท่าน บนที่นอน เตียงคนไข้ แล้วมองหน้าผม ถามว่า ๓ คนเมื่อกี้ไปไหน เอาแล้วไง ช๊อกซีนี่ม่าทุกวันเลย เวรดึกนี่โดนของดีตลอดเลย ไม่มีพ่อเค้าหลับกันหมด ใครมา ไม่มีเราเตียงมุมสุดไม่ติดทางเดิน แล้ว ๓ คนมายังไง พ่อบอกว่าเขามาขอพระพ่อ(พระเครื่อง) แล้วไงพ่อให้เขาไปไหม พ่อบอก ให้ ให้คนละองค์....นึกในใจ มันคนหรือ เวลาอย่างนี้คนหรือ พระอะไรหละพ่อ....พ่อตอบ หลวงพ่อเพี้ยน(อัคคธัมโม) พ่อพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...แล้วบอกว่า...อ้าวงี้เราก็หมดสิ....หว่า ผมบอกพ่อว่า ไม่หมดหลอกพ่อ เรามีเยอะ หนูมีเยอะ พ่อหันมาบอกว่า หนูมีเยอะหรือ มีเยอะจะเอารุ่นไหนหละ มีหมดแหละ พ่อจึงคลายกังวนได้ เออดีแล้ว....ดีแล้ว พ่อว่าพร้อมกับนอนลง พักเดียวเท่านั้น พ่อนอนยิ้มคนเดียว ผมนึกในใจถ้าไม่หลับก็คุยกันสิ มานอนยิ้ม นั่งยิ้มอยู่ได้ อยู่ดีๆ พ่อก็พูดขึ้นว่า "ทำยังไง หนูถึงจะเล่นได้อย่างเค้าหละ เพราะจังเลย" ผมถามว่าอะไรพ่อ พ่อมองที่ปลายเตียง แล้วบอกผมว่าเขาเล่นเพราะนะ ทำยังไง เราจะเล่นได้อย่าเค้า เล่นอะไรพ่อ พ่อบอกว่าดนตรี ดนตรีไทย ผมถามว่าเครื่องอะไร ระนาด หรือ เพราะความเป็นจริงผมเล่น ระนาดเอก ลูกพ่อทุกคน จับเล่นดนตรีไทยหมด พี่สาวคนโต เล่นจะเข้ คนกลาง ซออู้ ผมระนาดเอก อาจจะเพ้อเห็นว่าผมเล่นดนตรีไทย พ่อบอกว่า เครื่องสาย อ้าวไม่ใช่แล้ว ผมถามว่าซอหรือ พ่อบอกว่าเหมือนจะไม่ใช่ แต่ก็หลุดปากออกมาว่า "ซอ อ......." สาบานได้ว่าพ่อพูดเป็นชื่อซอ ออกมา ซออุปั..ติ อะไรสักอย่าง ผมไม่เคยได้ยิน และไม่สามารถจำได้ว่าพ่อพูดว่าซออะไร ผมเลยบอกว่า ซอสามสายหรือ พ่อบอกว่า...อือ เหมือนตัดบท หนูทำยังไงจะเล่นได้สัก ชิ้น สอง ชิ้น แล้วพ่อก็ ยกมือขึ้นชี้ที่ข้างตัวผมว่านั้นไง "พี่นางฟ้า พี่นางฟ้าจำแรง" โอ้วันนี้มาแปลก นกไม่เห็น กระรอก กระแต ไม่เห็น เห็น นางฟ้า เลยวุ้ยพ่อนี้ เปลี่ยนอารมย์ คนเฝ้าไข้เก่งจริง ผมถามว่านางฟ้าอะไร พ่อบอกว่า ก็นางฟ้าไง หนูไม่เห็นหรือ ไม่เห็น พ่อทำหน้าเฉย แล้วนอนลง เวลาผ่านมาเขาจะ ตี ๕ แล้ว พ่อมีกำลังขึ้นมามาก อย่างไม่มีอะไรเกิดกันตัวท่าน พ่อถอดสายทุกชนิดออกจากตัว ใส่เสื้อ กางเกง หวีผมเองเรียบร้อย ผมเผอหลับไปนิดเดียว ลืมตาขึ้นมา พ่อๆไปไหน พ่อบอกว่า "กลับบ้านเราสิ อยู่ทำไมเล่า" ไม่ได้พ่อไม่สบาย พ่อไม่เห็นเป็นอะไร ยกมือ ยกแขนอย่างอิสระ เฮ้ยหรือว่าพ่อหายแล้ว ไปเหอกลับบ้าน จะกลับบ้านท่าเดียว อยู่ทำไมเล่าพ่อหายแล้ว เดียวนะพ่อนอนลง ไม่ได้นะพ่อกลับบ้านเดี๋ยวติดเชื้อ ท้องก็ยังไม่ได้เย็บจริง ลวดหนีบไว้เฉยๆ เดียวหนูเช็ดตัวให้ เช็ดตัวไปพ่อตัวเย็นมาก ปกติเลย แต่พอพยาบาลมาวัดไข้ ๔๑ องศา เฮ้ย..มันหลอกตา หลอกใจเราจังเลยวะ เราเฝ้าท่านตัวๆ ความตาย ยังหลอกเราได้ เรามองอะไรไม่เห็นเลย ความผิดปกติต่างๆเราต้องเห็น เช้าพอดี แม่มาเปลี่ยน ผมกลับบ้านนอนเอาแรงเช่นทุกวัน วันนี้กินข้าวก่อนด้วย ที่โรงอาหาร รพ. สั่งหมูยอทอดกระเทียม ผัดกระเพรา ขอโปรด อิ่มแล้วจะได้หลับสบาย คำแรกที่กิน เฮ้ย... มันดินน้ำมันหรือไงว่ะ ไม่มีรถมีชาดเลย ภาษาชาวบ้าน หมาไม่รับประทาน เลย ไม่มีรถอะไรเลย กินกับหมด ข้าวไม่กิน แล้วกลับบ้าน วันนี้มนต์ไม่สวด เช้านี้ไม่พาพ่อใส่บาตรด้วย เบื่อพระท่านขึ้นมาทุกวัน จะเอาเงินใช่ไหม ให้พรก็ผิดๆ ถุูกๆ จีวรก็ไม่ซัก ติแต่หัวจนเท้า เราก็บวชเรียนมามาดๆ ๘ เดือน ๑ พรรษา นักธรรมตรี ศิษย์พระอาจารย์วิปัสนาฯ ปริญญาตรี โท พุทธศาสตร์ มจร. สายวิปัสนา พระมหาศรี ซายาดอ วัด ฮวยตอมอู สหภาพพม่า ปฏิปทาแนว ออริจินอล กับพระบรมศาสดา นี่จิตอวดดีมันเป็นอย่างนี้นะ ตัวกูของกูขึ้นแล้วมันเป็นอย่างนี้นะ มันเก่งเหนือใครหมด ขนาดพระสงฆ์ อากับกริยาไม่สำรวม ให้พรผิดนิดเดียวเท่านั้น มองเป็นขอทานเลย ปรับอาบัติทุกข้อนะ จิตนี้ชั่งชัวช้าเสียจริง ไม่ศรัทธาหนีเข้าห้องน้ำเลย ตกลงเช้าวันที่พ่อเสีย พ่อไม่ได้ใส่บาตร เพราะจิตอันอวดดีของผมนี่เอง ผมบอกท่านทั้งหลายไว้เลยนะครับ ต่อให้พระปลอมเราก็ได้บุญ คิดจะทำ เราก็ได้แล้ว เราถวายสงฆ์ เราถวายพระพุทธ เราสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้อยู่บนผืนแผ่นดินนี้ เพื่อรอลูก รอหลานเรา ให้ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา แล้วจริงๆคนที่ต้องการทำบุญมากที่สุดคือคนป่วย คือพ่อเรา จิตมันตก มันอยู่ในทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส เรานี่มันโง่บัดสบเลย นี่แค่ ๒ คนนะ พ่อกับลูก เรายังทำให้เข้าป่าเข้ารกได้ถึงขนาดนี้ แล้วเจ้าสำนักต่างๆหละ ที่มีความเป็นมิจฉาฐิทิสูงอยู่ในตัวหละ จะขนคนลงนรกได้มากขนาดไหน พอกลับถึงบ้านนอนยังไงก็ไม่หลับ กะสับกะส่ายอยู่ในห้องอย่างนั้น เปิดแอร์เย็นฉ่ำแค่ไหนก็ไม่สนิท เหมือนกับว่า มีคนมาบอกให้ไป รพ. ไปดูใจพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ตื่นมา ๕ โมงเช้า หลับตาไป ๒ ชม.กว่า ออกมาว่าจะไป รพ.กลางวันสักหน่อย แฟนให้เฝ้าร้านแป๊ะ จะไปซื้อของเข้าร้าน อะไรว่ะ นั่งเฝ้าให้ แม่โทรมาบอกว่า พ่อดูไม่ดีนะ เราก็อือไม่เป็นไร แกก็ไม่ดีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เดียวไปแม่ ใจเย็น ดู๊ บทได้เย็นก็เย็นจริง น้อยไปซื้อของ เฝ้าร้านอยู่ ผมก็ร้อนใจมากเลย แฟนผมลงได้ออกจากบ้านแล้วหละก็ ยาว บ่าย ๒ โมง แม่โทรมา ๓ ครั้งแล้วว่า พ่อดูไม่ดี แต่แกก็ไม่บอกนะว่า พ่อจะตาย เอาคำที่มันไม่ต้องแปล นี่เราจะได้เข้าใจสถานะการ บอกแต่ว่าไม่ดี โอ้ยเอาไงดี ปิดร้าน ขึ้นไปเปิดห้องพระ ทำวัตรสวดมนต์ วันนี้ โพชังโค ก็ไม่สวด แต่สว่างมาก นึกถึงพ่อก็สว่าง มันก็ดีนี่หว่า กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวรพ่อปกติ แต่วันนี้ไม่พูดขอให้พ่อหายป่วย มันดันเสือก อธิฐาน "ขอให้พ่อของลูก พ้นจากทุกขเวทนาต่างๆ อย่าให้ดวงจิตของพ่อ พจญกับหมู่มารใดๆเลย ขอให้อำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ช่วยนำพาดวงจิตของพ่อ พ้นจากทุกขเวทนานี้ด้วยเทอญ" แล้วก็รีบขับรถไปรับพระอาจารย์ที่วัด ๒ รูป พระอาจารย์ก็บอกว่าหลวงพี่ ก็ส่งกระแสจิตให้อยู่นะ บอกกับพระอนุสาศนาจารย์ผมบอกว่า ถ้าคนไหนไม่รอด จะเป็นสีดำมืดตื้อเลย ของลุงธิ นี่สว่างนะยังกะว่าพ้น ๓ วันไปแล้วจะไปเยี่ยมแกนะ ผมเป่าปี่อีกแล้ว แต่ต่อหน้าพระอาจารย์ต้องกำหนด สะกดมันไว้ ไม่ให้ปล่อยโฮ ด้วยความสาบซึ้งที่ พระอาจารย์ ยังส่งกำลังใจ ช่วยท่านเลย เมื่อไปถึง รพ. เวลา บ่าย ๓ ครึ่ง ก็เห็นหมอ พยาบาลรุ่มกันที่เตียงคนไข้คนหนึ่ง ไม่คิดนะว่าจะเป็นพ่อเรา พอเข้าไปเห็นพ่อหลับตาสนิท ก็ทราบได้ทันทีว่า พ่อไปแน่ ไปวันนี้หละ ทุกคนมากันพร้อมหน้า ขาดก็แต่พี่สาวคนโต ที่อยู่อเมริกา กว่าแกจะกลับมาถึงไทย ก็สวดคืนที่สองไปแล้ว ผมเดินไปจับมือพี่สาวคนกลางและแม่ไว้ มองดูพ่อด้วยน้ำตานองหน้า หัวใจผมแทบไม่เต้นเลย ในห้องเหมือนไม่มีอากาศหายใจ มันจุก มันอัดอยู่ในอก ภาพที่เห็นหมอ ๒ คนทั้ง หมอศัลฯ และอายุรกรรม ช่วยกันยื้อยุดฉุดกระชาก ความตายของพ่อ กับมัจจุราชอย่างเต็มกำลัง พยาบาลทั้งห้องช่วยกัน เมื่อเขาเห็นเราร้องไห้ก็ปิดม่านกันสี่มุมเสีย ที่ท้องแขนท่านทั้ง ๒ ข้าง หน้าอกช่วงปอด ต้นขาพับใน หมอกรีดเส้นเลือดใหญ่เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อพ่อ อย่างตรงจุด กะว่าให้เร็ว ให้เข้ากระแสเลือดได้ไว พ่อไม่มีปฏิกิริยาตอบ เครื่องวัดชีพผจร เส้นแดงนอนนิ่ง หมอเรียกทุกคนไปคุย ว่าหมดทางแล้วครับ พอจะลา จะบอกอะไรคนไข้ก็เชิญครับ ผมเห็นหมอ พญ.อายุรกรรม น้ำตาคลอเบ้า แล้วพูดกับพยาบาลว่าไปแล้ว ทำใจไม่ได้ ขนาดหมอยังทำใจไม่ได้ แล้วผมหละ ทุกคนก็เข้าไปลาพ่อกัน ป้าใหญ่มาพอดี แต่ก็ไม่ได้คุยกับพ่อ พี่สาวคนกลางไปรับที่กำแพง กะว่าจะให้เรียกขวัญมาเข้าร่างแต่ไม่ทัน ลูกป้าบอกว่า สามสวดมนต์ให้พ่อฟังนะ ผมก็สวดนำท่านไป จนจบ บทถวายพรพระ ไม่ร้องครับพยาบาลมาบอกพวกเราว่าคุณลุงไปแล้วนะคะ ประมาณ ๔ โมงตรง ที่เห็นหายใจเพราะเครื่องช่วยหายใจทำงานแทนปอดพ่อ แต่ลุงไปแล้วค่ะ ทุกคนเรียก พระอาจารย์ทั้งสองมาส่งพ่ออีกครั้ง แล้วลงความเห็นว่า จะนำศพพ่อไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดเมืองใหม่ เพราะกองบุญ กองธรรมท่านอยู่ที่นั้น บวชลูกชายที่วัดนี้ ท่านส่งกับข้าว ก๋วยเตี๋ยว ถวายพระใหม่ที่นี้ กลิ่นอายของบุญของท่านอยู่ที่วัดนี่ พ่อจบชีวิตที่แสนลำบากไว้เท่านี้ ๗๒ ปี ที่เหน็จเหนื่อย ๔๓ ปี ชีวิตครอบครัว ที่เต็มไปด้วยภาระ พ่อเคยบอกว่าคนตายมันจะมีอะไร มันก็เหมือนคนนอนหลับนี่หละ ไม่ต้องกลัวอะไร เราจะตายยังไง ก็เหมือนนอนหลับอย่างนั้นเอง อือ..มาถึงตรงนี้ท่านทำได้จริงครับ ท่านหลับตาไปเฉยๆ แม่บอกว่าผมกลับ ตอน ๒ โมงเช้า ๓ โมงเช้าพ่อก็เริ่มหอบ ๔ โมง แม่บอกพ่อว่า พี่หลับตานะ หลับตา พ่อก็หลับตา และก็ไม่ได้ลืมขึ้นมาอีกเลย จนชีพผจรท่านขาดลงเมื่อตอน ๔ โมงเย็น หมอ พยาบาลจะทำอะไรกับสังขารท่าน ท่านไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ไปได้เงียบมาก ไม่เอยปากสั่งลาอะไรทั้งนั้น บอกแม่แต่ก่อนเข้าโรงพยาบาลเท่านั้นว่า "เราเป็นข้าราชการ ต้องจัดพระราชทานเพลิงศพนะ จัดให้ฉันด้วย" เพราะว่าคำพวกนี้ ผมฟังไม่ได้ จะต้องขัดท่านทุกครั้งด้วยน้ำเสียงดุใส่ว่า ยังๆ ไม่ตายหลอก จะพูดทำไม ไม่ยากหลอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ในความเป็นลูก และเด็กของเรา เราไม่เห็นสัญญาณอะไรเลย ที่พ่อพยายามจะบอกเราในช่วงปีสุดท้าย ก่อนท่านจะเสีย เราอยากให้ท่านอยู่ไปนานๆ อยู่กับเราไปจนเราตาย เห็นแกตัวที่สุด ทุกวันนี้พอนั่งคิดย้อนดูแล้ว รู้เลยว่าท่านต้องไปเสียแต่ น๊อกเบาหวานคราวแรกแล้ว แต่เป็นเพราะเราขอกลับพระประทานในโบสถ์ ว่าของดูแลท่านอีกนิด เพิ่งกลับบ้านมายู่กลับท่านเอง ใครจะคิดว่า ผมทำไมไม่ไปทำงานต่อ ผมไม่สน ผมคิดถูกแล้วที่กลับมาทันดูแลท่านเมื่อแก่ชรา ใครมันจะดีเท่าลูก ใครมันจะคุยด้วย แล้วมีความสุขเท่ากับ คุยกับลูก ไม่มี ใครจะทำอาหารให้กินได้อร่อย กว่าลูกทำให้กิน ไม่มี ที่สุดของ พ่อ แม่ คือลูก ตอนนี้ชีวิตผมเสียพระโพธิสัตว์ ประจำตัวไปองค์นึงแล้ว สำหรับผม พ่อ แม่ คือพระโพธิสัตว์ ของลูก ลูกจะทำอะไร อยากได้อะไร อยากกินอะไร อยากเรียนที่ไหน ได้ ไม่มีก็ต้องหามาให้ คำว่า ไม่ได้ ไม่มี ไม่เคยเกิดกลับผมเลย ได้ครับพี่ ดีครับลูก เหมาะสมที่สุด สำหรับลูกพ่อ พ่อ จัดให้ พ่อขออย่างเดียว อย่าเป็นอันธพาล และอย่าติดยา เท่านั้นเองที่พ่อขอผม ประจำตั้งแต่เด็กจนโต อันธพาลสำหรับ สำหรับชาวพุทธนี้ข้อเดียวก็จบแล้วครับ ทุกวันนี้ผมยังเหลือ งานพระราชทานเพลิงศพ อีกหนึ่งงาน และกว่าจะถึงวันนั้น ผมต้องรอส่ง พระโพธิสัตว์ องค์สุดท้ายของผมก่อน แล้วท่านหละครับ แค่ส่งเงินกลับบ้าน ทุกเดือนๆ คิดว่าเพียงพอ แล้วหรือยัง ขอกุศลผลบุญที่ลูกไปทำมาแล้วนี้ ของให้ส่งผลถึงดวงจิตพ่อ ของลูกด้วยเทอญ อีกไม่นานลูกจะต้องตามหาพ่อเจอ จะขอทดแทนคุณท่าน เลี้ยงดู อนุบาลท่านไปทุกภพทุกชาติ ไม่ว่าท่านจะเกิดภพใด ภูมิใด ขอให้ลูกจำพ่อได้ สงเคาะห์ท่านได้ ตราบเท่าดวงจิตพ่อเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตชาติอันใกล้เทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7040.JPG
      IMG_7040.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      164
    • IMG_7018.JPG
      IMG_7018.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      61
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...