บันทึกปรากฏการณ์พิเศษตลอดการปฎิบัติธรรมมา๔๐ปี !!

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ปาริสัชชา, 14 มิถุนายน 2012.

  1. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ผู้ใหญ่หาว่าผมบ้า และถูกสะกดจิต

    เรื่องนี้มีที่มาคือ ปรกติผมเป็นคนขี้สงสัยมาก โดยเฉพาะกับอาการต่างๆหลังจากฝึกมโนมยิทธิแล้วดังที่ผมกล่าวไปข้างต้น ตอนนั้นผมไม่ได้ถามครู กอร์ปกับไม่ฉลาดในการใช้มโนมยิทธิเข้าไปถามพระอีกด้วย

    คือ ทำมโนมยิทธิไปถึงพระนิพพานแล้ว ก็ไม่ได้สนใจจะไปเที่ยวที่ไหนอีกเลย และก็ไม่มั่นใจที่จะกำหนดจิตถามพระ เพราะเกรงว่าคำตอบต่างๆจะเป็นอุปปาทาน ด้วยต้นทุนของความขี้สงสัยมากเกินเหตุนี่เอง

    (สมแล้วที่หลวงพ่อท่านเตือนตอนไปลาท่านว่า "อย่าสงสัย") จึงไม่เคยเรียนถามอาการต่างๆนี้กับพระเบื้องบนเลย

    ต่อๆมาวันหนึ่ง (จริงๆแล้วผู้ใหญ่ไม่สนับสนุนให้ผมเจริญกรรมฐาน...ยกเว้นแม่ผมคนเดียวที่ให้กำลังใจ) ผมถูกเรียกตัวไปพบผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่มีคนนับหน้าถือตามากและก็เคยมาฝึกที่วัดท่าซุง

    ท่านดูน่าเชื่อถือ (ในสายตาผมตอนนั้น) ท่านบอกผมว่า "ที่ผมไปทำมโนมยิทธินั้น ผมถูกสะกดจิต ต่อไปจะเพี้ยนไม่ตรงแนวทาง" ซึ่งท่านก็เป็นผู้ศึกษาพระอภิธรรมอย่างแตกฉาน ท่านตะล่อมและยกตัวอย่างต่างๆนาๆ

    ว่าท่านเองก็เคยมาฝึกที่วัดท่าซุง แล้วท่านก็ฝึกได้ แต่ท่านลงความเห็นว่า "มโนมยิทธิเป็นการสะกดจิต"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  2. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    หมดวาสนาทำมโนมยิทธิเสื่อม

    ด้วยความโง่และอกุศลกรรมของผมผนวกกัน บวกกับพื้นฐานที่เป็นคนขี้สงสัยมากอยู่แล้ว เมื่อฟังผู้ใหญ่ท่านนี้พูดหนักๆเข้า จิตของผมก็คลายศรัทธาจากวิชชานี้ลง ทำให้จิตที่ใสสว่างเห็นภาพพระเป็นปรกตินั้น

    มืดลงทันที ธรรมปิติในจิตหายไป
    เหมือนเรี่ยวแรงหมด เดินกลับบ้านมาด้วยจิตมืดๆ ไม่เห็นอะไรอีกเลย พอถึงบ้านก็ไม่อยากสวดมนต์ไหว้พระอีกร่วมเดือน (นี่ตกแรงจริงๆ)
     
  3. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ใช้เวลา ๑๙ ปีจึงทำมโนมยิทธิกลับคืนมาได้

    ตลอดเวลาที่ผ่านไปเดือนเศษๆนั้น ผมระลึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับเบื้องบนได้ว่า "จะขอกลับมาบำเพ็ญต่อ" ผมก็เริ่มสวดมนต์ แต่ไม่กล้าทำมโนมยิทธิอีกเลย แม้จะพยายามทำก็ทำไม่ได้ ครั้นจะไปวัดท่าซุงหรือซอยสายลม

    เพื่อไปขอฝึกใหม่ ก็ระลึกถึงคำของหลวงพ่อฤาษีท่านได้ว่า "ถ้าทำเสื่อมแล้วจะไม่ฝึกต่อให้" ผมจึงตัดสินใจในช่วงนั้นว่า "เอาหล่ะ...เรายังศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อฤาษี หากมโนมยิทธิเป็นสิ่งที่คนอื่นตำหนิ

    งั้นเราจะฝึกกสินแสงสว่างที่เราชอบก็แล้วกัน"
    จากนั้นผมก็เริ่มฝึกกสินแสงสว่างมาอีก ๑๐ ปี จึงปรากฎผลขึ้น และก็ไปฝึกในสายพระป่าอีก ๙ ปี ต่อๆมาก็ได้พบกัลยาณมิตร ๒ ท่าน ที่ยืนยันเรื่องมโนมยิทธิ

    ซึ่ง ๒ ท่านนี้คือ คุณณฐมณฑ์ และแม่ชีท่านหนึ่งที่วัดถ้ำประทุน ในปี ๒๕๔๗ ทั้งสองท่านนี้ยืนยันเรื่องวิชชามโนมยิทธิของหลวงพ่อ และเป็นกำลังใจอีกครั้งจนทำให้ผมเชื่อมั่น

    ทำให้ผมสามารถทำวิชชามโนมยิทธิคืนกลับมาได้เองในวันออกพรรษาปีนั้นพอดี


    (มโนมยิทธิเป็นวิชชาที่ละเอียดกว่า กสินแสงสว่างที่ผมทำได้ เพราะต้องทำจิตให้เบาจึงยกจิตออกไปได้ แต่ผมใช้วิธีผนวกกันเข้าในหลายๆวิชชา ตามที่ฝึกมาหลายสิบปี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าครั้งที่ฝึกจากวัดท่าซุงโดยตรง ตามที่ผมเล่ามาครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  4. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    สรุปเรื่องมโนมยิทธิ

    สรุปว่า ท่านใดที่สามารถฝึกมโนมยิทธิได้แล้ว ต้องไม่สงสัยหากทำต่อๆไปเรื่อยๆก็จะดียิ่งขึ้นและเกิดอัศจรรย์ดังที่ผมเล่ามานะครับ หากปล่อยให้เสื่อมลงแล้วโอกาสกลับคืนมายากและอาจไม่ดีเท่าเดิม

    หลายๆท่านก็ได้ยืนยันเรื่องมโนมยิทธิแล้ว โดยเฉพาะที่ผมเห็นชัดก็คือแม่ของผม ที่ใช้มโนมยิทธิได้ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีท่านก็มาช่วยได้จริงๆครับ

    ----------------------

    สรุปเรื่องมโนมยิทธิทั้งหมดที่ผมเล่าไว้นี้ ผมพิมพ์แล้วก็แก้ไขหลายหน(ใช้เวลาหลายวัน)เพื่อย่อความให้กระชับ ผมตัดออกไปหลายตอน แต่ก็ยังคงยาวมากอยู่ดีนะครับ แต่หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นโยชน์ต่อท่านผู้อ่านในแง่มุมต่างๆได้บ้างนะครับ

    เรื่องต่อๆไป ผมจะค่อยๆทยอยพิมพ์ไปตามกำลังนะครับ
     
  5. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    ขอบคุณมากครับที่ยำเตือนกัน และขออนุโมทนาธรรมทานกับคุณด้วยน่ะครับ สาธุๆ ติดตามอยู่ตลอดน่ะครับ มาช้าหรือไม่มา ก็ยังรอมาเขียนอยู่ :cool::cool:
     
  6. ป้าเล็ก

    ป้าเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +2,447
    อนุโมทนาในธรรมทานนี้ค่ะ
    อ่านพบข้อธรรมหลายข้อไว้สอนตนเองต่อค่ะ น้องยังคงต้องพยายามอีกมาก เพื่อไปให้ถึงที่หมาย แต่จิตรู้้สึกมั่นคงมากขึ้นค่ะ
    เรื่องเสียงที่ได้ยินที่วัดท่าซุง เคยมีคืนหนึ่งหลับอยู่ในห้องที่อาคารธรรมสถิตย์ ข้้างโบสถ์ ได้ยินเสียงเหมือนใครพูดแต่ไม่ใช่ภาษาที่เรารู้จัก ฟังคล้้ายเสียงนก แจ๊ก แจ๊ก แจ๊ก แจ๊ก แจ๊ก แจ๊ก เสียงดังมากจนน่าจะได้ยินกันทั้้งศาลาจนตื่นขึ้นมานั่งในมุ้้ง ถามผู้มาปฎิบัติธรรมคนอื่นๆ ไม่มีใครได้ยินอะไรเลย ขณะยังนั่งอยู่ก็ได้ยินอีกครั้้งด้วยข้อความที่สั้้นกว่าเดิม ด้วยความโง่และรู้สึกกลัวไม่ได้แผ่เมตตาใดๆเลย น่าสงสารท่านผู้นั้้นจริงๆที่ท่านมาสื่อสารกับคนโง่เช่นเเรา มานึกอยากจะแผ่เมตตาให้ก็เลยเวลาของท่านไปเสียอีก แต่อย่างไรก็ตั้้งใจอุทิศบุญให้ท่านนะคะ ตอนนี้รู้แล้วว่าเรานี้ยังโง่อยู่อีกมาก ยังมีความเลวอยู่อีกมาก ยังมีความหลงอยู่อีกมาก ต้องเพียรมากขึ้นเดี๋ยวเวลาหมดจะไปไม่ถึงจุดหมาย
    อนุโมทนาในธรรมทานของพี่อีกครั้งค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ
     
  7. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ท่านเจ้าของกระทู้ ผมก็มีความสงสัยมากนัก การปฏิบัติเลยไม่ก้าวหน้า
    โมทนากับประสบการณ์ธรรม

    ผมหวังว่าจะได้ฝึกมโนมยิทธิหากมีบุญวาสนา พอ (ฝึกเองไม่ได้ต้องมีครู)
     
  8. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ขออนุโมทนาในธรรมทานครับ เห็นมีคำผิด ที่อ่านแล้วอาจจะทำให้เข้าใจความหมายผิดได้ ก็เลยขออนุญาตแนะนำครับ
     
  9. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ขอบคุณมากๆครับ คุณnuttadet ผมเข้ามาแก้แล้วครับ
     
  10. อำไพพันธุ์

    อำไพพันธุ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +905
    ขอขอบคุณท่านพี่ปาริสัชชามากครับ สำหรับธรรมทาน

    ขอบคุณที่เตือนสติผมว่าอย่าสงสัย และที่ได้เป็นของจริง

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691

    คุณป้าเล็ก ก็เคยพบเช่นกันนะครับ แสดงว่าท่านเหล่านั้นคงจะเห็นกระแสบุญ หรือเห็นว่าคุณป้าเล็กจะช่วยท่านนั้นได้ ผมขอโมทนาบุญกับคุณป้าเล็กด้วยเช่นกันนะครับ
     
  12. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ความสงสัยนี่ห้ามยากนะครับ แต่ถ้าเป็นคนขี้สงสัย ครูบาอาจารย์ท่านให้ปฎิบัติธรรมด้วยอานาปานุสสติ เพื่อระงับความฟุ้งของจิตก่อน จากนั้นก็พิจารณาธรรมในลักษณะที่เป็นไปเพื่อให้เห็นความจริง (จะได้ไม่สงสัย) เช่น ปฎิกูล ,ความตาย ฯลฯ

    ปัจจุบันผมก็ใช้หลายๆวิธี แต่ที่ยืนพื้นก็คือ อานาปานุสสติ+กสินภาพพระ จากนั้นพอจิตกลับเข้ามาภายในดีแล้ว ก็พิจารณา ปฎิกูล โครงกระดูกในกาย จากนั้นก็พิจารณาไตรลักษณ์ พอจิตเบาสบายมีกำลังดีแล้ว ก็ยกจิตออกไปไหว้พระแบบมโนมยิทธิ จากนั้นก็กลับลงมาทรงอารมณ์แบบเดิมไว้ แล้วประคองด้วยอานาปานสติกับกสินภาพพระเป็นวงจรอย่างนี้ทั้งวันหล่ะครับ
     
  13. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    สาธุครับ คุณอำไพพันธุ์ ผมเขียนเรื่องนี้เพื่อเป็นตัวอย่างในหลายๆแง่มุม โดยเฉพาะเรื่องความสงสัย ซึ่งผมเองยอมรับว่าตัวเองโง่มาก คือไปเจอเพชรแล้วยังสงสัยว่าเป็นก้อนกรวด ซึ่งนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อฤาษีที่ว่า "ตัวเองกินแกงอยู่ก็ดันไปถามคนอื่นเค้าว่า อร่อยมั้ย" นี่ได้แก่ผมเลยหล่ะครับ

    แล้วที่ผมเขียนถึงท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น ผมก็ไม่ได้โทษท่านเลยนะครับ เพราะท่านก็เข้าใจไปตามประสบการณ์ พื้นฐาน หรือบารมีของท่าน แต่ผมเองนั่นแหละที่ผิดคือ ทำจิตตกไปเอง ไม่ชั่งน้ำหนักดูว่าขณะอยู่วัดท่าซุงมีครูบาอาจารย์ที่ท่านแสดงอะไรให้เห็นแล้วบ้าง ซึ่งตอนนั้นก็ประจักษ์แล้วด้วยนะครับ
     
  14. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    ผมก็โมทนาสาธุกับคุณ nichaojung และทุกๆท่านที่ได้อ่านเช่นกันนะครับ ผมหวังจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่ได้อ่านครับ เพื่อจะได้มั่นใจในคุณพระรัตนตรัย และช่วยกันสืบพระพุทธศาสนาต่อๆไปให้ครบห้าพันปีนะครับ
     
  15. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    อ่านแ้ล้วรู้สึกว่า การปฏิบัตินั้น หากยังลังเล สงสัยก็จะเป็นนิวรณ์กินตัวกินใจอยู่อย่างนั้น ไม่มีทางยกจิตขึ้นสู่สภาวะธรรมที่ละเอียดได้เลย

    ทุกวันนี้ัยังเลวอยู่มากครับ เป็นเรื่องที่แปลกจริงๆครับ ออกนอกลู่นอกทางก็หลายครั้งหลายครา จนไม่ก้าวหน้าไปทางไหน

    ขอโมทนากับพี่ปริัสัจชาด้วยครับ สาธุๆๆ
     
  16. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    เรื่องมโนมยิทธิ ก็ผ่านไปแล้ว แต่จริงๆยังไม่จบนะครับ มีหลายตอนที่ผมตัดออกไปที่เป็นปาฎิหารย์ในช่วงๆนั้น

    ส่วนผมเล่าว่า หลังจากมโนมยิทธิเสื่อม เพราะเกิดความสงสัย และศรัทธาหย่อน ทำให้ขาดกำลังใจอยู่ร่วมๆเดือน ซึ่งตอนนั้นผมไม่สวดมนต์ไหว้พระเลย แต่ต่อๆมาพอรวบรวมกำลังใจได้ ก็เริ่มสวดมนต์ไหว้พระเจริญกรรมฐานกองที่คุ้นเคยก่อน นั่นคือ อานาปานุสสติ และกสินภาพพระ/กสินแสงสว่าง

    ใช้เวลาสัก ๗ วันก็รวบรวมกำลังใจได้ คือสามารถใช้จิตกระทบรู้ได้ แต่ยกจิตขึ้นไปไหน(แบบมโนมยิทธิ)ยังไม่ได้ และพยายามทำอย่างไรก็ไปไหนไม่ได้เลย

    เรื่องใช้จิตกระทบรู้ หรือการกำหนดจิตแรกนี้ ก็เป็นทิพยจักษุญาณอย่างหนึ่ง ซึ่งก็มีหลายๆครั้งที่ใช้จิตแรก เช่น ครั้งแรกที่ผมขับรถเข้ากรุงเทพ (ปรกติจะนั่งรถเมล์) ก็มุ่งหน้าจากพัทยาจะไปซอยสายลม ปรากฎว่า เกิดหลงทางในกรุงเทพ

    ผมก็จอดรถเข้าข้างทาง ทำสมาธิจิตให้เบา แล้วอธิษฐานกับหลวงพ่อฤาษีว่า "วันนี้ลูกจะไปกราบหลวงพ่อที่ซอยสายลม กำลังหลงทาง ขอบารมีหลวงพ่อนำทางลูกไปจนถึงบ้านสายลมด้วยเถิด"

    จากนั้นก็วางอารมณ์แบบสบายคล้ายเป็นเครื่องรับ คือไม่ต้องคิดอะไร ใช้จิตกระทบรู้นั้นผุดขึ้นแบบจิตแรก จากนั้นก็ขับรถออกไปตามจิตบอก เลี้ยวซ้าย เข้าซอย ตามหลังรถคันไหน เข้าเลนไหน ก็ตามจิตกระทบไปเรื่อย ก็ปราฏกว่า ถึงซอยสายลมได้จริงๆ ... นี่เป็นเรื่องของจิตกระทบนะครับ

    มีอีกหลายเรื่อง เช่น ตอนไปวัดถ้าประทุนครั้งแรก ซึ่งสมัยนั้นหลวงปู่อ่อนศรียังไม่ได้มาอยู่ แล้วตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมแสวงหาที่สงบเพื่อปฎิบัติธรรมเรื่อยๆไป โดยเอาเสื่อ หมอน เครื่องนอน น้ำดื่มใส่ท้ายรถไว้ แล้วก็ขับรถออกไปเรื่อยๆ ตั้งจิตว่า ที่แห่งใดสัปปายะก็ขอให้พบ แล้วก็ขับไปเรื่อยๆตามจิตกระทบ ปรากฏว่า ขับไปขับมา ผ่านภูเขาลูกหนึ่ง จิตบอกเลี้ยวขึ้นไปเลย อ้าว..ตอนนั้นไม่มีทางรถขึ้น เป็นทางดินที่น้ำเซาะขาดเป็นช่วงๆ สองข้างมีต้นไม้รกไปหมดขูดขีดตัวถังรถ

    ผมก็ไม่สนใจ พยายามใช้จิตแรกไปเรื่อยๆ เพราะจิตบอกว่า ข้างบนจะสัปปายะ ก็ปรากฎว่า พ้นทางวิบากนั้นไปถึงยอดเขาได้ ผมขนลุกซู่ทันที เพราะมีสำนักสงฆ์สายพระป่าอยู่บนนั้นจริงๆ ชื่อว่า "สำนักสงฆ์ตรอกแซง" มีถ้ำอยู่ด้านหลัง เห็นพระอยู่ ๒ รูปกำลังกวาดพื้นอยู่ ผมก็เข้าไปขออาศัยท่านเจริญภาวนา

    และต่อๆมาก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดถ้ำประทุนในสมัยหลวงปู่อ่อนศรีท่านมาอยู่ครับ ซึ่งช่วงๆนั้นผมเจอปาฎิหารย์จากเจ้าที่ของถ้ำ และพบเทพจำแลงมาเป็นพราหมณ์ท่านหนึ่งบนนั้นด้วย แต่เรื่องนี้ผมของดเอาไว้ก่อนนะครับ

    ก็เป็นอันว่า ยังคงใช้จิตกระทบได้อยู่ แต่ยกจิตไปกราบพระแบบมโนมยิทธิยังไม่ได้นั่นเองครับ แต่จิตกระทบนี้จริงๆก็คือ ทิพยจักขุญาณแบบอ่อนๆนั่นเอง ซึ่งก็ช่วยได้มาก นอกจากทางธรรมแล้ว ทางโลกก็ช่วยได้ เช่นตอนเรียน ก็รู้ข้อสอบ คือใช้จิตแรกนี้เลือกคำตอบในข้อสอบได้ค่อนข้างถูกต้อง อย่างนี้เป็นต้น

    มีเรื่องขำๆอยู่ว่า เรื่องใช้จิตกระทบเพื่อทำข้อสอบนี้ เคยมีคนหาว่าเอาเปรียบเพื่อน ผมก็มานั่งนึกนะครับว่า "คนทำทิพยจักขุญาณได้ นี่เขาทำยากกว่าความรู้ทางโลกแบบเทียบไม่ได้เลยนะครับ" ซึ่งในกระทู้นี้จะมีเรื่องที่ ๒๕ พบความรู้นอกโลกที่ผมจะเขียนในคราวต่อๆไปนะครับ (แล้วตอนนั้นเราทุกๆคนอาจจะรู้สึกคลายความสำคัญตนเองลงไปเลย)


    --------------------

    วันนี้ผมพอมีแรงอยู่บ้าง ผมจะขอเขียนเรื่องที่ ๑๔ และ ๑๕ เพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์อันใกล้ๆนี้นะครับ (แต่คงต้องขอเล่าย่อๆในบางตอนครับ)

    เรื่องที่ ๑๔... นางฟ้ามาส่งข่าวเรื่องน้ำจะท่วม แต่วิบากกรรมมาขวางทำให้ไม่เชื่อ

    และเรื่องที่ ๑๕... ประตูบ้านติดล๊อค แต่หนีน้ำท่วมออกมาได้ ด้วยพระพุทธานุภาพ ต่อกันไปเลยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  17. Mareo

    Mareo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +39
    อนุโมทนาบุญครับ
    ที่แบ่งปันประสบการณ์ ทำให้เสริมกำลังใจในการปฏิบัติต่อครับ
    ตัวผมเองลองฝึกวิชาแปดด้วยตัวเอง โดยการฟังเสียงของหลวงปู่ ที่โหลดมาจากเว็ปนี้เมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ไม่ได้มีความสามารถอะไรเลยครับ ได้แต่ความสงบครับ ต่อไปคงต้องหาที่ฝึกโดยมีครูคอยแนะนำซะแล้วครับ
    ขอบพระคุณท่านปาริสัชชามากครับ
     
  18. spthong2000

    spthong2000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +3,967
    ขอบคุณเรื่องสำหรับเป็นวิทยาทานครับ ผมว่าแต่ละคนทำบุญทำกรรมมาไม่เหมือนกันอย่างท่านเจ้าของกระทู้ก็อาจเป็นของเก่าที่สั่งสมมาในอดีตจึงได้อะไรง่ายและไปไว อย่างบางคนหรือแม้กระทั่งตัวผมความเลวและกิเลสยังมีมากถึงอยากจะฝึกหรือทำก็ยังไม่สามารถทำอะไรทีก้าวหน้าหรือแม้กระทั่งทำให้จิตสงบยังยากเลย ถ้าอย่างไรขอให้เจ้าของกระทู้ช่วยแนะนำหรือสอนวิธีหรือแนวทางการทำสมาธิตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้ปฏิบัติมาให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่นที่ติดตามอ่านเรื่องของท่านก็ดีนะครับ เพราะผมก็คิดว่ามีมากนะครับสำหรับคนที่ยังไม่ได้ไปไหนเลยเพิ่งเริ่มแค่กอไก่นะครับ แต่อ่านแล้วก็ดีครับเป็นกำลังใจเป็นมานะให้ท่านที่กำลังฝึกดีครับ อนุโมทนาบุญครับ
     
  19. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +2,691
    โมทนาครับคุณ โมกขทรัพย์ เรื่องความสงสัยของผมมันมาก เป็นอุปนิสัยหรือที่เรียกง่ายๆว่า เป็นสันดานเดิมมาหลายชาติแล้วกระมังครับ (เรื่องนี้ผมเพิ่งจะทราบจากท่านแม่ศรีฯไม่นานมานี้เอง) เลยเสียประโยชน์ดังที่ผมเล่าไว้นะครับ

    สิ่งนี้ทำให้เนิ่นช้าจริงๆครับ คุณโมกขทรัพย์ โมทนากับกระทู้ของคุณโมกขทรัพย์ที่ห้องโน้นด้วยนะครับ อ่านแล้วผมปิติตามไปด้วยจริงๆ ผมอยากแนะนำให้หลายๆท่านได้เข้าไปอ่านกระทู้คุณโมกขทรัพย์ ที่กล่าวถึงประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงพ่อฤาษีนะครับ จะปิติใจมากครับ

    (คุณโมกขทรัพย์ครับ ถ้าผมเสร็จธุระแล้วผมจะส่งข่าวอีกทีนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  20. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    เดี๋ยวนี้เป็นห่วงคนเข้าเว็ปพลังจิต หน้าใหม่

    ช่วงที่ผมสนใจปฏิบัติไม่ค่อยมีคนมาป่วนเท่าไหร่

    แต่เดี๋ยวนี้ เริ่มออกนอกลู่นอกทางกันไปมาก

    นานๆจะมีกระทู้ดีๆ โมทนาสาธุครับ

    (เนื่องจากความสงสัยที่มาก ผมเลยหยุดทุกกองมาเริ่มที่ อาณาปาณสติ กับ อสุภกรรมฐาน)

    บางทีปัญญามันเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องพิจารณา อสุภเป็นกรรมฐานที่ดีในการละอารมณ์ทางเพศ เพิ่งรู้ว่าการข่มไม่ให้มีอารมณ์ทางเพศเป็นการปฏิบัติที่ผิด เพราะจะยิ่งเกิดความกำหนัด แต่ถ้าเจริญอสุภกรรมฐานมันจะเบื่อไปเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...