นิพพานที่แท้จริงคือ........

(i) ก่อนที่ผมจะอธิบายว่าผมไม่ได้คิดเองนะครับ อยู่ในพุทวจนะของพระพุทเจ้า เพื่อเอามาให้คนที่ยังไม่รู้

ได้รู้ซะที ไม่ต้องมีความเข้าใจผิดๆอีก

(verygood)








"อันชื่อว่าเมือง พระนิพพาน ย่อมตั้งอยู่ไกล อยู่ในที่สุดแห่งโลก โลกมีที่สุดเพียงใด พระนิพพานก็ ตั้งอยู่ที่สุดเพียง นั้น พระนิพพานเป็นพระมหานครอันใหญ่ เป็นที่บรมสุขหาที่เปรียบมิได้ "


"คำว่าที่สุดแห่งโลกนั้น จะถือเอาอากาศโลหรือ จักวาลโลกเป็นประมาณนั้นมิได้ อากาศโลกแลจักวาลโลกนั้นมีที่สิ้นสุด เบื้องต่ำก็ เพียงใต้แผ่นดิน แผ่นดินมีน้ำรองไว้ ใต้น้ำนั้นมีลม ลมนั้นหนาได้ 9 แสน 4หมื่นโยชน์สำหรับรองน้ำไว้ ใต้ลมนั้นลงไปเป็นอากาศ หาที่สุดมิได้ ที่สุดโลกเบื้องต่ำก็เพียงลมเท่านั้น อันว่าที่สุดแห่งจักวาลโลกเบื้องขวานั้น มีอนันตจักวาลเป็นเขต นอกอนันตจักวาลออกไป ก็เป็นอากาศว่างๆอยู่ จึงว่าโดยขาวงมีอนันตจักวาลเป็นที่สุด"(smile)



"อันว่าที่สุดแห่งจักวาลโลกเบื้องบนนั้นมีอรูปพรหมเป็นเขต เพราะอรูปพรหม 4 ชั้นนั้น พระพทุธเจ้าตรัสว่าเป็นนิพพานพรหม หรือนิพพานโลก นิพพานโลกนี้เป็นไปไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนว่านิพพานของพระพุทเจ้า ซึ่งมีนามว่า โลกุตรนิพพาน เป็นนิพานที่สุดแล้ว ต่อจากอรูปพรหม 4 ชั้น ขึ้นไป ก้อเป็นแต่กาศว่างๆ อยู่ จึงว่าที่สุดเบื้องบนเพียงอรูปพรหมเท่านั้น"




(glass) พอก่อนนะเมื่อยเด๋วมาต่อ




มารฟ้าที่6 ผู้ปรารถนาพุทธภูมิอย่างแรงกล้า

 

ตอนนี้ก้อสรุปว่า พระนิพพานคือเมืองนครขนาดใหญ่ที่มีแต่ความสุข ไม่ใช่ สูญ อย่างที่หลายๆคนเข้าใจผิด

 

ไม่น่าจะใช่........โลกก็คือโลก(ผู้ที่อยู่บนโลกย่อมมีขันธ์)

ถ้าเป็นโลกุตร .... อันนั้นผมไม่รู้ (ตัดจากขันธ์ทั้งห้าแล้ว ย่อมไม่มีสัญญา)
เพราะสัญญา ..... มันก็อยู่ในขันธ์ ใช่มั๊ย?

 

ผมว่ามันหมายความว่ามันตรงข้ามกะดลกรึป่าว?

 

โลกมีที่สุดเพียงใด พระนิพพานก็ ตั้งอยู่ที่สุดเพียง นั้น <<<<<ประมาณว่าคนละขั้วอ่ะป่าวงับ= =' ผมก้อพึ่งได้หนังสือเล่มนี้มาๆม่นานเอง ยังงงๆ ในบางคำอยู่เลย ธรรมขั้นสูงง่ะ

 

แล้วปู่ไน ว่าไงอ่ะ

 

มันแปลกๆๆไม่อยากพูดมาก ถ้าไปสอนคนเขาผิดๆๆ มันจะเป็นเวรเป็นกรรมตกนรกเปล่าๆๆโดยเฉพาะเรื่องศาสนาโทษหนักซะด้วย

 

ไปอ่านเอานะ http://aphidham.mcu.ac.th/html/book/prariset5.html

 

ไม่ผิดอ่า เอามาจาก พุทธวจนะ ของท่าแล้วจาผิดยังไง = ="

 

งงงงงงงง สุด ๆ เลยครับ

แล้วถ้านิพพานคือการแตกสลายหรือเป็นการแตกดับของจิตละครับ

 

เท่าที่ได้ยินมา จิตจะไม่มีการแตกดับนะครับ จะคงอยู่แบบนั้นตลอดกาล

 

จิตอมตะ ... จิตเป็นนิรันตร์ ... จิตศักดิ์สิทธิ์กว่าใดๆๆ

แต่ถ้าจิตเหงา และ เบื่อ ........ จิตจะว้าเหว่

ถ้าจิตว้าเหว่และเงียบเหงา ..... จิตอันศักดิ์สิทธิ์จะหาเกมส์เล่น ...

เพื่อเพิ่มอรรถรสชาติแห่งชีวิต ... โดยไม่สนใจว่านิพพานเป็นเช่นใด ฯ

จิตนั้นเป็นใหญ่ในจักรวาลโลก ... ไม่ต้องเชื่อผม (ผมติงต๊อง !!!) 555+++

 

แต่ทางพุธบอกว่า จิต เกิดมาจากลม ผมล่ะงงตรงเนี้ย- -*

 

ไม่มีสิงใดเป็นอมตะ.....ไม่มีสิงใดนิรันตร์......ไม่ได้โม้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

พักหลังทำใม.......มีแต่บทความมั่ว.....คนอ่านช่วยพิจารณา

 

เอ่อ งั้น ...แล้วทางพฤหัสบดีล่ะครับ บอกว่าจิตมาจากอะไรเหรอ?

 

(good) (good) (good) (good)
[music]http://palungjit.org/attachments/a.12195/[/music]

(b-green) (b-green) (b-green)

 

ไม่มั่วหรอกครับ .... นิพพานเงียบเหงาจริงๆ

 

ถ้าว่ามั่วนี่ไป โทษพระอานน เองนะครับ ผมเอง เอามาโพส^^"


อยู่ในการเทศนาของพระพุทธเจ้าที่พระอานน มาแสดงอีกทีน่ะ





ปล.ใครว่า บทความที่ผมเอามาลงผิด แสดงว่า ไม่ใช่ลูกศิษย์หลวงพ่อ จริงๆ ถ้าใครเคยอ่านประวัตหลวงพ่อจะพบว่า ตอนตายรอบที่ 3ของหลวงพ่อนั้น



หลวงพ่อได้ไป ถึงนิพพานมาแล้ว เจอพระพุทธเจ้าด้วย ในนั้นมี ซุ้ม มีกำแพง ที่เป็นแก้วสวยมาก

หลวงพ่อก้อยัง งงๆเลย เพราะมีแต่คนบอกว่า สูญ แท้จริงมิสูญ "แต่เป็นเมืองทิพย์"

 

แล้วที่ท่านผู้ เฒ่าไม่มีสิ่งใดเป็นอมตะ อย่างน้อยๆก้อ นิพพานแลหะครับที่มั่นคง