จิตทำให้เกิดสมาธิ หรือสติทำให้เกิดสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oze, 20 กรกฎาคม 2012.

  1. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    จิตทำให้เกิดสมาธิ หรือสติทำให้เกิดสมาธิ

    และจิตกับสติอันไหนสำคัญกว่ากันคร้าบบบบ
     
  2. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    เอาง่ายๆนะ
    จิต ตื่น เรียกว่า สติ
    จิต ตั้่งมั่น เรียกว่า สมาธิ
    จิต รู้เห็นตามจริง เรียกว่า ปัญญา

    คราบ
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    จขกท ยังไม่เข้าใจ คำว่า จิต
    คำว่าจิต มันก็ตัวเรานี้แหละ เพราะฉะนั้น จะไปถามว่า จิตทำให้เกิดสมาธิไม่ได้
    ต้องบอกว่า ทำอย่่างไรจิตจึงจะเป็นสมาธิ
    สติทำให้จิตเป็นสมาธิหรือไม่

    ตอบแบบนี้ จิตเป็นสมาธิ ถ้าเราฝึกนำพาจิตใจของเรา อย่าให้มันสอดส่ายไปรับรู้หลายๆเรื่อง

    จิตนี้รับรู้ได้ทุกเรื่อง ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้คือประตูไปรับเรื่องราวมา พอไปรับมาวันหนึ่ง ร้อยเรื่องพันเรื่อง มันก็ไม่เป็นสมาธิ เพราะคำว่าสมาธิคือ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว

    ดังนั้นการจะทำให้จิตเป็นสมาธิ ก็ปิดประตู ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วไปจับกับคำบริกรรม
    ใช้สติคอยระลึกประคองว่า ออกนอกคำบริกรรม สอดส่ายไปเรื่องอื่นหรือไม่ นั่นแหละจะทำให้เรานิ่ง เป็นหนึ่ง เรียกว่่ จิตเป็นสมาธิ
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เมื่อเราบริกรรมจนจิตใจไม่ไปสอดส่ายแล้ว จิตจะรวมตัว พอถึงจุดที่จิตรวมเป็นเอกคตาจิตแล้ว
    ไม่ว่าเราจะไปรับรู้เรื่องราวใดๆ จะเปิดประตูอย่่างไร จิตก็ยังคงเป็นสมาธิได้ ด้วยการที่จิตไม่ติดไม่ข้อง
    จิตก็ดำรงความเป็นสมาธิ ทั้งลืมตา หลับตา ไม่ใช่เฉพาะแต่ต้องนิ่งตอนบริกรรมเท่านั้น

    สมาธิแบบนี้เรียกว่า สมาธิแบบมีปัญญา

    สมาธิมีหลายระดับ ประณีต แคล่วคล่อง ต่างกันไป ต้องฝึกด้วยวิชชาของพระพุทธองค์แล้วจะรู้เอง
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +3,776
    สัมมาสติ ยังสัมมาสมาธิให้เกิด
     
  6. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +701
    จิตมันเฉยความคิดต่างหากไม่เฉย สตินำมาสมาธิ สมาธินำมาซึ่งปัญญา
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ช้าก่อน มาพิจารณา กันแบบ อิทัปปจัยยตา กันก่อน จึงจะเรียกว่า มีปัญญาแบบพุทธ

    หาก ไปฟังธรรมะนอกแนว จะกลายเป็น พวกบ้าสังขาร คือ ทำเจตนาสร้างทุกสิ่งทุก
    อย่างให้เกิด แทนที่จะเป็นการปฏิบัติเพื่อ สละ สลัดคืน กลายเป็น พอกพูลกองสังขาร
    ทำให้ยิ่งติดยิ่งยาวนาน

    จิต ไม่ใชเรา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของๆเรา

    จิต เป็นเพียงสภาพธรรม ที่แยกรูปถอดออกมาจาก สุขุมรูป ( อันนี้ เอามาจาก หลวงปู่ดูลย์
    ซึ่งมีบารมีธรรมเป้นพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงได้ให้ นัยยะของ จิต ให้ละเอียดยิ่งขึ้น นำมา
    กล่าวเพื่อทำลาย ทิฏฐิที่เห็นผิดว่าจิตเป้นตัวเรา )

    จิต จึงเป็นสภาพธรรมบางประการ ที่รองรับ มีขึ้นเพื่อเป็น ภาชนะรองรับ ...รองรับอะไร

    รองรับ ขันธ์5 มีจิตเมื่อไหร่ ก็มีขันธ์5 ยึดถือจิตเป็นตนเมื่อไหร่ คือ ยึดขันธ์5เป็นตน

    ****************

    มาดูเรื่อง สติ กับ เรื่อง สมาธิ

    สมาธิ เป็นสภาพธรรม ที่ไม่สามารถจงใจทำให้เกิดได้ เป็น อนัตตา
    ....อันนี้เป็นปัญญาของพุทธศาสนา

    ส่วน สมาธิ ที่เกิดจากปัญญานอกศาสนา จะสอนกันว่า สมาธิ สามารถทำให้เกิดได้

    ทั้งนี้ อาศัย อะไรเป็น เหตุ

    เราก็มาดูกันก่อนว่า เหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ คือ ความสุข ( ใช้คำว่าเหตุใกล้ เพื่อรักษา
    อรรถสาระที่ว่า เป็นอนัตตาเอาไว้ ถ้าไม่ใช้คำว่าเหตุใกล้ ก็จะเหลือ เหตุทำให้เกิด สมาธิ
    คือ ความสุข ก็จะถือว่าเป็น พวกนอกแนว )

    ทีนี้ ประเด็นอยู่ที่ ความสุข ที่เป็น เหตุให้เกิดสมาธิ

    ความสุขของ พวกเดียรถีย์ นักสมาธินอกแนว ก็คือ การใช้เจตนาจงใจ หรือ ตัณหา

    ส่วน ความสุข ของพุทธศาสนาคือ ปัสสัทธิ หรือ ความสงบระงับ

    ความสงบ ระงับ สงบจากอะไร ระงับจากอะไรหละ ก็ สงบจากราคะ สงัดจากพยาบาท
    ปราศจากการเบียดเบียน จึงทำให้เกิดความ สงบ สงัด จากกาม และ ปฏิฆะ ..........

    สังเกตุไหมว่า มันจะเป็นเหตุเป็นผล มีการทวนกระแสไปหาเหตุ ต่อไปอีก ซึ่งก็ว่ากัน
    ด้วยบทของ อาหาร4

    แต่ถ้า เป็น นักสมถะนอกแนว มันจะขาดเหตุผล มีการระบุแบบ ฆ่าตัดตอน สอนกัน
    แบบลัดสั้นว่า ก็ เจตนาทำสมาธิไปเลยสิ หากทำด้วยอาการอย่างไร ปิดหู ปิดประตู
    เอาอะไรแทงอยาตนะให้ดับ แล้วจิตเป็นหนึ่ง ก็หลอกว่า สมาธิเกิดแล้ว อะไรแบบนี้
    รับรองว่า กลายเป็นพวก บ้าสังขาร ยิ่งภาวนายิ่งพอกพูลสังขารขันธ์ แล้วมันจะรอด
    ได้อย่างไร...........รอดได้อย่างไร(เป็นคำถามนะ ไม่ใช่ การปรักปรำว่า ไม่รอดนะเว้ยเฮ้ย)

    ทีนี้ หากเข้าใจว่า สมาธิ เกิดจาก เหตุ และ เหตุของการเกิดที่เนสัมมาทิฏฐิ ก็แค่
    สงัดจากกาม ปฏิฆะ การเบียดเบียน เราก็เพียรในเหตุเหล่านั้น

    เพียรได้อย่างไร ตรงนี้แหละ สติ ในการระลึกได้ ในการเพียรเหตุ จะถูกนำเข้ามาใช้

    เพียรระลึกไปสิว่า กามราคะสัญญา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บังคับไม่ได้ พอเห็นความไม่เที่ยง
    เนืองๆ ตามความเป็นจริง มันก็ สละออก เกิดสภาวะ สงบจากกาม

    เพียรระลึกไปสิว่า ปฏิฆะสัญญา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บังคับไม่ได้ พอเห็นความไม่เที่ยง
    เนืองๆ ตามความเป็นจริง มันก็ สละออก เกิดสภาวะ สงัดจากปฏิฆะ

    เอาแค่ สองเหตุนี้ ก็เพียงพอที่จะเป็นเหตุใกล้ให้เกิด สมาธิ แล้ว โดยไม่ต้องเจตนา

    สมาธิจึงปรากฏไม่ใช่ในฐานะ สังขารขันธ์ ที่เกิดจากเจตคติ

    แต่เป็น สมาธิที่ปรากฏในลักษณะสัญญา ให้ระลึกได้ ระลึกอะไร

    ระลึกแม้ กองสมาธิ เนขขัมมสัญญาทั้งปวง ก็เป็นของ เกิด แล้ว ก็ดับ !!!

    ตรงนี้ ก็เอามาเจริญ สติ อีก !!

    สังเกตดีๆนะ

    เอา สมาธิสัญญา ชนิดต่างๆ มาเจริญ ระลึกรู้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อีก ชั้นหนึ่ง

    ทำได้แบบนี้ก็จะเข้าใจคำว่า "สติ" ที่ทางพุทธศาสนาบอกให้ เพียรเจริญ

    พอเห็น วิธีการโคจรจิต เพื่อการภาวนาแบบนี้ ก็จะ เลิก งง ว่า ทำไมบางคน
    พูดแค่ เจริญสติแล้วเกิดสมาธิ แล้วก็หางด้วน!หายไป ไม่พูดถึง วิมุตติรสที่ยิ่งกว่า

    หรือบางทีเราไปเจอ พวกที่กล่าวสมาธิแต่เอาสมาธิมาเป็นตัวสละวาง เพื่อเจริญ
    สติที่ยิ่งกว่า เราก็จะอ๋อ นี่เขาพูดคนละจังหวะกัน ธรรมนั้นมีขั้น มีตอน มีปัญญาอันยิ่ง
    หนทางที่วิสุทธฺกว่า มีอยู่

    ไม่ใช่ ปฏิบัติเอานิ่ง นั่งอึ้ง นึ่งข้าวเหนี่ยว เอา สุข เอาเอกัคตาจิต บ้าสังขารอยู่แค่นั้น
    ซะเมื่อไหร่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เลอะเทอะ พูดอะไรสวนทางกับพระศาสดา นี่แหละผู้ที่เคยเป็นศิษย์เทวทัต
    พอถึงเวลาสบช่อง อนุสัยเก่าๆ มันผุดขึ้นให้ ความเป็นศิษย์เทวทัตมันสำแดงออกมา
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เอ้า ลองดูซิว่าสมาธิ ที่พระศาสดาสอนนี่ท่านสอนให้ อบรม ทำให้เกิด หรือเปล่า

    อนุสัยศิษย์เทวทัตนี่มันมักชอบลบล้างพระธรรม
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    เหรอๆ กล่าวขัดเหรอ เอ้า ไหนชี้ซิ อานาปานสติ ที่คุณ จงใจ ปิดบัง ซ่อนเร้น
    ยกมาไม่หมด เนี่ยะ

    ตรงไหน ที่เป็นเรื่องของ เอา เอกัคตาจิต เหรอ

    ชี้สิ ชี้จาก อานาปานสติ อันเป็น วิหารโดยมากของพระพุทธเจ้านี่แหละ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ยอมจำนนได้หรือยังศิษย์เก่าเทวทัต
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    เป็นเอาหนักแล้ว คุณ

    บทที่คุณ ยกมาเนี่ยะ อันนี้ มันเป็น บทที่คนเขาชำนาญแล้ว ไม่ใช่ บท
    สำหรับคนเริ่มต้น

    สังเตที่คำว่า "ด้วยสามารถ...." ที่นำอารมณ์การเข้าสมาธิทุกชนิดสิ

    อันนี้เขาหมายถึง สำเร็จฌาณ4 ในอารมณ์สมาธิแต่ละอย่างได้แล้ว

    แล้วสังเกตนะว่า "ด้วยสามารถอานาปานสติ" ก็มีระบุไว้แล้ว ในช่วงตรง
    กลางนั้น แหกตาอ่านดูดีๆ

    ดังนั้น

    ช่วงท้ายวรรคที่วกกลับมา "ด้วยสามารถแห่งการหายใจเข้า" เป็นอาธินี่
    อันนี้ เขาหมายถึง พวกที่มี อิทธิวิธี คือ หายใจเข้าปั๊ปฌาณ4เกิด แล้ว
    ก็แสดงอิทธิวิธีกันเลย ถ้อยคำ ด้วยสามารถของรู้ลมหายใจอึดเดียว
    จึงได้ปรากฏท้ายวรรคอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ หายใจเข้ากิ๊กๆก๊อกๆ แล้วบอก
    ว่า เอกัคตาจิตเกิด
    ....................

    แล้วตามเคย คือไป ตัดแปะเอาเฉพาะส่วนที่ สนับสนุนความโง่ของตน
    แล้วพอจะมีบางส่วนเปิดเผย ก็ซ่อนเร้น

    ท่านทั้งหลายมาดูกันว่า ส่วนที่เขา ปิดบังซ่อนเร้นพระไตรปิฏก มีอะไรต่อ

    ประเด็นของ วรรคนี้ คือ จะ นิยามสิ่งที่เรียกว่า อานันตริกสมาธิญาณ เป็น
    หัวใจของประโยค

    ทีนี้

    อานันตริกสมาธิญาณ คืออะไร

    ก็จะเห็นว่า เป็นบทว่าด้วยการ ตัดอาสวะให้ขาด !!! คนละเรื่องกับการสอน
    เอกัคตาจิต แบบฟ้ากับเหว

    พูดง่ายๆ เป็นการ บรรยาย ภูมิปัญญา (วิชชา) ในการตัดอาสวะ ด้วย ความ
    สามารถของ สมาธิที่สำเร็จแล้ว!! ว่าใช้สมาธิชนิดไหนได้บ้าง ที่จะเอามา
    ตัดอาสวะให้ขาด !!


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    อ้อ แล้วไอ้อาการ คำก็ ศิษย์เทวทัต สองคำก็ศิษย์เทวทัต เนี่ยะ

    ช่วยเอาออกไปจาก ความคิดอันลามกของคุณเสียเถอะ ใครๆเขา
    ก็รู้กันทั่วว่า ศิษย์เทวทัตเนี่ยะ บรรลุอรหันต์ แล้ว อย่างน้อยก็
    หนึ่งต้นธาตุ

    เน้นนะว่า หนึ่งต้นธาตุ ซึ่ง มี สายธาตุสายธรรมไปเรียนต่อกับต้น
    ธาตุที่เป็นศิษย์เทวทัตนี่ อีกหลายท่านทีเดียว แล้ว ศิษย์ที่ไปเรียน
    กับศิษยเทวทัตนี่ ก็สำเร็จ อรหันต์กันหลายองค์

    อยากรู้ไหมว่า

    ศิษยเทวทัต ที่คนเขารู้กันทั่วว่า บรรลุอรหันต์ไปตั้งปีมะโว้แล้วเนี่ยะ ใคร

    หลวงปู่ขาว อนาลาโย ไง พระที่ไปเรียกกับท่านก็มี หลวงปู่เจี้ยะ เป็นต้นไง

    เอา ไหนกล่าวด่ากราดศิษย์เทวทัต ให้ผมฟังอีกทีสิ ทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า แต้น แต้น แต้น !!!


    อดีตชาติของหลวงปู่ขาวกับพระเทวทัต <--- Click ได้นะเว้ยเฮ้ย !!


    นี่ถ้า นั่งนับเล่นๆ ภิกษุ500 ที่มาเกิดเนี่ยะ เห็นๆ บอกเองกับตัวนี่ 1 หาก
    นับเล่นๆ ขึ้นไปต้นสาย ลงไปปลายสาย ให้ครบ 500 ท่านนี้ ดูไม่จืดเลยนะ

    ว่า คุณ มีแนวโน้ม กำลังด่า ศิษยเทวทัต ท่านใดอยู่บ้าง !!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    จิตทำให้เกิดสมาธิได้

    จิตทำให้เกิดสติได้

    สติทำให้เกิดสมาธิได้

    สมาธิทำให้เกิดสติได้

    ย่อมอาศัยซึ่งกันและกัน

    ขาข้างซ้าย ก็ต้องใช้ขาข้างขวา ในการเคลื่อนออกไป
     
  15. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คำก็ไปกล่าวหาผู้นี้ศิษย์พระเทวทัต

    สองคำก็ไปกล่าวหาผู้นี้ศิษย์พระเทวทัต คิดว่าตนเป็นอะไรอยู่รึเปล่าลุง ^^

    ผมถามลุงตรงๆนะ รู้จักบ้างไหม ขันธ์ ธาตุ อายตนะ อินทรีย์ อริยะสัจ ปฏิจจสุปบาท

    ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ ธรรมที่พระพุทธองค์สั่งสอน ธรรมที่มีในพระพุทธศาสนาน่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...