ตัวตน

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 19 สิงหาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    ตัวตน ‘ผู้รับบทพระพุทธเจ้า’




    [​IMG]




    สนั่นพงษ์ สุขดี


    ‘สงกรานต์ สโคลส์ ทัพมณี’ ‘ลูกครึ่ง’ หัวใจไทยเต็มร้อย

    เป็นข่าวมาสักระยะหนึ่งแล้ว ว่ารัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีแนวคิดจัดสร้าง “ภาพยนตร์” เกี่ยวกับ “ศาสนาพุทธ” เกี่ยวกับ “พระพุทธเจ้า” เพื่อมอบให้กับวัดและสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพระไตรปิฎก แถมไม่ทำเล็ก ๆ แต่ทุ่มทุนสร้างถึง 1,200 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการแถลงข่าวพร้อมเปิด ตัวทีมงาน-ดารานักแสดง รวมถึง “ผู้รับบท พระพุทธเจ้า” ...

    [​IMG]

    ที่ชื่อ... “มาร์ค-สงกรานต์ สโคลส์ ทัพมณี”
    สงกรานต์ สโคลส์ ทัพมณี หรือ มาร์ค นักแสดงและนายแบบหนุ่มหน้าใหม่ที่ถูกเลือกให้รับบทสำคัญ เผยความ รู้สึกว่าตอนแรกที่ทราบว่าได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญทางพุทธศาสนา ก็ถือเป็นเรื่องมงคลที่สุดสำหรับชีวิต ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
    “ตกใจเมื่อทราบว่าถูกเลือกให้รับบทสำคัญ แต่ก็รู้สึกปลาบปลื้มและยินดีอย่างมากที่ได้รับเลือก ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เล่นบทนี้ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ฟอร์มใหญ่มาก”
    มาร์คเล่าว่า ก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักแสดงในโครงการนี้ ได้เห็นประกาศรับสมัคร นักแสดงจากทางหนังสือพิมพ์ จึงชวนเพื่อนเข้ามาสมัครคัดเลือกนักแสดงกับทางทีมงาน ตอนนั้นคิดในใจเพียงว่าขอให้มีโอกาสได้รับบทอะไร สักอย่างก็พอ ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เล่นบท พระพุทธเจ้า ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เล่นบทนี้ เพราะตามคุณสมบัติของคนที่จะมารับบทนี้ จะต้องมีลักษณะต่าง ๆ 32 ประการ แต่บังเอิญว่าทางคณะกรรมการคือ มหาเถรสมาคม ท่านมองว่าตนเหมาะสม ก็เลยถูกเลือกเพื่อให้เล่นบทนี้
    กับชีวิตส่วนตัวของเขา มาร์คบอก ว่า ปัจจุบันอายุ 22 ปี สูง 188.5 ซม. น้ำหนัก 87.1 กก. เขาเกิดที่กรุงเทพฯ มีคุณแม่เป็นคนไทย ส่วนคุณพ่อเป็นคนนิวซีแลนด์ ปัจจุบันเขาเป็น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัย Auckland ในประเทศอังกฤษ และยังทำงานเป็นอาจารย์ สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษ แห่งหนึ่งในย่านสีลม ส่วนเวลาที่เหลือก็ทำงานเดินแบบและรับเล่นละคร โดยก่อนหน้านี้เขาเคยประกวดในเวทีเอ็มไทยแลนด์ปี 2005 รุ่นเดียวกับ โฬม-พัชฏะ นามปาน โดยเขาคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 เคยมีผลงานละครเรื่อง กุหลาบตัดเพชร ทางช่อง 3 และที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้อีกเรื่องคือ สร้อยแสงจันทร์
    มาร์คเกิดที่กรุงเทพฯ แต่พออายุ 5 ขวบคุณพ่อได้งานที่นิวซีแลนด์ จึงตัดสินใจพาครอบครัวย้ายกลับไปอยู่นิวซีแลนด์ ก็ใช้ชีวิตปกติทั่ว ๆ ไป คุณแม่อยู่บ้านก็จะคอยสอนวัฒนธรรมไทยให้ลูก ๆ และก็ชอบทำอาหารไทยให้ทานเสมอ ๆ ช่วงหนึ่งคุณพ่ออยากพาภรรยากับลูก มาเที่ยวบ้านเกิด ซึ่งพอมาแล้วมาร์คก็ติดใจ ขอคุณพ่อว่าอยากอยู่ต่อ โดยพักการเรียนเอาไว้ ซึ่งเขาบอกว่าอนาคตอาจต้องโอนมาเรียนต่อที่เมืองไทยเลย
    “จริง ๆ แล้วในตอนแรกผมไม่ได้คิดที่จะทำงานอะไรทั้งสิ้น แต่เมื่อมีงานเข้ามาผมก็ลองทำดู เพราะถือว่าเป็นโอกาสและเป็นประสบการณ์ จากนั้นก็รู้สึกชอบและรักเมืองไทยมาก” มาร์คกล่าว
    และบอกต่อไปว่า แม้ช่วงนี้จะมีงานติดต่อเข้ามามาก แต่เมื่อถึงเวลาเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องสำคัญ ก็คงต้องพักงานอื่นไว้ก่อน เพราะเขาคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นงานที่ทรง คุณค่า และเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตที่เคยได้รับ ดังนั้นจึงต้องทุ่มเทและให้เวลากับงานนี้ให้มากที่สุด
    เมื่อถามถึงความหนักใจ และความ กดดันที่จะต้องรับบทสำคัญ เขาบอกว่า บท พระพุทธเจ้านั้นถือว่าเป็นตัวละครหลักที่ต้องรับบทหนักกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ยิ่งบทสำคัญมาตกอยู่กับเขา ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเกร็ง เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีอย่างที่หลายคนหวังไว้ แต่หลังจากได้พูดคุยกับผู้ใหญ่แล้ว ก็ทำให้ผ่อนคลายขึ้นบ้าง

    “ก็รู้สึกกดดันบ้างครับ คนเราถ้าไม่กดดันก็จะไม่มีความพยายามก่อนกลับมาเมืองไทยผมก็พูดไทย ไม่ค่อยชัด จึงต้องทำการบ้านเยอะกว่าคนอื่น ในเรื่องของภาษา ต้องฝึกใช้คำศัพท์ที่ผมไม่เคยรู้จัก ที่สำคัญคือ ต้องฝึกนั่งสมาธินาน ๆ เวลาจะเข้าฉากจะได้ชิน ฝึกให้มีศีลธรรมคล้ายกับพระสงฆ์ครับ ที่สำคัญต้องไปศึกษาเรื่องของ พระพุทธเจ้าอย่างละเอียด ซึ่งทางทีมงานจะมีเทรนเนอร์มาสอนให้ส่วนหนึ่ง ในส่วนที่เป็นเนื้อหาในพระไตรปิฎก และหลังจากนี้ไปทาง ทีมงานจะให้ไปเวิร์กช็อปร่วมกับนักแสดงคนอื่น”

    กับการปรับตัว เขาบอกว่า ปกติก็ใช้ชีวิตสบาย ๆ ไม่มีอะไรซีเรียส คงไม่ต้องปรับปรุงอะไร เพราะปกติก็ไม่ใช่คนที่ออกไปทำอะไรบ้าบอน่าเกลียด และถ้าเล่นบท นี้งานต่าง ๆ ก็คงต้องหยุดหมด งานนี้ต้องมาก่อน เพราะอยากเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ เรื่อง นี้เป็นงานที่ดีมากสำหรับชีวิตแล้ว จะต้องโกนหัวด้วยก็ไม่มีปัญหา
    อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการรับแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องทำการบ้านเยอะมาก เพราะต้องถ่ายทำมากถึง 250 ตอน ดังนั้นจึงต้องศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาทักษะทางการแสดงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเข้าไปปรึกษากับทางทีมงานตลอด นอกเหนือจากส่วนสำคัญคือต้องพยายามศึกษาพระไตรปิฎกให้ละเอียด

    “ตอนนี้ผมกำลังศึกษาพระไตรปิฎกอยู่ครับ ถ้าจะถามว่าผมเคยอ่านหรือเปล่า บอกตรง ๆ ว่าไม่เคยอ่านเลย แต่แม่จะเล่าให้ฟังตอนเล็ก ๆ มากกว่า ซึ่งแม่จะมีวิธีอธิบายให้ลูกเข้าใจง่ายขึ้น เพราะถ้าผมอ่านตอนนั้นผมก็อ่านไม่ออก เพราะภาษาไทยผมยังไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ผมอ่านได้แล้วครับ และผมหวังให้งานนี้ออกมาดีที่สุด ผมมองว่าการได้ทำงานใหญ่แบบนี้ การได้ร่วมงานกับคนเยอะ ๆ ทำให้เราได้รู้ได้เห็นอะไรหลายอย่าง ได้รับประสบการณ์ ได้ฝึกตัวเองให้ตรงเวลา ได้รู้จักคนจำนวนมาก และรู้เรื่องราวของพระพุทธศาสนามากขึ้นด้วย”
    สำหรับประเด็นที่มีหลายคนสงสัยเกี่ยว กับความเป็น “ลูกครึ่งฝรั่ง” แต่ต้องมาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ มาร์คบอกว่า ก็มีหลายคนถาม แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับสัญชาติ อีกอย่างทางผู้ใหญ่ก็ต้องการใบหน้าที่ดูเป็นสากลหน่อย ซึ่งทางคณะกรรมการอาจคิดว่าเหมาะสมกับคอนเซปต์ของเรื่อง
    “มาร์คไม่ได้คิดว่าตัวเองเหมือนนะ เป็นมุมมองของผู้ใหญ่มากกว่า หลายคนชอบคิดว่ามาร์คเป็นเด็กเส้นเข้ามาเพราะถูกฝาก แต่มาร์ค ยืนยันว่ามาตามขั้นตอนทุกอย่าง เขียนใบสมัคร สัมภาษณ์ ถ่ายรูปและแคสติ้งเหมือนกับทุกคน” เขากล่าว และเล่าย้อนอดีตอีกว่าผู้ใหญ่เขาดูจากบุคลิกเป็นหลัก ดูวิธีการเดิน วิธีการพูด ภาษา หน้าตา อีกทั้งบุคลิกที่เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ใช่คนที่แต่งตัว ซ่า ๆ ซึ่งทางผู้ใหญ่เห็นว่า พอดีหน้าตาเหมือนกับแขกขาว ตรงตามคอนเซปต์ที่ต้องการ แม้อายุจริงอาจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด

    [​IMG]

    “คงเพราะหน้าตาแซงหน้าอายุจริงด้วยมั้งครับ” มาร์คกล่าวอย่างอารมณ์ดี
    กับกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แว่ว ๆ ถึงความเหมาะสม-ไม่เหมาะสมในบทพระพุทธเจ้านี้ มาร์คยอมรับว่า ต้องทำใจ เขาเองคิดว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรือเพอร์เฟกต์พร้อมไปเสียทุกอย่าง โดยสิ่งที่จะตัดสินว่าเขาเหมาะหรือไม่นั้นก็น่าจะให้ผลงานและคนดูเป็นคนตัดสิน แต่สำหรับตัวเขาแล้วจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด

    “ก็มีเสียใจบ้างเหมือนกันนะ แต่ก็ ได้กำลังใจ ได้ความเชื่อมั่นจากผู้ใหญ่หลายท่านก็เลยทำให้ไม่ท้อ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ คือคนที่ไม่รู้จักเรา ยังไม่เปิดโอกาสให้เราได้ทำเลย แต่ก็มาวิจารณ์เราเสีย ๆ หาย ๆ ซึ่งผมก็คิดว่ามันไม่ยุติธรรม อาจมีคนบางคนไม่ยอมรับผม ไม่ชอบผม ซึ่งในสายตาเขาอาจจะมองว่าผมมาจากไหน เป็นใคร จู่ ๆ ก็ได้มาอยู่ตรงนี้ ตรงนี้เราก็ห้ามให้คนคิดไม่ได้”

    “เสียใจว่าทำไมเป็นแบบนี้ ทั้งที่ ผมอยากอยู่เมืองไทย อยากทุ่มเทให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อวัฒนธรรมและศาสนา แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่เคยท้อ” ... “มาร์ค-สงกรานต์ สโคลส์ ทัพมณี” ผู้รับบท “พระพุทธเจ้า” ที่กำลังถูกจับจ้อง-วิพากษ์วิจารณ์ กล่าวทิ้งท้าย
    ส่วนเขาจะถูกเปลี่ยนตัวจากกระแสท้วงติง จากกรณีเคยถ่ายแบบออกแนวนู้ด หรือไม่ ก็ต้องรอดูกัน...


    [​IMG]

    ‘พระไตรปิฎก’ หนังแผ่นฟอร์มยักษ์

    “เราต้องยอมรับว่ามีชาวพุทธไม่มากนักที่หยิบพระไตรปิฎกมาศึกษา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื้อหาในพระไตรปิฎกนั้นใช้ภาษายากแก่การเข้าใจ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ทางมหาเถรสมาคมจึงเห็นชอบให้จัดสร้าง โครงการ พระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์ขึ้น โดยบันทึกภาพและเสียงระบบดีวีดีและวีซีดี จำนวน 250 ตอน”
    สนั่นพงษ์ สุขดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไตรลักษณ์ จำกัด ในฐานะ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “พระไตรปิฎก” ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยถึงความเป็นมาของภาพยนตร์เรื่องนี้ พร้อมทั้งบอกอีกว่า จากจำนวน 250 ตอนนั้น ในช่วงแรกวางแผนจะผลิต 10 ตอน ให้เสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค. 2550 เพื่อนำ ออกอากาศทางฟรีทีวี ถวายเป็นราชกุศล ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งในวันที่ 14 ก.ย 2550 นี้จะมีพิธีบวงสรวง ภาพยนตร์ เรื่องนี้ที่พุทธมณฑล จากนั้นจะนำ นักแสดงเข้าสัมมนาและฝึกอบรม ก่อนดำเนินการเปิดกล้อง
    “ทุกขั้นตอนการผลิตจะควบคุมโดยคณะสงฆ์ เพื่อความถูกต้องตามพระไตรปิฎก เชื่อว่าจะทำให้คนไทยและต่างชาติรู้ซึ้งถึงหลักธรรมอันถูกต้อง และเข้าใจง่ายขึ้น”
    สำหรับโครงการนี้ ถือเป็นการรวมตัวของนักแสดงไทยที่มีหน้าละม้ายคล้ายอินเดียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังได้สร้างฉากจำลองบรรยากาศของอินเดียโบราณตามแบบพระไตรปิฎก ซึ่งเลือก จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก และ ยังยกกองไปถ่ายทำถึงประเทศอินเดีย โดยมีทีมงานผู้กำกับระดับปรมาจารย์อย่าง พยุงเวทย์ พยกุล, สมพงษ์ ตรีบุปผา, เจตนิพัทธ์ สาสิงห์ และผู้เชี่ยวชาญอีกหลายสาขา
    “เรื่องคุณภาพไม่ต้องห่วง เราจะทำให้เทียบเท่าหนังศาสนาอื่น เช่น เรื่องบัญญัติ 10 ประการ ทุกขั้นตอนเทียบกับหนังในระบบสากล เช่น เดอะไรท์ ออฟ บูรด้า หรือลิตเติ้ลบุดด้า ที่สำคัญ การที่เราเลือกนักแสดงที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับระบบสากลมากที่สุด ก็เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ และก็เพราะเราต้องการนำภาพยนตร์เรื่อง นี้ออกเผยแพร่ยังต่างประเทศด้วย” ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ “พระไตรปิฎก” กล่าว.

    เชาวลี ชุมขำ รายงาน
    จเร รัตนราตรี ภาพ
    -----------------------
    ที่มา:เดลินิวส์
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=137063&NewsType=1&Template=1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2007
  2. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,107
    ค่าพลัง:
    +2,695
    ผมว่าหน้าตาเค้าเหมาะดีนะ ส่วนคนที่คิดว่าไม่เหมาะสมผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรที่จะเรียกว่าเหมาะสมจริงๆ
     
  3. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    คีนูลีฟ ต่างกัน กับ คนนี้ตรงไหน

    หนักกว่าอีก

    เฮอะๆ ๆ ๆ ๆ
     
  4. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +3,831
    ยังอยากจะให้โอกาสคนเล่น และผู้สร้างนะครับ
    แต่ 1200 ล้านดูจะแพงไปนิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2007
  5. ฮุ้ง-หงส์

    ฮุ้ง-หงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +532
    อยากให้ผู้ที่ได้รับบทสำคัญเมื่อได้รับแล้วประพฤติตนให้ดีขึ้นเท่านั้นเองเพราะอย่างน้อยได้มีวาสนาขนาดนี้แล้ว

    บางคนแค่ได้เกิดมาพบพุทธศาสนา หรือได้เกิดมาแล้วได้อุปสมบทยังไม่สมารถ แต่นี่ได้รับบทการแสดงที่นับว่าเป็นสิ่งทีดีที่สุดแล้ว เป็นมงคลสูงสุดแก่ตนและครอบครัว
     
  6. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,176
    ชอบ มารค์ มาตั้งแต่เวทีประกวดนายแบบแล้ว

    มาตอนนี้ก็ยังสนับสนุนอยู่ สู้สู้ นะ
     
  7. พรายแสง

    พรายแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    833
    ค่าพลัง:
    +371
    คิดแบบหนัง เรื่อง พระมหาเวสสันดร ที่เคยฉายที่ช่อง 5 จำได้ว่าตอนที่ละครนี้สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญองค์พระสัมมาพระพุทธเจ้าตอนที่เสวยชาติเป็นเวสสันดรนั้น มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือการค้นหาผู้ที่เหมาะสมมาเป็น ถ้าจำไม่ผิดเป็นพระเอกของกรมศิลปากร ชื่อ ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ เป็น พระเวสสันดร มีลักษณะดีมาก ส่วนพระนางมัทรี ก็เหมาะสมและงดงาม คือหม่อมหลวงสราลี กิติยากร ปัจจุบันละครนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกดีต่อผู้แสดงเวลานึกถึง พระเวสสันดรกับพระนางมัทรี ก็นึกถึงสองท่านนี้เสมอ

    สำหรับนายแบบคนนี้ความรู้สึกว่าเหมาะไม่เหมาะนั้น น่าจะเป็นเป็นอย่างนี้มากกว่าผู้แสดงถึงแม้จะผ่านบทไปนานแล้วก็อยากให้ทำตัวดี ๆด้วยยิ่งเล่นบทเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งต้องเหมาะสมมาก ๆ ทั้งในจอและนอกจอ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 สิงหาคม 2007
  8. anotherthur

    anotherthur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +160
    ครั้งแรกที่ได้ยินว่า มาร์ค จะได้เล่นบทพระพุทธเจ้าก็รู้สึกยินดีนะครับ เพราะว่าบทบาทเหมือนในฐานะนักแสดง แม้ว่าเค้าจะเคยถ่ายแบบอะไรมาก็ตาม แต่ว่างานก็คืองาน แต่ว่าพออ่านคอลัมน์ของผู้จัดการที่บอกถึงว่าผู้ที่เหมาะสมกับการแสดงบทพระพุทธเจ้า
    มานึกดูอีก พิจารณาอีกที คนที่ยกมาก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำเรื่องแบบมาร์คทำซะหน่อย
    ทำให้คิดกลับมาว่า
    ตกลงว่าจะคัดเลือก "นักแสดงเป็นพระพุทธเจ้า"
    หรือว่า
    คัดเลือก "คนที่จะมาเป็นมหาบุรุษ" กันแน่น่ะครับ

    ตรงจุดนี้ผมเลยรู้สึกว่า เค้าเองก็เหมาะสมแล้ว น่ะครับ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ขออภัยนะครับ
     
  9. oat_thai

    oat_thai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +106
    อยากย้อนยุคกลับไปดูพระมหาเวสสันดร อีกครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องที่ดูแล้วทำให้ศรัทธาในพระพุทธเจ้า
     
  10. ฟู่อิง

    ฟู่อิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +128
    ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
    พยายามต่อไป ดั่งหัวใจที่ไม่เคยหยุดทำงาน

    ..................................................................................
    "...ถึงแขนขวาจะขาดไปแล้วจะเป็นไร ข้าก็ยังมีแขนซ้ายที่ใช้กอดท่านได้.."
     
  11. มุทิตา2525

    มุทิตา2525 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +80
    อยากดู ค่ะ และชอบคุณมาร์คมากๆ
     
  12. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629
    [​IMG]


    [​IMG]


    พิจารณา .....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • buddha00.jpg
      buddha00.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.3 KB
      เปิดดู:
      1,582
  13. Nuntapus

    Nuntapus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2007
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +385
    ก็มองได้ทั้ง2อย่าง
    จะว่าดีก็ดีตรงที่เขาตั้งใจจะเผยแพร่คำสอนพระพุทธองค์
    จะว่าไม่ดีก็ตรงให้คน(ใครก็ตาม)มาทำเลียนแบบพระพุทธองค์

    แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนค่ะ
     
  14. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    แล้วเมื่อไหร่จะได้ดูซะทีล่ะครับ
     
  15. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    มองภาพไม่ออกเลยว่ามันจะออกมาเป็นยังไง มันดีแล้วเหรอที่เอาคนจริงๆ มาเลียนแบบพระพุทธเจ้า ไหนจะมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ จะไปเอาส่วนนี้มาจากไหนให้เด็กไทยได้รู้ เดี๋ยวต่อไปคนรุ่นหลังจะพาลคิดว่า พระพุทธเจ้าก็เหมือนเรานี่แหละ เท้าคด ขาโก่ง แขนสั้น เอ็นสะพรั่ง ผมสะเปะสะปะ นิ้วสั้นบ้างยาวบ้างเหมือนกับคนทั่วไป ความศรัทธามันจะไม่เกิดนะครับ อยากจะขอแสดงความคิดเห็น ด้วยความหวังดีบอกตรงๆว่าไม่เห็นด้วย ทั้งนี้เพราะความรักและความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าไม่อยากให้ใครก็ตามมองข้ามความเป็นเอกบุรุษของพระองค์ไป แต่ก็ขอบคุณในความหวังดีจากทุกๆท่านนะครับ แต่เหตุผลของผมก็เป็นดังที่กล่าวมาแล้ว
     
  16. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    MARK จัดว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมากๆนะ

    ถ้าให้คนอื่นมาเล่นเราก็คงไม่ดูให้เสียลูกกะตาหรอก

    มารค์เป็นนักแสดงเองนะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถูกคนออกมาว่าเยอะมาก เรามองว่าไร้สาระนะ แต่ทำไมหลายคนออกมาพูดว่า

    ไม่เหมาะสมกับบทบาท เพราะ เคยถ่ายแบบSEXYมาก่อน

    อย่าง คีนูรีฟ ก็เล่นบทพระพุทธเจ้าได้ดีเหมือนกัน

    ทั้งๆช่วงนั้นเป็นเกย์ เป็นแฟนกับผู้กำกับ

    เคยเล่นหนังเห็นแก้มก้นด้วย บทข่มขืนผู้หญิงก็เคยเล่นเพราะดูเราดูหนังที่คีนูเล่นมาตั้งแต่ สมัยพึ่งเข้าวงการแล้ว

    จะบอกว่า คีนู เมื่อก่อนหล่อมาก ตอนนี้ไงไม่รู้
    โทรม ปล่อยตัวจนโทรม เคยเครียดเรื่องเงินกับไม่มีงานเข้ามา

    แล้วไปกินเบียร์จนอ้วน แล้วไปเมาหลับ ข้างถังขยะมาแล้ว
    จนรุ่นพี่ดาราสาว สงสารต้องพาไปคุยกับจิตแพทย์เลยอาการดีขึ้น

    พฤติกรรมของ คีนูรีฟนะ ( เทียบกับ มารค์แล้ว )

    เหมือน มารค์เป็นเด็กอ่อนไปเลย

    คีนูรีฟนะ ไปทำสาวท้องก็เคย แล้วไปคบกับคนอื่นแทน
    ดีหน่อยตรงที่ เขารับผิดชอบลูกเขาอยู่ เลยทำตัวเป็นผู้ใหญ่

    แถมเคยถ่ายแบบ SEXY โชว์เป้ากับแก้มก้นด้วยนะ

    แต่เวลาทำงานเขาก็เล่นหนังดีมาก หนังที่เล่นดังทุกเรื่องด้วย

    แล้วก็สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ออกมาให้คนทั่วโลกชมได้อย่างไม่มีที่ติด

    เราคิดว่าให้โอกาส มารค์หน่อยก็ดีนะ
    เพราะเขาเป็นแค่นักแสดง จะตำหนิ อะไรหนักหนา

    แค่คนธรรมดา ไม่เอาคนธรรมดามาเล่น
    จะให้ นิมนตร์หลวงพี่มาเข้า ฉากเหรอ ตลกน่า;aa46หนังที่เอาคนดังมาเข้าฉาก บางทีมันก็ดีนะ แต่เราดูแล้ว ฝืดมากไม่สนุกเลย กลายเป็นตัวร้ายเด่นกว่าอีก เพราะ ตัวเองไม่เคยเล่นหนังมาก่อนอาศัยว่ามีชื่อเสียง
    ก็เลยมีคนเชิญมาเล่นหนังใหญ่ แบบนี้เราว่าก็ไม่ไหวนะ เพราะเราดูหนัง
    ไม่ใช่ดูคนดัง พวกเล่นฝืดๆ น่าดูที่ไหนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2008
  17. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    [​IMG]

    รูปในหนัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2008
  18. theliger

    theliger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +219
    เห็นด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...