2012 : ปีทองของยุคพลังงานใหม่ - ยุคศิวิไลซ์แห่งการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ไปสู่มิติที่ 5

องคาพยพ จะ ต้อง เคลื่อน ย้าย ไป พร้อม ๆ กัน ไม่ ใช่ kryon และ พวก จะ มีอิทธิฤทธิ ทำ ให้ เกิด ได้ เพียง ผู้ เดียว "มนุษย์" ก่ เป็น ปัจจัย หนึ่ง หาก มนุษย์
ไม่ มี ส่วน ด้วย ทุก อย่าง ก่ หยุด นิ่ง เช่น กัน เพราะ ใน สา ระ บบ ของ ธรรมชาติ
ผู้ อยู่ ใน ส่วน ปลาย สุด ปลาย ของ วง ล้อ ของ ธรรม จักร คือ มนุษย์ เมื่อ มนุษย์
ไม่ เปลี่ยน แปลง หรือ ยก ระดับ ทั้ง ระบบ ทุก อย่าง ก่ หยุด นิ่ง และ จะ จม ไป กับ
ความชั่ว ร้าย

ถึง เวลา เปลี่ยน ล้อ ธรรม จักร แบบ เกวียน เป็น ล้อ แม๊กซ์ แล้ว ล่ะ เล่ามา ขำ ๆ ๆ

เด้อ

 

ขอบคุณค่ะที่มาเน้นย้ำว่า มนุษย์ ทุกคนคือผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง
และมีอำนาจดุจพระเจ้าในการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้

ซึ่งดิชั้นมั่นใจว่า "ทุกคน" ที่ติดตามอ่านกระทู้การแปลข้อความจากต่างมิติของพี่ชยุตมาตลอด
"รับรู้และเข้าใจ" ในประเด็นนี้มาตลอดค่ะ

และยังรับรู้และเข้าใจอีกด้วยว่า ผู้ที่ส่งข้อความแสงสว่างมาให้มนุษย์อย่างเราๆได้รับรู้
ซึ่งพวกเขาเหล่าที่อยู่ในสภาวะซึ่งแตกต่างจากเราเช่น kryon นั้น
เป็นผู้ที่คอยมา "เตือนความจำทำได้" ของตัวตนภายในที่แท้จริงของมนุษย์เราอยู่แล้วค่ะ

สำหรับดิชั้นแล้ว ความดีหรือความชั่วร้าย มันเรื่องเบๆค่ะ
การสร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ไปด้วยแสงสว่าง/ความรักไร้เงื่อนไข(เมตตา) ให้ได้
ด้วยความสมดุลในทุกระบบของความเป็นชีวิตมนุษย์อย่างจำได้หมายรู้ต่างหากค่ะ
ที่ beyond ไปกว่าเรื่องดีหรือชั่ว

 

ไม่ เห็น มี ใคร มา ช่วย ดัน เลย

 

เพราะว่ากระทู้ที่มีเนื้อหาแบบนี้ไม่ค่อยมีคนชอบอ่านกันหนะครับ
มันก็เลยเงียบเหงาแบบนี้แหละครับ..เป็นธรรมดา..

sleeping_rbsleeping_rbsleeping_rb

..............................................................

 

สงสัย กำหนด ให้ เฉพาะ คน อ่าน จัก ได้ จำแนก ได้

 

มาเป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยดันกระทู้ดีๆ แบบนี้ค่ะ

เพิ่งสมัครเข้ามาเปิดสมาชิดเว็ปพลังจิต ได้ไม่นาน
(บอกๆตรง ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันที่กลายมาเป็นสมาชิกของเว็ปนี้ได้ )เมื่อก่อนเห็นเว็ปนี้ผ่านตาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่คิดอยากเข้ามา
เพราะตัวเองก็เคยมองว่า เว็ปนี้มีแต่คนแปลกๆ
(อย่างที่คุณ Chayutt ว่าน่ะค่ะ

จนเมื่อปีที่แล้ว บังเอิญกดหาอะไรมั่วๆ ใน Google
และ ดันมาเจอ บทความที่คุณ Chayutt
ลงไว้เกี่ยวกับเรื่อง 2012 ซึ่งน่าจะลงไว้ต้้งแต่ปี 2008 แล้ว
ตอนนั้นรู้สึกสนใจ และสะกิดใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
แล้วก็เริ่มติดตามอ่านบทความต่างๆ มาเรื่อยๆค่ะ
ทั้ง ของคุณ Chayutt , คุณ LadyOfLight,คุณ Cosmiccell,
คุณสันโดษ, คุณkindred ,คุณ Mead ,คุณ Zip และ อีกหลายท่านดิชั้นได้ติดตามอ่านกระทู้ บทความ
(คนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อถึงไม่ต้องน้อยใจนะคะ )

ที่ตั้งใจอยากมาสื่อ คือ อยากบอกกับพวกคุณว่า
สิ่งที่พวกคุณตั้งใจที่จะมาให้ข้อมูล มาสื่อสาร มาแบ่งปันความรู้ต่างๆ
มันไม่ได้สูญเปล่า...เลยสักนิดนะคะ
ในฐานะผู้รับสานส์ หลายข้อมูลให้ความรู้กว้างขวาง
หลายข้อมูลให้ข้อคิดเตือนใจ หลายข้อมูลให้สติ

หรือ...แม้แต่ใน ความเห็น- ข้อมูล ของท่านที่เป็น
"ขาประจำ ที่แวะมาขัดคอ-มาโต้แย้ง"
ในฐานะ ผู้เฝ้ามองหรือ ผู้สังเกตุการณ์ ก็ได้เรียนรู้จากพวกคุณด้วยนะ

สิ่งที่เรียนรู้ คือ "มันเป็นธรรมดาของโลกใบนี้
ที่ความเห็น หรือ ความเชื่อ ของเรา
จะต้องมีคนคัดค้าน มีคนอยู่ฝั่งตรงข้ามเราเสมอ
ในมุมหนึ่ง คนแบบนี้ก็มีมาเพื่อ 'สะกิดเรา'
'เตือนเรา' ไม่ให้ยึดติดอยู่แต่ในความเชื่อของตัวเอง
ให้เรารู้ว่า...ยังมีขั้วอีกด้านหนึ่ง
ปรากฎอยู่บนโลกนี้พร้อมกับเราด้วย...."

ท้ายที่สุด
อยาก "ขอบคุณ" คุณ Chayutt และท่านอื่นๆ ที่ได้เอ่ยถึงไป จริงๆค่ะ ^__^

ช่วยทำหน้าที่นี้ต่อไปเถิดนะคะ อย่าเพิ่งท้อซะก่อน
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า มีคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็ปพลังจิต
แล้วเข้ามาอ่านข้อมูลต่างๆเหล่านี้ โดยมิได้แสดงตัว ยังมีอีกอยู่มาก
เชื่อว่าพวกเขาก็ได้ประโยชน์ ข้อคิดจากสิ่งที่พวกคุณทำไปด้วยเช่นกัน

บุญรักษานะคะ

ขอบคุณค่ะ


chearchearr

 

พวกเราก็ขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่าน
ที่เข้ามาให้กำลังใจด้วยเช่นกันครับ

;38;aa13;aa58

............................................

 

ไม่เหงาหรอกค่ะ พวกซุ่มเยอะ ซุ่มกันเป็นปีๆก็แยะ แต่บางทีมันจนด้วยคอมเม้นท์ค่ะ

 

สวัสดีค่ะพี่ชยุตต์และพี่ๆ ทีมแปลบทความทุกท่านค่ะ

ไม่ได้มาทักทายนานเลย ไม่ได้เข้าเว็บพลังจิตมาพักนึง

มีกระทู้บทความแปลน่าอ่านตั้งหลายกระทู้แน่ะค่ะ *0*

เด๋วจะตามอ่านให้หมดเลย อิอิ

มะวานนี้ฝันเห็นมนุษย์ต่างดาวค่ะ 20/04/2555

ในฝันเราฝันว่า..

แฟนได้นัดเราออกมาที่ถนนซอยหนึ่งกลางดึก

พอเราไปพบแฟนเราสักพักเราเห็นน้ำกำลังจะท่วม แบบไหลทะลักมาเหมือนเขื่อนแตกเลย

เรากับแฟนเลยวิ่งหนีน้ำกัน วิ่งไปๆ แล้วเจอมนุษย์ต่างดาวสวมชุดเกราะเหล็กสงครามมาช่วยเราไว้

ตอนแรกที่เจอเรากลัวมาก เค้าก็เลยถอดหมวกออกให้รู้ว่าเค้าเป็นมิตร เค้าเป็นผู้หญิงค่ะ รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์เรานี่แหละ

แล้วเค้าก็พาเราขึ้นจานบินของเค้าไป ส่วนแฟนเค้าไม่ให้ไปด้วย เค้าบอกว่าแฟนเราขาดคุณสมบัติอะไรสักอย่างนี่แหละ (แต่สุดท้ายเค้าก็พาขึ้นไปด้วยนะคะ)

เรามองไปบนท้องฟ้า เห็นเค้าทำสงครามกันอย่างกะหนังสตาร์วอร์ แล้วเราก็เห็นมังกรสีน้ำเงินอยู่บนท้องฟ้าด้วย

จากนั้นเราก็สะดุ้งตื่นเลยค่ะ เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก แล้วเรากลับจำได้ทุกช๊อตทุกตอนเลย น่าขนลุกจริงๆ ค่ะ

 

ฝันน่าสนุกดีครับ..

 

ครับผม เหมือนกันครับ บางทีเนื้อหามันเกินความเข้าใจเลยไม่รู้ว่าจะคอมเม้นท์ยังไงดี

 

เราเกิดมาเป็นนักเรียนกันนะคะ เรียนด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ความรู้เยอะแยะในโลก นอกโลก ทำงานเสร็จก็มาหาความรู้ อันไหนชอบก็เออ ชอบๆ อันไหนไม่เข้าใจ ก็วางไว้ ไม่ต้องมานั่งทะเลาะ หรือดูถูกเรื่องที่คนอื่นสนใจ ป้าว่าศิวิไลซ์ดีนะคะ
ไม่เคยฝันอย่างน้อง Happy_Me แต่เคยตามผู้ใหญ่ไปบรวงสรวงที่ ศรีเทพ หระหว่างพิธีเห็น Alien มาจอดดูเฉยเลย จอดยานแบบ ยานนั่งได้คนเดียว ขับมาจอดดูดื้อๆนี่แหละ
หรือแม้แต่การทราบสิ่งที่ต้องเกิดกับเราเองล่วงหน้าผ่านสมาธิ แต่เตือนแล้วเรายังพลาดไหม ก็เป็นสิ่งที่เราเจอเอง คุยกับผู้ที่ไม่คยเจอ เขาไม่ทราบ ไม่เคยศึกษา เขาก็จะเข้าไปวิจารณ์ตามกระทู้ต่างๆ ด้วยยังไม่เจอด้วยตนเอง แต่นี่มันห้อง วิทยศาสตร์ และสิ่งลึกลับ ถ้าไม่อยู่ห้องนี้ก้ไม่รู้ จะไป ห้องไหนค่ะ สมัยเรียนที่ต่างประเทศ เขาก็ศึกษาเรื่องราวต่างๆได้โดยเสรี ไม่เห็นโดนตามล้าง ตามเช็ดกัน เหมือนทีนี่ ขอเจ้าของกระทู้และทีมเพื่อนๆ อย่าหยุดนำเสนอ นะคะ

 

ทั้งฝันทั้งสมาธิก็ยังไม่เคยเจอประสบการณ์ที่แปลกๆ อะไรเลย 55 แต่อันนี้มันก็แล้วแต่คน

ต่างประเทศเห็นเค้าเขียนหนังสือขายกันเยอะมากเลย บางเรื่องก็ขายดีด้วย เห็นในร้านหนังสือต่างประเทศอย่างเช่น Kinokuniya ในหมวด Spiritual หรือ New Age ก็มีขายกันเยอะแยะ แต่มีแปลไทยไม่กี่เล่ม

 

ฝันน่าสนใจมากๆค่ะคุณ Happy_Me
ซึ่งครอบครัวชาวต่างดาวของมนุษย์เรา ก็รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากเราค่ะ
หลายๆข้อมูลที่รูปธรรมแสงสว่างต่างๆอ้างถึงนั้น ครอบครัวจักรวาลของเรา ก็คล้ายเราค่ะ
และไม่นานนี้ ก็ตามที่ SaLuSa ได้กล่าวไว้เลยค่ะ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 55 นี่เอง

 

จานบินในฝันที่เห็นขนาดเล็กนะคะ น่าจะประมาณเฮลีคอปเตอร์

จานบินนี้มีลักษณะที่พรางตัวได้ค่ะ คือมองภายนอกจะเห็นเป็นร้านทำผมเล็กๆ

แต่พอเข้าไปข้างในถึงจะรู้ว่ามันคือจานบินค่ะ *0*

บนจานบินมีมนุษย์ที่เค้าได้ช่วยไว้อยู่ในนั้นด้วยประมาณ 4-5 คนค่ะ

เหมือนเค้านำพวกเราไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย ส่วนเค้าก็ออกไปรบต่อบนท้องฟ้าอะค่ะ *0*

 

เพิ่งจะได้เจอและได้อ่านหลังจากที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้โพสต์เอาไว้เกือบ 3 ปี
ขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่ได้กรุณานำมาเผยแพร่ครับ

 

สวัสดีค่ะคุณชยุต และเพื่อน ๆ ทุก ๆ ท่านในกระทู้นี้ วันนี้คงต้องขออนุญาติคุณชยุต นำอีกหนึ่งความคิดเห็นของจินตวดี เกี่ยวกับเรื่องการข้ามพ้นทวิภาวะ (หรือความเป็นคู่ หรือจักรวาลคู่ขนาน - BI) มาวางไว้ในห้องนี้นะคะ

ความเห็นนี้ เป็นเพียงความเห็นของจินตวดีเท่านั้น หากสามารถเป็นประโยชน์ต่อใครได้ คงจะดีไม่มาก็น้อย

ขอบคุณค่ะ

ทุกอย่างในโลกใบนี้มีสิ่งใดบ้างที่เที่ยงแท้ และ คงทน ทุกสรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

เครื่องหมายหยินหยาง เปรียบได้กับ อุปมาอุปมัย ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในโลกทางกายภาพที่ถูก run ด้วยความคิดเห็นอย่างนี้

สิ่งที่ถูก "ยอมรับ" ว่าเป็นสิ่งดีในช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานที่แห่งหนึ่ง อาจเป็นสิ่งที่ถูก "ไม่ยอมรับ" ได้ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

สิ่งที่เป็น "สีขาว" ในช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานที่แห่งหนึ่ง อาจเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า "สีดำ" ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

ตราบใดที่โลกมนุษย์ยังวนเวียนอยู่กับของคู่ วนเวียนอยู่กับการคิดเห็นที่ถูกตัดสินตามความเชื่อ เช่นนี้ ทุกอย่างย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีการเกิดขึ้นของความเชื่อใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา มีการตั้งอยู่ของมัน (ยอมรับว่าเป็นความจริงในขณะนั้น) อยู่ตลอดเวลา และ มันการดับไป (ความสิ้นสุด) ของมัน อยู่ตลอดเวลา นี่คือ ความเป็นธรรมดาของทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติที่เกิดขึ้นความเชื่อของมนุษย์ เพราะธรรมชาติของความเชื่อล้วนเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา แม้แต่สิ่ง ๆ หนึ่งยังถูกเรียกได้ไม่ซ้ำกันตามความเชื่อหนึ่ง ๆ และประสาอะไรเล่ากับสิ่งอื่น ๆ ที่ถูกกำหนดตามความเชื่อของมนุษย์

สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถูกยอมรับ มักอุปมาว่าเป็นสีขาว และ สิ่งที่คนไม่ยอมรับ มักถูกอุปมาว่าเป็นสีดำและได้รับการปฏิเสธ

แต่ตามกฏแห่งธรรมชาติแล้ว ธรรมชาติและจักรวาล คือ ความสมดุลย์ สิ่งที่ได้รับการปฏิเสธนั้น มิได้หายไปไหน แต่ยังคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนสภาพไป และมีโลกแห่งความเป็นจริงของมันอยู่เสมอ ในมิติ หนึ่ง ๆ ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ (ชาติ และ ภพ)

ความยึดมั่นในสิ่งใด สิ่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้อำนาจการแบ่งแยกคุณค่าของสรรพสิ่งทั้งหลายน้้น นอกจากจะไม่ทำให้หมดชาติภพแล้ว ยังคงสร้างชาติภพ และตัวตนต่อไป เพื่อรอคอยการเรียนรู้ในแง่มุมตรงกันข้าม

การปฏิเสธอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการสร้างชาติภพตนเองให้เกิดขึ้นในการเรียนรู้อีกแง่มุมตรงกันข้ามให้เกิดขึ้นแก่จิตวิญญาณ เพราะในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ถูกปฏิเสธย่อมปรากฏโลกของความเป็นจริงของมันในโลกหนึ่งมิติหนึ่งเสมอ

การยอมรับการมีอยู่ของมันต่างหาก อยู่กับธรรมชาติของมัน ยอมรับมันในฐานะที่เราเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาด้วยจิตของเราเอง มองให้เห็นความเป็นจริงของมัน ในฐานะ "ครู" ผู้สอนให้เราเรียนรู้ เพราะทุกสิ่งในธรรมชาติ ทุกเหตุการณ์ ล้วนคือ "ครู" ที่สอนเราให้รู้จักธรรมชาติของความเป็นจริง แม้กระทั่งเสียงก่นด่า เพราะนั่น มันกำลังสะท้อน (REFLECTION) ให้เรามองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเรา และเปิดโอกาสทุกขณะจิตให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง คลายปมต่าง ๆ ที่เราได้เคยสร้างไว้ และนี่คือ ของขวัญ อย่างแท้จริง ที่จะช่วยให้เราได้กลับบ้านที่เราจากมา และ สามารถปลดเปลื้องเราจากพันธนาการต่าง ๆ ที่ถูกสร้างไว้ ข้ามชาติภพ ผ่านตัวตนหลายตัวตน และ หลายมิติ

ทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ ล้วนมี 2 ด้านเสมอ ความก้าวร้าว ความอ่อนโยน, ความรัก ความกลัว, การสร้างสรรค์ การทำลาย ฯลฯ ทุกอย่างล้วนมีคุณค่าและประโยชน์ในตัวมันเองทั้งนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโอกาส และ เวลา ทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์หากรู้จักใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา (การมองในแง่บวก)

หากโลกนี้มีแต่แสงสว่าง แล้วเราจะมองเห็นคุณค่าของตนเอง และรักตัวเองได้อย่างไร

และทั้งหมดนี้เพียงแต่สอนให้ข้าพเจ้ารู้ว่า แม้ตัวเองจะเป็นเพียงแค่ แสงจากไม้ขีดเล่มเล็ก ๆ แต่เราก็ยังมีคุณค่าพอที่จะเป็นแสงสว่างได้ในความมืด และมันสอนให้เราไม่เกิดความท้อใจ และมองเห็นคุณค่าและความดีงามของตนเอง และเกิดกำลังใจในการที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นแสงสว่างอันนิรันดร์ได้ในที่สุด

ข้าพเจ้าไม่เกลียดความมืด ความกลัว ความทุกข์ แต่ข้าพเจ้า ยอมรับมันอย่างสุดหัวใจในการมีอยู่ของ "สิ่งนี้ ในฐานะ "ครู" หรือ "นักพูด" ที่สอนให้เราเห็นถึงความเป็นจริงของธรรมชาติ และ ในที่สุด สามารถอยู่ร่วมกับทั้งสองสิ่ง (ที่ถูกแบ่งตามความคิดเห็นของมนุษย์) ได้อย่างมีความสุข เพราะมันคือ การหยุดการแบ่งแยก ที่เกิดจากการให้ค่าผ่านความคิดเห็นจากตัวตนของเรา

สิ่งที่ทำให้เกิดความคิดเห็น มองเห็นความถูกผิด จนทำให้เกิดการตัดสินคุณค่าในตัวของคนอื่น หรือ สิ่งอื่น ก็มีแต่ความคิดเห็นอันเกิดจาก ตัวเรา ของเรา เท่านั้น ในเมื่อเหตุแห่งทุกข์สุขเกิดจาก ตัวเรา ทั้งนั้น การดับทุกข์ที่ถูกจึงควรเพ่งแต่เพียงตัวเรา เท่านั้น ไม่ใช่เพ่งจาก ความผิดถูกของผู้อื่น หรือยึดในความเชื่อของผุ้อื่นเป็นเกณฑ์ และนี่แหละที่เรียกว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" อย่างแท้จริง


กระทู้นี้เป็นเพียงกระทู้ "เล่าสู่กันฟัง" ภาค2 ของข้าพเจ้า มิได้มีเจตนาจะชักชวนผู้ใดให้เกิดความเชื่อใด ๆ เพราะข้าพเจ้ามีความเชื่ออย่างจริงใจว่า ยุคใหม่นี้ เป็นยุคของ "การปฏิบัติเอง เห็นผลเอง" หรือ "การเรียนรู้ด้วยตนเอง" ของทุกท่านอย่างแท้จริง

ขอขอบคุณค่ะ

 

ตั้งแต่เป็นสมาชิกเว็บพลังจิตและติดตามกระทู้ของคุณชยุต ชีวิตของดิฉันก็เปลี่ยนไป ๕๕๕๕๕ ไม่ได้โม้ แบบว่า อยู่ใกล้พระเจ้าตลอดเวลา เห็นทู๊กกกกกกกวัน เลขเบิ้ลเลขชุด เลขสิบเอ็ด เห็นจนชิน ฮิฮิ

 

(มีท่านผู้รู้คนนึงเคยบอกไว้ว่า กระทู้ที่การันตีให้5ดาวในห้องวิทย์ฯมี)
1.กระทู้คุณชยุต
2.กระทู้คุณจินตวดี
3.และกระทู้ท่านฟรอสเซ่น ฟลาวเวอร์.
สามท่านนี้โอเค.ระดับนึง การันตี.
(3ปีกว่า.ผ่านไป ใครเปลี่ยนแปลงบ้างเป่า?)catt3