ฮือฮา!สร้างพระสีวลีถือไอแพด หนึ่งเดียวในโลก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 12 พฤศจิกายน 2012.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    พระสงฆ์สุรินทร์สร้างพระสีวลีถือไอแพดหนึ่งเดียวในโลก


    [​IMG]

    นายพิภพ ดำทองสุข รองผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานในการประกอบพิธีเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด รุ่น “มหาลาภ ทันโลก โภคทรัพย์” ที่วัดบ้านจบก หมู่บ้านหนองเหล็ก ต.บ้านผือ อ.จอมพระ โดยมีพระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

    พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ กล่าวว่า การที่ได้นำแนวคิดการเททองหล่อพระสีวลี ในปางถือไอแพด เพราะต้องการสื่อความหมาย ว่าพระสงฆ์ทุกวันนี้ อยู่ในโลกที่ กว้างไกล เต็มไปด้วยเทคโนโลยี่ พระสงฆ์ ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย และต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยสอนญาติโยมคนรุ่นใหม่ ให้เข้าถึงพระพุทธศาสนา เพราะเด็กหนุ่ม สาว คนรุ่นใหม่ ใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ แล้วห่างวัด ไม่ฟังธรรม แนวทางที่พระสงฆ์จะทำได้คือการเข้าถึงเทคโนโลยี่ เหล่านี้ แล้วใช้สอนธรรมะ กับคนรุ่นใหม่สื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนใครจะว่าอะไร สามารถตอบคำถามสังคมได้

    อีกประการหนึ่งก็คือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆญาติโยมจะเห็นปางพระสีวลี ถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวางเชื่อเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ



    ข่าว ข่าววันนี้ ข่าวเด่น ข่าวด่วน ข่าวโพสต์ทูเดย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เล็กชิ้นสด

    เล็กชิ้นสด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +178
    บางส่วนจาก

    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙



    หลังจังหัน
    (ถวายเครื่องเล่นเทป ซีดีแล้วก็รับวิทยุได้ครับ) มีทางจะเสียไหมล่ะ พวกวิทยุ เทวทัตโทรทัศน์เราขยะ เตรียมการไว้ต้อนรับกันอยู่แล้ว เราเบื่อพระทั่วประเทศไทยเรานี่ นับแต่หลวงตาบัวหัวโล้นๆ ไป มันมีแต่วิทยุเทวทัต เริ่มมาตั้งแต่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์เทวทัต วิดีโอ โทรศัพท์มือถือ นี้ล้วนแล้วตั้งแต่เป็นข้าศึกของพระในวัดๆ แต่เวลานี้มันเต็มอยู่ในวัดๆ ฟังซิน่ะ พระมันหูหนวกตาบอดหรือมันเป็นยังไง เรียนมาด้วยกัน มหาเปรียญ เจ้าฟ้าเจ้าคุณถึงขั้นสมเด็จ สิ่งเหล่านี้เกลื่อนอยู่ในห้องมันนั่นแหละ เป็นยังไงพระเหล่านี้น่ะ หัวโล้นๆ นี่น่ะ มันเป็นยังไง มันไม่ดูเหรอหลักธรรมหลักวินัยของศาสดาองค์เอก มันเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปตลอดเวลา เวลานี้วัดกลายเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรกลายเป็นมูตรเป็นคูถเต็มไปหมดที่ไหนๆ ก็ดี ส่วนที่ตั้งใจเพื่อศีลเพื่อธรรมนี้มีน้อยมาก ที่ปฏิบัติตัวเป็นมูตรเป็นคูถอยู่ในส้วมในถานคือวัดมีมากต่อมาก
    มีแต่ความเพลิดความเพลินมันไม่ได้สนใจกับธรรม เราจะไปตำหนิติเตียนอะไรประชาชนญาติโยม แม้แต่พระหัวโล้นๆ มันก็ไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรมจะให้ว่าไง นี่ละภาษาธรรมฟังเอา ถ้าพูดผิดนี้ให้ตีหน้าผากหลวงตาบัวเลย การแสดงออกมานี้ผิดไป ไอ้ผู้ที่ทำผิดนั่นน่ะมันกระเทือนโลกไปหมดไม่ได้ดูเหรอ อันนี้กระเทือนอะไร มีตั้งแต่เรื่องความดิบความดีทั้งนั้น อันนี้ถ้ามันมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะเป็นความเสียก็อย่าเอามา นอกจากเป็นประโยชน์สำหรับธรรมะ (อันนี้สำหรับฟังเทปธรรมะหรือซีดีธรรมะเจ้าค่ะ) แน่ใจเหรอ เอาไปทดสอบดูก่อน (แน่ใจค่ะ) พวกเทวทัตมันแน่ใจทั้งนั้น แต่ธรรมนี้เป็นยังไงจะแน่ใจหรือไม่แน่ใจให้ไปทดสอบดู ถ้าไม่เป็นท่าปาเข้าป่าให้หมดเหล่านี้ เอ้า ต้องอย่างนั้นซิ เอาไว้ทำไมมันเป็นภัย
    มันสลดสังเวชนะเรื่องพระเรา โทรศัพท์มือถือนี่สำคัญมาก เฉพาะในวัดป่าบ้านตาดนี้บอกว่ามีไม่ได้ ยังซ้ำเข้าไป เด็ดขาด องค์ไหนมีไล่ออกจากวัดทันทีเลยไม่ต้องอุทธรณ์ มีข้อยกเว้นเครื่องหนึ่ง นี่โลกเข้ามาเกี่ยวข้องที่จะไม่ให้มีก็ไม่ได้ โลกทั่วประเทศไทยเข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดป่าบ้านตาด เกี่ยวข้องกับเรา จึงต้องมีโทรศัพท์อันนี้ไว้ มือถือนี่ และมีเฉพาะอันนี้เท่านั้นใครจะมายุ่งไม่ได้ มีไว้ให้มีผู้รักษา นี่เราอนุโลมไว้เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม พิจารณาซิ ลำเอียงไหม ในวัดผู้อื่นผู้ใดไม่ให้มีแต่ที่นี่มี ลำเอียงไหม
    เหตุผลกลไกเราบอกแล้ว โทรศัพท์อันนี้สำหรับส่วนรวม ที่ประชาชนทั่วประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง โทรมา ผู้ที่รับโทรศัพท์นี้จะได้ฟังเรื่องราวอะไรๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของโลก เพราะฉะนั้นเราจึงอนุโลมให้มีเครื่องหนึ่งสำหรับผู้รักษาโดยเฉพาะ ใครไปยุ่งไม่ได้ นอกนั้นมีไม่ได้ในวัดนี้ ใครมีไล่ออกจากวัดทันทีเลย เพราะประกาศลั่นกันแล้ว หลักธรรมหลักวินัยรู้กันทุกคนๆ จำเป็นอะไรจะต้องมาสั่งมาสอนกัน มีแต่ไล่ออกเลยเท่านั้น โห มันร้ายแรงมากนะโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ก็เป็นหนังสือเพลิน
    บวชแล้วพระพุทธเจ้าไล่เข้าในป่า กลับไปกว้านเอาหนังสือพิมพ์เป็นข่าวคราวของโลกโลกีย์สกปรกรกรุงรังเข้ามาเหยียบหัวพระพุทธเจ้ามีอย่างเหรอ บวชแล้ว รุกฺขมูลเสนาสนํ ไล่พระเข้าไปอยู่ในป่าในเขาตามรุกขมูลร่มไม้ ในถ้ำเงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ อันเป็นที่ปราศจากสิ่งรบกวน สะดวกแก่การประกอบความพากเพียร ให้ท่านทั้งหลายจงอยู่และบำเพ็ญในสถานที่นั้นตลอดชีวิตเถิด นั่นเห็นไหม นี่อนุศาสน์สอนพระ พอบวชเสร็จแล้วสอนพระโอวาทข้อนี้เด็ดเลยเทียว ได้รับทุกคนจะว่าไง ปฏิเสธไม่ได้ ไล่เข้าในป่าแล้วยังไปหากว้านเอาหนังสือพิมพ์ หากว้านเอาวิทยุ โทรทัศน์เทวทัต วิดีโอ โทรศัพท์มือถือเข้ามาในวัด มันก็มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มวัดเต็มวาละซิ จะมีอรรถมีธรรมที่ไหน นี่ละสลดสังเวชนะ
    พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่ายังไงมันไม่ดู หูหนวกตาบอดไปหมด น่าทุเรศ นี่อันนี้มากระเทือนถึงได้พูด ผู้รักษารักษาแทบเป็นแทบตาย ผู้มาทำลายมาทำลายต่อหน้าต่อตาแบบหน้าดื้อหน้าด้าน นี่ซิน่าทุเรศเอาเหลือเกิน เอา ถ้าเราพูดนี้ผิดไป เอา ตัดคอเราเลย การพูดนี่พูดเป็นอรรถเป็นธรรม เสียงอรรถเสียงธรรม ออกมาจากหลักจากเกณฑ์คือองค์ศาสดา ได้แก่คำสอนของท่าน พวกเรามันพวกหน้าด้าน เลอะเทอะไปหมดนะ วัดนี้ได้เข้มงวดกวดขันเรื่องโทรศัพท์มือถือ
    วงกรรมฐานเราก็บอกไป แต่วงกรรมฐานไปสืบๆ ดูไม่มีละโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับในวัดนี้ วัดนี้เราอนุโลมให้ ฟังซิว่าอนุโลม ให้มีเครื่องเดียว สำหรับประชาชนทั่วประเทศเขตแดนเข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดป่าบ้านตาด ก็คือเรานั่นแหละ ให้มีผู้รับโทรศัพท์นี้ คอยติดต่อสื่อสารเรื่องราวต่างๆ มีเท่านั้นมีเครื่องเดียว ใครไปยุ่งไม่ได้นะนั่น นอกนั้นตัดขาดไม่ให้มี โห ไม่ทำอย่างนั้นไม่ได้ เรื่องกิเลสมันหน้าด้านที่สุด
    ไม่มีหน้าไหนจะด้านยิ่งกว่าหน้าของกิเลส ใครมีกิเลสหนาเท่าไรยิ่งหน้าด้าน มีอันนี้เป็นเหตุละวันนี้ได้ขึ้น ขึ้นบ้างซิ อย่างนี้ละถ้ามีเหตุมันหากมีของมัน คึกคักเลยทันที อ้าว จริงๆ ศาสนาจะไม่เหลือนะทุกวันนี้ จะไม่มีเหลือทั้งๆ ที่พระเณรเราเป็นผู้ทรงศาสนา เหมือนว่าเป็นแนวหน้าของศาสนาพุทธแหละ แต่นี้กลายมาเป็นหัวหน้ากองเลอะๆ เทอะๆ ไปจึงดูไม่ได้ซิ
    เมื่อเร็วๆ นี้ใครก็ได้ยินไม่ใช่เหรอทั่วประเทศไทย ตอนจะเฉลิมทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ทางนั้นเสนอขอยศขอลาภ ขอสมณศักดิ์ เข้าไปหาพระราชวัง เราก็เดินบิณฑบาตผ่านพระราชวัง ขอบิณฑบาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่าพระราชทานสมณศักดิ์ให้พวกหัวโล้นนี้ว่างั้น บวชมามันไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรม อรรถธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอย่างแท้จริงมันไม่สนใจ อันยศอันแย็ดอันนี้มันมีมาจากไหนนั่นซิ มันไปดีดไปดิ้นหาอะไร อย่าพระราชทาน ว่าอย่างนี้ เราเดินบิณฑบาตผ่านพระราชวัง อย่างนั้นแหละ มันไปดีดไปดิ้นหาอะไร เกาในที่ไม่คัน บวชมาเพื่ออรรถเพื่อธรรม เพื่อมรรคเพื่อผล แล้วมันเสือกไปอะไรไปหายศหาลาภ หาสมณศักดิ์สมณแส็กอย่างนั้นพระเรา มันหยาบไหมพระ พิจารณาซิน่ะ
    หาอะไรภายนอก หาอรรถหาธรรม ดูศีลให้ดี สมาธิ ปัญญา วิมุตติหลุดพ้น อยู่ที่หัวใจของพระ ทุกอย่างอยู่ที่นี่หมด พระพุทธเจ้าประทานให้หมดแล้ว อันเหล่านั้นไม่ประทานให้ ปัดออกโลกธรรม ๘ ท่านปัดออกไม่ให้เข้ามายุ่ง แล้วมันไปยุ่งหาอะไร นี่ซิมันน่าทุเรศมาก หน้าด้านนะพระเราทุกวันนี้ หน้าเขาหน้าเราด้านแบบเดียวกันหมด นี่ละศาสนาจะไม่มีนะ เราบิณฑบาตผ่านพระราชวัง ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่าพระราชทานสมณศักดิ์ให้พวกนี้ พวกนี้ก็พวกหลวงตาบัวนั่นแหละ พวกหลวงตาบัวหัวโล้นนี่
    ให้มันหาอรรถหาธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงบ่งบอกอย่างชัดเจนเลย บวชมาแล้วไล่เข้าป่าให้ไปบำเพ็ญธรรม สมาธิ ปัญญา วิชชา วิมุตติ นี้คุณสมบัติของพระ ยศของพระอยู่ที่อรรถที่ธรรม ไม่ได้อยู่ที่พัดยศพัดแย็ดอะไร พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไปหา สอนให้หาอรรถหาธรรม ไม่มีอะไรเลิศยิ่งกว่าธรรม ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเลิศ ปฏิบัติตัวให้มีธรรมครองใจไปที่ไหนเลิศหมดนั่นแหละ ชื่อมันมีประโยชน์อะไร
    หลวงตาก็มีพัดยศอยู่ข้างบน พระราชทานมาทีแรกเป็นพระครู ตั้งแต่พ.ศ.เท่าไร ไม่เอา ปัดคืน ฟาดมาที่สองข้ามชั้นเจ้าคุณสามัญ ขึ้นชั้นราชเลย มาที่สามฟาดชั้นธรรมเลย ทีนี้ก็เลยได้ขู่กับคนในสำนักพระราชวังซึ่งเป็นลูกศิษย์เหมือนกัน นี่จวนแล้วนะ ขึ้นชั้นธรรมแล้วก็รองสมเด็จ ทีนี้มันเคยข้ามมามันจะไม่อยู่ชั้นรองสมเด็จ มันจะขึ้นสมเด็จนะ อย่านะแต่นี้ต่อไปเราพูดจริงๆ เราพูดตามความสัตย์ความจริง เราเทิดพระเกียรติทั้งสองพระองค์ต่างหากที่เรารับพัดนี้ เราเทิดพระเกียรติทั้งสองพระองค์ เราไม่เป็นบ้าพัดนะ ว่างี้เลย ต่อจากนี้ให้หยุด ไม่ได้นะ นี่จะก้าวขึ้นสมเด็จ ถ้าขึ้นสมเด็จแล้วก็จะป้วนเปี้ยนอยู่ในพระราชวัง ไม่ออกในป่าในเขาที่เคยออก ลืมหมด แล้วป้วนเปี้ยนๆ อยู่ในพระราชวังสมเด็จบัวน่ะเข้าใจไหม
    ต่อไปก็เอาพัดยศกาง นี่สมเด็จ ไปไหนป้วนเปี้ยน คนกรุงเทพทั้งกรุงเทพเขาจะแตกกระจายหนีหมด เขาไม่เคยเห็นพระถือพัดยศอวดประชาชนอยู่ในกรุงเทพ แต่แล้วก็เป็นหลวงตาบัวเสียเอง นี่พัดหลวงตาบัวพัดยศ เป็นสมเด็จนะ แทนที่เขาจะอนุโมทนาสาธุการ กลับกรุงเทพแตก เข้าใจไหมล่ะ นี่ก็เอากันแล้ว ไม่ให้ให้อีก พอแล้ว ให้หาธรรมซิ อะไรจะเลิศยิ่งกว่าธรรม ท่านสอนมาเพื่อหาอรรถหาธรรมต่างหาก ไม่ได้สอนมาเพื่อโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ เรียกโลกธรรม ๘ ไปยุ่งหามันทำไม ในตัวของเรานี้ก็มีอยู่แล้วโดยหลักธรรมชาติ สุข ทุกข์ ก็มีอยู่แล้ว ไปดิ้นหามันอะไร
    นี่ภาษาธรรมฟังเอานะ ท่านทั้งหลายฟังเอาภาษาธรรม เราไม่มีอิจฉาบังเบียด โกรธแค้นใครทั้งนั้น เราพูดไปตามเหตุตามผล วิทยุเข้ามานี้เป็นเหตุ ใครถวายอะไรมาคว้ามับๆ เหมือนลิงได้เหรอ อะไรควรไม่ควรแก่ศาสนา แก่หลักธรรมหลักวินัย เราต้องดูเสียก่อน ไม่ควรรับก็ไม่รับ หากจะควรสั่งสอนเสียบ้างว่าที่นำมานั้นผิดก็สอนให้รู้เรื่องรู้ราว อะไรมาก็คว้ามับๆ ใช้ไม่ได้
    มีใครพระองค์ไหนไปบิณฑบาตผ่านพระราชวัง ประกาศป้างๆ อย่าพระราชทานสมณศักดิ์ให้พระหัวโล้นๆ มีใครพูดได้ หลวงตาพูดได้สบาย เพราะมันขัดต่อศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นลาภเป็นยศสรรเสริญพระองค์สอนให้ปัดออก มันไปกว้านหามาอะไร การพูดเหล่านี้ผิดถูกที่ตรงไหน เอา พิจารณาซิ อรรถธรรมต่างหากให้หา บวชแล้วไล่เข้าในป่า สถานที่อยู่ที่กินหลับนอนให้อยู่ในที่สงบสงัดเพื่อชำระกิเลส เรียกว่าบำเพ็ญธรรมอย่างนั้น นี้ไม่ใช่บำเพ็ญธรรม มันกว้านหากิเลสเข้ากันได้ยังไง เพราะฉะนั้นเราจึงทำอย่างนั้นซิ ให้โลกได้ฟังเสียบ้าง อย่างนี้ไม่มีใครมาพูดให้ได้ยิน เราพูดเสียเอง
     
  3. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,502
    ค่าพลัง:
    +3,172
    แบบนี่งัยที่เรียกว่า...โลกติเตียน เออ...พระหนอพระ
    ในเมื่อพระในพระพุทธศาสนา...ไม่สืบสารพระศาศนาในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม
    จะรักษาพระศาสนาไว้ได้อย่างไร...ในเมื่อเด็กรุ่นหลังเกิดมา เห็นตามรูปที่ปั้นคงเข้าใจเอาเองได้เลย..ในแนวทางที่ผิดๆๆ ....ขนาดพระอรหันต์ยังใช้...แลัวคนเราๆๆละ จะเหลืออะไร....
    น่าจะมีการแก้ไข้...ในทางที่ถูกต้อง เพราะ คำว่า ควรและเหมาะสม...ไปอยู่ไหนหนอ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  4. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    เห็นด้วยกับ คุณ misu เราควรจะรักษาคุณลักษณะเดิมไว้ดีกว่า ทุกวันนี้หลายสิ่งหลายมันถูกปลอมปนมาเยอะ ขอเว้นไว้สักรายการเถอะครับ...
     
  5. ไร้นา

    ไร้นา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +108
    ขออนุญาตองค์พระสีวลีแล้วหรือ ท่านอนุญาตหรือยัง
    อย่าคิดเอาเองว่า เป็นการไม่ยึดมั่น
    บางทีการยึดมั่นก็มีข้อดีนะ เช่น ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
     
  6. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    เป็นการสื่อความหมาย ที่ไม่ถูกต้อง
    ยุคสมัยนี้ เป็นอย่างนี้ ถ้าพระสงฆ์ปัจจุบันจะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อค้นคว้า
    เตรียมการเรียน การสอน นักเรียน ฯลฯ

    แล้วเกี่ยวอะไรกับพระสีวลี ในสมัยพุทธกาลด้วย
    บาตร ร่ม ฯลฯ ล้วนเป็นของใช้ในการธุดงค์ เพื่อทำให้หมดกิเลส

    ไอแพด มันเกี่ยวอะไร
    ลองพระยังไม่ปฏิบิติดี ลองมีไอแพดในห้องส่วนตัวสิ
    วัน ๆ คงไม่ทำอะไรอย่างอื่น
     
  7. ญาณจิต

    ญาณจิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +53
    ไม่เห็นด้วยกับการ สร้างพระสีวลีถือไอแพดแบบนี้ อย่างยิ่ง
    คำว่ายึดมั่นถือมั่น มันไม่ใช่แบบที่กระทำอย่างนี้
     
  8. พุทธชยันตี

    พุทธชยันตี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +400
    ควรละวางอัตตา แต่ไม่ใช่ละวางพระศาสดาและสาวก ช่วยกันเถอะครับ หยุดทำลายศาสนาเราเสียที่ คนทำลายศาสนาไม่ใช่คนนอกศาสนาหรอก เดี๋ยวนี้ คนในนี้แหละที่ทำลาย

    ผมจะดำเนินการเองครับ ผมคงไม่ปล่อยไว้อย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องขำ อย่าแค่วิภาควิจารณ์อย่างเดียว เรื่องนี้ต้องมีจุดจบ ไม่ใช่อาฆาต แต่ควรละวางในบางเรื่อง ไม่ใช่เรื่องพวกนี้ที่ควรละวาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  9. แน้ว

    แน้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +222
    พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ กล่าวว่า การที่ได้นำแนวคิดการเททองหล่อพระสีวลี ในปางถือไอแพด เพราะต้องการสื่อความหมาย ว่าพระสงฆ์ทุกวันนี้ อยู่ในโลกที่ กว้างไกล เต็มไปด้วยเทคโนโลยี่ พระสงฆ์ ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย และต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยสอนญาติโยมคนรุ่นใหม่ ให้เข้าถึงพระพุทธศาสนา เพราะเด็กหนุ่ม สาว คนรุ่นใหม่ ใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ แล้วห่างวัด ไม่ฟังธรรม แนวทางที่พระสงฆ์จะทำได้คือการเข้าถึงเทคโนโลยี่ เหล่านี้ แล้วใช้สอนธรรมะ กับคนรุ่นใหม่สื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนใครจะว่าอะไร สามารถตอบคำถามสังคมได้

    อีกประการหนึ่งก็คือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆญาติโยมจะเห็นปางพระสีวลี ถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวางเชื่อเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ


    งง ครับ งง กับข้อความด้านบน เหตุผลเข้าข้างข้าพเจ้าลูกเดียว
     
  10. เจ้าทองไปดี

    เจ้าทองไปดี แมว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +223
    ของเดิมที่มีมา ถ้าทำให้ดี ทำให้เคร่งครัด ก็ทำให้คนหันมาฟังมาเคารพนับถือได้สบายๆ ยังทำให้ดีไม่ได้
    เก่้งแต่สรรหาสิ่งใหม่ๆเอามาอ้างว่าเพื่อธรรม ถ้าเพื่อธรรมจริงของเดิมที่มีมาก็เพียงพออยู่แล้ว แต่คน คนมันทำไม่ได้ไง มันถึงสรรหาสิ่งใหม่ๆมาอ้าง เอาธรรมมาบังหน้า กูละเบื่อ !!!

    ทำไมไม่ทำประพุทธรูปปางถือไอแพตซะเลยเล่า มาเลือกเอาพระสีวะลี กลัวอะไรหรือไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  11. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,502
    ค่าพลัง:
    +3,172
    ขนาดรองผู้ว่า..ยังเอาด้วย....จะส่งหนังสือร้องเรียนหรือจะทำอย่างไร ก็รีบครับ หากต้องการรายชื่อก้อบอกจะร่วมด้วยครับ.....ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพิทักรักษาพระพุทธศาสนาครับ สาธุ
     
  12. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    พระสิวลีเป็นพระธุดงค์ทำไม ไปสร้างท่านแบบนี้หนอ
     
  13. ศักยิ์กมล

    ศักยิ์กมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    826
    ค่าพลัง:
    +1,316
    ผมขอคัดค้าน และผู้ดำเนินการสร้างทั้งสงฆ์ และ ฆารวาส ผมว่าสงสัยจะเพี้ยน คิดหวังแต่ทำอะไรให้พิศดารเพื่อเรียกศรัทธาจากผู้เห็นผิด เพื่อหวังลาภสักการะจากบุคคลเหล่านี้เท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ถูกต้องว่าควรหรือไม่ควร ทุเรศน์สิ้นดี ถุย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤศจิกายน 2012
  14. sriharaj_wit

    sriharaj_wit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +916
    ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าชาวพุทธเรากำลังดำเนินตามรอยที่ผิดอยู่ เบี่ยงเบนคำสอนของพระพุทธองค์ เจริญรอยตามคำสอนที่ผิดจากครูบาอาจารย์หรือสื่อที่ผิด ขาดการใคร่ครวญและใช้ปัญญา กระทำตามความหนาของกิเลสตน
     
  15. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    เพื่อ..... คนเข้าวัดแค่มาดูใจไม่ศรัทธามันก็เท่านั้น ยิ่งเป็นแบบนี้คนอื่นมีแต่เค้าจะหัวเราะดูถูกศาสนาเราเอา
     
  16. sriharaj_wit

    sriharaj_wit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +916
    ขอเสนอความเห็นครับ

    ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าชาวพุทธเรากำลังดำเนินตามรอยที่ผิดอยู่ เบี่ยงเบนคำสอนของพระพุทธองค์ เจริญรอยตามคำสอนที่ผิดจากครูบาอาจารย์หรือสื่อที่ผิด ขาดการใคร่ครวญและใช้ปัญญา กระทำตามความหนาของกิเลสตน

    เสนอถอดยศพระครูรูปนั้นดีไหมครับ แค่คำสอนก็ผิดแล้ว น่าจะมีการพิจารณานะครับ ขอฝากทางสำนักพุทธศาสนา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องครับ อย่าทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ นี่คืองานพระศาสนาที่สำคัญที่พึงจะกระทำ อย่ามัวแต่เกี่ยงกันไป เกี่ยงกันมา หรืออ้างโน่น อ้างนี่ ทำเถอะครับ เพื่อบุญกุศลอันยิ่งใหญ๋
     
  17. kosit25

    kosit25 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +438
    ไม่สนับสนุนและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
     
  18. chue27

    chue27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,358
    ผู้สร้างปรามาสพระสงฆ์กลุ่มเดียวไม่พอ ยังพาญาติโยมที่มาเห็นลงนรกไปด้วย คิดดู จะมีคนอีกเท่าไรที่มาเห็นปางนี้แล้วหัวเราะชอบใจ(ปรามาสพระอรหันต์ สาวกโดยไม่รู้ตัว) หลวงพี่เล็กท่านเคยกล่าวว่า การสร้างรูป พระพุทธ หรือพระสงฆ์ต้องระวัง ไม่ใช้สร้างตามอำเภอใจ "ท่านไม่ใช่เพื่อนเล่น"
     
  19. j-adirek

    j-adirek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +204
    สาธุครับ ทุกๆอย่างบนโลกใบนี้เปลี่ยนไปตามกาลเวลาครับ แต่สัจจะธรรมค่ำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังมิได้เสื่อมถอยไปแต่อย่างใด ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า ผู้ใดเห็นพระพุทธเจ้าผู้นั้นเห็นธรรม ผู้เข้าถึงธรรมแล้วไม่มีอะไรต้องอธิบาย ทุกๆอย่างเป็นไปตามกฏแห่งกรรมและกฏธรรมดา สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับสลายไป โลกในวัฏฏะสงสารเป็นเช่นนี้ เพราะทุกสิ่งคือธรรมชาติ ธรรมชาติคือธรรมะ ธรรมะคือธรรมชาติ อยากพ้นวัฏฏะสงสาร ก็ต้องพระนิพพานอย่างเดียวเท่านั้นครับ สาธุๆๆๆ
     
  20. mr.rojana

    mr.rojana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +64
    บ้ากันไปใหญ่แล้ว เฮ้อ...............
     

แชร์หน้านี้

Loading...