ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    ดิฉันเองอาจคิดผิดจากคนอื่นที่คิดว่าศาสนาเสื่อมลงจริงแล้วพุทธศาสนาก็ยังคงบริสุทธิ์งดงามอยู่อย่างนั้นหากคนนั่นแหละที่ไม่เข้าใจหลงผิดไปแต่เมื่อถึงเวลาที่คนๆนั้นมีบุญบารมีพอก็จะสามารถเข้าถึงได้
     
  2. mali1163

    mali1163 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +349
    ทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปี 2556 แรงทั้งภัยมนุษย์และภัยทางธรรมชาติ !!!

    [​IMG]

    "ศาสตร์แห่งโหร 2556" มอง"ไทย"ด้วย"ตาทิพย์"

    ฮือฮาทุกปี เมื่อหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร" ประจำปี ออกวางแผง ด้วยเอกลักษณ์ คือ รวมเอาโหราพยากรณ์หลายแนวไว้ด้วยกัน ทั้งโหรอาวุโสที่นุ่มลึกและคมคาย โหรแนวดุดัน ทุบโต๊ะฟันธงเปรี้ยงปร้างแบบท้าทายให้พิสูจน์ และยังเพิ่มดาวรุ่งของวงการ เข้ามาสร้างความใหม่สดตลอดเวลา

    ปีนี้ สำนักพิมพ์มติชน จะเปิดตัวหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร 2556" ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 17 วันที่ 18-28 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    "ศาสตร์แห่งโหร 2556" อัดแน่นด้วยคำทำนายจาก 11 โหรชั้นนำของเมืองไทย ประกอบด้วย หมอทรัพย์ สวนพลู, ศ. ดุสิต, โสรัจจะ นวลอยู่, พัฒนา พัฒนศิริ, กรหริศ บัวสรวง, ฟองสนาน จามรจันทร์, บุษรินทร์ ปัทมาคม, ลักษณ์ เรขานิเทศ, ขุนทอง อสุนี ณ อยุธยา, มาโนช ประภาษานนท์ และอาทิตย์ วรันธรกุล

    ลองมาชมหนังตัวอย่างกันพอหอมปากหอมคอก่อน

    โสรัจจะ นวลอยู่ เจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" พยากรณ์ไว้ว่า ปี 2556 เป็นปีมหาวิปโยค เมื่อดาวบาปเคราะห์ทั้งราหูและพระเสาร์ ร่วมผนึกกำลังเล็งลัคนาราศีเมษ ดวงกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน มีเหตุอาเภทต่างๆ เกิดการจลาจล

    บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยก ออกมาถือปืนยิงต่อสู้กันทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมือง จะก่อความ ยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา หรือต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

    "ข้อสังเกตเหตุการณ์รบกันที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประเทศไทย จึงรบกันระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชนครั้งใหญ่ที่สุด อาจต้องใช้กำลังและตำรวจเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่การ ′ปฏิวัติประชาชน′ .."

    "ต้องรบราฆ่าฟันกันในหมู่ประชาชนคนหลากสี กลายเป็นหลายฝ่ายเป็นสงครามกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก บุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย เหตุการณ์รุนแรงมหากลียุคนี้จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน"

    และเป็นอีกปี ที่โสรัจจะได้กล่าวถึง "หิมะ" ที่จะตกในประเทศไทย โดยพยากรณ์อีกว่า ปลายปี 2556 จะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าแปลกมหัศจรรย์ จะเกิด′หิมะตก′ในเมืองไทยไปทั่วภาคเหนือและอีสานบางส่วน

    ประชาชนทั้งคนไทยและทั่วโลกตื่นตกใจ เพราะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่จริงๆ แล้วในทางโหราศาสตร์ไทยถือว่าเป็นลางร้ายที่จะเกิดมหันตภัยตามมาไม่หยุดหย่อน ทั้งทางธรรมชาติ บุคคล การเมือง การปกครอง วัฒนธรรมประเพณี ความเป็นอยู่แบบไทยๆ เราก็จะเปลี่ยนแปลงไป

    โหรดังอีกคน พัฒนา พัฒนศิริ ผู้เชี่ยวชาญการวางฤกษ์ พยากรณ์ว่า ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งอุจจ์ที่ราศีมังกร ส่งกำลังจตุโกณ เข้าหาดาวเสาร์กับยังมีดาวอาทิตย์อีกดวงหนึ่ง จะเป็นดาวเคราะห์ที่จุดชนวนทำให้เกิดเรื่องขึ้น

    จากปฏิทินการโคจรของดวงดาว ปรากฏชัดเจนว่าในปี 2556 ดาวอังคารบาปเคราะห์ สีแดงหมายเลข 3 โคจรอยู่ในตำแหน่งราศีที่น่าสะพรึงกลัว จะเป็น 11 วันอันตราย ดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีตุลตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2555 ดาวราหูเข้าร่วมขบวนการกับดาวเสาร์ที่ราศีเดียวกันตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม

    ลักษณะโคจรในรูปนี้ทางโหราศาสตร์เรียกว่า "จตุโกณ" หรือเป็นมุมฉาก สามารถบ่อนทำลายล้างกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงดาวอาทิตย์ย้ายเข้าราศีมังกร ระหว่างวันที่ 14 มกราคมถึง 12 กุมภาพันธ์ 2556 โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเภทภัย เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

    พัฒนายังชี้ว่า ดาวเสาร์กับดาวราหูช่วยกันเล็งลัคนาดวงเมือง มีอิทธิพลทำให้สภาพของดวงเมืองเป็น "ดวงแตก" อาจจะมีการโยกย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อื่น อันสืบเนื่องมาจากกรณีน้ำท่วมใหญ่ ผู้คนรถรามีมากมายจนเกิดการเบียดเสียดยัดเยียด

    ถ้าชอบสวดมนต์ภาวนา ช่วงนี้จะสวดให้มากขึ้น แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ต่างๆ ด้วย กิจกรรมใดที่ตั้งอยู่บนความเสี่ยงควรงดโดยเด็ดขาด ในช่วง 10 ธันวาคม 2555 ดาวราหูบาปเคราะห์หมายเลข 8 ย้ายมาโคจรที่ราศีตุล เล็งลัคนาดวงเมือง และจะอยู่ต่อไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2557

    ขณะที่ กรหริศ บัวสรวง ผู้เชี่ยวชาญการตั้งชื่อและพยากรณ์ดวงชะตาบ้านเมือง เป็นเจ้าของเครดิตจากการ เป็นโหรคนแรกที่ทำนายล่วงหน้ากว่า 3 ปีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องลี้ภัย พยากรณ์ดวงเมืองว่า ดาวเสาร์เล็งดวงเมืองดวงโลก ในวันที่ 23 ธันวาคม 2555 จนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2557

    มีทั้งคุณและโทษที่รุนแรงต่อทั้งรัฐบาลและประชาชน จนเกิดภัยได้ เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร เกิดสัตถภัย การอาฆาตพยาบาทจองเวร จองล้าง จองผลาญ ฆ่าฟันกัน ไม่หยุดหย่อนบาดเจ็บล้มตายรุนแรงไม่มีวันเลิกรา กรหริศ พยากรณ์ต่ออีกว่า ก่อนจะถึงปี 2556 เป็นทรยุคที่แปลว่ายุคชั่ว จะเกิดทรราช ผู้ปกครองประเทศใช้อำนาจตามอำเภอใจ

    นี่คือบางส่วนของคำพยากรณ์จากหนังสือรวมคำพยากรณ์ยอดนิยม ที่ออกต่อเนื่องมาจนเป็นที่ยอมรับของผู้สนใจในศาสตร์นี้ นอกเหนือจากคำพยากรณ์ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ นัยยะของการ "เตือน" อันเป็นอีกหนึ่งสาระสำคัญของ "ศาสตร์แห่งโหร"เพื่อการก้าวไปในปี 2556 และปีต่อๆ ไป อย่างไม่ประมาทและมั่นใจ

    หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2555

    ที่มา มาแล้ว ! "ศาสตร์แห่งโหร 2556" มอง"ไทย"ด้วย"ตาทิพย์" : มติชนออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1306683836.jpg
      1306683836.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      197
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุการณ์ที่สุนทรภู่ ได้กล่าวเตือนเอาไว้นี้ อาจจะเกิดขึ้นจริงในปี 2556 นี้ก็ได้เพราะตรงกับที่พระอาจารย์รัตน์ และผู้รู้อีกหลายๆท่าน ได้ทำนายเอาไว้ครับ
     
  5. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    เห็นการสู้รบในซีเรีย คนหนีตายกันออกนอกประเทศกันวุ่นวายไปหมด สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย ขอให้คนไทยรักสามัคคีกันให้มากๆ ขอให้เชื่อในกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยพายุถล่มกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2555-2556 !!!

    [​IMG]

    ขณะนี้ท่านจะสังเกตได้ว่า โลกของเรากำลังเกิดอาการวิกฤติอยู่ 2 ประการ คือ

    1.วิกฤติด้านจิตสำนึกของมนุษย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์ด้านลบ ขับเคลื่อนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น และบกพร่องในการใช้สติปัญญามากขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง และการประพฤติผิดศีลธรรมของผู้คนในสังคมมีมากขึ้นและกระจายทั่ว เริ่มจากครอบครัวไปสู่ระดับประเทศและระดับโลก เหตุเพราะมนุษย์โลกฝักใฝ่ในธรรมน้อยลง แต่ใส่ใจใฝ่หาวัตถุเท็คโนโลยีและโภคทรัพย์ทั้งปวงกันมากขึ้น ก็ด้วยอำนาจฤทธิ์ของกิเลสตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อนนั่นเอง มนุษย์จึงใฝ่หาความรวยมากกว่าความรัก.... ใฝ่หาความสุขมากกว่าความสงบ....

    2.วิกฤติด้านดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ท่านทั้งหลายจะได้ฟังข่าวสารด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกภาคพื้นทวีปทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก แผ่นดินถล่ม อุทกภัย ไซโคลน-ทอร์นาโด และภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น สิ่งที่ท่านจะต้องสังเกตก็คือ ภัยพิบัติเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นไปทั่วทุกที่ ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นมันจะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว หรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็ตาม นอกจากนั้นภัยพิบัติเหล่านี้มันมักจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆตลอดมา...และจะเป็นเช่นนี้อีกทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปด้วย ที่สำคัญคือ โปรดระวัง!!! เหตุร้ายมันจะเกิดคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวของท่านเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว

    โดยเฉพาะในปี ค.ศ.2012 อันเป็นปีที่ภาพยนตร์ฝรั่งที่เข้ามาฉายในเมืองไทย ได้สร้างกระแส "โลกแตกฟีเวอร์" เอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา จนทำให้ผู้คนคิดไปว่า โลกจะแตกในปี ค.ศ.2012 ทั้งๆที่มันเป็นแค่เพียงภาพยนตร์ อันเกิดจากจินตนาการของผู้สร้างให้เป็นกระแสเท่านั้นเอง เรา "ในนามของจิตจักรวาล" ขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะปีไหนๆดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะไม่มีคำว่า"แตก"แน่นอน หากจะมีก็คือ มนุษย์นี่แหละที่จะ สติแตก! หากไม่มีการเตรียมตนเองและจิตวิญญาณของตนเพื่อการผจญภัยไว้เสียแต่บัดนี้....

    เตรียมอย่างไร...โอกาสต่อไปโปรดติดตาม.... ซึ่งในปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) เป็นต้นไป สิ่งที่ท่านจะต้องระวังไว้เกี่ยวกับภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นใกล้ตัวของท่าน คือ ข่าวสาร (มิใช่คำพยากรณ์) ต่อไปนี้

    สถานที่จะเกิด:

    1.กรุงเทพมหานครด้านตะวันออก
    2.สมุทรปราการ ด้านก้นอ่าวไทย
    3.ปากแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานแขวน และธนบุรีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
    4.มีนบุรีบางส่วน

    ชนิดของภัยพิบัติที่จะเกิด:

    1.พายุหมุนพัดถล่ม 1-3 ลูก ภายในวันเดียว
    2.อุทกภัยที่หนักสุดในรอบ 50 ปี

    ความเสียหายที่คาดหมาย:

    1.ตึกสูงใหญ่ถล่ม บ้านปลิว ป้ายขนาดใหญ่พัง เสาไฟฟ้าล้ม
    2.สะพานแขวนบางแห่งจะขาด หรือสะพานลอยฟ้าจะหักพังลงมา
    3.น้ำท่วมกรุงเทพฯและชานเมือง อ่าวไทยน้ำทะเลหนุนสูง
    4.ตึกบางแห่งจะถูกฟ้าผ่าจนพัง และบางแห่งไฟไหม้
    5.มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนไม่น้อย บ้างก็ไร้ที่อยู่อาศัย
    6.ไฟฟ้าดับทั่วกรุง

    ช่วงเวลาที่คาดหมายว่าจะเกิดภัยนี้:

    1. ระหว่างเดือน เมษายน - มิถุนายน 2012 (เวลาอาจถูกเลื่อนมาเกิดปี 2013)
    2. เริ่มเกิดเหตุตั้งแต่ ตี 2- ตี 4 โดยจะเริ่มรุนแรงประมาณ 6-9 โมงเช้า และให้ระวังตั้งแต่บ่ายโมงจนพลบค่ำ

    หมายเหตุ:

    เหตุการณ์นี้อาจเบาลง เลื่อนกำหนด หรือไม่เกิดขึ้น หากท่านทั้งหลายหันมาใส่ใจปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน ตามคำแนะนำของ "จิตจักรวาล" กันให้มากๆตั้งแต่บัดนี้ ทุกท่านก็ทำได้....ไม่ยากเลย... คือ

    1. รักให้ได้ (แม้เขาจะไม่น่ารักเลยก็ตาม)
    2. ให้ให้เป็น (แบ่งปัน-เสียสละ-ให้ทาน-ให้อภัยแม้กับคนที่ไม่สมควรจะให้อภัย)
    3. ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น (ทั้งกาย-วาจา-ใจ)
    4. ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต (ไม่ตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น)

    ถ่ายทอดคลื่นความคิดเป็นข่าวสารจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล : วันที่ 1 สิงหาคม 2553

    ที่มา Ntuj Txoj Kev Cawm Dim thiab Cawm Siav - Nrhiav phooj ywg , kwv tij neej tsa - HMONGzones.com : The biggest Hmong community online.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แด่ผู้เจริญธรรม !!!

    [​IMG]

    สาสน์จากแม่พระธรณีถึงลูกชาวดิน

    ลูกเอ๋ย วันนี้แม่มาเพื่อเผยแพร่ธรรมให้พวกเจ้า สิ่งเหล่านี้ แม่อยากจะบอกกล่าวถึงลูกชาวดินทุกคน แม่อยากให้เจ้าทุกคนนึกถึงความโลภ แม่อยากให้เจ้ามองฟ้า ก้มดูดิน มองฟ้าที่กำลังพิโรธ ฟ้ากำลังเปลี่ยนสี

    ฟ้าที่เคยสดใสจะกลายเป็นฟ้าที่หมองหม่น ฟ้ายามเย็นจะกลายเป็นสีเลือด ฟ้ายามเช้าจะเปลี่ยนสี น้ำที่เจ้าขังไว้จะเปลี่ยนเป็นสีข้นขุ่น นั่นแสดงถึงความพิโรธของแม่พระธรณี เสียงพ่อภูผากำลังจะแยกจากกัน เพื่อให้เจ้าเห็นผืนแผ่นดินใหม่ในพิภพที่จะรับร่างมนุษย์ทั้งหลายที่กำลังมีบาปของความโลภ ให้จมลงไป จมลงไป...

    ฟังแม่นะเจ้าชาวดิน จากนี้ไป เมื่อสิ้นเสียงของแม่ ท้องฟ้าจะปั่นป่วน แม่คงคาจะกลืนชีวิตคนแล้วคนเล่า จากที่เจ้าเคยเห็นความทับถมของซากศพ มันจะกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เจ้าเห็น ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเลือดแดงฉาน เมื่อมนุษย์ใช้อำนาจเข่นฆ่ากัน เพราะต้องการแย่งชิงอำนาจ ต้องการลาภยศสรรเสริญ และต้องการทรัพย์ศฤงคาร

    จากนี้ไปลูกเอ๋ย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าบรรดาลูกๆ นับถือมา เรียกร้องไว้ จะถูกทำลายจากเจ้าพวกโจร โจรที่ต้องการผลประโยชน์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การตัดเศียรพระพุทธรูป การเข่นฆ่าผู้ถือศีล การค้าในวัด การที่ทำอะไรก็แล้วแต่ เพื่อได้มาด้วยความฉ้อฉล ด้วยความหลอกลวง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งบอกเหตุว่าพวกโจรจะกลัวกรรม แต่พวกโจรจะมองเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นทรัพย์ศฤงคาร โดยไม่นึกถึงเคราะห์กรรมต่างๆ แต่เหล่าโจรจะนึกถึงความมั่งมี ความต้องการจะเสวยความสุข ลาภยศที่ต้องได้มาจากเงินทอง โจรจะเลิกกลัวกรรม โจรจะไม่กลัวบาป แต่เหล่าโจรจะกลัวอย่างเดียว กลัวการไม่มีหน้ามีตาในสังคม กลัวการไม่มีทรัพย์ศฤงคารจับจ่าย

    แม่อยากจะถามลูกชาวดินทั้งหลาย เจ้าจะปล่อยให้สังคมนี้เป็นอย่างนี้เชียวหรือ แม่วอนขอให้ลูกชาวดินทั้งหลาย อย่าเห็นแก่ความโลภ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าผลักไสผู้ที่มาอาศัยธรรมะ อย่าเห็นแก่ทรัพย์ศฤงคารเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต จงเห็นธรรมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เจ้าอยู่รอดในยามวิกฤต และผ่านพ้นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเจ้า ณ ชีวิตวันนี้ด้วย

    แม่อยากจะบอกเจ้านะลูกชาวดินเอ๋ย เมื่อเจ้าหิว เจ้าจงกินเข้าไปเพื่อร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเจ้าอยากได้ความสุข เจ้าจงแสวงหาความสุขที่ไม่อยู่บนความทุกข์ของผู้ใด เมื่อเจ้าโหยหาธรรมะ เจ้าจงแสวงหาสิ่งที่เป็นสัจธรรมโดยแท้จริง สิ่งที่เป็นสัจธรรมไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมนะลูกนะ มันอยู่ข้างกายเจ้า มันอยู่ในใจเจ้า มันอยู่ในความคิดเจ้า เจ้าจงเรียกหาออกมาเมื่อเจ้าต้องการ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อเจ้าตัดสามสิ่งนี้ออกจากใจเจ้า เจ้าจะพบสัจธรรมที่แท้จริง

    เมื่อเจ้าลืมตาขึ้นมาเห็นแสงอาทิตย์ เจ้าคิดจะทำอะไรเล่าลูกเอ๋ย เมื่อเจ้าลืมตาขึ้นมาในเส้นทางของมนุษย์ สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทั้งหลายคิดเช่นเดียวกัน ความคิดที่จะโกงเขาใช่ไหม ความคิดที่จะเอาเปรียบเขาใช่ไหม ความคิดที่เจ้าจะทำร้ายคนอื่นใช่ไหม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วลูกเอ๋ย แม่อยากให้เจ้ายอมรับ นี่คือกรรมที่ยิ่งใหญ่ กรรมชั่วที่จะติดตามเจ้ามา เมื่อชีวิตเจ้าถูกเปิดขึ้นในแต่ละวัน

    แต่กรรมดี ใยเจ้าไม่คิดจะทำ เมื่อเจ้าทำกรรมดี กรรมนั้นก็สามารถที่จะดับพิโรธของแม่ฟ้า ดับพิโรธของแม่พระธรณี ดับพิโรธของพ่อภูผา ดับความกริ้วโกรธของแม่คงคา ต่อจากปีนี้ไป มนุษย์ เจ้าจงฟังแม่พูดไว้ มนุษย์ผู้มีอำนาจ มนุษย์ผู้มีเงินตรา จะหมดไปจากสังคมโลกของเจ้า ทุกคนจะต้องตายด้วยความโลภ จะต้องตายด้วยการเข่นฆ่ากัน การแสวงหาอำนาจจะนำมาซึ่งความสูญเสีย

    จำไว้นะลูกชาวดิน เหมืองทองทั้งหลายที่แม่เคยให้สัจจะเจ้าไว้ จะไม่ถูกเปิดเลยแม้แต่แห่งเดียว เพราะความโลภกำลังครอบงำลูกชาวดินของแม่ สมบัติแม่พระธรณีจะไม่ให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่ยอมก้มหัวให้กันและกัน ยังไม่ยอมละทิ้งความโลภ ยังไม่กล่าวคำว่าขอโทษซึ่งกันและกัน พ่อภูผาจะเกิดขึ้นมาเพื่อพิพากษาเจ้า แม่คงคาจะม้วนตัวกลับ กลืนชีวิตของพวกเจ้าไป และ ณ บัดนี้ แม่พระธรณีจะแยกร่างเพื่อรับร่างเจ้าให้หายลงไป เพื่อที่จะกลบร่างเจ้าให้หมดไปจากโลกนี้ ให้ฝังความโลภ ความเย่อหยิ่ง ความจองหอง เหลือเพียงความร่ำไห้ ความร้องหาจากกัน

    จากนี้ไป ศตวรรษจะถูกเปลี่ยน ลูกจะต้องเผาแม่ก่อน แม่จะลืมลูก มนุษย์จะฆ่ากันไม่เว้นพี่น้อง แม่ผู้ให้กำเนิดบุตร จะฆ่าเลือดเนื้อตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างตัดสินด้วยเลือด จำไว้นะลูกชาวดิน จากนี้ไป แม่พระธรณีจะมาพิพากษาเจ้า ทั้งเจ้าที่มีชีวิตอยู่บนโลก และเจ้าที่ชีวิตตายไปจากผืนโลกนี้แล้ว สักวันหนึ่ง แม่จะกลับมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย เพื่อให้ร่างที่แม่บอก “เจ้าจงฝังร่างไว้” กลับเป็นขึ้นมารับคำพิพากษาจากแม่ นี่คือสิ่งที่เป็นสัจธรรม นะลูกนะ

    และจากนี้ไป พ่อบนฟ้าจะไม่ประทานน้ำให้เจ้า ชีวิตมนุษย์จะเหี่ยวแห้งจากการขาดน้ำ สัตว์ที่มีชีวิตจะยืนตาย เพราะการไม่มีน้ำดำรงชีพ พืชผักทุกอย่างจะต้องยืนตายเหี่ยวเฉา เพราะพ่อบนฟ้าเจ้าจะเกิดการพิโรธมนุษย์เป็นการใหญ่ เพราะฝีมือมนุษย์ที่สร้างขึ้นเอง จำไว้นะลูกชาวดิน จากนี้ไป เพราะความแห้งแล้ง แม่จะแตกแยกจากพื้นแผ่นดิน เจ้าจะเห็นรอยแยกจากแผ่นดิน นั่นคือสิ่งเตือนภัยว่ามนุษย์กำลังจะอดตาย จากการที่แม่แยกร่างออกจากกัน

    จำไว้นะลูกนะ สัจธรรมของแม่ต้องใช้ความคิดรอบคอบไตร่ตรอง สัจธรรมของแม่คือสมาธิที่เจ้าต้องทำ แล้วเจ้าจะได้สัจธรรมที่แท้จริง สัจธรรมของแม่คือสิ่งที่บอกเจ้าว่า จากนี้ไป มนุษย์ต้องแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า และก้มลงกราบดิน มนุษย์ ถึงจะมีชีวิตรอดได้ในยุคนี้นะลูกนะ

    สาส์นจากแม่พระธรณีถึงผู้มีอำนาจ

    ถึงผู้มีอำนาจ...เมื่อเจ้านั่งอยู่ในเก้าอี้ผู้ได้รับการแต่งตั้ง ผู้ได้รับการยกย่อง พวกเจ้าก็คือผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมมนุษย์ เมื่อใดก็ตามมนุษย์ถูกยกย่องให้เป็นผู้นำ เมื่อนั้นเจ้าจะนึกถึงอำนาจ อำนาจคือกิเลสที่หนา อำนาจคือสิ่งที่ทำให้หนทางสว่างขึ้น อำนาจคือสิ่งที่ทำให้พวกเจ้าได้รับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เจ้ารู้มั้ย เมื่อเจ้าอยู่ในอำนาจที่ผิดๆ อำนาจนั้นมันจะนำความฉิบหายมาสู่เกียรติยศ ครอบครัว ความมีหน้ามีตาในสังคม

    เราอยากจะบอกเจ้าว่า อำนาจที่แท้จริงที่เจ้าควรแสวงหานั้น คืออำนาจที่อยู่เหนือจิตใจมนุษย์ อำนาจที่อยู่ในศีลในธรรม อำนาจที่ไม่โลภ มนุษย์ยังต้องการความโลภ แต่ความโลภนั้นสามารถจำกัดได้ด้วยความเพียงพอ คำว่าเพียงพอนั้นทำให้มนุษย์อยู่เย็นเป็นสุข มนุษย์ไม่แย่งชิงกัน มนุษย์ไม่ฆ่ากัน มนุษย์มีความเพียงพอทุกอย่างด้วยสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือธรรมะในใจ แต่ปัจจุบัน กลับเป็นโลกแห่งการแย่งชิง โลกแห่งการฆ่าเข่น โลกแห่งการช่วงชิงอำนาจ

    จากนี้ไป จำคำเราไว้นะลูกทั้งหลาย น้ำแข็งจะกลายเป็นน้ำ น้ำจะกลายเป็นเลือด สิ่งที่อยู่ธรณีจะแยกจากกัน นำชีวิตมนุษย์ลงสู่ใต้ธรณี แม่คงคาจะม้วนตัวกลับขึ้นมาเพื่อพิพากษาความโลภของมนุษย์ พ่อภูผาจะแยกจากกัน เพื่อทำให้มนุษย์ที่อยากจะมีอำนาจ ที่อยากจะสะสมความโลภถูกกลืนหายไป จากนั้น แม่พระธรณีจะยิ่งใหญ่ขึ้นมา ปิดร่างมนุษย์ทุกคนที่ยังมีความโลภ

    หยุดเถอะลูกเอ๋ย หยุดนะเจ้าทั้งหลาย หยุดความโลภ ความเย่อหยิ่งจองหอง ความอวดตัว จงอ่อนน้อมถ่อมตน จงลดตัวลงเพื่อให้เสมอเพียงดิน จากนั้นสิ่งที่เจ้าเพียงพอ ฟ้าจะเห็น ดินจะยอมรับ สิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน จะแซ่ซ้องสรรเสริญผู้มีอำนาจที่รู้จักใช้อำนาจในทางที่ถูก ธรรมะย่อมอยู่เหนืออธรรม เป็นสัจธรรมที่แท้จริง ไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะละคำนี้ไปได้

    จำไว้นะลูกทั้งหลายที่มีอำนาจ อย่าเอาอำนาจของเจ้าไปใช้ในทางฆ่ามนุษย์ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ผู้มนุษย์ที่เจริญแล้ว จงทำสิ่งที่เราจะให้บัดนี้ จงเพียงพอในลาภยศ จงเพียงพอในสิ่งที่มนุษย์สรรเสริญ จงเพียงพอในฐานะทรัพย์ศฤงคาร แล้วเจ้าจะมีสุขนะลูกนะ

    สาส์นจากแม่พระธรณีถึงสมณะชีพราหมณ์

    แด่ผู้เจริญธรรม คำนี้เป็นคำที่เราจะส่งสาส์นถึงเจ้า ให้เจ้าได้รับรู้ถึงมนุษย์ที่แท้จริง ณ วันนี้ โลกมนุษย์เต็มไปด้วยสิ่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่มีความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ในยุคแห่งมนุษย์กินมนุษย์ สัตว์กินสัตว์ พืชกินพืช แต่ใยเล่าเจ้าผู้เจริญในธรรมถึงมิได้แบ่งปันทานบารมีให้กับเหล่ามนุษย์ ผู้โหยหาสิ่งที่เรียกว่าธรรมะด้วยความถ่องแท้ ธรรมะแห่งใจ ขึ้นอยู่กับผู้ให้

    จิตใจผู้เจริญธรรมทั้งหลายย่อมต้องเสียสละ ย่อมต้องรู้จักการให้ เมื่อเจ้าให้ทานบารมีโดยไม่คิดตอบแทน สิ่งที่เจ้าจะได้รับ การยอมรับจากเทพ การยอมรับจากฟ้า การยอมรับจากดิน นั่นคือสิ่งที่เจ้าจะได้รับ เมื่อเจ้าเปิดใจรับธรรมะที่แท้จริง

    ธรรมะที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่คนกราบคนไหว้ ธรรมะที่แท้จริง อยู่ตรงที่ความศรัทธา ความเชื่อมั่น การให้อภัย การช่วยเหลือ นั่นคือ ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงให้ตั้งแต่บรรพกาล เราคิดว่าเจ้าผู้เจริญในธรรม คงไม่ลบคำพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ตรัสว่า มนุษย์ผู้ที่เจริญธรรมด้วยใจ ย่อมเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ แต่ถ้าเจ้าเป็นผู้เจริญธรรมในเรื่องของสิ่งที่ต้องการแสวงหาอำนาจ แสวงหาการยอมรับนับถือ เจ้าจะได้รับแค่คำกราบไหว้ เจ้าจะมีใจหม่นหมองยึดต่อทรัพย์สินสมบัติ นั่นคือหนทางพาไปสู่ความฉิบหายของธรรมะ

    สมเด็จแม่พระธรณีคือผู้ให้ธรรมะ สิ่งหนึ่งเราจะฝากเจ้าไว้ ฟ้าลิขิตดิน ดินให้ชีวิตมนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ลบหลู่ดิน ตราบนั้นมนุษย์จะถูกฝังใต้ธรณี

    แด่ผู้เจริญธรรม

    ที่มา Ntuj Txoj Kev Cawm Dim thiab Cawm Siav - Nrhiav phooj ywg , kwv tij neej tsa - HMONGzones.com : The biggest Hmong community online.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 96.jpg
      96.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      190
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  8. วิญญ์ ชวาทิต

    วิญญ์ ชวาทิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +490
    ลางสังหรณ์ กับ ญาณหยั่งรู้อนาคต ตอบโดยคุณ ดังตฤณ

    Uploaded by pongpetch on Sep 30, 2009

    คุณดังตฤณ ตอบคำถามในการบรรยายธรรมที่ สำนักงานศาลปกครอง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552

    <iframe width="640" height="480" src="http://www.youtube-nocookie.com/embed/-pQzsEXP8cA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  9. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
     
  10. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ต่ออีกหน่อยนะคะ ขอออกตัวว่า ไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดหรอกนะคะ:d เพราะที่คุณพูดมามันเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นการติเพื่อก่อ ดิฉันเองก็อยากให้วงการธรณีวิทยาในประเทศไทยก้าวหน้าไปมากกว่านี้เหมือนกัน แต่บางเรื่องที่เขาก้าวหน้า เราก็อาจมองไม่เห็นนะคะ เพราะมันไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่ว่าเรื่องอุตุเนี่ย เกี่ยวกับชาวบ้านอย่างเราๆโดยตรงเลย :cool:
    สำหรับการ present เกี่ยวงานธรณี มันก็ดูน่าเบื่อจริงๆ สมัยที่เรียนเวลาสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่ต้อง present งาน ให้เด็กๆมาดู ยังไม่รู้จะเลือกเรื่องอะไรมาทำให้เด็กสนใจ ดีหน่อยที่ช่วงนั้น Jurassic Park กำลังดัง ก็เลยได้อาศัยเกาะกระแสไดโนเสาร์ งานด้านธรณีที่น่าสนใจจะอยู่ที่ภาคสนามมากกว่า คือการไปออก field เก็บตัวอย่างหิน เพื่อหาแหล่งแร่ หรือเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม หรือค้นหาซากฟอสซิล หลังจากกลับมาวิเคราะห์แล้ว งานค่อนข้างน่าเบื่อ ก็เหมือนสายวิทย์ทั้งหลาย ที่ต้องมาอ่านหนังสือ ส่องกล้อง ทำแผนที่ วิเคราะห์(บ้าง) ก็ค่อนข้างน่าเบื่อค่ะ ไม่ค่อยมีเครื่องมืออะไรหลากหลายเท่าไหร่ เครื่องมือที่จะต้องเอามาโชว์ก็ไม่มี เพราะเครื่องมือบางอย่างก็ specificial มากๆ (ขอโทษด้วยนะคะ ตกอังกฤษค่ะ) เอาเป็นว่าพิเศษมากๆ ที่คณะไม่มีหรอกค่ะ เวลาเรียนบางที เราก็ไปขอดูตามบริษัทเอกชน หรือที่การไฟฟ้าค่ะ
    เรื่องภัยพิบัติ ก็ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับสาขาธรณีมากกว่าสาขาอื่นนะคะ ธรณี พื้นดิน พื้นผิวโลกก็คือ อย่างเดียวกัน ปรากฎการณ์อะไร ที่เกี่ยวกับโลก เกิดขึ้นเพราะโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสาเหตุจากภายในโลกเองหรืออื่นๆ กับจักรวาลก็เกี่ยว เพราะมีความสัมพันธ์ แต่ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติมนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่กว้างมากๆ จะว่าไปการเรียนธรณี ก็คล้ายกับการเรียนแพทย์ คือต้องอาศัยการวินิจฉัย การคาดเดา ตามทฤษฎีที่เรียนมา ซึ่งก็อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เพราะไม่ได้เห็นของจริง ยกตัวอย่างเช่นการหาแร่ เราก็ต้องไปเก็บตัวอย่างหินก่อน นำไปวิเคราะห์ ถ้าพบแร่ที่ต้องการ ก็ทำ map ทำ profile อ้อ มีการเจาะด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็น 3 มิติ แล้วก็ทำ cross section ซึ่งก็ต้องคาดเดาจากข้อมูลว่าจะมีสินแร่ในลักษณะอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ เป็นการคาดเดาซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ตอนที่ทำงานใหม่ๆได้ทำงานกับฝรั่งท่านหนึ่ง ท่านเคยทำ cross section (ภาคตัดขวาง) ของพื้นที่ให้ดู ก็ อุ้ย คิดได้ไง เราพึ่งเรียนจบ เอาวิชามาใช้ไม่เป็นท่าเลย อิ อิ
    แต่ว่าตอนนี้เกือบลืมไปหมดแล้ว เพราะไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สรุปคำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของโลก ปี 2551-2560 !!!

    [​IMG]

    คำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของโลก ในปี 2551-2560 ของบรรดาครูบาอาจารย์ โหรสำนักต่างๆ และอาจารย์ในทางวิชาโหราศาสตร์

    1. ในปี 2560 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    1.1 อุกกาบาตถล่มโลก

    จากคำทำนายของครูบาอาจารย์บางท่านว่า อุกกาบาตลูกใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 กิโลเมตร อาจจะเข้ามาชนโลกในปี 2560 ได้ ภาพหายนะดังกล่าวยังมีอยู่ อุกกาบาตลูกนี้ เดินทางมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อวินาที หรือมีความเร็วเท่ากับ 360,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ฟิสิกส์คำนวณว่า น่าจะมีอำนาจทำลายล้าง เท่ากับระเบิดปรมาณูที่สหรัฐอเมริกานำไปถล่มที่เกาะฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 จำนวน 80,000 ลูกรวมกัน

    ซึ่งคาดหมายว่า จะมีคนตายรวมกันครั้งเดียวไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านคน จากนั้นแรงสั่งสะเทือนเลื่อนลั่นดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลก รวมทั้งคลื่นยักษ์สึนามิ ก็จะมีติดตามมา อันเป็นความเชื่อว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ทั่วโลก อาจถึงขนาดเข้าสู่ยุคสมัยโนอาร์ใหม่ ต่างกันตรงที่มิใช่พระผู้เป็นเจ้าหลั่งน้ำตา 40 วันติดต่อกันเท่านั้น สภาพภูมิศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป พื้นดินหลายส่วน บางส่วนจะโผล่จากพื้นใต้น้ำมาเป็นผืนแผ่นดินใหม่ มีชื่อว่า เกาะแอตแลนติส เป็นต้น

    สำหรับแนวที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดที่จะติดตามมา หรือบริเวณ “ริง ออฟ ไฟร์” หรือ วงแหวนแห่งไฟ ซึ่งจะเกิดตั้งแต่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไปถึงลอสแองเจลลิส ซานฟรานซิสโกและหลาย ๆ มลรัฐในสหรัฐอเมริกา จะเกิดการประทุอย่างรุนแรงของลาวาร้อนใต้พิภพพุ่งขึ้นมาสู่ผิวโลก สร้างหายนะครั้งใหญ่

    ผลพวงที่จะติดตามมาก็คือ ความอดอยากหิวโหย และความแร้นแค้นเป็นมหาทุพภิกภัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก บรรยากาศของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า “เดอะ เกรท คิง ออฟ เทอร์-เรอร์” ก็จะเกิดขึ้น คือ บางแห่งที่หนาวก็จะหนาวจัด บางแห่งที่ร้อนก็จะร้อนจัด ที่เคยร้อนก็อาจกลายเป็นหนาว

    พืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกทำลายไปเป็นส่วนมาก การทำสงครามแย่งชิงอาหารจะเกิดขึ้น โรคระบาดร้ายแรงก็จะติดตามมา และเชื่อว่า ในประเทศไทย จะได้เห็นหิมะของจริงตก ไม่เกินปี 2560 อย่างไรก็ตามให้ฟังข่าวจากต่างประเทศให้ดี จะมีการประกาศเขตหายนะในหลายจังหวัดของประเทศไทย และในหลาย ๆ มลรัฐของสหรัฐอเมริกา และหลายพื้นที่ของโลก ซึ่งยังไม่ถึงระดับร้ายแรงของโลกเป็นระดับร้ายแรงของแต่ละชาติ เป็นเพียงการเตือนของธรรมชาติและจักรวาลเท่านั้น

    1.2 สงครามอาร์มาเกดดอน

    - สงครามอาร์มาเกดดอน เป็นเนื้อหาที่มีการจารึกอยู่ในพระคัมภีร์เก่าของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ (โอลด์ เทสเม้นท์) โดยศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ 7 ประการ หากมีเมื่อไร ให้มนุษยชาติจงรับรู้ เถิดว่าความฉิบหายวิบัติ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกของเราแล้ว โดยในพระคัมภีร์เก่าเรียกว่า สงครามล้างโลก

    เหตุการณ์ทั้ง 7 ประการ จะเกิดก่อนมีสงครามล้างโลกนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้แก่

    1. มีการอาศัยศาสนาเป็นเครื่องหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนมาก
    2. มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในหลายๆ แห่งของโลก
    3. มีการเกิดสงครามระหว่างประเทศในหลายๆประเทศ
    4. เกิดสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
    5. มีแผ่นดินไหวหลายแห่ง
    6. มีความวิปริตผันแปรทางธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า
    7. เกิดเชื้อโรคร้ายแรงระบาด รักษาไม่หายขาด

    - ณ บริเวณละติจูด 45 องศา จะกลายเป็นทะเลเพลิง ซึ่งหลายคนเชื่อว่า หมายถึง มหานครนิวยอร์ค จะเป็นสัญญาณให้ทราบว่าก่อนการเกิดสงครามอาร์มาเกดดอน รวมทั้งประเทศอาเจนติน่า จะถูกรุกราน เพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารใหญ่ของอเมริกาใต้ ยุโรปจะมีปัญหาวิกฤต สหรัฐจะรวมจาไมก้า คิวบา ไฮติ และเม็กซิโก เข้าเป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา กองเรือของสหรัฐอเมริกาจะถูกทำลาย รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ เช่น อิสราเอล ตุรกี จะย่อยยับ แอฟริกาจะอดอยากแร้นแค้นมากขึ้น จีนจะรุกรานเวียตนาม ญี่ปุ่นจะมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก (ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ บางเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่อีกหลายเหตุการณ์ยังไม่เกิด คาดว่าจะเกิดครบ น่าจะเกิดครบในปี 2017 หรือ ปี 2560 โปรดเก็บเอกสารนี้ ไว้ตรวจสอบ)

    1.3. แกนโลกเคลื่อนที่

    - ถ้าเราได้ข่าวว่าแกนโลกเคลื่อนที่ หรือเอียงไปจากองศาเดิม 23.5˚ เมื่อนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติอย่างสำคัญ และจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร พื้นแผ่นดินที่เราอยู่อาศัยในปัจจุบันอาจยุบตัวลงประมาณ 9 เมตร น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกจะหลอมละลายผิดปกติ ปริมาณน้ำในทะเลและมหาสมุทรจะเพิ่มมากขึ้นจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่ของเกาะอังกฤษ และญี่ปุ่นจะจมอยู่ใต้น้ำ ยุโรปตอนเหนือจะถูกน้ำท่วมหนัก ชายฝั่งด้านตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจะจมอยู่ใต้น้ำเช่นเดียวกัน แต่นอกฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ จะมีแผ่นดินใหม่ชื่อว่า แอตแลนติสโผล่ขึ้นมา และมนุษย์จะได้พบ “แคปซูลเวลา” ที่เกาะแอตแลนติส ซึ่งบรรจุเรื่องราวของประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่แตกต่างไปจากที่เราได้เคยรับการอบรมสั่งสอนกันมา

    - การเอียงของแกนโลก จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มีผลทำให้ลอสแองเจลลีส ซานฟรานซิสโก และแมนฮัตตันพังทลายพร้อม ๆ กับนิวยอร์ค จะมีการระเบิดของภูเขาไฟมากมายติดตามมา เป็นยุคที่เอ็ดการ์ เคย์ซี เรียกว่า “ยุคแห่งบาดแผลอันยิ่งใหญ่” แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้น เอ็ดการ์ เคย์ซี ไม่สามารถระบุได้ เพียงแต่เห็นในภาพนิมิตเท่านั้น แต่หลายท่านคาดว่าน่าจะเกิดในปี 2017 หรือปี พ.ศ. 2560

    - หลังจากผ่านยุคบาดแผลอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็จะมีการกลับมาใหม่อีกครั้งของพระคริสต์ ผู้นำแสงสว่างแห่งยุคใหม่มาสู่มวลมนุษยชาติ จะเป็นยุคของการมีสันติภาพ และมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและจิตวิญญาณไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดราวปี 2019 (พ.ศ. 2562) นั่นก็หมายความว่า มนุษยชาติในยุคต่อไป ยังคงมีอยู่ และไม่เพียงเจริญทางด้านวัตถุเท่านั้น จิตวิญญาณก็มีพัฒนาการที่ดีด้วย

    2. ในระหว่างปี 2551-2560 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    2.1 นักพยากรณ์ชาวรัสเซีย ทำนายว่า แกนของโลกจะเอียงลาดไปอีก 30 องศา และเอียงอย่างปัจจุบันทันด่วน มีผลทำให้คาบสมุทรสแกนดิเนเวียทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ อังกฤษและญี่ปุ่น หายไปจากแผนที่โลก โดยโลกรอดพ้นหายนะครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้หายนะลดลง

    2.2 นักพยากรณ์ชาวโปรตุเกส ทำนายว่า ประชากรของโลกจะถูกทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์ และหายนะจากสิ่งแวดล้อม เมืองทั้งหลายจะถูกทลายราบเป็นหน้ากลอง โลกทั้งโลกจะตกอยู่ในทะเลเพลิง

    2.3 นักพยากรณ์ชาวอินเดีย ทำนายว่า จะมีเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดภัยธรรมชาติ และวิบัติภัยจากการกระทำของ มนุษย์ อุทกภัยที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 5,000 ปี จะมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และมีการใช้นิวเคลียร์ถล่มเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว นิวยอร์ค ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลลีส และบอมเบย์ จะถูกทำลาย คนในเมืองเหล่านี้ตายเกือบหมด

    2.4 นักพยากรณ์ชาวอเมริกัน ทำนายว่า แกนโลกจะเอียงจากปัจจุบัน 23.5 องศา ไปเป็น 45 องศา จะทำให้สหรัฐอเมริกาพบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด มีคลื่นยักษ์สึนามิ แผ่นดินไหว และพายุเฮอริเคน จะมีความปั่นป่วนทางการเมือง และทุพภิกขภัย ไปทั่วสหรัฐอเมริกา อันเป็นหายนะที่หนักที่สุดตั้งแต่มีประเทศสหรัฐอเมริกามา

    2.5 โหรชื่อดังชาวอเมริกัน ทำนายว่า แอนตี้ไครสต์จะปรากฏตัวในปี 2008 และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ห้วงแห่งทุกข์เข็ญ” ระหว่างปี 2008 – 2015 (ปี พ.ศ. 2551 – 2558)

    2.6 นักพยากรณ์เรื่องของโลก บางท่านทำนายแตกต่างออกไปว่า

    2.6.1 โลกจะพบความวิบัติอย่างวินาศสันตะโร เมื่อประชากรโลกมีครบ 6,660 ล้านคน

    2.6.2 น้ำแข็งในขั้วโลกใต้แตกตัวและละลาย มีผลทำให้แกนโลกเปลี่ยนแปลง น้ำแข็งและน้ำเย็นจำนวนล้านล้านตัน จะแผ่กระจายไปทั่วโลก แม้ดินแดนทะเลทรายที่อิยิปต์ ก็มีน้ำท่วมถึงกึ่งกลางปิรามิด ประมาณปี พ.ศ. 2551-2560

    ที่มา buddha-dhamma.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • abyss.jpg
      abyss.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      1,281
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  12. อนุรุทธ

    อนุรุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +911
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รักษาศีล 5"แล้วจะได้อะไรและมีผลอย่างไร ?

    [​IMG]

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    แก่นธรรม 3

    เมื่อผ่านในเรื่องศีล 5-ศีล 8-กรรมบถ 10.จิตจะนำทำเองในเรื่องของการ"พิจารณา" จากการพิจารณาจะถูกยกระดับเป็น "วิปัสสนา".เพราะวิปัสสนาละเอียดกว่าการพิจารณา..ในเบื้องต้น ๆ..จิตจะวิปัสสนาในเรื่องของศีลก่อนคือ

    ศีล 5. การรักษาศีล 5 ได้อะไร มีผลอย่างไร?

    .............ในศีลข้อที่ 1...............

    ..ห้ามฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์."สัตว์ในที่นี้คือ"สัตว์โลก"ไม่ใช่เพียงสัตว์เดรัจฉานแต่เพียงอย่างเดียว.รวมถึงคนด้วย จิตวิปัสนามองเห็นว่า...
    "ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ฆ่าคน ไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่ทำร้ายคน ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่เบียดเบียนคน ในทุก ๆ วิธีและรวมถึง ไม่ฆ่าตนเอง ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่ทำร้ายตนเองด้วยในทุกวิธี....

    ..รักษาศีลข้อ 1.ได้อะไร...จิตของตนเองจะบอกว่า "ได้ความสุขใจ"ในเรื่อง
    เห็นตนเองมีความสุขกาย คนอื่นมีความสุขกาย สัตว์มีความสุขกาย....
    ..รักษาศีลข้อ 1.ได้เห็นผลแล้วว่าดีอย่างไร แล้วเราได้อะไรจากการรักษาศีลข้อที่ 1 ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมที่สมเด็จตรัสไว้แล้ว....

    ....ผลที่ได้รับจากการรักษาศีลข้อที่ 1.ได้บุญบารมีดังนี้.(ทางธรรม)
    ก.ได้ พรหมวิหารสี่ เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา.
    ข.ได้ บารมีในทัศ เมตตาบารมี.ได้วิริยะบารมี ได้สัจจะบารมี ได้อุบกขาบารมี
    ได้ปัญญาบารมี ได้ขันติบารมี ได้ศีลบารมี.ได้ละสังโยชน์ 10 ในข้อ 2- 3 เพราะเชื่อและรักพระพุทธเจ้า จึงรักษาศีล-ไม่ลังเลสงสัยในการรักษาศีล. ในเบื้องต้น....
    ค.อานิสงฆ์ผลของการปฎิบัติ.ในศีลข้อที่ 1.ได้ผลในทางโลกดังนี้.
    ค.1.จิตมีความสุข (สวรรค์ในอก)จิตไม่ป่วยเอื้อมาที่กายเนื้อเรา โดยที่กายเนื้อ ไม่เจ็บป่วย.มีสุขภาพแข็งแรง.ผิวพรรณผ่องใส.ดูอ่อนเยาว์.มีอายุยืน.
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 2...............

    ..ไม่ลักทรัพย์ ไม่ฉ้อโกง ไม่ทุจริต ไม่เอาเปรียบ.(อทินา)(ทานาคือ ทาน) เมื่อไม่ลักแล้วยังให้ทาน. ให้ทานเพื่อหวังรวย ถูกหวย หรือให้ทานเพื่อลดความโลภในจิตตน.จิตวิปัสนามองเห็นผลเพิ่มขึ้นอีกในศีลข้อนี้คือ.
    ให้ทานเพื่อลดความโลภของตน แถมช่วยคนอื่นที่ยังลำบากให้มีชีวิตดีขึ้นในระดับนึง หรือช่วยสัตว์ที่กำลังหิวให้อิ่มอีกมื้อนึง ยืดอายุไปได้ในระดับนึง.

    ...ได้อะไรจากศีลข้อ 2.ควบศีลข้อที่ 1...ทางธรรม.ได้ บารมีในทัศ ทานบารมี ได้เมตตาบารมี ได้วิริยะบารมี ได้ขันติบารมี ได้อุเบกขาบารมี ได้ปัญญาบารมี ได้อธิษฐานบารมี ได้ขันติบารมี.ได้ละความโลภ.ทางโลกได้อะไร..ได้ความสุขใจ ปลื้มปิติ ไม่ยากจนขัดสน (ยิ่งให้ยิ่งได้)ได้ความสะดวกราบรื่น คล่องตัว.เป็นเศรษฐีย่อย ๆ เพราะรวยบุญทานใช่บ้านโต...และที่พิเศษ ทรัพย์ที่ได้มา เงินที่ได้มา เก็บอยู่ ทรัพย์สินไม่เสียหายจากน้ำมือมนุษย์ เช่น ถูกปล้น ถูกโกง หรือเสียหายจากภัยธรรมชาติทั้ง 4.ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำท่วม.และจากสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 3...............

    ..ไม่ประพฤติผิดในกาม..หมายถึง รูป-รส-กลิ่น-เสียง-อารมณ์ (เกือบไม่เห็นในตำรา เพราะถูกตัดออกไป)...

    ..ศีลข้อ 3.นี่สำคัญมาก ๆ เพราะเป็นศีลข้อที่ บวชจิตให้จิตเป็นพระ บวชกายให้กายเป็นพระ และบวชจิตบวชกาย ให้จิตและกายเป็นพระ.หรือเนกขัมมะ สำรวม กาย วาจา ใจด้วยนั่นเอง.ศีลข้อนี้ จิตมองเห็นว่า ไม่ใช่เพียงแต่ละเมิดใน สามี-ภรรยา ของผู้อื่นเท่านั้น รวมถึงละเมิดในบุตร หลาน พี่ น้อง ของผู้อื่นด้วย และการไม่สำรวมในกาย วาจา ใจ ด้วย ทางกาย ใส่สายเดี่ยว ขาสั้น ก็ทำให้ศีลข้อนี้ขาดได้แล้ว.เพราะเป็นการ ยั่วยวน ยั่วยุให้ผู้อื่นเกิดกามราคะ กามกำหนัด.นุ่งน้อยห่มน้อย อย่างการประกวดนางงามทั้งหลายก็ใช่ด้วย.(นางงามตกนรก).บางท่านอาจเคยได้ยิน.

    ..ได้อะไรจากศีลข้อสาม ควบ ศ๊ลข้อ 1-2..ทางธรรม.ได้ เมตตาบารมี ทานบารมี ศีลบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี เนกขัมมะบารมี อุเบกขาบารมี ปัญญาบารมี อธิษฐานบารมี สัจจะบารมี.ได้ละสังโยชน์ 10 ใน 7 ข้อแรกเป็นเบื้องต้น พรหมวิหารสี่เข้มขึ้น. วิปัสนาธรรมได้เร็วขึ้น.รักษากรรมบถ 10 ได้เข้มและมั่นคงขึ้นอีก.

    ..ทางโลกได้..ไม่มีใครมาแย่งของของเรา บุตรหลานว่าง่าย สอนง่าย อยู่ในโอวาท.ปกครองบริวารได้ง่าย..อยากได้อะไรก็ได้ง่าย ๆ ราบรื่นดีดั่งใจนึก..
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 4...............

    ศีลข้อที่ 4.สำคัญมาก ๆ เช่นกัน.คนเราจะปฏิบัติธรรมให้ได้ผล หรือไม่ได้ผลก็ขึ้นกับศีลข้อนี้ด้วย.ทำจริง หรือโกหก จริงใจหรือไม่จริงใจ.
    ศีลข้อที่ 4. ไม่พูดโกหก ไม่พูดเพ้อเจอเหลวไหลไร้สาระ ไม่พูดคำหยาบ.ไม่นินทา แถม ใส่ความให้ร้ายผู้อื่น..

    ..ศีลข้อนี้ทางธรรมอานิสงค์สูงมาก.คือ.ทางธรรม.
    1.ได้รักษากรรมบถ 10 ใน"วจีกรรม 4".(มีกำลังตั้ง 4).กายกรรมยังมี 3 มโนกรรมก็มีเพียง 3.
    2.ได้สัจจะบารมี และพลอยทำให้อีก 9 ทัศ เต็มสมบูรณ์และบริบูรณ์ครบถ้วนทุกประการไปด้วย แถมได้วาจาสิทธิ์ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็น"ประกาศิต"ยิ่ง พูดคำไหน ได้อันนั้นเป็นอย่างคำพูดทุกประการ.เทพ พรหม เทวดา คอยช่วยเหลือตลอดเวลา ไม่ให้ลำบาก.สามารถละสังโยชย์ 10 ได้อย่างราบคาบ.และเป็นหนึ่งในบุญกริยา 10 "ปิยวาจา"ด้วย.

    ทางโลก...ได้อะไรก็ตรงตามเวลานัดหมาย ไม่มีเคลื่อนหรือมีใครมาผิดนัด
    วาจามีอำนาจ ผู้คนเกรงขาม.ใครมาพูดให้ในทางที่ไม่ดีก็แพ้ภัยตนเอง.
    "ความจริงก็คือความจริง ความจริงไม่เคยฆ่าใครให้ตาย ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้" และเป็นเครื่อง"พิสูจน์คน"....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 5...............

    ศีลข้อที่ 5.ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา ยาเสพติดให้โทษ อบายมุข.
    ทางธรรม ได้"ปัญญา" ทำต่อเนื่อง ได้"อธิปัญญา" ปัญญานำทางให้ได้รู้ว่า
    ดี-ไม่ดี-ถูก-ไม่ถูก-สอบได้-สอบตก-รู้บุญ-รู้บาป.มีความจำเป็นเลิศ.มีสติรู้ตัวตลอดเวลา.เป็นเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยให้การรักษาศีล- รักษากรรมบถ 10- มีพรหมวิหารสี่-ละสังโยชน์ 10- เจริญวิปัสสนากรรมฐาน-จับจิตตนที่เป็นลิงมาขังกรงได้.มองเห็นและเข้าใจใน"อริยสัจ 4".ลงตัวที่"ไตรลักษณ์ได้"-
    เข้าใจใน"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน".เริ่มรู้แจ้งในระดับนึง.ในโลกธรรม 8.เริ่มเข้มข้นขึ้นใน"อิทธิบาท 4.

    ทางโลก มีปัญญาแก้ไขในปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ของตน.และรวมถึงการช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วยกำลังแห่งปัญญาได้.....

    ...แก่นธรรม 3.คือการปฏิบัติและวิปัสสนาในการรักษาศีล 5 ให้เข้มข้นและละเอียดขึ้นมากกว่าเดิม.นั่นแหละคือความละเอียดของศีล แก่นแท้และหัวใจของศีลควบกับการรักษากรรมบถ 10-บารมี 10 ทัศ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์-มั่นคงในการละสังโยชน์ 10 ประการ...

    ...เข้าใจในธรรม(คำสั่งของสมเด็จพระชินสีห์ว่า ทำไมพระองค์สั่งให้รักษาศีล 5 ข้อในเบื้องต้นให้ได้) เพราะรักษาศีลแล้ว ไม่ตกในอบายภูมิ 4.(นรกถาวร)
    ไม่ตกนรกในโลกมนุษย์(คุก-เรือนจำ-นรกบนดิน)คนติดในเรือนจำเพราะอะไร เพราะศีล 5 ไม่ครบ-ถูกตำรวจจับ-ขึ้นศาล-มีคดี เพราะอะไร.ศีล5 ขาด
    ..สวรรค์ในอก..ความสุขในใจ เอื้อมาที่กาย มีความสุขกายด้วย.รอดคุกบนดิน.ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ-ทุกข์กายกับตน.อารมณ์จิตผ่องใส.
    ..นรกในใจ..ความทุกข์ใจ เอื้อมาที่กาย ให้กายทุกข์และลำบากด้วย.แถมมีคุกเรือนจำนรกบนดิน ครอบงำจิตใจ มีตราบาป.....

    (สำหรับความคิดส่วนตัวของอาจารย์นะ ไม่ได้ว่าใคร หรือมีใครมาเกี่ยวข้องนะ อาจารย์คิดวิปัสนาได้ว่า.คุก.มีไว้ขังคนศีลไม่ครบ คนที่ไม่รักษาศีล.ไม่ใช่ขังหมา. ตำรวจไล่จับคน ไม่ใช่ไล่จับหมา.ศาลตัดสินคน ไม่ใช่ตัดสินหมา. เราไม่ใช่หมา อย่าอายหมามันนะ.)(ทางยมโลก เราจะไม่เป็น 1 ในอบายภูมิ 4 ถ้าถูกกระชากลากถู ตีตรวน ไปตัดสิน พิพากษาโทษในยมโลก เสร็จงานนี้ อายหมาแน่ ๆ...)อาจารย์บรรยายให้อ่านเผื่อเป็นประโยชน์.ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ผ่านไปแล้วลืมซะ.....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ.

    ....จากแก่นธรรม 3. ได้รู้ ในความละเอียดของศีล 5 ข้อ เพิ่มมาในระดับนึง
    และการรักษาศีล 5 ข้อได้ครบ เท่ากับว่า เราได้บำเพ็ญบารมี 10 ทัศ ในเวลาพร้อม ๆ กันกับการรักษาศีล 5 ข้อ และได้รักษากรรมบถ 10.ควบการละสังโยชน์ 10 ในข้อต้น ๆ.ทรงพรหมวิหาร 4.ร่วมด้วยกัน.บวชจิตให้เป็นพระ มีจิตสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม.และเป็นบันไดก้าวขึ้นไปในการรักษาศีล 8 ต่อไปให้สูงอีก.เห็นคุณค่า ประโยชน์ของการรักษาศีล. เห็น"ธรรม"ของสมเด็จ.
    พรุ่งนี้มา ต่อใน แก่นธรรม 4......
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...ก่อนขึ้นแก่นธรรม 4.นักปฏิบัติทุก ๆ ท่าน อย่าลืมทบทวนในทุก ๆ เรื่องของทุก ๆ วัน ห้ามลืมเป็นอันขาด.ทั้งที่เกี่ยวกับตนเองและไม่เกี่ยวกับตนเอง ทั้งทางโลก-ทางธรรม....

    ..ทางลัด...เพื่อให้ ศีล 5 ข้อครบและเป็น"อธิศีลเร็ว ๆ" ก่อนนอน ขอขมาพระรัตนตรัย.ไตรสรณคมณ์.สมาทานศีล 5.สมาทานพระกรรมฐาน.แล้วนอน.ก่อนหลับท่ององค์ภาวนาที่ชอบ ท่องไปเรื่อย ๆ เมื่อเข้า"ปฐมฌาณ"จิตจะตัดหลับเอง นั่นละ "หลับในฌาณ"หลับอย่างมีคุณค่า ถ้าตายตอนหลับ ก็ไปป๋อหรอที่พรหมเอง...เดี๋ยวได้"อธิศีล-อธิจิต.เร็วขึ้น...เป็นที่รักของ ผี.เทพเทวดา.มนุษย์.สัตว์ทั้งหลาย กลายเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงได้ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ.แบบง่าย ๆ...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...จากการที่จิตอยู่ในขอบเขตของศีล มีศีลคุมใจ.จิตสะอาดขึ้นมา.ไม่ลุ่มหลงในกิเลสที่หนักจนเกิน ทำให้มีความรู้สึกว่า มีความ"เบา"เกิดขึ้นในจิต.กายที่หนักอึ้งก็เบาไปด้วย.ความอยากในสิ่งต่าง ๆ ลดน้อยลงไป.(ให้สังเกตุตัวเอง)
    สัมผัสในพลังที่มากระทบกายให้มีความรู้สึกต่าง ๆ ได้.เช่น มีความรู้สึกว่าร้อน ในบางสถานที่ หรือใจสั่น หน้ามืดจะเป็นลม หรือเวียนศีรษะคลื่นไส้ก็มี..แต่ละคนอาการทางกายไม่เหมือนกัน..อาการทั้งหมดที่กล่าวมาคือ อาการที่จิตต่อต้านหรือคัดค้านนั่นเอง.เพราะมีความไม่ถูกต้องหรือมีบางอย่างที่เป็น"ศัตรู"ของจิต.นั่นเอง...ไปสำรวจอาการทางกายของตนเองนะ...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ...

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-437
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • K541018p4.jpg
      K541018p4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      1,169
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปีมะเส็ง(2556)
    ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มจมทะเล !!!

    [​IMG]

    poppyrose สมาชิก

    ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา 19.48-20.41

    สวดมนต์ เข้ามโนยิทธิ หลวงปู่ทวดปรากฏขึ้น พระอาจารย์มาถามว่าปฏิบัติถึงขั้นไหนเเล้ว ฉันรายงานท่านตรงที่ยังไม่สามารถปฏิบัติสำเร็จ เข้าเตโชกสิณ หลวงปู่ทวดพาฉันมาดูคลื่นยักษ์ ที่พัดถาโถมสะพานใหญ่ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย ดูไปก็เหมือนสันเขื่อน พบสมเด็จองค์ปฐมปางวิสุทธิเทพ เป็นเเก้วใสประกาย ท่านตรัสว่า

    เหตุการณ์จะมีทั้งน้ำท่วมเเละเเผ่นดินไหว ของไทยถือเป็นเื่รื่องเล็กน้อย ช่วงนราธิวาส สตูล ต่อไปจะจมหาย ประจวบคีรีขันธ์จะเกิดภัยธรรมชาติ คนตายมาก ท่านว่า จากมิถุนายนปี ๒๕๕๖ จะเลื่อนไปเป็นธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นมติสวรรค์ เป็นกรรมเผ่าพันธุ์ ให้หมั่นรักษาศีีลให้บริสุทธิ์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ หลวงปู่ทวดสอนปฐวีกสิณ ฝึกอตีตังสญาณ อุทิศส่วนกุศล

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เตือนพื้นที่ภัยธรรมชาติในอนาคต.379882/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 012.jpg
      012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58 KB
      เปิดดู:
      1,180
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไทยที่สาบสูญ
    (ทำนายโดย อ.ปริญญา ตันสกุล)

    [​IMG]

    บริเวณที่หายถาวรทั้งแผ่นดิน

    นราธิวาส สตูล พังงา ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์
    หมู่เกาะ ตะรูเตา หมู่เกาะทะเลตรัง ตราด เกาะช้าง
    หมู่เกาะทะเลตราด เกาะสมุย เกาะพงัน อ่างทอง ชะอำ

    บริเวณที่เหลือเพียงบางส่วน แต่จะกลายเป็นเกาะเล็กๆ

    เกาะยะลา เกาะปัตตานี เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม
    เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

    บริเวณที่หายเป็นส่วนใหญ่ จะเหลือเพียงบางส่วน

    ยะลา หาดใหญ่ พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี
    นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
    เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา
    ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรปราการ อุบลราชธานี
    แผ่นดินริมแม่น้ำโขงตลอดแนว กาญจนบุรี ฯลฯ

    ประเทศไทยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

    ได้แก่พื้นที่ในส่วนภาคกลาง อันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
    และบริเวณในส่วนของภาคใต้ที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ๆ
    ได้แก่

    1. บริเวณตั้งแต่ชุมพรฝั่งตะวันตก ท่าแซะ ระนอง
    สุราษฎร์ธานีฝั่งตะวันตก บริเวณด้านบนของอำเภอพนม
    อ.เทียนชา อ.บ้านนาเดิม นครศรีธรรมราชตอนบน ขนอม

    2. บริเวณตั้งแต่จังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช
    ที่ต่อแดนกับจังหวัดกระบี่ด้านบน ฉวาง ร่อนพิบุลย์ ชะอวด
    จังหวัดตรังด้านตะวันออก จังหวัดพัทลุงด้านตะวันตก หาดใหญ่
    จังหวัดยะลา ด้านตะวันตก

    นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก เกาะน้อยที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายเกาะ
    ได้แก่เกาะสัตหีบ เกาะยะลา เกาะปัตตานี
    เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

    บริเวณที่จะกลายเป็นพื้นที่ติดกับทะเล

    ดินแดนที่จะ มีอาณาเขตติดกับทะเล ได้แก่
    สงขลาทางด้านตะวันตก ยะลาทางด้านตะวันออก
    หาดใหญ่ กระบี่ตอนบน ด้านที่ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
    และด้านที่ติดกับจังหวัดพังงา
    ตอนกลางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ตั้งแต่ อ.พนม อ.เคียงซา จรดเขตจังหวัดกระบี่
    ชุมพรด้านใน ท่าแซะ
    ตอนล่างของเมืองประจวบคีรีขันธ์
    และถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออกตลอดแนว
    ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ถนนชลบุรี-ปากท่อ ช่วงสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
    ตัวเมืองแปดริ้ว บ้านค่ายปลวกแดง จ.ระยอง ตัวเมืองจันทรบุรี
    และตลาดท่าใหม่วังน้ำเย็น จรด จ.สระแก้ว
    เหนือเขื่อนเขาแหลมด้านตะวันตก
    กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร
    นครพนม เลย หนองคาย อำนาจเจริญ
    บ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก
    อุตรดิตถ์ ด้านที่ติดกับประเทศลาว น่าน ด้านตะวันออกตอนล่าง
    บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะกลายเป็นดินแดนชายฝั่งทะเล !

    ประเทศไทยเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์
    ที่จะได้รับการปกป้อง คุ้มครองรักษาไว้
    ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำ จากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก
    และจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป

    ที่มา 2012 Doomsday 2555: แผ่นดินไทยที่(อาจจะสาปสูญ) โดย อ.ปริญญา ตันสกุล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาเหตุที่ไม่อาจจะระบุวันเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติได้ !!!

    [​IMG]

    แม่นายมล สมาชิก

    ช่วงนี้กระแสข่าวการเกิดภัยพิบัติมีเยอะมาก จึงขอนำคำตอบจาก อ.ปริญญา ใน FB มาให้อ่านและพิจารณากัน

    Visudhi Punya (อ.ปริญญา ตันสกุล):-

    จากนี้ไป ตามสื่อสารมวลชนและสังคมออนไลน์ทั้งหลาย จะมีผู้คนทั้งคุ้นหน้าคุ้นตาและหน้าตาแปลกๆ ออกมากล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติที่น่าสะพรึงกลัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติทั่วโลกรวมทั้งไทยด้วย มันก็จะเกิดขึ้นถี่ๆ และใกล้ตัวพวกเธอมากขึ้นจริงๆ ด้วย

    นักเรียนจักต้องรู้ว่า แผนปฏิบัติการชำระโลกของช่างเท็คนิก หรือเจ้ากรรมนายเวรนั้น พวกเขามิได้กำหนดแผนการอย่างชัดเจนเอาไว้ล่วงหน้าหรอกว่า ณ วันเวลาใดตรงพิกัดตำแหน่งใด พวกเขาจะปฏิบัติการอย่างไร จะสร้างความหายนะให้ได้แค่ไหน? แต่พวกเขาจะลงมือปฏิบัติการกันแบบกะทันหันเสมอ

    ด้วยเหตุนี้เอง คนที่ออกมากล่าวคำทำนายหรือพยากรณ์ในเรื่องเหล่านี้ โดยระบุวันที่เดือนปีเวลาและสถานที่ พร้อมรูปแบบภัยพิบัติที่จะเกิดกันล่วงหน้านั้น พอถึงเวลาก็ปรากฏว่า ไอ้สิ่งที่พยากรณ์กันไว้นั้นมันมิได้เกิดขึ้นดังที่กล่าวไว้แต่อย่างใด

    นักเรียนจะต้องจดจำเอาไว้ว่า ตามปกติแล้ว ต่อให้มนุษย์มีเท็คโนโลยีสูงล้ำขนาดไหนก็จะมิอาจบอกได้ว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นที่ไหนบ้าง จะเกิดเมื่อไหร่ จะเกิดพายุหมุนรุนแรงพัดถล่มที่ไหน วันไหน จะเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศไหน เมื่อไหร่ หรือจะเกิดภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเอาชีวิตมนุษย์หมู่มากขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ เป็นต้น เธอจะต้องจำไว้ว่านักวิทยาศาสตร์โลก ก็มิอาจบอกความจริงล่วงหน้าได้ นอกจากนั้น ต่อให้เป็นรูปธรรมทางพลังงานชั้นสูง หรือมนุษย์ที่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ก็ยังมิอาจสามารถล่วงรู้เกี่ยวกับวันเวลาสถานที่ที่จะเกิดภัยพิบัติล่วงหน้าได้

    สาเหตุที่ไม่รู้ :

    เหตุที่ไม่มีผู้ใดบอกกล่าวล่วงหน้าได้ ก็เพราะมัน คือ "ความลับ" ที่ไม่มีใครล่วงรู้ไงล่ะ ไม่รู้แม้กระทั่งบรรดาช่างเท็คนิกด้วยกันเองด้วยซ้ำไป

    - ไม่รู้เพราะเป็นปฏิบัติการแบบกะทันหัน ไม่มีแผนการล่วงหน้า
    - ไม่รู้เพราะมันเป็นความลับ แพร่งพรายให้มนุษย์รู้ก่อนไม่ได้เลย ถ้ารู้แผนการนี้จะเป็นโมฆะไปทันที เช่น มนุษย์ในกลุ่มเป้าหมายของการเกิดมหันตภัย ก็จะพากันหลบหนีออกไปจากเป้าหมายบริเวณนั้นๆเสีย ซึ่งมันจะทำให้แผนการนั้นต้องล้มเหลว

    รูปธรรมชั้นสูงบางกลุ่มที่พอรับรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง ก็ไม่อาจออกมาบอกกล่าวฟันธงให้มนุษย์ล่วงรู้ได้ เพราะมิใช่หน้าที่ของท่าน ซึ่งรูปธรรมชั้นสูงเหล่านี้เขาจะไม่กระทำในสิ่งที่ผิดสัจจะโดยเด็ดขาด มิหนำซ้ำยังจะต้องเข้ามาเกี่ยวเวรเกี่ยวกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและมนุษย์บาปหนา อันจะเป็นอุปสรรคบนเส้นทางนิพพานอีกต่างหากด้วย

    นักเรียนจึงรับรู้เอาไว้ตรงนี้ว่า หลังแผ่นดินไหวใหญ่ที่เกาะฮอนชูแล้ว ยังมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอีกเรื่อยๆ จนวันนี้ก็ยังมีไหวอยู่เป็นระยะๆ พวกเขาวิเคราะห์ว่าเป็น "อาฟเตอร์ช็อก" เป็นต้น แล้วในที่อื่นๆที่มันไหวอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ เช่น แผ่นดินซีกตะวันตกของอเมริกา มาจนกระทั่งที่มันไหวอยู่ในพม่าทุกวันๆ ล่ะจะเรียกว่าอาฟเตอร์ช็อกอีกมั้ย?

    ขอบอกนักเรียนว่า ต่อนี้ไปภัยพิบัติมันจะเกิดไปทั่วโลก และรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันจะเกิดจริง แต่ไม่มีใครบอกได้หรอกว่า มันจะเกิดตรงไหน เหมือนพายุทอร์นาโดนั่นแหละ ในอเมริกาตั้งแต่ต้นปีมาไม่รู้กี่ร้อยลูกแล้ว และไม่รู้ว่ามันจะไปเกิดที่ไหนบ้าง วันสองวันนี้ไปโผล่ที่กลางเมืองไต้หวัน โชว์ศักยภาพจิ้บๆ ดูดเอารถตู้ขึ้นไปในอากาศหนึ่งคัน ก่อนจะปล่อยให้มันหล่นลงมากระแทกรถอีกคัน ทั้งๆ ที่พายุหมุนแบบนี้ไม่เคยมีที่ไต้หวันมาก่อนเลยล่ะพี่น้อง!!!

    สาเหตุของการเกิดมหันตภัยเหล่านี้ พระบิดาคือองค์จิตจักรวาล ได้ทรงเมตตาพวกเธอกล่าวถึง เหตุแห่งการเกิด วิธีการเกิด เป้าหมายของการเกิด พิกัดตำแหน่งแห่งที่ๆ เป็นสีแดงที่มันจะเกิด รวมทั้งระยะเวลาแห่งการเกิด เอาไว้ให้พวกเธอผู้เจริญทางวิญญาณและปัญญา ได้ล่วงรู้ล่วงกันมานานแล้วใช่มั้ยล่ะ? หน้าที่ของพวกเธอมีอย่างเดียว คือ "เตรียมตนเองและจิตวิญญาณให้พร้อม เพื่อการผจญภัย" เท่านั้นแหละ จงอย่ารีบ "ตายก่อนตาย" เลยนะ

    เพราะเรารู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหล่านี้ไงล่ะ เราจึงไม่อาจฟันธงบอกพวกเธอได้ว่า วันไหนเวลาใดจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องของช่างเท็คนิกเขา และมันเป็นเรื่องราวของมนุษย์ด้วยกันเอง เรารู้เท่าที่บอกไปและเรารู้ว่ามันจะเกิดตรงไหน...บนแผนที่โลกบ้างเท่านั้น (โปรดดูแผนที่ของจิตจักรวาล) ส่วนที่เราแอบกระซิบๆ ข่าวให้รู้ล่วงหน้าบ้างนั้น เป็นเพราะพระบิดาทรงเมตตาให้ช่างเท็คนิกบอกเรา เพื่อบอกพวกเธอต่อเพื่อขอทดสอบจิตสำนึกของพวกเธอบางคนก็เท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี ข่าวสารเรื่องจริงที่จะเกิดขึ้น กับคำทำนายมันจึงต่างกัน ขอให้นักเรียนของเราโปรดใช้ปัญญาพิจารณาก่อนเสพข่าวเหล่านั้นด้วย

    (ป.วิสุทธิปัญญา)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข่าวสารจากจิตจักรวาล.66981/page-33
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1152528742.jpg
      1152528742.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.1 KB
      เปิดดู:
      1,192
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วันเวลาถูกเปลี่ยนแปลงไป แต่เหตุการณ์ยังคงเดิม !!!

    [​IMG]

    จากการสื่อสารรับข้อมูลจาก"จิตจักรวาล"ของอาจารย์ปริญญาที่ได้รับบอกกล่าวกันไว้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ผ่านทางรายการ "สำนึกรักแผ่นดิน" โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่องสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 - 20.00 น. อาจารย์ปริญญาได้บอกกล่าวถึงหายนภัยทางธรรมชาติ ไว้ล่วงหน้าเป็นการเตือนให้มนุษย์คิดตระหนัก และสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง ดีงามกันใหม่ กระผมจึงนำมาเสนอไว้ ณ บทความนี้คือ (วันเวลาถูกเปลี่ยนไป แต่เหตุการณ์ยังคงเดิม)

    ค.ศ. 2012 ( พ.ศ. 2555) กรุงเทพฯ ธนบุรีน้ำท่วมหนัก - พายุใหญ่ถล่มกรุง - คอนโดใหญ่ และตึกสูงพัง ถล่มสะพานแขวนขาด เพราะพายุ และฟ้าผ่า จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง

    ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ไทย-พม่า-อินเดีย-ศรีลังกา จะประสบภัยร้ายแรงระดับที่ต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่ แผ่นดินส่วนหนึ่งจะจมหายไปในทะเล จะมีผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่ที่กิน-เสียชีวิตรวมกัน 3.23 ล้านคน/คนไทย 1.2 แสนคน เหตุการณ์นี้จะทำให้ด้ามขวานของไทยหักจมทะเล ตรงประมาณหลัก กม.ที่ 346 จากกทม. ไปตามถนนเพชรเกษม ทำให้ทะเลเชื่อมต่อกันสองด้าน เป็นระยะห่างประมาณ 1,823 เมตร ในส่วนที่หักจมทะเลหายไป

    ค.ศ.2018 (พ.ศ. 2561) เขื่อนใหญ่-เชี่ยวหลานทางภาคใต้อาจแตกเป็นเขื่อนแรกของไทย

    ค.ศ. 2018 ประเทศญี่ปุ่น เกาะฮอกไกโด จะประสบแผ่นดินไหวรุนแรง-แผ่นดินหักจม ทะเลเป็นเกาะแรกของประเทศ ตามด้วยหมู่เกาะกิวชิว

    ค.ศ. 2018 กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ อาจจะประสบภัย 2 เรื่อง (เกิดพร้อมญี่ปุ่น) 1.แผ่นดินไหวรุนแรง 2.เกิดโรคระบาดร้ายแรง

    ค.ศ. 2018 ประเทศรัสเซีย แผ่นดินไหวรุนแรง สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก อาจจะถูกอสุนีบาต และแผ่นดินจะแยกแตกออกเป็น 2 ซีก ตามด้วยธรณีสูบ จนแผ่นดินซีกหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำ

    ค.ศ. 2018 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรงพิกัดเส้นแบ่งเวลาระหว่าง ASIA กับ EUROPE อาจจะเกิดแผ่นดินแยกธรณีสูบ

    ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เวลา 13.00 น. อาจเกิด แผ่นดินไหว กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตถึงจำนวนหมื่นราย

    ค.ศ. 2019 เกาหลีเหนือ-ใต้ อาจจะแยกแตกออกเป็นสองซีก

    ค.ศ. 2019 อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่เชียงใหม่ ในเขต อ.ฮอด และ อ.แม่แตง อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ จ.ตาก อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

    ค.ศ. 2019 ทองผาภูมิ และด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี อาจเกิดแผ่นดินแยก ทำให้ลาวา - แก๊สพิษจะผุดขึ้นมา และอาจทำให้เขื่อนใหญ่แตก เพราะภูเขาแยกตัวออก น้ำทะเลจะเข้าแทน

    ค.ศ. 2019 ในยามค่ำคืนวันหนึ่ง อาจมีเขื่อนแห่งหนึ่งในภาคอีสานแตก

    ค.ศ. 2019 เขื่อนภูมิพล อาจจะแตกเพราะรับน้ำไม่ไหว เหตุการณ์อาจจะเกิดตอนกลางวัน - ทุกคนรู้ตัวล่วงหน้าก่อนแล้ว

    ค.ศ. 2020 (พ.ศ.2563) เขื่อนศรีนครินทร์-เขื่อนใหญ่สุดของไทย อาจเป็นคิวต่อไปที่ต้องแตก ไม่มีใครเคยเชื่อว่ามันจะแตกได้ แต่โปรดอย่าประมาทเถิด

    ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) วันที่ 19 สิงหาคม 2022 - ทำเนียบขาว บริเวณสนามหญ้าหน้าทำเนียบขาว แผ่นดินจะแยกตัวออก น้ำใต้ดินจะท่วมขึ้นมาจนทำเนียบขาวเสียหายใช้การไม่ได้ ประธานาธิบดีเป็นหญิง ชื่อ "B" รองประธานาธิบดีเป็นหญิง ชื่อ Hillary

    ค.ศ. 2022 เหตุเกิดตอนกลางวัน (สิงหาคม-กันยายน ค.ศ. 2022) อเมริกาอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลก ระดับ 19 ริกเตอร์ จนแผ่นดินใหญ่แตกหักหลายส่วน ทำให้แผ่นดินหักทรุดจมลงใต้ทะเล

    ค.ศ. 2022 กันยายน ค.ศ. 2022 อาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของ Losangelis สหรัฐอเมริกา โดยเหตุจากแผ่นดินไหว และการทรุดตัวจมทะเล ของประเทศที่เป็นหมู่เกาะใหญ่ใต้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย

    ค.ศ. 2022 อาจจะเกิดพายุทอร์นาโด Henna พัดเข้าถล่มผ่ากลางเมืองนิวยอร์ก อนุสาวรีย์แห่งเทพีสันติภาพ จะถูกอสุนีบาตจนแต่หักออกเป็น 4 ส่วน ยังผลให้เมืองนิวยอร์กพังเสียหายหมดแทบทั้งเมือง

    ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) อาจเกิดปฏิบัติการชำระโลกคาบสุดท้าย เป็นเวลา 56 วัน 7 ราตรี ติดต่อกัน หลังจากนั้น โลกจะเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่

    ทั้งหมดที่กล่าวนี้ คือ การชำระโลก ไม่ใช่ การทำลายโลก เพื่อให้มนุษย์พลังใหม่ เข้ามาแทนที่มนุษย์พลังเก่าผู้ทำให้โลกเสียสมดุล ขาดความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต่อต้นไม้ สัตว์ และต่อโลกผู้มีอุปการคุณใบนี้

    โพสต์ข้อความโดยคุณ ประมวล รุจนเสรี วันที่ 23/8/2009

    ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=175558
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image.jpg
      Image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.8 KB
      เปิดดู:
      1,207
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จะมีคนไทยเพียง 25 ล้านคน ที่เหลือรอดชีวิตไปสู่ยุคชาววิไล !!!

    [​IMG]

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ...ก่อนขึ้น.แก่นธรรม 6.ทุกอย่างสำเร็จที่ใจ...เรามาเตือนภัยกันก่อน.ในคราวนี้สาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว..อาจารย์ไปประชุมลับมา.ในที่ประชุมลับ ได้ขออนุญาตบางข้อ-บางตอน. ให้นำมาบอก มาเตือนในโลกมนุษย์ได้.ถึงมีผู้รู้แล้ว(รู้เฉพาะตน)มีน้อย.ในคนหมู่มากยังต้องมีการบอกและเตือนกัน.ซึ่งก็ได้รับพระเมตตามีมติเป็นเอกฉันท์พร้อม.....

    ..ภัยที่ว่า คือ.การปรับสมดุลย์ธาตุ.ได้เริ่มขึ้นแล้ว ในหลังวันพระที่จะถึงนี้.ไม่เกิน 3 วันหลังวันพระนี้....เริ่มจากการปรับสมดุลย์ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    1. จะมีดินถล่ม.ดินทรุดยุบตัว.ดินแยก.ดินแตก.แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงและอันตราย ในระดับสูงขึ้นคือ 6-7 ริคเตอร์.ใครรักตัวกลัวตายรีบซะ..ก่อนจะไม่มีโอกาส.
    2. ฝนหลงฤดู.
    3. ลมพายุ.ที่สามารถพัดบ้านไปได้ทีเดียวหลาย ๆ หลัง.
    4. ไฟไหม้ในหลายพื้นที่ ที่เกิดขึ้นจากความประมาทของมนุษย์.มีความเสียหายที่รุนแรง.มีคนตายด้วย(ถูกย่างทั้งเป็น)....
    5. อุบัติเหตุตายหมู่..เดินทางไปไหน มาไหน.ให้ระมัดระวัง อย่าประมาท.ทั้งทางบก.ทางน้ำ.ทางอากาศ.อยู่กับที่ก็เกิดขึ้นได้.(ลูกหลง)กรรมนำให้เป็นไป..กรรมส่งผลนั่นเอง....
    6. ฟ้าผ่า(หน้าแล้ง)ระวังให้ดี ๆ..
    7. อากาศที่หนาวเย็นลง.อุณหภูมิ.ลดลงอย่างรวดเร็ว.ในทุกพื้นที่.ไม่มีแบ่งเขต แบ่งภาค.ระวังหนาวตาย.แถมมีโรคระบาดที่รุนแรง.ที่ไม่คาดคิดมาก่อน.
    8. อากาศหนาว สลับกับอากาศที่ร้อนระอุ...ในบางพื้นที่วันนึงอาจหลายฤดูกาล.

    ..เตรียมกำลังกาย กำลังใจ.ให้พร้อมยอมรับให้ได้.ทุกพื้นที่.ทุกประเทศ.ทุกรัฐ.ทุกจังหวัด.ทุกอำเภอ.ทุกหมู่บ้าน.กระจายกันไปทั่วโลก..ไม่มีแบ่งหรือเว้นในเชื้อชาติและศาสนาใด..เพราะทุกคนจะเป็นหรือตาย.มีสิทธิ์ มีค่าเท่ากัน และเหมือนกันหมด...

    ..ส่วนของไทยเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง.ในทุกรูปแบบ.ทุกสถานการณ์..ภาคใด เขตใด พื้นที่ใด.เกิดเมื่อใด วันใด เวลาใด อาจารย์จะส่งข้อมูลให้ในเฉพาะบุคคลเท่านั้น.และอย่าลืมเตรียมหาสถานที่ที่ปลอดภัย.เพื่ออพยพต่อไป.งานนี้ไม่มีข้ออ้าง ข้อแม้และเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น.เป็นการดัดสันดานของมนุษย์.ที่มักมีข้ออ้าง ฉันไปไม่ได้ติดงาน ห่วงคนนั้นห่วงคนนี้ไปไม่ได้.และบัดนี้.เบื้องบนไม่ได้ฟังเสียงในข้ออ้างใด ๆ ของมนุษย์อีกต่อไป.เพราะให้เวลา ให้โอกาสมามากพอแล้ว..."ถ้าถามถึงภัยทางข้อความส่วนตัว อาจารย์จะไม่ตอบให้ในทุกกรณี.....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...ที่ประเทศไทยโดนภัยหนักหน่อย.เพราะเป็น"เมืองพุทธศาสนา"...แต่ประชากรพลเมืองของประเทศ ทำตนประพฤติ ปฏิบัติตนไม่สมกับเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา.โดยเฉพาะศีล 5.รักษากันไม่ได้ไม่ครบ กรรมบถ 10 โดยเฉพาะ "วจีกรรม" ยิ่งพังยิ่งขาดและทำไม่ได้กันเป็นส่วนมาก.จึงต้องรับผลของกรรมนั้นแบบ "จัดหนัก จัดเต็ม"คนที่ศีลดีพร้อม.รักษาในกรรมบท 10.ได้ดีจึงจะผ่านไปได้....ด้วยปรารถนาดีในมุทิตาจิต จึงเตือนภัยกันมา....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...ของไทยเรา..ขอให้เรา ๆ และท่าน ๆ ทั้งหลายในกระทู้นี้. เป็นหนึ่งในผู้รอดให้ได้ใน 25 ล้านคน.1 ใน 25 ล้านคน.รอดให้ได้.ทั้งกายและจิตที่ดีพร้อม..ระยะเวลาที่เกิดการปรับสมดุลย์ธาตุในครั้งนี้.จะทยอยเกิดตลอดปี 2556 นี้ และปลายปีนี้เป็นเพียงซ้อมและเตือนภัยของ."พญามาร-มาร-และบริวาร"....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    zenit สมาชิก

    วันพระนี้คือวันที่ 21/11/55 ความรู้สึกผมเองก็ว่าอย่างงั้นนะครับ..อาจจะล่าไปบ้าง แต่จะเกิดเร็วกว่าสักเดือนก็ไม่แปลกครับเพราะเป็นปรับธาตุ แต่คนบางคนยังไม่ทันระวังไประวังปลายๆปีอย่างเดียว

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ..ครับผม.ใช่ครับ.ให้เชื่อความรู้สึกแรก.หรือที่จิตแรกบอกนั้นถูกแล้วครับ..หลาย ๆ คนก็ไม่ได้ระวังตัว.เพราะไปมองในอนาคตไกลเกินไป ใกล้ ๆ ตัวในเวลาปัจจุบันไม่หมั่นคิดพิจารณา.หรือไปมองและสนใจในเหตุการณ์ในต่างประเทศ.หรือนอกโลก.โดยเฉพาะโลกต่างดาว.ที่ใกล้ตัวในประเทศ.ในเขตที่ตนอยู่กลับมองข้ามไป...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    sitmatrix สมาชิก

    ถึงว่า ฝนตกอยู่ 2 วัน ทั้งที่ปรกติ อากาศจะต้องแห้งเดือนหน้าก็ต้องหนาว แล้ว เมื่อวาน น้ำก็ท่วมตลาดแม่กลอง น้ำทะเลหนุนสูง เดี๋ยวนี้ท่วมเยอะ บ้านติดคลอง แม่น้ำ ได้ยินว่าต้องอุดท่อ ลำบากกัน คนในตลาด ก็ยังดี น้ำยังไม่สูงเกิน ฟุตบาท ทางเท้า ไม่งั้นเข้าร้านแน่ แต่ก็ท่วมเฉพาะจุดที่ต่ำ แต่บ้านติดคลอง ลำบากกว่าเยอะ

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ..ใช่ครับ.อะไรที่ไม่ได้คิดเตรียมการณ์ไว้มักจะเกิดขึ้นได้เสมอครับ..รอบคอบไม่ประมาทเตรียมการณ์ไว้ดีที่สุดครับ...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-444
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dsc00387.jpg
      dsc00387.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.3 KB
      เปิดดู:
      1,139
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาส์นถึงมนุษยชาติ (The Message to Mankind)​
    โดย: BORUP'S SPIRITUAL SCHOOL

    [​IMG]

    Chayutt สมาชิก(แปลและเรียบเรียง)

    อะไรกำลังจะเกิดขึ้น?

    ที่โรงเรียนแห่งจิตวิญญาณ Borup แห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่จะทำให้เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดกับมนุษยชาติ เพื่อที่จะทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจว่าสาเหตุของเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นจากอะไร และจะสามารถผ่านพ้นมันไปได้อย่างไร?

    สาเหตุของเหตุการณ์ที่ว่านี้ คงจะเรียกว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่ได้ในช่วงแรกๆ เพราะว่ามนุษย์ยังไม่เข้าใจกฎแห่งชีวิต แต่เหตุการณ์นี้มันจะจบลงเมื่อถึงวันแห่งการกลับมาครั้งที่สองของเรา (My Second Coming) เราได้กล่าวแล้วว่า เราคือชีวิตและสัจธรรม และเราก็ได้กล่าวแล้วว่า ใครก็ตามที่ตามเรามาจะไปถึงพระผู้เป็นเจ้า หนทางสู่พระผู้เป็นเจ้าของมนุษย์คือโดยผ่านเรา เรื่องนี้เราได้สอนเอาไว้แล้ว และเราอยากให้พวกท่านเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้ ผู้ใดที่ค้นหาเรา ผู้ใดที่พยายามค้นหาสัจธรรมของชีวิตโดยการฟังเสียงที่เราพร่ำสอนเอาไว้ ก็จะเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากกว่า

    ตอนนี้เราจะกลับมาหามนุษย์โลกอีกครั้งด้วยตัวเราเอง ด้วยกายเนื้อที่สมบูรณ์และกองทัพสวรรค์ดั่งที่ได้กล่าวเอาไว้นานแล้ว และเมื่อนั้นดาวเคราะห์โลก (จิตสำนึกของโลกและของชาวโลก) ก็จะถูกยกระดับสูงขึ้น ดังนั้นพวกเขาก็จะเข้าใจพระผู้เป็นเจ้าและความเป็นพระผู้เป็นเจ้าได้ดีขึ้น เพราะว่าตอนนี้พวกเราได้เข้ามาใกล้กันมากขึ้นแล้ว เพราะว่าเรากำลังมาหาพวกท่าน พวกท่านจะสามารถเข้าใจในพระผู้เป็นเจ้าได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เข้าใจว่าพระองค์คืออะไร และพระองค์หมายถึงอะไร

    มีชาวโลกมากมายที่ยังไม่เข้าใจว่า กำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง พวกเขามีลางสังหรณ์ พวกเขารู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ลางสังหรณ์ที่เรากล่าวถึงหมายถึง สิ่งที่ผู้คนจำนวนมากมายรู้ไม่ค่อยชัดเจนว่าสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น มันกำลังจะส่งผลร้ายอะไรมาสู่ตนเอง ส่วนคำว่ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าที่เรากล่าวถึง หมายถึง ผู้ที่รู้ตัวเองว่า พวกเขาได้ทำอะไรลงไป และมันจะส่งผลกระทบอะไรต่อพวกเขาและคนอื่นๆ มนุษย์ควรจะได้รับอนุญาตให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสรเสรีอย่างแท้จริง และมนุษย์ก็จะได้รับอนุญาต ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสรเสรีอย่างแท้จริง

    มนุษย์จะได้รับอนุญาตให้สามารถสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาก็ได้ตราบเท่าที่ใจของมนุษย์สามารถจินตนาการสร้างมันขึ้นมาได้ เพราะว่าใครก็ตามที่สามารถจินตนาการอะไรขึ้นมาในใจของตนเองได้ ไม่ช้าไม่นานสิ่งนั้นมันก็จะกลายเป็นจริง ไม่มีอะไรที่มนุษย์สามารถคิดมันขึ้นมาได้แล้ว มันจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาไม่ได้ อะไรก็ตามที่ใจสามารถสร้างสรรค์มันขึ้นมาได้ มันก็จะสามารถถูกสร้างขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริงได้เช่นเดียวกัน มันเป็นพลังแห่งความคิด ซึ่งเป็นพลังแห่งการสรรค์สร้างที่แท้จริง

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกท่านคงพร้อมที่จะเข้าใจแล้วว่า สิ่งต่างๆมันถูกสร้างขึ้นมาจากผู้ที่ไปถึงจุดแห่งความเจริญ ที่ไกลกว่ามนุษย์โลกมากแล้วนั้นได้อย่างไร ทำไมผู้ที่ผ่านบทเรียนแห่งชีวิตมามากกว่ามนุษย์โลก จึงประสบความสำเร็จในศาสตร์ต่างๆมากกว่ามนุษย์โลกเป็นไหนๆ เราได้สอนพวกท่านเกี่ยวกับกฎแห่งการจัดลำดับแล้วด้วย และพวกท่านก็มีความเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว พืชพันธุ์ทั้งหลายก็มีระดับของการจัดลำดับของมันเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายก็มีของตัวเอง มนุษย์ก็มีของมนุษย์เอง

    การจัดลำดับเหล่านี้ขยายลึกลงไปถึงระดับจักรวาล และไปถึงรูปธรรมทรงภูมิปัญญาทั้งหลาย ที่มีระดับภูมิปัญญาสูงส่งเกินกว่าที่มนุษย์โลกจะใช้มาตรฐานใดๆที่ตัวเองมีอยู่ในปัจจุบันนี้มาประเมินได้ เราได้กล่าวไปแล้วว่า มีดวงดาวหลายล้านดวงที่เตรียมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือโลก และต้องเข้าใจว่าตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังจะยกระดับขึ้นสู่สภาวะของจิตสำนึกที่สูงขึ้น จิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกใบนี้กำลังจะถูกยกระดับให้สูงขึ้น สิ่งนี้เราได้เคยสอนพวกท่านแล้ว และเรายังได้เคยกล่าวแล้วด้วยว่ากาแล็กซี่ทั้งกาแล็กซี่นี้กำลังจะถูกยกระดับขึ้น

    นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมดวงดาวหลายล้านดวง จึงกำลังเตรียมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในเหตุการณ์นี้ ดวงดาวหลายๆดวงในจำนวนที่กล่าวถึงนี้ อาจจะมาช่วยเหลือโลกโดยตรง ในสถานการณ์แห่งความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้น ความเจ็บปวดที่มนุษย์โลกได้ร่ำร้องขอให้พระเจ้าลงโทษตัวเองมานานแล้ว สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ที่ได้ตั้งขึ้น และได้เขียนถึงสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นนี้ และหากพวกท่านจะคิดตามเราสักเล็กน้อย พวกท่านก็จะเข้าใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่ ที่เรียกว่า “การกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์”(The Second Coming of Christ)

    เราได้กล่าวไปแล้วว่าโลกจะหยุดหมุนหนึ่งวินาที และโลกก็จะหยุดหมุนหนึ่งวินาที จากนั้นมันก็จะหมุนต่อไป จากนั้นโลกก็จะคว่ำหัวลงแบบง่ายๆ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ด้านต่างๆของโลกเปลี่ยนสลับกันไปโดยสิ้นเชิง และเราก็ได้กล่าวไปแล้วด้วยว่า ในขณะที่เหตุการณ์นี้กำลังเกิดขึ้น ชาวโลกจำนวนมากมาย จะถูกอพยพขึ้นไปอยู่บนยานอวกาศขนาดใหญ่จำนวนมากมาย ซึ่งท่านก็รู้ถึงขนาดความมหึมาของยานเหล่านี้แล้ว แต่เราอยากจะเตือนความจำพวกท่านด้วยว่า เมื่อมนุษย์โลกกลับลงมายังโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง มันจะเหลือแต่ความว่างเปล่า และความแห้งแล้ง ปราศจากพืชพันธุ์ ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำอะไรได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ

    ตอนนี้เราอยากจะให้พวกท่านคิดและจินตนาการถึงเสบียงอาหารจำนวนมหาศาลที่ถูกจัดเก็บไว้รอพวกท่านอยู่แล้ว เสบียงอาหารเหล่านี้มีปริมาณเพียงพอสำหรับชาวโลกที่จะกลับลงมาบนโลก ที่จะกินได้ไปเป็นปี ตอนนี้ท่านคงรู้แล้วว่าทำไมเราถึงเรียกสิ่งนี้ว่า “สาส์นแห่งความสุข”(Message of Joy) ที่มันเป็นสาส์นแห่งความสุข ก็เพราะว่ามันมีความช่วยเหลือขนาดมหึมาที่จะมาถึง ความช่วยเหลือนี้จะมาถึงได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์โลกรู้จักที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างสันติและปรองดองกัน และใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับกฎของพระผู้เป็นเจ้า โดยการเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็จะไม่มีสัตว์หรือมนุษย์คนใดที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะบาดแผลอีกต่อไป

    เพื่อเป็นการยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์โลกขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น จำเป็นจะต้องมีโรงเรียนสอนด้านจิตวิญญาณให้ เพื่อให้มีการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณอย่างเต็มที่ จิตสำนึกของมนุษยชาติต้องก้าวกระโดดไปสู่ความเข้าใจแบบใหม่อย่างอย่างสิ้นเชิง มันต้องเป็นไปในรูปแบบของการผ่าเหล่าทางจิตวิญญาณอย่างกะทันหัน ซึ่งการผ่าเหล่าทางจิตวิญญาณนี้ จะนำไปสู่การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์โลก ซึ่งหมายถึงมนุษย์โลกจะบรรลุเป้าหมายทางความรู้ครั้งยิ่งใหญ่ เราสามารถกล่าวได้เลยว่า ความก้าวหน้าที่ว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ก้าวไกลเกินกว่าจินตนาการที่ไกลที่สุดของมนุษย์โลกในปัจจุบัน ที่จะสามารถจินตนาการไปถึงได้เลยทีเดียว

    เราได้ให้สัญญาเอาไว้แล้วว่า ในการกลับมาครั้งที่สองของเรานี้ มนุษย์จะไม่รู้จักการตาย และหลายๆคนอาจจะพูดว่า มันเป็นไปไม่ได้ ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ชั่วกาลนาน เราขอให้พวกท่านคิดตามเราอีกครั้งหนึ่ง แล้วท่านก็จะเข้าใจว่ามันเป็นไปได้ ร่างกายของมนุษย์โลกสามารถซ่อมแซมตัวมันเองได้ เซลใหม่ๆจะถูกสร้างขึ้นมาทดแทนเซลเก่าๆที่ตายไปแล้วตลอดเวลา เซลเม็ดเลือดใหม่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนเซลเม็ดเลือดเก่าด้วยตัวมันเอง ประดุจว่าเป็นร่างกายใหม่ (เพราะว่าเซลเก่าทั้งหมดตายไปแล้ว จึงเหลือแต่เซลใหม่ จึงเหมือนเป็นร่างกายใหม่แล้ว – Chayutt)

    แต่ว่า การแก่ เกิดขึ้นได้เพราะมนุษย์ไม่ได้เข้าใจถึงวิถีแห่งชีวิตและกฎแห่งชีวิต ด้วยเหตุนี้ เมื่อเซลร่างกายถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนที่เซลเก่าแล้ว ได้รับผลกระทบจากการแสดงออก และการกระทำที่ผิดต่อผู้อื่นของมนุษย์เอง และการกระทำผิดต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย มันจึงทำให้เกิดความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น เพราะว่ามนุษย์โลกทำผิดกฎข้อที่ร้ายแรงที่สุดข้อนี้ไป หากมนุษย์หยุดรับประทานเนื้อสัตว์เมื่อใด เซลร่างกายของมนุษย์จะซ่อมแซมตัวเองในวิถีทางใหม่ ที่แตกต่างไปจากที่ในขณะรับประทานเนื้อสัตว์ เมื่อนั้นมนุษย์ก็จะได้รับความรู้ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสินเชิง

    เกี่ยวกับโครงสร้างและส่วนประกอบภายในเซลร่างกายของมนุษย์เอง และมนุษย์จะรู้อย่างชัดเจนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อมแซมทางเคมีขึ้นมาใหม่อย่างไรเ ดังนั้น มนุษย์ผู้นั้นก็จะสามารถสร้างเซลร่างกายใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ง่ายๆด้วยวิธีดังกล่าวนี้ บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การแพทย์บริสุทธิ์ ซึ่งมนุษย์ผู้นั้นจะยังความอ่อนเยาว์และสดชื่นตลอดเวลา และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าบางคนดูราวกับว่าอายุ 20 กว่าๆทั้งๆที่อายุจริง 800 – 900 ปี หรือแม้แต่แก่กว่านั้นแล้วก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรากล้ายืนยันกับพวกท่านว่า หลังจากวันนั้นแล้ว จะปราศจากซึ่งความตาย จะไม่มีการตายทางกายภาพเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้วหลังจากวันนั้น มันขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของพวกท่านเอง ที่จะเข้าใจเรื่องนี้ เพราะเหตุนี้ เราจึงกำลังจะบอกกับท่านเรื่องนี้

    ความรู้ใหม่อันนี้ จะเผยตัวมันเองออกมาในหลายๆแง่มุม การแก่ของอายุที่เรากล่าวถึงนี้ มันเริ่มต้นจากความคิดของผู้นั้นเอง จากนั้นมันจึงออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เมื่อพลังแห่งความปรารถนาและความคิดก่อตัวขึ้นอย่างมหาศาล และเมื่อผู้นั้นได้ควบคุมพลังแห่งความปรารถนา และความคิดนั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ผู้นั้นก็จะสามารถบังคับให้เกิดการกระทำและสิ่งต่างๆได้เองโดยลำพัง โดยอาศัยแรงแห่งความคิดและความปรารถนาของผู้นั้นเอง นี่คือสิ่งที่มนุษย์โลกทุกวันนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ

    สิ่งนี้จะไปสร้างสภาวะของกระบวนการทำงานของชีวิตใหม่ทั้งหมด มนุษย์จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่จำเป็นต้องแลกขนมปังด้วยหยาดเหงื่อบนใบหน้าอีกต่อไปแล้ว มนุษย์ทุกๆคนจะมีอิสรภาพอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายถึงทุกๆคนจะได้รับการศึกษา ทุกๆคนสามารถเลือกที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ และสตรีเพศจะไม่ถูกกดขี่อีกต่อไป สตรีเพศจะมีอิสรภาพกว่าที่เคยเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่มีการกดขี่ข่มเหง ไม่ต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิสตรี ทุกๆคนจะเคารพสิทธิเสรีภาพของกันและกัน ทุกๆคนเท่าเทียมกัน การทำงานด้านจิตวิญญาณ หรือเราขอใช้คำว่า “งานทางวิทยาศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ” จะถูกยกระดับให้สูงขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้วิทยาศาสตร์โลกมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด อย่างที่มนุษย์ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

    ผลพวกของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าวนี้ จะทำให้มนุษย์สามารถท่องไปในอวกาศได้ มนุษย์จะสามารถไปได้ไกลและลึกเข้าไปในอวกาศ เพราะว่ามนุษย์จะได้รับอนุญาตให้เดินทางภายในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกที่ดาวเคราะห์โลกสังกัดอยู่นี้ได้ นั่นหมายถึงมนุษย์จะสามารถไปเยี่ยมดวงดาวเป็นพันๆดวงที่มีวิทยาการก้าวไกลมากกว่ามนุษย์โลกในปัจจุบันนี้ และวิทยาศาสตร์ของโลกมนุษย์ก็จะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดเร็วขึ้น แต่เราขอให้ท่านจำไว้ในใจอย่างหนึ่งว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นสร้างขึ้นในใจของมนุษย์ก่อนทั้งสิ้น ดังนั้น มันจึงมีความจำเป็นมากว่า มนุษย์จะต้องเปิดใจ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ และซื่อสัตย์ รวมถึงต้องเข้าใจในกฎแห่งจักรวาล และกฎแห่งพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงต้องเข้าใจว่าพระผู้เป็นเจ้าคืออะไรด้วย

    มีหลายคนเคยถามว่า “นั่นสิ แล้วพระผู้เป็นเจ้าคืออะไรหละ?” พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่ชายชราที่มีหนวดเครายาวเฟื้อยที่กำลังคอยจ้องมองลงมาดูเราอยู่ อย่างที่มีใครกล่าวประชดประชันเอาไว้หรอกนะ ไม่เลย มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เราได้กล่าวแล้วว่ามนุษย์โลกจะต้องใช้เวลา 1000 ปีเพื่อเลื่อนระดับทางจิตวิญญาณของตัวเองขึ้นไปอยู่ในระดับ ที่ไม่ต้องอาศัยร่างกายเนื้อนี้อีกต่อไปแล้ว เมื่อนั้นมนุษย์ก็จะอาศัยอยู่ในรูปแบบของจิตวิญญาณล้วนๆ และที่ระดับนั้น มนุษย์ก็จะเข้าใจพระผู้เป็นเจ้าในแบบที่แตกต่างจากที่เข้าใจอยู่นี้อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว พระผู้เป็นเจ้าเป็นรูปธรรมที่มีแต่จิตวิญญาณล้วนๆ พระองค์เป็นพลังงาน พระองค์เป็นพลังแห่งชีวิต พระองค์คือแหล่งกำเนิดของสรรพชีวิต และพระองค์ก็คือแหล่งกำเนิดของจักรวาลทั้งปวง หากปราศจากพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ก็ปราศจากสิ่งมีชีวิตใดๆทั้งหมด

    พระองค์ทรงสถิตอยู่ในทุกๆสิ่งและในทุกๆชีวิต นี่คือสิ่งที่เราได้เคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พระผู้เป็นเจ้าคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ พระองค์คือพลังแห่งจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อลังการ พระองค์คือพลังแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ มากเกินกว่าที่จะมีผู้ใดหยั่งรู้ได้ เราได้เคยกล่าวกับพระองค์ว่า “เราคือผู้ต้อยต่ำ” เพราะว่าหากพวกท่านสามารถออกมา (นอกจักรวาล?– Chayutt) แล้วมองดูและเห็นสิ่งที่พระองค์ได้สร้างขึ้นเหมือนกันเราได้ พวกท่านจะประจักษ์ถึงความอลังการ ของงานสรรค์สร้างของพระองค์ เพราะมันคือจักรวาลทั้งหมด และหากพวกท่านลอยกลับเข้าไปในกาแล็กซี่ที่ท่านอยู่แล้ว ท่านก็จะพบว่ามันยังมีกาแล็กซี่อื่นๆอีกมากมาย และท่านจะประจักษ์ว่ามันยังมีกาแล็กซี่อื่นๆอยู่อีกมากมายแค่ไหน

    เมื่อนั้นพวกท่านจะเข้าใจว่า จักรวาลทั้งมวลนี้มีความยิ่งใหญ่อลังการมากแค่ไหน และในจักรวาลทั้งมวลนี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงครอบคลุมจักรวาลทั้งจักรวาลอยู่ด้วยจิตวิญญาณของพระองค์ ด้วยพลังงานที่ไม่สามารถจะจับต้องและพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ได้โดยฝีมือมนุษย์ มนุษย์ไม่สามารถหาเครื่องมืออะไรมาวัดพลังงานแห่งพระผู้เป็นเจ้านี้ได้เลย แต่เมื่อใดที่เรากลับลงมาบนดาวเคราะห์โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง และพวกเราได้มีโอกาสเข้าใกล้กันมากขึ้น และหากพวกท่านเข้าใจคำพูดของเราและดำเนินชีวิตอยู่ให้สอดคล้องกับกฎแห่งจักรวาลแล้ว เมื่อนั้นพวกท่านจะสามารถเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าได้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อย่างเห็นได้ชัด และเมื่อนั้นพวกท่านก็จะมีชีวิตอยู่อย่างสุขสำราญชั่วนิรันดร์ อย่างที่มนุษย์เองยังไม่กล้าที่จะหวังเลยด้วยซ้ำไป

    แม้ว่ามนุษย์จะร้องขอการมีชีวิตแบบนั้นมานานแสนนานแล้วก็ตาม แต่ภายในส่วนลึกในใจของมนุษย์เอง ก็ยังไม่เคยเชื่อว่าชีวิตแบบนั้นมันจะมีความเป็นไปได้จริงๆ เมื่อมนุษย์พูดถึงชีวิตชั่วนิรันดร์ มันหมายถึงชีวิตหลังความตายเท่านั้น เพราะว่ามนุษย์ไม่เคยประจักษ์เลยว่า ชีวิตเป็นของนิรันดร์อยู่แล้ว จากสุดขอบของนิรันดร์กาลข้างหนึ่งไปสู่อีกข้างหนึ่ง ในวัฏสงสารแห่งการเวียนว่ายตายเกิดที่ใหญ่โตมโหฬารนี้ จากแร่ธาตุไปสู่พืชพันธุ์ จากพืชพันธุ์ไปสู่สรรพสัตว์ จากสรรพสัตว์ไปสู่มนุษย์ จากมนุษย์ไปสู่รูปธรรมที่มีแต่จิตวิญญาณล้วนๆ แล้ววนกลับเข้าไปสู่วัฏจักรที่หาที่สุดมิได้นี้ใหม่อีกครั้ง ชีวิตมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์ และจักรวาลก็มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วน่าจนอัศจรรย์ด้วย ทุกสิ่งล้วนประสานเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน และทุกสิ่งทุกอย่างก็ประสานเชื่อมโยงอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์โลกกำลังจะมีความเข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว

    มนุษย์โลกจะได้รับความช่วยเหลือโดยการถูกอพยพ ให้ขึ้นไปอยู่บนยานอวกาศนับจากวันที่โลกกลับหัว จนถึงวันที่มนุษย์จะกลับลงมาอยู่บนโลกใหม่อีกครั้ง นี่คือสาสน์แห่งความสุขที่มนุษย์เข้าใจได้ นี่คือความช่วยเหลือที่จะมอบให้แก่มนุษย์ เราได้กล่าวแล้วว่าหากผู้ใดดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎแห่งพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ผู้ที่เข้มแข็งกว่าจะช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าเสมอ และตอนนี้ความช่วยเหลือก็กำลังจะมาสู่ผู้ที่อ่อนแอกว่าในกาแล็กซี่นี้แล้ว นับจากวันนั้นไป พวกท่านก็จะดำเนินชีวิตอยู่บนวิถีทางที่แตกต่างไปจากปัจจุบันนี้โดยสิ้นเชิง พวกท่านจะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าเสมอ เพราะว่าพวกท่านจะเข้าใจกฎแห่งพระผู้เป็นเจ้า และดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องกับกฎนั้น

    ด้วยเหตุนี้ท่านจะได้ประจักษ์ถึงคุณค่าของกฎนั้นและท่านจะพบว่าดาวเคราะห์โลกเข้าถึงความมีจิตสำนึกใหม่โดยสมบูรณ์แล้ว นอกจากนั้น ดาวเคราะห์โลกของพวกท่านก็จะมีความสวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น สรรพสัตว์ทั้งหลายจะมีความสันติสุขและปรองดองกัน เพราะว่าจิตสำนึกของพวกท่าน จะนำความสันติสุขและความปรองดองกันมาสู่พวกมัน นี่คือการกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์ นี่คือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นและความหมายของมัน เมื่อตอนที่เรายังเดินอยู่บนโลกมนุษย์ เราได้สอนให้มนุษย์สวดมนต์ มันเป็นบทสวดที่เรียบง่ายและเงียบสงบมาก มันเป็นบทสวดมนต์ที่ตรงไปสู่พระผู้เป็นเจ้า มันเป็นบทสวดมนต์ที่ร้องขอต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้ทรงประทานอาณาจักรของพระองค์มายังโลกมนุษย์

    การสวดมนต์นี้ได้มีมานานแล้วจวบจนบัดนี้ ศาสนจักรได้มีส่วนทำให้การสวดมนต์นี้เป็นไปอย่างน่าพึงพอใจ แต่พวกท่านอาจจะมีคำถามว่า แล้วทำไมเราถึงได้วิจารณ์ศาสนจักรหละ? ศาสนจักรถูกเราวิจารณ์เกี่ยวกับวิถีที่ศาสนจักรกระทำบนโลกมาโดยตลอด ศาสนจักรไม่ได้ทำตัวให้เป็นผู้รับรองทางด้านจิตวิญญาณ (Spiritual Guarantor) อย่างที่มันควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว ศาสนจักรได้โน้มเอียงไปฝักใฝ่ด้านวัตถุสิ่งของ และเรื่องทางโลกมาโดยตลอด ศาสนจักรได้ร้องขอต่อพระราชา พระเจ้าจักรพรรดิ และต่อฝ่ายการเมืองมากเกินไป มากกว่าที่ร้องขอจากเราเสียอีก แต่ว่าภายในศาสนจักรเอง ก็ยังมีผู้ที่ดำเนินอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณหลงเหลืออยู่มาโดยตลอด

    อาจจะกล่าวได้ว่า คนเหล่านี้แหละที่ทำหน้าที่เป็นผู้รับรองทางจิตวิญญาณแทนศาสนจักรทั้งมวลตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และเป็นผู้ที่คอยรับสาส์นจากเรา แล้วถ่ายทอดต่อไปยังมนุษย์โลก ดังนั้นสาส์นจากเราจึงไม่เคยพลาด แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่ขอบคุณศาสนจักรอยู่ดี เพราะผู้ที่สมควรได้รับคำขอบคุณจากเราก็คือบุคคลแห่งจิตวิญญาณ ที่อยู่ภายในศาสนจักรที่เราได้กล่าวถึงแล้วนั้นต่างหาก ในบทสวดที่เราเคยสอนมนุษย์ไว้ และมีการสวดอยู่ในโบสถ์บ่อยๆ ได้อ้อนวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้ทรงประทานอาณาจักรของพระองค์มายังโลกมนุษย์นั้น บัดนี้อาณาจักรของพระองค์ จิตวิญญาณของพระองค์กำลังจะมายังโลกมนุษย์ตามคำขอนั้นแล้ว ข้อมูลนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้าที่ได้ส่งมาถึงเรา ไม่ใช่ความเข้าใจผิดของเราเองแต่อย่างใด

    เราได้เคยกล่าวไว้แล้วว่า หน้าที่ของเราคือ “ผู้รับรองทางจิตวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า”(GOD’s Spiritual Guarantor) ประจำกาแล็กซี่นี้ แต่พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของปฏิบัติการครั้งนี้ของเรา ที่เรียกว่า “การกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์”(The Second Coming of Christ) ซึ่งตอนนี้ มันใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว มันคือบทสวดที่ว่า “Thy Kingdom come which is now to be fulfilled” นี่คือสาส์นแห่งความรักสู่มนุษย์โลก พระผู้เป็นเจ้าคือความรัก พระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงเป็นสิ่งที่มีมหิทธานุภาพสูงสุด (God is The Almighty) พระองค์ทรงเป็นผู้นำทางให้แก่ทุกๆสรรพสิ่งและทุกๆสรรพชีวิต พระองค์ทรงเป็นต้นกำเนิดของชีวิต ไม่มีสิ่งใดสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากพระผู้เป็นเจ้า และเพราะด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้ ที่ใครจะทำในสิ่งที่เรากำลังจะทำต่อดาวเคราะห์โลกใบนี้ หากไม่ใช่เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง

    การล้างบาปได้ถูกปฏิบัติมานานแล้ว และมันก็ได้กลายเป็นพิธีกรรม หรือสัญลักษณ์ของการชำระล้างจิตวิญญาณไป น้ำเคยถูกใช้เป็นตัวแทนของสิ่งที่สามารถชำระล้างจิตวิญญาณและวิญญาณของผู้ที่มีความปรารถนาอย่างหมดจดและจริงใจ เพื่ออุทิศตัวเองแด่พระผู้เป็นเจ้าแต่ตอนนี้เราสามารถบอกพวกท่านได้เลยว่า พวกเรากำลังยืนอยู่ต่อหน้าพิธีการล้างบาปครั้งยิ่งใหญ่ มันเป็นการล้างบาปแบบใหม่ของมนุษย์โลก มันเป็นการล้างบาปแบบมีเงื่อนไข เพื่อเข้าไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ในแบบที่มนุษย์โลกยังไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย การล้างบาปแบบนี้ไม่ต้องใช้น้ำอีกต่อไปแต่จะใช้ "ไฟ" แทน ไฟจะถูกใช้ในพิธีล้างบาปแบบใหม่นี้ ไฟจะโหมกระหน่ำดาวเคราะห์โลกใบนี้ โลกจะถูกชำระให้บริสุทธิ์ด้วยไฟ

    แต่สำหรับผู้ที่ได้ยิน “พระสุระเสียง” และผู้ที่ต้องการได้ยิน “พระสุระเสียง” เช่นเดียวกับเรา ก็จะถูกอพยพขึ้นไปอยู่บนอากาศ และจะได้มีโอกาสอยู่เป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ที่จะถูกทำความสะอาดและชำระล้างให้บริสุทธิ์ด้วยไฟ หลังจากนั้นแล้วเขาก็จะถูกนำกลับลงมาอยู่บนโลกใบนี้ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไป แต่ในวิถีทางแห่งจิตวิญญาณ และความรู้-ความเข้าใจใหม่อย่างสิ้นเชิง เขาจะมีส่วนร่วมกับเราและพวกของเรา และจากนั้นก็จะได้มีส่วนร่วมกับพระผู้เป็นเจ้าต่อไปด้วย และเมื่อนั้นอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ก็จะเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์นี้อย่างแท้จริง หากพวกท่านหันมามองดูตัวท่านเองที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติแล้ว พวกท่านก็จะสัมผัสได้ถึงความหลากหลายอย่างไม่มีประมาณของรูปแบบชีวิตที่มีอยู่บนโลกใบนี้

    ทุกๆรูปแบบชีวิตล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าด้วยกันทั้งสิ้น ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่พวกท่านมองเห็นล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระองค์ ด้วยพลังและด้วยจิตวิญญาณของพระองค์ เมื่อใดที่พระผู้เป็นเจ้าต้องการให้รูปแบบชีวิตใดเปลี่ยนจากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง มันก็จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรงรวดเร็วเลยทีเดียว เมื่อมนุษย์โลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นก็คงได้แต่สงสัย เพราะมนุษย์ไม่เคยสามารถอธิบายและไม่สามารถเข้าใจปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ได้เลย ดังนั้น พวกมนุษย์ก็ได้แต่เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “การผ่าเหล่า” ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นการกระโดดข้ามขั้นวิวัฒนาการของชีวิต บนเส้นทางแห่งวิวัฒนาการที่มุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า

    ซึ่งบนเส้นทางนี้ ยิ่งเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความเข้าใจในพระผู้เป็นเจ้า และชีวิตที่ประกอบไปด้วยจิตวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งๆขึ้นเท่านั้นด้วย การผ่าเหล่าเช่นนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับมนุษย์โลก จะเป็นการผ่าเหล่าทางจิตวิญญาณ ความช่วยเหลือกำลังจะมาจากเบื้องบน เพื่อช่วยให้มนุษย์ได้เข้าใจคุณค่าของกฎของพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น ชาวโลกได้รู้จักกฎของพระผู้เป็นเจ้ามานานหลายพันปีแล้ว โดยครั้งแรกผ่านทางบัญญัติสิบประการของโมเสส (Moses) จากนั้นก็เป็นการเขียนโดย 4 ผู้สอนศาสนาคริสต์ ถูกต้องแล้ว มันอยู่ในนั้นทั้งหมดแล้ว เมื่อใดที่มนุษย์เข้าใจมัน และประจักษ์แจ้งถึงความหมายของมัน แล้วพยายามที่จะดำเนินชีวิตให้สอดคล้องไปกับมัน อย่างหมดจดและไม่ขาดตกบกพร่อง

    เมื่อนั้นมนุษย์ก็จะพบกับการผ่าเหล่าทางจิตวิญญาณ และมันจะเกิดขึ้นรวดเร็วมาก มนุษย์โลกที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ จะบรรลุการผ่าเหล่าทางจิตวิญญาณ และจะกลับมาดำเนินชีวิตอยู่บนโลกด้วยวิถีทางใหม่อย่างสิ้นเชิง และด้วยความรู้ใหม่อย่างสิ้นเชิง และด้วยความช่วยเหลือจากภายนอกโลกที่ส่งตรงมาจากเรา ดังนั้น ดาวเคราะห์โลกใบนี้ ก็จะมีความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง สามารถผลิตสิ่งที่จำเป็นอะไรก็ได้ จิตวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า จะคุ้มครองทุกๆสิ่งทุกๆอย่างและทุกๆชีวิต จิตวิญญาณของพระองค์จะช่วยเหลือพวกเราให้บรรลุถึงระดับที่พวกเราควรจะบรรลุด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกๆชีวิตบนโลกจะได้รับอิทธิพลจากสิ่งนี้ เมื่อเรากล่าวว่าทุกๆชีวิตบนโลกจะได้รับอิทธิพลจากมัน อาจจะฟังดูแปลกๆสำหรับมนุษย์บางคน

    แต่จงย้อนระลึกถึงข้อความในพระคัมภีร์เก่า (The Old Scripture) ที่ว่า “สิงโตจะกินหญ้าร่วมกันกับแกะ” สิ่งนี้มันจะกลายเป็นความจริง สิ่งนี้จะทำให้พวกท่านประจักษ์แจ้งถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นว่า หากดาวเคราะห์ดวงใดถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้วความเข้าใจก็จะสมบูรณ์แบบขึ้น มนุษย์จะดำเนินชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะว่ามนุษย์จะสามารถจัดการทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง และทุกๆชีวิตที่อยู่รอบๆตัวเขาในอันที่จะทำให้เกิดความสันติสุขและความกลมเกลียวกันได้ทั้งหมด การฆ่าจะไม่มีอีกต่อไป จะไม่มีสัตว์ตัวใดที่ต้องทุกข์ทรมานเพราะการถูกทำร้ายอีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่อย่างสงบสุขและกลมเกลียวกัน

    ความเข้าใจทางด้านจิตวิญญาณจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าใดนัก แต่ก็จะถูกยกระดับขึ้นสูงพอที่จะทำให้มนุษย์ ดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ประดุจดังอยู่บนสวรรค์จริงๆอย่างที่มนุษย์โลกเองไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลย เพราะเหตุนี้ จึงควรที่จะเข้าใจว่ามันคืออะไร และจะเป็นไปอย่างไร มีการกล่าวถึงความหายนะมานานแล้ว แต่เราอยากบอกความจริงกับพวกท่าน อย่างที่เราเคยกล่าวไว้แล้วว่า “ไม่มีสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาสิ่งใดเลย ที่จะสูญหายไป” มีเพียงค่าปรับเดียวที่จะเกิดขึ้นคือ มนุษย์โลกจำนวนมาก จะต้องเสียโอกาสที่จะได้เข้าถึงระดับดังกล่าวในเวลานั้น แต่ว่าหลังจากนั้นก็จะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างไปค่อนข้างมากเกิดขึ้นกับพวกเขา

    เราได้กล่าวแล้วว่ามันกำลังจะมีการชำระล้างทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลก และผู้ใดก็ตามที่ไม่สามารถผ่านเงื่อนไขทั้งหมดได้ ก็จะต้องตายอยู่บนโลกใบนี้ มันค่อนข้างชัดเจน แต่แน่นอนว่า พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้สูญหายไปจากพระผู้เป็นเจ้าแต่อย่างใด เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสูญหายไปจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตอยู่กับมนุษย์ทุกคนเสมอ เช่นเดียวกับที่ทรงสถิตอยู่กับทุกๆสรรพชีวิต ชีวิตยังจะดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบ ตราบชั่วนิรันดร์ เพียงแต่ว่ามันจะเปลี่ยนไปดำเนินอยู่ที่อื่นและในระดับอื่นๆ ตามแต่คุณสมบัติของมนุษย์ผู้นั้น ว่าจะไปเหมาะสมลงตัวกับระดับวิวัฒนาการใด อาจจะกล่าวได้ว่า มนุษย์ที่ตายไปจะสูญเสียความเป็นมนุษย์ในปัจจุบันนี้ไป แล้วไปดำเนินชีวิตอยู่ในรูปแบบชีวิตรูปแบบอื่นๆ

    แต่อย่างไรก็ตามจงรอคอยดูการกลับมาครั้งที่สองของเราว่ามันคือความจริง เมื่อนั้นพวกท่านจะพบว่า มันคือการสูญเสียในท้ายที่สุด ลองจินตนาการดูว่าตัวท่านกำลังยืนอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งบนบันไดขึ้นที่สี่ แล้วอยู่ๆเพื่อนของท่านก็ก้าวขึ้นไปอยู่บนขึ้นที่สูงกว่าทันที ทิ้งท่านไว้เบื้องหลังซึ่งอยู่บนบันไดขั้นที่ต่ำกว่า นั่นแหละท่านก็จะถูกทิ้งไว้แบบนั้นแหละ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ไม่ได้กำลังกล่าวถึงระดับขั้นเล็กๆน้อยๆหรือจิ๊บๆจ๊อยๆแต่ประการใดเลย เพราะว่าแม้แต่วิวัฒนาการทางจิตวิญญาณเพียงจิ๊บๆจ๊อยๆของมนุษย์ มนุษย์ยังต้องใช้เวลาตั้งหลายพันปีกว่าจะไปถึงได้ แต่ว่าครั้งนี้พวกท่านกำลังจะได้บรรลุถึงโลกทัศน์ใหม่ๆมากมายอย่างแท้จริง โลกทัศน์ที่มนุษย์ยังไม่เคยมี และไม่สามารถจะมีได้มาก่อน

    โลกทัศน์ใหม่นี้ทำให้มีความเป็นไปได้สำหรับมนุษย์ ที่จะสามารถได้มาซึ่งความรู้ที่ยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งมนุษย์จะต้องมีระดับวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณสูงเพียงพอเสียก่อน จึงจะได้รับความไว้วางใจให้มีความรู้ระดับนี้ได้ เราจำเป็นต้องเตือนพวกท่าน ถึงจุดยืนของพวกท่านในทุกวันนี้ว่า ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทุกวันนี้ ก้าวหน้าไปไกลเกินกว่าวุฒิภาวะทางจิตวิญญาณของมนุษย์จะสามารถควบคุมมันได้แล้ว มนุษย์ได้มาถึงจุดที่ไม่สามารถก้าวหน้าไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว มนุษย์ได้มาถึงจุดที่วิทยาศาสตร์พัฒนาไปเร็วกว่าจิตวิญญาณ มนุษย์ทุกวันนี้จึงสามารถที่จะทำลายล้างทั้งชีวิตของตัวเองและชีวิตของผู้อื่นบนดาวเคราะห์โลกใบนี้ได้ และไม่เพียงเท่านั้น มนุษย์ยังมีความสามารถที่จะทำให้จักรวาลปั่นป่วนได้อีกด้วย

    มนุษย์สามารถรบกวนกาแล็กซี่ที่ตัวเองอยู่ได้ ซึ่งสิ่งนี้มันจะต้องไม่เกิดขึ้น เพราะว่ามนุษย์จะไปก่อความเดือดร้อนและรบกวนรูปธรรมชีวิตบนดาวดวงอื่นๆ และในระดับอื่นๆ เพราะกฎข้อนี้ห้ามไว้อย่างตรงไปตรงมา และเพราะว่าคำพยากรณ์ที่มีมานานแล้วได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว หมายถึงคำพยากรณ์ที่ว่า “ความรู้และสรรพศาสตร์ของมนุษย์จะก้าวไกล และหลากหลาย” คำพยากรณ์ได้ถูกเขียนขึ้นมานานแล้ว และเราคิดว่าพวกท่านคงได้เห็นถึงความก้าวหน้าที่ว่านี้กันแล้ว ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันนี้ยิ่งใหญ่มากและทำให้มนุษย์มีศักยภาพพอที่จะทำในสิ่งที่ตนเองไม่มีความเจริญทางจิตวิญญาณมากพอ ที่จะควบคุมมันได้ ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินตามเส้นทางที่กำลังเดินอยู่นี้ต่อไป

    มนุษย์จำเป็นจะต้องถูกยกระดับทางจิตวิญญาณขึ้นก่อน ก่อนที่จะดำเนินตามเส้นทางแห่งความรู้ที่ตนเองมีอยู่แล้วต่อไปได้ นี่ยังไม่ได้หมายถึงความรู้ที่มนุษย์กำลังจะมีในภายภาคหน้า มันง่ายอย่างนั้นเลยหละ และมันก็เป็นเช่นนั้นเอง นี่คือสาส์นแห่งความสุข คือการเกิดใหม่ทางจิตวิญญาณของมนุษย์ชาติ ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะผู้คนจำนวนหมื่น หรือจำนวนแสน แต่มันหมายถึงผู้คนหลายล้านคน ที่จะถูกยกระดับขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงขั้นและมีวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากวิถีชีวิตเดิมอย่างสิ้นเชิง วิถีชีวิตที่จะมีความสุขอย่างแท้จริง วิถีชีวิตที่มนุษย์จะรู้สึกสำนึกในบุญคุณของชีวิต มันคือสิ่งที่พวกท่านก็ทราบแล้วว่ามันไม่เหมือนกับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นับจากนั้นไป ทุกๆคนจะต้องรู้สึกสำนึกในบุญคุณของชีวิต ตระหนักรู้ว่าชีวิตคืออะไร ใครคือผู้ที่ประทานชีวิตนี้มาให้ และนั่นจะทำให้เกิดการปรับปรุงตัวเองโดยความสมัครใจและเชื่อฟัง

    ชาวโลกหลายคนได้เคยอ่านเรื่องราวของดาววีนัสมาแล้ว บนดาววีนัสมีจิตสำนึกอยู่ในระดับสูงกว่าดาวเคราะห์โลก และเมื่อเรากล่าวถึงจิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกและดาววีนัส ก็ขอให้เข้าใจว่า หากพวกท่านนำเอาค่าเฉลี่ยของจิตสำนึกของมนุษย์โลกมา ก็จะได้จิตสำนึกของโลก จิตสำนึกของดาววีนัสอยู่ในระดับสูงกว่าของโลก หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ผู้คนบนดาววีนัสมีความเข้าใจ และดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎของพระผู้เป็นเจ้า สภาวะนี้เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิตที่แตกต่างไป ในท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ยังหมายถึง พวกเขาสามารถท่องอวกาศได้ พวกเขาได้รับอนุญาตให้ท่องไปในอวกาศ ในขณะที่มนุษย์โลกยังไม่ได้รับอนุญาต จึงไม่สามารถท่องไปในอวกาศได้ มนุษย์ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปได้แค่รอบๆชั้นบรรยากาศของโลกเท่านั้น แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปได้ไกลถึงในอวกาศ ในสภาวะทางจิตวิญญาณและศักยภาพเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้

    ชาวดาววีนัสรู้ว่าจะปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้กฎแห่งพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร แต่กฎเดียวกันนี้ก็ถูกเขียนขึ้นสำหรับมนุษย์โลกด้วยเช่นเดียวกัน หากแม้นเพียงแต่มนุษย์โลกเคารพเชื่อฟังกฎดังกล่าวนี้ มนุษย์โลกก็จะสามารถเป็นได้ เหมือนสังคมของชาวดาววีนัสโดยไม่ยากเลย แต่อย่างไรก็ตาม เพียงแค่อ่านในคัมภีร์ไบเบิ้ลของพวกท่าน เพราะมันได้เขียนเอาไว้หมดแล้วว่าควรดำเนินชีวิตอย่างไร มันอยู่ในนั้นหมดแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ การทำให้กฎแห่งพระผู้เป็นเจ้าบรรลุเป้าหมาย เราได้เคยกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า มนุษย์โลกได้มาถึงจุดที่ไม่สามารถควบคุมความรู้ของตนเองด้วยสภาวะของระดับจิตวิญญาณที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ มนุษย์ได้มาไกลเกินไปแล้ว เกินกว่าที่จะสามารถเดินต่อไปบนเส้นทางที่กำลังดำเนินอยู่นี้ได้อีก แบบที่มีชีวิตรอดอยู่

    แต่มนุษย์ก็มีทางเลือกอิสระเป็นของตนเอง เพราะเหตุนี้มนุษย์จึงได้รับอนุญาตให้เดินมาไกลอย่างนี้ได้ และก็เพราะด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ มนุษย์จะได้รับอนุญาตให้เดินต่อไปไกลที่สุด มนุษย์จะได้รับอนุญาตให้แสดงออกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจผิดของมนุษย์เอง มนุษย์จะได้รับอนุญาตให้พุ่งความเกลียดชังมาสู่มนุษย์ด้วยกันเอง มนุษย์จะได้รับอนุญาตให้ต้องได้รับความเจ็บปวดเพราะความเกลียดชังที่ต่างฝ่ายต่างก็สร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งสิ่งนี้เองจะนำไปสู่เหตุการณ์สยดสยองที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ สิ่งนี้จะนำไปสู่ สงครามนิวเคลียร์ ซึ่งจะสร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่เพราะว่ากฎแห่งพระผู้เป็นเจ้าไม่อนุญาตให้ผู้ใดรบกวนจักรวาลได้ พวกเราจึงจะไม่ไปรบกวน

    แต่ในทางตรงกันข้าม พวกเราจะมาช่วยเหลือมนุษย์ เพราะนอกจากเหตุผลอื่นๆแล้ว พวกเรายังมีเหตุผลที่ว่า มนุษย์เองได้ร้องขอให้พวกเราช่วยเหลือ เพราะว่ามีมนุษย์มากมายบนโลกที่ยินยอมให้พวกเรามาช่วย แต่การช่วยเหลือครั้งนี้ ก็จะเกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ที่ยินยอมให้พวกเราช่วยเหลือด้วยความสมัครใจเท่านั้น เมื่อความสิ้นหวังมาถึงจุดสูงสุด พวกเราจะลงมาจากอวกาศ ในลักษณะที่จะทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจได้ ชาวโลกจะเห็นพวกเรา ได้ยินเสียงพวกเรา และสัมผัสพวกเราได้ พวกเราจะหยุดสงครามที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เร็วดุจสายฟ้าฟาด มันจะเกิดขึ้นเร็วมากแค่วินาทีเดียว แล้วต่อจากนั้นพวกเราก็จะอพยพชาวโลกที่เหลือรอดชีวิตอยู่บนโลกขึ้นไปอยู่ในยานอวกาศขนาดใหญ่ ที่ลอยประจำการอยู่ในภารกิจนี้จำนวนมากมาย

    ทุกสิ่งทุกอย่างในปฏิบัติการครั้งนี้ได้ถูกคำนวณและถูกวางแผนมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว หลังจากการอพยพ โลกก็จะเริ่มกลับหัวลง ตอนนั้นโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง พืนผิวโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วย ชาวโลกจะจดจำสภาพของโลกของตนเองไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาจะทำได้แค่ต้องสร้างโลกใหม่เท่านั้น การกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในวินาทีเดียว มันรวดเร็วอย่างนั้นเลยหละ ประดุจฟ้าแลบ เมื่อการกลับหัวของโลกเสร็จสิ้นลงแล้ว มันก็จะชำระสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาทั้งหลายที่มนุษย์โลก เป็นผู้ยัดเยียดให้กับมันออกไปจนสะอาด เพื่อให้มีสภาวะที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แล้วจากนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็จะถูกนำกลับลงมายังโลกใหม่อีกครั้ง

    พืชพันธุ์ต่างๆก็จะงอกในไม่ช้า สรรพสัตว์และนกต่างๆก็จะปรากฏขึ้นมาใหม่ และมนุษย์โลกก็จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ในการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ภายในระยะ 6 เดือน งานซ่อมแซมส่วนใหญ่จะเสร็จสิ้นจนเพียงพอและเหมาะสมที่จะใช้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์โลกได้แล้ว ในวิถีใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในขณะเดียวกันมนุษย์จะได้รับอนุญาตให้ท่องอวกาศได้และจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้ในปัจจุบันนี้ และมนุษย์จะได้รับสิ่งของต่างๆจาก”ภายนอกโลก”ที่มนุษย์ทุกวันนี้ยากที่จะเชื่อว่ามีตัวตนอยู่จริง การกลับลงมาจากยานอวกาศของมนุษย์โลก มนุษย์จะเลือกตั้งถิ่นฐานในที่ๆตนเองพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆในโลกก็ตาม

    ไม่ว่าในปัจจุบันนี้จะเคยอยู่ตรงจุดไหนบนโลกนี้ก็ตาม เมื่อถึงเวลานั้น ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนแปลงจนแตกต่างจากเดิมไปหมด หรือไม่ว่าจะอ้างอิงด้วยเส้นรุ้งและเส้นแวงก็ตาม ในเวลานั้นมันก็จะไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือจิตวิญญาณ ที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์โลกแต่ละคนต่างหาก ดังนั้น พวกท่านจะได้เห็นว่า สถานที่บนโลกที่ท่านจะได้กลับลงมาอยู่มันช่างมีความสำคัญน้อยนิดเหลือเกิน เพราะมันใหม่ไปซะทุกอย่าง

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตร...และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-10

    หมายเหตุ

    เรื่องพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและสร้างทุกสรรพสิ่งนี้ เป็นความเชื่อของมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่พระพุทธเจ้าของเรา ได้ทรงตรัสสอนเอาไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ด้วยเหตุและปัจจัยในตัวของมันเอง มิได้มีผู้ใดเป็นผู้สร้างหรือดลบันดาลให้เกิดขึ้นมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ท่านผู้อ่านต้องเข้าใจว่า มนุษย์ต่างดาวก็เป็นเหมือนกับมนุษย์โลกทั่วไป คือยังมีกิเลส มีโมหะคือความหลงผิดอยู่เช่นเดียวกับมนุษย์โลก

    ดังนั้นการอ่านข้อความใดๆ ที่มนุษย์ต่างด่างส่งมายังมนุษย์โลกนั้น จึงต้องสติปัญญาของเรา พิจารณาถึงเหตุและผลของความเป็นจริงต่างๆ ว่าสมควรจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใดด้วย คือต้องประมวลข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ เข้ามาประกอบกันไปด้วย ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ว่าพอเห็นเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้ว เขาจะบอกอะไรมาก็เชื่อว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปหมดเสียทุกอย่าง เพราะเรื่องบางอย่างเขาอาจจะปิดบังความจริงเอาไว้ก็ได้ เหมือนๆกับที่องค์การนาซ่าของสหรัฐอเมริกา ปิดบังความจริงเรื่องของมนุษย์ต่างดาวนี้เอาไว้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • obr2426.jpg
      obr2426.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.7 KB
      เปิดดู:
      947
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อมูลที่สอดคล้องตรงกัน !!!

    *** นิมิต...ดวงอาทิตย์ระเบิด ****

    ๑. บันทึกภาพ....
    แสงสีรุ้ง รอบศรีษะชายคนหนึ่ง

    ๒. มองฟ้าบนหัว ดวงอาทิตย์ระเบิดครั้งยิ่งใหญ่...ขยายวงคลุมทั่วท้องฟ้า
    ลูกไฟมากมาย ตกจากท้องฟ้าไปทั่ว....รีบเข้าโบสถ์ สวดมนต์

    ๓. สิ่งที่เราเห็น แต่คนอื่นไม่เห็น...
    เหนือพื้นที่แห่งหนึ่งในฝรั่งเศส บนท้องฟ้ามีวัตถุเล็ก มีสายเล็กๆโยง
    มองไปตามสายโยง มียานทรงกลมใสพลางกับท้องฟ้า จอดลอยเทือกเขา
    มีขนาดมหึมามโหฬาร แค่ส่วนโค้งด้านล่าง บดบังไปเกินครึ่งท้องฟ้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    ๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕

    Unidentified Flying Object ( UFO)

    เรื่องยานอวกาศนอกโลก ผมเคยได้รับสัญญาณมาในปี พ.ศ.2546 ในนิมิต
    ทั้งสองครั้ง ครั้งแรกจะเป็นการต่อสู่ของทางโลกกับจานบินนอกโลก ส่วนครั้ง
    ที่สองผมเห็นยานอวกาศรูปร่างแปลกๆ เต็มท้องฟ้าไปหมด ผมยังคิดว่าตัวเอง
    ฝันเลอะเทอะ

    k_97 วันที่ 3 ก.ย.53

    ข้อมูลจากเพื่อนต่างดาว

    เราได้กล่าวไปแล้วว่าโลกจะหยุดหมุนหนึ่งวินาที และโลกก็จะหยุดหมุนหนึ่งวินาที จากนั้นมันก็จะหมุนต่อไป จากนั้นโลกก็จะคว่ำหัวลงแบบง่ายๆ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ด้านต่างๆของโลกเปลี่ยนสลับกันไปโดยสิ้นเชิง และเราก็ได้กล่าวไปแล้วด้วยว่า ในขณะที่เหตุการณ์นี้กำลังเกิดขึ้น ชาวโลกจำนวนมากมาย จะถูกอพยพขึ้นไปอยู่บนยานอวกาศขนาดใหญ่จำนวนมากมาย ซึ่งท่านก็รู้ถึงขนาดความมหึมาของยานเหล่านี้แล้ว แต่เราอยากจะเตือนความจำพวกท่านด้วยว่า เมื่อมนุษย์โลกกลับลงมายังโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง มันจะเหลือแต่ความว่างเปล่า และความแห้งแล้ง ปราศจากพืชพันธุ์ ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำอะไรได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...