ขอปรึกษาปัญหาชีวิต ฆ่าตัวตาย-จิตตก-กลัวคน

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย สนามหญ้า, 2 ธันวาคม 2012.

  1. สนามหญ้า

    สนามหญ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +24
    เรื่องของฉันคงไม่เหมือนใคร ฉันกับสามีอยู่ด้วยกันมา26ปีสุขบ้างทุกข์ตามประสาตอนอยู่ด้วยกันใหม่ๆ พ่อแม่สามีไม่ชอบฉัน
    เราจึงแยกไปอยู่ด้วยกัน2คน ชีวิตช่วงนั้นลำบากมากแต่ก็อดทน 1ปีต่อมาฉันตั้งท้อง แม่สามีรู้ก็ให้เอาออกแต่สามีไม่ยอมฉัน
    คลอดลูกมาลำบากมาก เงินไม่มีจะเลี้ยงลูกสามีต้องออกไปรับจ้างทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา อดทนจน5ปีผ่านไป พ่อแม่
    สามีก็ใจอ่อนรับพวกเราเข้ามาอยู่ในบ้านเพราะหลานน่ารัก ช่วงนั้นสบายขึ้นมาบ้างเพราะพ่อแม่สามีเป็นคนมีเงิน หลายปีผ่าน
    ไปพ่อสามีเสียชีวิต สามีได้รับมรดกเป็นที่ดินและเงินหลายล้าน และช่วงความสุขที่สุดก็มาถึง อาจเพราะสามีลำบากมามาก
    จึงใช้ซื้อความสุขอย่างฟุมเฟื่อย อยากได้อะไรก็ซื้อ เมียอยากได้อะไร ลูกอย่างได้อะไร ซื้อให้หมด พอมีเงินเพื่อนก็เยอะ มีคน
    คนมาชวนลงทุนทำโน้นทำนี่สามีก็ทำหมด แต่สุดท้ายก็โดนหลอกโดนโกง จนวันหนึ่งสามีล้มป่วยลง หมอตรวจพบว่าเป็น
    โรคหัวใจ และตอนนี้ก็หมดจริงๆ ทั้งที่ดิน ทั้งรถ เพราะต้องขายเพื่อเอาเงินมารักษาชีวิตเขา
    อยู่กับสภาพชีวิตติดลบมา5ปี จับมือสู่ชีวิตกันมาโดยไม่คิดจะทิ้งกัน จนลูกสาวจบ ป. ตรี มีงานทำมีรายได้เดือนละ3หมื่น
    กว่าบาท ชีวิตเริ่มมีความสุขขึ้นมาบ้าง ต้นเดือนมิ.ย55ลูกสาวถูกเรียกตัวมาเรียนต่อ ป.โท ต้องออกจากงานประจำรายได้ที่มี
    เดือนละ3หมื่นกว่าบาทก็หายไป เหลือแต่งานพิเศษที่ได้เงินเพียง 7-8พันต่อเดือน ถึงตอนนี้สามีเริ่มเครียด การเงินเริ่มติดขัด
    แล้ววันหนึ่งสามีก็บอกจะออกไปหาเพื่อน จะไปหางานทำ พอกลับมาจากหาเพื่อนสามีก็ดูแปลกๆไป พูดกับฉันน้อยลงชอบ
    แอบไปนั่งคิดอะไรคนเดียว
    พอเดือน ต.ค55สามีก็เดินออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว โทรไปก็ไม่รับตามหาบ้านเพื่อนก็ไม่เจอ
    ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ ฉันเครียดมากจนนอนไม่หลับ กินยาเกินขนาดจนต้องส่งร.พ เกือบตายแต่ไม่ตาย ที่นี่ลูกสาวก็ส่งข้อ
    ความไปบอกว่าแม่ไม่สบาย ครั้งนี้เขาส่งข้อความกลับมาบอกว่า " เป็นอะไรไม่ต้องบอกกู กูไม่กล้บไปแล้ว" ฉันเลยงงว่าเป็น
    เพราะอะไร ตอนเขาเดินออกจากบ้านไปก็ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่มีเรื่องอะไรกันเลย ตอนเช้ายังกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข
    อยู่เลย แถมยังป้อนข้าวฉัน บอกว่าเดี๋ยวนี้ฉันผอมมากให้ฉันกินข้าวเยอะๆ
    รับสภาพไม่ได้ ฉันฆ่าตัวตายอีกครั้ง คราวนี้ใช้วิธีผูกคอตาย แต่ก็รอดอีกเพราะลูกสาวกลับมาเจอ เขาร้องไห้อย่างหนักแล้ว
    พูดว่า "หนูต้องมาเจอแม่หายใจรวยรินอีกกี่ครั้ง" หนูไม่ไหวแล้วนะพ่อก็ทิ้งหนูไปคนหนึ่งแล้ว แม่จะทิ้งหนูไปอีกคนหนึ่งหรือ
    แล้วหนูจะอยู่กับใคร ตอนนี้เราเหลือกันแค่2คนแล้วนะเห็นน้ำตาลูกแล้วทำให้ฉันได้คิด เราทำบ้าอะไรเนี่ย แล้วฉันก็ก้มลง
    กราบพระตั้งสัจจะอธิฐานว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่คิดฆ่าตัวตายอีกแล้ว จะอยู่เพื่อลูก
    เริ่มหันมาสวดมนต์ นั่งสมาธิแต่ก็ไม่เคยสงบ ในใจมีแต่ร้อนลุ่ม เพราะหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมสามีจึงทิ้งไป เพราะปกติสามี
    เป็นคนรักครอบครัว รักลูกสาวมาก แถมออกไปก็เอาเงินไปหมด แต่ข้าวของอย่างอื่นไม่ได้เอาไปเลย ตอนนี้ที่เขาเหลือทิ้ง
    ไว้ให้ฉันกับลูกก็คือหนี้สินและภาระค่าใช้จ่ายในบ้านที่ลูกสาวต้องมารับผิดชอบแทนทั้งหมด
    ทุกวันนี้ฉันกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่พูดคุยกับใครจะคุยกับลูกสาวคนเดียว กลัวการเผชิญหน้าไม่กล้าแม้จะออกจากบ้านไป
    ไหนเพราะกลัวคนจะถามถึงสามี ไม่รู้จะตอบคำถามว่าอย่างไร กลัวว่าจะได้ข่าวว่าเขาไปอยู่กับคนอื่นกลัวแม้แสงสว่างของ
    พระอาทิตย์ ถ้าลูกสาวออกไปทำงานหรือไปเรียน ก็จะเก็บตัวอยู่ในห้องมืดๆนั่งสวดมนต์สลับกับร้องไห้ ตอนนี้รู้ว่าจิตตกน่าดู
    ขอคำแนะนำหน่อยค่ะว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป
     
  2. สุดขอบฟ้า

    สุดขอบฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +127
    ถ้าคุณไม่ลุกขึ้นมาสู้ คุณก็ไม่รู้ว่าชัยชนะมีอยู่จริง และมันรอคุณอยู่นะคะ
    เอาชนะใจตัวเองสักครั้ง โดยเริ่มจกการเปิดประตูออกมาเผชิญกับโลกข้างนอก
    แล้วคุณจะรู้ว่า มันไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่คุณคิดนะคะ
    นะคะ ลองดูก่อน เอาใจช่วยนะคะ สู้ ๆๆๆ ค่ะ
    อย่างน้อยเพื่อลูกค่ะ
     
  3. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    ก็คงต้องตั้งสติ มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสงบ มีขันติ อดทน อดกลั้น
    ขอยกบทความ บทความธรรม ของ พระมิตซูโอะ ลองพิจารณาดูค่ะ



    “ผู้ใดยึดในทุกข์ ก็จะประดุจโดนงูเห่ากัด
    ผู้ใดยึดในสุขก็เสมือนจับงูเห่าข้างหาง
    และจะโดนมันแว้งกัดเอาในภายหลัง”


    ดังนั้น ความสุขกับความทุกข์ อารมณ์ชอบใจกับไม่ชอบใจนั้น จึงมีค่าเท่ากัน ถ้าหลงยึดเข้าแล้วก็ให้โทษแก่เราเหมือนๆ กัน เมื่อเราคุ้มครองจิตโดยอาศัย สติดี สัมปชัญญะดี ความพากเพียรถูกต้อง พรั่งพร้อมด้วยความเกรงกลัว ความละอายต่อบาป และความอดทนอดกลั้น
    ต่ออารมณ์ที่รุนแรงแล้ว เราย่อมจะเป็นผู้อยู่เหนืออารมณ์ ด้วยจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบาน รู้ว่า โลกธรรม ๘ เกิดขึ้นแล้วก็จะดับไป โดยที่ใจของเราไม่เกิดความหวั่นไหวคล้อยตามไปด้วย เปรียบเหมือนเราอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย และอบอุ่น ไม่ว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร ฝนจะตกหรือแดดจะออก อากาศจะร้อน หรือหนาว บรรยากาศจะสงบนิ่งหรือมีพายุจัดเราเพียงแต่มองดูความเป็นไปจากทางหน้าต่างเท่านั้น
    โลกธรรมที่เกิดขึ้นกับเราก็เหมือนธรรมชาติ เหมือนลมฟ้าอากาศ เป็นสิ่งไม่อยู่ในอำนาจการควบคุมของเรา เราทำได้แต่เพียงพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง แล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่างนั้น
    แต่บางครั้งบ้านของเราก็เกือบจะพังเหมือนกัน เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา ได้รับทุกข์ บางครั้งเราก็ถูกกระทบจากสิ่งเหล่านี้อย่างรุนแรง แต่เราก็ต้องอดทน และให้เวลาเป็นเครื่องแท้แม้จะเกิดความฟุ้งซ่านวุ่นวาย ความเดือนร้อนใจเพียงใดก็ตามให้ตั้งสติ พิจารณาทบทวนความคิดของตัวเองให้ถูกต้อง

    ที่มา. หนังสือ ๓๖ พรรษาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    โดย. พระอาจรย์มิตซูโอะ คเวสโก
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ไม่ได้มีแต่คุณหรอกนะที่กลัว คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว ตอน
    มีชีวิตก็กลัวการมีชีวิต กลัวที่จะเผชิญกับความจริง ตอนใกล้ตายก็กลัวความตาย เรียก
    ว่าทั้งชีวิตอยู่ด้วยความกลัว มันไม่ต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ เพียงแต่คุณต้องเข้าใจความ
    กลัว มันมีอยู่แค่ 3 อย่างเท่านั้น 1.กลัวว่าจะสูญเสียในสิ่งที่มีอยู่ 2.กลัวว่าจะไม่ได้ใน
    สิ่งที่เราอยากได้ 3.กลัวว่าถ้าเราไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วเราจะไม่มีความสุข คุณลอง
    นั่งดูสิว่าความกลัวทุกอย่างของคุณมันอยู่ในข้อไหนบ้าง เมื่อคุณเข้าใจความกลัวคุณจะ
    เข้าใจว่าคุณจะแก้ที่ความกลัวไม่ได้ จะต้องแก้ที่เหตุของมันแทน คือการอยากได้ใน
    ของรักนั่นแหละ อยากประสบแต่สิ่งชอบใจ แทนจะมองว่าเรากลัวอะไรให้เปลี่ยนมามอง
    ว่าเราอยากได้ในของรักอะไรบ้าง อยากประสบในสิ่งที่ชอบใจอะไรบ้าง ไม่อยากประสบ
    ในสิ่งไม่ชอบใจอะไรบ้าง ลองหาให้เจอว่าคุณคาดหวังไปกับอะไรบ้าง แล้วแก้มันตรง
    นั้นแทน แก้ที่ความคาดหวังนั่นแหละ ที่คุณทุกข์เพราะคุณไม่ได้ในสิ่งที่คุณคาดหวัง
    ฝึกการมองสิ่งต่างๆ ว่ามันไม่เที่ยง สิ่งต่างๆ มันเป็นไปตามใจเราไม่ได้ ถึงมันเป็นไปตาม
    ใจเราได้มันก็จะแปรเปลี่ยนไปอยู่ดี เพราะมันเป็นทุกข์คงสภาพเดิมไม่ได้ ต้องเปลี่ยน
    ไปตามเหตุและปัจจัย ไม่สามารถควบคุมได้ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ให้ฝึกมองอย่างนี้กับทุก
    เรื่องที่ทำให้คุณทุกข์เลย ฝึกมองบ่อยๆ ทุกข์เมื่อไหร่ให้รู้ว่าเพราะเรายังคาดหวังอยู่
    ต้องเตือนตัวเองว่าอย่าได้คาดหวังกับอะไรเลย ฝึกมองแบบนี้บ่อยๆ ก็จะปล่อยวางได้
     
  5. สนามหญ้า

    สนามหญ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +24
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจ เพราะมันยิ่งใหญ่สำหรับฉันมาก
    ขอบคุณจริงๆ

    วันนี้ยังลุกไม่ได้เพราะใจอ่อนแอ แต่เมื่อถึงพรุ่งนี้ ถ้าใจเข้มแข็งขึ้น
    ฉันอาจกล้าหาญพอที่จะเปิดประตูไปเผชิญกับโลกภายนอก
    และยอมรับกับความจริงทุกเรื่องได้

    ขอบคุณ คุณสุดขอบฟ้า และคุณเนยแข็ง มากๆค่ะ
    สำหรับกำลังใจ และบทความดีๆ
    ที่แม้ไม่เคยรู้จักกัน แต่สิ่งที่คุณให้ฉันมันยิ่งใหญ่มหาศาล
     
  6. สนามหญ้า

    สนามหญ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +24
    ขอบคุณ คุณBluebaby2 สำหรับวิธีคิดนะคะ
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    คุณสนามหญ้าที่รัก
    คุณตั้งชื่อแทนตัวได้ไพเราะ และมีความหมายดีมากนะคะ
    สนามหญ้า...ใครๆก็ชอบ...
    แค่ได้มอง จิตใจก็ชุ่มชื่น และอิ่มเอม.....
    เป็นที่สำหรับให้คนมานั่งพักผ่อน เป็นที่ที่มีประโยชน์ ....

    จริงๆแล้วคุณสนามหญ้าเป็นคนมีบุญ
    คุณมีลูกสาวที่เป็นคนดี เรียนหนังสือเก่ง แถมกตัญญูต่อบุพการี
    นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
    ลูกสาวคือสมบัติอันล้ำค่า ที่คุณจะต้องทะนุถนอม ดูแล
    เธอขาดคุณพ่อไปแล้ว...
    เธอเหลือคุณเพียงคนเดียว
    ที่เธอรู้สึกอบอุ่นและเป็นสุข เมื่อได้อยู่ใกล้


    นี่ต่างหาก คือสิ่งที่คุณควรระลึกถึงอย่างสุขใจ
    ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความเป็นแม่

    ตัดอะไรก็ตัดได้
    แต่ตัดสายสัมพันธ์ของความเป็นแม่ลูก ไม่สามารถทำได้เลย

    ขอให้คุณอยู่อย่างมีความสุขกับปัจจุบัน
    กับแก้วตาดวงใจของคุณ
    ว่างๆ ก็ทำขนมของโปรดไว้ให้ลูก ยามลูกกลับมาบ้าน
    ปลูกดอกไม้ ดูแลบ้าน จัดบ้านให้สวยงาม
    ทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
    นอกจากทำให้ชีวิตมีความสุขแล้ว
    อาจเป็นรายได้เสริม หรือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

    ...
    ยังมีอีกหลายๆอย่าง ที่น่าทำ แต่คุณยังไม่มีเวลาหรือโอกาสที่จะทำ
    ขอให้ปรับวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส
    สำหรับคุณและลูก

    ...
    ชีวิตต้องก้าวต่อไป
    สู้ๆนะคะ
    กำลังใจที่มีกำลังมากที่สุด คือกำลังใจที่ออกมาจากตัวของคุณเอง
    โปรดมองตนเองอย่างมีคุณค่า
    และเสริมคุณค่านั้นให้โดดเด่นขึ้นนะคะ

    ...
     
  8. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    ทุกปัญหา ย่อมมีทางออกเสมอ
    อยู่ที่เราจะแก้ไขมันได้อย่างไร...
    ทุกคำถาม ก็เช่นกัน ย่อมมีคำตอบของมันเสมอ
    อยู่ที่ว่า... เราจะอยู่รอฟังคำเฉลยตอนท้าย หรือไม่
    การที่เรา หนีปัญหา หรือ ทิ้งปัญหา ไว้ข้างหลัง
    นำมาซึ่งการปิดกั้น ปัญญา ที่เรามีไม่ให้เกิดขึ้น
    และท้ายสุดแล้ว สิ่งนั้น ๆ จะกลายเป็นดั่ง เงาร้าย
    ที่จะติดตามเราไปทุกที่ ทุกเวลา...

    หากวันใดวันหนึ่ง ที่คุณเริ่มมีความกล้า
    พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ได้มากพอ
    ในวันนั้นเอง... คุณจะได้เข้าใจและสำผัสถึง โลกใหม่ ในใบเดิม
    พื้นที่เล็ก ๆใน สนามหญ้า ของคุณนั้น ช่างเห็น สัจธรรม ได้ดีนักแล...

    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  9. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    ดีนะที่คุณยังมีลูก ถ้าลูกไม่ดีอีกคนนี่แย่เลย
     
  10. สนามหญ้า

    สนามหญ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +24
    ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ฉันจมอยู่ในความทุกข์ สิ้นไร้แม้แต่เพื่อนที่จะปลอบโยนและให้กำลังใจ ทุกคนเมินหน้าหนีเมื่อฉันเดินเข้าไปหา
    ทุกๆคนทำท่ารำคาญกับเรื่องราวของฉันที่เข้าไปพูดคุย ปรับทุกข์ ไม่มีใครเลยสักคนที่จะเห็นใจหรือให้คำปลอบโยน เหมือนถูกเหยียบย่ำซ้ำ
    เติม กับเพื่อนที่เคยบอกว่ารักและห่วงใยยามฉันมั่งมี เมื่อถึงวันนี้เหมือนคนไม่รู้จักกัน
    เหมือนคนกำลังจะจมน้ำกำลังใกล้จะตาย แล้วอยู่ๆก็มีมือมากมายหลายมือมาฉุดดึงให้พ้นจากการจมน้ำพ้นจากความตาย "ขอบคุณจริงๆค่ะ
    ขอบคุณจริงๆ" ขอบคุณที่ทำให้ฉันเห็นคุณค่าของความเป็นคน ขอบคุณที่ทำให้ฉันหันกลับมามองคนที่รักฉันที่สุดคือลูก ลูกที่ทำทุกอย่างเมื่อ
    ฉัน ลูกที่เหนื่อยสายตัวแทบขาด เพราะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เมื่อหาเงินมาเลี้ยงแม่ และใช้หนี้แทนพ่อ ลูกที่ไม่เคยบ่นสักคำกับความ
    ลำบากมากมายในตอนนี้ ทุกครั้งที่กลับมาจากเรียนหรือทำงาน ฉันจะได้เห็นรอยยิ้มสดใสของลูกเสมอ คำพูดที่ลูกพูดเสมอคือหนูจะสู้และหนู
    จะผ่านมันไปให้ได้ แม่ต้องเป็นกำลังใจให้หนูนะ
    เชื่อไหมค่ะว่าตอนนั้นฉันไม่เคยสนใจคำพูดของลูกเลย ฉันเฝ้าแต่คร่ำครวญแต่เรื่องของตัวเอง คิดแต่ว่าทำไมฉันถึงถูกทิ้ง อยู่กันมา26ปีไม่เคย
    ห่างกัน ไม่เคยทิ้งกันไปไหน แล้วทำไมถึงทิ้งกันไปง่ายๆ จนเมื่อถึงวันที่ฉันได้รับความเอื่ออาทรจากมิตรที่ฉันไม่เคยรู้จักให้ความกรุณาเมตตา
    ชี้แนะแนวทางให้กับฉัน ทำให้ฉันเกิดความคิดในใจที่เปลี่ยนไปจากเดิม

    ถึงแม้มันจะไม่หมดไปซะทีเดียว แต่มันก็มีความรู้สึกที่ดีกว่าเก่ามากมาย
    ขอบคุณกำลังใจที่ "คุณเนยแข็ง" "คุณสุดขอบฟ้า" "คุณBluebaby2" "คุณติงติง"
    "คุณนพณัฐ" กรุณามอบให้ และอยากบอกพวกคุณทุกคนว่า พวกคุณทุกคน
    ได้ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดถึงแต่การตายเป็นทางออกของชีวิตทางเดียว
    เปลี่ยนความคิดที่จะมีชีวิตสู้ต่อไปและยืนขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้ได้
    ขอบคุณมากค่ะ
     
  11. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ชีวิตของคนเราในโลกนี้
    ไม่มีแม้แต่สักคนเดียว ที่มีแต่ความสุขแต่ถ่ายเดียว
    ดังโลกธรรม 8 (ธรรมคู่โลก) 8 ประการ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    โลกธรรม 8 หมายถึง ธรรมดาของโลก เรื่องของโลก ธรรมชาติของโลกที่ครอบงำสัตว์โลกและสัตว์โลกต้องเป็นไปตามธรรมดานี้ 8 ประการอันประกอบด้วย

    โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ พอใจของนุษย์ เป็นที่รักเป็นที่ปรารถนา

    ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์ ได้มาซึ่งทรัพย์
    ยศ หมายความว่า ได้รับฐานันดรสูงขึ้น ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
    สรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกยอ เป็นที่น่าพอใจ
    สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ ความเบิกบาน บันเทิงใจเริงใจ


    โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ความไม่พอใจของมนุษย์ ไม่เป็นที่ปรารถนา

    เสื่อมลาภ หมายความว่า เสียลาภไป ไม่อาจดำรงอยู่ได้
    เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดอำนาจความเป็นใหญ่
    นินทาว่าร้าย หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี ถูกติฉินนินทา หรือถูกกล่าวร้ายให้เสียหาย
    ทุกข์ คือ ได้รับความทุกขเวทนา ทรมานกาย ทรมานใจ



    ดังนั้น เราทุกคนจึงต้องหาหนทางในการปกป้องตนเอง
    และคนที่ตนรัก
    ให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้

    การฝึกอบรมณ์์จิตของตน จึงมีประโยชน์มาก
    สามารถเอาไว้ใช้ประโยชน์ในยามคับขัน


    บางครั้ง ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา
    อาจมีประโยชน์ คือถือว่าเปิดโอกาสให้เรา
    ได้ค้นพบตนเอง
    ได้หันมาศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา
    เมื่อศึกษาแล้ว
    นำมาประพฤติปฏิบัติ
    จนก้าวหน้าในธรรม ยกระดับจิตของเราให้สูงขึ้น

    คุณสนามหญ้า
    เป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่ธรรมะได้เปิดโอกาสให้
    และคุณก็มีความพร้อม ทั้งทางด้านสติปัญญา และ กำลังกาย
    เหลือเพียงกำลังใจ
    ที่เชื่อว่าคุณ สามารถสร้างมันขี้นมาได้ไม่ยากนัก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2012
  12. สนามหญ้า

    สนามหญ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +24
    "ทุกปัญหาย่อมมี่ทางออกเสมอ อยู่ที่เราจะแก้ไขมันอย่างไร
    ทุกคำถามก็เช่นกัน ย่อมมีคำตอบของมันเสมอ" ( นพณัฐ )
    และตำตอบของมันก็มาเร็วกว่าที่คาดหมาย ข่าวของสามี ที่ได้รับฟังจากมิตรคนหนึ่งที่ยืนดูห่างๆกับการตัดสินใจว่าจะบอกกล่าว
    กับฉันอย่างไรที่จะไม่ทำให้ฉันแย่ลงไปกว่านี้ และเมื่อเขาเห็นว่าฉันเย็นและแข็มแข็งขึ้นกว่าเก่ามากแล้ว เขาจึงบอกฉันว่า สามีของ
    ฉันยังอยู่สุขสบายดี และสบายกว่าที่ฉันและใครจะคาดคิดถึง เขาไปอยู่กับผู้หญิงดนหนึ่ง ผู้หญิงที่คุยกันทางmsnเพียง3เดื่อนกว่า
    ผู้หญิงที่มีความพร้อมให้เขาทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ชื่อเสียง เงินทอง และสังคมใหม่ที่มีแต่คนนับหน้าถือตา
    กับการที่ต้องทิ้งครอบคร้ว ทิ้งลูกเมีย และทิ้งแม่ที่ชรา เพื่อแลกกับมันสามีฉันยอม มีหมอดูเคยทำนายว่าสามีฉันจะรวยอีกครั้งและรวย
    มากเมื่ออายุ 45 ปี เมื่อถึงวันนี้คำทำนายที่หมอดูทำนายไว้ก็เป็นจริง แต่เขาไม่ได้รวยอยู่กับฉันแต่กับไปรวยอยู่กับผู่หญิงอื่น 3 เดือนกว่า
    ที่ฉันไม่เคยรู้เรื่องและระแคะระคายอะไรเลย ในขณะที่ฉันเฝ้าเป็นห่วงเขาว่าจะเป็นอยู่อย่างไรมียากินไหม๊เมื่อใรคหัวใจกำเริบจะมีใคร
    ดูแล เขากับมีความสุขกับผู้หญิงคนใหม่ที่มีให้เขาทุกอย่าง ที่ฉันไม่สามารถมีให้เขาได้ กับความไว้เนื้อเชื่อใจที่อยู่กันมานาน ทำให้ฉัน
    มองไม่เห็นความผิดปกติในเวลา3เดือนกว่าที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจว่าทำไมสามีถึงต้องไปนั่งเล่นคอมบ้านเพื่อน ทำไมต้องปิดโทรศัพท์
    เมื่อยามอยู่กับฉัน และไม่ยอมรับสายฉันเมื่อยามออกนอกบ้านไป
    ช๊อคกับความจริงที่ได้รับรู้ แต่ก็แปลกใจตัวเองว่าทำไมไม่ร้องไห้ตีโพยตีพาย ได้แต่รับรู้ด้วยความเจ็บปวด และร้าวรานใจ ความหวังที่
    คิดว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาสลายหายไปในทันที และเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี จะบอกลูกว่าอย่างไรและแม่เขาที่อยู่กับเรา
    ละจะบอกท่านว่าอย่างไร เพราะทุกวันนี้ท่านถามก็จะบอกแต่ว่าสามีไปทำงานต่างจังหวัดกับเพื่อน ถึงวันนี้เขาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
    เรียบร้อยแล้วไม่มีการติดต่อกันได้อีก เพื่อนบอกว่าเขาจะขอตัดขาดกับสังคมเก่าๆ จะไม่รับรู้เรื่องราวของใครอีกและจะคุยกับเพื่อนคนนี้
    เป็นครั้งสุดท้าย เขาบอกว่าให้ลืมเขาไป ในสังคมใหม่ที่เขาอยู่ได้ให้ความสุขกับเขามากมาย และในเวลานี้เขาเบื่อที่จะอยู่กับความจน
    และความลำบากอีกต่อไปแล้ว มีเพื่อนอีกหลายคนที่รู้เรื่องนี้แต่ไม่มีใครกล้าบอกฉัน บางคนก็คิดว่าเดี๋ยวมันคงจบ ผู้หญิงคนนี้คงไม่จริง
    จังอะไรเพราะเธอก็รับรู้ว่าสามีฉันมีลูกเมียแล้ว แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่เพื่อนคิด เพื่อนบอกว่าผู้หญิงคนนี้จริงจังมากขอให้สามีฉันแต่งงาน
    กับเขาให้ถูกต้องเพราะว่าเขาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมที่เขาอยู่ และมีเพื่อนหลายคนที่สนับสนุนให้สามีเดินเส้นทางนี้เส้นทางที่โรยด้วย
    กลีบกุหลาบ ความสุขสบายและความมั่งคั่งร่ำรวย
    คุณคงต้องตัดใจนะ เพื่อนคนนี้บอก ต้องลุกขึ้นมาสู้และมีชีวิตต่อไปให้ได้เขาสงสารจึงตัดสินใจที่จะเดินมาบอกความจริงกับฉัน เขาบอกว่า
    เขารู้สึกผิดที่เขาก็มีส่วนสนับสนุนให้สามีฉันเป็นอย่างนี้ และมาขออโหสิกรรมเรื่องที่ทำกับฉัน
    เมื่อถึงวันนี้ฉันคงได้เขียนเรื่องของฉันระบายให้พวกคุณๆฟังเป็นครั้งสุดท้าย ดอกบัวที่ถูกโคลนตรมทับถมมากมายอย่างฉัน คงไม่มีวันดัน
    ตัวเองขึ้นมาพบกับแสงสว่างของพระอาทิตย์ได้อีกแล้ว กรรมที่ฉันเคยสร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจุบันชาติคงกำลังตามเล่นงานฉัน
    อย่างไม่ปราณี และขอขอบคุณทุกคนที่กรุณาให้ฉันระบายความในใจในครั้งนี้ ลาก่อนคะ
     
  13. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    ผมเป็นกำลังใจให้อีกคนนึง สู้ๆนะครับ คนทุกคนย่อมมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น

    ยิ้มเข้าไว้ครับ ^^
     
  14. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    น่าเสียดายที่คุณเห็นทุกข์ได้ชัดเจนขนาดนี้แต่กลับไม่มีศรัทธาในธรรมขององค์สมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย คุณไม่เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียวว่าธรรมะจะขจัดทุกข์ได้อย่าง
    วิเศษได้เพียงแค่รู้ทันทุกข์เท่านั้น คุณยังไม่เชื่ออีกหรือว่าคุณทุกข์เพราะความคาดหวัง
    ของคุณทั้งนั้น ความทุกข์มันจะดับได้ต่อเมื่อรู้ทันมันเท่านั้น ความเข้าใจที่ว่าความทุกข์
    จะดับได้ถ้าเราเล่าเรื่องของเราให้คนอื่นฟังมากๆ ยิ่งมีคนฟังเรื่องของเรามากเท่าไหร่
    ความทุกข์ของเราก็จะเจือจางมากเท่านั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด คุณก็รู้ดีนี่ว่าการทำแบบ
    นี้มันช่วยอะไรไม่ได้เลย ถ้าคุณรู้ว่ามันช่วยอะไรไม่ได้ทำไมไม่เลิกซะล่ะ ธรรมของพระ
    พุทธองค์ทำได้มากกว่าจะเป็นที่ระบาย หรือเป็นแค่วิธีคิดตั้งเยอะ เหมือนกับคนที่
    กระหายน้ำพอเจอคนที่บอกทางไปแม่น้ำได้ แต่กลับไม่เชื่อผู้บอกทาง เอาแต่บอกว่าตน
    กระหายอย่างนั้น อย่างนี้ ผู้บอกทางจะทำอะไรได้แค่ให้เขาเดินไปตามทางก็เจอน้ำดื่ม
    เอง เพียงเพราะว่าไม่มีศรัทธาในคนบอก
     
  15. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    "ลูกที่ไม่เคยบ่นสักคำกับความ
    ลำบากมากมายในตอนนี้ ทุกครั้งที่กลับมาจากเรียนหรือทำงาน ฉันจะได้เห็นรอยยิ้มสดใสของลูกเสมอ คำพูดที่ลูกพูดเสมอคือหนูจะสู้และหนู
    จะผ่านมันไปให้ได้ แม่ต้องเป็นกำลังใจให้หนูนะ"


    พยายามคิดถึงลูกไว้ก่อน เรื่องอื่นๆ วางไว้ข้างๆ อย่าไปแบก ทั้งอดีต อนาคต

    อยู่กับปัจจุบัน ที่นี่ เดี๋ยวนี้

    ลองอ่านอีกสักหนึ่งบทความ(ของ ท่าน ติช นัท ฮันห์)ค่ะ

    การยอมรับเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายอารมณ์ทุกข์
    การยอมรับไม่ใช่การเป็นทาสของอารมณ์นั้น

    เมื่อยอมรับ คุณก็สามารถตระหนักรู้ถึงความทุกข์ภายใน ที่มาจาก
    ความเขลาของอัตตา เช่น การมุ่งความสำเร็จ การปฏิเสธภาวะหรือเหตุการณ์ที่คุณกำลังเผชิญ

    เมื่อยอมรับต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็กลับมาดูภาวะของร่างกายของคุณตั้งแต่ศรีษะ
    ไล่การรับรู้ ของร่างกายไปตามแนวกระดูกสันหลัง ลงไปที่บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว
    คอ อก ท้องช่วงบน ท้องน้อย ต้นขา น่อง จนถึงฝ่าเท้า ร่างกายจะผ่อนคลายความตึงเครียด และผ่อนคลายขึ้น

    จากนั้นก็กลับมารับรู้ลมหายใจ เมื่ออารมณ์ทุกข์ ค่อยๆคลี่คลาย โดยการยอมรับและตระหนักรู้ในตนเองตั้งแต่ สภาวะของร่างกาย ลมหายใจ พลังงานในร่างกายและความคิด จะเห็นที่มาของทุกข์ เช่นความคาดหวัง ติดยึด ความกลัว ความกังวลภายใน

    ถ้าเห็นเหตุแห่งความทุกข์ได้ ก็จะสามารถถอนรากแห่งความทุกข์ต่างๆ ได้อย่างแท้จริง

    กลับมาสำรวจความคิดในสมอง

    ยิ่งสำรวจก็จะพบว่าความคิดและสิ่งที่พูดกับตนเองนั้นเปรียบประดุจเชื้อเพลิง หรืออาหาร
    ของอารมณ์ทุกข์ เมื่อสำรวจจนเห็นจะพบว่าคุณสงบขึ้น ความทุกข์จะระงับดับไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ


    ปล. คุณ bluebaby เราเข้าใจว่า จขกท ก็ศรัทธา ในคำสอนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่อารมณ์ทุกข์ที่เกิดมันเยอะเกินกว่าจะตั้งสติอยู่ ต้องใช้เวลา
    บางคนอาจเป็นปี หรือสองปี

    ขอให้ผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครเกิดแล้วไม่ทุกข์ ยกเว้น พระอรหันต์..
     
  16. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    จะลาไปไหนคะคุณสนามหญ้า..................คุณได้ลาจากกรรมเวรไปนานแล้วนะคะ..แต่คุณไม่รับรู้มันเอง............ยอมรับความจริง แล้วจะเห็นว่า...............กำลังมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต..
    1.มีลูกอันเป็นที่รัก และรักเรามากที่สุด (เสียดายแย่หากต้องโดนทำแท้ง)
    2.สามีที่เปรียบเสมือนปลิงสูบเลือดจากเรา..ได้ออกจากชีวิตไปด้วยดี ไม่เปลืองแรง (ยังมีครอบครัวอีกหลายครอบครัว แก้ปัญหาสามีไม่ยอมทำอะไร..ดีแต่เกาะไปวันๆ ไม่ได้เป็นจำนวนมาก)
    3.เกิดมาทั้งที..สู้กันมาทั้งปี..อย่าเสียที ฆ่าตัวตายให้โง่ (จะหมดเวรหมดกรรมอยู่แล้ว..จะสร้างกรรมให้ตัวเองอีกทำไม)..
    4.มีเวลาให้กับตัวเองและลูกเพิ่มมากขึ้นจากเดิม สบายตัวสบายใจ ไปเที่ยวไหนก็ไปจะทำอะไรก็สะดวก..เอาเวลากลุ้มใจเข้าวัดเข้าวา ออกกำลังกาย หรือทำงานช่วยลูก..
     
  17. gale_burner

    gale_burner สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    สู้ชีวิตครับ ให้มองที่ลูกของคุณ ลูกคุณดีขนาดนี้ คุณไม่ดีใจเหรอครับ
    ลุกขึ้นเพื่อลูกของคุณ เพื่อครอบครัวของคุณครับ สู้ๆครับ
    การฆ่าตัวตายไม่เกิดประโยชน์ครับ
     
  18. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    คุณ สนามหญ้าคะ สิ่งที่คุณเล่ามามองเห็นภาพได้ชัดเจนเลยค่ะ มันทุกข์จริงๆน่ะแหล่ะค่ะ
    แต่ว่าในนั้นคุณก็ยังมีความเข้มแข็งอยู่นะคะ เคยทุกข์เหมือนกัน คิดไปคิดมา ก็เอ๊าลองสู้กับมันค่ะ มันจะทุกข์สุดๆไปได้ซักแค่ไหน
    ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยค่ะ คิดยังไงก็แก้ไม่ได้ ปล่อยเลยค่ะ
    คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวยังมีลูกมีคุณแม่ เคียงข้างอยู่ ขอให้กำลังใจคุณอีกคนค่ะ ยืนหยัดสู้นะคะ เราต้องดีกว่าวันนี้ให้ได้ เชื่อว่าคุณทำได้ค่ะ
     
  19. Jainak

    Jainak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    ชีวิตต้องก้าวต่อไป สู้ๆ กำลังใจที่มีกำลังมากที่สุด คือกำลังใจที่ออกมาจากตัวของคุณเอง
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  20. MHEEGRIZZLY

    MHEEGRIZZLY Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +70
    พี่สนามหญ้าครับ ผมเอาใจช่วยอีกแรงนะครับ

    พี่จะต้องอยู่ทั้งเพื่อตัวเอง และ ลูกสาวของพี่นะครับ

    ท้อได้ แต่ห้ามถอยครับ ชีวิตมนุษย์เรา ถ้าไม่สู้ ก็ไม่รู้ว่าแพ้หรือชนะครับ

    เป็นกำลังใจให้ครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...