งานเข้าออกนิโรธสมาบัติ ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร 2550

ขอเชิญชวนท่านสาธุชนทุกท่าน ร่วมทำบุญและทอดผ้าป่าในโอกาสที่ครูบาวิฑูรย์ ได้ปฏิบัติธรรมเข้านิโรธสมาบัติ สืบทอดแบบอย่างมาจากบูรพาจารย์ ครูบาเจ้าศรีวิชัยและครูบาชุ่ม โพธิโก ณ.สถานปฏิบัติธรรมวัดชัยมงคล(วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน โดยสถานที่ปฏิบัติธรรมในการเข้านิโรธสมาบัติ เป็นกระท่อมมุงด้วยฟางในเขตราชวัติ เวลา7วัน7คืนฉันน้ำบาตรเดียวโดยไม่ฉันภัตตาหารซึ่งท่านได้ปฏิบัติเช่นนี้ในวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดในเดือนกันยายนทุกปี

เข้านิโรธสมาบัติวันจันทร์ที่24กันยายน 2550<O</O
ที่สถานที่ปฏิบัติธรรมวัดชัยมงคล(เดิมเป็นวัดร้าง)ห่างจากวัดประมาณ200เมตร<O</O
07.00น อธิษฐานจิตเข้านิโรธสมาบัติ และทำพิธีปิดประตูราชวัติ

<O
ออกนิโรธสมาบัติ วันอาทิตย์ที่30กันยายน 2550<O</O
07.00น ครูบาวิฑูรย์อธิษฐานจิตออกนิโรธสมาบัติ จากสถานปฏิบัติธรรม <O</O
ขอเชิญสาธุชนร่วมทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานแก่ครูบาวิฑูรย์
09.00นจัดขบวนนิมนต์ครูบาวิฑูรย์ แห่เสลี่ยงไป ณ .วัดชัยมงคล<O</O
09.30น พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงแบบล้านนาสะเดาะเคราะห์<O</O
เจ้าภาพถวายเครื่องไทยทาน
11.00น ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณร
13.00น ทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ <O</O

 

ภาพปี2549 ท่านอธิษฐานจิตเข้านิโรธ 19 กันยายน 2549

อธิษฐานจิตเข้านิโรธ ที่วัคชัยมงคล หลังจากนั้นเดินทางออกไปที่วัดร้าง (วัดเก่า ) เป็นสถานที่ ที่ครูบาชุ่ม โพธิโก สหธรรมิกของหลวงพ่อฤาษี เข้านิโรธสมาบัติ

 

24 กย.50ภาพงานเข้านิโรธสมาบัติครูบาวิฑูรย์ วัดชัยมงคล วังมุย ณ.สถานที่ปฎิบัติธรรม

วันที่24 กันยายน50 วันเข้านิโรธสมาบัติ มีครูบาญาณลังกา (เสมือนผู้น้อง) วัดศรีสองเมือง อ.สารภี เชียงใหม่ มาคอยปิดประตูราชวัติให้

 

ผู้ที่จะร่วมบุญได้ที่ ธนาคารไทยพาณิขย์ สาขาศาลายา ออมทรัพย์
เลขที่316-271661-8 พรรณราย เปล่งแสงศรี โทร 089-9909044อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

(คัดลอก มาจาก คู่มือปฎิบัติพระกรรมฐาน ของหลวงพ่อ)
นิโรธสมาบัติ

นิโรธสมาบัติ ท่านที่จะเข้านิโรธสมาบัติได้ ต้องเป็นพระอริยะขั้นต่ำตั้งแต่พระอนาคามี เป็นต้นไป และพระอรหันต์เท่านั้น และท่านต้องได้สมาบัติแปดมาก่อน ตั้งแต่ท่านเป็นโลกียฌาน ท่านที่ได้สมาบัติแปด เป็นพระอริยะต่ำกว่าพระอนาคามีก็เข้านิโรธสมาบัติไม่ได้ ต้องได้มรรคผลถึงอนาคามีเป็นอย่างต่ำจึงเข้าได้

ผลของสมาบัติ

สมาบัตินี้ นอกจากจะให้ผลแก่ท่านที่ได้แล้ว ยังให้ผลแก่ท่านที่บำเพ็ญกุศลต่อท่านที่ได้สมาบัติด้วย ท่านสอนว่าพระก่อนบิณฑาตตอนเช้ามืดที่ท่านสอนให้เคาะระฆังก็เพื่อให้พระวิจัยวิปัสสนาญาณ และเข้าฌานสมาบัติ เพื่อเป็นการสนองความดีของทายกทายิกาผู้สงเคราะห์ในตอนเช้าพระที่บวชใหม่ก็ทบทวนวิชาความรู้และซักซ้อมสมาธิเท่าที่จะได้ ผลของสมาบัติมีอย่างนี้
๑. นิโรธสมาบัติ สมาบัตินี้เข้ายาก ต้องหาเวลาว่างจริง ๆ เพราะเข้าคราวหนึ่งใช้เวลาอย่างน้อย ๗ วัน อย่างสูงไม่เกิน ๑๕ วัน ใครได้ทำบุญแก่ท่านที่ออกจากนิโรธสมาบัตินี้ จะได้ผลในวันนั้น หมายความว่าคนจนก็จะได้เป็นมหาเศรษฐีในวันนั้น
๒. ผลสมาบัติ เป็นสมาบัติเฉพาะพระอริยเจ้า ท่านออกจากผลสมาบัติแล้ว สมาบัตินี้เข้าออกได้ทุกวันและทุกเวลา ท่านที่ทำบุญแด่ท่านที่ออกจากผลสมาบัติ ท่านผู้นั้นจะมีผลไพบูลย์ในความเป็นอยู่ คือมีฐานะไม่ฝืดเคือง
๓. ฌานสมาบัติ ท่านที่บำเพ็ญกุศลแก่ท่านที่ออกจากฌานสมาบัติ จะทรงฐานะไว้ด้วยดีไม่ยากจนกว่าเดิม มีวันแต่จะเจริญงอกงามขึ้นเป็นลำดับ

เข้าผลสมาบัติ

ก่อนที่จะเลยไปพูดเรื่องอื่น เกิดห่วงการเข้าผลสมาบัติขึ้นมา จึงขอย้ำถึงเรื่องเข้าผลสมาบัติเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจสักนิด การเข้าผลสมาบัติ กับเข้าฌานสมาบัติ ต่างกันอยู่หน่อยหนึ่ง คือการเข้าฌานสมาบัติ ท่านสอนให้ทำจิตให้ห่างเหินนิวรณ์ คือระมัดระวังมิให้นิวรณ์เข้ามารบกวนใจเมื่อจิตว่างจากนิวรณ์แล้ว อารมณ์ของสมาธิก็ไม่มีอะไรรบกวน เข้าฌานสมาบัติได้ทันที สำหรับผลสมาบัตินั้น เป็นสมาบัติของพระอริยเจ้าท่านเข้าดังนี้ เมื่อท่านพิจารณาว่าเวลานี้ธุระอย่างอื่นไม่มีแล้วมีเวลาว่างพอที่จะเข้าผลสมาบัติได้ ท่านก็เริ่มเข้าสู่ที่สงัด นั่งตั้งกายตรง ดำรงจิตมั่นคงแล้วก็พิจารณาสังขารตามแบบวิปัสสนาญาณ โดยพิจารณาในวิปัสสนาญาณทั้ง ๘ ย้อนไป ย้อนมา หรือพิจารณาตามแบบขันธ์ห้ารวม คือพิจารณาเห็นว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณทั้งห้าอย่างนี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ห้า ขันธ์ห้าไม่มีในเรา อย่างนี้ก็ได้ตามแต่ท่านจะถนัด รวมความว่า ท่านเป็นพระอริยะ เพราะท่านพิจารณาวิปัสสนาญาณแบบใดท่านก็พิจารณาแบบนั้น เพราะท่านคล่องของท่านอยู่แล้ว

เมื่อพิจารณาขันธ์ห้าจนอารมณ์ผ่องใสแล้ว ท่านก็เข้าสมาบัติตามกำลังฌานที่ท่านได้ อย่างนี้เป็นวิธีเข้าผลสมาบัติ เพราะท่านพิจารณาวิปัสสนาญาณก่อนจึงเข้าฌาน นำมากล่าวเพิ่มเติมไว้เพื่อท่านผู้อ่านจะได้รับทราบไว้ แต่สำหรับท่านที่เป็นพระอริยเจ้านั้น ไม่มีอะไรจะสอนท่าน

 

ขอร่วมทำบุญด้วยนะคะ เดี๋ยวตอนกลางวันจะโอนเข้าบัญชีให้ค่ะ ขออนุโมทนา สาธุ ทุกท่านที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้ และได้มีโอกาสไปร่วมงานในวันนั้นด้วยค่ะ มีเพื่อนที่ทำงานมาชวนไปเหมือนกันแต่ติดไปวัดพระธาตุวาโยซะแล้ว....จิต นี่ก็ดื้อ ไม่ยอมแยกจากายซะที จะได้ไปได้หลายๆ งานหน่อย...เฮ้อ!

 

แหะๆ ขออนุญาตสะกิดติ๊ดหนึ่งนะครับ

เห็นเรียกว่านิโรธกรรมนะครับ รบกวนสอบถามให้ชัดเจนอีกทีเถอะครับ

แต่ไม่ว่าจะเรียกอะไร ผมก็วางแผนจะไปอยู่ดีแหละ

 

โอนเงินร่วมทำบุญแล้วนะคะจำนวน ๒๐๐ บาท เวลา ๑๒.๐๖ วันที่ ๑๗/๐๙/๕๐

 

เรียกว่า นิโรธกรรม ครับ

และขอสะกิดอีกนิด ต่อจากคุณคนเก่าว่า เข้านิโรธกรรมวันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๐ ออกนิโรธกรรม วันอาทิตย์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ เป็นเวลา ๖ วัน ๖ คืน ไม่ใช่หรือครับ

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ได้ร่วมทำบุญแล้วครับกับญาติธรรมที่จะไปร่วมงานบุญนี้

ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ

 

เรียนถามครูบาแล้วค่ะ ว่าจะให้ใช้คำว่า นิโรธสมาบัติ ใช่ไหมค่ะ ท่านพยักหน้า ก็ว่าตามที่พระท่านบอกค่ะ ก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านน่ะค่ะ ที่ร่วมบุญในครั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาพบเจอครูบาทางเหนือ
เดิมทีเดียว ก็เป็นเด็กทั่วๆไป เข้าวัดตามประเพณี จนมาเมื่อปี 2546 พวกเพื่อนๆช่วยกันปั้นพระปางชนะมาร59 นิ้ว ไปถวาย หลวงปู่คำคนิง (สมัยเดียวกับหลวงปู่ปาน)วัดถ้ำคูหาสวรรค์ โขงเจียม ต่อจากนั้นเริ่มรู้จักสหายธรรม แนะนำให้รู้จัก การนั่งสมาธิ รู้จักมโนมยิทธิ การทรงกระดาน รู้จักสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่ปาน นับแต่นั้นก็ขอมอบกายถวายชีวิต
หลายๆคนพูดถึง การเข้านิโรธสมาบัติของพระ ใจก็คิดว่ายังไงหนอจึงได้พบเจอ จนต้นปี49 ได้รู้จักครูบา จากสหายธรรมคนเดียวกับที่แนะนำให้รู้จักหลวงพ่อฤาษี พวกเราก็ช่วยกันปั้นปู่ชีวกโกมารภัจจ์ไปถวายท่าน จนเข้ามาช่วยงานเข้านิโรธปีแรก 49 -ปีนี้ 50
อย่างไรก็ตาม ตามหน้าที่ที่กำหนดมา ตามวาระบุญ จะนิโรธกรรม หรือ นิโรธสมาบัติ ก็แล้วแต่ เราก็ยังโชคดีที่ได้พบเจอสายธารธรรมตามหลวงพ่อ
สมัยที่หลวงพ่อมีชีวิต ก็พาลูกศิษย์มาตามหน้าบุญกับหลวงปู่ชุ่ม โพธิโกตอนที่ท่านออกนิโรธ ที่เดียวกันกับที่ครูบาวิฑูรย์ เข้านิโรธ ทุกครั้งที่ไปวัดชัยมงคล วังมุย จะระลึกถึงว่า ที่ตรงนี้น่ะ หลวงพ่อฤาษีเคยยืนตรงนี้หน้าพระวิหาร เหมือนที่เราเคยเห็นในหนังสือ วังมุยแห่งหริภุญชัย

 

สาธุ ฟังท่านบอกตรงอย่างนี้ก็ชัดแจ๋ว เป็นพระคุณที่เมตตาบอกต่อเป็นธรรมทานครับ มีหวังได้ทำบุญหมดบั้นท้ายอีกแล้ว งานนี้

ทุกวันนี้ก็อาราธนาตะกรุดปรอทของหลวงปู่มาบูชาติดตัวเอาฤกษ์ เอาชัย เดี๋ยวเพิ่มด้วยตะกรุดหนัง และยันต์หนีบ ให้ชาวบ้านค้อนตากลับให้สุดๆไปเลยดีฝ่า

 

พรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปลำพูนอีกรอบแล้วจ้า เพื่อนๆพี่ๆมีอะไรแนะนำ ว่ากล่าว ตักเตือน ในงานครั้งนี้ ขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียวจ้า ถ้าเจอกันก็ทักทายกันด้วยน่ะค่ะ สาวอ้วนๆ ตอนนี้ผอมแห้งแล้ว เพราะช่วนนี้ถือศีล กินแต่ผลไม้ ครึ่งเช้า ต่อแต่นี้ คงไม่มีเวลาเข้าเว๊บ... อีกนาน เพราะ วันออกนิโรธ 30 กันยา ตอนเย็นต้องขอลา มีหน้าที่ ลิขิตว่าเจ้าต้องไป อังกฤษ สัก 40 วัน บ้าย บายค่ะ

 

ตามข่าวที่ประชาสัมพันธ์นั้น เรียกว่า นิโรธกรรม มาตั้งแต่ ปี ๔๙ เมื่อครูบาวิฑูรย์ ให้ใช้คำว่า นิโรธสมาบัติ ก็พอจะเข้าใจครับ

มีเรื่องเล่าสู่กันฟัง
สมัยที่หลวงพ่อฤาษีฯ ยังมีชีวิตอยู่ เคยพาลูกศิษย์มาทำบุญกับครูบาชุ่ม ตอนที่ออกจากนิโรธสมาบัติ เมื่อลูกศิษย์พากันไปหาครูบาชุ่มเพื่อทำบุญ ครูบาชุ่มได้ยกย่องหลวงพ่อฤาษีฯประมาณว่า มีบารมีล้นฟ้า ฯลฯ พวกลูกศิษย์ก็พากันกลับมาที่หลวงพ่อฤาษีฯ เพื่อทำบุญกับหลวงพ่อครับ

 

จะแลกกับองค์ปฐมขนาดบูชา หรือโคตรเพชรจักรพรรดิ์ขนาดลูกเทนนิสดีละจ๊ะ พี่ตั้มจ๋า

 

หนูขอสาธุใบบุญกับหลวงปู่ด้วยค่ะ แต่หนูยังเด็กอะคะเลยอยากรู้ว่าการเข้านิโรธสมาบัติคืออะไร เข้าทำไม เพื่ออะไร ผลเป็นอย่างไร แล้วผู้ที่จะเข้าได้เป็นคนทั่วไปหรือพระสงฆ์เท่านั้นต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าได้แล้วที่เราทำบุญร่วมกับผู้ที่บำเพ็ญระดับนี้เราจะได้บุญอย่างไร ลุงคนเก่าคงแก่ที่สุดในกระทู้นี้อะคะถามลุงคนเก่าเลยก็แล้วกัน สาธุ