ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    เลยคืบมาแล้วแต่ไม่มีศึกอะไร มีแต่ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม. อันนี้คือความจริง

    "webang906 ผู้อ่านสาร"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2013
  2. MissP

    MissP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +951
    แชร์ประสบการส่วนตัวค่ะ

    การติดตามข่าวสาร ความเป็นไปของโลกเป็นสิ่งที่ดี และจะดียิ่งกว่าถ้าเราใช้หลักกาลามสูตร พิจารณาด้วยสัมมาปัญญาตามไปด้วย โลกยังไม่ไม่แตกต้องใช้เวลาอีกยาวนานมากกว่าจะถึงรอบของมัน แต่โลกขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปแน่นอน

    ชาร์ลส์ ดาร์วิน ผู้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการ บอกว่า

    “ไม่ใช่สปีชีส์ที่แข็งแรงที่สุด หรือฉลาดที่สุดหรอกที่จะอยู่รอด แต่เป็นสปีชีส์ที่ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้เก่งที่สุดต่างหาก”

    คืออยากบอกว่า บอร์ดนี้มีประโยชน์ถ้าเรามองเอาจุดที่ดีมาใช้ มาปรับเข้ากับตัวเราเพื่อความไม่ประมาท พระพุทธองค์ทรงเน้นว่า ทางสายกลาง นั้นดีที่สุด ทางสายกลางคืออะไร คือให้เข้าใจว่าว่า สรรพสิ่ง มีเกิดมา ตั้งอยู่ แล้วก็ต้องดับไป (กฎไตรลักษณ์) ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ดังนั้นถ้าเรากลัวภัยพิบัติก็ต้องรู้จักปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของเราและคนที่เรารัก
    คำถาม: ถ้าเกิดอะไรขึ้นแบบปุบปับฉับพลัน ทำอย่างไรเราถึงจะรอด หรือ ถ้าไม่รอดก็ไปดี?
    คำตอบ: ก็ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า ต้องตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์นั่นไง ถ้าหากไม่รอดก็จะมีสุขคติเป็นที่หมาย แค่นั้นเอง!!! นอกจากนั้นถ้าไม่อยากลำบากกาย ลำบากใจมากก็เตรียมปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น น้ำท่วม หิมะตก แล้งจัด พายุถล่ม แผ่นดินไหว ฯลฯ
    วิธีการ: หาบ้านหลังที่สองในที่สูง เพาะปลูกได้ มีน้ำกินน้ำใช้ หัดใช้ชีวิตเรียบง่าย ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มพูนความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ แพทย์ทางเลือก (เอาแบบง่ายๆ ค่อยๆเป็นไป)ทำบุญทำทาน รักษาศีล ฟังธรรมตามกาล ทางใดที่สุดโต่ง หรือทางใดที่ไม่เป็นไปตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่ใช่การปรับตัวที่ชาญฉลาดสำหรับยุคหน้าเลย เอาแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะที่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ว่าใครพยากรณ์ได้ถูกได้ผิด แต่อยู่ที่ว่า เราปรับตัวเข้ากับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้หรือยัง? เราได้เริ่มหรือยัง....?

    ฝากไว้ค่ะ เป็นความเห็นส่วนตัว ที่แม้กระทั่งเราเองตอนนี้ก็กำลังปรับตัวอยู่ค่ะ
     
  3. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    อันนี้ผมว่า เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆๆ ใช้สติในการไตร่ตรอง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น:cool:
     
  4. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873

    นี่แหละสุดยอดครับ ชาวพุทธที่แท้ มอง+แก้ปัญหาด้วยปัญญาด้วยความเป็นจริง อยากกด อนุโมทนาให้ซักร้อยครั้งเลยครับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณเตือนน้ำท่วมจาก UFO !!!

    [​IMG]

    As man is well aware, a blinking or pulsing light gets more attention. The times are coming closer when major Earth changes, such as the European tsunami, will be upon mankind, and those making UFO displays are trying to get more pointed, so to speak, in their warnings. This is what these two UFO displays, a world apart, have in common. So do they have a common message? The YouTube on Guadalajara's display mentioned that at one point the light pointed to a ravine. Guadalajara is positioned such that tidal bore from the Pacific would reach this mountain city, despite its elevation. Water will reach the streets of Guadalajara, to the astonishment of its citizens. Likewise for the Brandenburg, Germany display. This city, east of Hanover on the juncture of the Midland Canal and the Elbe River, will find itself awash during the European tsunami despite being 100 miles from the Baltic Sea and twice as far from the North Sea. Both the Elbe River and the cannal will deliver the force of water to Brandenburg, where they will clash and roil. This part of Germany should not be complacent!

    ได้วกกลับมาพบและได้อ่านพิจารณาเรื่องข้างบนอีกรอบหนึ่ง หลังจากได้ผ่านตามาแล้วร่วมปี ทำให้นึกถึงภาพเหตุการณ์ ที่มีกลุ่มยาน UFO ร่วม 100 ลำ ที่บินขึ้นมาทางขอบฟ้าด้านทิศใต้ทางด้านก้นอ่าวไทย แล้วบินลดระดับลงมาเหนือหลังคาบ้าน ในเขตบึงกุ่มไม่มากนัก บินขึ้นมาเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 8-10 ลำเป็นเวลาร่วม 1 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม บินในลีลาต่างๆกันที่ยานใดๆของมนุษย์ ไม่สามารถทำได้อย่างนั้น หลังจากนั้นอีก 3 วันจึงได้พบ zetatalk.com นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2011

    เวลาผ่านไปร่วม 1 ปี ได้มีโอกาสมาพบบทความการเตือนเรื่องภัยจากน้ำทะเล ที่จะเข้ามาท่วมที่สูงและพื้นที่ต้นน้ำลึกเข้ามาในแผ่นดินของประเทศเยอรมัน และที่หุบเขาในที่สูงจากน้ำทะเลในประเทศเม๊กซิโก จากสัญญานเตือนเรื่องภัยน้ำท่วมพื้นที่ใน 2 ประเทศนี้ อย่างที่อาจไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ในอนาคต ที่อาจจะเกิดขึ้นได้และจะเกิดอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านั้น ได้ทราบเหตุอนาคต ได้เตรียมเคลื่อนย้ายได้ทัน

    ในหลักการเดียวกัน ยาน UFO ที่ได้มาปรากฏตัว บินขึ้นมาทางทิศใต้จากบริเวณก้นอ่าวไทย ตรงมายังพื้นที่เขตบึงกุ่ม นับร้อยลำเป็นเวลานานร่วมชั่วโมงนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่ ให้ท่านที่ได้มีโอกาส อ่านเรื่องนี้เก็บไปคิดเป็นการบ้าน โดยไม่มีภาพให้ท่านชมซึ่งแต่ละลำเป็นลำใหญ่ๆ ที่บินในระดับสูงและชลอความเร็วบินต่ำลงมาสูงกว่าหลังคาบ้านไม่มากนัก แล้วจึงวกกลับไปทางเดิมเข้าสู่ 4th Density หรือหายไปเฉยๆ โดยบางคนอาจจะรู้สึกกลัว เนื่องจากบินมาให้ชมในระยะใกล้มาก จนภรรยาออกปากว่าน่าจะร่อนลงมาจอดที่ถนนหน้าบ้านเสียเลย แต่เพื่อนบ้านที่ได้ออกมาดูซักพัก ก็กลับเข้าบ้านไม่รู้สึกกลัวหรือตื่นเต้น อาจจะเข้าใจว่าเป็นปรากฏการณ์บางอย่างของธรรมชาติก็ได้ ส่วนข้าพเจ้ารอดูจนกระทั่งเหลือน้อยลำจนหมดไปจึงได้กลับเข้าบ้าน

    ท่านจะฉุกคิดบ้างไหมว่า การมาปรากฏตัวของยาน UFO จำนวนมากมายดังกล่าว ไม่ได้มาเยี่ยมอย่างธรรมดา นอกจากมาเปิดโอกาสให้ได้รู้จักเว็บไซท์ดังกล่าวแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าในอนาคตพื้นที่ กทม. ที่อยู่ติดกับอ่าวไทย อาจมีคลื่นใหญ่หรือสึนามิอัดเข้ามาทางใต้เข้าสู่ก้นอ่าวไทยที่สอบแคบ เพิ่มความลึกของน้ำทะเลและความเร็วแรงของกระแสน้ำปนดินโคลน ขึ้นมาท่วมพื้นที่ของ กทม.อย่างรวดเร็ว ในระหว่างที่พื้นที่ประเทศอินโดนีเซีย จมลงไปกระทันหันถึงระดับ 80 ฟุต ที่คุณ Zeta พยากรณ์เอาไว้นานแล้ว และปัจจุบันพื้นที่ของอินโดฯหลายๆแห่งบนเกาะต่างๆก็มีน้ำทะเลท่วมถาวรต้องขนย้ายประชาชนออกไปอยู่ที่สูงเป็นจำนวนนับแสนๆคน

    และอาการเคลื่อนตัวของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ก็แสดงบทบาทต่างๆมากขึ้นทุกที ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมที่ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียตะวันออกไป 4 รอบแล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2011 เป็นต้นมา เนื่องจากปลายแผ่นทางทิศใต้ด้านตะวันออกของแผ่นนี้ยกตัว ที่คุณ Zeta เรียกว่ายกเบรคขึ้น และหากแผ่นนี้ปลดเบรคเมื่อไร พื้นที่ประเทศอินโดฯก็จะจมลงทันทีเต็มเกณฑ์พิกัด 80 ฟุต รวมทั้งแผ่น Sunda Plate ทั้งหมดขึ้นไปถึงประเทศจีนตอนใต้เส้นแลดติจูดที่ผ่านเมืองหังซู่ลงมา ที่นั่นจะจมลง 20 ฟุต

    และคุณ Zeta ยังย้ำอีกว่า เหตุการณ์ Sunda Plate ทรุดตัวจะเกิดขึ้นในช่วง 7/10 Sceanarios ก่อนที่จะถึง เขต Severe Wobble ซึ่งในช่วงนั้นโลกจะประสบเหตุแผ่นดินไหวในโซนต่างๆ 9 วันติดต่อกันในระดับ 8-10 ริกเตอร์ สิ่งก่อสร้างต่างๆจะทนไม่ไหว แล้วต่อมาบริเวณพื้นที่เหนือเส้นศูนย์สูตรจะมืดไป 3 วัน เนื่องจากแกนพลังงานโลกเอียงหนีขั้วเหนือของดาวหางที่ชี้ขั้วเหนือตรงมา ยังโลกในระยะใกล้ โลกจึงจะมืดไปส่วนหนึ่ง แล้วจึงกลับมาตั้งตรงเช่นเดิมอีกระยะสั้นๆ ก่อนที่โลกจะค่อยๆมีกลางวันและกลางคืนยาวมากขึ้น จนโลกหยุดหมุนรอบตนเองในที่สุด

    ท่านที่ได้มีโอกาสอ่านเว็บเพจนี้ ก็ถือเสียว่าได้ชมหนังตัวอย่างฉากหนึ่งก็แล้วกัน ส่วนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่เป็นเรื่องในอนาคต ก็ค่อยๆตามจับตาสิ่งแวดล้อมกันต่อไปก็คงพอจะวินิจฉัยได้ด้วยตนเองว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องเก็บไปเป็นกังวล

    ที่มา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1818327.jpg
      1818327.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54 KB
      เปิดดู:
      1,140
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวการพบเห็น UFO เมื่อปี 2552 !!!


    คน กทม.ตื่น! ลำแสงประหลาดโผล่ท้องฟ้ากว่า 30 ดวง !!!

    คน กทม.ตื่น!วัตถุเรืองแสงจำนวนมากลอยในอากาศย่านคลองถม ห้วยขวาง และรามคำแหง 21 ซึ่งสามารถมองด้วยตาเปล่าได้ชัดเจน ขณะกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ จากการตรวจสอบพบผู้คนออกมาดูกันเป็นจำนวนมาก และต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยกลุ่มดาวดังกล่าวเคลื่อนตัวจากทิศตะวันตกมุ่งหน้า ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากผู้สื่อข่าวออกไปตรวจสอบ พบว่ากลุ่มลำแสงดังกล่าว มีจำนวนประมาณ 20-30 ดวง

    และเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด และเมื่อส่องดูด้วยกล้องส่องทางไกล ที่มีระยะการมองเห็นขนาด 2 ก.ม. พบว่า ดาวแต่ละดวงมีลักษณะคล้ายแสงไฟ เป็นรูปวงรี โดยมีแสงไฟเกิดขึ้นตรงกลาง ส่วนบริเวณรอบๆ ของแสงไฟปริศนานั้น จะเห็นเป็นลักษณะสีดำคล้ายวัตถุที่ไม่ใช่ดวงดาว และสามารถเคลื่อนตัวได้รวดเร็ว ภายใน 10-15 นาที พบว่าเคลื่อนตัวทำมุมประมาณ 30-37 องศา และยังเป็นที่สงสัยของ ปชช. ว่า กลุ่มแสงไฟดังกล่าวเป็นสิ่งใด เนื่องจากมีลักษณะไม่เหมือนกับดวงดาวทั่วไป

    อาจารย์ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นถึง กรณีกลุ่มลำแสงปริศนา ที่ปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า ในพื้นที่ กทม. และมีประชาชนย่านบึงกุ่ม คลองถม และย่านรามคำแหง ห้วยขวาง สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ประมาณ 30 ดวง ว่า จากการวิเคราะห์เบื้องต้นแล้ว

    สรุปได้ 3 ประการ คือ ประการแรกสิ่งที่ปรากฏขึ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่ดวงดาวอย่างแน่นอน เนื่องจากปรากฏขึ้นในช่วงฟ้าสว่างอยู่ ซึ่งดวงดาวโดยทั่วไปจะไม่สามารถสู้กับแสงพระอาทิตย์ได้ ทำให้ไม่เห็นดวงดาวในเวลากลางวัน และเมื่อมืดลงลำแสงดังกล่าวได้หายไป ประการที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ไม่น่าจะเป็นจานบิน UFO อย่างแน่นอน

    และประการสุดท้าย เชื่อว่าลำแสงที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากบอลลูนจากการจัดงาน หรือแข่งขันกันในพื้นที่ใกล้เคียง กทม. ก็อาจเป็นได้ หรือเป็นบอลลูนประเภทที่ทางหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง ปล่อยบอลลูนชนิดสำรวจอวกาศ เพื่อโคจรตรวจสอบสภาพอากาศหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็อาจเป็นได้ ซึ่งตรงนี้ จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดต่อไป

    นายเกรียงไกร กอวัฒนา ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ระบุ ถึงปรากฏการณ์ลำแสงประหลาดกลางท้องฟ้า ทำให้ประชาชนใน กทม. หลายท้องที่ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่า ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มาจากสิ่งใด ส่วนข้อสอบถามที่ว่า วัตถุดังกล่าว อาจจะเป็นบอลลูนวัดลมชั้นบนบรรยากาศ ที่กรมอุตุฯ ปล่อยออกไปหรือไม่นั้น นายเกรียงไกร ยอมรับว่า ในทุกเย็นจะมีการปล่อยบอลลูนดังกล่าวจริง เพื่อวัดความชื้นของชั้นบรรยากาศ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการบิน หรือ ประโยชน์อย่างอื่นจริง

    แต่ก็ยืนยันว่า ลำแสงที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่บอลลูน จากกรมอุตุฯ อย่างแน่นอน ประการแรก ทางกรมอุตุฯ จะปล่อยสถานีละ 1 ลูก ในทุกสถานีทั่วประเทศ ซึ่งรวมแล้ว มีเพียง 8 สถานี และจะไม่มีลำแสงสะท้อน ในลักษณะที่เห็นภาพข่าวออกมา แต่ลำแสงปริศนาที่เกิดขึ้นนั้น มีจำนวนประมาณ 30 ดวง ทำให้เชื่อได้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่การปฏิบัติงานของกรมอุตุฯ อย่างแน่นอน

    http://www.innnews.co.th/social.php?nid=202556
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บทลงโทษมนุษย์ที่รุนแรงถึงขนาดล้างบ้านล้างเมือง !!!

    [​IMG]

    ตำนานเกย์ในคริสต์ศาสนา !!!

    ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ มีการกล่าวถึงการสมสู่กับคนเพศเดียวกันในทำนองเป็นความผิดบาปที่ร้ายแรงอยู่หลายตอน และนี่เองที่ฝังแน่นอยู่ในความคิดของฝรั่งตะวันตกที่นับถือศาสนาคริสต์ เป็นสำนึกทางศีลธรรมและกฎหมายเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ในตำนานการสร้างโลก หรือเยเนซิส การประพฤติตนเป็นเกย์เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้า ลงโทษมนุษย์อย่างรุนแรงถึงขนาดล้างบ้านล้างเมือง

    ดังจะเห็นได้จากพระคัมภีร์ ซึ่งได้กล่าวถึงการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้ไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญแผ่นดิน ชาวเมือง และบรรดาสิ่งที่งอกขึ้นมาจากแผ่นดินให้พินาศย่อยยับเสียทั้งหมด ว่าเป็นเพราะชาวเมืองนั้นนิยมประพฤติตนเป็นเกย์ คือสมสู่กันในระหว่างคนเพศเดียวกันทั้งเมือง เมืองที่ว่านี้คือเมืองซะโดม และอะโมรา

    ซึ่งตามตำนานเล่าว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์สององค์ไปตรวจดูความประพฤติของคนเมืองนี้ เมื่อทูตสวรรค์ไปถึงและได้พำนักอยู่ในบ้านของโลต (หลานของอับราฮามซึ่งเป็นสาวกคนสำคัญของพระยะโฮวา) ปรากฏว่าคืนนั้นเองชาวเมืองซะโดมผู้นิยมร่วมเพศกับคนเพศเดียวกัน ทั้งคนหนุ่มคนแก่พากันยกขบวนมาล้อมบ้านของโลต และเรียกให้โลตมอบทูตสวรรค์ทั้งสององค์ให้แก่พวกตน เพื่อพวกตนจะได้สมสู่กับทูตทั้งสองนั้นตามประเพณีที่ยึดถือกันมานานแล้วว่า

    ชาวเมืองซะโดมมีสิทธิ์สมสู่กับคนเดินทางที่พำนักในเมืองตน แม้ว่าโลตผู้เป็นเจ้าของบ้านจะออกไปเจรจาทัดทาน ขอให้ปล่อยและละเว้นทูตสวรรค์ทั้งสอง โดยจะยอมส่งตัวลูกสาวสองคนของตนให้คนเหล่านั้นแทน ชาวเมืองซะโดมก็ไม่ยอมและพยายามจะจับตัวโลตไปทำปู้ยี้ปู้ยำเสียด้วย ทำเอาทูตสวรรค์ต้องยื่นมือเข้าช่วย บันดาลให้โลตหนีรอดมาได้ แล้วสั่งให้โลตพาลูกเมียหนีออกไปจากเมืองนั้นเสียก่อนที่พระผู้เป็นเจ้าจะทำลายเมืองเสีย

    ก่อนหน้าที่พระผู้เป็นเจ้าจะทำลายเมืองซะโดมและอะโมรา เพราะเหตุที่ชาวเมืองนิยมสมสู่กับคนเพศเดียวกันนั้น อับราฮามเคยทูลทัดทานและขอชีวิตชาวเมืองไว้ โดยขอให้พระผู้เป็นเจ้าเห็นแก่คนที่บริสุทธิ์ไม่ได้ประพฤติเช่นนั้นเหมือนคนอื่นๆด้วย ซึ่งพระยะโฮวาก็ทางให้สัญญาว่า ถ้าหากมีคนชอบธรรมที่ไม่ประพฤติตนเป็นคนลามกในสายตาของพระองค์เพียงสิบคน พระองค์ก็จะทรงเห็นแก่คนบริสุทธิ์สิบคนนั้น และจะไม่ทำลายเมืองนั้น แต่ในที่สุด ปรากฏว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้ไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญเมืองนั้นจนไม่เหลือซาก

    ก็เป็นเครื่องแสดงว่าคนเมืองนั้นเป็นคนเลามากในสายตาของพระองค์ ชาวเมืองที่เป็นคนลามกนั้นมีมากเสียจนเรียกได้ว่าหมดทั้งเมือง เรียกได้ว่าเป็นเมืองเกย์ คือมีที่ไม่เป็นเกย์นับได้ถึงสิบนั่นเอง โดยที่การสมสู่กับคนเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าถือว่าเป็นสิ่งลามกอย่างยิ่ง พระองค์ได้ระวางโทษผู้ที่ประพฤติเช่นนั้น ไว้อย่างรุนแรง คือมีโทษถึงตาย พระองค์ได้ทรงตรัสสั่งให้โมเสสประกาศแก่คนทั้งหลายว่า การประพฤติเช่นนั้นทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน และจะเป็นเหตุให้แผ่นดินนั้นต้องโทษ และทำให้เกิดธรณีสูบ แผ่นดินไหวได้

    ที่มา ตำนานเกย์ทางคริสตศาสนา | KhunPloy's on Earth

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    กลุ่มรักร่วมเพศเฮ! ฝรั่งเศสไฟเขียว แต่งงานถูกกฎหมายแล้ว - ข่าวไทยรัฐ ...
    http://www.thairath.co.th/content/oversea/326400
    สภาอังกฤษผ่าน กม.ให้เกย์แต่งงานกันได้
    http://news.sanook.com/1168496/สภาอังกฤษผ่าน-กม.ให้เกย์แต่งงานกันได้/
    เวียดนาม เตรียมอนุญาตเกย์แต่งงานแห่งแรกในเอเชีย
    http://www.rsat.info/index.php?lay=show&ac=article&Id=539571884&Ntype=8
    วุฒิสภานิวยอร์ก ผ่านกฎหมายอนุญาตชาวเกย์แต่งงานกันได้
    http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27578.0;wap
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  8. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    คงกลับมาจากไปเที่ยวแถว รัชดา + ห้วยขวางละมั้งครับ แถวนั้นแสงสียามค่ำคืนเยอะเสียด้วย :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2013
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ดาวพลังงานดำ"
    ดาวเจ้ากรรมนายเวรของชาวโลก !!!

    [​IMG]

    สิ่งแวดล้อมต่างๆที่ คุณ Zeta กล่าวถึง ก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเองหลายสัปดาห์ อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคทั้งหมดที่ชาวโลกสร้างขึ้นจะหยุดทำงาน....เนื่องจากเหตุใด?

    ดาวเทียมสื่อสารต่างๆรอบโลก จะแตกหักเสียหายหมดไปจากท้องฟ้า ด้วยการชนกับเศษขยะของดาวหาง และขยะจากวงแหวนขยะในอวกาศที่ลอยอยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ที่ถูกดาวหางดูดมาด้วย...ส่วนเคเบิลใยแก้วบนเปลือกโลกก็ชำรุดเสียหาย เนื่องจากเปลือกโลกเคลื่อนตัวทั้งดึงกันแยกออกจมลง และเบียดบด มุดซ้อนกันแตกหักเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นที่ญี่ปุ่น และสุมาตราเมื่อ 2547 แต่โซนที่เปลือกโลกยืดจะสังเกตอาการยากหน่อย จะนำไปเกิดการชนกันของขอบแผ่นนั้นๆที่มีการยืดตัวออก

    ปัญหาของการสื่อสารไม่ใช่มีเฉพาะขาดดาวเทียมสื่อสารเท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ล้วน ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะเป็นปัญหาหลัก เนื่องจากชั้นหินเปลือกโลกภายใต้แรงกดดันสูงที่ปัจจุบันกำลังปรับตัวยิ่งยวดไปโดยลำดับ จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำออกมารบกวนสัญญาณของเครื่องมือสื่อสารต่างๆ รวมทั้งสัญญาณวิทยุ และดีเอสแอล ส่วนเซิร์ฟเวอร์ของอินเทอร์เน็ตก็จะขาดการดูแลซ่อมบำรุง หรือบางแห่งอาจสลับใช้เว็บส่งสัญญาณหลายช่อง ก็จะประสบปัญหาขัดข้องเช่นเดียวกัน และสถานีทวนสัญญาณกับดาวเทียมที่ยังเหลืออยู่ ก็จะหาดาวเทียมที่ถูกเลื่อนพิกัดออกไปไม่พบ ก็ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากดาวเทียมที่อาจมีเหลืออยู่ได้

    ดังนั้นการใช้สื่อทางอีเมล์ก็จะค่อยๆลดน้อยลง จนไม่สามารถใช้สื่อสารได้อีกต่อไป และไม่สามารถกู้คืนกลับมาใช้ได้ใหม่ . ส่วนรถยนต์ รถประจำทาง รถไฟ ที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อีเล็คโทรนิค ก็ยังใช้ได้จนกว่าจะหมดน้ำมันเชื้อเพลิง ถนนหนทาง ทางรถไฟ สะพานต่างๆจะถูกทำลายจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ต่อเนื่องยาวนาน จึงเป็นอีกอุปสรรคต่อการเดินทาง เกิดขึ้นหลายสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเอง เตรียมตัวพลิกขั้ว 90 องศาในเวลา 1 ชั่วโมง......ก็ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับท่านเจ้าของรถที่ติดตั้งกล่องดำ สำหรับช่วยควบคุมรถอาจประสบปัญหาในระหว่างการเดินทางในชั่วโมงฉุกเฉิน ที่ไปพบกับคลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำเข้าพอดี

    ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้า สำหรับแต่ละบุคคล จึงต้องแลกเอากับความปลอดภัยของตนเอง หรือว่าจะจมอยู่กับหน้าที่ประจำไปจนวินาทีสุดท้ายก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ว่าทำไม่ต้องไปเสียเวลาอยู่กับเรื่องเหล่านั้นอยู่อีก ในเมื่อทุกอย่างที่กำลังทำอยู่มันจะไปถึงทางตันอยู่แล้ว และชาวโลกในบริเวณขั้วโลกเหนือ ยังจะประสบกับความมืดมิดอีก 3 วัน ระหว่างที่กำลังเกิดชุลมุนวุ่นวาย ระหว่างที่ดาวหางดวงใหญ่กำลังโคจรอยู่ในอีกฟากตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์เตรียมโคจรสวนทางกับโลกเข้ามาทุกทีในช่วงขาออก มีลูกสมุนดาวดำแฝด พระจันทร์และดาวศุกร์ เข้ามาร่วมสกัดกั้นโลก และร่วมกันเข้าบดขยี้ทำการปฏิวัติโลกใหม่ ทุกๆรอบ 3,657 ปีโดยประมาณ

    แม้ปัจจุบัน สนามแม่เหล็กและแรงดูดผลักของดาวหาง และดาวศุกร์ และดวงจันทร์ ก็ส่งผลมาถึงการเกิดแผ่นดินไหว อยู่ในโซนต่างๆทั่วโลกอยู่แล้ว จึงต้องถามตนเองว่าทำไม? กับหลายๆคำถาม หาคำตอบที่ชัดเจนแม่นยำให้แก่ชีวิตของตนเอง..สำหรับช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกน้อยนิด ที่ต่างคนต่างต้องช่วยเหลือตนเองอย่างยิบตา...อ้อท่านผู้สันทัดกรณีบอกว่าหากใครมีเซลล์ดำอยู่ จะมีโอกาสรอดพ้นการร่อนตะแกรงเข้าไปโลกใหม่ค่อนข้างยากลำบาก

    ข้อความนี้ของคุณ Zeta พูดถึงดาวพลังงานดำดาวเจ้ากรรมนายเวรของชาวโลก ที่สะสมพลังงานความคั่งแค้นใจมา 6 หมื่นปี กำลังมาร่วมใช้ธรรมชาติคิดบัญชีคู่พันธะกรณีต่างๆ เพิ่มความรุนแรงของภัยธรรมชาติให้เร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งชาวโลกส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเหตุในอดีตเหล่านี้ ที่มันมีพลังงานอยู่จริง และปรากฏภาพให้เห็นในภาพถ่ายต่างๆ โครจรซ้อนทับไล่หลังโลกอยู่ ดาวดำคู่แฝดของโลก จะเข้ามาดันหลังโลก ให้หลบหนีวงจรของ Planet X ไปไหนไม่ได้ เมื่อดาวทั้ง 2 ดวงกำลังโคจรคู่ขนานสวนทางกัน ในระยะประชิดใกล้ ในช่วงเอ๊าท์บาวน์ของดาว Planet X ดึงโลกย้ายขั้วเหนือไป 90 องศา

    การเกิดแผ่นดินไหวจากแรงดึงเข้าผลักออก ของดาวหางที่กำลังโคจรใกล้โลกเข้ามาอยู่ใกล้ๆดาวศุกร์นี่เอง ร่วมกับดาวศุกร์ดาวอังคาร ดวงจันทร์ และดาวดำคู่แฝดขนาดเท่าๆกับโลก ที่แทบจะซ้อนวงโคจรของโลก ซ่อนตัวอยู่หลังดวงอาทิตย์ นักจิตศาสตร์เรียกดาวดำนี้ว่าเป็นกลุ่มพลังงานลบ ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์มา 6 หมื่นปี รอใช้โอกาสสะสางความคับแค้นในใจ ในกรณีนี้ถ้ามนุษย์รู้วิธีใช้กุศโลบาย เพิ่มกำลังให้แก่วิญญาณทุกดวงทั่วทั้ง 3 โลกพลังลบที่จะมาช่วยดาวหางทำงานปฏิวัติโลก ก็น่าจะลดดีกรีลงไปได้บ้าง เมื่อดาวพลังดำคู่แฝดค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นใสสว่างขึ้น

    นั่นคือเขาได้เปลี่ยนมิติไปสู่ถิ่นที่ดีกว่าเก่า เลยอโหสิกรรมคู่กรณีกันไป จะปฏิบัติตรงนี้ได้อย่างไรนั้น ท่านที่สนใจลองแวะที่ลิงค์นี้ หากช่วยกันในจำนวนผู้ปฏิบัติมากเข้า การผสานคลื่นความถี่แม่เหล็กของดาวหางที่ดึงโลกเข้าไปใกล้มากในช่วงขาออกของดาวหางที่โคจรผ่านดวงอาทิตย์ออกมา สร้างสนามแม่เหล็กที่แปรปรวน และดูดแผ่นเปลือกโลกแอนตาร์คติกให้เคลื่อนตัวออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สนามแม่เหล็กคลื่นความถี่ต่ำเหล่านี้ จะลงไปกระตุ้นพลังงานแม่เหล็กใต้แผ่นเปลือกโลก ที่ได้ทะลุทะลวงเข้าเปลือกโลกมา 10 กว่าปี เมื่อคนบนโลกรู้สึกว่าแดดร้อนขึ้นผิดปกติ และการเกิดแผ่นดินไหว ยังจะได้รับการกระตุ้นจากคลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำ ของพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์อีกด้วย

    นอกจากนั้นความถี่คลื่นแม่เหล็กต่ำ ยังไปมีผลลดแรงโน้มถ่วงของโลกลงด้วย จนมีผู้มองเห็นภาพอนาคตที่คนจะลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ในโซนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสุริยะเป็นคราวๆได้อีกด้วย

    หลายสัปดาห์ก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเอง มีผู้ข้องใจและติดอยู่กับการเรียนและงานในหน้าที่ ส่งคำถามถึงคุณ Zeta ว่า การคมนาคมและเครื่องมือสื่อสารต่างๆ และรถยนตร์ รถไฟจะยังใช้การได้ดีอยู่ไหม จะได้ช่วยให้ตนเองอยู่กับภาระกิจประจำจนวินาทีสุดท้าย จึงจะเคลื่อนย้ายไปสู่ที่ปลอดภัย...คลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าต่ำ ได้แสดงให้เห็นขณะที่เกิดแผ่นดินไหว ที่ชายแดนใกล้เชียงราย โทรศัพท์และวิทยุและอุปกรณ์อีเลคโทรนิคต่างๆ จะใช้การไม่ได้ ตรงกับที่คุณ Zeta ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    ที่มา http://ainews1.com/article567.html
     
  10. undersea12000

    undersea12000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +1,493
     
  11. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    677
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    [​IMG]


    วันนี้...รัสเซียแตกตื่นอุกกาบาตตกถล่มเมือง

    [​IMG]

    กระทรวงรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียระบุมีอุกกบาตตกถึงพื้นโลกอย่างน้อย 1 ลูก ขณะที่ชาวรัสเซียแตกตื่นหลังเกิดระเบิดสนั่นหลายครั้งบนท้องฟ้า มีรายงานบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ล่าสุดกองทัพอากาศรัสเซียยืนยันมีการยิงอุกกาบาตก่อนตกถึงพื้นโลก

    ข่าว BBC
    BBC News - Meteor shower in central Russia 'injures at least 250'

    คลิ๊ปครับ...
    BBC News - Meteor shower in central Russia 'injures at least 250'

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=TtOL5OiWTNI&feature=player_embedded]Chelyabinsk meteorite impact 02/15/13 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nsNPIyxwPlE&feature=player_embedded]Explosion in Chelyabinsk - Amazing Footage 1 - YouTube[/ame]



    ที่มา เห้ย...ไหงทีแรกบอกแค่ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลก
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปีนี้น่ากลัวจริงๆ เรื่องน้ำท่วมกับแผ่นดินไหว !!!

    [​IMG]

    interpoo สมาชิก

    ปีนี้น่ากลัวจริงๆ เรื่องน้ำท่วม อะไรก็ไม่กลัวเท่าที่ฝันว่า จะมีสึนามิ ขนาดใหญ่มาก... จนตายเป็นแสนๆ ในเวลากลางคืน... และก็ แผ่นดินไหวแรงๆ ที่นิวซีแลนด์ จ้า ... ตอนนี้ มีสะเก็ดอุกาบาตตกแล้ว ลูกเล็กๆ แต่ความแรงมันเยอะเลย... ทำให้วันนี้ทุกคน วุ่นวายใจกันไปหมด... แล้ว ประจวบเหมาะกะ ที่ปูฝันว่า เป็นกลางคืนด้วยสิ สึนามิอันนี้กะแผ่นดินไหวใหญ่ๆ บ้านเรือนพัง... ก็นะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด... อย่าให้ฝันอันนี้เป็นจริงเลยนะ... เพราะมันน่ากลัวจริงๆ เลย... ถ้าอ่านมาตลอด คงจะเห็นว่า ปูยังติดใจความฝันนี้ไม่หาย.... เพราะมันมีศพนับแสน กองให้เกลื่อนไปหมด เมื่อคืนก็ฝันว่า ตึกสูงๆ พังเป็นแถบๆ เหมือนโดนยิงถล่ม... ช่วงนี้ ฝันร้ายน่าดู

    15-02-2013, 09:34 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปี56จะร้ายแรงเหมือนหลายๆคนพูดหรือไม่.320025/page-90
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บารัค โอบาม่า บุรุษในคำทำนายของนอสตราดามุส?

    [​IMG]

    เมื่อวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านมาเวลาเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น นายบารัค โอบาม่า ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนที่รับชมเสียวตามๆ กัน นั่นคือข่าวการลอบฆ่านายโอบาม่า เมื่อมีโอกาสเลยเขียนบทความเกี่ยวกับคำทำนายประหลาดๆ ในอดีตที่เหมือนจะสอดคล้องกับนายโอบาม่าพอดี

    Mabus then will soon die, there will come
    Of people and beasts a horrible rout:
    Then suddenly one will see vengeance,
    Hundred, hand, thirst, hunger when the comet will run.


    "มาบูซ จะตายในไม่ช้า
    จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์อย่างน่าสยดสยอง
    ทันใดนั้น การแก้แค้นจะปรากฏขึ้นจากร้อยแผ่นดิน
    ความกระหาย อดอยาก จะเกิดขึ้นเมื่อดาวผ่านโคจรผ่านมา" II 62


    โคลงกาพย์ข้างบนเป็นบทกลอนในหนังสือเซนจูรี่อันโด่งดังที่นอสตราดามุสนักโหราพยากรณ์ก้องโลกได้เขียนเอาไว้ ในหนังสือเซนจูรี่นั้น มีกลอนหลายบท เป็นพันๆ บท เสน่ห์ของกลอนเหล่านี้คือ เป็นกลอนที่มีโค้ดลับซ่อนอยู่(ตามความเชื่อ) โดยในพันกว่าบทนั้น ไม่ได้เรียงเหตุการณ์ตามบทก่อนหลัง ไม่มีใครรู้ว่า นอสตราดามุสเรียงบทความลำดับก่อนหลังอย่างไร จึงทำให้นักทำนายรุ่นหลังตีความไปต่างๆ นานา เพื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ตอนนั้นๆ ยิ่งทำให้หนังสือเซนจูรี่ยังคงความทันสมัย ไม่ตกยุค

    บทที่ได้รับความนิยมที่สุดบทหนึ่งในหนังสือเซนจูรี่คือ เซนจูรี่เล่ม 2 บทที่ 62 ตามที่เขียนข้างบนนั่นเอง วรรคที่ตีความไปต่างๆ กันคือ Mabus จะตายในไม่ช้า ทำให้หลายคนสงสัยจริงๆ ว่า Mabus ของนอสตราดามุสคือใคร ทำไมมาบุซต้องตาย แล้วคนกับสัตร์ทำไมต้องตายหมู่ จะมีสงครามหรือ การแก้แค้นจากร้อยแผ่นดินคืออะไร...

    Mabus = Obama Barack from USA ?

    โอบาม่า เป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา การที่เป็นคนผิวสี ซึ่งเป็นที่รังเกียจของพวกอนุรักษ์นิยมกลุ่มนึงที่หวังจะลอบฆ่า หากนายโอบาม่าถูกฆ่า การแก้แค้นจากคนสหรัฐฯ(คนร้อยแผ่นดิน)ต้องมีแน่นอน เพราะตอนนี้โอบาม่าคือฮีโร่พันธุ์ใหม่ ความหวังของคนชาติอเมริกาอย่างแท้จริง

    ที่มา บารัค โอบาม่า บุรุษในคำทำนายของนอสตราดามุส? | Eric's box
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. BeforEnd

    BeforEnd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +209
    เว็บทดสอบความเร็วเน็ต Speedtest.net - The Global Broadband Speed Test
    เอามาโพสต์ทำไมครับ เช็คสมองบ้างนะครับ คุณหนุมาน
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนต์ “The Impossible”

    [​IMG]

    นาโอมิ วัตส์ หนีตายสึนามิถล่มใน “The Impossible” ฉากมหาวิบัติในแท็งค์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!

    สร้างจากเหตุการณ์ที่โลกไม่เคยลืมเลือน วันที่ 26 ธันวาคม 2004 มหาวิปโยคที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของโลก เมื่อแผ่นดินไหวขนาด 9 ริคเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเข้าชายฝั่งใน 14 ประเทศของทวีปเอเชีย กว่า 2 แสนชีวิตต้องสูญเสียไปภายระยะเวลาเพียงแค่พริบตาเดียว และในประเทศไทยก็มีผู้เสียชีวิตกว่าห้าพันคน และยังสูญหายอีกกว่าสองพันคน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์นั้น จนไปโดนใจผู้กำกับชาวสเปน ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า ที่ขอหยิบยกเรื่องจริงของครอบครัวนักท่องเที่ยวครอบครัวหนึ่งที่มาเที่ยวประเทศไทยและต้องประสบเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมานำเสนอเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Impossible

    “มีเรื่องราวของผู้คนหลายชีวิตที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สึนามิ ปี 2004 แต่ผมคิดว่าไม่มีเรื่องไหนที่จะสมบูรณ์มากกว่าครอบครัวนี้ พวกเราใช้เวลาพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เพราะเราต้องการทำให้คนดูเป็นห่วงและอยากเอาใจช่วยพวกเขาให้รอดไปได้ นี่ไม่ใช่หนังหายนะบล็อคบัสเตอร์ทั่วไป ผมอยากทำให้มันมีความสำคัญกว่านั้น” บาโยน่ากล่าว

    [​IMG]

    บทบาทสำคัญตกเป็นของนักแสดงชั้นนำ ยวน แมคเกรเกอร์ (จาก สตาร์วอส์ เอพิโซด1-3) และ นาโอมิ วัตส์ (จาก เดอะริง) ที่มารับบทสามีภรรยาที่พาลูกๆ มาพักผ่อนที่เมืองไทยทำให้ทั้งคู่ต้องมาถ่ายทำที่สถานที่จริงอย่างเขาหลักและเกาะพีพี โดยเฉพาะโรงพยาบาลตะกั่วป่า ที่เป็นจุดศูนย์กลางของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อถ่ายทอดความสมจริง

    The Impossible (ดิ อิมพอสสิเบิ้ล) มาถ่ายทำในประเทศไทยกว่า 80% ส่วนที่เหลือก็ไปถ่ายทำในสเปน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากสึนามิถล่มก็ได้ไปถ่ายทำกันในเมืองอาลีคานเต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแท็งค์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในฉากนี้ทั้งนักแสดงสาว นาโอมิ วัตส์ และ ทอม ฮอลแลนด์ ที่รับบทเป็นลูกชายคนโต ก็ต้องถ่ายทำกันยาวนานถึง 6 อาทิตย์ โดย เธอก็ได้พูดถึงความรู้สึกในการเข้ามาแสดงว่า “ฉันรู้ทันทีตั้งแต่อ่านบทภาพยนตร์ถึงแค่หน้าที่สาม ว่ามันต้องเป็นอะไรมากกว่าหนังหายนะ มันเป็นเรื่องราวของครอบครัวที่ทำให้คุณรู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในพวกคุณทันที”

    [​IMG]

    The Impossible (ดิ อิมพอสสิเบิ้ล) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง เรื่องราวของ มาเรีย (นาโอมิ วัตตส์) และ เฮนรี่ (ยวน แม็คเกรเกอร์) และลูกชายทั้งสามคน ที่เดินทางมาพักผ่อนชายทะเลในประเทศไทย แต่เช้าวันที่ 26 หลังคืนวันคริสต์มาส สวรรค์บนดินก็แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย เมื่อคลื่นยักษ์สูงเท่าตึกสามชั้น พุ่งเข้าถล่มทุกสิ่งทุกอย่างแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ความเป็นความตาย

    [​IMG]

    The Impossible เตรียมงานสร้างกว่า 2 ปี และถ่ายทำกันเป็นเวลา 25 สัปดาห์ทั้งในสเปนและไทย โดยมีฉากสำคัญมากกว่า 60 ฉาก โดยหนังเปิดกล้องในสตูดิโอที่เมืองอัลลิคานเต้ ก่อนที่จะย้ายมาถ่ายทำที่เกาะภูเก็ต ประเทศไทย ซึ่งหลายแห่งก็เป็นสถานที่ที่เคยเกิดสึนามิ เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้กำกับ ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า ต้องการที่จะทำให้มันมีความสมจริงและยังให้ความเคารพมากที่สุด

    ในขณะที่ช่วงเริ่มต้นของหนังถูกถ่ายทอดด้วยความรุนแรง เมื่อคลื่นน้ำที่บ้าคลั่งซัดใส่มนุษย์ตัวเล็กๆ แต่ช่วงเวลาต่อจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งก็คือเรื่องราวของความกล้าและความหวัง นาโอมิ วัตตส์ อธิบายว่า “หนังที่สร้างจากเรื่องจริงเป็นเรื่องยากและง่ายในเวลาเดียวกัน มันง่ายที่จะเข้าไปสัมผัสกับความจริง แต่มันก็คือแรงกดดันเพราะเรากำลังเล่าเรื่องของคนที่มีชีวิตอยู่จริง มันจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำด้วยความเคารพให้มากที่สุดท่าที่จะทำได้”

    ยวน แม็คเกรเกอร์ เสริมต่อว่าพวกเขาพยายามสร้างเพื่อเป็นเกียรติ ไม่เพียงแค่ครอบครัวนี้แต่ยังรวมถึงทุกคนที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์สึนามิด้วย “เมื่อคุณเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันก็คือความรับผิดชอบกับคนที่คุณรับบท ไม่เพียงแค่นั้นผมก็ยังรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิด้วย ผู้คนจำนวนมากล้มตาย และหลายคนที่มีชีวิตรอดมาบอกเล่าเรื่องราว ผมจะไม่ยอมให้ใครมาบอกว่าเราหาผลประโยชน์จากความสูญเสีย โดยใช้สึนามิเป็นฉากหลัง นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการทำ”

    บาโยน่า ยืนยันที่จะถ่ายทำในสถานที่จริง รวมถึงการได้ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิจริงๆเข้ามาแสดงในหนัง โดยสถานที่ที่สำคัญที่สุดก็คือรีสอร์ต เดอะ ออร์คิด ที่ครอบครัว เบลอน ได้เดินทางมาพักผ่อนในช่วงคริสต์มาส ซึ่ง มาเรีย เบลอน ก็ได้ร่วมเดินทางกับทีมงานไปยังรีสอร์ตแห่งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอผ่านฝันร้ายครั้งนั้น

    มาเรีย เล่าถึงความรู้สึกของเธอที่ได้กลับไปที่รีสอร์ตแห่งนั้นว่า “ไม่เพียงแค่ฉันไปที่ เดอะ ออร์คิด ฉันยังกลับไปนั่งตรงจุดที่ฉันถูกคลื่นน้ำซัดอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงการกินอาหารเช้า การพักผ่อนของนักท่องเที่ยว และพนักงานรีสอร์ตที่กำลังจัดการให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ ลำดับเหตุการณ์ในหนังเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในทุกรายละเอียด มันเป็นเช้าที่งดงามที่สุดวันหนึ่ง แต่จากนั้นชีวิตของทุกคนก็เปลี่ยนไปในเวลาแค่ไม่กี่นาที หลังจากที่ฉันกลับมาที่ เดอะ ออร์คิด ฉันก็คุยกับคนท้องถิ่นที่รอดจากเหตุการณ์สึนามิ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับทุกคน และฉันคิดว่า ฮวน ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมกับการถ่ายทอดทุกอย่างลงบนแผ่นฟิล์ม”

    วัตตส์ รู้สึกเห็นใจครอบครัว มาเรีย และชื่นชมในความกล้าหาญของเธอ ในการกลับมายังสถานที่ที่มอบประสบการณ์อันเลวร้ายให้กับเธอ “สำหรับฉันแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่เครื่องบินแล่นลงสนามบินภูเก็ต ความรู้สึกและบรรยากาศก็ทำให้คุณรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ แต่สำหรับ มาเรีย ที่กลับมาพร้อมครอบครัว และได้สัมผัสกับประสบการณ์นั้นอีกครั้ง มันเหมือนกับกระบวนการที่เธอต้องการมอบบทสรุปให้กับตัวเอง”

    [​IMG]

    เพื่อที่จะสร้างฉากสึนามิถล่ม The Impossible ก็ต้องใช้ทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คถึงหกทีม และใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการสร้างฉากที่กินเวลา 10 นาที ที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของหนัง เมื่อคลื่นยักษ์กระหน่ำเข้าใส่ชายฝั่งทะเลตะวันตก โดยทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค เฟลิกซ์ เบอร์เจส และ พอล คอสต้า ก็รับหน้าที่ในการสร้างตัวละครที่สำคัญที่สุดอย่างคลื่นสึนามิ ซึ่งสำหรับ เบอร์เจส หนทางเดียวในการสร้างก็คือการใช้น้ำของจริง เขาเผยว่า “ไม่ว่าเทคโนโลยีของเราจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน แต่น้ำที่สร้างจากเอฟเฟ็คก็จะไม่มีความสมจริงมากพอ”

    การตัดสินใจนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของการถ่ายทำ โดยทีมงานก็ต้องใช้น้ำจำนวนกว่า 35,000 แกลลอนในแต่ละวัน โดยทีมงานของ เบอร์เจส ก็ได้สร้างระบบที่ทำให้กระแสน้ำมีความรุนแรง โดยที่ไม่ทำให้นักแสดงในเรื่องได้รับอันตราย “แนวทางแรกของเราก็คือการสร้างทางน้ำไหลประมาณ 60 เมตร แต่เราก็ตัดสินใจที่จะทำทางน้ำไหลประมาณ 10-15 ห้าเมตรต่อหนึ่งฉาก เพื่อให้นักแสดงมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยพวกเราก็ถ่ายทำกันประมาณร้อยช็อตสำหรับฉากสึนามิ”

    [​IMG]

    ทีมงานก็ยังถ่ายทำฉากที่สมาชิกครอบครัวถูกกระแสน้ำพัดไปคนละทิศละทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเรีย ที่ถูกน้ำดูดและทำให้เธอได้รับแรงกระแทกจากทุกสิ่งทุกอย่าง โดยทีมงานก็ถ่ายทำกันในแท้งค์น้ำประมาณเดือนครึ่ง เบอร์เจส เล่าถึงประสบการณ์ว่า “พวกเราถ่ายทำฉากน้ำท่วมโดยแบ่งออกเป็นสองกอง ทีมงานถ่ายทำใต้น้ำเป็นอะไรที่ซับซ้อนและลำบาก แท้งค์น้ำที่เราใช้มีความใหญ่ประมาณ 100 x 80 เมตร สิ่งที่ยากเกี่ยวกับการถ่ายทำฉากสึนามิก็คือ น้ำที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะไปในทิศทางไหน”

    การถ่ายทำกับน้ำมีความโหดและรุนแรง และคนที่ได้รับประสบการณ์ตรงมากที่สุดก็คือ นาโอมิ วัตตส์ โดยเธอก็เล่าถึงความรู้สึกว่า “มันเป็นความท้าทายมากที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับฉัน ฉันไม่ได้อยู่ในวัยเดียวกับ ทอม มันจึงไม่ใช่เรื่องปกติที่ฉันจะต้องถูกเหวี่ยงไปมาด้วยกระแสน้ำแบบนี้ มันเป็นงานที่ยากในระยะเวลาหนึ่งเดือน ฉันจำได้ว่า ฮวน บอกให้ฉันพูดบทระหว่างที่ถ่ายทำ แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้เพราะน้ำมันทั่วทั้งร่างของฉัน”

    สำหรับผู้ออกแบบงานสร้างมือรางวัลออสการ์ ยูเจนิโอ คาบาเรลโล่ เศษซากที่หลงเหลือหลังจากเหตุการณ์สึนามิก็คือความท้าทายที่สุดของเขา เขาเล่าว่า “ตอนเริ่มแรกโจทย์ที่ผมคิดว่ายากก็คือการสร้างฉากสีนามิ แต่เรื่องเซอร์ไพรซ์สำหรับผมก็คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังจากน้ำได้ผ่านไปแล้วต่างหาก พวกเราพยายามทำตามแนวทางเก่า คือการทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตรงนั้นจริงๆ แทนที่จะใช้เอฟเฟ็ค”

    ความพยายามของ คาบาเรลโล่ ก็คือการสร้างกราวน์ซีโร่ของความเสียหาย ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เศษไม้ และร่างของมนุษย์ทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งก็กินพื้นที่เท่ากับแปดสนามฟุตบอล โดยสิ่งที่ยากที่สุดที่เขาคาดไม่ถึงก็คือการสร้างซากต้นไม้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งบริเวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิต มาเรีย และ ลูคัส เอาไว้

    คาบาเรลโล่ เผยถึงการสร้างต้นไม้ของ มาเรีย ว่า “ฉากที่ท้าทายที่สุดฉากหนึ่งก็คือต้นไม้ของ มาเรีย มันเป็นฉากที่ใหญ่และลำบากในการถ่ายทำ เนื่องจากน้ำมีระดับสูงอยู่แล้ว เราจึงต้องสร้างแท่นที่ตั้งของต้นไม้ให้มีความสูงขึ้นไปอีก มันเป็นเรื่องทางเทคนิกที่ซับซ้อน เพราะต้นไม้นี้ก็เหมือนกับหัวใจของเรื่องราว ซึ่งเราก็ต้องควบคุมสภาพแวดล้อมตรงนั้นให้ได้เนื่องจากนักแสดงของเราต้องอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น โดยจากฐานต้นไม้ของ มาเรีย ไปจนถึงยอดก็มีความสูงประมาณ 7 เมตร กิ่งก้านของมันก็ถูกทดสอบหลายครั้งเพื่อความปลอดภัย เพื่อที่พวกเขาจะขึ้นไปอยู่และเล่าเรื่องที่เราต้องการเล่า”

    [​IMG]

    คาบาเรลโล่ เสริมต่อว่าสิ่งที่สำคัญในการสร้าง The Impossible ก็คือคนท้องถิ่น ที่ให้ความช่วยเหลือในการสร้างอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักแสดงสมทบที่ต้องสัมผัสกับประสบการณ์นั้นอีกครั้ง “หลายคนที่ทำงานกับเราคือคนในพื้นที่ และหลายคนก็สูญเสียสมาชิกครอบครัวไปจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผมจำได้ว่าคนขับรถแท็กซี่ที่มาส่งเราที่ เดอะ ออร์คิด เขาเห็นสิ่งพวกเรากำลังเตรียมงาน เขายืนนิ่งอยู่สองนาทีและส่ายหัว เขาบอกว่าตัวเองเสียภรรยาที่ทำงานในโรงแรมไป มันเหมือนกับว่าเขาย้อนเวลากลับไปสัมผัสถึงสิ่งนั้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลที่เราเข้าไปถ่ายทำก็เช่นเดียวกัน นางพยาบาลและคุณหมอหลายคนต่างก็มีประสบการณ์ กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่เดินทางมาที่นี่”

    ทีมงานได้ไปถ่ายทำกันในโรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งถือเป็นที่ที่ มาเรีย พักฟื้นร่างกาย รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่พักพิงหลังเหตุการณ์สึนามิของจริง โดย คาบาเรลโล่ และทีมงานก็เปลี่ยนให้มันกลับไปเป็นแบบนั้นอีกครั้ง “ฉากที่มีความซับซ้อนและสำคัญก็คือฉากในโรงพยาบาล พวกเราได้สร้างฉากในโรงพยาบาลที่ มาเรีย เข้าไปรักษาจริงๆ พวกเราได้ดูภาพและหลักฐานอ้างอิงที่ เพื่อสร้างความโกลาหลและความสมจริงในชั่วโมงแรกหลังจากเหตุการณ์สึนามิ”

    [​IMG]

    ผู้กำกับภาพ ออสการ์ เฟาร่า ต้องการให้ผู้ชมได้ซึมซับถึงบรรยากาศในประเทศไทย และต้องการทำให้อารมณ์ของภาพมีความสดใสและเต็มไปด้วยแสงสว่าง เขาพูดถึงแนนวทางการถ่ายทำว่า “ตัวละครของเราต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา พวกเราต้องถ่ายทำทั้งในและนอกน้ำ ด้วยเครน กล้องใต้น้ำ กล้องมือถือ พวกเรามีทีมงานกล้องสามทีม เพราะเราต้องการจับภาพทั้งบนบก ใต้น้ำ และบนอากาศในเวลาเดียวกัน”

    ด้วยความที่ธรรมชาติของหนังและตัวละครมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา มันจึงถือเป็นความท้าทายในเรื่องเทคนิกการถ่ายทำ เฟาร่า เล่าว่า “ผมต้องการควบคุมอารมณ์และแสงสว่างระหว่างการถ่ายทำ เพื่อทำให้ช็อตที่นำมาต่อกันมีความสอดคล้องและต่อเนื่องกันมากที่สุด โดยทีมงานของเราก็สร้างสลิงค์ชนิดพิเศษในการถ่ายทำฉากที่ วัตตส์ ต้องอยู่ใต้น้ำ มันเป็นการถ่ายทำที่ลำบากเนื่องจากเธอต้องหมุนตัวอยู่ภายในน้ำ และน้ำก็ไม่ได้ใสแจ๋วเหมือนน้ำจากสระ มันเป็นงานที่ต้องการอาศัยความร่วมมือกันระหว่างทีมงานและตัวนักแสดง”

    เฟาร่า อธิบายต่อว่า “พวกเราต้องควบคุมความหนาแน่นและกระแสน้ำ เพื่อที่จะควบคุมภาพที่เราถ่ายทำว่าจะออกมายังไง คุณต้องอยู่ใกล้กับตัวละครตลอดเวลาเพื่อที่จะจับเอารายละเอียดของเธอ พวกเราให้ นาโอมิ วัตตส์ นั่งเก้าอี้เคลื่อนไหวได้ที่เราเรียกว่า “จิราทุตโต้” ที่มีกล้องติดอยู่กับมัน ทำให้กล้องจับภาพของเธอเอาไว้ได้ทุกช็อต เราต้องการที่จะมอบความรู้สึกของการเดินทางจากแสงสว่างไปสู่ความมืดมิดให้กับคนดู มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวในการได้สัมผัส แต่มันก็เป็นความสำเร็จที่งดงามในเรื่องของเทคนิกที่นำมาถ่ายทอด”

    เนื้อหาโดย: TumYu

    ที่มา นาโอมิ วัตส์ หนีตายสึนามิถล่มใน “The Impossible” ฉากมหาวิบัติในแท็งค์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุการณ์ต่างๆได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปจากเดิม !!!

    [​IMG]

    มณีส่องแสง สมาชิก

    (เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

    ....วันดวงตาสวรรค์เปิดเต็มที่...หรือวัน ที่ประตูพิภพเปิด..๙ เดือน ๙ ปี ๒๕๕๕....เดือน ๑๑ ปี ๒๕๕๕ เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่โลกใบใหม่ รหัส..เกิดก่อนเกิด..เป็นการเตือนมนุษย์เพื่อให้จิตมนษย์ ได้ตื่นรู้..และเตรียมตัว รหัส..ตายก่อนตาย..สติ และกรรมฐานจะสามารถทำให้ทุกคนรอด..

    ลองไปดูและอ่านข่าวสารที่ หลายที่ลงไว้ เกี่ยวกับ ฐานทัพใต้ดินของกลุ่มองค์กรลับที่(อินลูเมเนติ) ถูกทำลาย หลายจุดนั้น ..ว่าใครกันนะที่สามารถมีอำนาจและพลังมากมายขนาดนั้นที่สามารถจัดการ ทุกอย่างได้โดยที่ไม่ทิ้งร่องลอยและหลักฐานได้ ...และความจริง ...ทางองค์กรลับนั้น..พวกเขายึดโลกใบนี้ได้แล้ว ๗๐ % ..เหลืออีกแค่ ๓๐%... แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ เพราะผู้ที่มีอำนาจลึกลับได้ถูกตามตัวเจอและถูก กระตุ้นให้(รู้ตื่น)..และเครียร์ด้วยตัวของผู้ที่มีอำนาจลึกลับ และก็ได้ทำการในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี และได้ยึดกลับโลกใบเก่านี้กลับมาได้แล้ว และทำการล้างและเครียร์ต่อสายใหม่ และจัดระบบสร้างโลกใบใหม่เรียบร้อยแล้ว..(ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล)...

    และตอนนี้ระบบทุกอย่างนั้นจัดเสร็จแล้ว..โลกใบใหม่ถูกสร้างเสร็จแล้ว ในภาคจิตวิญญาณและภาคจักรวาล...ตอนนี้คงเหลือแต่การจัดระบบต่อภาคมนุษย์และ รอแค่เวลาการประกาศตัวตน หรือการเปิดเผยตัวตนและความจริง....องค์จิตจักรวาลนั้นเป็นเพศหญิง..อยู่ที่ สภาแกแล็คซี่แอนโดรมีด้า....(ระบบทางโลกมนุษย์ในปัจจุบันมิต่างจากหนังเรื่องสตาร์วอล์ ที่เคยมีสงครามจักรวาลเกิดขึ้น..และทางสภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีด้ามาทำหลักฐานไว้มากมายยังโลกมนุษย์...)

    เพื่อนๆ แปลกแต่จริง เมือถึงเวลาแห่งการล้างหรือเครียร์ระบบ โลกเก่า เข้าสู่โลกใบใหม่ (แม่เหล็กโลก)..เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า ..จริงแล้ว (แอนแลตติค ที่ทุกคนทั่วโลกพยายามตามหานั้น และได้มีหลายคนและหลายหลักฐานว่าจะกลับมาและโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในยุคนี้นั้น ..เป็นความจริง..และก็จะมาโผล่..ที่ "แผ่นดินไทย"..ของเรานั้นเอง เมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง...

    กรุงเทพนั้นภายในปีนี้น้ำจะท่วมหนักกว่าเดิม สองเท่า (ทุกอย่างแก้หรือช่วยไม่ได้เพราะเป็นภาวะกรรมและระบบการล้าง)..จุดใหญ่ที่จะมาล้างในพื้นที่กรุงเทพฯ..คือ..พหลโยธิน วิภาวดี ถ.กำแพงเพชร ราชประสงค์ เยาวราช สำเพ็ง ปากคลองตลาด มาบุญคลอง(กำแพงสูงกั้น)...(แต่เรามิได้มาทำให้แตกตื่นนะ และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้กระมั่ง..เหตุจะเกิดไม่เกินภายในสองเดือน..) สาเหตุจากฝนและน้ำป่าที่มีมาก และไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ฝนจะตกทางเหนือกับอีสานมาก และน้ำก็จะล้นเขือนลำตะคลอง...

    และหลังจากที่น้ำท่วมกรุงเทพ ภายในปีนี้ ก็จะมีแผ่นดินยุบตามมา..และก็คงถึงเวลาแห่งการ ย้ายเมืองหลวงใหม่...(เพราะดวงเมืองของกรุงเทพนั้นหมดตั้งแต่ ปี ๒๕๔๙ แล้ว แต่ที่อยู่มาได้เพราะได้มีการต่อและแก้แล้วทางภาคจิตวิญญาณ คงรอแต่ภาคมนุษย์เท่านั้นก็คือการย้ายเมืองหลวงใหม่และการตั้งเสาหลักเมืองใหม่นั้นเอง)...ระบบทุกอย่างเป็นไปตามวัฐจักรแห่งการเปลี่ยนแปลง..เช่นเมืองหลวงแห่งแรกคือ..สุโขทัย อยุธยา กรุงธน และกรุงเทพฯ(กรุงรัตนโกสินทร์)..นั้นเอง..(เป็นสาสน์และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา ดูและอ่านเล่นๆก็มิเห็นเป็นไร แต่ถ้าหากสิ่งที่เรามาส่งสาสน์จะให้นำหลักฐานมาโชว์ก็คงจะยากเพราะ.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด")

    เราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น มิต้องการให้เมืองไทยหรือกรุงเทพนั้น น้ำท่วมเลย แต่เราก็พยายามถามว่ามีวิธีแก้ไหม ท่านก็บอกว่า ..ในปีนี้มันเป็นภาวะกรรม และระบบการล้าง...ที่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนและแก้ไขได้ เพราะมันถึงเวลาแล้ว (จากที่อดีตเคยพยายามยับยั้งและแก้ด้วยหลายฝ่าย โดยเฉพาะด้วยพระบารมีขององค์พ่ออยู่หัว)...และอีกอย่าง ก็เพราะมันถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและการตื่นของ" องค์ท้าวพญานาค" ที่ตื่นมาทำงานนั้นเอง(ปีที่แล้วแค่กระดิกหาง)..แต่จริงแล้วถ้าหากผู้มีบารมีและผู้ที่มีอำนาจลึกลับไม่ช่วย แผ่นดินไทยก็คงไม่ต่างจากที่หลายฝ่ายหรือหนังสือหลายตำราได้เขียนไว้ว่า แผ่นดินไทยมิเหลือและเสียหายหลายจุดมาก แต่นี้ถือว่า การเกิดครั้งนี้น้อยที่สุด จาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ ห้าเปอร์เซ็นต์เองคะ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ การนำไปสู่ การเริ่มต้นแห่ง ยุคศิวิไลย์..ที่แท้จริงนั้นเอง...หลังจากที่แผ่นดินไทยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งภัยธรรมชาติ และ ระบบการเมืองแล้ว..เราบอกได้เลยว่าสุดยอดและดีสุด..และแผ่นดินไทยมีแต่ขยายไม่มีหดหรือหายไปไหน จากอดีตที่แผ่นดินไทยเรานั้นแผ่นดินหายไป ๑๔ จุด ..จะกลับคืนมาหมด แต่ว่า ต่างประเทศ เช่น พม่า เขมร มาเลเซีย ฯลฯ แผ่นดินจะหดและหาย...ส่วนแผ่นดินไทยขยายกลับมาเป็นขวานทองเล่มใหญ่เหมือนเดิม...และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๓ ลาวจะมารวมกันตั้งรัฐบาลกับไทย(ไทยกับลาวกับมาเป็นพี่น้องกัน อย่างเช่นพญานาคในอดีตที่เคยเป็นเพื่อนกันและก็กลับมาคืนดีและกลับมารักกันเหมือนเดิม)....

    ปล. ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แผ่นดินไทยถือว่า การเกิดภัยพิบัตินั้น น้อยที่สุดกว่าทุกประเทศทั่วโลก (เพราะผู้ที่มีพลังอำนาจลึกลับได้ "รู้ตื่น"และช่วยอีกส่วนหนึ่งนั้นเอง..แต่ไม่เกิดก็ไม่ได้เพราะมนุษย์ได้ทำกรรมหนักเหลือเกิน ..)..และมนุษย์ก็หลงลืม หน้าที่ของตน..ไปยึดติด กับอำนาจและเงินตรา..

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เกิดก่อนเกิด-พรแปดประการ.349475/

    หมายเหตุ

    ข้อมูลของคุณมณีส่องแสงนี้ ตรงกับที่อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้เคยบอกเอาไว้ว่า กรุงเทพและภาคกลาง จะไม่จมน้ำทะเลอย่างถาวร เพราะแผ่นเปลือกในบริเวณนี้จะยกตัวสูงขึ้น ทำให้ได้พื้นที่กลับคืนมาในที่สุด (แต่อาจจะกินเวลาหลายปีกว่าที่จะได้พื้นที่ที่จมน้ำทะเลกลับคืนมา) และถ้าทวีปแอตแลนติสที่จะกลับคืนมาตรงบริเวณประเทศไทยเป็นจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่แผนที่โลกใหม่ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ที่เคยแสดงเอาไว้ว่าภาคกลางและภาคอีสานของไทย ไม่ได้สูญหายไปตามคำทำนาย ที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2013
  18. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2556 เกี่ยวกับเรื่องพระมหาชนกยังไงหรือจ๊ะคุณเกษม ขอข้อมูลหน่อยจ๊ะ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อมูลอยู่ในกระทู้ ตามรอย"พระมหาชนก" หน้าที่ 19 ข้อความที่ 370 ครับ
     
  20. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ขอบคุณจ้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...