บวชธุดงค์วัตรที่วัดท่าซุง 199 รูป ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในห้อง 'งานบวช' ตั้งกระทู้โดย kananun, 6 สิงหาคม 2007.

  1. chervilin

    chervilin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +119
    เรียน คุณคณานันท์

    ได้นำเงินจำนวน 5,020 บาท เข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ เลขที่ 151-091-8681 วันที่ 01ตุลาคม เวลาตามสลิปโอนเงิน 10:06 น. เพื่อขอร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ 199 องค์ด้วยค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
    สราธร
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอกราบโมทนาบุญด้วยครับ จะจัดถวายให้ครับผม ขอพึงได้อานิสงค์ทุกอย่างทุกประการด้วยครับ
     
  3. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    เค้าบวชกันวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ตอนเช้าตรู่ ใครว่างไปส่งนาคบวชพระกัน
    ไปน่ะไปน่ะ แล้วนัดกันเน้อ ไปเย้ๆๆ กันดีก่า ไปเยอะๆ แด่วจะได้เหมารถกันไปคันใหญ่ๆ ดีม่ะดีม่ะ
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เห็นด้วยครับ ไปร่วมงานบวชพี่ตั้มกัน
     
  5. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    อานิสงส์การอุปสมบทบรรพชา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม ดิฉันขอเรียนถามว่า การอุปสมบทบรรพชา มีอานิสงส์อย่างไรบ้างคะ......?<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ การอุปสมบทบรรพชานี้ มีอานิสงส์พิเศษ ผิดกับอานิสงส์อย่างอื่น เช่น การสร้างวิหารทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี การทอดผ้าป่า ทอดกฐินก็ดี อานิสงส์อย่างนี้บุคคลที่จะพึงได้ต้องโมทนาก่อน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม หลวงพ่อช่วยกรุณาอธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยเถิดค่ะ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ หมายความว่า ถ้าบุตรธิดาของตนบำเพ็ญกุศบให้แก่บิดามารดา แต่บิดามารดาไม่ได้โมทนาในกุศลนั้น ย่อมไม่ได้ แต่ว่าการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาทรงแสดงไว้ว่า <o:p></o:p>
    สมมุติว่า บุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อ ลูกกับแม่ ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่บุตรชายอุปสมบทบรรพชา บิดามารดาก็ไม่ทราบ แต่ว่าบิดามารดาย่อมได้ อานิสงส์โดยสมบูรณ์<o:p></o:p>
    คำว่า อุปสมบท หมายความว่า บวชเป็นพระ คำว่า บรรพชา หมายความว่า บวชเป็นเณร ท่านที่บวชเป็นพระด้วยตนเอง จะมีอานิสงส์อยู่เป็น เทวดา หรือ พรหม ๖๐ กัป<o:p></o:p>
    สำหรับบิดามารดา จะได้อานิสงส์ คนละ ๓๐ กัป<o:p></o:p>
    สำหรับคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ เป็นเจ้าภาพให้บวช จะได้อานิสงส์ คนละ ๑๒ กัป ต่อ ๑ องค์ <o:p></o:p>
    สำหรับท่านที่ได้ทำบุญอุปสมบท ช่วยเขาคนละบาทสองบาท หรือช่วยกันด้วยกำลังแรงอย่างนี้ มีอานิสงส์ องค์ละ ๘ กัป<o:p></o:p>
    สำหรับท่านผู้บวชเป็นเณร บวชแล้วมีความประพฤติดีปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย เมื่อตายจากความเป็นคนถ้ามีจิตของคนเป็นกุศล แต่ว่าไม่สามารถทรงจิตเป็นฌาณ <o:p></o:p>
    ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุข บน สวรรค์ ได้ถึง ๓๐ กัป ถ้าหากว่าทำจิตของตนให้ได้ฌาณสมาบัติ ก่อนตายจากความเป็นคน จะเกิดเป็น พรหม มีอายุถึง ๓๐ กัป เช่นเดียวกัน สำหรับบิดามารดาได้คนละ ๑๕ กัป <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม เวลา กัปหนึ่ง เขานับกันอย่างไรคะ......? <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ คำว่า กัปหนึ่งนั้น มีปริมาณนับเป็นปีไม่ได้ พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบไว้ว่า <o:p></o:p>
    สมมติว่า มีภูเขาลูกหนึ่งเป็นหินล้วน ไม่มีดินเจือปนถึงเวลา ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อน เหมือนสำลี มาปัดยอดเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำอย่างนี้ ๑๐๐ ปี ปัด ๑ ครั้ง จนกระทั่งหินนั้นหมดไป <o:p></o:p>
    เหลือแต่ดินล้วน นั่นจึงจะมีอายุครบ ๑ กัป <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม ถ้าลูกชายมีภรรยาแล้ว จะได้อานิสงส์ ลดลงไหมคะ......? <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ ที่เขาลือกันว่า ถ้าลูกไปมีเมียเสียก่อนแล้วไปบวช พ่อแม่ได้อานิสงส์น้อยนั้นไม่จริงหรอกโยม บุญของพ่อของแม่ลดกันไม่ได้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม ถ้าหากว่าบวชไม่ครบพรรษา จะบวช ๑ เดือน หรือ ๒ เดือน ได้ไหมคะ.....? <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ จะบวช ๑ เดือน ๒ เดือน หรือ ๗ วัน ก็ได้ ถ้าหากปฏิบัติดี บวช ๒-๓ วันมันก็ดี ถ้าบวชเลว นานเท่าไรก็ยิ่งลงอเวจีลึกเท่านั้น ก็ไม่มีความหมาย <o:p></o:p>
    การบวชพระพุทธเจ้าทรงวางแบบไว้ดี แต่พระที่เขาถือว่ามีศักดิ์ศรีกลับปฏิบัติเลว เมื่อพระพุทธ เจ้าทรงมอบอำนาจให้แก่สงฆ์ ทรงมีกฎไว้ว่า คนที่จะบวชจะต้องอยู่ ติตถิยปริวาส ๓ เดือน ก่อน ในฐานะที่เป็นคนภายนอกจะต้องมาศึกษาพระธรรมวินัยและข้อวัตรปฏิบัติ ถ้า ๓ เดือน ยังไม่ดี ยังไม่ให้บวช ถ้าอยู่ต่อไปอีก ๓ เดือน ถ้ายังไม่มี ก็ยังไม่ให้บวช ถ้าอยู่ต่อไปอีก ๓ เดือน ถ้า ๓ เดือน ๓ วาระ ยังไม่ดี ห้ามบวชตลอดชีวิต <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเขาเข้าวัดกันเลยค่ะ เวลาขานนาคพระคู่สวดก็สอนเสียทั้งหมด <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ "ถ้าเป็นที่วัดฉัน ไม่ให้บวชเลย <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม คนเดี๋ยวนี้ต้องทำมาหากิน ถึงเวลาจะบวช ก็บวช ไปตามประเพณี ไม่ได้มีเวลาศึกษาระเบียบ วินัยข้อวัตรปฏิบัติเสียก่อน บวชอย่างนี้จะได้ไหมคะ........? <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ ได้.....โยม ได้อเวจี บวชวันแรกก็หมดจากความเป็นพระแล้ว พระไม่ได้อยู่ที่ผ้าเหลือง และพระก็ไม่ได้อยู่ที่การโกนผม คำว่า พระจริง ๆ อันดับแรก เป็นพระปลอมก่อน ที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า สมมติสงฆ์ นั่นก็คือ พระที่ปฏิบัติตามวินัยครบถ้วนทุกสิกขาบท พระพุทธเจ้ายังไม่เรียกพระนะ ทรงเรียกว่า สมมติสงฆ์ พลาดนิดเดียวก็ไปนรกและการที่จะบวชเข้าไป ถ้าในคณะสงฆ์ที่นั่งอยู่ในวงการอุปสมบท ถ้าเป็น อาบัตติปาราชิก หรือ สังฆาทิเลส องค์หนึ่ง สังฆกรรมนั้นเสีย คนที่บวชนั้นไม่เป็นพระหรอกเป็นเณร เสร็จอีก ถ้าไปนั่งรวมฉัน ร่วมกับพระก็บาปกินตลอด แล้วก็มาอีกระดับหนึ่ง ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัย เขาเรียกว่า สาธุภิกขุ คือนักบวช ชั้นดี ถ้าได้ฌานสมาบัติเป็นฌานโลกีย์ ก็ยังเรียกว่าสมมติสงฆ์ ถือว่าเป็นกัลยาณชนจะเป็นพระจริง ๆ ได้ก็ต่อเมื่อ ท่านผู้นั้นเป็น พระโสดาบัน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม การบวชให้อยู่วัดก่อนบวช คือการท่องบ่นสวดมนต์แล้วก็ปฏิบัติพระ ใช่ไหมคะ.......? <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ การอยู่วัดก่อนบวช เขาไม่ได้สวดมนต์เฉย ๆ เขาจะ ต้อง เจริญพระกรรมฐาน และต้องปฏิบัติ ให้อารมณ์จิตดีด้วย คือ เข้าถึงธรรมพอไหม ถ้าไม่พอไม่ให้บวช พระพุทธเจ้าทรงสั่งไว้แบบนี้นะถ้ารู้สึกว่ายาก ก็ตัดสินใจไม่ให้บวชเลยก็หมดเรื่อง ถ้าพิจารณาแล้วว่าควรจึงให้บวช ขึ้นชื่อว่าบวช นี้มีความหมายมากเหลือเกิน ใครมีลูกชายก็อยากจะให้บวช แต่ถ้าบวชแล้วไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัยก็น่า หนักใจเหมือนกัน แทนที่จะได้บุญกุศลมหาศาล ก็จะพาลให้ลงนรก มันไม่คุ้มกันเลย และอีกประการหนึ่งการจะบวชลูกหลานเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ คือทำกันตามพระเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัว ฆ่าควายบ้าง เอาสุราเมรัยมาเลี้ยงกันบ้าง ถ้าท่านทั้งหลายจัดการอุปสมบทบรรพชา หรือว่า บำเพ็ญกุศลส่วนใดส่วนหนึ่งก็ดี ทำกันตามประเพณีแบบนี้ ก็จะได้ชื่อว่าไม่มีอานิสงส์อะไรเลย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะมีเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ ทำบาปก่อนแล้ว พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า<o:p></o:p>
    "ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใด ๆ ที่ตนคิดว่าจะทำ มันก็ไม่ปรากฏ" <o:p></o:p>
    "ในการใด ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญราศรีให้ปรากฏเป็นผลดีก็ขอให้การนั้นเป็นการที่บำเพ็ญ บุญกุศลจริง ๆ"<o:p></o:p>
    ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง จงเว้นกรรมที่เป็นกุศลเสียให้หมด งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ อย่าให้ปรากฏมี เวลาเริ่มงานขึ้นมาสักที่ กรรมใดที่เป็นอกุศล เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็ดี การเลี้ยงสุรา ก็ดี อย่างนี้จงงดไว้ ตั้งใจเฉพาะบำเพ็ญกุศลอย่างนี้ จึงเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง<o:p></o:p>
    ทีนี้สมมติว่าลูกหลายที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรม วินัยยินดีในการเจริญพระกรรมฐาน เกิดความชุ่มชื่นในการปฏิบัตินั้น อานิสงส์ย่อมเกิดแก่ผู้นั้น องค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบไว้ว่า<o:p></o:p>
    "ท่านผู้ใดก็ดี อุปสมบทบรรพชาเข้ามาแล้ว ในพระพุทธศาสนาวันหนึ่งทำจิตใจว่างจากกิเลส เพียงวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว"<o:p></o:p>
    นี่หมายความว่า วันหนึ่งมีเวลา ๒๔ ชั่วโมง เวลานอกนั้นจิตก็ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่าง ๆ แต่ว่า ตอนปฏิบัติพยายามควบคุมกำลังใจ ไม่พลั้งพลาดจากพระธรรมวินับหรือเวลาใดเวลาหนึ่งก็ตาม ในวันนั้นทำ สมาธิจิตให้เกิดขึ้น จะเป็นทรงอารมณ์สมาธิก็ตาม หรือจิตผ่องใสทางด้านวิปัสสนาญาณก็ตาม วันหนึ่งเพียงชั่ว ขณะจิตเดียว จิตโปร่งจริง ๆ ขณะนิดเดียว นาทีหนึ่งหรือสองนาทีก็ตาม แต่ว่าทำได้ทุกวัน ไม่จำกัดเวลา อย่าง นี้พระพุทธเจ้ากล่าว่า<o:p></o:p>
    "ท่านผู้นั้นบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา แม้แต่เพียง ๑ วันก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวช เข้ามาในพระพุทธศาสนาตั้ง ๑๐๐ ปี มีศีลบริสุทธิ์ไม่บกพร่อง แต่ก็ไม่ได้เคยเจริญสมาธิจิตเลย" ท่านบอกว่า "อานิสงส์อันนี้ จะคูณด้วยกำลังของแสน" เพราะอาศัยอารมณ์ที่มีความชื่นบาน มีความผ่องใส มีความพอใจ มีะรรมปิติ <o:p></o:p>
    อาศัยลุกชายของ ตนประพฤติดี ประพฤติชอบ ในระบอบพระธรรมวินัย ทุกคนจะมีอานิสงส์มากขึ้น หมายความว่า ถ้าเป็นเทวดา หรือพรหม ก็มีรัศมีกายผ่องใสขึ้น จะเพิ่มความสุขยิ่งขึ้น <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม ดิฉันมีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ก็อยากจะให้บวช แต่เมื่อได้ฟังหลวงพ่อพูดถึงพระไปนรกกันเยอะ เลยคิดว่าไม่ต้องบวชก็ได้ เอาแค่เจริญกรรมฐานดีกว่า แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายที่ไม่ได้เป็นญาติ ของพระศาสนา <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ โอ้ย.....อย่า อย่า ถ้าไม่ได้บวชเป็นญาติของพระศาสนาง่ายกว่า ถ้าบวชเป็นญาติกับนรกง่าย" <o:p></o:p>
    "คำว่า บวช บวชนี่มันหนัก พระพุทธเจ้าบอกว่า "บรรพชาเป็นของหนัก" พระโผล่ปุ๊บ เข้ามาแล้ว อันดังแรก ศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นเลย จะไปรออีก ๓ วันน่ะ มันไม่ได้ เขาเรียก ปูชนียบุคคล เป็นบุคคลที่ชาวบ้านต้องบูชาต้องกราบไหว้ไอ้ลูกเวลาไม่ได้บวช ก็ไหว้พ่อไหว้แม่ ไหว้ปู่ ย่า ตา ยาย ใช่ไหม..... พอบวชวันนั้น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มาไหว้ทันที นี่มันจะตกนรกกันก็ตรงนี้และ ที่หนักกว่ากันก็ตรงนี้แหละ เห็นชัด ๆ พระพุทธเจ้าเรียก "สามัญผล" ฉะนั้นนักบวชสมัยนี้ลงนรกง่ายกว่าสมัยก่อน และอีกประการหนึ่ง พระนี่กินข้าวง่ายเมื่อไรล่ะ ต้องพิจารณา อาหาเรปฏิกูลสัญญา ก่อนจะเกิดนั้นมาจากไหน ไม่กินเพื่อติดในรส ติดในกลิ่น ติดในสี จะไม่กินเพื่อความอ้วนพี จะไม่กินเพื่อความ ผ่องใส จะกินเพื่อทรงชีวิตอยู่เท่านั้นเอง ต้องปฏิบัติตามนี้นะ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ถาม ถ้าพระทำแบบนี้กันมาก ๆ ก็ตกนรกเยอะซิคะ.... <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลวงพ่อ พระนี่ลงนรก ๙๙% ท่านมีบุญมากกว่าฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารเรปฏิกูลสัญญา สมภารก็ไม่รู้ อุปัชฌาย์ก็ไม่รู้ ลูกศิษย์รู้มากก็ซวย ก็ลงด้วยกันทั้งนั้น <o:p></o:p>
    พระพุทธดำรัส พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ภิกษุผู้บริโภคอาหาร อันมีผู้ถวายด้วยความเลื่อใสแล้ว ไม่พิจารณาเสียก่อน เมาในรสอาหารนั้น สู้กินก้อนเหล็กที่เขาเผาแดงจนลุกโชนเสียดีกว่า เพราะกินถึงปากปากพัง ถึงคอก็คอพัง ถึงอกก็อกพัง ถึงท้องก็ท้องพัง มันร้อนก็ตาย พอตาย แล้วก็เลิกร้อน ส่วนภิกษุที่ฉันอาหารโดยไม่พิจารณาเป็นอาหารเรปฏิกูลสัญญาตายแล้วลงนรก มันร้อนนานแสนนานกว่า" <o:p></o:p>
    การบวชนี่ไม่แน่นักว่าจะไปสวรรค์ ส่วนใหญ่ลงนรกหมดดีไม่ดีชวนพ่อแม่ลงไปด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ดีตามพระวินัย ครูบาอาจารย์ตักเตือนเข้าก็ไม่โกรธ ไปบอกพ่อแม่พี่น้อง ไม่ได้เอาเรื่องที่ถูกทำโทษไปบอก เอาแต่ความดีไปบอก พ่อแม่พี่น้องก็พากันโกรธว่าพระด่าพระ อย่าง พระกปิละบวชมาแล้วท่านทรงพระไตรปิฎก แต่ยังไม่ได้ มันเสือกระดาษ ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาก ลาถสักการะก็เกิดมาก ความทนงตนเกิดขึ้น ต่อมาสอนไปสอนมากํสอนคัดค้านคำสอนพระพุทธเจ้า เช่น ตายแล้วสูญ นรกสวรรค์ไม่มี เป็นต้น พระตักเตือนเข้าก็โกรธ ทีนี้แม่กับน้องสาวก็พลอยโกรธไปด้วย ตายแล้วต่างคนต่าง ลงอเวจีมหานรก เห็นไหม..<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การบวชนี่กรรมหนักมาก ถ้าพลาดนิดเดียว อาบัติปาราชิก อาบัติปาราชิกมี ๔ สิกขาบท<o:p></o:p>
    ๑. เสพเมถุนกับสตรี<o:p></o:p>
    ๒. ฆ่ามนุษย์ให้ตาย<o:p></o:p>
    ๓. ลักทรัพย์ตั้งแต่ราคา 1 บาทขึ้นไป<o:p></o:p>
    ๔.อวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน<o:p></o:p>
    สิกขาบทที่ขาดง่ายที่สุดคือ ลักของราคา 1บาทขึ้นไป ขาดจากความเป็นพระทันที ข้อนี้ระวังให้มาก คนเขาทำบุญเรื่องนี้ แต่เอาไปให้อีกเรื่องหนึ่ง เสร็จ...และอีกประการหนึ่ง การแสดงอาบัติ เขาต้องบอกเหตุว่า เราทำอะไรมา ไม่ใช่ว่ากันตามภาษาบาลีเลอะไป จริงๆ แล้วในพุทธกาล เขาต้องบอกจุดที่เป็น คือ เราไปละเมิดอะไรมาบ้างบอกพระด้วยกัน ถ้าอยู่ในคณะสงฆ์ ต้องบอกในคณะสงส์ ที่ทำกันทั่วไป เป็นภาษาบาลีนี่มันไม่ถูก ถ้าไม่ถูก การเปลื้องอาบัติก็ไม่สมประสงค์ และก็ลงท้ายว่า <o:p></o:p>
    "นะปุ เนวัง กะริสสามิ" ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีก <o:p></o:p>
    "นะปุ เนวัง กะริสสามิ" ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีก <o:p></o:p>
    "นะปุ เนวัง กะริสสามิ" ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีก <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทีนี้ เวลาที่เราแสดงอาบัติ ต้องตั้งใจจริงว่า ไอ้ความชั่วประเภทนี้ เราจะไม่ทำอีก แราจะไม่คิด อย่างนี้อาบัติที่เป็นมันจึงจะยับยั้ง การแสดงอาบัติ อย่าคิดว่าอาบัติหมดไปนะ แผลที่เป็นมันก็เป็นแผลตามเดิม ความชั่วแก้ไขไม่ได้ แต่ว่าเราไม่ทำ มันก็เป็นการยับยั้งความชั่ว ไม่กำเริบหรือมากกว่านั้น เราตั้งใจคิดว่า "เราจะไม่เป็นอาบัติดีกว่า" <o:p></o:p>
    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

    ไม่ได้บวชกะเค้าก็ขอเป็นเจ้าภาพหล่ะกัน โมทนาสาธุ ( 80X199) ^/|\^
     
  6. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    ขออภัยในความผิดพลาด

    ที่ผมได้บอกอานิสงของการเป็นเจ้าภาพอุปสมบทพระภิกษุ
    ว่ามีอานิสง องค์ละ 15 กัป

    ต้องขอขอบคุณ คุณ Khunkik ที่เมตตาบอก อานิสงที่ถูกต้อง
    คือ องค์ละ 12 กัป
     
  7. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    กิ๊กๆ ก็เอาของที่หลวงปู่ฤษีท่านเมตตาไว้ มาบอกต่อเท่านั้นเองจ้า
    ตอนนี้ก็แอบคำนวณเล่นๆ เป็นเจ้าภาพด้วยก็ 2,388 กัป แถมโมทนากับเจ้าภาพท่านอื่นๆอีก ก็ 2388 X 80% X จำนวนเจ้าภาพ = XXXXXX +2,388 กัป
    แหมคำนวณแล้วมันชื่นใจและยาวดีแท้
     
  8. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173


    ใช่แล้ว...ยาวดีแท้ ตกลงจะอยู่ต่อใช่มั้ยเนี่ย.... ดีจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน.. (deejai)

    .
     
  9. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    เมื่อกี้ได้รวมบุญรายการนี้ที่บ้านดอนเมืองถวายหลวงพี่นันต์ด้วย พี่ตั้มไม่ยักโผล่ เลยฉวยโอกาสนินทาให้แม่ตุ๋ยฟังซะเลย อิๆ อยากรู้ว่านินทาอะไร ไปถามแม่ตุ๋ยเอาเองนะ
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้ได้ไปถวายปัจจัยเจ้าภาพบวชพระธุดงค์ 199 รูปที่บ้านสายลมครับ มีรายนามเจ้าภาพดังนี้ครับ

    -คุณสราธร Chervilin และคณะ จำนวน 5,020 บาท
    -คุณวันชัย แซ่อึ้ง 300 บาท
    -คุณซำ แซ่ฉิ่น 200 บาทครับ

    และผมได้ถวายสังฆทานให้ด้วยครับ เหน็บกับสังฆทานใหญ่ 2,000 บาทให้ไปอีก

    ขอให้ทั้งท่านเจ้าของปัจจัยและท่านผู้โมทนามีส่วนรวมในบุญในกุศลทุกอย่างทุกประการด้วยครับ อานิสงค์ 2388 กัปป์พร้อมมหาสังฆทานอีก สาธุครับ
     
  11. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    ตกลงจะอยู่ต่อใช่มั้ยเนี่ย.... ดีจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน..

    ขอชื่นชมในกำลังใจของคุณ Tamsak
     
  12. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    5555 เราก็จะอยู่ต่อ แต่ขอไปต่อที่พระนิพพานน่ะเจ้าค่ะพี่ท่าน
     
  13. wanchai2550

    wanchai2550 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +411
    K. KANANAN
    ผมได้โอนเงินให้แล้วครับ เพื่อรวมบุญบวชธุดงค์วัตร 199 รูป
    โอนเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2550 ธนาคารกรุงเทพ สาขากรุงเทพประกันภัย สาทร
    เวลาประมาณ 13.48 โดยเข้าบัญชีเป็นยอดเดียว 500 บาท
    (นางซำ แซ่ฉิ่น 200 บาท และ วันชัย แซ่อึ้ง 300 บาท)
    ขอขอบคุณทางคุณคณานันท์ และขออนุโมทนากับทุกๆ ท่าน
    ทั้งผู้เริ่มโครงการ ผู้ร่วมคิด ผู้ที่จะบวช ผู้ที่สนับสนุนปัจจัย ทั้งทางด้าน
    ทรัพย์สินเงินทอง สิ่งของ และแรงกาย ตลอดผู้ที่มีจิตเป็นกุศล
    ที่ร่วมสาธุและอนุโมทนา
     
  14. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    โมทนาเพิ่มเติม

    ผมได้โอนเงินไปถวายหลวงพี่ชิดชนก อีก ๑,๕๐๐ บาท แล้ว
    อันนี้เป็นส่วนที่ ผู้มีจิตศรัทธาทราบและทำบุญกันอีกรอบ
    ภายหลังจากที่ผมได้ประกาศให้โมทนาบุญกัน
     
  15. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    เพื่อร่วม โมทนาครับ

    มีท่านผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเพิ่มอีก 1,500 บาท

    ดังนั้น คณะฯ เป็นเจ้าภาพ อุปสมบทพระธุดงค์กรรมฐาน ไป 57 องค์ นะครับ
     
  16. livinghome

    livinghome สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +21
    ผมได้โอนเงินจำนวน 6,000 บาท เพื่อร่วมงานบญบวชธุดงค์วัตร 199 รูป เข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ เลขที่ 151-0-91868-1 โอนวันนี้ครับ (15/10/07) เวลา 12:15 ตู้ของธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
    แบ่งเป็น:
    - ครอบครัว"จรูญธรรมวงศ์" ร่วมเป็นเจ้าภาพ 1 รูป และ
    - คุณรุ่งทิพย์ เพ็ชร์ทิม เป็นเจ้าภาพ 1 รูป
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ
    ฐิติพงศ์
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จะรีบจัดถวายให้ครับ ขอกราบโมทนาบุญด้วยครับ คุณ ฐิติพงศ์

    ขอให้ทุกท่านพึงได้อานิสงค์สมบูรณ์ทุกอย่างทุกประการทับเท่าทวีคุณด้วยครับ
     
  18. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ผมศิษย์น้อย

    ขอร่วมอนุโมทนานาบุญกับทุกท่าน
    และร่วม โอนเงินเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวช
    ด้วยครับ

    รายละเอีดยการโอนเงิน
    Date 18 ต.ค. 2551
    Time 11.56 น.
    จำนวน 109 บาท
     
  19. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    สาธุ ด้วยจ้า จะมากจะน้อยก็ถือเป็นเจ้าภาพร่วมกันทั้ง 199 รูปเน้อ ทำบุญทั้งทีน้อยกว่านี้ได้ยังไง ^=^
     
  20. มัลลิกา

    มัลลิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +194
    สวัสดีคะ จะเปิดรับถึงวันไหนคะ อยู่ที่อเมริกา อยากร่วมบุญด้วยคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...