หลวงปู่ตื้อสอนว่าพุทโธช่วยให้พ้นภัยอันตรายได้

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 3 ตุลาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    [​IMG]
    พุทโธช่วยให้พ้นภัยอันตรายได้​
    ลูกศิษย์ลูกหาต่างก็เชื่อมั่นว่า นับตั้งแต่หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านบวชมาในพระพุทธศาสนาท่านก็ได้ดำเนินปฏิปทาในการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ไม่เคยรู้สึกท้อแท้ หลวงปู่ท่านบอกว่า “จงสละไปเถิดวัตถุธรรม เพื่อความดี คือพระธรรม อันเป็นความดีที่สุดของชีวิต”
    จากเรื่องราวชีวิตของหลวงปู่ จะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ท่านได้ออกธุดงค์ครั้งแรกเป็นต้นมา ก็จะพบเจ้าที่เจ้าทางและวิญญาณทั้งหลายมาทดสอบความเข้มแข็งทางจิตใจ เพื่อจะเอาชนะท่านเสมอ แต่ด้วยวิสัยของลูกศิษย์พระตถาคตแล้ว ท่านไม่เคยท้อแท้ หรือลดละความพยายามในการปฏิบัติธรรมเลย
    การท่องธุดงค์ของหลวงปู่ มักจะเป็นการผจญภัยใกล้ต่ออันตรายในชีวิตเสมอ นับเป็นปกติที่หลวงปู่ไม่ได้ฉันอาหารติดต่อกันตั้งแต่ ๗-๑๕ วัน เพราะต้องท่องเที่ยวอยู่ในป่าเขาที่ไม่พบผู้คนเลย ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าหลวงปู่ตื้อ และพระธุดงค์ทั้งหลายท่านไม่มีความพึงพอใจในการกระทำเช่นนั้น ท่านเต็มใจทำไปเพื่อความเห็นแจ้งตามแนวทางธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
    เมื่อเวลาท่องธุดงค์ในป่าเขาที่ห่างบ้านผู้คน ท่านจะต้องนึกเอา พุทโธ เป็นอารมณ์ทำให้เกิดกำลังใจ จิตใจแช่มชื่น ทนต่อความหิวและความกระวนกระวายลงได้
    ท่านทั้งหลายยอมสละตาย มอบกายถวายชีวิตเพื่อค้นหาพระธรรม จึงไม่มีอะไรที่จะเป็นอุปสรรคต่อการบำเพ็ญเพียรของท่านเลย ท่านมีใจเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นต่อการค้นหาพระธรรมอย่างแท้จริง
    นิสัยของหลวงปู่ตื้อที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ท่านชอบรู้สิ่งต่างๆ ที่เร้นลับ เช่น พวกกายทิพย์ ผีสางเทวดา เปรต และวิญญาณต่างๆเป็นต้น
    หลวงปู่เคยเล่าให้บรรดาศิษย์ฟังเสมอ เกี่ยวกับพวกกายทิพย์นี้ เรื่องที่ท่านบอกเล่าล้วนแต่น่าอัศจรรย์ เพราะเป็นเรื่องที่นอกเหนือที่มนุษย์ธรรมดาสามัญจะรู้ได้ แต่สำหรับผู้สนใจใฝ่รู้ในด้านการปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนาแล้วก็เชื่อมั่นว่าเป็นความจริง
    หลวงปู่ตื้อ ท่านยืนยันว่าเรื่องสิ่งเร้นลับต่างๆ เกี่ยวกับภพภูมิที่แตกต่างออกไป เช่นพวกกายทิพย์ เทวดา ผีสางนางไม้ สัตว์นรกและเปรตต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่มีจริง สามารถสัมผัสรู้เห็นได้ ถ้าเรามีการฝึกฝนด้านจิตใจจนมีความละเอียดเพียงพอ
    ที่มา http://www.dharma-gateway.com/monk-hist-index-page.htm
     
  2. คันฉ่อง

    คันฉ่อง ปาณเดชา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +101
    จิตวิญญาณมีจริง แต่ผู้ไม่เชื่อเนื่องจากว่าไม่สามารถเข้าถึงได้จริงไม่เชื่อ
    ผิดกับวิทยาศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ต้องใช้ความรู้อะไรก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีอยู่จริง
    อนุโมทนา สาธุ..
     
  3. พระ เอกพล อาทโร

    พระ เอกพล อาทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +304
    กระบี่หรืออาวุธ ไม่ได้มีไว้ฟาดฟันหรือประหัตถ์ประหารใครหากมีไว้เพื่อปกป้องสิ่งที่มีคุณค่า...
    ปัญญาก็เช่นกันไม่ได้มีไว้เพื่อฟาดฟันผู้ใดหากแต่มีไว้เพื่อปกป้องสิ่งที่มีคุณค่า คือใจเรานั่นเอง
    อนุโมทนา สาธุ..
     
  4. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    สาธุ สำหรับข้อความดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้คนท้อ มีพลังมีกำลังใจในการปฎิบัติมากขึ้นค่ะ
     
  5. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    คติธรรมคำสอนของหลวงปู่มั่น

    - ผู้สนใจศึกษาปฎิบัติธรรม คือผู้สนใจหาความรู้ความฉลาดเพื่อคุณงามความดีทั้งหลายที่โลกเขาปราถนากันเพราะคนเราจะอยุ่และไปโดยไม่มีเครื่องปัองกันตัวย่อมไม่ปลอดภัยแต่หากมีการปฎิบัติดีปฎิบัติชอบแล้วจะเป็นเครื่องมั่นคงไม่สะทกสะท้านมีสติปัญญาแฝงอยู่กับตัวทุกอริยาบถ
    จะคิด พูด ทำอะไรไม่มียกเว้น มีสติปัญญาสอดแทรกอยู่ด้วยทั้งภายในภายนอกมีความเข้มแข็งอดทน มีความเพียรที่จะประกอบคุณงามความดี
    คนอ่อนแอโง่เง่าเต่าตุ่น วุ่นวายอยู่กับความผูกพันธ์ด้วยความนอนใจและเกียจคร้านในกิจการที่จะช่วยยกตัวเองให้พ้นภัย

    - การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริง ก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนใจอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราญช์ถือว่าเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่ดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปราถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝันโดยขาดการไตร่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นทีเป็นบาปภัยแก่ตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์นั้นทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง

    -ผู้เห็นคุณค่าของตัว จึงเห็นคุณค่าของผู้อื่น ว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน

    - ผู้มีศีลสัตย็ เมื่อทำลายขันธ์ไป สถิตในโลกสวรรค์ ไม่ตกต่ำ เพราะอำนาจศีลคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์ ธรรมก็สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฎิบัติให้มั่นคง จะเป็นผู้ทรงุคุณสมบัติแน่นอน

    - เมื่อเกิดมาอาภัพชาติแล้ว อย่าให้ใจอาภัพอีก ผู้เกิดมาอาภัพแล้วอย่าให้ใจอาภัพ คิดแต่ผลิตโทษทำบาปอกุศล เผาผลาญตนให้ได้ทุกข์เป็นบาปกรรมอีกเลย

    - คนชั่วทำชั่วได้ง่าย และติดใจไม่ยอมแก้ไขลดละให้ดี คนดี ทำดีได้ง่าย และติดใจกลายเป็นคนรักธรรมตลอดไป

    - เราต้องการของดี คนดี ก็จำต้องฝึก ฝึกจนดี จะพ้นการฝึกไปไม่ได้
    งานอะไรก็ต้องฝึกทั้งนั้น ฝึกงาน ฝึกคน ฝึกสัตว์ ฝึกคน ฝึกใจ นอกจากตายแล้วจึงหมดการฝึก คำว่าดี จะเป็นสมบัติของผู้ฝึกดีแล้วแน่นอน
     
  6. noo_2002

    noo_2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +503
    โอ้ ชอบใจที่คุณ siriwan2527<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_778585", true); </SCRIPT> ได้กล่าวมาด้านบนมากเยยค่ะ
    ขออนุโมทนาด้วยคน
     
  7. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    การฟังเทศน์ฟังธรรมอย่างน้อยก็ช่วยให้จิตใจของเราชุ่มชื่นเบิกบานแก่จิตวิญญาณความหดหู่เศร้าหมองไม่สบายใจจะได้รับการบรรเทาเบาบางไปถ้าเราเป็นคนขยันฟังเทศน์ฟังธรรมและเติมอาหารใจใส่จิตเสมอๆ
    ชีวิตของมนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้จำเป็นต้องฝึกฝนจิตวิญญาณพัฒนาจิตไปสู่ดีดีกว่า ดีที่สุด เราจะไม่ยอมหยุดอยู่ในกุศลธรรม แม้บางทีเราจะมีความรู้สึกขุ่นมัวหม่นหมองในจิตใจ
    โปรดบอกตนเองว่าความขุ่นมัวหม่นหมองในจิตใจมันเกิดจากการที่เราปล่อยให้เกิดทุจริตสามอันคือ กาย วาจา ใจ ทุจริตทุจริตสามเป็นอาหารของนิวรณ์อันประกอบด้วย กามฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในกาม รูป รสกลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์เหล่านี้เกิดจากการที่เราปล่อยให้มีทุจริตสามคือทุจริตทางกาย วาจา ใจ เกิดกามฉันทะ พยาปาทะ เพ่งเล็ง พยาบาทปองร้าย
    ถีนมิทธะ หดหู่ เซื่องซึม หรือเซ็งทางจิตจงพยายามนำพาตนเองหลุดพ้นไปจากถีนมิทธะด้วยการเอาชนะทุจริตสามประการ
    ใครก็ตามที่ลดกามพยาบาท มันจะตกหรี่ ซึม ถีนมิทธะนี้เป็นขั้นตอนของนิวรณ์ห้าซึ่งเราสามารถเอาชนะมันได้ด้วยการตามดู ตามรู้ความจริง ตัวอุทธัจจะ กุกุจจะความฟุ้งซ่านรำคาญใจเป็นนิวรณ์ข้อที่สี่เป็นคู่ปรับกับถีนมิทธะ
    ถ้าฟุ้งซ่านก็จะไม่หลับหรี่เป็นคนละขั้วกัน บางทีอาการหลับหรี่มันก็มีอาการฟุ้งซ่านอยู่ในนั้นด้วยมันจะเป็นอาการทุกข์ทรมานอย่างมาก
    ในขณะที่เราฟุ้งซ่านจิตก็จะไม่มีความสามารถรับรู้อารมณ์ ไม่แจ่มใสนิวรณ์ห้าเป็นเครื่องขวางกั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี
    ถ้าเราต้องการจะเป็นคนดีจงขจัดนิวรณ์กามฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในกาม
    พยาปาทะ ความพยาบาทปองร้าย ถีนมิทธะ เซ็งและซึมอุทธัจจะกุกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำราญใจ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยหมายความว่าเรามีความไม่แน่วแน่ ไม่ชัดเจน ไม่มั่นคงในพระรัตนตรัย ลังเลสงสัยไมแน่ใจในการบรรลุหลุดพ้น
    หากเราสามารถเอาชนะนิวรณ์ทั้งสี่ข้างต้นได้เราจะสามารถไปพ้นจากวิจิกิจฉาเพราะจิตสว่างโพลงด้วยปัญญาญาณ
    จำเป็นต้องเห็นโทษของนิวรณ์เห็นโทษของกามซึ่งมีสุขน้อยมีโทษมาก ทุกข์มากทุกข์อื่นยิ่งกว่ากามไม่มี
    ถ้าเราต้องการจะตัดกาม เราจะต้องลด ละเรื่องการกินอยู่หลับนอน เช่น ไม่กินจุบกินจิบ ไม่นอนฟูกนุ่มหมอนนิ่มลดการแต่งตัวสวยพริ้ง ลดการตอบสนองความพอใจ จึงจะเอาชนะกามได้
    รูป รส สัมผัสธรรมารมณ์ พยายามอยู่อย่างมักน้อยสันโดษเรียบง่ายจึงจะดี
    จบการบรรยายธรรมชุด "จิตสะอาดธรรมชาติใจ"เทศน์ที่สันติอโศกโดย.ท่านจันทร์
    คัดลอกจากคุณยุพินมาให้สหายธรรมได้อ่านกัน อนุโมทนาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2007
  8. พระ เอกพล อาทโร

    พระ เอกพล อาทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +304
    ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง...
    ต้องการไก่ เขายังใช้ เอาไก่ต่อ
    เอาช้างล่อ ต่อช้าง กลางไพรศรี
    ไก่ต่อไก่ ช้างต่อช้าง ตัวอย่างมี
    ดีต่อดี ควรจำ เป็นตำรา..
    ขอแนะนำนะ www.mahaeyong.org
     
  9. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,189
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา สาธุ ความเพียรพยายามเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ
    เราท่านก็สามารถกันทุกท่าน ขออย่าท้อใจเป็นพอ ปฏิบัติกันต่อไป
    หากคิดดี ทำดีแล้ว ขอให้สำเร็จดังใจหมายทุกท่าน
     
  10. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    อัปปะมาโณ พุทโธ พระพุทธเจ้ามีคุณ จะนับจะประมาณมิได้<O:p</O:p
    อัปปะมาโณ ธัมโม พระธรรมมีคุณ จะนับจะประมาณมิได้<O:p</O:p
    อัปปะมาโณ สังโฆ พระสงฆ์มีคุณ จะนับจะประมาณมิได้
    <O:p</O:p

    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และทุกๆท่านที่ร่วมอนุโมทนาด้วยครับ<O:p</O:p
    สาาาาา ธุ
    สาาาาา ธุ
    สาาาาา ธุ
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...