ความเชื่อลึกลับ...ของชาวเนปาล "กุมารี"เทพผู้มีชีวิตจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 7 พฤษภาคม 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ความเชื่อของชาวเนปาล "กุมารี"เทพผู้มีชีวิตจริง



    [​IMG]"เนปาล" ดินแดนแห่งเทพเจ้า ยังคงมนต์เสน่ห์ของประเทศด้วยเรื่องราวความเชื่อของศาสนาฮินดู วัฒนธรรม ประเพณี ที่คงไว้ซึ่งร่องรอยอารยธรรมอันเก่าแก่ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของ กระแสสังคมและวัฒนธรรมของโลก ชาวเนปาล มีสถาบันศาสนาฮินดู และกษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ขณะเดียวกันก็ยังมี "กุมารี" เทพธิดาองค์น้อยที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นศูนย์รวมศรัทธาความเลื่อมใสของประชาชนอีกสถาบันหนึ่งด้วย

    ตามประวัติมีหลักฐานว่า ในประเทศอินเดีย ประเพณีเกี่ยวกับ "กุมารี" มีมานานมากกว่า ๒,๖๐๐ ปี และเผยแพร่เข้าสู่ประเทศเนปาลในราวคริสต์ศตวรรษที่ ๖ โดย ฮารี สิงห์ เดวา ที่หลบหนีมาจากทางอินเดียตอนเหนือ เขาได้นำความเชื่อนี้ติดตัวมาด้วย แต่มีหลักฐานที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรถึงพิธีการคัดเลือกกุมารี การแต่งตัวของกุมารี และ ความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อกุมารี ไว้เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓

    ในเนปาล มีตำนานปรัมปราเกี่ยวกับ "กุมารี" มากมาย แต่ที่เลื่องลือและ น่าเชื่อถือที่สุด คือ ตำนาน ของกษัตริย์เนปาล องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์มอลลา ขณะที่พระองค์กำลังเล่นทอยลูกเต๋า (บางแห่งก็ว่าสะบ้า) กับ เทวีทาเลจู เทพผู้ปกป้องรักษาราชวงศ์ของพระองค์ วาบหนึ่งในความนึกคิด พระองค์ทรงหลงใหลในความงดงามของ เทวีทาเลจู มาก และทรงคิดว่านางงามกว่ามเหสีของพระองค์เสียอีก ขณะเดียวกัน เทวีทาเลจู ก็อ่านความคิดนั้นออก จึงยุติการเล่นทอย ลูกเต๋าทันที นางตำหนิพระองค์ และประกาศว่า ต่อไปนี้ถ้าพระองค์จะพูดคุยกับนางอีก ก็จะไม่อยู่ในร่างของ เทวีทาเลจู ให้ทรงเห็น แต่นางจะเป็น เด็กหญิงจากวรรณะล่าง และพระองค์จะต้องออกจากพระราชวังไปสักการะนาง ซึ่งอยู่ในร่างของเด็กหญิงจากวรรณะล่างเท่านั้น

    จากนั้นมา... นานนับเป็นศตวรรษแล้ว ที่ เด็กหญิงชาวเนปาล คนหนึ่งจะได้รับความเคารพสักการะจากชาวเนปาล เพราะเธอจะเป็นร่างจุติของ เทวีทาเลจู ซึ่งเป็น เทพฮินดู ที่มีอำนาจมากที่สุด และทรงปกปักษ์รักษาคุ้มครองกษัตริย์ และประเทศเนปาล ตลอดเวลา

    เด็กหญิงที่ว่านี้ก็คือ "กุมารี" เทพธิดาผู้มีชีวิตจริงของชาวเนปาล

    การค้นหาเด็กหญิงที่จะมาดำรงตำแหน่ง "กุมารี" นี้ สังฆราช ๕ รูป และโหรหลวง จะเป็นผู้ศึกษาและตรวจดวงชะตาของ เด็กหญิงชาวศักกายะ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น "กุมารี" จะต้องมีดวงชะตาที่ถูกโฉลกกับดวงชะตาของกษัตริย์เนปาล

    ขั้นตอนต่อไป คือ การตรวจดูว่าเด็กหญิงคนนั้นมี ลักษณะของเทพ หรือไม่ ? กล่าวคือ จะต้องเป็นผู้มี รูปร่างเหมือนต้นกล้วย ขาเหมือนขากวาง หน้าอกเหมือนสิงห์ ลำคอเหมือนหอยสังข์ นํ้าเสียงสดใสและอ่อนนุ่ม เมื่อคัดเลือกได้แล้ว เด็กหญิงคนนั้นจะต้องจากครอบครัวของเธอมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของผู้ดูแลภายใน วังใหญ่ ที่เรียกว่า การ์

    [​IMG]วังของกุมารี ก่อสร้างด้วยอิฐ เป็นอาคารสูง ๓ ชั้น มีหน้าต่างไม้เจาะรอบๆ สร้างขึ้นตามรูปแบบของวัด ไม้ที่แกะสลักโดยรอบนั้นจะเป็นเรื่องราวของฮินดูปกรฌัม ที่มีอายุกว่า ๒๕๐ ปี (วังที่เมืองกาฏมัณฑุ)

    ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของ "กุมารี" เริ่มต้นขึ้นแล้ว และจะคงอยู่ต่อไปจนกว่า เธอจะมีประจำเดือนครั้งแรก เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะถูกประกาศว่า มีมลทิน และจะมีการคัดเลือกเด็กผู้หญิงคนใหม่มาดำรงตำแหน่ง "กุมารี" แทนที่

    เด็กหญิงตัวน้อยในฐานะ "กุมารี" ต้องปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวันอันเข้มงวด ทุกเช้ามืดผู้รับใช้จะเข้ามาแต่งตัวให้เธอเป็นชุดผ้าไหมยกดอกสีแดงและสีทอง เกล้าผมของเธอจนตึง เพื่อใส่เครื่องประดับศีรษะ พร้อมทั้งระบายสีแดงเข้ม สีดำ และสีทองเป็น ดวงตาที่ ๓ ไว้ที่หน้าผาก ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้

    ประมาณเก้าโมงเช้า "กุมารี" จะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ ให้พระสงฆ์ถวายของสักการะที่จะทำให้ เทวีทาเลจู โปรดปราน จากนั้นจะใช้เวลาหลายชั่วโมงให้พรผู้ศรัทธา ก่อนเริ่มการเรียนหนังสือประจำวันของเธอ หลังจากนั้นเธอถึงจะได้มีเวลาเล่นสนุกสนานตามประสาเด็กๆ

    ตามปกติ "กุมารี" จะต้องเดินบนผ้าชนิดพิเศษ ที่ปูเป็นทางในวัง เนื่องจากมีข้อห้ามไม่ให้เท้าของเธอสัมผัสพื้นดิน นอกจากนี้ "กุมารี" ยังถูกห้ามไม่ให้ออกไปเล่นข้างนอก ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ยกเว้นเวลาที่ต้องปรากฏ ตัวต่อหน้าสาธารณชน ในงานเทศกาลสำคัญต่างๆ เท่านั้น ซึ่งมีประมาณ ๑๓ ครั้งต่อปี

    ชีวิตของ "กุมารี" มีข้อจำกัดข้อห้ามมากมาย แต่เด็กสาวชาวเนปาลส่วนใหญ่ที่เป็น ชาวศักกายะ ก็ต้องการที่จะเป็น "กุมารี" เพราะมีเกียรติสูง และครอบครัวของเธอก็จะได้รับการดูแลจากรัฐบาลเป็นอย่างดี

    "กุมารี" ของชาวเนปาล จะมีทั้งในเมืองหลวง คือ กาฏมัณฑุ และเมืองสำคัญอื่นๆ เช่นที่ ปาตัน

    เมื่อคราวที่ผมได้เดินทางไปประเทศเนปาล เพื่อทำบุญทอดกฐินพระราชทาน ที่วัดไทยลุมพินี ปลายปี ๒๕๔๗ ผมก็ได้มีโอกาสไปชมบารมีของ "กุมารี" ของเมืองกาฏมัณฑุ ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเดียว เธอโผล่ออกมาให้เห็นที่ช่องหน้าต่าง ชั้น ๓ โดยมีข้อกฎ ห้ามถ่ายภาพ อย่างเด็ดขาด ใครอยากได้ภาพ "กุมารี" ก็ต้องหาซื้อภาพโปสการ์ด ที่มีขายทั่วไป เป็นภาพ "กุมารี" ขณะออกปรากฏตัวต่อสาธารณชนในเทศกาลสำคัญๆ ซึ่งช่วงเวลานั้นไม่มีข้อห้ามถ่ายภาพแต่ประการใด

    เป็นที่น่ายินดี...ที่เรื่องราวของ "กุมารี" จะมีการถ่ายทอดทาง ทีวี ช่อง ๗ สี รายการ ชั่วโมงพิศวง ในวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม) เวลา ๒๒.๓๐-๒๓.๓๐ น. โดย นาธาน โอร์มาน หนุ่มชาวเนปาล ที่พูดไทยได้อย่างชัดเจน เป็นพิธีกรนำไปชื่นชมบารมีของ "กุมารี" ทั้งที่เมืองกาฏมัณฑุ และ เมืองปาตัน

    นาธาน บอกว่า ยังไม่เคยมีโอกาสได้เข้าขอพรอย่างใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน

    จึงได้ขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ เพียบพร้อมด้วยความสมบูรณ์พูลสุขให้แก่ชีวิตและครอบครัว พร้อมกับขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนรักกันมากๆ

    ความศรัทธาเลื่อมใสใน "กุมารี" ของชาวเนปาลใน ทุกวันนี้ไม่มีลดน้อยลงไปเลย ประชาชนนับหมื่นนับแสนคน ยังคงเฝ้ารอโอกาสที่จะได้ชื่นชมบารมีของเธออย่างใกล้ชิด.. .ในแต่ละโอกาสที่เธอจะออกมาให้พรแก่ชาวเนปาลโดยทั่วกัน

    0 แล่ม จันท์พิศาโล 0
     
  2. fluke&best

    fluke&best Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณ/ได้ความรู้/แปลกดี/มีอีกหรือไม่?
     
  3. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ประมาณเก้าโมงเช้า "กุมารี" จะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ ให้พระสงฆ์ถวายของสักการะที่จะทำให้ เทวีทาเลจู โปรดปราน จากนั้นจะใช้เวลาหลายชั่วโมงให้พรผู้ศรัทธา ก่อนเริ่มการเรียนหนังสือประจำวันของเธอ หลังจากนั้นเธอถึงจะได้มีเวลาเล่นสนุกสนานตามประสาเด็กๆ
    .........................................................................................................

    โอ๊ะให้พระสงฆ์ถวายของสักการะแก่กุมารี โห น่ากลัวครับกุมารีถือศีลสูงกว่าพระสงฆ์หรอครับ ประเพณีเขาแปลกนะ
     
  4. MissyKelly

    MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +1,190
    รู้สึกว่า น้องจะต้องเปลี่ยนตัวไปเรื่อยๆไม่ใช่หรอคะ แบบว่า เค้าจะต้องการแค่เด็กอายุประมาณนึงเท่านั้น
    จำได้ว่า น้องคนก่อนๆ เคยให้สัมภาด (เขียนคำนี้ไม่เป็นอ่ะค่ะ) แล้วเค้าแบบลำบากมากเลยหลังจากการปลดตำแหน่ง หนังสือ magazineที่เมกาเคยลง article ไว้ค่ะ
     
  5. absolut

    absolut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +51
    เคยดูสารคดีของเมกาคะ (แต่ดูที่แคนนาดา)
    หลังจาก กุมารี ถูกปลดตำแหน่ง
    จะมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก (อย่างที หค ข้างบนว่าแหระ)
    ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

    ป.ล. ตอนที่ จขกท ไปดู กุมารี
    เธอแค่เดินผ่านประตู/หน้าต่าง ให้ดูใช่มั๊ยคะ??
    (สารคดีที่ดู บอกมาแบบนี้)
     
  6. B5234T5

    B5234T5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2005
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +210
    มีคนในบอร์ดนี้สนับสนุนพรรค "คอมมิวนิสต์" ด้วย เจอเพื่อนแล้ว 555555 ไม่น่าเชื่อว่าบ้าคอมมิวนิสต์เหมือนกัน
     
  7. mahingsa

    mahingsa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    ถึงคุณ Abdolut ครับ

    ที่กุมารีมีความเป็นอยู่ไม่ดีนั้น ก็เนี่องจากกุมารีเหล่านี้ จะไม่ได้รับการเรียนการสอน เหมือนเด็กทั่วไป รัฐบาลของเนปาลเพิ่งจะมาตระหนักตรงนี้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง

    เด็กทุกคนที่เคยเป็นกุมารี มาก่อนนั้น จะอ่านหนังสือไม่ออก และกลายเป็นคนไม่รู้หนังสือในที่สุด

    ข้อคิดอีกประการหนึ่งก็คือ กุมารีนั้น จะถูกเลือกมาจากเด็กทั่วไป ซึ่งเด็กหลายๆ คนนั้นนับถือศาสนาพุทธนะครับ ไม่ใช่พราหมณ์ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ก็ตาม

    จริงๆ แล้วในศาสนาพรารมณ์ นั้นมีความเชื่อเยอะ และ หลากหลายมาก เทพเจ้าของพราหมณ์มีหลายองค์มากครับ ผมศึกษาแล้วปวดหัวกับศาสนานี้มาก

    บางประวัติของเทพเจ้าที่ผมเคยศึกษาเช่น ตอนกำเนิดพระพิฆเนศนั้น เทพเจ้ามารายล้อมกัน และยืนเถียงและก็สาปแช่งกันเนื่องจากไม่พอใจที่ฆ่าลูกชายของตนอะไรทำนองนี้

    นึกๆ ดูแล้วต่างจากพุทธเรามากเลย เป็นถึงเทพเจ้า ทำไมต้องสาปแช่งกันไปกันมา ไม่เข้าใจ
     
  8. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,068
    ค่าพลัง:
    +7,066
    เรื่องบางเรื่องก็มาจากการเล่าปากต่อปากกันมา ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ ก้อยว่า เรื่องเทพเจ้านั้น จริงแล้วคงไม่สาปแช่งกันหรอกค่ะ แต่คนคงจะไปเพิ่มเสริมเรื่องกันเอาเอง (อันนี้ก้อยคิดเองนะ)...
    เรื่องกุมารีนี้ ก้อยก็ดูเหมือนกันค่ะ ตอนแรกก็งงๆปนแปลกใจเหมือนกัน อืม ...น่าสนใจดีอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...