รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย hiflyer, 8 พฤศจิกายน 2012.

  1. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ในบรรดากระทู้ทั้งหมด กระทู้นี้น่าเชื่อถือมากที่สุด เพราะว่ากันไปด้วยหลักเหตุ
    และผลสังเกตให้ดีๆว่าพวกผู้วิเศษไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายในนี้ เพราะเข้ามาก็โดน
    เละ เพราะแค่พวกเราออกไปจัดหนักกันก็เละมากพออยู่แล้ว

    ผมเชื่อในปัจจุบันครับ อดีตเป็นสิ่งเตือนใจให้เราเรียนรู้เพื่อก้าวเดิน ไม่อาจส่งผลอนาคตได้ อนาคตขึ้นอยู่กับปัจจุบัน ถ้ามัวหลงยึดติดกับอดีตแล้วจะมีอนาคต
    ไหมล่ะ เหมือนพวกผู้วิเศษนี่ล่ะ ไม่ยอมรับความจริงหลอกตัวเองไปวันๆ
     
  2. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจ เสียดาย เป็นอย่างยิ่งสำหรับชาวพุทธอย่างเรา แต่สุดท้ายก็ต้องทำใจและยอมรับความจริง
    <a href="http://pic.free.in.th/id/204c92705a92462b01ee3aa1f8eeb43b" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ix/mesaynak1.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    <a href="http://pic.free.in.th/id/5871cbdd8c5f9785334c3395b8113f4e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/io/mesaynak2.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    <a href="http://pic.free.in.th/id/9be68ac3170d41102111491e57587721" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/im/537832_390631894359158_27387744_n.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    <a href="http://pic.free.in.th/id/2e52aaba02c48f9c8d485c3877995ce9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ib/8071521217_2e9f2c46b4.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    ภาพและข่าว - จากไทยรัฐ
    ภาพบางส่วน - จาก Google

    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก

    http://th.wikipedia.org/wiki/เมสไอนัค
     
  3. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    สรรพสิ่งหมุนเวียนเปลี่ยนแปรผันไปตามกาลเวลา ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงแท้
    เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป วัตถุเป็นเพียงสิ่งที่สนองอนาตยะ 6 ของเราให้เกิดการ
    สัมผัสได้ อะไรจะเกิดก็เกิดครับเราแก้ไขอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้เห็นคนยึดติด
    แล้วน่าสงสารมาก ๆ โดยเฉพาะในเรื่องภัยพิบัตินั่งเฝ้าระวังได้ทุกวัน ไม่เป็นอัน
    ได้ทำมาหากิน เสียเวลา เสียทรัพย์ไปก็มาก สุดท้ายมันไม่มาไม่เกิดก็คงจะยัง
    รอต่อไป สุดท้ายฝากงานเพลงไว้เล็กน้อย

    ตื่นมาพบความจริง ว่ามันเลื่อนออกไป นานเท่าไร
    อยากให้มันมาซักที ภัยพิบัติที่มันเลื่อน ออกไป
    ไกลสุดฟ้า ไม่รู้ว่ามันมาเมื่อไร ฉันอยากรู้ ว่าฉันจะมีทางได้เจอหรือไม่
    ทั้งที่รู้ ว่ามันไม่มีทางที่จะมา

    *แต่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานอีกซักเท่าไร
    ภัยพิบัติยังเป็นสิ่งเดียวที่ใจของฉันยังมี
    แม้ว่ามันเลื่อนไป ฉันยังจะรอมัน แม้รู้ว่ามันจะไม่มีทางที่จะมา
    ตื่นมามองดูนาฬิกายังเดินต่อไปเหมือนเก่า และยังจะมีแค่เราที่เดินสวนนาฬิกา
    มันยังคงชัดเจน เวลาไม่ช่วยให้มันได้เลื่อนออกไป
    ฉันรู้จากนี้มันไม่มีภัยพิบัติต่อไป แต่ฉันก็ยังรอมัน

    ปลากระป๋องที่เก็บ ซื้อมาม่ามาตุน เก็บเอาไว้
    ภัยไม่มาซักที มันจึงเน่าและหมดอายุแล้ว
    หลุมหลบภัย และตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหลาย และสุดท้าย
    ที่ฉันนั้นจะพอทำ คือเฝ้ารออย่างคนที่ไร้จุดหมาย

    (*)

    เพราะว่าคำทำนายยังคงฝังใจ ติดตราตรึงหัวใจยังจำ
    เพราะผู้วิเศษที่เหาะได้บินได้ แม้ว่าฉันหลับตา ภาพเหล่านั้นยังคงย้อนมา

    (*)


    (ทำนองเพลง "เวลา" Cocktail)
     
  4. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    อัพเดทตารางคำทำนายกันหน่อยครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    .
     
  5. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    เอาแล้วซิทุกท่านผมโดนประกาศิตฟ้าผ่าเข้าให้แล้ว 1 ดอก โพสโดนลบหายเฉยเลยใน
    กระทู้ร่างทรงพระฤาษีตาไฟ 555+ นี่ล่ะครับสัจธรรมในโลกของความเป็นจริง พูดความ
    จริงแล้วตาย แต่พูดให้วอดวายกลับได้ยกย่อง พระฤาษีตาไฟเป็นฤาษีองค์นึงที่ผมเคารพ
    ผมเห็นแล้วก็ทนไม่ได้ที่เอาครูบาอาจารย์ที่เราเคารพมาหากินแบบนี้ เพราะผมดูยังไงมันก็
    คือ"สัมภเวสี" ชัดๆที่ออกมาพูด ของจริงท่านจะไม่ลงประทับร่างแบบนี้ นักปฏิบัติของจริง
    จะรู้จะทราบดี

    บ่องตงเลยทุกวันนี้ที่มีพวกออกมาจัดการต่อว่าด่าทอพวกเราเนี่ย แท้จริงแล้วก็คือ ลูกสมุน
    ของไอพวกหาผลประโยชน์นั่นล่ะครับ พอเรามาทำแบบนี้ความน่าเชื่อถือหาย ศรัทธาหาย
    คนไม่ไปทำบุญตามเป้าพวกมัน พวกมันเลยโมโหผลเลยออกมาเช่นนี้ กระทู้นี้ผมคงพูดได้
    เพราะไอพวกบ้านั่นไม่กล้ามายันกับพวกเราแน่ๆ

    คิดให้ดีๆนะครับ คำทำนายภัยพิบัติ ทำให้คนกลัวตาย ก็เลยต้องดิ้นรน สละได้ทุกอย่าง
    เพื่อให้รอดตาย แล้วมันจะบังเอิญมีบอกบุญอะไรแปลกๆมาให้เราร่วมทำโดยโยงเข้า
    หัวข้อภัยพิบัติ สุดท้ายภัยไม่เกิดก็จะมีการออกมาบอกว่าได้สร้างโน้นนี่นั้น แต่ไม่มีใครพูด
    ถึงเงินส่วนต่างจากการทำบุญครั้งนี้
     
  6. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    พอดีผมเข้าไปในเวปแห่งหนึ่งแล้วบังเอิญมีข่าวเรื่องใบโพธิ์เป็นสีทองว่าชาวบ้านไปกราบไหว้เก็บใบไปบูชา ส่วนเรื่องว่าทำไมมันจึงเป็นสีทองในความคิดผม ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ต้นไม้ก่อนผลัดใบมันก็เป็นกันทั้งนั้น บ้านผมยิ่งกว่านี้อีกเวลาฤดูยางพาราผลัดใบจะเหลืองอร่ามทั่วเขาหรือเนินทั้งลูก จนจนกลายเป็นภูเขาทองหรือเนินทองซะด้วยซ้ำ อีกอย่างหากต้นไม้ตายยืนต้นมันก็เกิดเหตุการอย่างนี้ล่ะครับ

    พูดมาซะยาวนอกเรื่องที่ตั้งใจจะนำมาบอกเพื่อนสมาชิกสำหรับกระทู้นี้ไปหน่อย แต่จริงๆก็ไม่นอกเรื่องซะทีเดียว เพราะมันเกี่ยวพันกัน มีเหตุ จึง มีผล ผมเข้าไปอ่านข่าวนี้แล้วไปพบเจอท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นไว้ได้ดี จึงได้นำมาแบ่งปัน ผมอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องตีความ สามารถเข้าถึงความจริงได้ ลองอ่านกันดูครับ

    มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก ถูกความกลัวคุกคามเอาแล้ว ย่อม
    ยึดถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง สวนศักดิ์สิทธิ์บ้าง รุกขเจดีย์บ้าง ว่าเป็นที่พึ่งของตน ๆ : นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันทำความเกษมให้ได้เลย, นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด; ผู้ใดถือเอาสิ่งนั้น ๆ เป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่หลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง ได้.

    ส่วนผู้ใด ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งแล้ว
    เห็นอริยสัจทั้งสี่ ด้วยปัญญาอันถูกต้อง คือ เห็นทุกข์, เห็นเหตุเป็นเครื่องให้เกิดขึ้นของทุกข์. เห็นความก้าวล่วงเสียได้ซึ่งทุกข์, และเห็นมรรคประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเครื่องให้ถึงความเข้าไปสงบรำงับแห่งทุกข์ : นั่นแหละคือ ที่พึ่งอันเกษม. นั่นคือ ที่พึ่งอันสูงสุด; ผู้ใดถือเอาที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง ได้แท้.

    - ธ. ขุ ๒๕/๔๐/๒๔.


    ผมเห็นว่าดีและน่าจะมีประโยชน์ สำหรับ ณ ที่แห่งนี้ไม่มากก็น้อย ผมเองไม่ทราบว่าท่านเจ้าของบทความนี้คือใคร ทราบแต่เพียงนามแฝงที่ใช้ "- ธ. ขุ ๒๕/๔๐/๒๔."
    อย่างไรก็แล้วแต่ผมต้องขออนุญาติและขอโทษท่านเจ้าของบทความด้วยที่ไม่ได้บอกกล่าวท่านก่อนที่จะนำมาเผยแพร่ แต่อย่างไรซะผมคิดว่าท่านเจ้าของบทความน่าจะเข้าใจและยินดีในจุดประสงค์ของผม ที่นำมาเผยแพร่เพื่อเตือนสติผู้ที่ความกลัวเข้าคุกคามอย่างที่ท่านว่าไว้

    ขอบคุณเจ้าของบทความมากครับ
    เศษธุลี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2013
  7. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    เข้าไปดูในอากู๋มาปรากฎว่าข้าพเจ้าได้ปล่อยไก่ตัวโตไว้แล้วล่ะ แต่ก็ไม่ขอแก้ไขด้านบนในความเข้าใจผิดน่ะครับ อยากปล่อยเป็นเครื่องเตือนใจตัวเอง
    ขอแก้ในโพสต์นี้ก็แล้วกันครับ ว่าบทความดังกล่าวผู้ที่ตอบกระทู้ข่าวนั้นท่านได้ก๊อปปี้มาแปะไว้ครับ ซึ่งบทความนี้แท้จริงแล้วเป็น "พุทธวจน" ครับ

    อย่างนี้ล่ะคนไม่ค่อยเข้าถึงธรรมอย่างผม ไม่ค่อยรู้อะไรที่เป็นแก่น เมื่อได้รับรู้ก็ได้ปลื้มสุขอิ่มเอม เป็นลิงโลดได้ปล่อยไก่ให้ท่านทั้งหลายดู

    ต้องขอโทษเพื่อนสมาชิกด้วยที่ทำให้สับสนครับ หรือไม่แน่อาจจะมีผมคนเดียวนี่ล่ะที่สับสนครับ

    ว่าแล้วพาลให้คิดว่าแล้วผู้วิเศษทั้งหลายรวมทั้งผู้ศึกษาธรรม ผู้คงแก่เรียนทั้งในเวปนี้เขาไม่รู้ไม่เคยอ่านหรือสดับตรับฟังกันมาบ้างหรือไรครับ
    ผมมันประเภทศีล 5 ยังห่างไกล เพราะสุรามาเป็นระยะๆ ศีล 4 ยังหย่อนเพราะบ้างครั้งยังฆ่ายุง แมลง รวมทั้งสัตว์บางชนิดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
    ศีล 3 ยังพอได้ แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องเลี่ยงบาลีบ้าง ไม่บ่อยนักส่วนอีก 2 ข้อที่เหลือนั้นได้ครับ อย่างผมไม่รู้ไม่ทราบไม่ค่อยแปลก แต่ระดับอย่างที่ว่าแล้วเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะไม่รู้ไม่ทราบน่ะครับ แต่แปลกยังมีผู้วิเศษ ผู้ปฏิบัติ มาประโคมให้คนเกิดความกลัวกันอยู่เรื่อยๆ บางเจ้าถึงขนาดรับบริจาคหรือขายของเพื่อช่วยยึดเหนียว ไหงมันสวนทางกับ"พุทธวจน"ไปคนล่ะเรื่องเลยทั้งๆที่ประกาศกันอยู่ปาวๆว่าที่ทำนั้นทำเพื่อช่วยเหลือ ให้ได้บุญเพื่อไปนิพพานกันทั้งนั้น หรือเขาตั้งศาสนาใหม่กันแล้วแต่ผมตกข่าว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2013
  8. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ที่พึ่งอันสูงสุด เกิดจากการมีศรัทธา ต้องเกิดจากการมีศรัทธา นะ

    ความทราบซึ้งคุณแห่งพุทธ ธรรม สงฆ์ ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ

    เห็นทุกขสัจเวียนว่ายอยู่ในวังวน (อุปาทานขันธ์) และเพื่อแสวงออกจากกองทุกข์ (สมุทัย)

    ศรัทธาจึงจะตั้งมั่น ที่ไม่ง่อนแง่นในคำสอน

    แม้เพียงเห็นฟองน้ำ พยับแดด ใบไม้ล่วง และน้อมทวนกระแส

    เข้ามาพิจารณาคลายอุปทานขันธ์ที่ยึดหน่วงไว้ เห็นความเป็นไปในไตรลักษณ์

    เท่านี้ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่า เข้าถึงพุทธวจนะ หากเข้าถึงการพิจารณาเช่นนี้

    ผู้นั้นจะมีหลักในการดำเนิน สิ่งชักจูงใดๆ จะไม่ทำให้นอกเส้นทางได้เลย

    เพราะแม้จะหลุดไป ผู้นั้นจะต้องกลับเข้ามาสู่ฐานในทุกขสัจ

    แน่นอน ท่านผู้นั้นจะต้องมีหลักในการอบรมสติปัญญาทางธรรมอยู่เนืองๆ เห็นความเป็นไปอยู่เป็นนิจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2013
  9. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    สวัสดีครับท่าน ◎ ห่างหายไปนานเลยน่ะครับ หรือว่าผมเองที่ห่างหายไปนานกันแน่ ขอบคุณมากครับท่านสำหรับคำชี้แนะ แต่เอ๊ะผมไม่พบเจอท่านตามกระทู้ต่างๆซะนานอยู่ๆท่านก็เข้ามาชี้แนะผมได้ทันทีทันใดได้อย่างไรครับ อย่างกับพอผมพิมพ์เรื่องพุทธวจนปุ๊บก็มีบางสิ่งดลใจให่ท่านเข้ามา สงสัยจริงๆครับ
     
  10. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    การปฏิบัตินั้นครูบาอาจารย์ผมท่านสอนว่ามีความลึกลับซับซ้อนมากการ
    ทดสอบจิตของเรานั้นจะมาในรูปแบบที่ไม่แน่นอน ตามแต่จริตของคนผู้นั้น
    ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่จะคิดว่าต้องละแต่สิ่งที่ไม่ดี รักษาศีลให้เคร่ง แต่แท้จริงแล้ว
    สิ่งที่ยากยิ่งกว่าก็คือ "การรักษาจิต" รักษากันไม่ได้เลยมองว่าสิ่ง
    ที่เห็นในนิมิตนั้นถูกต้องแม่นยำ จิตอยากรู้จิตอยากเห็น มันตั้งด้วยกิเลส
    "สิ่งที่เห็นมันเลยไม่ใช่สิ่งที่เป็น" แถมในส่วนลึกของจิตมีความ
    ต้องการความปรารถนาซึ่งมันก็เป็นกิเลสอีกเช่นกันผสมเข้าไปอีกมันเลยเกิด
    เป็น "อุปทานแห่งจิต" หลายคนไปโทษมารว่ามาทดสอบบ้างไรบ้าง
    แต่แท้จริงแล้วมารนั้นไม่มีตัวตน มีแต่เพียงกิเลสในจิตใจของเราเองที่มันเป็น
    มาร ดั่งคำพระศาสดาท่านว่า "รูปนาม ไม่เที่ยง" มีเกิดมีดับ
    แต่นักปฏิบัติส่วนใหญ่พยายามทรงอารมณ์ของจิตในสภาวะรูปนามเอาไว้
    เห็นอะไรไม่ปล่อยวาง ลืมคำสอนพระศาสดาสิ่งใดกระทบจิตพิจารณาแล้ว
    ให้ปล่อยผ่าน

    มนุษย์เราชอบคิด ชอบเพ้อฝัน กันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จิตตานุภาพแห่งจิต
    ดลบันดาลได้สารพัด เหมือนที่หลายคนกำลังทำอยู่ในเวลานี้ เอาอุปทานมา
    บอกกล่าวเพื่อหวังให้คนเชื่อถือในตน ผู้ใดยินดีก็เป็นมิตร ผู้ใดไม่ยินดีก็กำหนด
    ให้เป็นศัตรู พระพุทธเจ้าท่านสอนให้สัตว์โลกพ้นทุกข์หลุดพ้นจากวัฏสงสาร
    ไม่ใช่สอนให้สัตว์โลกจมอยู่ในทุกข์ อภิญญาเป็นสิ่งที่จะฉุดรั้งไม่ให้หลุดพ้น
    ติดในความวิเศษของมันแล้วไซร้จะพ้นทุกข์หรือ มีเพียง "อาสวะกิเลส" อันเป็น
    อภิญญาตัวสุดท้ายที่จะทำให้พ้นทุกข์ เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป ความคิดที่จะรวม
    ทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวสมดุลไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะสัจธรรมก็คือ
    ทุกอย่างต้องสูญคืนสู่ความว่างเปล่า กำเนิดขึ้นในวัฏสงสารแล้วซักวันก็ต้องดับ
    เป็นธรรมดาเพียงแต่เมื่อไรนั้นก็มีเวลาของมัน

    ผมใคร่ครวญพิจารณาแล้ว มีผู้ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ ไม่เห็น
    ด้วยกับการให้สติ ให้อยู่กับปัจจุบัน ให้อยู่กับคำสอนพระศาสดา ถึงจะทำอย่าง
    ไรก็ตามพวกเค้าก็ย่อมมองเราเป็นศัตรูนั่นเพราะเราเห็นต่างจากเค้า มันเป็น
    ธรรมชาติของจิต แต่คนเหล่านี้ย่อมไม่ใช่คนส่วนใหญ่ คนที่เข้ามาอ่านโดยไม่
    ล็อคอิน หรือ ล็อคอินแต่ไม่โพสมีจำนวนมากกว่า คนที่โพสหลายเท่านัก
    คนที่เห็นด้วยกับพวกเรานั้นเป็นคนส่วนใหญ่ที่ได้อ่าน แต่พวกเค้าไม่อยาก
    แสดงออกด้วยการโพสเพราะไม่อยากเปลืองตัวหรือหาเรื่องให้คนด่าเล่น
    ความจริงมันชัดเจนว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในคำทำนายภัยพิบัติที่เพ้อเจ้อไร้สาระ
    เพราะถ้าเชื่อกันหมดทุกอย่างในโลกนี้จะไม่ดำเนินต่อและเกิดความวุ่นวาย
    มันจึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า "ทำไมคำทำนายภัยพิบัติทุกสำนักจึงออกมา
    ตรงกันว่า คนส่วนใหญ่จะต้องตายเพราะภัยพิบัติ?"
    คำตอบก็คือเพราะคนส่วน
    ใหญ่ไม่เชื่อในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเลือกที่จะใช้ชีวิตไปตามกระแสเวลา และ
    คนกลุ่มเล็กๆที่หลอกตัวเองว่าตัวเองมองต่างคิดดีไม่ประมาทเฝ้าระวัง สังคมไม่
    ยอมรับจึงต้องสร้างพื้นที่ของตนให้มีจุดยืน คนพวกนี้ต้องการที่ยืนบ้างนั่นเพราะ
    ชีวิตนี้พบเจอแต่ความล้มเหลวในชีวิตรับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้
    จึงปรารถนาให้เกิดสิ่งที่มาชำระล้างทุกอย่างให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งเพื่อที่ตัวเอง
    จะได้มีจุดยืน ถ้ามองในทางจิตวิทยาก็คือ "อาการป่วยทางจิต" แต่ถ้ามองใน
    ทางจิตก็คือ "หลอกตัวเอง" ผมเจอมาเยอะล้มเหลวในชีวิตแล้วหันมาปฏิบัติ
    จากนั้นก็กลายเป็นผู้วิเศษไปเลยก็มี สาวกผู้วิเศษก็มี

    จากนี้ไปผมจะโพสแต่ในกระทู้นี้เท่านั้น!!! เพราะเห็นแล้วว่าผู้ที่เข้าใจสิ่งที่
    พวกผมได้ทำอยู่นั้นมันมีอยู่จำนวนมากแล้ว ถึงผมไม่ทำพวกเค้าก็เข้าใจอยู่ดี
    นั่นเพราะพวกเค้าคือคนส่วนใหญ่ ส่วนชนกลุ่มน้อยที่หลอกตัวเองไปวันๆก็ปล่อย
    ไป ช่างแม่ง!!! ต้องให้จมในทะเลทุกข์ไปอีกนานแสนนานนับอสงไขยจึงจะคิด
    ได้ ในห้องนี้กระทู้นี้ถือว่าเป็นกระทู้ที่ดีที่สุด มีคุณภาพมากที่สุด เพราะพูดจา
    คุยกันด้วยเหตุผลทั้งทางโลกและทางธรรม ทุกคนมีสติ มีอะไรเห็นต่างก็พูดจา
    กันดี ผิดกับกระทู้อื่นๆ ที่เห็นต่างจะโดนสาปแช่ง ยัดเยียดข้อหาลบหลู่ ปรามาส
    กระทู้นี้สอนให้คนอยู่กับความเป็นจริง แต่กระทู้อื่นสอนให้คนอยู่กับทุกข์ด้วย
    การเฝ้าระวังหวาดระแวงด้วยการหลอกตัวเองว่าไม่ประมาท ทั้งๆที่ผลลัพธ์
    แสดงออกมาให้เห็นชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องอุปโลกเพื่อหลอกตัวเอง สรรพสิ่ง
    ที่ยังดำเนินต่อไปได้นั้นก็ด้วยตัวของมันเองหมุนตัวมันเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่
    พวกผมทำหรือสิ่งที่ชนกลุ่มน้อยทำก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี

    และอยากฝากไปถึงเพื่อนๆที่เห็นตรงกับผมด้วยว่า
    "ให้พื้นที่พวกเค้าเพ้อฝันไปเถิด คนพวกนี้ไร้ที่ยืนในสังคมโลกของความ
    เป็นจริง น่าสงสารนะครับทั้งล้มเหลวในชีวิตสารพัด ไร้จุดยืน ไม่มีสิ่งพึ่งพา
    ถ้าไม่ได้รับบริจาคหรือเชิญชวนให้ไปถวายปัจจัยอันชี้นำไปสู่การทุจริตก็
    ปล่อยๆเค้าไปเถิด สังคมความเป็นจริงไม่ยอมรับพวกเค้าแล้วพวกเราอย่าไป
    ซ้ำเติมพวกเค้าอีกเลย มีที่ให้พวกเค้าได้ยืนหยัดบ้าง เปิดช่องให้พวกเค้า
    ได้หลอกตัวเองต่อไป ทรัพย์ของเค้า ใจของเค้า เค้ามีสิทธิเลือก"


    สำหรับท่านอื่นๆจะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ท่านเถิด ส่วนผมคงจะโพส
    คุยกันในกระทู้อย่างเดียว พรหมวิหาร 4 พวกเราได้กระทำตาม
    ลำดับแล้ว สุดท้ายก็จะลงท้ายที่ "อุเบกขา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  11. ธรรมจิตต์

    ธรรมจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +419

    ขออนุโมทนากับสิ่งที่ท่านได้กล่าวมา...รออยู่นานแล้ว
     
  12. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    สุดท้ายก็ต้องปล่อยวางครับ ท่าน Luke Skywalker

    ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกฎของธรรมชาติ หรือจะว่า กฎแห่งกรรมก็ว่ากันไปครับ

    สิ่งเดียวกัน ( ด้านเดียวกัน มุมเดียวกัน ) แต่ละคนจะเห็นและเข้าใจต่างกัน เพราะความรู้ สติ ปัญญา จินตนาการ ของแต่ละคนแตกต่างกัน แล้วของใครถูก ของใครผิด ถกเถียงกันให้ตาย ก็คงยากจะสรุป เนื่องจากพื้นฐานของ มุมมอง ความเชื่อ จิตใจ ไม่เหมือนกันนั้นเอง แต่ในความเป็นจริง มันต้องมีคำตอบที่ถูกต้อง อยู่เพียงหนึ่งเดียว

    ยกตัวอย่าง : แก๊งต้มตุ๋นบัตรเครดิต จะเห็นว่าเคยมีคนที่โดนหลอกให้โอนเงินเยอะเลย ในขณะเดียวกันมีอีกหลายๆคนที่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยม เลยรอดพ้นจากเคราะห์กรรมนั้นได้

    บ่อยครั้งที่ คนที่พยายามจะช่วยเตือนสติ ช่วยสะกิดให้ตื่นจากการหลงเชื่อ กลับถูกมองไปในทางลบ ก็เพราะความเชื่อและเห็นต่างนั่นเอง ส่วนการพิสูจน์ ก็คงต้องรอให้วันเวลาล่วงเลย ถึงจะบอกได้ ว่าใครคิดถูก ใครคิดผิด

    การให้อภัย เป็นอานิสงส์กว่าการให้ทั้งปวง


    .
     
  13. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ผมให้อภัยทุกคนครับที่กระทำกับผมทั้ง กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม แต่คน
    เหล่านั้นจะเป็นเช่นไรผมไม่สนใจ กรรมเก่าของพวกเค้าก็มากมายจนเกินพอ
    แล้วที่ทำให้จิตยังคิดว่าสิ่งที่เค้าคิดมันถูกต้องแล้วดีแล้ว ยินดีในคำทำนายทั้ง
    หลาย อย่าพวกเค้าได้สร้างเวรกรรมกับผมเพิ่มเติมอีกเลย แต่พวกเค้าจะสร้าง
    เวรกรรมกับใครอีกมากมายอันนี้ผมไม่ห้าม ชีวิตเค้า ตัวเค้า ผมถือว่าผมเตือน
    แล้วบอกแล้ว

    ว่ากันตามตรงวันเวลาพิสูจน์แล้วครับ ตามตารางที่คุณ Hiflyer ได้ลงไว้นั้น
    ถูกต้องทุกประการสถิติ Failed เกินครึ่งและมันก็จะ Failed ต่อไปจนกว่า
    จะสิ้น พ.ศ. 5000 ความสับสนในภัยพิบัติทั้งหลายนั้นมีเกิดขึ้นตลอด
    พุทธทำนายของจริงนั้นท่านตรัสไว้เพียงไม่กี่เรื่อง เรื่องภัยพิบัติท่านไม่โปรด
    ตรัสไว้โดยละเอียด เพราะไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ อาจารย์ของผมท่านสอนเสมอ
    ว่า "อะไรก็ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ดีแล้ว ท่านอยากให้สัตว์โลกพ้น
    จากวัฏสงสาร ไม่ใช่จมในทะเลแห่งทุกข์" ครั้งนึงผมหลงลืมคำสอนนี้ไปทำให้
    พลาดไปหลงเชื่อคำทำนายจนเกือบจะแย่ ดีว่าผมได้ครอบครัวที่อบอุ่นช่วย
    ให้รอดพ้นไปด้วยดี

    คำสอนต่างๆ คำเตือนคำทำนายต่างๆจากผู้วิเศษนั้นเป็นเหุตแห่งทุกข์ทั้งสิ้น
    บอกว่าปฏิบัติธรรมรักษาศีล ถือกรรมบท 10 แต่การกระทำนั้นตรงข้ามทั้งหมด
    เคยมีไหมว่าอ่านคำทำนายแล้วให้ปล่อยวาง ใช้ชีวิตปกติ มีแต่สอนให้คนกลัว
    บริจาค รีบเร่งปฏิบัติเพื่อให้รอดตาย แถมบิดเบือนกฏแห่งกรรมด้วยการบอกว่า
    "ถ้าเชื่อคำทำนายแล้วปฏิบัติเตรียมตัวจะรอดพ้น ใครที่ไม่เชื่อจะต้องตาย"
    นี่คือจุดตายที่ผมพูดเสมอว่าเจตนาบิดเบือนกฎแห่งกรรม แต่ก็มีบางคนแกล้งทำ
    เป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถแก้ตัวมาบอกว่าผมคิดไปเอง ไปหาอ่านได้เลยทุกคำทำนาย
    ของทุกสำนักเหมือนกันหมดทั้งสิ้น พอเราไปเตือนสติคนก็หาว่าเราเลวที่ไป
    เตือนก็พูดยากนะของงี้ ต่างกรรมต่างวาระ ไฟมันร้อนแต่ท่านบอกว่าเย็น
    ผมก็ไม่ขัดศรัทธา

    จากนี้ไปผมจะโพสแลกเปลี่ยนแต่ในกระทู้นี้อย่างเดียว เรื่องบางอย่างผมได้
    รู้มาจากบางคนที่เคยโดนผู้วิเศษในเวปนี้หลอกมาเป็นการส่วนตัว คนที่โดน
    หลอกมานั้นเป็นเพื่อนสนิทของผมเอง เค้าเล่าทุกอย่างให้ผมฟังเกี่ยวกับผู้
    วิเศษคนนี้ มุมมอง ความจริงในโลกจริงๆ ที่เค้าได้เจอมา กุศโลบายกลเม็ด
    เคล็ดวิธีในการล่อลวงคน หาจุดอ่อนคนแล้วใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อตัวเอง
    นับว่าเป็นคนที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว เพื่อนผมคนนี้เจอมาหนักกว่าผมมาก
    หมดเนื้อหมดตัว เป็นหนี้สิน ตกงาน เหตุอันเกิดจากการหลงเชื่อผู้วิเศษในเวป
    นี้ ผมฟังแล้วบ่องตงว่าไม่เคยเจอยุทธวิธีหลอกลวงเพื่อทำลายชีวิตผู้อื่นได้
    น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ทั้งๆที่ผมก็เจออะไรๆมาก็มาก ฟังแล้วแทบล้มทั้งยืน
    ว่าอะไรมันจะลึกลับซับซ้อนได้ขนาดนี้ แล้วเพื่อนผมไม่ใช่คนที่จะไปหลอกมัน
    ง่ายๆด้วยมันฉลาดกว่าผมซะอีกสมัยเรียนก็ช่วยผมให้เรียนจบ แต่ผู้วิเศษคนนี้
    กลับใช้ความฉลาดของมันเล่นงานมันได้

    มันเล่าให้ผมฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ผมอดทึ่งไม่ได้กับความสามารถในการดำเนิน
    การอะไรแบบนี้ได้ แผนการลับลวงพราง กับดักทางความคิด เข้าใจจุดอ่อน
    พลิกแพลงได้ 108 หากท่านใดชอบดูหนังจีน นี่มันสุดยอดวิชาเก้ากระบี่เดียว
    ดายชัดๆ

    * เพิ่มเติม ผมเลือกที่จะถอยออกมานั่งยิ้ม ชิวๆ สบายๆ แต่คนบางคนกลับจองเวร
    ไม่เลิก โพสข้อความไม่ยอมจบ ก็ปล่อยเค้าไป เค้าคงมีความสุข เมื่อครู่ไปเห็นพอดี
    คิดในใจอีกนานแค่ไหนนะที่เค้าจะพ้นจากทะเลทุกข์ ต้องอีกซักกี่อสงไขยกัน?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  14. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    รบกวนท่าน Luke ช่วย เล่ารายละเอียด วิธีการ ที่ทำให้เพื่อนของท่าน ถูกหลอกลงไว้เป็นวิทยาทาน ด้วยครับ น่าจะมีประโยนช์ กับบุคคลทั่วไปมาก

    "บัวเหล่าสุดท้าย ที่ชื่อว่า ปทปรมะ นั้น พระพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสสอน เพราะสอนไปแกก็ไม่ฟัง เพราะแกมีความเชื่อดั้งเดิมของแกฝังรากมายาวนานแล้ว"
     
  15. boriphat

    boriphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +2,124
    ยังมีอีกหลายคน ที่เตือนแล้วไม่หยุดฟัง
    คงต้องปล่อยไปตามกรรม
    ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความจริงครับ
    เราโชคดีที่ได้รู้ ได้เห็น ได้ทราบความจริงครับ
     
  16. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ต้องทำใจล่ะครับท่าน Luke Skywalker ตอนนี้คงกู่ไม่กลับแล้วล่ะครับ ใครพูดใครห้ามใครเตือนก็ไม่รับฟัง ไม่นำพาว่าเขาพูดเขาเตือนเขาติงเรื่องอะไรและด้วยเพราะเหตุใด ด้วยความทรนงในตัวตนจนเกินไปทำให้ลืมที่จะเปิดใจให้กว้าง แถมยังมีคนเข้ามาปกป้องสนุบสนุนอีกยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งทำให้รู้สึกตัวนั้นอิ่มเอม อิ่มเอิบ ลำพอง ณ ปัจจุบันผมก็ยังเห็นหาก๊อปบทความมากระแนะกระแหนผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่ หาว่าเป็นการจับผิด แต่ก็ช่างเถอะครับหากเราไปต่อความยาวมันก็ไม่จบ ก็อย่างที่ท่านๆบอกนั่นแหละครับ กรรมใครกรรมมัน เราก็ได้ทำสิ่งที่ควรทำแล้วที่เหลือก็ถือว่าบุญทำกรรมแต่งของแต่ล่ะบุคคลก็แล้วกัน อย่างที่เราก็รู้ๆและทราบกันอยู่นั่นล่ะหากมันเกิดเหตุอะไรขึ้นจริงใครจะช่วยใครได้ แต่ก่อนคนเฒ่าคนแก่ พระท่านเคยสอนการทำบุญนั้นอย่างหวังผลตอบแทน บุญกับกรรมนั้นแยกจากกัน บุญไม่สามารถเอาไปหักล้างลบล้างกรรมได้ การปฏิบัติธรรมนั้นเพื่อให้ใจสงบให้ใจบริสุทธิ์ การเข้าวัดนั้นเพื่อไปฟังเทศน์ฟังธรรมพบปะพูดคุยสนทนาธรรมกัน
    แต่เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นเร่งทำบุญ เร่งปฏิบัติเพื่อหนีภัยพิบัติ หากทำบุญกับบางสำนักสามารถลบล้างกรรมได้ไปสวรรค์นิพพานอย่างเดียว เข้าวัดก็เพื่อหาที่หลบภัยพิบัติ ทุกอย่างมันบิดเบือน บิดเบี้ยวไปหมด

    จริงๆแล้วหลังจากพ้น 2012 มานั้นผมก็ได้ห่างหายการโพสต์ไปซะนานด้วยคิดว่าเหตุการณ์และเวลาจริงที่เพิ่งผ่านไปนั้นน่าจะทำให้สมาชิกในเวปแห่งนี้รวมทั้งผู้ที่เข้ามาอ่านทั้งขาจรและขาประจำ ได้สำเนียก สำนึกและนึกคิดได้ถึงความจริงว่า ณ วันนี้เราก็ยังอยู่น่ะ ไม่ได้มีอะไรเลยที่เขาประโคมกันให้หวาดกลัว และหลังจากวันเวลานั้น 12-12-2012 ผ่านไปก็เริ่มมีวันใหม่เข้ามา ลากกันไปจนวินานาทีสุดท้ายแห่งปี2012 แล้วยังไม่เกิด ก็เป็นที่มาของการแก้ต่างว่าเพราะอะไร ซึ่งเพื่อนสมาชิกในกระทู้นี้ก็ได้ทายกันไว้ก่อนแล้วเช่นกัน จริงๆจะว่าไปแล้วถ้าพูดถึงเรื่องทายหรือคาดการณ์อะไรล่วงหน้านี้ผมว่าเพื่อนสมาชิกในกระทู้นี้เก่งๆกันทั้งนั้นครับ เพราะที่ทายไว้เมื่อปีที่แล้วถูกหมด 555

    แท้จริงแล้วผมเองก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งมันต้องมีเหตุภัยพิบัติในประเทศของเรา เพราะทุกวันนี้ต่างประเทศก็ประสบภัยพิบัติกันอยู่แทบจะทุกวันขึ้นอยู่กับว่ามันจะเกิดตรงมุมไหนของโลกแค่นั้น ประเทศของเราเองเท่าที่ผ่านมามันก็เกิดและวันข้างหน้ามันก็ต้องเกิด มันเป็นวัฏจักร เพียงแต่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เท่านั้นว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่ ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการดำเนินชีวิตไม่ใช่การเร่งทำบุญจนขาดสติเพื่อหนีภัย ไม่ใช่การตระเวณหาที่หลบภัย แต่ควรมองปัจจุบัน สิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ หน้าที่ของตัวเองแล้วทำให้ดีที่สุด ดำเนินชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท สำหรับการทำบุญก็แล้วแต่โอกาสมีพร้อมหรือสะดวกก็ทำตามสมควร และก็ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องทำบุญกับพระกับวัด เพราะบางวัดนั้นมีเหลือเกินพอสำหรับสิ่งอันควรด้วยซ้ำ มีผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาอีกเยอะที่ต้องการความช่วยเหลือ คนเฒ่าคนแก่ที่โดนทอดทิ้ง และอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำบุญได้

    ที่สำคัญเราทำหน้าที่ที่ดีของลูกหรือยัง
    ที่สำคัญเราทำหน้าที่ของสามีหรือภรรยาที่ดีหรือยัง
    ที่สำคัญเราทำหน้าที่ที่ดีของพ่อของแม่หรือยัง(สำหรับคนที่มีครอบครัวมีลูก)

    หน้าที่อันสำคัญยิ่งเหล่านี้ได้ทำบ้างหรือยัง ทำในสิ่งที่เห็นในสิ่งที่ควรก่อนแล้วชีวิตจะมีแต่ความสุข ครอบครัวคือสิ่งสำคัญสำหรับสังคมมนุษย์ ไม่ว่ายากดีมีจนก็สามารถมีความสุขได้หากเราทุกคนในครอบครัวต่างทำหน้าที่ตัวเองได้สมบูรณ์
    เราสามารถสร้างสวรรค์ในครอบครัวของเราได้ สามารถจับต้องได้แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างสวรรค์ที่เป็นจริงกัน กลับไปนึกคิดนึกฝันหวังสวรรค์ที่ไม่รู้ว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ไปทำไม

    สำหรับผมแล้วเมื่อไหร่ที่ผมอยู่บ้านนั่นล่ะคือผมอยู่บนสวรรค์ สวรรค์บนดินมีอยู่จริงจับต้องได้ รับรู้สัมผัสได้และอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม ที่สำคัญยังไม่ต้องตายก็มีสรรค์วิมาลเป็นของเราเองได้ มันอยู่ที่ใจครับ
     
  17. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ความลึกลับซับซ้อนของผู้วิเศษ ภาค 1

    อย่างที่ท่าน boriphat ได้เห็นคลิปที่เอามาลงเรื่องพระฤาษีตาไฟ
    ก็ตามนั้นล่ะครับ แอบอ้างกันได้ตลอด ผมเคยโพสโต้แย้งไป ไม่นานโพสโดน
    อุ้มหายเลย คนบางคนพูดไปอธิบายไปมันก็ฟัง บัวเหล่าที่ 4 ก็ย่อมตกเป็น
    เหยื่ออันโอชะของปลาและเต่า ผมขอแบ่งเป็น 2 ภาคนะครับโพสจะได้ไม่ยาว
    จนเกินไป

    ทีแรกกะว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้แล้ว เพราะมันค่อนข้างเปราะบางต่อความสงบของ
    เวป เรื่องนี้ผมทราบจากเพื่อนรักของผมมาได้ซักระยะนึงแล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้น
    นึงที่ทำให้ผมมาโพสเตือนสติคนในเวปนี้ ความน่ากลัวของผู้วิเศษนี่น่ากลัวมาก
    ขนาดในเวปทำให้คนเป็นกันได้ขนาดนี้แล้ว แต่ถ้าได้สัมผัสตัวเป็นๆจะเป็นยังไง
    เราก็จิตสงสารคนที่จะถูกหลอกก็เลยโพส ผมขอเล่าในกระทู้นี้แล้วกันแต่จะขอ
    เข้ารหัสเป็นนิทานไว้นะครับ แต่ถ้าขาประจำจะรู้เลยว่าหมายถึงผู้วิเศษคนไหน
    จะขอเล่าในมุมของผมก่อนก็แล้วกัน แต่ในภาคส่วนของกุศโลบายกับดัก
    แผนการ ขอเล่าในภาค 2

    ขอกล่าวถึงเพื่อนผมก่อน มันเป็นคนชอบปฏิบัติธรรมคนนึง เป็นศิษย์มีครู
    มีสัมผัสในเรื่องเหนือธรรมชาติ มันเป็นคนที่ไหวพริบ สติปัญญา ไม่ด้อยไป
    กว่าใครเลย เชื่ออะไรได้ยาก แต่ถ้าเชื่อแล้วเชื่อเลย เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อปี
    53 มันไปฟังคำทำนายของที่ไหนมาไม่รู้ว่า ปี 55 จะโลกแตกเกิดภัยพิบัติ
    ตอนนั้นผมก็ยังไม่บ้าตามมันยังด่ามันอยู่เลย จนกระทั่งเมื่อใกล้ถึงเวลาตาม
    คำทำนายผมเองก็เริ่มคล้อยตามมันประกอบกับเข้ามาอ่านคำทำนายในห้องนี้
    ด้วย แต่มันอาการเริ่มไปกว่าผมเยอะ จนวันนึงมันโทรมาเล่าว่าได้คุยกับคนใน
    เวปพลังจิตคนนึงทางโทรศัพท์มันโทรไปหาเค้ามา มันบอกว่ามันรู้แล้วว่าตัวเอง
    เป็นใครต้องทำหน้าที่อะไร ไอเราก็ฟังแล้วงงอะไรของมันวะ เออแต่น่าจะจริง
    (ตอนนั้นผมยังหลงเชื่ออยู่ <ประมาณปลายเดือน ม.ค.>) จากนั้นผมก็เริ่ม
    ได้สติกลับคืนมาทีละน้อยๆ จากคำทำนายที่วืดแล้ววืดอีก ผมได้สติแต่เพื่อนผม
    มันเริ่มหลุดจากความมนุษย์แล้ว แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้วิเศษเฉยเลย มันยังบอก
    เลยว่าถ้าผมยอมช่วยงานมันจะให้เป็นศิษย์ผู้ติดตาม มีสิทธิอยู่เหนือกฏแห่ง
    กรรม

    ตอนนั้นผมฟังแล้วบ่องตงเลยว่า มันหลุดไปไกลแล้วไม่นานน่าจะได้พาเข้า
    โรงพยาบาลบ้า มันโทรหาผมแต่ละทีที่มันเล่ามาแต่ละเรื่อง เสาดูดวิญญาณ
    ล้างสามโลกธาตุ เทวราชมาร มหาอัคคี ตอนนั้นห้ามแทบตาย แต่มันไม่ฟัง
    หลุดจากวงโคจรไปแล้ว งานการจะไม่ทำ บอกว่าจะทำไปทำไมเดี๋ยวก็จะไม่
    ต้องทำแล้ว จู่ๆมันก็บอกว่า "เออกูขอตัวก่อน ต้องไปทำอริยะกิจลับแล้ว"
    บางทีคุยกันอยู่มันก็บอกว่าต้องไปประชุมเทวสภาก่อน ขอตัวนะ เราก็พยายาม
    ช่วยมันให้มันกลับคืนสติมาเพราะมันไม่เหลืออะไรแล้ว ไปก่อหนี้สินไว้เพียบ
    เลยห้ามก็ไม่ฟังอ้างว่าลาภสักการะไม่ต้องจ่ายคืนก็ได้ มหาอัคคีมาจะไปจ่าย
    กับใคร เราก็รับฟังมันไว้มันก็บอกวันเวลาไว้ว่า 14 ก.พ. 55 เกิดแน่นอน
    ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อหรอก แต่ก็วางแผนช่วยเพื่อนเลยตามน้ำไป พอมันเลย
    เวลาก็บอกมันว่า "ทำไมมันไม่เกิดเหตุล่ะ?" มันก็เริ่มฉุกคิด แต่ก็บอกว่ามีพวก
    ฝ่ายเทพรักษามาขวางเอาไว้ไม่ให้เหตุเกิด เลยเลื่อนออกไป เรื่องแบบนี้เกิด
    ซ้ำๆหลายครั้ง จนกระทั่งมันเริ่มได้สติกลับคืนมาบางส่วน ผมพูดอะไรไปมัน
    ไม่เถียงแต่เงียบๆ จนกระทั่งมันโทรมาหาผมแล้วบอกว่า "กูขอยืมตังค์มึง
    หน่อย จะเอาไปจ่ายหนี้" ผมก็เพิ่งจะเคลียร์ปัญหาชีวิตตัวเองได้ ใจนึงก็อยาก
    ช่วย อีกใจนึงก็ลำบากใจ แต่ก็เพื่อนกัน ช่วยเหลือกันมาตลอด ผมเลยบอกว่า
    "ได้เท่าไรล่ะ มึงเป็นหนี้ทั้งหมดเท่าไร" ผมฟังมันพูดจบตกใจว่ามันคงโดน
    หนักกว่าผมหลายเท่าหนี้สินไม่น้อยเลย จำนวนขนาดนี้ลงทุนธุรกิจเล็กๆได้เลย
    ผมก็ตัดสินใจช่วยมันไปหามันที่บ้าน พอเดินเข้าไปในห้องมันรู้สึกว่าพระที่แขวน
    ไว้กับตะกรุดที่คาดเอวจู่ๆก็ร้อนขึ้นมา สังหรณ์ใจว่าชะรอยมันจะโดนอำนาจ
    มนต์ดำครอบงำจิตใจไว้ เลยถามมันว่า เอาอะไรแปลกๆเข้าบ้านมาบ้าง มันก็
    บอกว่า เนี่ยมีของสองชิ้นนี้ มีผู้วิเศษในเวปให้มา ผมเลยบอกว่าเอาไปคืน
    เจ้าของเดิมซะ มันเป็นของไม่ดีมีอาถรรพ์ที่ไม่ดีอยู่ สิ่งของพวกนี้ล่ะทำให้ชีวิต
    มึงอัปมงคลเจอแต่เรื่องไม่ดี มันครอบงำจิตใจมึงแล้วรู้ไหม

    หลังจากนั้นมันก็เอาสิ่งของสองชิ้นนั้นคืนผู้วิเศษไป แล้วสติมันก็เริ่มกลายเป็น
    คนเดิมที่ปกติไม่ได้บ้าเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่านมา หลังจากนั้นมันก็เล่าเรื่อง
    เล่าทุกอย่างที่มันโดนมาให้ผมฟัง มันบอกผมว่าครูบาอาจารย์ท่านมาเข้าฝัน
    บอกว่าให้มีสติอยู่ปัจจุบัน จากนั้นมันก็เริ่มกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วโทรหาผม
    นี่ล่ะครับทุกท่าน สิ่งที่เกิดขึ้นกับการไปข้องเกี่ยวกับผู้วิเศษในเวปนี้น่ากลัวมาก
    ผมถึงได้ตัดสินใจมาบอกมาเตือนยังไงล่ะครับ แค่นี้ทุกคนก็จะแย่แล้วถ้าไปเจอ
    กันในโลกจริงๆจะเกิดอะไรขึ้น นี่ขนาดแค่คำทำนายแค่นี้ทำให้คนแทบจะ
    ได้ฆ่ากันตายเพราะแค่ต่อต้านไม่เห็นด้วยกับคำนาย
     
  18. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ความลึกลับซับซ้อนของผู้วิเศษ ภาค 2

    มาดูกันดีกว่าว่าผู้วิเศษมีกลเม็ด กลวิธียังไงในการล่อลวงเพื่อนผม
    ผมจะขอเล่าในแง่จิตวิทยานะครับ

    - พูดคุยตีสนิท
    พูดคุยเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูล สร้างความเป็นกันเองคุ้นเคย ไม่เปิดเผยอะไรมาก
    เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลต่างๆ

    - หาจุดอ่อนและทำให้ไว้ใจ
    เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็พยายามเจาะเข้าไปในจุดอ่อนนั้นๆ สนับสนุนเห็นด้วยทุก
    เรื่องที่เล่ามา คนเราเมื่อแสดงความเห็นด้วยก็จะถือว่าเป็นมิตรเป็นพวกเดียวกัน
    ทีนี้มีอะไรก็จะบอกจะเล่าหมด

    - ใช้บุคคลที่สามมาช่วยสนับสนุน
    มันมากันเป็นแก็งค์เลย ให้บุคคลที่สามเข้ามามีส่วนสนับสนุนในแผนการ
    มีการนัดพบนัดเจอกันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น สร้างความไว้ใจ
    จะได้ใช้แผนการได้แนบเนียน

    - ใช้ความปรารถนาของคนเป็นแรงจูงใจ
    เพื่อนผมตอนนั้นเผชิญปัญญาชีวิตคู่อยู่พอดี มันเลยใช้จุดนี้เป็นเครื่องมือ
    ในการบงการให้เป็นไปในสิ่งที่มันต้องการ

    - เสนอหนทางบางอย่างให้
    มีการแต่งตั้งตำแหน่งในทางลับให้เพื่อนผมเรียบร้อย ว่าเป็นโน้นนี่นั่นมีหน้าที่
    ทำโน้นนี่นั่น ยิ่งใหญ่คับฟ้า แถมบอกว่ามีเงินเท่าไรใช้จ่ายให้หมด มีเครดิต
    อะไรใช้ให้หมดเพราะไม่ต้องจ่ายคืน มันเป็นลาภสักการะ มหาอัคคีมาทุกอย่าง
    จะสูญหมด แถมมันยังบอกเพื่อนผมด้วยบอกว่าจะตอกหมุดผู้วิเศษคนอื่นใน
    เวปนี้ด้วยเพราะมาทำตัวยิ่งใหญ่เกินกว่ามัน มาก้าวก่ายงานของเหล่าเทวราช
    มันก็บอกผมด้วยว่าเข้าไปในเวปคอยดูซิว่าใครจะหายไปบ้าง นั่นล่ะโดนจัด
    การไปแล้ว ตอนนั้นผมก็เข้าไปดูก็เห็นสบายดีกันยังโพสเพ้อเจ้อกันได้อยู่เลย
    คิดในในมันชักแปลกๆแล้วนะ

    - เกลี้ยกล่อมให้ทำตาม
    โดยส่วนตัวคิดว่ากุศลกรรมช่วยดึงไว้พอสมควรไม่ให้มันโดนไปมากกว่านี้
    มีการสั่งให้ขึ้นเหนือเพื่อหนี ขนของต่างๆขึ้นเหนือ ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ผู้วิเศษ
    คนนี้หวังจะครอบครองตำราโบราณหายาก วัตถุมงคล เครื่องราง ของเพื่อนผม
    แต่ทุกอย่างไม่เกิดขึ้น ทั้งตำราและวัตถุมงคล ปลอดภัยดี ไม่ตกไปอยู่ในมือ
    ผู้วิเศษแต่อย่างใด มีเหตุให้มันไม่ได้ของทั้งหมดไป

    นี่คือเทคนิคของผู้วิเศษคนนี้ในการบรรลุเป้าหมายในสิ่งที่ต้องการ ผมถือว่า
    ผู้วิเศษคนนี้อันตรายที่สุดตั้งแต่เจอมา แต่ได้ทราบข่าวมาว่าเค้าได้จากเวปไป
    แล้วผมก็โล่งใจในระดับนึง แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ มี 1 ย่อมมี 2 มี 3 จึงได้
    ตัดสินใจเข้ามาเริ่มโพสเตือนสติ และคนที่โดนแบบเพื่อนผมไม่ได้มีแค่มันคน
    เดียวมันบอกว่ามีคนร่วมชะตากับมันอีกหลายคนที่โดนมาจนต้องเสียหน้าที่
    การงาน
     
  19. Luke Skywalker

    Luke Skywalker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +627
    ตอนนี้ผมได้เล่าความจริงอีกด้านที่ซ่อนอยู่ในคำเตือนภัยพิบัติแล้วนะครับ
    ลองอ่านดูท่านจะพบว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย แต่มันก็เป็น
    ธรรมดาของโลก ตอนนี้ผมปล่อยวางเรามาคุยแลกเปลี่ยนกันแต่ในกระทู้นี้
     
  20. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +2,392
    มาติดตามอ่าน ^-^
     

แชร์หน้านี้

Loading...